Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1266

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1266 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1266 –นิกายปฐพีซ่อนเร้น

 

ทั้งคู่ยังคงนั่งคุยกันไปเรื่อยตลอดเส้นทาง  ในขณะนั้นเองชิงสุ่ยได้กล่าวออกมา “คืนนี้เราจะพักกันที่ไหนรึ?”

 

“แล้วเจ้าเคยไปที่ไหนมาบ้าง ?”ติ๊เฉินกล่าวขณะที่ยกมือของเธอลูบไปที่เส้นผมของเธอ

 

“ตอนแรกข้านั้นพักอยู่สำนักสวรรค์เร้นลับ แต่เป้าหมายของข้าคือเจ้าทำให้ข้านั้นไม่ได้ตั้งหลักปักฐานที่นั้นอย่างถาวร ดังนั้นข้าจึงได้ออกเดินทางต่อและได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมจักรพรรดิ ก่อนที่จะมาพบกับเจ้าในตอนนี้”ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่มองกลับไป

 

“งั้นเราก็ไปพักที่ๆเจ้าเคยพักมาก็แล้วกัน”

 

ในขณะนั้นเองวิหคเพลิงนภาได้บินวนไปในไกลๆกลับตระกูลฮู เมื่อผ่านไปสักพักพวกเขาได้เห็นโรงเตี๊ยมที่ใหญ่โตและสง่างามอยู่ไม่ไกล

 

ที่นี่เป็นโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ และจัดได้ว่าหรูหราอย่างมาก ชิงสุ่ยและติ๊เฉินตัดสินใจที่จะพักที่นี่ก่อนในคืนนี้ ก่อนที่จะออกเดินทางต่อ  เมื่อพวกเขาเข้ามาสายตาจำนวนมากได้จับจ้องมาทางพวกเขา  แน่นอนนั้นเป็นเพราะความงามที่หาใครเทียบได้ของติ๊เฉินนั้นเอง

 

ด้วยสายตาที่หื่นกระหายของพวกเขา ทำให้ชิงสุ่ยหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะปล่อยจิตสังหารที่พร้อมจะฆ่าฟันอีกฝ่ายออกมา ด้วยจิตสังหารของชิงสุ่ยจึงทำให้ไม่มีใครเลยกล้าที่จะเงิยหน้าขึ้นในตอนนี้

 

“เจ้าหนุ่มเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ถึงกล้าทำตัวเช่นนี้?”

 

ชิงสุ่ยแปลกใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินเสียที่ดังขึ้นออกมาจากมุมๆหนึ่ง เขาหันมองไปที่ต้นกำเนิดเสียงอย่างช้าๆ ที่ตรงนั้นมีชายวัยกลางคนสองคนนั่งอยู่ พวกเขานั้นสวมชุดที่ดูหรูหราและนอกจากนี้ยังมีความลึกลับในกลิ่นอายของพวกเขา

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยหงุดหงิดเล็กน้อย นั้นเพราะเขาคิดว่าบางทีพวกเขาอาจเป็นของราชวงค์เดชสวรรค์ แต่ถึงอย่างไรสัมผัสพลังที่พวกเขาปล่อยออกมามันก็แตกต่างออกไป

 

“พวกเจ้ามาจากนิกายปฐพีซ่อนเร้นรึ? ”ก่อนหน้าชิงสุ่ยจะกล่าวถาม ติ๊เฉินได้กล่าวออกมา

 

“ใช่เลยสาวน้อย นับว่าเจ้ายังเป็นคนฉลาดอยู่ ในเมื่อเจ้ารู้ว่าพวกข้าเป็นใคร ก็ช่วยมารินเหล้าให้พี่ชายหน่อยได้มั้ย?” ชายคนหนึ่งมองไปที่ติ๊เฉินด้วยความกระหาย

 

“ไปลงนรกซะ” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาก่อนที่ติ๊เฉินจะตอบกลับเสียอีกในตอนนี้

 

ความเกรียวโกรธในใจของชิงสุ่ยได้ประทุออกมา นี่เป็นไม่กี่ครั้งที่เขานั้นโมโหได้ขนาดนี้ โดยที่อีกฝ่ายยังไม่ขยับตัวชิงสุ่ยก็ไม่ยืนอยู่ข้างหน้าของพวกเขาแล้ว

 

 

ย๊า!

 

ชิงสุ่ยนั้นสามารถรับรู้ได้ว่าพวกเขานั้นมีความแข็งแกร่งอยู่เพียง 1000สุริยา ถึงแม้1000สุริยานั้นอาจได้รับยกย่องว่าแข็งแกร่งอย่างมาก แต่มันเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะต่อกรกับชิงสุ่ย

 

 

หมัดของเขาตรงเข้าใส่ชายคนหนึ่ง ในตอนนี้เองแม้แต่ติ๊เฉินก็ยังตกใจในการกระทำของเขา อย่างไรก็ตามเธอก็สามารถดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเเร็ว

 

“ทำไมเจ้าถึงกล้าลงมือกับพวกข้า รู้มั้ยพวกข้าเป็นใคร ตระกูลลู่ของข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้า พวกเจ้า พี่น้องของเจ้า ต้องตาย”ใบหน้าของชายคนนั้นค่อยบวมขึ้น และแดงเป็นสีโลหิต จะดูไม่ได้

 

 

ในตอนนั้นเองสายตาของชิงสุ่ยเปลี่ยนเป็นเย็นชา หมัดตรงของเขาได้พุ่งเข้าซ้ำลงไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น

 

 

แป๊ะ!

 

สมองของชายดังกล่าวกระจายไปทั่วๆบริเวณ มันทำให้บริเวณดังกล่าวเงียบสงบลง แม้แต่ชายอีกคนที่เป็นสหายที่คนที่ถูกสังหารลงไปก็ยังไม่กล่าวแม้แต่จะหายใจ ก่อนที่จะมองที่ชิงสุยด้วยความกลัว

 

ติ๊เฉินมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยสายตาซับซ้อนในตอนนี้ เพราะเธอนั้นรู้ดีกว่าชิงสุ่ยนั้นเป็นยัง

 

 

“วันนี้ข้าจะไม่ฆ่าใครอีก แต่จงจำเอาไว้อย่าได้คิดที่ข่มเหงคนอื่นเพียงแค่คิดว่าตัวเองนั้นเหนือยกว่า มิฉะนั้น พวกเจ้าจะได้ตายอย่างเช่นชายคนนี้”ชิงสุ่ยมองไปรอบๆและหันกลับไปจ้องชายวัยกลางคน

 

ชายกลางและคนอื่นๆพากันวิ่งหนีออกไปในทันที พวกเขานั้นไม่ได้เหลี่ยวมองศพของสหายที่ตายลงไปเสียด้วยซ้ำในตอนนี้

 

 

ในขณะนี้ชิงสุ่ยได้เดินขึ้นไปมันชั้นข้างบนพร้อมๆกับติ๊เฉิน

 

“ชิงสุ่ยเจ้ามีปัญหาใหญ่แล้ว ”เธอกล่าวออกมาขณะที่มองไปที่เขา ขณะที่ยิ้มออกมาอย่างขมชื่น

 

“เจ้าคงหมายถึงกลุ่มคนที่มาจากนิกายปฐพีซ่อนเร้นก่อนหน้าสินะ?”ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่หันมองหน้าเธอ

 

“ถูกต้อง เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับนิกายปฐพีซ่อนเร้นหรือไม่?”ติ๊เฉินกล่าวออกมา

 

“ไม่ ทำไมรึ พวกเขาแข็งแกร่งกว่านิกายบงกชเทวะหรือราชวงค์เดชสวรรค์ อย่างนั้นรึ?”ชิงสุ่ยภามกลับไป

 

 

“พวกเขานั้นเป็นจักรวรรดิระดับ4 ที่เต็มไปด้วยความลับมากมาย พวกเขานั้นแอบซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้ แม้ว่า นิกายของข้า หรือไม่ก็เทือกเขาปู๋โถว ที่อยู่ในระดับเดียวกันก็ยังไม่มั่นใจว่าจะแข็งแกร่งกว่าพวกเขา มีผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งมากมายแอบซ่อนตัวอยู่ในเงามืดคอยสนับสนุนพวกเขาเอาไว้ มันคงไม่ดีที่จะเป็นอริกับผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งเหล่านั้น”ติ๊เฉินยิ้มและมองไปที่ชิงสุ่ย

 

 

“เทือกเขาปู๋โถว นั้นแข็งแกร่งเช่นนั้นด้วยรึ?”ชิงสุ่ยประหลาดใจอย่างมาก เขาไม่คาดหวังว่านิกายของถานถ่าย หยวนจะแข็งแกร่งขนาดนี้

 

 

“ถูกต้องแล้วมีนิกายมากมายแอบซ่อนพลังที่แท้จริงของตนเองไว้ แม้พวกเขาจะดูอ่อนแอแต่ที่จริงพวกเขานั้นไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย ในความเป็นจริงไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขานั้นแข็งแกร่งมากขนาดไหน แต่ที่รู้ๆพวกเขานั้นได้รับการสนับสนุนอยู่จากบุคคลในเงามืด”

 

 

“แล้วนิกายปฐพีซ่อนเร้นละ? พวกเขามีที่มายังไง?”ชิงสุ่ยถามต่อ

 

“ในทวีปอู่เซียตะวันตกนั้นได้แบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งเหนือคือฝั่งที่พวกข้าดูแลอยู่ แต่อีกฝั่งๆใต้เป็นของนิกายปฐพีซ่อนเร้น พวกเขาเป็นมหาอำนาจในภายใต้ นอกจากนี้ยังมีนิกายมากมายที่ค่อยสนับสนุนพวกเขา แต่นั้นก็ไม่หน้ากลัวเท่ากับความแข็งแกร่งของพวกเขา”

 

“พวกเขามีอำนาจมากแค่ไหน?”

 

“ข้าไม่แน่ใจ แต่ที่ข้ารู้พวกเขาไม่ได้อ่อนแอกว่านิกายบงกชเทวะเลย บางทีอาจแกร่งกว่าเสียด้วยซ้ำ”ติ๊เฉินกล่าวออกมา

 

“อย่าคิดมาเลย พวกเขาคงไม่กล้าแตะต้องสาวกศักดิ์สิทธิ์ของนิกายบงกชเทวะหรอก  ถ้าพวกเขากล้าบุกมานิกายของเจ้าย่อมไปไม่ปล่อยให้พวกเขากลับไป”ชิงสุ่ยยิ้มออกมา

 

“ข้าไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น แต่ที่ข้ากังวล คือคนที่เจ้าฆ่าไปนั้นมาจากตระกูลลู่ ตระกูลลู่นั้นเป็นขุมอำนาจที่แข็งแกร่งของนิกายปฐพีซ่อนเร้น ข้ากลัวว่าพวกเขาจะนำปัญหามาให้เจ้า”ติ๊เฉินกล่าวขณะที่มองไปที่ชิงสุ่ย

 

“อย่าคิดมากเลยหาพวกเขามาฆ่าจะสังหารพวกเขาให้หมด นอกจากนี้ถึงแม้ข้าจะไม่สามารถสู้ได้ แต่ก็ไม่มีใครจะสามารถจับตัวข้าได้อย่างง่ายๆหรอก นอกจากนี้ข้ายังมีเวลาอีกมากที่จะแข็งแกร่งขึ้น เจ้าอย่างได้กังวลไป นี่ข้ามีองจะให้เจ้า”ชิงสุ่ยหยิบแหวนหยกศักดิ์สิทธิ์ที่เตรียมเอาไว้ตั้งนานแล้วออกมาให้กับเธอ ก่อนที่จะสวมมันให้กับเธอและทำพันธะให้กับเธอ ตอนนี้มันได้กลายเป็นของติ๊เฉินอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

 

จากนั้นชิงสุ่ยค่อยๆหยิบมุกโลหิตทองคำอินทนิลออกมา พร้อมกับของอื่น หนึ่งในนั้นยังมียาทิพย์สรรพรส ที่ได้รับมาในก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามเขาได้ช่วยเหลือเธอและฝังเข็งเพื่อช่วยปรับร่างกายให้กับเธอ กระบวนการได้ดำเนินไปตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า

 

ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของติ๊เฉินได้ยกระดับขึ้นถึง3000สุริยาและจะเพิ่มขึ้นอีกมากมายในอนาคต เธอเองอดที่จะมีความสุขไม่ได้

 

“จริงๆแล้วความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มขึ้นอีกมากมายกว่านี้ ถ้าเจ้ายอมฝึกฝนทวิบ่มเพาะกับเข้า”ชิงสุ่ยยิ้มออกมา ตอนนี้เขาพยายามลอกล่อเธอ

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าจะทำอะไร ไม่ต้องมายั่วข้า”ติ๊เฉินยิ้มและเคาะลงไปที่หัวของชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยยิ้มและถูจมูกของเขาก่อนที่จับลงไปที่มือของเธอ “เอาละเราควรไปเยี่ยมท่านหญิงติ๊หวู่กันได้แล้ว หากไม่ใช่เพราะนางเราคงไม่ได้พบกัน”

 

ในครั้งอดีตชิงสุ่ยนั้นเคยได้ช่วยติ๊หวู่ สือฉาเอาไว้ทำให้เขากลายเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลติ๊หวู่ จึงทำให้ตัวของชิงสุ่ยได้รับการเคารพอย่างมากในตระกูลติ๊หวู่ แม้แต่อาวุโสระดับสูงยังให้ความนอบน้อมต่อเขา

 

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของชิงสุ่ย และบุญคุณที่เขามี ชิงสุ่ยกลายเป็นตัวตันที่เป็นที่เคารพอย่างมากสำหรับตระกูลติ๊หวู่

 

นอกจากยังมีเรื่องที่ติ๊เฉินนั้นเป็นสาวกของนิกายบงกชเทวะ ซึ่งเป็นนิกายที่แข็งแกร่งอย่างมากในทวีปอู่เซียแห่งนี้ และนอกเหนือจากนั้นเธอยังเป็นสาวกศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่จะได้เป็นผู้นำคนใหม่อีกด้วย  ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงให้การต้อนรับชิงสุ่ยและติ๊เฉินไม่ต่างกับติ๊หวู่ สือฉา

 

ในขนาดที่ชิงสุ่ยมาถึง พวกเขาได้จัดงานเลี้ยงรับลองและดูแลชิงสุ่ยและติ๊เฉินเป็นอย่างดี

 

“ตอนนี้พวกเจ้าวางแผนที่จะทำอย่างไรต่อไปรึ?”ติ๊หวู่ สือฉากล่าวออกมาและถามไปที่ชิงสุ่ย

 

“หลังจากปีหม่ข้าจะพาติ๊เฉินไปเยี่ยมนิกายบงกชเทวะ หาเป็นไปได้ข้าจะให้นางออกจากนิกายในตอนนั้น”ชิงสุ่ยยิ้มอย่างไม่สนใจอะไร

 

“เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยอมให้เธอ ออกจากนิกายเธอเป็นถึงว่าที่ผู้จำคนใหม่ เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะยอม” ท่านหญิงติ๊หวู่ กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

 

“ไม่ว่ายังไงขอต้องพานางกลับมา ต่อให้ต้องใช้กำลังก็ตาม”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างมาสนใจ

 

 

“น้องเฉิน แล้วเจ้าเป็นว่ายังไงละ?”ท่านหญิงติ๊หวู่มองที่ติ๊เฉิน

 

“เขาใช้เวลาถึงแปดเดือนในการตามหาข้า เป็นข้าเองที่ได้ทิ้งเขามา แต่ในครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ข้าจะยืนเคียงข้าเขา แม้จะต้องตายก็ตาม”ติ๊เฉินยิ้มและกล่าว

 

ตอนนี้ติ๊หวู่ สือฉารู้สึกเหมือนจะร้องออกมา เธอคิดว่าพวกเขานั้นต้องบ้าอย่างแน่นอนที่คิดจะต่อต้านนิกายบงกชเทวะด้วยตัวเองเพียงลำพัง “ข้าควรจะทำอย่างไรดี ให้ข้าช่วยพวกท่านดีหรือไม่?”

 

 

“อย่าทำอะไรแบบนั้น ถึงแม้ชิงสุ่ยจะไม่มาหาข้า ข้าก็จะต้องจากนิกายอยู่ดี ไม่เหมือนท่าน ท่านเป็นผู้มีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้นำคนใหม่ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นโปรดอย่าทำอะไรที่เช่นนั้นเด็ดขาด”ติ๊เฉินรีบกล่าว

 

“ที่ข้ามีชีวิตอยู่ได้ในตอนนี้เพราะชิงสุ่ยช่วยข้าไว้ หากต้องปล่อยให้ผู้มีพระคุณไปตาย ข้าก็มิอาจจะทนดูได้ ” เธอกล่าวออกมา

 

“ท่านยังมีตระกูลที่ต้องดูแล โปรดเชื่อใจพวกเรา”ชิงสุ่ยยิ้มและพูด

 

“ไม่!”

 

“เด็กโง่เลิกสร้างปัญหาได้แล้ว  ท่านไม่จำเป็นที่ต้องเป็นห่วงข้า หากข้าไม่สามารถจบเรื่องนี้ได้มันจะกระทบกับตระกูลของท่านโดยตรง ส่วนข้ากับเฉินเอ๋อนั้นสามารถหนีออกไปจากทวีปแห่งนี้ตลอดเวลา ท่านไม่ต้องกังวลไปหรอก?” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างจริงจังคราวนี้

 

ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้หลังจากที่ได้ฟังชิงสุ่ยกล่าว แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ว่าใจที่จะปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กับนิกายบงกชด้วยกำลังของตัวเอง

 

นอกจากนี้ชิงสุ่ยยังมีปัญหาใหญ่อีกประการหนึ่งคือนิกายปฐพีซ่อนเร้นหากติ๊เฉินออกมาจากนิกายบงกชเทวะแล้ว เธอนั้นก็จะไร้ซึ้งเกราะคุ้มกัน ดังนั้นมันเป็นเหตุผลที่ชิงสุ่ยต้องรีบแข็งแกร่งขึ้นไปอีกในตอนนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด