Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1337

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1337 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1337 – ร่างกายที่ทรงพลัง, เหล้าเหนือฝง, อานุภาพของยาเม็ดตำรับคู่!

 

ชิงสุ่ยรู้ถึงความคิดของถานท่ายหยวนในทันทีที่เห็นการแสดงออกของนาง แม้ว่าจะไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่อย่างน้อยเขาก็ตีความบางส่วนได้ ดังนั้นเขาจึงส่งยิ้มให้พร้อมกับยื่นมือไปจับมือทั้งสองของนาง

 

ชิงสุ่ยและถานท่ายหยวนพยายามหลีกเลี่ยงการจ้องตากันในตอนที่ได้พบเจอ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยยังคงยื่นมือไปข้างหลังและสวมกอดนางเอาไว้ ด้วยท่าดังกล่าวทำให้หน้าอกของนางมีความนุ่นมนวลขึ้น ส่วนโค้งเว้าดังกล่าวทำให้ใครที่เห็นต้องรู้สึกตื่นเต้น โดยมันเป็นจุดสนใจโดยสายตาโดยเฉพาะ

 

ชิงสุ่ยลูบคลำไปยังร่างกายของนางทำให้ถานท่ายหยวนไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้ นางเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ระหว่างชิงสุ่ยและอวี้ลู่หยานในก่อนหน้า ในตอนนี้ภาพเหล่านั้นย้อนกลับมาอยู่ในหัวของนาง

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมือของชิงสุ่ยถูกวางอยู่บนหน้าอกของนาง มันทำให้นางรู้สึกเขินอายและให้ความรู้สึกงงงวยอยู่เล็กน้อย ต่อจากนั้นความรู้สึกที่เร่าร้อนก็เกิดขึ้น ภาพในหัวของนางตอนนี้คือตอนที่ชิงสุ่ยกำลังหมกหมุ่นอยู่กับเนินทั้งสองของอวี้ลู่หยาน

 

ชิงสุ่ยรู้ดีว่าเขาไม่ควรทำให้นางรู้สึกอับอาย เขาจึงคว้าตัวนางมากอดและจูบไปที่ใบหูของนาง อย่างไรก็ตามการกระทำในครั้งนี้ทำให้ถานท่ายหยวนตัวสั่นขึ้นกว่าเดิม นางสวมกอดชิงสุ่ยเอาไว้แน่นเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของชิงสุ่ย

 

“หยวนเอ๋อ เจ้าคิดถึงข้าบ้างหรือไม่?” ชิงสุ่ยสนุกสนานกับการหยอกล้อหญิงสาวผู้ที่ยืนกรานว่าไม่ได้ชอบเขา

 

“ไม่ ข้าไม่คิดถึงเจ้าหรอก” ถานท่ายหยวนกอดชิงสุ่ยและกล่าวด้วยท่าที่หยอกล้อ

 

ความเป็นจริงแล้วนางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าน้ำเสียงของนางเปลี่ยนไปมากเพียงใดเมื่อเทียบกับก่อนหน้า แม้แต่ตัวชิงสุ่ยเองก็รู้สึกตกใจ หรืออาจเป็นเพราะนิสัยของนางเปลี่ยนไปจากการเก็บตัวฝึกวิชาเพียงครั้งเดียว?

 

ด้วยสิ่งเหล่านี้ ทำให้ชิงสุ่ยคิดถึงอีกหนึ่งความเป็นไปได้ ในขณะที่นางเก็บตัวฝึกวิชาเพื่อพัฒนาตน นางอาจเข้าใจสิ่งต่างๆได้มากขึ้น เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างตัวนางและเขา มันเป็นเพราะเขายังไม่แน่ใจถึงวิธีการที่นางกำลังมองถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง

 

“เช่นนั้นแล้ว เจ้าคิดถึงใคร?” ชิงสุ่ยยิ้มและหยอกล้อนางต่อไป

 

“ข้าไม่คิดถึงใครทั้งนั้น”

 

“เช่นนั้นแล้วคงมีข้าที่คิดมากไปคนเดียว ข้าคิดถึงคนๆนึงอยู่ทุกๆวันแต่นางกลับไม่ได้คิดถึงข้าเลยแม้แต่น้อย” ชิงสุ่ยถอนหายใจออกมาใกล้ๆหูของนาง

 

“เจ้าคนพาล หรือว่าเจ้าคิดถึงข้า” ณ เวลานั้นที่ถานท่ายหยวนได้ยินคำหล่าวของชิงสุ่ย นางรู้สึกมีความสุขมากไม่ว่าคำพูดของเขาจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นางก็ยังเต็มใจที่จะฟัง นี่เป็นเรื่องปกติของเหล่าหญิงสาวที่มีความรักเป็นครั้งแรกมักจะเป็น

 

ชิงสุ่ยไม่คาดคิดว่าหญิงสาวคนนี้ยังมีท่าทีเมินเฉยต่อเขา ดูเหมือนว่าเขาจะต้องค่อยๆเปลี่ยนนางไปทีละนิด แต่การที่นางยอมให้เขาสวมกอดคงหมายถึงนางเริ่มยอมรับในความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขึ้นมาบ้างแล้ว

 

“เจ้าพูดถูกแล้ว ข้าอาจจะเป็นคนพาล แต่มนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมาทำบาปตั้งแต่แรกแล้ว นี่เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ถ้าพวกเขาไม่มีความต้องการแล้วพวกเขาจะดำรงเผ่าพันธุ์ไว้ได้อย่างไร? อีกอย่างคู่รักคู่ใดบ้างที่ไม่ทำเรื่องสกปรกพวกนั้น?” ชิงสุ่ยยิ้มอย่างนุ่มนวล

 

“เจ้าช่างหน้าไม่อาย ความคิดสกปรก” ถานท่ายหยวนยิ้มในขณะที่พูด

 

ชิงสุ่ยยิ้มให้และปล่อยตัวนางออก หลังจากนั้นเขาใช้มือข้างหนึ่งจับมือของถ่านท่ายหยวนเอาไว้ส่วนอีกข้างจับมือของอวี้ลู่หยาน พวกเขาเดินทางไปยังบ้านไม้ไผ่ด้วยกัน อี่หวงกู่หวู๋นั่งรออยู่ที่นั่นแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ชิงสุ่ยไปเดินเล่นอยู่ชายหาดกับหญิงสาวทั้งสอง

 

หญิงสาวทั้งสองอยากจะเอามือออกจากชิงสุ่ยที่จับเอาไว้ แต่เป็นเพราะชิงสุ่ยจับมือของพวกนางเอาไว้อย่างแน่นหนา พวกนางจึงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากปล่อยให้ขับจับต่อไป จนกระทั่งได้พบกับอี่หวงกู่หวู๋ ถานท่ายหยวนยิ้มและกล่าว “ท่านอาจารย์!”

 

“เจ้าสบายดีไหม?” อี่หวงกู่หวู๋ยิ้มและกล่าวถาม นางเดินเข้าไปหาพวกเขาและจับมือของอวี้ลู่หยานและถานท่ายหยวนเอาไว้ ในตอนนี้ทั้งสี่คนได้จับมือกันเป็นวงกลมเลยทีเดียว

 

“พวกเราจะให้ชิงสุ่ยเป็นคนปรุงของอร่อยๆให้พวกเราทานในวันนี้ พวกเรามาสนุกกันในมือเย็นและดื่มอะไรกันเสียหน่อย” อี่หวงกู่หวู๋เสนอแนะ

 

“ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของท่านอาจารย์” ถานท่ายหยวนกล่าวพร้อมกับยิ้ม

 

ชิงสุ่ยรู้สึกตกใจพร้อมมองไปยังอี่หวงกู่หวู๋ นอกจากวันเกิดของพวกลูกๆและแม่ของเขาแล้ว เขาไม่ได้จำวันเกิดของคนอืนๆเลย ไม่ต้องสงสัยว่าเขามีความรักที่แท้จริงให้หรือไม่ เขาเพิ่งรู้สึกสงสัยว่าเหตุใดในอดีตเขาจึงไม่นึกถึงเรื่องการฉลองในงานวันเกิดเสียเลย?

 

ชิงสุ่ยปรุงบะหมี่ชีวิตยืนยาวขึ้นมาสามชาม แม้ว่าจะไม่ใช่วันเกิดของอวี้ลู่หยานและถานท่ายหยวนก็ตาม ยังมีอย่างอื่นอีกมากมาย มันเป็นมื้อเย็นที่แสนอร่อย เขาหยิบเหล้าเหนือฝงออกมา(เหล้าจีน) เมื่อเหล่าหญิงสาวได้ดื่มเหล้าเหนือฝงเข้าไป ใบหน้าของพวกนางต่างเปลี่ยนเป็นสีแดง

 

ระหว่างชายและหญิง มีเพียงสามีและภรรยาเท่านั้นที่สามารถดื่มเหล้าเหนือฝงด้วยกันได้ แน่นอนว่าการที่เหล่าผู้อาวุโสดื่มด้วยกันย่อมเป็นเรื่องปกติ แต่การที่ชายหญิงดื่มด้วยกันนั้นมีความหมายว่าพวกเขาต้องเป็นสามีภรรยากัน โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่นี้ เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ

 

และในตอนนี้การที่ชิงสุ่ยกำลังดื่มเหล้าเหนือฝงกับหญิงสาวทั้งสาม ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ ความหมายเป็นไปดังคำกล่าว ในความเป็นจริงแล้วหญิงสาวทั้งสองรู้ดีว่าชิงสุ่ยและอี่หวงกู่หวู๋มีความสัมพันธ์บางอย่างต่อกัน อย่างไรก็ตามถานท่ายหยวนเป็นคนเดียวที่รู้ถึงความลับของอี่หวงกู่หวู๋ เมื่อฟังจากชื่อเรียกแล้วอี่หวงกู่หวู๋และถานท่ายหยวนดูเหมือนจะเป็นศิษย์อาจารย์กัน แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกนางสนิทสนมกันราวกับพี่น้อง และอาจใกล้ชิดกันกว่าพี่น้องในสายเลือดเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งในตอนนี้ยังมีอวี้ลู่หยานอีกคนด้วย

 

อี่หวงกู่หวู๋คิดมาก่อนแล้วว่าวันแสนสุขเช่นนี้จะมาถึง ดังนั้นนางจึงเลี้ยงดูอวี้ลูหยานราวกับเป็นน้องสาวแท้ๆ ไม่ใช่ว่านางจะวางแผนไว้แล้วอย่างรอบคอบ แต่นางทำไปตามสถานการณ์เท่านั้น ก่อนที่จะลงมือทำอะไรเราต้องใส่ใจกับสิ่งๆนั้นก่อนเสมอ

 

ถานท่ายหยวนมีความสุขมากจริงๆเมื่อได้เห็นอี่หวงกู่หวู๋มีความสุข ถ้าอี่หวงกู่หวู๋สามารถกลายมาเป็นภรรยาของชิงสุ่ยได้จริงๆ นางคงเป็นสุขยิ่งกว่าการที่นางและชิงสุ่ยได้เป็นสามีภรรยากันเสียอีก เมื่อนางพาตัวเองเข้าหาชิงสุ่ยแล้ว นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าท่านอาจารย์ของนางจะเป็นอย่างนางเช่นกัน ด้วยเรื่องเหล่านี้จะทำให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันไปตลอด มันคือความสุขของน้องสาวที่ไม่สามารถที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

 

“พี่หยานมาดื่มให้พี่หวู๋กัน พวกเราจะเป็นพี่น้องที่ดีตลอดไป” ถานท่ายหยวนจับมือกับอวี้ลู่หยานพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ด้วยคำพูดเหล่านี้ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างกระจ่างขึ้น ถานท่ายหยวนและอวี้ลู่หยานมองไปยังอี่หวงกู่หวู๋ด้วยรอยยิ้ม

 

อี่หวงกู่หวู๋มองไปยังชิงสุ่ย ชิงสุ่ยเพียงแต่ยิ้มตอบและอยู่ในความเงียบงัน อย่างไรก็ตามเขากำลังพยายามกระตุ้นตัวนางด้วยสายตาของเขา ในตอนนี้ตัวเขาและอี่หวงกู่หวู๋ก็ไม่ต่างอะไรกันกับสามีภรรยาแล้ว แต่ถ้านางยกจอกของนางขึ้นในตอนนี้ก็เป็นการยืนยันสถานะของตัวนางได้อย่างชัดเจน

 

อี่หวงกู่หวู๋ยกจอกเหล้าขึ้นมา “ลู่หยาน หยวนเอ๋อ พวกเราจะเป็นพี่น้องกันตลอดไป”

 

หลังจากที่ทั้งสามเสร็จสิ้นจากการดื่ม ชิงสุ่ยใช้เวลาที่เหลือดื่มกับอี่หวงกู่หวู๋ต่อ ก่อนที่จะทำเช่นนี้กับถานท่ายหยวนและอวี้ลู่หยานเช่นกัน เวลาผ่านไปครึ่งวันกับการกินและดื่ม พวกเขาพูดคุยกันถึงเรื่องต่างๆนาๆทำให้มีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

 

ในยามบ่ายชิงสุ่ยเริ่มฟื้นฟูร่างกายให้กับพวกนางทั้งสอง หญิงสาวทั้งสองบรรลุขั้นจนสามารถใช้ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งและสองได้แล้ว ซึ่งในก่อนหน้านี้พวกนางเพิ่งจะบรรลุระดับผู้พิทักษ์เทวะธรรม ซึ่งเงื่อนไขในการใช้งานยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งได้นั้นจะต้องมีพลังในระดับผู้พิทักษ์เทวะธรรมขั้นหนึ่งเสียก่อน

 

ตั้งแต่ที่หญิงสาวทั้งสองออกจากเก็บตัวฝึกวิชา พวกนางก็ได้บรรลุไปถึงผู้พิทักษ์เทวะธรรมขั้นสองแล้ว ด้วยวิธีการรักษาของชิงสุ่ยเขาใช้ทักษะรักษาห่วงวิญญาณรวมถึงทักษะปราการจู่โจม ช่วยให้พวกนางได้รับพลังเพิ่มขึ้นหนึ่งสุริยา ที่สำคัญกว่านั้นคือพื้นฐานของพวกนางถูกเพิ่มขึ้นเป็นอย่างดี นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของการฟื้นฟูร่างกาย มันอาจจะทำให้หญิงสาวทั้งสองมีพลังเพิ่มขึ้นสองถึงสามเท่าหรืออาจะมากถึงสิบเท่า

 

การกินทั้งยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งและสองไปพร้อมๆกันช่วยให้พลังถูกเพิ่มขึ้นกว่าห้าสุริยา ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งและสองสามารถกินได้อย่างละหนึ่งเม็ดต่อหนึ่งปีเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ยังสามารถกินได้เพียงจำนวนสิบเม็ดจากชนิดของยาเม็ดสวรรค์หยางทั้งหมด ดังนั้นชิงสุ่ยจึงพยายามปรุงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สามและสูงกว่านั้น ซึ่งวิธีเหล่านี้ถือเป็นเรื่องง่ายในการช่วยเหลือผู้คนรอบๆตัวเขา

 

อี่หวงกู่หวู๋ก็ใช้มันแล้วเช่นกัน  พลังสามสุริยาไม่ใช่จำนวนที่มากมายนัก เช่นเดียวกับยุงที่มีขนาดเล็กแต่ก็นับว่ามันมีอยู่ไม่ใช่ไม่มีเลย ส่วนชิงสุ่ยเองก็กำลังจะใช้พวกมันในเร็วๆนี้ สำหรับยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งและสองไม่ได้มีความสามารถแค่การเพิ่มพลังขึ้นเท่านั้น แต่มันยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายอีกด้วย นี่เป็นความสามารถของยาเม็ดชั้นเลิศ

 

แต่หลังจากที่อี่หวงกู่หวู๋ได้ใช้มัน นางกลับพบว่ายาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งสามารถเพิ่มพลังให้กับนางได้ถึงสองสุริยา หลังจากนั้นนางจึงกินยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สองต่อไปและพบว่าพลังถูกเพิ่มขึ้นถึงสี่สุริยา หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ สิ่งเดียวที่เดาได้คงเป็นเพราะความสามารถของร่างกายของตัวนาง

 

เป็นไปได้ว่าร่างกายของนางมีคุณสมบัติด้านความเย็น ทำให้นางต้องการพลังหยางมากกว่าคนอื่นๆ ดังนั้นเมื่อกินพวกมันเข้าไปแล้ว จึงสามารถดูดซึมพลังพวกนั้นได้มากกว่าคนอื่นๆถึงสองเท่า และถ้าเป็นยาเม็ดสวรรค์หยางขั้นสูงกว่านี้ล่ะ? ในตอนนี้ชิงสุ่ยอยากรู้ว่าถ้าเป็นยาเม็ดสวรรค์หยางระดับสามจะให้พลังมากกว่าสามสุริยาหรือไม่? และยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สี่ล่ะ? โดยปกติแล้วเรื่องที่คาดเดาไม่ถึงมักเกิดขึ้นที่ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สี่ ที่เขารู้มามันให้ประสิทธิภาพในการเพิ่มพลังกว่าสี่สุริยาแน่นอน

 

ชิงสุ่ยรู้สึกว่าความเป็นไปได้มีอยู่มาก รวมถึงตำรายาสวรรค์เก้าหยางมีผลดีจริงๆ

 

“ชิงสุ่ยเจ้ามียาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สูงกว่านี้หรือไม่?” อี่หวงกู่หวู๋มองไปยังชิงสุ่ยที่กำลังตกใจ

 

“ข้ามี เพียงแต่ยังไม่ได้ปรุงมันขึ้นมา ข้าไม่มั่นใจว่าจะปรุงมันขึ้นมาได้สำเร็จหรือไม่ ในตอนนี้ยังมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนที่ข้าสามารถทำได้อยู่”

 

“ข้ามีสูตรยาซึ่งเจ้าจะต้องสนใจอย่างแน่นอน”  อี่หวงกู่หวู๋กล่าวหลังคิดอยู่ชั่วครู่

 

“อ้ะ เป็นสูตรยาแบบไหนกัน?” แม้แต่ชิงสุ่ยจะรู้สึกดีใจ แต่ไม่ได้แสดงออกมามาก พวกสูตรยาต่างๆไม่ได้ปรากฏให้เขาเห็นได้บ่อยนัก

 

“เจ้าดูไม่รู้สึกดีใจเลย ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ชอบมัน เช่นนั้นแล้วข้าเก็บเอาไว้ดีกว่า! ” อี่หวงกู่หวู๋เบ้ปากและยิ้ม

 

เมื่อหญิงสาวที่โตเต็มวัยแสดงออกเช่นนี้ มันอาจะทำให้ผู้คนคลุ้มคลั่งได้ ชิงสุ่ยจับมือของและตบเข้าที่บั้นท้ายนาง มีเสียงที่ดังชัดเจนดังออกมา แม้จะไม่ได้รู้สึกเจ็บ แต่มันก็มากพอที่ทำให้อี่หวงกู่หวู๋รู้สึกเขินอาย

 

เหตุเพราะทั้งถานท่ายหยวนและอวี้ลู่หยานก็อยู่ที่นั่นด้วย

 

ในขณะที่หญิงสาวทั้งสองต่างพากันหัวเราะอย่างมีความสุข ดวงตาของพวกนางดูสว่างไสว นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นหญิงงามต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้แต่อวี้ลู่หยานก็มิอาจเทียบเคียงในด้านความงามกับนางได้

 

ในมุมมองของถานท่ายหยวนและอวี้ลู่หยาน อี่หวงกู่หวู๋เป็นคนที่มีความภาคภูมิและสง่างามอยู่เสมอไม่ว่านางจะอยู่ที่ใด เรื่องที่ทำให้นางต้องแปลกใจตือการที่นางถูกหยอกล้อโดยชายหนุ่มคนนี้

 

“เจ้าเด็กพาล ไว้หน้าข้าบ้างเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกนาง…” อี่หวงกู่หวู๋กวาดตาขวางไปยังชิงสุ่ย

 

“พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ในตอนนี้ก็เอาสูตรยามาให้สามีของเจ้าดูได้แล้ว ” ชิงสุ่ยยื่นศีรษะออกพร้อมกับจูบลงที่แก้มของนาง

 

อี่หวงกู่หวู๋รีบนำสูตรยามอบให้แก่ชิงสุ่ย หลังจากนั้นนางก้าวถอยหลังออกไป นางรู้ดีว่าไม่ควรให้เรื่องระหว่างนางและชิงสุ่ยถูกเผยแพร่ให้คนอื่นได้เห็น นางรู้สึกอับอายอยู่บ้างแต่ก็ทำให้มันเป็นเรื่องน่าขันเมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาวทั้งสอง ในความเป็นจริงแล้วนางไม่ได้กลัวที่จะถูกเห็นจากหญิงสาวทั้งสอง เพราะพวกนางเป็นพี่น้องกันแล้ว แล้วจะมีเรื่องใดอีกที่พวกนางไม่สามาถแบ่งปันกันได้?

 

ชิงสุ่ยหยิบมันมาพร้อมรอยยิ้ม เขาถึงกับต้องตกใจเมื่อได้เห็นมัน สูตรยาจากกระดาษใบนี้มีความต่างออกไป มันเป็นสิ่งที่ถูกสืบต่อกันมาเป็นเวลานานแล้ว มันดูเก่าแก่มากแต่ไม่มีรอยขีดข่วนอยู่เลย ชื่อบนสูตรยานั่นเป็นชื่อที่ประหลาดจริงๆ

 

ยาเม็ดตำรับคู่!!

 

ชิงสุ่ยมองไปยังสมุนไพรที่เขียนอยู่บนสูตรยานั่นและพบว่าเขาไม่ต้องใช้พวกสมุนไพรที่มีค่ามากมาย แต่เพียงต้องใช้ความหลากหลายเขาช่วยเท่านั้น ความสามารถของมันคือการช่วยเพิ่มศักยภาพของบุคคล หนึ่งในนั้นคือสมุนไพรกำเนิดกายา มันเป็นสมุนไพรล้ำค่าท่ามกลางส่วนผสมทั้งหลาย อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยมีสิ่งเหล่านี้อยู่ในดินแดนของเขา ซึ่งพวกมันกำลังมีอายุได้ที่ เป็นเพราะเขาได้เพาะปลูกมาเนิ่นนานและตอนนี้พวกมันก็เติบโตแล้ว ในความเป็นจริงชิงสุ่ยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เป็นเพราะเขาใช้มันไปกับยาเม็ดฟื้นฟูและปรุงซุปกระดูกพยัคฆ์

 

ไม่มีใครคาดคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นของดี สมุนไพรเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง ในความจริงแล้วมันเป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สาเหตุที่เขาทราบเป็นเพราะเขาได้เห็นส่วนผสมจากสูตรย่านั่น

 

ความสามารถ : ช่วยลดผลกระทบจากยาเม็ดเทพโอสถลงครึ่งหนึ่ง

 

นั่นหมายความว่าเขาสามารถได้รับผลจากยามากกว่าเมื่อก่อน ตัวอย่างเช่น ในอดีตเขาสามารถกินยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งได้เพียงสิบเม็ด แต่ในตอนนี้เขาสามารถกินมันได้ถึงยี่สิบเม็ด เมื่อก่อนเขาสามารถกินมันได้หนึ่งเม็ดต่อหนึ่งปี แต่ในตอนนี้สามารถกินมันได้ถึงสองเม็ดต่อหนึ่งปี นั้นก็เท่ากับเพิ่มคุณสมบัติถึง 2 เท่า

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด