Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1632 พระราชวังสุริยา

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1632 พระราชวังสุริยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1632 พระราชวังสุริยา

 

ในตอนนี้ทั้งหมดได้ตรงไปที่ห้องนั่งเล่น จากนั้นชิงสุ่ยได้ทําการตรวจชีพจรให้กับหยินเทียนผลที่อออกมาร่างกายของเขาฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่ชิงสุ่ยคาดเอาไว้เร็วอยางมาก นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของเขาก็ค่อยๆฟื้นคืนกลับมา

 

“เป็นอย่างไรบ้าง” หยินเทียนมองไปที่ชิงสุ่ยและถามออกมา ในตอนนี้เขามั่นใจว่าอาการของเขาต้องดีขึ้นกว่าจะเก่าแน่นอน

 

“มันดีกว่าที่ข้าคิดเอาไว้มากนัก ร่างกายของท่านลุงสามารถฟื้นตัวขึ้นมากจากเก่าได้เกือบทั้งหมดแล้วอาจใช้เวลาอีกประมาณ1ปีท่านก็จะหายดี แต่ข้าก็ไม่สามารถฟังธงได้” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว

 

“ฮ่าๆข้ารอมาตลอดชีวิตของข้าแล้ว เพียงแค่หนึ่งปี มีรีข้าจะรอไม่ได้ หากไม่ได้เจอกับเจ้าข้าคงไม่มีชีวิตอยู่ต่อจนถึงวันนี้ทั้งหมดเพราะได้เจ้าช่วยเอาไว้”เขากล่าวอย่างสุภาพและมีความสุข

 

“ท่านลุงท่านไม่ต้องสุภาพหรอก นี่คือโชคชะตาที่ทําให้เราได้มาพบเจอกัน นอกจากนี้ภรรยาของขาก็กลายเป็นลูกบุญธรรมของท่านแล้ว เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน”

 

“ มันเป็นโชคดีของเจ้าจริงๆ ที่ได้ผู้หญิงที่ดีอย่างหลิงเหลียนมาเป็นภรรยาของคุณ เจ้าต้องไม่กลั่นแกล้งนางนะไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไป ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้มีพระคุณของข้าก็ตามถึงนางจะเป็นลูกบุญธรรมของข้าแต่ข้าก็จะรักนางเหมือนลูกสาวแท้ๆของข้า”

 

ชิงสุ่ยหัวเราะเบาๆและกล่าว” วางใจเถอะ ท่านลุงข้าจะดุแลนางให้ดี และข้าก็รักนางมากมีหรือข้าจะกล้ากลั่นแกล้งนางข้าจุดูแลนางให้ดีเหมือนที่ท่านดูแลท่านป้า”

 

ในตอนนี้หลิงเหยียนมองไปที่ชิงสุ่ย ราวกับเธอสามารถสัมผัสได้ว่าเขาจงใจพูดประโยตสุดท้ายออกมาเพื่อให้เธอได้ยินแต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าของเธอ

 

ในตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องอาหาร หลิงเฟิง หยินต่ง ที่เหลือก่อน รวมไปถึงชิงสุ่ยและหลิงเหยียนได้นั่งลงที่โต๊ะเพื่อรับประทานอาหารด้วยกัน

 

ในตอนนี้เฟิงซ์ได้ถามเรื่องต่างมากมายเกี่ยวกับหลิงเหยียนไม่ว่าจะเป็นที่มาอายุ หรือเรื่องอื่นๆ

 

ในระหว่างการสนทนาของพวกเธอเฟิงซี พูดถึงเรื่องราวมากมาย รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับนิกายจันทรานิรันกาลรวมไปถึงลูกชายของเธอ แต่ถึงอย่างไร เธอนั้นก็ไม่ได้มีลูกสาวจากนั้นเธอยังบอกอีกกว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับหลิงเหยียนเธอสามารถขอคามช่วยเหลือจากนิกายจันทรานิรันกาลได้ตลอดเวลา

 

หลังจากที่ทานอาหารเสร็จชิงสุ่ยได้ทําการฝังเข็มให้หยินเทียนอีกครั้ง เพื่อปรับแต่เส้นลมปราณให้กับเขา

 

จากนั้นเขาได้สั่งยาและอาหารบํารุงให้กับเขา อาหารบํารุงเหล่านี้ไม่ใช่อาหารธรรมดาที่หอคอยจักรพรรดิขายแต่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผู้บ่มเพาะที่ได้รับบาดเจ็บภายใน ผลของมันจะช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนอาการบาดเจ็บกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

 

น้ําหอมมรกตทองคํา!

 

อาการบาดเจ็บของหยินเทียนนั้นรุนแรงเกินไปและในขณะที่น้ําหอมมรกตทองคํา ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้มากมายนักต่างกับยาฟื้นฟูอื่นๆที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าอย่างมากในการรักษาอาการบาดเจ็บของเขายาเสริมสร้างกระดูก ยาเม็ดบรรพกาลหวนคืนเป็นยาที่ดีอย่างมากและเหมาะสมกับเขาอย่างยิ่งในเวลาเช่นนี้แต่ยาเหล่านี้ต้องได้รับการใช้ที่ถูกต้องและเหมาะสมยิ่งไป กว่านั้นตัวยายังมีฤทธิ์ที่รุนแรงหากเกิดกินร่วมกับยาชนิดอื่นๆอาจส่งผลที่อันตรายออกมา

 

“ ชิงสุ่ยเจ้ากับหลิงเหยียนมีธุระอะไร? มีอะไรสําคัญที่ทําให้พวกเจ้าต้องมาที่นี่เหรอ?

 

“ปาวเลย ข้าเพียงแค่ต้องการมาเยี่ยมพวกท่านเท่านั้น จริงสิแล้วท่านป้ามีเรื่องอันใดหรือไม่?”

 

“ ข้าว่าข้า กลับไปที่นิกายจันทรานิรันกาลสักครั้ง นี่ก็เป็นเวลากว่าสิบปีแล้วที่ข้าออกม าและตอนนี้ร่างกายของหยินเทียนก็ดีขึ้นมากแล้วข้าคิดจะกลับไปเยี่ยมนิกายของข้าสักครั้ง”เฟิงซี่หัวเราะ

 

ชิงส่ย “ ท่านป้าถ้าเช่นนั้น เราก็ออกเดินทางไปพร้อมกันที่รีไม่!”

 

ในตอนนี้ชิงสุยรู้สึกเป็นห่วงเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้เธอเดินทางไปเพียงลําพัง

 

“เจ้ามีเรื่องอะไรที่ปิดบังข้ารึไม่ มีอะไรเจ้าก็สามารถบอกข้าได้ บางทีป้าคนนี้อาจช่วยหาทางออกให้เจ้าได้”เฟิงซี่สามารถสัมผัสได้ถึงความวุ่นวายใจของเขา

 

“ไม่มีอะไรหรอก จะเป็นยังหาเราจะออกเดินทางในสองสามวันข้างหน้า”

 

“ไม่มีปัญหา ยังไงซะข้ายังต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวอีกสักพัก” เฟิงซี่กล่าวทันที

 

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ชิงสุยรู้สึกผ่อนคลายและยิ้มออกมา “ ข้าเพิ่งได้รับการรักษาให้กับท่านลุงไปดังนั้นเขาไม่จําเป็นต้องได้รับการรักษาในช่วงครึ่งเดือนให้หลัง นอกจากนี้ท่านลุงยังสามารถเริ่มทําการบ่มเพาะได้แล้วเพียงแต่ว่ามันไม่ควรเกินกําลังตัวเอง นี่เป็นเพลงหมัดที่ท่านลุงสามารถใช้ในการฝึกฝนได้ในทุกๆวันท่วงท่าของมันจะช่วยให้การฟื้นฟูร่างกายของท่านเร็วยิ่งขึ้น”

 

สิ่งนี้คือเพลงหมัดไทเก๊กของชิงสุ่ย มันเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมอย่างมากในการโคจรพลังแม้กระทั้งหลิงเหยียนที่ได้รับมรดกเทพอสูรก็ยังสามารถใช้มันในการควบคุมพลัง

 

หลิงเหยียนเป็นคนมีความสามารถอย่างมาก มันจึงทําให้เธอเชี่ยวชาญเพลงหมัดชุดนี้ได้อย่างรวดเร็วอาจเป็นเพราะเธอไม่ได้ยึดกับเรื่องราวบนโลกใบนี้มากนัก มันจึงทําให้เธอก็สามารถเข้าถึงสภาวะแห่งความว่างเปล่าได้อย่างรวดเร็วเมื่อรวมกับพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเธอแล้วมันทําเธอกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเพลงหมัดชุดนี้ไม่ด้อยไปกว่าชิงสุ่ย

 

เมื่องมองไปที่เพลงหมัดชุดนี้ หยินเทียนได้กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ: มันเป็นเพลงหัดที่ไม่เลวเลยจริงๆมันแฝงไปด้วยความนุ่มนวลแต่ทรงพลังยอดเยี่ยมๆอย่างมากตกลงข้าจะฝึกมัน”

 

“ ข้าสามารถร่วมฝึกฝนมันด้วยได้หรือไม่?” เฟิงซี่ยิ้มออกมาขณะทองไปที่ชิงสุ่ย

 

“ แน่นอนว่าได้ เพียงแค่ข้าเกรงว่ามันจะธรรมดาเกินไปสําหรับท่าน” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาอย่างถอมตัว

 

ในเมื่อท่านลุงของเจ้าบอกว่ามันเป็นเพลงหมัดที่ยอดเยี่ยม มันก็ต้องยอดเยี่ยมจริงๆ และมีรีที่ข้าจะกล่าวมองข้ามันไป” เธอกล่าวออกมา

 

ออกมาจากห้องของเฟิงซี่ ชิงสุ่ยและหลิงเหยียน ได้ตรงไปหาหลิงเฟิง และคนอื่นๆที่รวมตัวอยู่ในตอนนี้จะมีเพียงแต่ฉินชิงที่ได้เดินทางกลับไปยังบ้านของเธอแล้ว เมื่อสองวันก่อน

 

“ พี่ถานท้าย ท่านงดงามจริงๆ ท่านงดงามเหมือนพี่สาวของข้าเลย”เสวี่ย นั่วยิ้มออกมา

 

ในตอนนี้ใบหน้าของชิงสุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับเขารับรู้ว่าตอนนี้เสวี่ย นั่วกําลังลงมือจู่โจมเขาอยู่

 

“ ใครคือพี่สาวของเจ้ารึ?” หลิงเหยียนกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

 

เสวียนนิ้วเป็นคนแรกๆที่ได้สนิทสนมกับเฟิงซี่ แต่เมื่อตระหนักว่าหลิงเหยียนได้กลายเป็นลูกบุญธรรมของเฟิงซี่ มันจึงทําให้เธอรู้สึกขุนเคืองเล็กน้อย มันเป็นความอิจฉาที่ผู้หญิงนั้นมีกันแต่เนื่องจากหลิงเหยียนเป็นภรรยาของชิงสุ่ย เธอจึงต้องเคารพและให้เกียรติเธอ

 

“ นางคือพี่เจี้ยนเก้อ ข้าชั่งอิจฉาพี่ใหญ่จริงๆที่มีสาวงามข้างกายเช่นนี้” เธอกล่าวออกมาพร้อมแสดงท่าทางไร้เดียงรา

 

ในขณะที่ชิงสุยได้มองไปที่คนอื่นๆ ไม่ว่าจะหยินด่ง ซีฉีชา หรือแม้แต่หลิงเฟิง เพื่อขอความช่วยเหลือแต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ พวกเขาได้แต่จ้องมองไปที่ชิงสุยและยิ้มออกมาอย่าสนุกสนาน

 

“เจี้ยนเก้อคือพี่สาวของเจ้าอย่างนั้นหรอ?” หลิงเหยียนกล่าวออกมาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

 

* ท่านรู้จักนางอย่างนั้นรึ?”

 

“ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน” หลิงเหยียนยิ้มออกมา เพราะเธอสามารถรับรู้ได้ถึงแผนการของเสวี่ยนิ้ว

 

“สาวน้อยหยุดเล่นได้แล้ว เป็นเพราะท่านป้ารับนางเป็นลูกบุญธรรมใช่มั้ยเจ้าจึงได้งอแง่เช่นนี้ไม่ต้องเสียใจไปยังไงซะเจ้าก็ยังเป็นน้องสาวคนสําคัญของข้าอยู่เสมอ ” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว

 

“ ใครบอกอย่างนั้น? ท่านเห็นข้าเป็นคนขี้อิจฉาอย่างนั้นรึ?” ท่าทางของเธแปลกไปเล็กน้อยขระที่เธอมองไปที่ชิงสุ่ย

 

ในความเป็นจริงชิงสุยดูแลเธอดังคนในครอบครับของเขาและเขาไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเธอแต่สิ่งที่อยู่ในใจเธอนั้นกลับกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะแอบชอบเขาแต่มันคงไม่มีที่ให้เธอเข้าไปเพราะเขานั้นเป็นสามีของพี่สาวของเธอ

 

เสวี่ยทั่วนั้นงดงามอย่างมาก ความงามของเธอนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าซีฉีชาเลยแม้แต่น้อย ในบรรดาหญิงสาวที่ชิงสุ่ยรู้จักมาเธอก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งของกลุ่มสาวงาม

 

อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็เป็นสามีของเจี้ยนเก้อ เขาจึงไม่ได้เผื่อใจไว้ในเธอ แม้ว่าเธอจะงดงามขนาดไหนชิงสุ่ยก็ไม่สามารถทรยศต่อเจี้ยนเก้อได้

 

ในวันถัดไปมาชิงสุย ไม่ยอมให้หลิงเหยียนมามากับเขาในขณะที่ได้มุ่งหน้าไปที่แดนทะเลน้ําแข็งเพียงลําพัง ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังพระราชวังสุริยา

 

ชิงสุ่ยต้องการพบกับนายหญิงของพระราชวังสุริยาและเขาต้องการทราบความตั้งใจของพระราชวังสุริยา ไม่อย่างนั้นคราวนี้มันคงยากสําหรับเขาที่จะจากไปโดยไม่รู้สึกมั่นใจ

 

แม้ว่าชิงสุ่ยจะมีทักษะที่ใช้เคลื่อนไหวใต้น้ําอยู่ แต่เขาก็ยังคงต้องใช้เวลาอีกมากเพื่อเดินทางไปยังพระราชวังสุริยา ในขณะที่เขาดําดิ่งลงไป ชิงสุ่ยพบว่าแรงดันน้ําในที่แห่งนี้รุนแรงกว่าที่พระราชวังเทพสมุทรอยู่หลายเท่า ยิ่งไปกว่านั้นปราณที่ไหลวนอยู่ในกระแสน้ําก็ยังรุ่นแรงมากกว่า

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยค่อยๆดําดิ่งลงไป จนพบกับกลุ่มสัตว์น้ําที่ดูคล้ายเต่า “ เจ้าเป็นใคร ทําไมเจ้าถึงต้องมายังพระราชวังสุริยาของเรา?” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกับตัวกับปะซึ่งมันนั้นดูคล้ายกับเต่าที่มีรูปร่างเหมือนคน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1632 พระราชวังสุริยา

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1632 พระราชวังสุริยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1632 พระราชวังสุริยา

 

ในตอนนี้ทั้งหมดได้ตรงไปที่ห้องนั่งเล่น จากนั้นชิงสุ่ยได้ทําการตรวจชีพจรให้กับหยินเทียนผลที่อออกมาร่างกายของเขาฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่ชิงสุ่ยคาดเอาไว้เร็วอยางมาก นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของเขาก็ค่อยๆฟื้นคืนกลับมา

 

“เป็นอย่างไรบ้าง” หยินเทียนมองไปที่ชิงสุ่ยและถามออกมา ในตอนนี้เขามั่นใจว่าอาการของเขาต้องดีขึ้นกว่าจะเก่าแน่นอน

 

“มันดีกว่าที่ข้าคิดเอาไว้มากนัก ร่างกายของท่านลุงสามารถฟื้นตัวขึ้นมากจากเก่าได้เกือบทั้งหมดแล้วอาจใช้เวลาอีกประมาณ1ปีท่านก็จะหายดี แต่ข้าก็ไม่สามารถฟังธงได้” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว

 

“ฮ่าๆข้ารอมาตลอดชีวิตของข้าแล้ว เพียงแค่หนึ่งปี มีรีข้าจะรอไม่ได้ หากไม่ได้เจอกับเจ้าข้าคงไม่มีชีวิตอยู่ต่อจนถึงวันนี้ทั้งหมดเพราะได้เจ้าช่วยเอาไว้”เขากล่าวอย่างสุภาพและมีความสุข

 

“ท่านลุงท่านไม่ต้องสุภาพหรอก นี่คือโชคชะตาที่ทําให้เราได้มาพบเจอกัน นอกจากนี้ภรรยาของขาก็กลายเป็นลูกบุญธรรมของท่านแล้ว เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน”

 

“ มันเป็นโชคดีของเจ้าจริงๆ ที่ได้ผู้หญิงที่ดีอย่างหลิงเหลียนมาเป็นภรรยาของคุณ เจ้าต้องไม่กลั่นแกล้งนางนะไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไป ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้มีพระคุณของข้าก็ตามถึงนางจะเป็นลูกบุญธรรมของข้าแต่ข้าก็จะรักนางเหมือนลูกสาวแท้ๆของข้า”

 

ชิงสุ่ยหัวเราะเบาๆและกล่าว” วางใจเถอะ ท่านลุงข้าจะดุแลนางให้ดี และข้าก็รักนางมากมีหรือข้าจะกล้ากลั่นแกล้งนางข้าจุดูแลนางให้ดีเหมือนที่ท่านดูแลท่านป้า”

 

ในตอนนี้หลิงเหยียนมองไปที่ชิงสุ่ย ราวกับเธอสามารถสัมผัสได้ว่าเขาจงใจพูดประโยตสุดท้ายออกมาเพื่อให้เธอได้ยินแต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าของเธอ

 

ในตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องอาหาร หลิงเฟิง หยินต่ง ที่เหลือก่อน รวมไปถึงชิงสุ่ยและหลิงเหยียนได้นั่งลงที่โต๊ะเพื่อรับประทานอาหารด้วยกัน

 

ในตอนนี้เฟิงซ์ได้ถามเรื่องต่างมากมายเกี่ยวกับหลิงเหยียนไม่ว่าจะเป็นที่มาอายุ หรือเรื่องอื่นๆ

 

ในระหว่างการสนทนาของพวกเธอเฟิงซี พูดถึงเรื่องราวมากมาย รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับนิกายจันทรานิรันกาลรวมไปถึงลูกชายของเธอ แต่ถึงอย่างไร เธอนั้นก็ไม่ได้มีลูกสาวจากนั้นเธอยังบอกอีกกว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับหลิงเหยียนเธอสามารถขอคามช่วยเหลือจากนิกายจันทรานิรันกาลได้ตลอดเวลา

 

หลังจากที่ทานอาหารเสร็จชิงสุ่ยได้ทําการฝังเข็มให้หยินเทียนอีกครั้ง เพื่อปรับแต่เส้นลมปราณให้กับเขา

 

จากนั้นเขาได้สั่งยาและอาหารบํารุงให้กับเขา อาหารบํารุงเหล่านี้ไม่ใช่อาหารธรรมดาที่หอคอยจักรพรรดิขายแต่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อผู้บ่มเพาะที่ได้รับบาดเจ็บภายใน ผลของมันจะช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนอาการบาดเจ็บกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

 

น้ําหอมมรกตทองคํา!

 

อาการบาดเจ็บของหยินเทียนนั้นรุนแรงเกินไปและในขณะที่น้ําหอมมรกตทองคํา ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้มากมายนักต่างกับยาฟื้นฟูอื่นๆที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าอย่างมากในการรักษาอาการบาดเจ็บของเขายาเสริมสร้างกระดูก ยาเม็ดบรรพกาลหวนคืนเป็นยาที่ดีอย่างมากและเหมาะสมกับเขาอย่างยิ่งในเวลาเช่นนี้แต่ยาเหล่านี้ต้องได้รับการใช้ที่ถูกต้องและเหมาะสมยิ่งไป กว่านั้นตัวยายังมีฤทธิ์ที่รุนแรงหากเกิดกินร่วมกับยาชนิดอื่นๆอาจส่งผลที่อันตรายออกมา

 

“ ชิงสุ่ยเจ้ากับหลิงเหยียนมีธุระอะไร? มีอะไรสําคัญที่ทําให้พวกเจ้าต้องมาที่นี่เหรอ?

 

“ปาวเลย ข้าเพียงแค่ต้องการมาเยี่ยมพวกท่านเท่านั้น จริงสิแล้วท่านป้ามีเรื่องอันใดหรือไม่?”

 

“ ข้าว่าข้า กลับไปที่นิกายจันทรานิรันกาลสักครั้ง นี่ก็เป็นเวลากว่าสิบปีแล้วที่ข้าออกม าและตอนนี้ร่างกายของหยินเทียนก็ดีขึ้นมากแล้วข้าคิดจะกลับไปเยี่ยมนิกายของข้าสักครั้ง”เฟิงซี่หัวเราะ

 

ชิงส่ย “ ท่านป้าถ้าเช่นนั้น เราก็ออกเดินทางไปพร้อมกันที่รีไม่!”

 

ในตอนนี้ชิงสุยรู้สึกเป็นห่วงเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้เธอเดินทางไปเพียงลําพัง

 

“เจ้ามีเรื่องอะไรที่ปิดบังข้ารึไม่ มีอะไรเจ้าก็สามารถบอกข้าได้ บางทีป้าคนนี้อาจช่วยหาทางออกให้เจ้าได้”เฟิงซี่สามารถสัมผัสได้ถึงความวุ่นวายใจของเขา

 

“ไม่มีอะไรหรอก จะเป็นยังหาเราจะออกเดินทางในสองสามวันข้างหน้า”

 

“ไม่มีปัญหา ยังไงซะข้ายังต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวอีกสักพัก” เฟิงซี่กล่าวทันที

 

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ชิงสุยรู้สึกผ่อนคลายและยิ้มออกมา “ ข้าเพิ่งได้รับการรักษาให้กับท่านลุงไปดังนั้นเขาไม่จําเป็นต้องได้รับการรักษาในช่วงครึ่งเดือนให้หลัง นอกจากนี้ท่านลุงยังสามารถเริ่มทําการบ่มเพาะได้แล้วเพียงแต่ว่ามันไม่ควรเกินกําลังตัวเอง นี่เป็นเพลงหมัดที่ท่านลุงสามารถใช้ในการฝึกฝนได้ในทุกๆวันท่วงท่าของมันจะช่วยให้การฟื้นฟูร่างกายของท่านเร็วยิ่งขึ้น”

 

สิ่งนี้คือเพลงหมัดไทเก๊กของชิงสุ่ย มันเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมอย่างมากในการโคจรพลังแม้กระทั้งหลิงเหยียนที่ได้รับมรดกเทพอสูรก็ยังสามารถใช้มันในการควบคุมพลัง

 

หลิงเหยียนเป็นคนมีความสามารถอย่างมาก มันจึงทําให้เธอเชี่ยวชาญเพลงหมัดชุดนี้ได้อย่างรวดเร็วอาจเป็นเพราะเธอไม่ได้ยึดกับเรื่องราวบนโลกใบนี้มากนัก มันจึงทําให้เธอก็สามารถเข้าถึงสภาวะแห่งความว่างเปล่าได้อย่างรวดเร็วเมื่อรวมกับพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเธอแล้วมันทําเธอกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเพลงหมัดชุดนี้ไม่ด้อยไปกว่าชิงสุ่ย

 

เมื่องมองไปที่เพลงหมัดชุดนี้ หยินเทียนได้กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ: มันเป็นเพลงหัดที่ไม่เลวเลยจริงๆมันแฝงไปด้วยความนุ่มนวลแต่ทรงพลังยอดเยี่ยมๆอย่างมากตกลงข้าจะฝึกมัน”

 

“ ข้าสามารถร่วมฝึกฝนมันด้วยได้หรือไม่?” เฟิงซี่ยิ้มออกมาขณะทองไปที่ชิงสุ่ย

 

“ แน่นอนว่าได้ เพียงแค่ข้าเกรงว่ามันจะธรรมดาเกินไปสําหรับท่าน” ชิงสุ่ยกล่าวออกมาอย่างถอมตัว

 

ในเมื่อท่านลุงของเจ้าบอกว่ามันเป็นเพลงหมัดที่ยอดเยี่ยม มันก็ต้องยอดเยี่ยมจริงๆ และมีรีที่ข้าจะกล่าวมองข้ามันไป” เธอกล่าวออกมา

 

ออกมาจากห้องของเฟิงซี่ ชิงสุ่ยและหลิงเหยียน ได้ตรงไปหาหลิงเฟิง และคนอื่นๆที่รวมตัวอยู่ในตอนนี้จะมีเพียงแต่ฉินชิงที่ได้เดินทางกลับไปยังบ้านของเธอแล้ว เมื่อสองวันก่อน

 

“ พี่ถานท้าย ท่านงดงามจริงๆ ท่านงดงามเหมือนพี่สาวของข้าเลย”เสวี่ย นั่วยิ้มออกมา

 

ในตอนนี้ใบหน้าของชิงสุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับเขารับรู้ว่าตอนนี้เสวี่ย นั่วกําลังลงมือจู่โจมเขาอยู่

 

“ ใครคือพี่สาวของเจ้ารึ?” หลิงเหยียนกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

 

เสวียนนิ้วเป็นคนแรกๆที่ได้สนิทสนมกับเฟิงซี่ แต่เมื่อตระหนักว่าหลิงเหยียนได้กลายเป็นลูกบุญธรรมของเฟิงซี่ มันจึงทําให้เธอรู้สึกขุนเคืองเล็กน้อย มันเป็นความอิจฉาที่ผู้หญิงนั้นมีกันแต่เนื่องจากหลิงเหยียนเป็นภรรยาของชิงสุ่ย เธอจึงต้องเคารพและให้เกียรติเธอ

 

“ นางคือพี่เจี้ยนเก้อ ข้าชั่งอิจฉาพี่ใหญ่จริงๆที่มีสาวงามข้างกายเช่นนี้” เธอกล่าวออกมาพร้อมแสดงท่าทางไร้เดียงรา

 

ในขณะที่ชิงสุยได้มองไปที่คนอื่นๆ ไม่ว่าจะหยินด่ง ซีฉีชา หรือแม้แต่หลิงเฟิง เพื่อขอความช่วยเหลือแต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ พวกเขาได้แต่จ้องมองไปที่ชิงสุยและยิ้มออกมาอย่าสนุกสนาน

 

“เจี้ยนเก้อคือพี่สาวของเจ้าอย่างนั้นหรอ?” หลิงเหยียนกล่าวออกมาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

 

* ท่านรู้จักนางอย่างนั้นรึ?”

 

“ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน” หลิงเหยียนยิ้มออกมา เพราะเธอสามารถรับรู้ได้ถึงแผนการของเสวี่ยนิ้ว

 

“สาวน้อยหยุดเล่นได้แล้ว เป็นเพราะท่านป้ารับนางเป็นลูกบุญธรรมใช่มั้ยเจ้าจึงได้งอแง่เช่นนี้ไม่ต้องเสียใจไปยังไงซะเจ้าก็ยังเป็นน้องสาวคนสําคัญของข้าอยู่เสมอ ” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว

 

“ ใครบอกอย่างนั้น? ท่านเห็นข้าเป็นคนขี้อิจฉาอย่างนั้นรึ?” ท่าทางของเธแปลกไปเล็กน้อยขระที่เธอมองไปที่ชิงสุ่ย

 

ในความเป็นจริงชิงสุยดูแลเธอดังคนในครอบครับของเขาและเขาไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเธอแต่สิ่งที่อยู่ในใจเธอนั้นกลับกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะแอบชอบเขาแต่มันคงไม่มีที่ให้เธอเข้าไปเพราะเขานั้นเป็นสามีของพี่สาวของเธอ

 

เสวี่ยทั่วนั้นงดงามอย่างมาก ความงามของเธอนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าซีฉีชาเลยแม้แต่น้อย ในบรรดาหญิงสาวที่ชิงสุ่ยรู้จักมาเธอก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งของกลุ่มสาวงาม

 

อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็เป็นสามีของเจี้ยนเก้อ เขาจึงไม่ได้เผื่อใจไว้ในเธอ แม้ว่าเธอจะงดงามขนาดไหนชิงสุ่ยก็ไม่สามารถทรยศต่อเจี้ยนเก้อได้

 

ในวันถัดไปมาชิงสุย ไม่ยอมให้หลิงเหยียนมามากับเขาในขณะที่ได้มุ่งหน้าไปที่แดนทะเลน้ําแข็งเพียงลําพัง ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังพระราชวังสุริยา

 

ชิงสุ่ยต้องการพบกับนายหญิงของพระราชวังสุริยาและเขาต้องการทราบความตั้งใจของพระราชวังสุริยา ไม่อย่างนั้นคราวนี้มันคงยากสําหรับเขาที่จะจากไปโดยไม่รู้สึกมั่นใจ

 

แม้ว่าชิงสุ่ยจะมีทักษะที่ใช้เคลื่อนไหวใต้น้ําอยู่ แต่เขาก็ยังคงต้องใช้เวลาอีกมากเพื่อเดินทางไปยังพระราชวังสุริยา ในขณะที่เขาดําดิ่งลงไป ชิงสุ่ยพบว่าแรงดันน้ําในที่แห่งนี้รุนแรงกว่าที่พระราชวังเทพสมุทรอยู่หลายเท่า ยิ่งไปกว่านั้นปราณที่ไหลวนอยู่ในกระแสน้ําก็ยังรุ่นแรงมากกว่า

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยค่อยๆดําดิ่งลงไป จนพบกับกลุ่มสัตว์น้ําที่ดูคล้ายเต่า “ เจ้าเป็นใคร ทําไมเจ้าถึงต้องมายังพระราชวังสุริยาของเรา?” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกับตัวกับปะซึ่งมันนั้นดูคล้ายกับเต่าที่มีรูปร่างเหมือนคน

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+