Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1349

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1349 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1349 – ปู้หยางกับการทะลวงเข้าสู่ระดับบัญชาสวรรค์พินาศ

 

“ข้ารู้สึกว่ารอบนี้มันต้องได้ผล!”ปู้หยางชิงกล่าวอย่างมั่นใจกับชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยยิ้มและมองไปที่ปู้หยางชิง และยิ้มออกมา

 

น้ำทิพย์ฤดูใบไม้ผลิแห่งชีวิต!

 

ปู้หยางชิงนั้นเคยผิดพลาดมาก่อนในการทะลวงระดับครั้งแรกแต่โชคดีที่เธอนำโอสรที่เตรียมเอาไว้มากินได้ทันไม่เช่นนั้นเธออาจไม่สามารถมายืนอยู่ตรงนี้ได้ในเวลานี้  ด้วยบทเรียนจากครั้งแรก เธอจึงได้เล่าให้ชิงสุ่ยฟัง จึงทำให้ชิงสุ่ยนั้นได้ตัดสินใจมอบน้ำทิพย์ฤดูใบไม้ผลิแห่งชีวิตเพื่อช่วยเหลือเธอในครั้งนี้

 

ชิงสุ่ยมั่นใจว่าครั้งนี้เธอต้องทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน  หากไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บในตอนแรกชิงสุ่ยคิดว่าเธอคงจะสามารถทะลวงระดับได้ตั้งแต่ครึ่งเดือนก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถึงอย่างไรซะระดับบัญชาสวรรค์นั้นก็เปรียบได้ดังกับประตูแห่งทวยเทพและมนุษย์ดังนั้นเธอต้องขอความช่วยเหลือจากชิงสุ่ยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง

 

ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมานอกเหนือจากการรักษาชิงสุ่ยนั้นยังได้เชื่อมต่อเส้นลมปราณทั้งหมดของเธอเข้าด้วยกัน นอกจากนี้เธอยังได้รับยาเม็ดเริ่มสร้างเส้นลมปราณมากมายจากชิงสุ่ยทำให้ปัญหาคอขวดของเธอนั้นค่อยๆถูกทำลายลงไปอย่างช้าๆ

 

ยาเม็ดเสริมสร้างเส้นลมปราณของสุ่ยนั้นจัดได้ว่าเป็นยาที่มหัศจรรย์อย่างมากมันนั้นสามารถช่วยเหลือได้แม้กระทั้งผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์พินาศเอง ดังนั้นชิงสุ่ยจึงรู้สึกทีความสุขอย่างมากที่เธอนั้นสามารถสร้างมันขึ้นมาได้

 

ในขณะนี้ปู้หยางชิงกำลังเริ่มรีบที่จะทะลวงผ่านระดับของเธอ โดยที่ชิงสุ่ยได้ใช้การฝังเข็มเพื่อช่วยป้องกันอวัยวะภายในและเส้นลมปราณของเธออยู่ในตอนนี้ ในบางขณะชิงสุ่ยก็ได้ใช้ปราณของเขาเพื่อกระตุ้นศักยภาพของปู้หยางชิงได้ในทำนองเดียวกัน

 

หนึ่งครั้ง สองครั้ง…

 

ตอนนี้ปู้หยางชิงได้รวบรวมพลัง เข้าประทะกับประตูที่ปิดกั้นเธอไว้อยู่ หลังจากผ่านไปหลายครั้ง ตอนนี้เธอรู้สึกได้ว่าประตูบานนั้นกำลังจะสลายลงไปในไม่ช้า แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันนั้นยังไม่ใช่ในครั้งนี้

 

อย่างต่อเนื่องปู้หยางชิงได้รวบรวมพลัง เข้าประทะกับประตูอีกครั้งหนึ่ง!

 

ตูม!

 

เสียงกำแพงที่ถูกทำลายออกได้ดังสนั่นออกมาจากร่างกายของเธอ พลังที่น่าสะพรึงกลัวได้ระเบิดและประทุออกมาจะร่างกายของเธอ

 

โชคดีที่มีชิงสุ่ยช่วยสนับสนุนนอยู่ จึงทำให้เธอไม่ไดรับบาดเจ็บแต่อย่างใด ในขณะนี้เธอกำลังรวบรวมพลังทั้งหมดในร่างของเธอและโคจรมันให้สงบ

 

ในขณะนั้นเองชิงสุ่ยได้ช่วยเหลือเธอและได้นำปราณที่ประทุออกมาเคลื่อนกลับเข้าไปในตันเถียนของเธออย่างช้าๆ ด้วยความกังวลชิงสุ่ยได้เรียกหุบเขาเก้าเทวาออกมาเพื่อปิดกันพลังที่ต้องการไหลย่อนกลับในช่วงเวลานี้

 

ตูม!

 

พลังงานบริสุทธิ์ได้เธอประทะกับหุบเขาเก้าเทวาของชิงสุ่ย แต่ถึงอย่างไรมันก็ถูกปิดกั้นเอาไว้ในตอนนี้

 

แต่ก็มีปราณบางส่วนที่หลุดรอดออกมาได้ มันได้ตรงเข้าสู่ร่างกายของชิงสุ่ย แต่ถึงไรก็ตามมันก็ได้ถูกดูดกลืนไปด้วยเม็ดสีทองลึกลับในตันเถียนของเขา

 

ในขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างมากผู้บ่มเพาะสวนมากจะได้รับบาดเจ็บหรือตายลงหลังจากที่พลังได้ประทุออกมา หากร่างกายของพวกเขาไม่สามารถปรับตัวได้

 

แม้กระทั้งปู้หยางชิงที่มีชิงสุ่ยคอยช่วยเหลืออยู่ก็ยังกระอักเลือดออกมา หลังจากที่พลังในร่างกายของเธอถูกปลุกขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามเธอโชคดีที่มีชิงสุ่ยคอยดูดซับพลังที่เกินออกมาอยู่ทำให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บหนักเหมือนกับคนอื่นๆ

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยสัมผัสได้แล้วว่าเธอได้ทำมันสำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือของเขาในครั้งนี้ ชิงสุ่ยได้ช่วยให้ชายชราคนนี้ทะลวงผ่านระดับเข้าไปได้ มันทำให้การบ่มเพาะของเธอเพิ่มขึ้นและกลายเป็นผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์พินาศในที่สุด

 

ขณะนี้ชิงสุ่ยมองไปที่เธอ ซึ่งกำลังพยายามดูดซับปราณที่ร่างกายของเธอได้ปลดปล่อยออกมาเข้าไปในตันเถียนของเธอ ……

 

ในตอนนี้ปู้หยางชิงต้องใช้เวลาอีกประมาณครึ่งวันในการปรับแต่งพลังของเธอ นี่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นทุกๆครั้งสำหรับผู้ที่ได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตใหม่

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยไม่อะไรที่ทำได้อีกต่อไปเม็ดสีทองในตันเถียนของเขานั้นก็อิ่มตัวแล้ว มันได้ขยายใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรสำหรับเขาเลย แม้ในตอนแรกเขานั้นหวังไว้ว่าหุบเขาเก้าเทวาของเขานั้นจะได้รับการเติบโตจากการทะลวงระดับปู้หยางชิงในครั้งนี้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคิดไว้

 

ในช่วงค้ำปู้หยางชิงค่อยๆลืมตาขึ้น ประกายแสงสีทองได้สาดส่องออกมาจากดวงตาของเธอ นี้เป็นการบ่งบอกว่าเธอนั้นพึ่งทะลวงพลังได้สมบูรณ์ ขณะที่เธอเปิดตาขึ้นและเห็นชิงสุ่ยที่นั่งอยู่ข้างหน้าเธอ เธอนั้นไม่รู้จะกล่าวออะไรออกมาดีในตอนนี้

 

“ข้านั้นไม่รู้จะกล่าวขอบคุณเจ้าอย่างไรดี ตลอดชีวิตของข้านั้นเฝ้ารอช่วงเวลานี้มาโดยตลอด ข้าใช้เวลาทั้งชีวิตเฝ้ารอมันจนข้านั้นได้ถอดถอนใจไปนานแล้ว แต่กับเป็นเจ้าที่ช่วยเหลื่อข้าจนมีวันนี้”เธอกล่าวออกมาด้วยสายตาทราบซึ้งใจ และยิ้มออกมา

 

“ท่านยายกล่าวเกินไปแล้ว พวกเรานั้นจัดได้ว่าเป็นสหายที่ดีต่อกัน มีรึที่ข้าจะไม่ช่วยท่าน มีคนมากมายที่ต้องการคบหาข้าเพื่อผลประโยชน์แต่ไม่ใช่ท่านที่คบหาข้าด้วยใจ แล้วมีรึที่ข้าจะไม่ช่วยเพื่อนของข้า”

 

“แล้วถ้าหากที่ข้ามาตีสนิทกับเจ้าเพื่อผลประโยชน์ละ”เธอกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

 

ชิงสุ่ยยิ่มและส่ายหัว  “ข้ารู้ดีว่านั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้ และข้าก็รู้อีกว่าตระกูลปู้หยางนั้นเป็นตระกูลที่มีศักดิ์ศรีขนาดไหน พวกเขาจะไม่มีทางทำเรื่องที่ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาเสียหายอย่างแน่นอน!”

 

“ฮ่าๆ ในเมื่อตอนนี้ท่านยายผู้นี้ได้ทะลวงกลายเป็นผู้บ่มเพาะระดับบัญชาสวรรค์พินาศแล้ว ให้ข้าได้ตอบแทนเจ้าสักหน่อย  แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะมอบอะไรให้เจ้าดี เอาเป็นแบบนี้ ข้าจะให้คำมั่นกับเจ้า ต่อไปนี้ตระกูลปู้หยางของข้าจะเป็นสหายกับเจ้าตลอดไป ไม่ว่าเจ้ามีปัญหาอะไร พวกเราจะคอยสนับสนุนเจ้าเสมอ และพวกเราจะคอยปกป้องและอยู่เคยข้าเจ้าตลอดไป” ในตอนนี้เธอไม่ต้องการมอบของขวัญใดๆให้กับชิงสุ่ย นั้นเพราะจะเป็นการดูดถูกน้ำใจของเขา ดังนั้นเธอจึงให้คำมั่นดังกล่าวออกไป

 

……………

 

หลังจากที่กลับมา ชิงสุ่ยได้รีบเข้าสู่ดินแดนหยกในทันที ในตอนนี้เขาไม่ได้ทำอะไรนอกจากทำความเข้าใจประสบการณ์ที่ได้รับมา ขณะที่เขาปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงไปในห้วงแห่งภวังค์ ราวกับว่าเป็นเขาเสียเองที่ได้ทะลวงเข้าสู้ระดับบัญชาสวรรค์พินาศในตอนนี้

 

ในตอนนี้พลังลึกลับได้พุ่งเข้ามาที่จุดลมปราณป่ายฮุ่ยของเขา แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ไม่สามารถทะลวงกำแพงลมปราณไปได้ น่าเสียที่ครั้งนี้มันทำได้ไม่สำเร็จจึงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆกับเข้า

 

ในครั้งก่อนปู้หยางชิงนั้นมีพลังไม่ถึง5แสนสุริยาด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่เธอทะลวงระดับไปได้มันทำให้พลังของเธอเพิ่มขึ้นมาเป็น1.5ล้านสุริยา ซึ่งมันได้เพิ่มขึ้นมาประมาณสามเท่าของพลังที่เธอมี  มันเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งอย่างมาก

 

หลังจากที่เขาทบทวนเรื่องทั้งหมดจบลงเขาได้ออกจากดินแดนหยก และออกไปเดินที่ห้องโถง ในขณะนั้นเองเขาพบหยวนสู่ที่กำลังดื่มน้ำอยู่ในตอนนี้

 

“ระวังนะหากเจ้าดื่มชาในเวลาเช่นนี้ ข้าเกรงว่าในคืนเจ้าคงไม่ได้หลับไม่ได้นอน!”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาขณะที่ลงไปนั่งตรงข้ามเธอ

 

“ก็เพราะข้านอนไม่หลับเนี่ยแหละ ข้าจึงได้ออกมาดื่มมัน”เธอกล่าวออกมา

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยค่อยๆเทชาลงในถ้วยของเขา

 

“แล้วทำไมเจ้าถึงไม่นอนละ?”เธอกล่าวออกมาขณะที่ค่อยๆยกถ้วยชาขึ้น และมองไปที่ชิงสุ่ย

 

“ข้านั้นหลับไปแล้ว แต่เหมือนได้ยินเสียงบางอย่างเลยออกมาดู และพบเจอเจ้าที่นั่งอยู่เพียงลำพัง ราวกับว่ามีเรื่องกลุ้มใจอะไร ข้าจึงตัดสินใจเดินเข้ามาหาเจ้า แล้วตกลงเจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”ในช่วงเวลาครึ่งปีมานี่ทั้งคู่นั้นสนิทสนมกันอย่างมาก โดยเฉพาะหยวน สู่ที่มักรู้สึกเป็นอิสระทุกๆครั้งที่อยู่ใกล้ๆเขา ถึงแม้ตอนนี้ความสัมพันธ์ทางชู้สาวของพวกเขาจะไม่พัฒนามากนัก แต่ทั้งคู้ก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

 

แต่ถึงแม้พวกเขาจะสนิทกันแต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องในใจให้แกกันมากนัก นอกจากนี้พวกเขาไม่เคยพูดถึงเรื่องเกิดขึ้นในอดีต จึงทำให้ทั้งคู่นั้นรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้พูดคุยกัน ในเวลาปกติชิงสุ่ยจะกลับไปเยี่ยมตระกูลชิงเดือนละครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอต้องการติดตามเขาไปด้วย แต่เหตุผลบางอย่างทำให้ทั้งสองนั้นไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน นอกจากนี้ชิงสุ่ยนั้นก็ไม่เคยปิดบังเรื่องธงสวรรค์ปัญจธาตุ ซ้ำเขายังบอกกับเธออีกว่าเมื่อใดที่เธอต้องการเดินทางไปกับเขาให้มาบอกเขา เขาจะพาเธอกลับไปด้วย

 

“วันนี้มีผู้หญิงจากตระกูลลี่มาหาเจ้าด้วย!”หยวนสู่กล่าวออกมาขณะเปลี่ยนหัวข้าสนทนา

 

“โอ้ว นางมาจริงๆรึ?”

 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาชิงสุ่ยนั้นไม่ค่อยได้ติดต่อกับตระกูลลี่มากนัก เพราะเขานั้นมีธุระมากมายต้องทำ และเขาก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องเข้าไปยุ่งกับเธอ นอกจากนี้เขายังรู้จักเธอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเขาก็ไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลย

 

ชิงสุ่ยนั้นเคยรักษาให้กับบรรพบุรุษของตระกูลลี่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และพวกเขานั้นก็ได้ให้เข็มแห่งชีวิตและความตายกับเขามา ในตอนนี้พวกเขาจัดได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอย่างมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปความสัมผัสของพวกเขาก็ไม่ได้พัฒนาไปมากกว่านั้น และชิงสุ่ยนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา ในเมื่อตอนนี้เขาก็ได้รับของตอบแทนเป็นเข็มแห่งชีวิตและความตายมาแล้ว

 

“ใช่ และข้าก็รู้สึกได้ว่านางนั้นอาจชอบเจ้าอยู่นะ!”เธอยิ้มและกล่าวออกมา

 

ชิงสุ่ยแอบตกใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าลี่เหยียนจะแอบชอบเขา อีกอย่างเขานั้นก็ไม่เคยสัมผัสมันได้เลยทุกๆครั้งที่เขขาได้พบเจอกับเธอ ดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

 

“ข้าไม่คิดอย่างนั้น ข้าเพียงแค่เคยช่วยปู่ของนางไว้เท่านั้นเอง”

 

“ข้าแค่บอกว่าอาจจะชอบเท่านั้น นอกจากนี้คุณชายชิงของเราก็เป็นชายหนุ่มรูปงามที่มีความสามารถ ก็ไม่หน้าแปลกใจอะไรที่จะมีหญิงงามมาติดพันด้วย  และยิ่งไปกว่านั้นก็มีแต่คนที่ต้องการคุณชายของเราไปเป็นลูกเขย หลานเขยจำนวนมากเสียด้วย”เธอกล่าวออกมาด้วยท่าทางติดตลก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด