Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1489

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1489 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1489 – มุ่งหน้าสู่จักรววรดิหิมะนิรันดร์ โลกน้ำแข็ง

เสวี่ยนั่วยิ้ม “ไม่ต้องกังวล เจ้าวางใจได้เลย ข้าจะบอกเจ้าเมื่อข้าผ่านเรื่องนี้ไปได้”

“แล้วเซี่ยตงหลายหล่ะ?”

ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปยังตระกูลเสวี่ย ชิงสุ่ยได้ถามมันขึ้นโดยบังเอิญ

“ฮึ เขาพูดอะไรกับเจ้างั้นหรือ?” เสวี่ยนั่วกล่าวและมองไปที่ชิงสุ่ยอย่างไม่พอใจ

“เขาพูดถึงเจ้าเป็นอย่างดี”

คำพูดของชิงสุ่ยทำให้เธอหยุดชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง เธอยิ้มและกล่าว “ก็ดี พวกเราเลิกพูดถึงเขาแล้วมาพูดถึงเรื่องของเราก่อนเถอะ”

“ตกลง ข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร?” ชิงสุ่ยกล่าว เขาไม่คุ้นเคยกับครอบครัวและคฤหาสน์ของตระกูลเธอ เขาไม่รู้ว่าจะต้องรับมืออย่างไร

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เมื่อถึงเวลา ปล่อยมันให้เป็นหน้าที่ของข้า” เสวี่ยนั่วกล่าวอย่างไม่แยแส

แต่เดิมชิงสุ่ยตั้งใจที่จะเปิดโรงหมอที่นี่ แต่หลังจากรับรู้ข้อมูลต่างๆ มันไม่มีทางที่เขาจะสามารถทำได้ เขาอาจจะต้องออกจากจักรวรรดิราชวงศ์เซียไป

ตระกูลเซี่ยมีคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่ในป่า ที่นี่คือคฤหาสน์หลักของตระกูล เช่นนั้นคนในครอบครัวส่วนใหญ่จึงอาศัยอยู่ที่นี่

เมื่อกลุ่มคนตรงหน้าประตูเห็นเสวี่ยนั่ว พวกเขาก็กล่าวต้อนรับอย่างสุภาพ เสวี่ยนั่วพยักหน้าและเดินตรงไปยังห้องโถงที่ใกล้ที่สุดพร้อมกับชิงสุ่ย

สิ่งปลูกสร้างที่นี่มีขนาดใหญ่ แม้แต่ศาลาก็ดูราวกับเป็นบ้านหลังหนึ่ง เมื่อมาถึง ปู่ของเสวี่ยนั่วและคนอื่นๆก็ออกมา พวกเขายินดีที่ได้พบชิงสุ่ย

“เจ้ามาแล้ว เดินชมรอบๆกันเถอะ ข้ากำลังรอเจ้าอยู่เลย” ชายชราดึงชิงสุ่ยไป

ชิงสุ่ยถอนหายใจ ชายชราค่อนข้างเอาใจใส่ เขาน่าจะรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของชิงสุ่ยและพึงพอใจมาก ชายชราทำให้ทุกอย่างดูสะดวกสบาย

ชิงสุ่ยตอบรับอย่างสุภาพและกล่าวทักทายทุกคนพร้อมกับเสวี่ยนั่ว คนเหล่านี้เป็นสมาชิกในตระกูลที่ใกล้ชิดกับเสวี่ยนั่วมากที่สุด ชิงสุ่ยเข้าใจว่าชายชราต้องการทำให้มันดูเป็นทางการ…

แม้ว่ามันจะดูเป็นทางการ แต่มันก็ออกมาจากความจริงใจ

หยินต่งและหลินเฟ่ยมีความสุขและยิ้ม พวกเขามักมองไปที่ชิงสุ่ยเป็นครั้งคราว หลินเฟ่ยหยอกล้อเขา มันทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกหดหู่

เพื่อที่จะได้อยู่กับอีเย่เจี้ยนเก้อ ไม่มีทางอื่นนอกจากต้องทนกับสถานการณ์ในตอนนี้

งานเลี้ยงถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ มีโต๊ะจัดเรียงกันมากกว่า 10 โต๊ะ ชิงสุ่ยและหลายๆคนรวมทั้งเหล่าผู้อาวุโสนั่งอยู่ที่โต๊ะหลัก แม้ว่าชิงสุ่ยจะปฏิเสธมันในตอนแรก แต่เขาก็ล้มเหลวเมื่ออยู่ต่อหน้าชายชรา

“ชิงสุ่ย เจ้าจะว่าอะไรไหมหากข้าจะเรียกเจ้าเช่นนี้!” ชายชรากล่าวอย่างมีความสุข

“มันเหมาะสมแล้ว ผู้อาวุโส ท่านต้อนรับข้าเป็นอย่างดี” ชิงสุ่ยไม่ได้กังวล เป็นสมาชิกตระกูลเสวี่ยเองมากกว่าที่กระวนกระวายใจกว่าเขา

“ชิงสุ่ย เจ้ามาจากไหน?”

“ชิงสุ่ย เจ้าแต่งงานแล้วหรือยัง?”

……

ชิงสุ่ยตอบอย่างราบรื่น เมื่อถามว่าเขาแต่งงานแล้วหรือไม่ ชิงสุ่ยคิดและพยักหน้า “ผู้อาวุโส ข้ามีภรรยาอยู่บ้างแล้ว”

ชิงสุ่ยรู้ว่าการโกหกมันไม่มีอะไรดี เขายอมรับมันอย่างกล้าหาญ

“ฮ่าๆ ข้าชอบคนที่ซื่อสัตย์ ข้าไม่ได้มองเจ้าไม่ดี การมีผู้หญิงหลายคนเป็นเรื่องปกติ ตราบเท่าที่เจ้าสามารถทำให้พวกนางมีความสุข ทุกคนก็จะมีความสุข” ชายชราหัวเราะ

ชิงสุ่ยไม่ได้คาดคิดว่าชายชราจะตอบแบบนี้ในทันที สิ่งนี้ทำให้เสวี่ยนั่วและผู้หญิงบางส่วนที่อยู่ตรงนั้นรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย อย่างไรก็ตามชายชราไม่กลัวกดดันเมื่อพูดถึงมัน และสิ่งที่ชายชรากล่าวก็ไม่ผิด มีคำกล่าวที่ว่าชายผู้น่าเกรงขามย่อมมีภรรยาหลายคน

โลกนี้และโลกก่อนหน้าแตกต่างกัน ที่นี่ชายคนหนึ่งมีภรรยาหลายคนถือเป็นเรื่องปกติมาก

“ชิงสุ่ย เจ้ามีแผนอะไรหรือไม่?” ชายชรากล่าวกับชิงสุ่ยเพื่อรอฟังคำตอบของเขา

ชิงสุ่ยคิดว่าชายชรากำลังกล่าวถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ของครอบครัว เขามองไปที่ชายชราอย่างจริงจังและกล่าว “ข้าเชื่อมั่นในมิตรภาพที่แท้จริง ข้าเข้าใจสิ่งที่ผู้อาวุโสกล่าว แต่บางทีข้าคงไม่สามารถแต่งงานกับนางได้ในตอนนี้ ปล่อยให้หลานสาวของท่านตัดสินใจเอง ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”

ชิงสุ่ยกล่าวอย่างคลุมเครือ แต่ความหมายนั้นชัดเจนมาก

เมื่อได้ยินคำตอบของชิงสุ่ย ชายชรายิ้มด้วยความพึงพอใจและกล่าวอย่างมีความสุข “ตกลง ให้มันเป็นไปตามที่เจ้าพูด ข้าแก่แล้ว แต่โลกใบนี้ยังคงอยู่อีกแสนนาน”

ชิงสุ่ยรู้ว่าชายชราเป็นเหมือนจิ้งจอกเฒ่า เขาได้บรรลุจุดประสงค์แล้ว เช่นนั้นเขาจึงไม่สนใจเรื่องอื่น เขารู้สึกได้ว่าชิงสุ่ยไม่ใช่คนเลว

เสวี่ยนั่วนั่งอยู่ข้างชิงสุ่ยด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุเป้าหมายของพวกเขา โดยปกติในงานเลี้ยงเช่นนี้ ผู้คนก็มักที่จะมาดื่มอวยพรชิงสุ่ย

หลังจากเสร็จสิ้น ตระกูลเสวี่ยได้จัดเตรียมที่พักไว้สำหรับชิงสุ่ย เสวี่ยนั่วและชิงสุ่ยเดินออกไปพร้อมกันโดยมีหยินต่งและหลินเฟ่ยนำไปก่อน

ณ ลานบ้าน ชิงสุ่ยเริ่มหมดความอดทนและถาม “เจี้ยนเก้ออยู่ที่ไหน?”

“แน่นอนว่านางอยู่ที่จักรววรดิหิมะนิรันดร์” เสวี่ยนั่วกล่าวอย่างเรียบง่าย

“จริงหรือ?” ชิงสุ่ยรู้สึกประหลาดใจครู่หนึ่ง

“ตอนแรกที่ข้าพบกับพี่สาว พวกเราอยู่ด้วยกันร่วมครึ่งเดือน ข้าได้เห็นภาพของเจ้าอย่างไม่ตั้งใจ นางบอกข้าว่านางต้องการมุ่งหน้าไปยังจักรววรดิหิมะนิรันดร์” เสวี่ยนั่วรู้สึกไม่สบายใจขณะที่เธอมองสีหน้าที่ซีดเผือดของชิงสุ่ย

ชิงสุ่ยรู้ว่าเสวี่ยนั่วจะไม่โกหกเขา แม้ว่าข้อมูลจะไม่ถูกต้อง แต่มันก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย จักรววรดิหิมะนิรันดร์กว้างใหญ่ ดังนั้นการมองหาคนก็เหมือนการหาเข็มในมหาสมุทร แต่อีเย่เจี้ยนเก้อไม่ใช่คนธรรมดา เช่นนั้นมันก็ไม่น่าจะยากเกินไป

“พวกเราจะออกไปในอีก 3 วัน ครอบครัวของเจ้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถ และตอนนี้แม้กระทั่งพวกเราก็รู้เช่นกัน” ชิงสุ่ยมองไปที่เสวี่ยนั่วและกล่าว

“ฮึ ตัดสะพานหลังจากเจ้าข้ามมัน พี่สาวของข้าต้องทุบตีเจ้าแน่หากรู้ว่าเจ้าทำเช่นนี้กับข้า” เสวี่ยนั่วตอบกลับด้วยความขุ่นเคือง

“พวกเราจะไปที่จักรววรดิหิมะนิรันดร์ เจ้าต้องการไปด้วยหรือไม่?” ชิงสุ่ยเดินไปที่ห้องพักและตะโกนถาม

“แน่นอน ข้าจะไป มิฉะนั้นครอบครัวของข้าจะไม่เชื่อเรื่องการแต่งงานของพวกเรา” เสวี่ยนั่วกล่าว

ชิงสุ่ยถูคิ้วของเขา เขาคิดว่าควรจะคิดให้มากก่อนจะพูดมัน

3 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชิงสุ่ยกลับไปและช่วยรักษาคู่ผัวเมียหลางซวนจนเสร็จสิ้น

เมื่อรู้ว่าชิงสุ่ยต้องไปจักรววรดิหิมะนิรันดร์ หลางซวนมีความสุขมาก เขาบอกกับชิงสุ่ยว่าต้องการกลับไปที่จักรววรดิหิมะนิรันดร์เช่นกัน และพวกเขาสามารถเดินทางไปพร้อมกันได้

ชิงสุ่ยไม่ปฏิเสธข้อเสนอของเขาที่จะเป็นผู้นำทาง เขารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่มีหลางซวนไปกับพวกเขาด้วย

ชิงสุ่ยและเสวี่ยนั่วไปกล่าวลาตระกูลเสวี่ย เสวี่ยนั่วบอกว่าเธอต้องการออกไปกับชิงสุ่ยและตระกูลเสวี่ยไม่ได้แสดงการคัดค้านใดๆ พวกเขาตกลงอย่างมีความสุข พวกเขาบอกชิงสุ่ยให้ดูแลหญิงสาวคนนี้ให้ดี

เวลานี้ชิงสุ่ยรู้สึกใกล้ชิดกับชายชรา ด้วยการร้องขอของชายชรา ชิงสุ่ยจะปฏิบัติตาม ตั้งแต่ที่เขาเป็นคนนำเธอไป เขาจะปกป้องเสวี่ยนั่วด้วยทุกวิธี

หลายปีที่ผ่านมาชิงสุ่ยไม่ค่อยสบายใจ แต่คราวนี้เขาได้รับผลประโยชน์มากมาย เขาพึงพอใจมากที่พบอีเย่เจี้ยนเก้อ

ส่วนเรื่องถานท่ายหลิงเยียนมันต้องใช้เวลา เขาต้องรอนานอีกหน่อยและไม่จำเป็นต้องกังวลมากนัก

พวกเขาขึ้นไปบนราชสีห์นภาของหลางซวนเพื่อเดินทาง ด้วยความแข็งแกร่งของมัน ชิงสุ่ยมั่นใจในพลังของหลางซวน

จากจักรวรรดิราชวงศ์เซียไปจนถึงจักรววรดิหิมะนิรันดร์ พวกเขาต้องผ่านจักรวรรดิอีกหลายแห่ง ทั้งสองจักรวรรดิไม่ได้อยู่ติดกัน มันยังมีอีกสองจักรวรรดิที่อยู่ระหว่างพวกเขา

ชิงสุ่ยไม่ได้ใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวา จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มันไม่จำเป็นต้องบอกให้ใครรู้ถึงความสามารถของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงขี่ราชสีห์นภาเพื่อเดินทาง

ด้วยความเร็วของราชสีห์นภาที่น่าเกรงขาม พวกเขามาถึงจักรววรดิหิมะนิรันดร์อย่างปลอดภัยในอีกหนึ่งเดือนต่อมา

สำหรับสถานที่อันมีชื่อว่าจักรววรดิหิมะนิรันดร์นั้นไม่ผิดไปจากนามของมัน สภาพอากาศที่นี่หนาวเย็นตลอดฤดูและทางเข้าสู่จักรวรรดิก็เหมือนกับทางเข้าสู่โลกน้ำแข็ง หิมะมักตกบ่อยและหนาวเย็นตลอดเวลา นี่เป็นโลกแห่งน้ำแข็ง อาคารหลายแห่งถูกสลักมาจากน้ำแข็งซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดา

ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไร แต่เขารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่สวยงามมาก ผู้คนจะสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ มีทั้งทะเลน้ำแข็ง ทะเลสาบน้ำแข็ง หรือธารน้ำแข็ง มันเหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของพืชที่หนาวเย็น…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด