Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1291

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1291 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1291 ชิงสุ่ยผู้มีพลังเพิ่มขึ้น หญิงที่รัก

 

ชิงสุ่ยมีความสุขหลังจากที่ทักษะพัฒนาขึ้นอีกขั้น ทั้งที่ความจริงน่าจะไม่สำเร็จ ชิงสุ่ยจึงรู้สึกโชคดีมาก นี่อาจจะเรียกว่าการเก็บเกี่ยวสิ่งที่ตัวเองไม่ได้หว่านไว้

 

สิ่งสำคัญที่เขาต้องรีบทำให้เร็วที่สุดคือการการก้าวข้ามของธงสวรรค์ปัญจธาตุ เพราะคนอื่น ๆ ที่เดินทางทั่วโลก 9 มหาทวีปน่าจะมีสิ่งที่คล้ายกับธงสวรรค์ปัญจธาตุที่ทำให้เดินทางข้ามไปมาระหว่างมหาทวีปได้ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้อย่างดี

 

หากเขาปักธงได้สักจุดในตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วเขาอยากจะปักธงรอบ 5 มหาทวีป ชิงสุ่ยหวังว่าหญิงสาวจะปักธงไว้ที่มหาทวีปอู่เซียตะวันตก ดังนั้นเขาอาจจะเกลี่ยกล่อมให้เธอยอมทำตาม

 

แม้ว่าแผนนี้อาจจะฟังดูเอาเปรียบเล็กน้อย เขาก็หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เขาหวังไว้ ที่สำคัญกว่านั้นธงทั้งสองชิ้นยังมีพลังที่ทำสามารถเคลื่อนย้ายไปหาอีกฝ่ายได้ทันที

 

ถ้าเธอสามารถปักธงไว้ที่มหาทวีปอู่เซียตะวันตกและชิงสุ่ยสามารถปักธงไว้ที่ 5 มหาทวีปได้ ดังนั้นเขาก็สามารถมายัง 5 มหาทวีปและพาเธอไปยัง มหาทวีปอู่เซียตะวันตกในจุดที่ปักธงไว้ นี่เป็นคุณสมบัติที่สามารถเคลื่อนย้าย “สามีและภรรยา” ไปพร้อมกันได้

 

ชิงสุ่ยอยากให้เธอติดตั้งธงที่ 3 มหาทวีป แล้วเขาอาจจะเป็นคนไปปักธงที่มหาทวีปอู่เซียตะวันตกแทน

 

……………

 

ทั้ง อวี้ ลู่หยานและ ถานท่าย หยวนเตรียมอาหารเรียบร้อยแล้ว แม้จะอยู่ร่วมกัน แต่บรรยากาศนั้นไม่ตึงเครียด หญิงสาวทั้งสองยังคงเรียกเธอว่า ‘ท่านอาจารย์’ แต่ท่าทีของพวกเธอนั้นดูเหมือนพี่น้อง จนบางครั้งท่าของพวกเธอก็ดูเหมือนพี่น้องกันจริงๆ

 

“ท่านปรมจารย์ป้า ถ้าธงสวรรค์ปัญจธาตุก้าวข้ามถึงระดับหนึ่งในระหว่างนี้ ท่านจะไปปักธงที่ไหนเหรอ?” ชิงสุ่ยถาม

 

“ข้าเคยอ่านบันทึกเกี่ยวกับธงสวรรค์ปัญจธาตุ ธงสวรรค์ปัญจธาตุระดับหนึ่งสามารถไปได้บริเวณรอบ ๆ 5 มหาทวีป”หญิงสาวพูดหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง

 

ชิงสุ่ยตะลึง ถ้าหากปักธงได้แค่รอบ 5 มหาทวีป ดังนั้นการจะปักธงมหาทวีปที่ 3 ระดับของเขาจะต้องพัฒนาขึ้นสูงไปอีก

 

“อย่างนั้นเหรอ ดูเหมือนว่าข้าคงเดินทางตามใจชอบไม่ได้สินะ”ชิงสุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ

 

“ไม่เป็นไรหรอก การฝึกฝนถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมไม่ใช่รึ เมื่อพลังของเจ้าเพิ่มขึ้น เจ้าก็ยืมพลังจากสัตว์อสูรเสียสิ แม้จะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ต้องมีหนทางแน่ๆ”หญิงสาวพูดปลอบใจเพราะเข้าใจความรู้สึกของชิงสุ่ย

 

“ก็ได้ แล้วท่านคิดจะพักอยู่ที่มหาทวีปอู่เซียตะวันตก?นานเท่าไรหรือ” ชิงสุ่ยถาม

 

“ก็คงจะสักพักแหละ ข้าอยากให้เจ้าช่วยข้าข้ามประตูเทวะแห่งเต๋า ข้าจะพาลู่หยานและหยวนเอ๋อไปด้วย พลังของพวกนางน่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน”หญิงสาวพูดอย่างมีความสุข

 

“นับเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว!”

 

หลังจากอาหารเย็น พวกเขานั่งคุยกันพลางดื่มชาจนท้องฟ้าเริ่มมืด

 

“ท่านอาจารย์ พวกเรามานอนด้วยกันเถิด” ถานท่าย หยวนถาม

 

ฟู่ว!!!

 

ชิงสุ่ยสำลักน้ำชาทันทีหลังจากได้ยินเช่นนั้น ก่อนเขาจะเช็ดปากอย่างประหม่าเล็กน้อย

 

ถานท่าย หยวนมองชิงสุ่ยอย่างแปลกใจ ในตอนนั้นหญิงสาวจ้องไปที่เขา “เจ้ากำลังคิดอะไรอย่างอื่นอยู่รึไง? ผู้หญิงสองคนนอนด้วยกันไม่ได้รึ?”

 

“แน่นอน..นอนได้สิ…”

 

อวี้ ลู่หยานอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่ทันได้พูด ชิงสุ่ยก็ชิงตัดบทเสียก่อน “ลู่หยาน ข้ามีอะไรบางอย่าง อยากจะบอกเจ้า”

 

ทั้งถานท่าย หยวนและหญิงสาวเดินออกไป เหลือไว้แต่อวี้ ลู่หยานและชิงสุ่ย เพราะพวกเธอจะออกเดินทางพรุ่งนี้ ดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่อยากปล่อยเธอทั้ง ๆ อย่างนี้ อันที่จริงอวี้ ลู่หยานรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แก้มของเธอแดงระเรื่อทันทีเมื่อมองชิงสุ่ย

 

อวี้ ลู่หยาน, “……”

 

“เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ..ท่านอาจารย์ของข้าก็อยู่ที่นี้นะ” อวี้ ลู่หยานพยายามปฏิเสธด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ในตอนนั้นชิงสุ่ยพาเธอไปถึงเตียงเสียแล้ว

 

“ไม่จำเป็นหรอกว่าใครจะอยู่ที่นี้ เรื่องนั้นค่อยคิดหลังจากพวกเราทำอะไรสนุก ๆ เสร็จเรียบร้อยก็ได้ ..ดูเจ้าสิ ทั้ง ๆ ที่ตอบสนองต่อข้าเช่นนี้ เจ้ายังจะพูดว่าไม่อยากร่วมเตียงกับข้าอีกหรือ?”ชิงสุ่ยยิ้มพลางลูบไล้ยอดปทุมถันของเธอ

 

อวี้ ลู่หยานรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไร เธอเองก็คิดถึงชิงสุ่ยเช่นกัน ท่าทางของเธอจึงเริ่มผ่อนคลายและมีความสุขร่วมกับเขา

 

ชิงสุ่ยค่อย ๆ บรรจงจูบใบหน้าของเธอ..ปาก..จมูก ดวงตา ใบหูและลำคอ..

 

หลังจากนั้นเขาเริ่มลิ้มรสยอดปทุมถันของเธอราวกับหิวกระหาย เนินอกเนียนนุ่มของอวี้ ลู่หยานเป็นทรงสวยงาม ทั้งนุ่ม ทั้งเนียนและเป็นทรงกว่าเมื่อก่อน และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพียงแค่มองหน้าอกของเธอก็ทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์

 

หลังจากลิ้มรสยอดปทุมถันของเธอ ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เขายังคงหยอกล้อกับเนินอกของเธออยู่อย่างนั้น..

 

เธอส่งเสียงกระเส่าอย่างมีเสน่ห์ จนใครที่ได้ยินคงต้องตัวสั่นเทา

 

……

 

ในตอนนั้นที่ชิงสุ่ยยังคงหยอกล้อกับเนินอกของเธอ ร่างของอวี้ ลู่หยานสั่นระรัว ในขณะที่อีกห้องหนึ่ง หญิงสาวกำลังบ่นพึมพำเบา “ทำไมข้าถึงมีอารมณ์ร่วมกับพวกนั้นผ่านทางจิตได้ละเนี่ย..”

 

“ท่านอาจารย์ เป็นอะไรหรือ?”ถานท่าย หยวนถามเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวเปลี่ยนไป

 

“ข้าไม่เป็นไร นอนเถอะนะ พรุ่งนี้เช้าเจ้าต้องรีบตื่นไปฝึกฝนนี่..”

 

ถานท่าย หยวนรู้สึกว่าไม่มีอะไรผิดสังเกต เธอจึงล้มตัวลงนอน

 

หญิงสาวนอนหันหลังให้ถานท่าย หยวน ในตอนนั้นเธอสัมผัสได้ถึงอารมณ์ใคร่และความรู้สึกที่รุนแรงยิ่งขึ้น

 

สถานการณ์ของเธอในตอนนี้คล้ายกับถานท่าย หยวนในอดีต เธอสัมผัสได้ว่าธงสวรรค์ปัญจธาตุนั้นส่งผลบางอย่างต่อเธอ นั่นเพราะเธอรู้สึกว่าตัวเธอเองเป็นอวี้ ลู่หยานในตอนนี้ ดังนั้นความรู้สึกของอวี้ ลู่หยานที่กำลังร่วมเตียงกับชิงสุ่ยจึงส่งมาที่เธอ จนเธอมีอารมณ์ร่วมไปกับพวกเขา

 

หญิงสาวได้แต่นอนกัดฟัน พยายามอดกลั้นไว้..

 

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่สามารถรับมือกับความรู้สึกเช่นนี้ได้

 

หลังจากนั้นเธอตัดสินใจตรงไปที่เตียงของชิงสุ่ยและอวี้ ลู่หยาน ทันที

 

ทั้งชิงสุ่ยและอวี้ ลู่หยาน กำลังร่วมรักอย่างมีความสุข อวี้ ลู่หยานหลับตาพริ้มในขณะนั่งคร่อมอยู่บนตัวของชิงสุ่ย ชายหนุ่มปล่อยให้เธอเป็นผู้นำเพลงรักในครั้งนี้ โดยมีเขามองดูอยู่อย่างเพลิดเพลิน

 

ทันใดนั้นชิงสุ่ยรู้สึกถึงบางอย่างแปลกๆ จากธงสวรรค์ปัญจธาตุ ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาในชุดนอน

 

เธอไม่พูดอะไร ชิงสุ่ยมองเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง ขณะที่อวี้ ลู่หยานไม่ทันรู้สังเกตเพราะเธอหันหลังให้หญิงสาวอยู่

 

ในขณะที่ร่างกายของชิงสุ่ยและ อวี้ ลู่หยานยังคงเชื่อมต่อกันเช่นนั้น ชิงสุ่ยยิ่งตกใจกว่าเดิมเมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาคว้าองคชาติของเขา

 

ความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัวของชิงสุ่ยคือธงสวรรค์ปัญจธาตุคงส่งผลบางอย่าง แต่เขาไม่คิดว่ามันจะส่งผลในกรณีแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถร่วมรักกับใครได้ในอนาคต ? ชิงสุ่ยตกใจจนน้องชายตัวน้อยของเขาเริ่มอ่อนตัวลง

 

ชิงสุ่ยรู้สึกเจ็บจนต้องร้องขอให้เธอปล่อยมือ หญิงสาวมีท่าทีเปลี่ยนไป เธอกระซิบข้างหูชิงสุ่ยบอกให้เขารีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย

 

ชิงสุ่ยพยักหน้าเพราะเธอกุมของสำคัญของเขาอยู่มือ.. นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยรู้สึกอับอายจนอยากหมดสติ

 

ก่อนหญิงสาวเดินจากไป เธอบีบองคชาติของชิงสุ่ยทิ้งท้าย จนชิงสุ่ยใจหายวูบ เธอเดินจากไปด้วยท่าทางเหมือนนางมารร้ายแต่ก็เป็นนางร้ายที่ดูงดงามมาก ชิงสุ่ยรู้ทันทีว่าเธอมีพลังมหาศาล เขาไม่น่าดูถูกเธอเลยจริง ๆ

 

หลังจากหญิงสาวจากไป ชิงสุ่ยรีบลงมือ เขาลูบก้นอวบของอวี้ ลู่หยานก่อนจะครางออกมา ร่างของอวี้ ลู่หยานสั่นสะท้าน เธอสบถใส่ชิงสุ่ยเบา ๆ “เจ้าคนบ้า!”

 

แม้หญิงสาวจะเข้ามาเตือนชิงสุ่ยแล้ว แต่ชิงสุ่ยก็ยังคงร่วมรักกับอวี้ ลู่หยานเกือบชั่วโมงและตอนนี้อวี้ ลู่หยานก็กำลังนอนหลับด้วยใบหน้าพึงพอใจ แต่ชิงสุ่ยยังไม่นอน เขาสวมเสื้อผ้าและเดินออกมานอกห้อง

 

ทันทีที่เขาเดินออกมา เขาสังเกตเห็นร่างของใครบางคนที่หลังคาซึ่งอยู่ที่อาคารใกล้ ๆ แน่นอนว่าคน ๆ นั้นคือท่านปรมจารย์ป้าที่อยู่ในชุดนอน ชิงสุ่ยเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะสังเกตใบหน้าของเธอที่กำลังแดงระเรื่อ เธอมีสีหน้าเหมือนหญิงสาวที่เพิ่งถึงจุดสุดยอด

 

ชิงสุ่ยยังสังเกตเห็นว่าส่วนล่างของหญิงสาวชุ่มช่ำ..

 

“มองอะไร? รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง!?”หญิงสาวถามอย่างขุ่นเคือง

 

“ข้าคิดเรื่องนี้แล้ว..ท่านจะให้ข้าทำอย่างไรดี?”ชิงสุ่ยรู้สึกเศร้าจริง ๆ เพราะเรื่องที่เกิดกับถานท่าย หยวน ครั้งก่อนก็ทำให้เขารู้สึกแย่พอแล้ว และครั้งนี้ยังเกิดเรื่องกับท่านอาจารย์ของถานท่าย หยวนอีก

 

อันที่จริงชิงสุ่ยยังไม่เข้าใจที่เรื่องที่เธอทำไปเมื่อครู่ เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“หึ ข้าจะไม่โทษเจ้า เพราะเจ้าสามารถช่วยข้าเข้าไปในประตูเทวะแห่งเต๋า แต่เจ้าต้องมั่นใจว่าจะดูแลหยวนเอ๋อและลู่หยาน อย่างดี”หญิงสาวมองชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าเป็นเพราะถานท่าย หยวนบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่แน่นอนว่าเธอจะต้องรู้ความจริงในไม่ช้าก็เร็ว เขาพยักหน้ารับและหลบสายตาของเธอ เธอทำให้หัวของชิงสุ่ยปั่นป่วนไปหมด บางทีอารมณ์ใคร่อาจสื่อไปไม่ถึงเธอหากพวกเขาอยู่ไกลกัน แต่ที่เธอเดินเข้ามาในห้องแล้วมาจับของหวงของชิงสุ่ยในตอนที่เขากำลังร่วมรักอยู่กับอวี้ ลู่หยานนั้น เหตุการณ์นี้ยังคงฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหัวชิงสุ่ย

 

หญิงสาวกลับไปที่ห้อง ชิงสุ่ยมองร่างของเธอที่หายลับไป  เธอช่างเป็นหญิงที่มีความเป็นผู้ใหญ่และกล้าหาญมากทีเดียว

 

ชิงสุ่ยเองก็กลับไปที่ห้อง เขามองท้องฟ้าก่อนจะเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะ

 

เมื่อผ่านเข้าไปในประตูเทวะแห่งเต๋า ร่างของชิงสุ่ยรู้สึกว่างเปล่าอีกครั้ง ดังนั้นตอนนี้ เขาสามารถรับพลังจากมังกรไอยราเกล็ดทองคำ ได้และพอคิดเช่นนั้น ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา การเกิดการก้าวข้ามของประตูเทวะแห่งเต๋าจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ของชิงสุ่ย

 

และหากเป็นเช่นนั้น คงไม่มีใครใน มหาทวีปอู่เซียตะวันตกสามารถหยุดเขาได้อีกต่อไป ชิงสุ่ยรู้สึกว่าไม่มีอะไรต้องกังวลเกี่ยวกับนิกายปฐพีซ่อนเร้น และพวกคนป่าเถื่อนพวกนั้นอีกต่อไป

 

ภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ชิงสุ่ยสามารถหลอมรวมพลังให้ ธงสวรรค์ปัญจธาตุได้นับครั้งไม่ถ้วน

 

แต่ในครั้งนี้เขาต้องดูดซับพลังโดยอาจใช้เวลาสักสองสามวันหรือมากกว่านั้น แต่ชิงสุ่ยก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ถ้าเขาสามารถปักธงได้ เขาก็จะออกจากมหาทวีปนี้และกลับไปเยี่ยมครอบครัว และคงจะดีไม่น้อย หากธงสวรรค์ปัญจธาตุ สามารถพาสมาชิกทุกคนมาที่นี้ได้ด้วย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด