Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1322

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1322 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1322 – การมาถึงของลี่หูเฉิง หมอเทวดา ผู้าเยี่ยมเยียนจากตระกูลผัง

 

เขาคำนวณเอาไว้แล้วว่าทุกๆคนจะต้องตกตะลึงกับกลิ่นหอมของซาลาเปาหยกนี้ เพราะมันมีเครื่องเทศจากดินแดนหยกยุพราชอมตะของชิงสุ่ยอยู่ภายในนั้นด้วย เพียงแค่รสชาติของมันเพียงอย่างเดียวก็สามารถตีตลาดได้แล้ว น่าเสียดายที่ชิงสุ่ยไม่ได้มีแผนที่ขายมันจำปริมาณที่มากๆ…

 

“มาลิ้มลองรสชาติของมันกันเถอะ”

 

ชิงสุ่ยเรียกหมอปีศาจ ลี่จี๋ และหญิงรับใช้คนอื่นๆให้เข้ามา บางทีอาจเป็นเพราะกลิ่นอันหอมหวนของซาลาเปาหยกนี้และเหตุผลอื่นๆจึงทำให้เหล่าหญิงรับใช้ไม่ปฏิเสธคำสั่งนี้เลย ห้องอาหารแห่งจักรพรรดินั้นเป็นสถานที่ที่หรูหรา หญิงรับใช้ของที่นี่มีมากถึงหนึ่งพันคน พวกนางนั้นมีอายุน้อย งดงาม อ่อนโยน และกระตือรือร้น

 

ชิงสุ่ยกัดมันเข้าไป มันชุ่มฉ่ำอย่างยิ่งแต่ก็ไม่ได้มันมากจนเกินไป กลิ่นของซาลาเปานี้แผ่กระจายไปโดยรอบ มันเป็นกลิ่นหอมอย่างเหลือเชื่อและทำให้รู้สึกราวกับว่ามันอาจจะเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกใบนี้

 

แม่แต้ซุปเนื้อที่ชิงสุ่ยได้ต้มไว้ก่อนหน้านี้พร้อมกับเครื่องเทศจากดินแดนหยกยุพราชอมตะนั้นจะมีรสชาติที่อร่อยโดดเด่นแต่ก็ไม่ได้อร่อยไปกว่าซาลาเปานี้เลย แต่ชิงสุ่ยยอมรับเลยว่าไม่มีสิ่งใดที่เขาเคยกินมาก่อนหน้านี้จะอร่อยเทียบได้กับซาลาเปาหยกเลย

 

หมอปีศาจก็รีบกัดมันเข้าไปเช่นกัน เขากินมันเข้าไปจนหมดอย่างรวดเร็วภายใน 2-3 คำจากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบอีกลูกหนึ่ง ลี่จี๋ดูเหมือนจะยังเขินอายอยู่ชิงสุ่ยจะส่งซาลาเปานี้ให้นางพร้อมกับหญิงรับใช้คนอื่นๆ

 

ทุกๆคนกินซาลาเปานี้ไปกว่า 10 ลูกก่อนที่พวกเขาจะหยุดลงแต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าตนเองยังกินไม่จุใจเลย ชิงสุ่ยและหมอปีศาจไม่ได้รู้สึกอายเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะทั้งคู่เป็นผู้ชาย แต่กับเหล่าหญิงสาวพวกนางรู้สึกอายเล็กน้อย

 

หญิงรับใช้หลายคนออกไปทำตามหน้าที่ของตนเองเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น

 

“พี่ใหญ่ เราจะประกาศขายซาลาเปานี้ยังไงดี?” ชิงสุ่ยถามหมอปีศาจช้าๆ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะขายมันให้กับทุกๆคนได้เพราะเขาไม่อาจนึ่งมันในจำนวนที่มากกว่านี้ได้ แม้ว่าพวกเขาจะคิดผลิตแบบเป็นอุตสาหกรรมแต่แบบนั้นก็คงให้คุณภาพที่ไม่ดีนัก

 

ห้องอาหารแห่งจักรพรรดินั้นไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับคนธรรมดา แขกของที่นี่นั้นล้วนแต่เป็นคนที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพล ส่วนเป็นผู้บ่มเพาะและพ่อค้าที่ร่ำรวย ความจริงแล้วยิ่งผู้บ่มเพาะมีระดับพลังที่สูงมากเพียงใดพวกเขาก็จะร่ำรวยมากขึ้นเท่านั้น

 

“วางใจได้เลย น้องชาย ไม่ต้องกังวลไป พวกเราไม่ต้องโฆษณาอะไรมากในเรื่องนี้เพราะมันย่อมโด่งดังด้วยตัวมันเองได้ มันยังมีเหลืออีกมากมายและยังมีลูกค้าอีกมากที่ชั้น 4 ถ้าเราให้ซาลาเปานี้แก่พวกเขาคนละลูกในวันนี้ ซาลาเปาหยกของห้องอาหารแห่งจักรพรรดิจะต้องเป็นที่โด่งดังในอาณาจักรอี่หวง” หมอปีศาจดูเหมือนจะมั่นใจอย่างยิ่งในเรื่องนี้

 

ชิงสุ่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและคิดว่ามันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ลูกค้าที่อยู่บนชั้น 4 นั้นเป็นลูกค้าที่ทรงเกียรติที่สุดห้องอาหารแห่งจักรพรรดิ พวกเขาส่วนใหญ่นั้นมีความสามารถที่เทียบได้กับประมุขของตระกูลลี่ มันย่อมเป็นการดีหากจะให้พวกเขาเป็นตัวช่วยกระจายข่าวเรื่องนี้ออกไป

 

ชิงสุ่ยให้สูตรของซาลาเปานี้แก่หมอปีศาจและภรรยา ใบอบเชยหยกนั้นจะใช้เพียงปริมาณเล็กน้อยในทุกๆครั้ง พวกเขายังตัดสินใจที่จะจำกัดการขายซาลาเปาหยกให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการชั้น 4 เท่านั้นและลูกค้าแต่ละคนนั้นสามารถซื้อได้เพียงวันละ 2 ลูกเท่านั้น

 

เขาเรียกหญิงรับใช้เข้ามาหลายคนและบอกให้พวกนางกระจายซาลาเปาหยกที่เหลืออยู่นี้ให้แก่ลูกค้าที่อยู่ในชั้น 4 จำนวนของมันมีมากพอที่จะมอบให้แก่ลูกค้าทุกๆคน

 

แต่ก่อนที่หญิงรับใช้จะได้ออกไปก็มีชายคนหนึ่งเข้ามาจากข้างนอก เป็นชายคนเดียวกันกับที่มาในครั้งที่แล้ว เขามาที่นี่เพื่อแจ้งหมอปีศาจว่าลี่หูเฉิงได้มาถึงแล้ว

 

“หยวนหลง ท่านชิงสุ่ยจะได้เป็นปรมาจารย์ระดับสูงสุดนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จงไปบอกกล่าวเรื่องนี้แก่ทุกๆคนและเชิญให้ท่านลี่เข้ามาที่นี่!” หมอปีศาจชี้ไปทางชิงสุ่ยและอธิบายด้วยรอยยิ้ม

 

“ท่านอาจารย์ชิง!” แม้ว่าชายที่มีนามว่าหยวนหลงนี้จะไม่เข้าใจว่ามันเรื่องอะไร แต่เขาก็ยังรู้ว่าตนเองต้องทำอะไร

 

“ไม่จำเป็นต้องมากพิธีไป มันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอก ท่านพี่หมอปีศาจก็จะยังคงอยู่ที่นี่” ชิงสุ่ยหัวเราะและเงาไปยังชายพรุ่งนี้ เขารู้ว่าหากต้องจากลาห้องอาหารแห่งจักรพรรดินี้ไป เขาจำเป็นจะต้องมีกลุ่มคนที่คอยช่วยเหลือเขาอยู่ที่นี่

 

พลังของชายที่มีนามว่าหยวนหลงนั้นก็ค่อนข้างเหมาะสม เขาอยู่ในขั้นแรกเริ่มของระดับพลังปราณนักบุญพิโรธและเป็นเด็กยกอาหารของห้องอาหารแห่งจักรพรรดิแห่งนี้ ที่แสดงให้เห็นว่าหมอปีศาจได้ประเมินเขาเอาไว้สูง

 

เมื่อชิงสุ่ยได้เห็นลี่หูเฉิง เขารู้ในทันทีว่าต้องจัดการเรื่องการค้นหายาแก้พิษแล้ว เขาไม่ได้เพิ่งจะเคยพบกันวันนี้จึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายแตกต่างออกไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง อารมณ์ของเขาดีอย่างยิ่งในตอนนี้และเขาก็ได้เห็นซาลาเปาหยกเหล่านี้ด้วยเช่นกัน

 

หมอปีศาจชี้เพื่อบอกให้เขาหยิบเอาตามต้องการได้เลย แต่เขากลับหยิบมาเพียงลูกเดียวก่อนให้หญิงรับใช้นำไปแจกจ่ายให้ลูกค้าที่อยู่ในชั้นที่ 4

 

แต่เขาก็ต้องรู้สึกเสียใจทันทีที่ไม่ได้หยิบมันมามากกว่านี้เมื่อได้กัดมันเข้าไปคำแรก แต่การที่จะลงไปข้างล่างเพื่อไปหยิบซาลาเปานี้เพิ่มอีกนั้นจะเป็นการทำให้เขาต้องเสียหน้าเล็กน้อย เมื่อนึกถึงสถานะของเขาดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยิ้มอย่างน่าอับอายและบอกว่าซาลาเปานี้อร่อยและแปลกใหม่ยิ่งนัก

 

เขาไม่ได้รู้สึกตกตะลึงมานานแล้ว มิฉะนั้นเขาย่อมสามารถมีเวลาสักหน่อยก่อนที่เหล่าหญิงรับใช้จะลงไปด้านล่าง…

 

“หืม ท่านอาจารย์ ท่านยังดูอายุน้อยยิ่งนัก…”

 

เพียงแค่ซาลาเปานี้ก็สามารถทำให้ประสาทสัมผัสของเขาเชื่องช้าลงไปได้ เขาได้ตระหนักถึงมันตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว แต่ก็ไม่สามารถตอบสนองได้หลังจากที่ได้กัดซาลาเปาเข้าไปจนถึงบัดนี้ ดังนั้นเขาจึงมองไปยังหมอปีศาจด้วยความตกตะลึงอย่างยิ่งอีกครั้ง

 

“่ท่านลี่ ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของน้องชายของข้า ข้าเชื่อว่าท่านจะได้เห็นศาสตร์แห่งการรักษาด้วยเช่นกัน!” หมอปีศาจไม่ได้ปล่อยโอกาสให้ผ่านไป การบอกกล่าวเช่นนี้กับลี่หูเฉิงถือเป็นการกระจายเรื่องนี้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

“ท่านอาจารย์เองก็เป็นหนึ่งในหมอเทวดา โปรดยกโทษให้หูเฉิงที่ไม่ได้เห็นเรื่องเหล่านี้ ข้าคงเสียชีวิตไปแล้วหากไม่ใช่เพราะท่าน เป็นดังที่ท่านเคยพูดเอาไว้ข้าถูกยาพิษจริงๆ ข้ารีบร้อนมาหาท่านเพื่อที่จะตรวจสอบดูว่ายาพิษในร่างกายของข้านั้นหายไปอย่างสมบูรณ์แล้วไม่” ลี่หูเฉิงดูตื่นเต้นอย่างยิ่งเมื่อพูดเช่นนี้ เขารู้สึกขอบคุณจริงๆ

 

“ยินดีเสมอ มันไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย!”

 

ชิงสุ่ยตรวจสอบชีพจรของลี่หูเฉิงจากนั้นก็ยิ้มออก “ยินดีด้วย่ท่านลี่ ท่านหายเป็นปกติแล้ว”

 

“ต้องขอบคุณท่าน ท่านหมอ ข้าไม่คาดคิดเลยว่าท่านจะทำเช่นนี้ได้ ท่านได้ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าจะร้องขอข้าให้ช่วยในเรื่องใด สิ่งที่ข้าติดค้างท่านนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถชดใช้ได้ด้วยการกระทำเพียงครั้งหรือสองครั้ง ข้ามาที่นี่เพื่อการันตีให้ท่านทราบว่า เพียงแค่ท่านบอกข้ามา ข้าก็จะช่วยท่านด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี” ลี่หูเฉิงบอกกล่าวกับชิงสุ่ยเรื่องความจริงจัง

 

“่ท่านลี่ ท่านเยินยอข้าเกินไปแล้ว ข้าไม่ต้องการช่วยเหลืออะไรหรอก” ชิงสุ่ยกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้ม เขารู้ว่าลี่หูเฉิงตั้งใจที่จะกล่าวเช่นนี้เพราะว่าหมอปีศาจนั้นได้ดูอ่อนเยาว์ลงไปในทันที อาจเป็นเพราะเหตุนี้หรืออย่างน้อยก็ต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

 

“ไม่ คำพูดของท่านในตอนนั้นเป็นเหมือนโอสถแห่งชีวิต เป็นท่านที่ได้ช่วยเหลือข้าวไว้ ข้าอยากจะเชิญท่าน พี่ชายหมอปีศาจและภรรยาของเขามาเป็นแขกผู้มีเกียรติในคฤหาสน์ของข้า ให้ข้าแสดงความกตัญญู แม้ว่าข้าจะรู้ดีว่าอาหารจากพ่อครัวของข้านั้นย่อมด้อยกว่าที่แห่งนี้ข้าก็ยังอยากจะเชิญท่านไป”

 

ลี่หูเฉิงได้เปลี่ยนวิธีที่เขาเรียกหมอปีศาจไปโดยไม่รู้ตัว ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลลี่และหมอปีศาจงั้นยังถือว่าดียิ่งนักดังนั้นเขาจึงอยากจะเรียกว่าท่านอาจารย์ แต่หมอปีศาจนั้นดูอ่อนเยาว์นักในตอนนี้

 

ไม่ต้องบอกชิงสุ่ยก็เข้าใจได้ว่าเขาสามารถใช้ความช่วยเหลือจากตระกูลลี่ได้นับตั้งแต่ตอนนี้ ลี่หูเฉิงยังไม่กล้าที่จะถามเรื่องซาลาเปาที่เขาได้กินเข้าไปก่อนหน้านี้

 

ชิงสุ่ยบอกพวกเขาว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตออกมาเป็นจำนวนมากๆ ลี่หูเฉิงกล่าวว่าเขารู้สึกเสียดายที่มันหมดแล้วในวันนี้และเขาจะมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ ชิงสุ่ยอยากบอกให้เขาช่วยกระจายชื่อเสียงของห้องอาหารแห่งจักรพรรดิออกไปอีกด้วย

 

ลี่หูเฉิงนั้นดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรจะทำเช่นนี้!

 

ความจริงแล้วข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่หมอปีศาจได้กลับมาเยาว์วัยอีกครั้งนั้นแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าไฟป่า จากนั้นเขาก็จะสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเอง

 

เวลากว่าครึ่งวันได้ผ่านพ้นไปและลี่จี๋ได้ออกไปทำอย่างอื่น

 

ชิงสุ่ยได้สอนเคล็ดวิชาการฝังเข็มแก้หมอปีศาจและแม้แต่สาธิตการฝังเข็มในจุดต่างๆ เขาปักเข็มลงบนร่างกายของหมอปีศาจเพื่อให้รับรู้ว่าเมื่อปักเข็มลงไปแล้วนั้นจะมีความรู้สึกอย่างไร หมอปีศาจนั้นมีพื้นฐานด้านการฝังเข็มอยู่มากแล้วและยังมีพรสวรรค์ด้านโอสถด้วยเช่นกัน ที่ยังเป็นเหตุผลที่ทำไมชิงสุ่ยถึงได้เลือกชายผู้นี้ เขาเชื่อว่าเขาจะสามารถสถาปนาตนเองให้กลายเป็นหมอปีศาจที่เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ได้อย่างแท้จริง

 

……

 

เกือบจะในวันเดียวกันชื่อเสียงของซาลาเปาหยกแห่งห้องอาหารแห่งจักรพรรดิก็ได้แพร่กระจายออกไป แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรเหมือนปล่อยให้มันเป็นเพียงข่าวลือ เพราะซาลาเปาหยกกว่า 200 ลูกได้ถูกแจกจ่ายออกไปและได้หมดลงทันทีในตอนนี้ แต่ผลของข่าวลือนั้นก็ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเพราะเหล่าคนที่บอกกล่าวถึงเรื่องนี้ก็ต่างเป็นคนที่มีชื่อเสียง

 

นอกเหนือจากนั้นข่าวเกี่ยวกับหมอปีศาจที่ได้กลับสู่วัยเยาว์ก็ได้แพร่กระจายออกไปเช่นเดียวกัน นี่ต้องใช้ศาสตร์ที่ทรงพลังยิ่งกว่าการรักษา มันทำให้รับรู้ได้ทันทีว่าชิงสุ่ยนั้นทรงพลังมากเพียงใด ดังนั้นเรื่องของหมอเทวดารวมไปถึงห้องอาหารแห่งจักรพรรดิจึงถูกพูดคุยกันปากต่อปากไปอย่างรวดเร็ว

 

เวลา 3 วันได้ผ่านไปในช่วงพริบตา!

 

ชิงสุ่ยไม่ได้คาดคิดว่าข่าวลือจะแพร่ไปอย่างปากต่อปากได้รวดเร็วเช่นนี้ คนจำนวนมากต้องการจะมาเป็น ‘ลูกค้า’ ของห้องอาหารแห่งจักรพรรดิ น่าเสียดายที่มีคุณสมบัติในการเป็น ‘ลูกค้า’ ของที่แห่งนี้ได้นั้นสูงยิ่งนัก

 

มันไม่ใช่ว่าชิงสุ่ยดึงดูดทุกๆคนมาด้วยซาลาเปาหยก มันเป็นเพียงกลยุทธ์การตลาดรูปแบบนั้น อย่างไรก็ตามชั้นที่ 4 กำลังได้รับลูกค้ามากขึ้น

 

……

 

การบริหารงานของห้องอาหารแห่งจักรพรรดิมันกำลังมุ่งไปสู่ทิศทางที่เหมาะสมรวมไปถึงสุราของชิงสุ่ยด้วยเช่นกัน เขายังไม่ได้ทำบะหมี่ชีวิตยืนยาวขึ้นมาและยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นในตอนนี้ แต่เขาก็จะลงมือทำมันในเร็วๆนี้

 

แต่ผู้คนจำนวนมากก็มารวมตัวกันที่ห้องอาหารแห่งจักรพรรดิในวันนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างสวมเสื้อผ้าที่พร้อมจะต่อสู้ เมื่อชิงสุ่ยออกมา เขาก็ได้เห็นสีหน้าอันแปลกประหลาดบนใบหน้าของหมอปีศาจ เขาหันมาหาชิงสุ่ยและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “คนเหล่านี้มาจากตระกูลผัง หนึ่งในตระกูลใหญ่แห่งอาณาจักรอี่หวง แม้ว่าพวกเขาอาจจะได้กว่าตระกูลอี่หวง แต่พวกเขาก็ทรงพลังยิ่งกว่าตระกูลลี่”

 

มีคนประมาณ 10 กว่าคนที่อยู่ที่นี่ คนที่อยู่ตรงกลางนั้นเป็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง เขามีร่างกายที่กำยำ ใหญ่โตแข็งแรง ราวกับภูเขาที่เดินได้ ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความอดทน มีคิ้วหนา ดวงตาที่เป็นประกาย และกลิ่นอายที่ดูชาญฉลาด ผมบางส่วนของเขาเริ่มเป็นสีเทาทำให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่ที่โตเต็ม

 

“ท่านพี่หมอปีศาจ ข้าเห็นว่าท่านดูอ่อนเยาว์ยิ่งนักในตอนนี้ ข้าจะไม่สร้างปัญหาใดๆให้แก่ท่านหากท่านแนะนำท่านหมอเทวดาให้แก่ข้า” ชายคนนี้ไม่เสียเวลาไปกับเรื่องที่ป่าประโยชน์เลย

 

ชิงสุ่ยยื่นแขนออกเขาออกมาและหยุดหมอปีศาจ ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ดูอันตรายอย่างยิ่งหรือมันอาจจะเป็นธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว มันอาจจะเป็นเพราะเขาได้รับการยกย่องจากคนอื่นมาเป็นเวลานาน

 

“ขอโทษนะ ท่านเป็นใครกัน? มีธุระอะไรถึงมาปิดทางเข้าของห้องอาหารแห่งจักรพรรดิ?” ชิงสุ่ยนั้นยังคงสงบนิ่ง เขาไม่ได้แสดงรอยยิ้มหรือความไม่พอใจใดๆ

 

“ข้ามีนามว่าผังเต๋อ ท่านคือหมอเทวดางั้นหรือ?” ชายคนนั้นมองไปยังชิงสุ่ยด้วยความตกตะลึง เพราะเขาเองก็ยังดูเด็กนัก

 

“ข้าเพียงรู้ศาสตร์แห่งการรักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ท่านผัง ตอนนี้ข้ากำลังยุ่งยิ่งนัก ท่านมีธุระอะไรถึงมาที่นี่? หากท่านไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะเป็น ‘ลูกค้า’ เช่นนั้นที่แห่งนี้ก็ไม่ได้ต้อนรับท่าน”

 

สีหน้าของผังเต๋อนั้นบิดเบี้ยวไปแต่ก็กลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็หันไปหาทุกๆคนและกล่าวว่า “พวกเจ้าทุกๆคนกลับไปก่อน!”

 

“ท่านหมอเทวดา ตระกูลผังอยากจะเชิญชวนท่านไปยังตระกูลของเราเพื่อพูดคุยกัน หากท่านพอมีเวลาว่างบ้างแล้วขอให้โปรดตามข้ากลับไปด้วย” ผังเต๋ออธิบายด้วยรอยยิ้ม

 

หมอปีศาจหันไปมองชิงสุ่ย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรดี ตระกูลผังนั้นทรงอิทธิพลยิ่งนัก แต่แม้แต่อัจฉริยะอย่างเขาก็ยังคิดไม่ออกว่าทำไมตระกูลผังถึงได้มาตามหาชิงสุ่ย

 

“ขอโทษด้วย ข้านั้นยุ่งยิ่งนักและคงไม่อาจแบ่งเวลาไปได้ ท่านผัง เหตุใดเราจึงไม่มาพูดคุยกันที่นี่เผื่อบางทีข้าจะได้มีเวลาว่างมากขึ้น?” คำตอบของชิงสุ่ยนั้นตรงไปตรงมา

 

ดวงตาของหมอปีศาจเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของชิงสุ่ย เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เขารู้ว่าชิงสุ่ยนั้นปกปิดตัวเองเอาไว้จนแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าชายผู้นี้นั้นทรงพลังมากเพียงใด

 

ด้วยการกระทำและทัศนคติของตระกูลผัง เขาคิดว่าชิงสุ่ยจะไม่ไปที่นั่นถึงแม้ว่าจะเป็นตระกูลอี่หวงที่มาที่นี่  เขาไม่เคยถูก ‘เชื่อเชิญ’ ด้วยวิธีการเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังทรงพลังยิ่งนักในตอนนี้ เข็มแห่งชีวิตและความตายไม่เพียงแต่สามารถใช้รักษาอาการเจ็บป่วยได้มันยังสามารถใช้เป็นอาวุธในการสังหารได้เช่นกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด