Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1665 – เก็บเกี่ยวผลผลึกวชิระ สัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ตัวแรกของชิงสุ่ย

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1665 - เก็บเกี่ยวผลผลึกวชิระ สัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ตัวแรกของชิงสุ่ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1665 – เก็บเกี่ยวผลผลึกวชิระ สัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ตัวแรกของชิงสุ่ย   ชิงสุ่ยพักที่เมืองหลินห่ายเป็นการชั่วคราว เขารู้สึกดีใจเมื่อหญิงสาวทั้งสองคนกลับมาที่นี่ในวันที่ 3 ที่เขาได้กลับมา เมื่อเขาอยู่ที่นี่เขาก็อยากให้หญิงสาวทั้งสองคนอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน   ตอนที่หญิงสาวทั้งสองคนนี้จะจากไปเหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งงั้นยังไม่แยกตัวออกไปฝน แต่เมื่อพวกนางกลับมาหลิงเฟิงและหยิน ต่งนั้นนก็ไม่อยากพลาดโอกาสนี้ นอกจากนี้ชิงสุ่ยก็กำลังจะกลับไปในเร็วๆนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงกลับมาที่นี่โดยเร็วที่สุด   หลังจากที่ต้องแยกกันไปมากกว่า 1 เดือนชิงสุ่ยก็เข้ามาโอบกอดหญิงสาวทั้งสองคนนี้ เสวี่ย นั่วนั้นก็เดินเข้ามากอดเขาด้วยเช่นกัน   ชิงสุ่ยและถานท้าย หลิงเขียนนั้นเป็นสามีภรรยากัน อย่างไรก็ตามทุกๆคนรู้ว่าทั้งสองนั้นมีความสัมพันธ์ที่พิเศษมากและเชื่อว่าพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน   หญิงสาวทั้งสองคนทักทายคนอื่นด้วยความยินดี ทุกๆคนเริ่มเป็นครอบครัวเดียวกันโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อได้อยู่ร่วมกันและต่อสู้ร่วมกันแล้วความสนิทสนมก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เมื่อนางกลับมาที่นี่นางก็รู้สึกสงบสุขอย่างยิ่งนางรู้ดีว่านี่เป็นเพราะชิงสุ่ย เป็นเพราะเขาที่ทำให้ที่แห่งนี้สงบสุข เป็นเพราะเขาที่ทำให้ทุกๆคนในที่แห่งนี้นั้นสนิทสนมรักใคร่กลมเกลียวกัน   “พระราชวังจอมอสูรเป็นอย่างไรบ้าง?” ชิงสุ่ยถามขึ้น   “ก็ปกติดี แล้วเจ้าล่ะ? พระราชวังทะเลราชันย์เป็นเช่นไรบ้าง?” ถานท่าย หลิงเยียนรู้ดีว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างชิงสุ่ยและพระราชวังแห่งนั้น   “พระราชวังทะเลราชันย์และพระราชวังสุริยาได้รวมตัวเป็นพันธมิตรกัน พระราชวังทรายทองและพระราชวังมังกรได้ล่มสลายลงไปแล้ว” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม   ถานท้าย หลังเยียนตกตะลึงไปในทันที หลังจากนั้นนางก็หันกลับไปยิ้ม “ได้ยินเช่นนี้ก็ดี”   “ตอนนี้พวกนางได้เข้าสู่ระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้วด้วยเช่นกัน ข้าไม่ต้องเป็นห่วงพวกนางต่อไป” ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง   ในตอนนี้ฉันชิงก็พูดขึ้นมาว่า “เช่นนั้นก็ดี นั่นหมายความว่าในอนาคตเจ้าต้องเป็นห่วงพี่สาวเยียนให้มากกว่านี้!”   ถานท้าย หลิงเยียนรู้สึกเขินอายขึ้นมา นางยังคงเงียบอยู่ในตอนนี้เพราะรู้ว่าพูดอะไรออกไปในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เงียบไว้จะดีกว่า   ชิงสุ่ยรู้สึกไม่มีอะไรต้องกังวลในตอนนี้ “ข้าเป็นห่วงภรรยาทุกๆคนของข้า”   ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่งเมื่อได้อยู่กับหญิงสาวทั้งสองคนที่หอคอยจักรพรรดิ์ เพราะพวกเขาไม่ได้มีหน้าที่ทำอะไรและหญิงสาวทั้งสองคนนั้นก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝน กลับกันชิงสุ่ยนั้นดูผ่อนคลายอย่างยิ่งบางครั้งเขาจะออกมาช่วยแนะนำหญิงสาวทั้งสองคนในการฝึกฝนรวมถึงเสวี่ย นั่วด้วยเช่นกัน บางครั้งเขาก็จะไปที่หอคอยจักรพรรดิเพื่อรักษาคนไข้และเล่นกับพวกเด็กๆ   แม้ว่าเรื่องทุกอย่างจะสงบลงแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยหยุดทำงาน อีเย่ เจี้ยนเก้อฉันอยู่ที่แดนทะเลน้ำแข็งกับหญิงสาวคนอื่นๆ ในที่สุดพวกนางก็เตรียมตัวที่จะเข้าไปยังทะเลเหนือ ตี้ เฉิน องค์หญิงใหญ่ ถานท้ายหยวน และอเหอต่างก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนของตนเอง   เดิมทีนั้นชิงสุ่ยคิดว่าเหล่าหญิงสาวนั้นไม่ได้เร่งรีบเหมือนที่พวกนางเคยเป็นก่อนหน้านี้ แต่เมื่อคิดให้ดีแล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่ามันไม่ใช่เลย ตัวอย่างเช่น ถานท่าย หลิงเยี่ยน นางไม่เคยยอมแพ้ต่อนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ   ก่อนหน้านี้นิกาย 5 พยัคฆ์อมตะนั้นอาจจะไม่ควรค่าต่อการจดจำ แต่พวกเขาก็ทำให้ถานท่าย หลิงเยียนต้องบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นนางจึงไม่ยอมแพ้ต่อการแก้แค้นของตนเอง   ปลาใหญ่กินปลาเล็ก นี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยได้ยินเสมอในโลกก่อนหน้านี้ของเขา แต่เขาเพิ่งจะเข้าใจมันก็วันนี้ ดังนั้นเอาจริงไม่ได้ขัดขวางที่เหล่าหญิงสาวต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง และเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือพวกนางด้วยเช่นกัน   เพื่อที่จะไม่ถูกรังแกก็ต้องมีพลังที่มากพอ ด้วยความงามของพวกนางมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกนางจะใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาได้   ยิ่งล้ำค่ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอันตรายมากขึ้นเท่านั้น เมื่อมองไปที่หญิงสาว 2 คนซึ่งสู่ยก็รู้สึกผิดขึ้นมา สิ่งที่มีค่าที่สุดกับหญิงสาวทั้งสองคนนี้คือความงามของนาง มีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่หมายตาพวกเราไว้ หากเขาไม่ได้แข็งแกร่งเขาคงตายไปแล้วในวันนี้   หลังจากผ่านไป 6 วันก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง ผลผลึกวชิระในดินแดนหยกยุพราชอมตะถึงเวลาเก็บเกี่ยวได้แล้ว ก่อนหน้านี้ต้นผลึกวชิระนั้นฉันชิงพบมันโดยบังเอิญ แต่ในตอนนี้เขาสามารถเก็บเกี่ยวมันได้เป็น 10 ผล   มันผ่านมานานมากแล้วที่เขาได้พบกับรูปภาพของฉันชิงโดยบังเอิญ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าตนเองนั้นคุ้นเคยกับนางมาเป็นเวลานาน   ผลผลึกวชิระนั้นสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว มันใช้ได้กับสัตว์อสูรทุกๆตัว เจ้ามังกรเขียวของฉันชิงและสัตว์อสูรของชิงสุ่ย 3 ตัวได้กินมันลงไปแล้วก่อนหน้านี้   ในตอนนี้เขามีผลผลึกวชิระมากกว่า 10 ผล แต่ชิงสุ่ยก็ยังคงคิดว่าไม่พอ คราวก่อนเย่ เจี้ยนเก้อก็ได้รับผลผลึกวชิระไปแล้ว ซึ่งสู่ยจะให้วิหคเพลิงนรกานต์และอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรกินผลผลึกวชิระในครั้งนี้ คราวก่อนอสูรสยบมังกร มังกรไอยราเกล็ดทองคำและอสูรนรกรัตติกาลต่างก็ได้กินมันไปแล้ว   อีก 8 ผลที่เหลือชิงสุ่ยจะมอบมันให้แก่ ถานท่าย หลิงเขียนและเต่ามังกรคนละผล ที่เหลือ 6 ผลนั้นมอบให้เหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งคนละผล เสวี่ย นั่วนั้นยังคงอ่อนแออยู่และอาจไม่เหมาะสำหรับผลผลึกวชิระอีก 4 ผลที่เหลือชิงสุ่ยจะมอบให้อีหวง ‘หรู ชางห่าย หมิงเยวีย อี้เฉินและอวเหอ   ผู้คนที่อยู่รอบกายเขามีมากมายในตอนนี้ เขาจะต้องดูแลพวกนางให้ดี ในท้ายที่สุดพวกนางทุกๆคนก็จะได้รับผลผล็กวชิระไป   เมื่อชิงสุ่ยวางแผนเสร็จสิ้นเขาก็ป้อนผลผลึกวชิระให้แก่วิหคเพลิงนรกานต์และอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรทันที คราวก่อนชิงสุ่ยก็คิดจะมอบมันให้แก่อสรแมงมุมมังกรแปดเศียรแต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามีสัตว์อสูรตัวอื่นที่เหมาะสมมากกว่า น่าเสียดายที่มันมีจพนวนไม่พอ   เปลวเพลิงสีดำเผาไหม้ไปรอบตัวของวิหคเพลิงนรกานต์ทันที มันเป็นเปลวเพลิงสีดำแต่ก็เปล่งประกายและดูแหลมคมราวกับมีดดาบ กลิ่นอายอันทรงพลังระเบิดออกมาจากร่างกายของวิหคเพลิง เมื่อได้เห็นเช่นนี้ชิงสุ่ยก็ยิ้มออกมา ต่อจากนี้สายฟ้าสีดำขนาดใหญ่ก็ฟาดลงมาจากท้องฟ้า   “เป็นไงบ้างนะ” ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง นั่นเป็นทัณฑ์สวรรค์พินาศของวิหคเพลิงนรกานต์ที่มันต้องผ่านไปใช่หรือไม่? เขายังไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่าต้องเป็นเช่นนั้น เวลาผ่านไปเรื่อยๆ วิหคเพลิงนรกานต์ยังคงปลดปล่อยพลังของมันออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ มันร้องเสียงแหลมออกมาและสืบนร่างกายของมันนั้นก็ดูเข้มมากขึ้น   ชิงสุ่ยมองไปยังวิหคเพลิงนรกานต์เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างสงบลงในตอนนี้ วิหคเพลิงนรกานต์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนัก มันยังคงมีขนาดเท่าเดิมเพียงแต่เปล่งประกายสีดำออกมา กลิ่นอายของมันราวกับสัตว์อสูรบรรพกาล   วิหคเพลิงนรกานต์ พลังทางสายเลือด: ทรงพลังถึงขีดสุด   ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้วิหคเพลิงนรกานต์ก็มีสายเลือดที่ทรงพลังอยู่แล้ว ตอนนี้มันอยู่ในระดับทรงพลังถึงขีดสุด   พลังในตอนนี้ของวิหคเพลิงนรกานต์เพิ่มขึ้นไปมากกว่า 20,000 สุริยา การยกระดับขึ้นในครั้งนี้ทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า แต่นี่ก็ยังอยู่ในการคาดการณ์ของชิงสุ่ย   ชิงสุ่ยที่ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของมันทันที   หงส์เพลิงทมิฬ 9 สวรรค์ เพิ่มพลังของผู้ใช้ขึ้น 100 เท่า พลังงานที่ใช้ในเคล็ดวิชาต่างๆลดลงไปครึ่งหนึ่ง   ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ชิงสุ่ยไม่รู้ว่านี่ถือว่าปกติหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชานี้จะไม่ยกระดับขึ้นง่ายๆ    จิตวิญญาณแห่งวิหคเพลิง: ความสามารถในการบินของวิหคเพลิงนรกานต์ ความเร็วของมันจะเพิ่มขึ้น 100 เท่าในขณะที่บินอยู่และพลังงานที่ใช้ในการบินจะลดลงไป 100 เท่า   นี่ถือได้ว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ชิงสุ่ยคิดว่าหากเขาเดินทางไปทั่วมหาทวีปทั้ง 9 ด้วยวิหคเพลิงนรกานต์คงจะใช้เวลาไม่นานนัก   เคล็ดวิชาเปลวเพลิงแห่งนรก: เปลวเพลิงอันทรงพลังสองวิหคเพลิง เปลวเพลิงสีดำที่สามารถเผาผลาญทุกๆสิ่งได้ มันมีพลังทำลายอันน่าสะพรึงกลัว เป็นเคล็ดวิชาที่ทรงพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ การโจมตีครั้งนี้จะเพิ่มพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ 50 เท่า   เคล็ดวิชาหงส์เพลิงร่ายระบ่า : เคล็ดวิชาติดตัวเพิ่มพลังของผู้ใช้ขึ้นอีก 100 เท่าและลดความเสียหายที่ได้รับลงไปหลายเท่า พลังป้องกันทั้งหมดเพิ่มขึ้นอีก 9 เท่า   เพลิงนรกภูมิ: โจมตีด้วยลูกไฟเพลิงความเสียหายของผู้ใช้เพิ่มขึ้น 100 เท่า ลูกไฟเพลิงนี้มีความสามารถในการระเบิด เมื่อระเบิดจะสร้างความเสียหายขึ้นอีกหลายเท่า ล็อคเป้าหมายไปที่พลังวิญญาณของศัตรู   แดนวิหคอัคคีสวรรค์: เมื่อได้รับบาดเจ็บมีโอกาส 30% ที่วิหคเพลิงจะถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง เมื่อถือกำเนิดไหมสำเร็จพลังของมันจะเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า   ดวงใจแห่งวิหคเพลิง: ดวงใจแห่งวิหคเพลิงที่จะทำให้พลังทั้งหมดของวิหคเพลิงนั้นเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าความเสียหายที่ได้รับลดลงไป 1 เท่า การใช้พลังงานในเคล็ดวิชาต่างๆจะลดลงไปอีก 2 เท่า เป็นเคล็ดวิชาติดตัวไม่ใช้พลังงานใดๆ   เดชวิหคเพลิง: พลังอานาจเหนือวิหคชนิดอื่นที่ไม่ใช่วิหคเพลิง สามารถลดพลังของเป้าหมายลงไปได้ 10%   ในตอนนี้วิหคเพลิงมีพลังมากกว่า 800 เต่ำ มันเป็นสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าวิหคเพลิงนรกานต์นั้นถือว่าทรงพลังหรือไม่แต่เขาก็รู้สึกพึงพอใจกับมัน   เขารู้ว่านี้เกิดจากผลผลึกวชิระ น่าเสียดายที่มังกรไอยราเกล็ดทองคำและสัตว์อสูรตัวอื่นๆนั้นไม่อาจกินมันได้อีก ยิ่งสัตว์อสูรพรรสวรรค์มากเท่าไร่ผลผลึกวชิระก็จะส่งผลได้มากขึ้นเท่านั้น   สุกท้ายแล้วชิงสุ่ยก็มีสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เป็นของตนเอง เขาบอกได้เลยว่าวิหคเพลิงนรกานต์ในตอนนี้นั้นทรงพลังอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่น่ากลัวไปกว่านั้นความสามารถในการับการโจมตี หากเขาไม่มีทักษะวชิระจู่โจม ชิงสุ่ยเองก็คงไม่อาจทำให้มันบาดเจ็บได้   เผ่าวิหคเพลิงนั้นเหมือนกับลูกรักของพระเจ้า มันได้รับการอวยพรจากพระเจ้าอยู่เสมอ ดังนั้นในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถเรียกวิหคเพลิงนรกานต์ออกมาในการต่อสู้ได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ   ชิงสุ่ยยังไม่ได้ตรวจสอบเคล็ดวิชาสวรรค์ของมัน ชิงสุ่ยรีบครวจสอบทันที   เพชณฆาต 9 วิญญาณ!   มันยังคงเป็นเพชณฆาต 9 วิญญาณ!   เพชณฆาต 9 วิญญาณ: เพิ่มความเสียหายของผผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป ภายใต้ผลของเพชณฆาด 9 วิญญาณพลังงานที่ผู้ใช้ต้องใช้นั้นจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า สามารถใช้ได้วันละครั้ง   ชิงสุ่ยตกตะลึงไป นี่คือสิ่งที่ทำให้วิหคเพลิงนรกานต์นั้นน่าลกัวอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับเพชณฆาด 9 วิญญาณแล้วทักษะวชิระจู่โจมของชิงสุ่ยนั้นทรงพลังมากกว่า น่าเสียดายที่มันใช้ได้เพียงวันละครั้งเพชณฆาต 9 วิญญาณนั้นใช้ได้เพียงหนึ่งก้านธูป แต่เวลาหนึ่งก้านธูปนั้นก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้แล้ว   พลัง 8000 เดำเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป…….ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง…   ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง วิหคเพลิงนรกานต์ร้องเสียงแหลมออกมาขณะบินไปรอบๆชิงสุ่ย พลังของมันในตอนนี้เหนือกว่ามังกรไอยราเกล็ดทองคำและอสูรอัสนีคลั่งเสียอีก   นอกจากนี้เพลิงอสูร 9 วิญญาณนั้นยังทำให้มันเหนือกว่าผู้ใด   เพลิงอสูร 9 วิญญาณนั้นสามารถเผลาผลาญทุกๆสิ่งให้หายไปจนหมดสิ้นได้   ชิงสุ่ยไม่เคยลองว่าเขาสามารถเผาอสูรสยบมังกรได้หรือไม่ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าอสูรสยบมังกรนั้นจะหวาดกลัววิหคเพลิงนรกานต์ ในตอนนี้วิหคเพลิงนรกานต์นั้นทรงพลังอย่างยิ่งจนชิงสุ่ยก็รู้สึกอิจฉา   วิหคเพลิงนรกานต์นั้นกำเนิดขึ้นมาภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ สมบัติเพียงอย่างเดียวของมันนั้นคือต้นอู่ทงขนาดใหญ่   ในตอนนี้ร่างกายของอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน  

บทที่ 1665 – เก็บเกี่ยวผลผลึกวชิระ สัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ตัวแรกของชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยพักที่เมืองหลินห่ายเป็นการชั่วคราว เขารู้สึกดีใจเมื่อหญิงสาวทั้งสองคนกลับมาที่นี่ในวันที่ 3 ที่เขาได้กลับมา เมื่อเขาอยู่ที่นี่เขาก็อยากให้หญิงสาวทั้งสองคนอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน

 

ตอนที่หญิงสาวทั้งสองคนนี้จะจากไปเหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งงั้นยังไม่แยกตัวออกไปฝน แต่เมื่อพวกนางกลับมาหลิงเฟิงและหยิน ต่งนั้นนก็ไม่อยากพลาดโอกาสนี้ นอกจากนี้ชิงสุ่ยก็กำลังจะกลับไปในเร็วๆนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงกลับมาที่นี่โดยเร็วที่สุด

 

หลังจากที่ต้องแยกกันไปมากกว่า 1 เดือนชิงสุ่ยก็เข้ามาโอบกอดหญิงสาวทั้งสองคนนี้ เสวี่ย นั่วนั้นก็เดินเข้ามากอดเขาด้วยเช่นกัน

 

ชิงสุ่ยและถานท้าย หลิงเขียนนั้นเป็นสามีภรรยากัน อย่างไรก็ตามทุกๆคนรู้ว่าทั้งสองนั้นมีความสัมพันธ์ที่พิเศษมากและเชื่อว่าพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน

 

หญิงสาวทั้งสองคนทักทายคนอื่นด้วยความยินดี ทุกๆคนเริ่มเป็นครอบครัวเดียวกันโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อได้อยู่ร่วมกันและต่อสู้ร่วมกันแล้วความสนิทสนมก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เมื่อนางกลับมาที่นี่นางก็รู้สึกสงบสุขอย่างยิ่งนางรู้ดีว่านี่เป็นเพราะชิงสุ่ย เป็นเพราะเขาที่ทำให้ที่แห่งนี้สงบสุข เป็นเพราะเขาที่ทำให้ทุกๆคนในที่แห่งนี้นั้นสนิทสนมรักใคร่กลมเกลียวกัน

 

“พระราชวังจอมอสูรเป็นอย่างไรบ้าง?” ชิงสุ่ยถามขึ้น

 

“ก็ปกติดี แล้วเจ้าล่ะ? พระราชวังทะเลราชันย์เป็นเช่นไรบ้าง?” ถานท่าย หลิงเยียนรู้ดีว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างชิงสุ่ยและพระราชวังแห่งนั้น

 

“พระราชวังทะเลราชันย์และพระราชวังสุริยาได้รวมตัวเป็นพันธมิตรกัน พระราชวังทรายทองและพระราชวังมังกรได้ล่มสลายลงไปแล้ว” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ถานท้าย หลังเยียนตกตะลึงไปในทันที หลังจากนั้นนางก็หันกลับไปยิ้ม “ได้ยินเช่นนี้ก็ดี”

 

“ตอนนี้พวกนางได้เข้าสู่ระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้วด้วยเช่นกัน ข้าไม่ต้องเป็นห่วงพวกนางต่อไป” ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง

 

ในตอนนี้ฉันชิงก็พูดขึ้นมาว่า “เช่นนั้นก็ดี นั่นหมายความว่าในอนาคตเจ้าต้องเป็นห่วงพี่สาวเยียนให้มากกว่านี้!”

 

ถานท้าย หลิงเยียนรู้สึกเขินอายขึ้นมา นางยังคงเงียบอยู่ในตอนนี้เพราะรู้ว่าพูดอะไรออกไปในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เงียบไว้จะดีกว่า

 

ชิงสุ่ยรู้สึกไม่มีอะไรต้องกังวลในตอนนี้ “ข้าเป็นห่วงภรรยาทุกๆคนของข้า”

 

ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่งเมื่อได้อยู่กับหญิงสาวทั้งสองคนที่หอคอยจักรพรรดิ์ เพราะพวกเขาไม่ได้มีหน้าที่ทำอะไรและหญิงสาวทั้งสองคนนั้นก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝน กลับกันชิงสุ่ยนั้นดูผ่อนคลายอย่างยิ่งบางครั้งเขาจะออกมาช่วยแนะนำหญิงสาวทั้งสองคนในการฝึกฝนรวมถึงเสวี่ย นั่วด้วยเช่นกัน บางครั้งเขาก็จะไปที่หอคอยจักรพรรดิเพื่อรักษาคนไข้และเล่นกับพวกเด็กๆ

 

แม้ว่าเรื่องทุกอย่างจะสงบลงแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยหยุดทำงาน อีเย่ เจี้ยนเก้อฉันอยู่ที่แดนทะเลน้ำแข็งกับหญิงสาวคนอื่นๆ ในที่สุดพวกนางก็เตรียมตัวที่จะเข้าไปยังทะเลเหนือ ตี้ เฉิน องค์หญิงใหญ่ ถานท้ายหยวน และอเหอต่างก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนของตนเอง

 

เดิมทีนั้นชิงสุ่ยคิดว่าเหล่าหญิงสาวนั้นไม่ได้เร่งรีบเหมือนที่พวกนางเคยเป็นก่อนหน้านี้ แต่เมื่อคิดให้ดีแล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่ามันไม่ใช่เลย ตัวอย่างเช่น ถานท่าย หลิงเยี่ยน นางไม่เคยยอมแพ้ต่อนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ

 

ก่อนหน้านี้นิกาย 5 พยัคฆ์อมตะนั้นอาจจะไม่ควรค่าต่อการจดจำ แต่พวกเขาก็ทำให้ถานท่าย หลิงเยียนต้องบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นนางจึงไม่ยอมแพ้ต่อการแก้แค้นของตนเอง

 

ปลาใหญ่กินปลาเล็ก นี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยได้ยินเสมอในโลกก่อนหน้านี้ของเขา แต่เขาเพิ่งจะเข้าใจมันก็วันนี้ ดังนั้นเอาจริงไม่ได้ขัดขวางที่เหล่าหญิงสาวต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง และเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือพวกนางด้วยเช่นกัน

 

เพื่อที่จะไม่ถูกรังแกก็ต้องมีพลังที่มากพอ ด้วยความงามของพวกนางมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกนางจะใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาได้

 

ยิ่งล้ำค่ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอันตรายมากขึ้นเท่านั้น เมื่อมองไปที่หญิงสาว 2 คนซึ่งสู่ยก็รู้สึกผิดขึ้นมา สิ่งที่มีค่าที่สุดกับหญิงสาวทั้งสองคนนี้คือความงามของนาง มีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่หมายตาพวกเราไว้ หากเขาไม่ได้แข็งแกร่งเขาคงตายไปแล้วในวันนี้

 

หลังจากผ่านไป 6 วันก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง ผลผลึกวชิระในดินแดนหยกยุพราชอมตะถึงเวลาเก็บเกี่ยวได้แล้ว ก่อนหน้านี้ต้นผลึกวชิระนั้นฉันชิงพบมันโดยบังเอิญ แต่ในตอนนี้เขาสามารถเก็บเกี่ยวมันได้เป็น 10 ผล

 

มันผ่านมานานมากแล้วที่เขาได้พบกับรูปภาพของฉันชิงโดยบังเอิญ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าตนเองนั้นคุ้นเคยกับนางมาเป็นเวลานาน

 

ผลผลึกวชิระนั้นสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว มันใช้ได้กับสัตว์อสูรทุกๆตัว เจ้ามังกรเขียวของฉันชิงและสัตว์อสูรของชิงสุ่ย 3 ตัวได้กินมันลงไปแล้วก่อนหน้านี้

 

ในตอนนี้เขามีผลผลึกวชิระมากกว่า 10 ผล แต่ชิงสุ่ยก็ยังคงคิดว่าไม่พอ คราวก่อนเย่ เจี้ยนเก้อก็ได้รับผลผลึกวชิระไปแล้ว ซึ่งสู่ยจะให้วิหคเพลิงนรกานต์และอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรกินผลผลึกวชิระในครั้งนี้ คราวก่อนอสูรสยบมังกร มังกรไอยราเกล็ดทองคำและอสูรนรกรัตติกาลต่างก็ได้กินมันไปแล้ว

 

อีก 8 ผลที่เหลือชิงสุ่ยจะมอบมันให้แก่ ถานท่าย หลิงเขียนและเต่ามังกรคนละผล ที่เหลือ 6 ผลนั้นมอบให้เหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งคนละผล เสวี่ย นั่วนั้นยังคงอ่อนแออยู่และอาจไม่เหมาะสำหรับผลผลึกวชิระอีก 4 ผลที่เหลือชิงสุ่ยจะมอบให้อีหวง ‘หรู ชางห่าย หมิงเยวีย อี้เฉินและอวเหอ

 

ผู้คนที่อยู่รอบกายเขามีมากมายในตอนนี้ เขาจะต้องดูแลพวกนางให้ดี ในท้ายที่สุดพวกนางทุกๆคนก็จะได้รับผลผล็กวชิระไป

 

เมื่อชิงสุ่ยวางแผนเสร็จสิ้นเขาก็ป้อนผลผลึกวชิระให้แก่วิหคเพลิงนรกานต์และอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรทันที คราวก่อนชิงสุ่ยก็คิดจะมอบมันให้แก่อสรแมงมุมมังกรแปดเศียรแต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามีสัตว์อสูรตัวอื่นที่เหมาะสมมากกว่า น่าเสียดายที่มันมีจพนวนไม่พอ

 

เปลวเพลิงสีดำเผาไหม้ไปรอบตัวของวิหคเพลิงนรกานต์ทันที มันเป็นเปลวเพลิงสีดำแต่ก็เปล่งประกายและดูแหลมคมราวกับมีดดาบ กลิ่นอายอันทรงพลังระเบิดออกมาจากร่างกายของวิหคเพลิง เมื่อได้เห็นเช่นนี้ชิงสุ่ยก็ยิ้มออกมา ต่อจากนี้สายฟ้าสีดำขนาดใหญ่ก็ฟาดลงมาจากท้องฟ้า

 

“เป็นไงบ้างนะ” ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง นั่นเป็นทัณฑ์สวรรค์พินาศของวิหคเพลิงนรกานต์ที่มันต้องผ่านไปใช่หรือไม่? เขายังไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่าต้องเป็นเช่นนั้น

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ วิหคเพลิงนรกานต์ยังคงปลดปล่อยพลังของมันออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ มันร้องเสียงแหลมออกมาและสืบนร่างกายของมันนั้นก็ดูเข้มมากขึ้น

 

ชิงสุ่ยมองไปยังวิหคเพลิงนรกานต์เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างสงบลงในตอนนี้ วิหคเพลิงนรกานต์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนัก มันยังคงมีขนาดเท่าเดิมเพียงแต่เปล่งประกายสีดำออกมา กลิ่นอายของมันราวกับสัตว์อสูรบรรพกาล

 

วิหคเพลิงนรกานต์ พลังทางสายเลือด: ทรงพลังถึงขีดสุด

 

ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้วิหคเพลิงนรกานต์ก็มีสายเลือดที่ทรงพลังอยู่แล้ว ตอนนี้มันอยู่ในระดับทรงพลังถึงขีดสุด

 

พลังในตอนนี้ของวิหคเพลิงนรกานต์เพิ่มขึ้นไปมากกว่า 20,000 สุริยา การยกระดับขึ้นในครั้งนี้ทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า แต่นี่ก็ยังอยู่ในการคาดการณ์ของชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยที่ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของมันทันที

 

หงส์เพลิงทมิฬ 9 สวรรค์ เพิ่มพลังของผู้ใช้ขึ้น 100 เท่า พลังงานที่ใช้ในเคล็ดวิชาต่างๆลดลงไปครึ่งหนึ่ง

 

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ชิงสุ่ยไม่รู้ว่านี่ถือว่าปกติหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชานี้จะไม่ยกระดับขึ้นง่ายๆ 

 

จิตวิญญาณแห่งวิหคเพลิง: ความสามารถในการบินของวิหคเพลิงนรกานต์ ความเร็วของมันจะเพิ่มขึ้น 100 เท่าในขณะที่บินอยู่และพลังงานที่ใช้ในการบินจะลดลงไป 100 เท่า

 

นี่ถือได้ว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ชิงสุ่ยคิดว่าหากเขาเดินทางไปทั่วมหาทวีปทั้ง 9 ด้วยวิหคเพลิงนรกานต์คงจะใช้เวลาไม่นานนัก

 

เคล็ดวิชาเปลวเพลิงแห่งนรก: เปลวเพลิงอันทรงพลังสองวิหคเพลิง เปลวเพลิงสีดำที่สามารถเผาผลาญทุกๆสิ่งได้ มันมีพลังทำลายอันน่าสะพรึงกลัว เป็นเคล็ดวิชาที่ทรงพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ การโจมตีครั้งนี้จะเพิ่มพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ 50 เท่า

 

เคล็ดวิชาหงส์เพลิงร่ายระบ่า : เคล็ดวิชาติดตัวเพิ่มพลังของผู้ใช้ขึ้นอีก 100 เท่าและลดความเสียหายที่ได้รับลงไปหลายเท่า พลังป้องกันทั้งหมดเพิ่มขึ้นอีก 9 เท่า

 

เพลิงนรกภูมิ: โจมตีด้วยลูกไฟเพลิงความเสียหายของผู้ใช้เพิ่มขึ้น 100 เท่า ลูกไฟเพลิงนี้มีความสามารถในการระเบิด เมื่อระเบิดจะสร้างความเสียหายขึ้นอีกหลายเท่า ล็อคเป้าหมายไปที่พลังวิญญาณของศัตรู

 

แดนวิหคอัคคีสวรรค์: เมื่อได้รับบาดเจ็บมีโอกาส 30% ที่วิหคเพลิงจะถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง เมื่อถือกำเนิดไหมสำเร็จพลังของมันจะเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า

 

ดวงใจแห่งวิหคเพลิง: ดวงใจแห่งวิหคเพลิงที่จะทำให้พลังทั้งหมดของวิหคเพลิงนั้นเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าความเสียหายที่ได้รับลดลงไป 1 เท่า การใช้พลังงานในเคล็ดวิชาต่างๆจะลดลงไปอีก 2 เท่า เป็นเคล็ดวิชาติดตัวไม่ใช้พลังงานใดๆ

 

เดชวิหคเพลิง: พลังอานาจเหนือวิหคชนิดอื่นที่ไม่ใช่วิหคเพลิง สามารถลดพลังของเป้าหมายลงไปได้ 10%

 

ในตอนนี้วิหคเพลิงมีพลังมากกว่า 800 เต่ำ มันเป็นสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าวิหคเพลิงนรกานต์นั้นถือว่าทรงพลังหรือไม่แต่เขาก็รู้สึกพึงพอใจกับมัน

 

เขารู้ว่านี้เกิดจากผลผลึกวชิระ น่าเสียดายที่มังกรไอยราเกล็ดทองคำและสัตว์อสูรตัวอื่นๆนั้นไม่อาจกินมันได้อีก ยิ่งสัตว์อสูรพรรสวรรค์มากเท่าไร่ผลผลึกวชิระก็จะส่งผลได้มากขึ้นเท่านั้น

 

สุกท้ายแล้วชิงสุ่ยก็มีสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เป็นของตนเอง เขาบอกได้เลยว่าวิหคเพลิงนรกานต์ในตอนนี้นั้นทรงพลังอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่น่ากลัวไปกว่านั้นความสามารถในการับการโจมตี หากเขาไม่มีทักษะวชิระจู่โจม ชิงสุ่ยเองก็คงไม่อาจทำให้มันบาดเจ็บได้

 

เผ่าวิหคเพลิงนั้นเหมือนกับลูกรักของพระเจ้า มันได้รับการอวยพรจากพระเจ้าอยู่เสมอ ดังนั้นในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถเรียกวิหคเพลิงนรกานต์ออกมาในการต่อสู้ได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ

 

ชิงสุ่ยยังไม่ได้ตรวจสอบเคล็ดวิชาสวรรค์ของมัน ชิงสุ่ยรีบครวจสอบทันที

 

เพชณฆาต 9 วิญญาณ!

 

มันยังคงเป็นเพชณฆาต 9 วิญญาณ!

 

เพชณฆาต 9 วิญญาณ: เพิ่มความเสียหายของผผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป ภายใต้ผลของเพชณฆาด 9 วิญญาณพลังงานที่ผู้ใช้ต้องใช้นั้นจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า สามารถใช้ได้วันละครั้ง

 

ชิงสุ่ยตกตะลึงไป นี่คือสิ่งที่ทำให้วิหคเพลิงนรกานต์นั้นน่าลกัวอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับเพชณฆาด 9 วิญญาณแล้วทักษะวชิระจู่โจมของชิงสุ่ยนั้นทรงพลังมากกว่า น่าเสียดายที่มันใช้ได้เพียงวันละครั้งเพชณฆาต 9 วิญญาณนั้นใช้ได้เพียงหนึ่งก้านธูป แต่เวลาหนึ่งก้านธูปนั้นก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้แล้ว

 

พลัง 8000 เดำเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป…….ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง…

 

ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง วิหคเพลิงนรกานต์ร้องเสียงแหลมออกมาขณะบินไปรอบๆชิงสุ่ย พลังของมันในตอนนี้เหนือกว่ามังกรไอยราเกล็ดทองคำและอสูรอัสนีคลั่งเสียอีก

 

นอกจากนี้เพลิงอสูร 9 วิญญาณนั้นยังทำให้มันเหนือกว่าผู้ใด

 

เพลิงอสูร 9 วิญญาณนั้นสามารถเผลาผลาญทุกๆสิ่งให้หายไปจนหมดสิ้นได้

 

ชิงสุ่ยไม่เคยลองว่าเขาสามารถเผาอสูรสยบมังกรได้หรือไม่ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าอสูรสยบมังกรนั้นจะหวาดกลัววิหคเพลิงนรกานต์ ในตอนนี้วิหคเพลิงนรกานต์นั้นทรงพลังอย่างยิ่งจนชิงสุ่ยก็รู้สึกอิจฉา

 

วิหคเพลิงนรกานต์นั้นกำเนิดขึ้นมาภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ สมบัติเพียงอย่างเดียวของมันนั้นคือต้นอู่ทงขนาดใหญ่

 

ในตอนนี้ร่างกายของอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล 1665 – เก็บเกี่ยวผลผลึกวชิระ สัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ตัวแรกของชิงสุ่ย

Now you are reading Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล Chapter 1665 - เก็บเกี่ยวผลผลึกวชิระ สัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ตัวแรกของชิงสุ่ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1665 – เก็บเกี่ยวผลผลึกวชิระ สัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ตัวแรกของชิงสุ่ย   ชิงสุ่ยพักที่เมืองหลินห่ายเป็นการชั่วคราว เขารู้สึกดีใจเมื่อหญิงสาวทั้งสองคนกลับมาที่นี่ในวันที่ 3 ที่เขาได้กลับมา เมื่อเขาอยู่ที่นี่เขาก็อยากให้หญิงสาวทั้งสองคนอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน   ตอนที่หญิงสาวทั้งสองคนนี้จะจากไปเหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งงั้นยังไม่แยกตัวออกไปฝน แต่เมื่อพวกนางกลับมาหลิงเฟิงและหยิน ต่งนั้นนก็ไม่อยากพลาดโอกาสนี้ นอกจากนี้ชิงสุ่ยก็กำลังจะกลับไปในเร็วๆนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงกลับมาที่นี่โดยเร็วที่สุด   หลังจากที่ต้องแยกกันไปมากกว่า 1 เดือนชิงสุ่ยก็เข้ามาโอบกอดหญิงสาวทั้งสองคนนี้ เสวี่ย นั่วนั้นก็เดินเข้ามากอดเขาด้วยเช่นกัน   ชิงสุ่ยและถานท้าย หลิงเขียนนั้นเป็นสามีภรรยากัน อย่างไรก็ตามทุกๆคนรู้ว่าทั้งสองนั้นมีความสัมพันธ์ที่พิเศษมากและเชื่อว่าพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน   หญิงสาวทั้งสองคนทักทายคนอื่นด้วยความยินดี ทุกๆคนเริ่มเป็นครอบครัวเดียวกันโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อได้อยู่ร่วมกันและต่อสู้ร่วมกันแล้วความสนิทสนมก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เมื่อนางกลับมาที่นี่นางก็รู้สึกสงบสุขอย่างยิ่งนางรู้ดีว่านี่เป็นเพราะชิงสุ่ย เป็นเพราะเขาที่ทำให้ที่แห่งนี้สงบสุข เป็นเพราะเขาที่ทำให้ทุกๆคนในที่แห่งนี้นั้นสนิทสนมรักใคร่กลมเกลียวกัน   “พระราชวังจอมอสูรเป็นอย่างไรบ้าง?” ชิงสุ่ยถามขึ้น   “ก็ปกติดี แล้วเจ้าล่ะ? พระราชวังทะเลราชันย์เป็นเช่นไรบ้าง?” ถานท่าย หลิงเยียนรู้ดีว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างชิงสุ่ยและพระราชวังแห่งนั้น   “พระราชวังทะเลราชันย์และพระราชวังสุริยาได้รวมตัวเป็นพันธมิตรกัน พระราชวังทรายทองและพระราชวังมังกรได้ล่มสลายลงไปแล้ว” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม   ถานท้าย หลังเยียนตกตะลึงไปในทันที หลังจากนั้นนางก็หันกลับไปยิ้ม “ได้ยินเช่นนี้ก็ดี”   “ตอนนี้พวกนางได้เข้าสู่ระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้วด้วยเช่นกัน ข้าไม่ต้องเป็นห่วงพวกนางต่อไป” ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง   ในตอนนี้ฉันชิงก็พูดขึ้นมาว่า “เช่นนั้นก็ดี นั่นหมายความว่าในอนาคตเจ้าต้องเป็นห่วงพี่สาวเยียนให้มากกว่านี้!”   ถานท้าย หลิงเยียนรู้สึกเขินอายขึ้นมา นางยังคงเงียบอยู่ในตอนนี้เพราะรู้ว่าพูดอะไรออกไปในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เงียบไว้จะดีกว่า   ชิงสุ่ยรู้สึกไม่มีอะไรต้องกังวลในตอนนี้ “ข้าเป็นห่วงภรรยาทุกๆคนของข้า”   ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่งเมื่อได้อยู่กับหญิงสาวทั้งสองคนที่หอคอยจักรพรรดิ์ เพราะพวกเขาไม่ได้มีหน้าที่ทำอะไรและหญิงสาวทั้งสองคนนั้นก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝน กลับกันชิงสุ่ยนั้นดูผ่อนคลายอย่างยิ่งบางครั้งเขาจะออกมาช่วยแนะนำหญิงสาวทั้งสองคนในการฝึกฝนรวมถึงเสวี่ย นั่วด้วยเช่นกัน บางครั้งเขาก็จะไปที่หอคอยจักรพรรดิเพื่อรักษาคนไข้และเล่นกับพวกเด็กๆ   แม้ว่าเรื่องทุกอย่างจะสงบลงแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยหยุดทำงาน อีเย่ เจี้ยนเก้อฉันอยู่ที่แดนทะเลน้ำแข็งกับหญิงสาวคนอื่นๆ ในที่สุดพวกนางก็เตรียมตัวที่จะเข้าไปยังทะเลเหนือ ตี้ เฉิน องค์หญิงใหญ่ ถานท้ายหยวน และอเหอต่างก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนของตนเอง   เดิมทีนั้นชิงสุ่ยคิดว่าเหล่าหญิงสาวนั้นไม่ได้เร่งรีบเหมือนที่พวกนางเคยเป็นก่อนหน้านี้ แต่เมื่อคิดให้ดีแล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่ามันไม่ใช่เลย ตัวอย่างเช่น ถานท่าย หลิงเยี่ยน นางไม่เคยยอมแพ้ต่อนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ   ก่อนหน้านี้นิกาย 5 พยัคฆ์อมตะนั้นอาจจะไม่ควรค่าต่อการจดจำ แต่พวกเขาก็ทำให้ถานท่าย หลิงเยียนต้องบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นนางจึงไม่ยอมแพ้ต่อการแก้แค้นของตนเอง   ปลาใหญ่กินปลาเล็ก นี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยได้ยินเสมอในโลกก่อนหน้านี้ของเขา แต่เขาเพิ่งจะเข้าใจมันก็วันนี้ ดังนั้นเอาจริงไม่ได้ขัดขวางที่เหล่าหญิงสาวต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง และเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือพวกนางด้วยเช่นกัน   เพื่อที่จะไม่ถูกรังแกก็ต้องมีพลังที่มากพอ ด้วยความงามของพวกนางมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกนางจะใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาได้   ยิ่งล้ำค่ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอันตรายมากขึ้นเท่านั้น เมื่อมองไปที่หญิงสาว 2 คนซึ่งสู่ยก็รู้สึกผิดขึ้นมา สิ่งที่มีค่าที่สุดกับหญิงสาวทั้งสองคนนี้คือความงามของนาง มีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่หมายตาพวกเราไว้ หากเขาไม่ได้แข็งแกร่งเขาคงตายไปแล้วในวันนี้   หลังจากผ่านไป 6 วันก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง ผลผลึกวชิระในดินแดนหยกยุพราชอมตะถึงเวลาเก็บเกี่ยวได้แล้ว ก่อนหน้านี้ต้นผลึกวชิระนั้นฉันชิงพบมันโดยบังเอิญ แต่ในตอนนี้เขาสามารถเก็บเกี่ยวมันได้เป็น 10 ผล   มันผ่านมานานมากแล้วที่เขาได้พบกับรูปภาพของฉันชิงโดยบังเอิญ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าตนเองนั้นคุ้นเคยกับนางมาเป็นเวลานาน   ผลผลึกวชิระนั้นสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว มันใช้ได้กับสัตว์อสูรทุกๆตัว เจ้ามังกรเขียวของฉันชิงและสัตว์อสูรของชิงสุ่ย 3 ตัวได้กินมันลงไปแล้วก่อนหน้านี้   ในตอนนี้เขามีผลผลึกวชิระมากกว่า 10 ผล แต่ชิงสุ่ยก็ยังคงคิดว่าไม่พอ คราวก่อนเย่ เจี้ยนเก้อก็ได้รับผลผลึกวชิระไปแล้ว ซึ่งสู่ยจะให้วิหคเพลิงนรกานต์และอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรกินผลผลึกวชิระในครั้งนี้ คราวก่อนอสูรสยบมังกร มังกรไอยราเกล็ดทองคำและอสูรนรกรัตติกาลต่างก็ได้กินมันไปแล้ว   อีก 8 ผลที่เหลือชิงสุ่ยจะมอบมันให้แก่ ถานท่าย หลิงเขียนและเต่ามังกรคนละผล ที่เหลือ 6 ผลนั้นมอบให้เหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งคนละผล เสวี่ย นั่วนั้นยังคงอ่อนแออยู่และอาจไม่เหมาะสำหรับผลผลึกวชิระอีก 4 ผลที่เหลือชิงสุ่ยจะมอบให้อีหวง ‘หรู ชางห่าย หมิงเยวีย อี้เฉินและอวเหอ   ผู้คนที่อยู่รอบกายเขามีมากมายในตอนนี้ เขาจะต้องดูแลพวกนางให้ดี ในท้ายที่สุดพวกนางทุกๆคนก็จะได้รับผลผล็กวชิระไป   เมื่อชิงสุ่ยวางแผนเสร็จสิ้นเขาก็ป้อนผลผลึกวชิระให้แก่วิหคเพลิงนรกานต์และอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรทันที คราวก่อนชิงสุ่ยก็คิดจะมอบมันให้แก่อสรแมงมุมมังกรแปดเศียรแต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามีสัตว์อสูรตัวอื่นที่เหมาะสมมากกว่า น่าเสียดายที่มันมีจพนวนไม่พอ   เปลวเพลิงสีดำเผาไหม้ไปรอบตัวของวิหคเพลิงนรกานต์ทันที มันเป็นเปลวเพลิงสีดำแต่ก็เปล่งประกายและดูแหลมคมราวกับมีดดาบ กลิ่นอายอันทรงพลังระเบิดออกมาจากร่างกายของวิหคเพลิง เมื่อได้เห็นเช่นนี้ชิงสุ่ยก็ยิ้มออกมา ต่อจากนี้สายฟ้าสีดำขนาดใหญ่ก็ฟาดลงมาจากท้องฟ้า   “เป็นไงบ้างนะ” ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง นั่นเป็นทัณฑ์สวรรค์พินาศของวิหคเพลิงนรกานต์ที่มันต้องผ่านไปใช่หรือไม่? เขายังไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่าต้องเป็นเช่นนั้น เวลาผ่านไปเรื่อยๆ วิหคเพลิงนรกานต์ยังคงปลดปล่อยพลังของมันออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ มันร้องเสียงแหลมออกมาและสืบนร่างกายของมันนั้นก็ดูเข้มมากขึ้น   ชิงสุ่ยมองไปยังวิหคเพลิงนรกานต์เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างสงบลงในตอนนี้ วิหคเพลิงนรกานต์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนัก มันยังคงมีขนาดเท่าเดิมเพียงแต่เปล่งประกายสีดำออกมา กลิ่นอายของมันราวกับสัตว์อสูรบรรพกาล   วิหคเพลิงนรกานต์ พลังทางสายเลือด: ทรงพลังถึงขีดสุด   ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้วิหคเพลิงนรกานต์ก็มีสายเลือดที่ทรงพลังอยู่แล้ว ตอนนี้มันอยู่ในระดับทรงพลังถึงขีดสุด   พลังในตอนนี้ของวิหคเพลิงนรกานต์เพิ่มขึ้นไปมากกว่า 20,000 สุริยา การยกระดับขึ้นในครั้งนี้ทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า แต่นี่ก็ยังอยู่ในการคาดการณ์ของชิงสุ่ย   ชิงสุ่ยที่ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของมันทันที   หงส์เพลิงทมิฬ 9 สวรรค์ เพิ่มพลังของผู้ใช้ขึ้น 100 เท่า พลังงานที่ใช้ในเคล็ดวิชาต่างๆลดลงไปครึ่งหนึ่ง   ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ชิงสุ่ยไม่รู้ว่านี่ถือว่าปกติหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชานี้จะไม่ยกระดับขึ้นง่ายๆ    จิตวิญญาณแห่งวิหคเพลิง: ความสามารถในการบินของวิหคเพลิงนรกานต์ ความเร็วของมันจะเพิ่มขึ้น 100 เท่าในขณะที่บินอยู่และพลังงานที่ใช้ในการบินจะลดลงไป 100 เท่า   นี่ถือได้ว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ชิงสุ่ยคิดว่าหากเขาเดินทางไปทั่วมหาทวีปทั้ง 9 ด้วยวิหคเพลิงนรกานต์คงจะใช้เวลาไม่นานนัก   เคล็ดวิชาเปลวเพลิงแห่งนรก: เปลวเพลิงอันทรงพลังสองวิหคเพลิง เปลวเพลิงสีดำที่สามารถเผาผลาญทุกๆสิ่งได้ มันมีพลังทำลายอันน่าสะพรึงกลัว เป็นเคล็ดวิชาที่ทรงพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ การโจมตีครั้งนี้จะเพิ่มพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ 50 เท่า   เคล็ดวิชาหงส์เพลิงร่ายระบ่า : เคล็ดวิชาติดตัวเพิ่มพลังของผู้ใช้ขึ้นอีก 100 เท่าและลดความเสียหายที่ได้รับลงไปหลายเท่า พลังป้องกันทั้งหมดเพิ่มขึ้นอีก 9 เท่า   เพลิงนรกภูมิ: โจมตีด้วยลูกไฟเพลิงความเสียหายของผู้ใช้เพิ่มขึ้น 100 เท่า ลูกไฟเพลิงนี้มีความสามารถในการระเบิด เมื่อระเบิดจะสร้างความเสียหายขึ้นอีกหลายเท่า ล็อคเป้าหมายไปที่พลังวิญญาณของศัตรู   แดนวิหคอัคคีสวรรค์: เมื่อได้รับบาดเจ็บมีโอกาส 30% ที่วิหคเพลิงจะถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง เมื่อถือกำเนิดไหมสำเร็จพลังของมันจะเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า   ดวงใจแห่งวิหคเพลิง: ดวงใจแห่งวิหคเพลิงที่จะทำให้พลังทั้งหมดของวิหคเพลิงนั้นเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าความเสียหายที่ได้รับลดลงไป 1 เท่า การใช้พลังงานในเคล็ดวิชาต่างๆจะลดลงไปอีก 2 เท่า เป็นเคล็ดวิชาติดตัวไม่ใช้พลังงานใดๆ   เดชวิหคเพลิง: พลังอานาจเหนือวิหคชนิดอื่นที่ไม่ใช่วิหคเพลิง สามารถลดพลังของเป้าหมายลงไปได้ 10%   ในตอนนี้วิหคเพลิงมีพลังมากกว่า 800 เต่ำ มันเป็นสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าวิหคเพลิงนรกานต์นั้นถือว่าทรงพลังหรือไม่แต่เขาก็รู้สึกพึงพอใจกับมัน   เขารู้ว่านี้เกิดจากผลผลึกวชิระ น่าเสียดายที่มังกรไอยราเกล็ดทองคำและสัตว์อสูรตัวอื่นๆนั้นไม่อาจกินมันได้อีก ยิ่งสัตว์อสูรพรรสวรรค์มากเท่าไร่ผลผลึกวชิระก็จะส่งผลได้มากขึ้นเท่านั้น   สุกท้ายแล้วชิงสุ่ยก็มีสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เป็นของตนเอง เขาบอกได้เลยว่าวิหคเพลิงนรกานต์ในตอนนี้นั้นทรงพลังอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่น่ากลัวไปกว่านั้นความสามารถในการับการโจมตี หากเขาไม่มีทักษะวชิระจู่โจม ชิงสุ่ยเองก็คงไม่อาจทำให้มันบาดเจ็บได้   เผ่าวิหคเพลิงนั้นเหมือนกับลูกรักของพระเจ้า มันได้รับการอวยพรจากพระเจ้าอยู่เสมอ ดังนั้นในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถเรียกวิหคเพลิงนรกานต์ออกมาในการต่อสู้ได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ   ชิงสุ่ยยังไม่ได้ตรวจสอบเคล็ดวิชาสวรรค์ของมัน ชิงสุ่ยรีบครวจสอบทันที   เพชณฆาต 9 วิญญาณ!   มันยังคงเป็นเพชณฆาต 9 วิญญาณ!   เพชณฆาต 9 วิญญาณ: เพิ่มความเสียหายของผผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป ภายใต้ผลของเพชณฆาด 9 วิญญาณพลังงานที่ผู้ใช้ต้องใช้นั้นจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า สามารถใช้ได้วันละครั้ง   ชิงสุ่ยตกตะลึงไป นี่คือสิ่งที่ทำให้วิหคเพลิงนรกานต์นั้นน่าลกัวอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับเพชณฆาด 9 วิญญาณแล้วทักษะวชิระจู่โจมของชิงสุ่ยนั้นทรงพลังมากกว่า น่าเสียดายที่มันใช้ได้เพียงวันละครั้งเพชณฆาต 9 วิญญาณนั้นใช้ได้เพียงหนึ่งก้านธูป แต่เวลาหนึ่งก้านธูปนั้นก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้แล้ว   พลัง 8000 เดำเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป…….ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง…   ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง วิหคเพลิงนรกานต์ร้องเสียงแหลมออกมาขณะบินไปรอบๆชิงสุ่ย พลังของมันในตอนนี้เหนือกว่ามังกรไอยราเกล็ดทองคำและอสูรอัสนีคลั่งเสียอีก   นอกจากนี้เพลิงอสูร 9 วิญญาณนั้นยังทำให้มันเหนือกว่าผู้ใด   เพลิงอสูร 9 วิญญาณนั้นสามารถเผลาผลาญทุกๆสิ่งให้หายไปจนหมดสิ้นได้   ชิงสุ่ยไม่เคยลองว่าเขาสามารถเผาอสูรสยบมังกรได้หรือไม่ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าอสูรสยบมังกรนั้นจะหวาดกลัววิหคเพลิงนรกานต์ ในตอนนี้วิหคเพลิงนรกานต์นั้นทรงพลังอย่างยิ่งจนชิงสุ่ยก็รู้สึกอิจฉา   วิหคเพลิงนรกานต์นั้นกำเนิดขึ้นมาภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ สมบัติเพียงอย่างเดียวของมันนั้นคือต้นอู่ทงขนาดใหญ่   ในตอนนี้ร่างกายของอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน  

บทที่ 1665 – เก็บเกี่ยวผลผลึกวชิระ สัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ตัวแรกของชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยพักที่เมืองหลินห่ายเป็นการชั่วคราว เขารู้สึกดีใจเมื่อหญิงสาวทั้งสองคนกลับมาที่นี่ในวันที่ 3 ที่เขาได้กลับมา เมื่อเขาอยู่ที่นี่เขาก็อยากให้หญิงสาวทั้งสองคนอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน

 

ตอนที่หญิงสาวทั้งสองคนนี้จะจากไปเหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งงั้นยังไม่แยกตัวออกไปฝน แต่เมื่อพวกนางกลับมาหลิงเฟิงและหยิน ต่งนั้นนก็ไม่อยากพลาดโอกาสนี้ นอกจากนี้ชิงสุ่ยก็กำลังจะกลับไปในเร็วๆนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงกลับมาที่นี่โดยเร็วที่สุด

 

หลังจากที่ต้องแยกกันไปมากกว่า 1 เดือนชิงสุ่ยก็เข้ามาโอบกอดหญิงสาวทั้งสองคนนี้ เสวี่ย นั่วนั้นก็เดินเข้ามากอดเขาด้วยเช่นกัน

 

ชิงสุ่ยและถานท้าย หลิงเขียนนั้นเป็นสามีภรรยากัน อย่างไรก็ตามทุกๆคนรู้ว่าทั้งสองนั้นมีความสัมพันธ์ที่พิเศษมากและเชื่อว่าพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน

 

หญิงสาวทั้งสองคนทักทายคนอื่นด้วยความยินดี ทุกๆคนเริ่มเป็นครอบครัวเดียวกันโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อได้อยู่ร่วมกันและต่อสู้ร่วมกันแล้วความสนิทสนมก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เมื่อนางกลับมาที่นี่นางก็รู้สึกสงบสุขอย่างยิ่งนางรู้ดีว่านี่เป็นเพราะชิงสุ่ย เป็นเพราะเขาที่ทำให้ที่แห่งนี้สงบสุข เป็นเพราะเขาที่ทำให้ทุกๆคนในที่แห่งนี้นั้นสนิทสนมรักใคร่กลมเกลียวกัน

 

“พระราชวังจอมอสูรเป็นอย่างไรบ้าง?” ชิงสุ่ยถามขึ้น

 

“ก็ปกติดี แล้วเจ้าล่ะ? พระราชวังทะเลราชันย์เป็นเช่นไรบ้าง?” ถานท่าย หลิงเยียนรู้ดีว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างชิงสุ่ยและพระราชวังแห่งนั้น

 

“พระราชวังทะเลราชันย์และพระราชวังสุริยาได้รวมตัวเป็นพันธมิตรกัน พระราชวังทรายทองและพระราชวังมังกรได้ล่มสลายลงไปแล้ว” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ถานท้าย หลังเยียนตกตะลึงไปในทันที หลังจากนั้นนางก็หันกลับไปยิ้ม “ได้ยินเช่นนี้ก็ดี”

 

“ตอนนี้พวกนางได้เข้าสู่ระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้วด้วยเช่นกัน ข้าไม่ต้องเป็นห่วงพวกนางต่อไป” ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง

 

ในตอนนี้ฉันชิงก็พูดขึ้นมาว่า “เช่นนั้นก็ดี นั่นหมายความว่าในอนาคตเจ้าต้องเป็นห่วงพี่สาวเยียนให้มากกว่านี้!”

 

ถานท้าย หลิงเยียนรู้สึกเขินอายขึ้นมา นางยังคงเงียบอยู่ในตอนนี้เพราะรู้ว่าพูดอะไรออกไปในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เงียบไว้จะดีกว่า

 

ชิงสุ่ยรู้สึกไม่มีอะไรต้องกังวลในตอนนี้ “ข้าเป็นห่วงภรรยาทุกๆคนของข้า”

 

ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่งเมื่อได้อยู่กับหญิงสาวทั้งสองคนที่หอคอยจักรพรรดิ์ เพราะพวกเขาไม่ได้มีหน้าที่ทำอะไรและหญิงสาวทั้งสองคนนั้นก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝน กลับกันชิงสุ่ยนั้นดูผ่อนคลายอย่างยิ่งบางครั้งเขาจะออกมาช่วยแนะนำหญิงสาวทั้งสองคนในการฝึกฝนรวมถึงเสวี่ย นั่วด้วยเช่นกัน บางครั้งเขาก็จะไปที่หอคอยจักรพรรดิเพื่อรักษาคนไข้และเล่นกับพวกเด็กๆ

 

แม้ว่าเรื่องทุกอย่างจะสงบลงแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยหยุดทำงาน อีเย่ เจี้ยนเก้อฉันอยู่ที่แดนทะเลน้ำแข็งกับหญิงสาวคนอื่นๆ ในที่สุดพวกนางก็เตรียมตัวที่จะเข้าไปยังทะเลเหนือ ตี้ เฉิน องค์หญิงใหญ่ ถานท้ายหยวน และอเหอต่างก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนของตนเอง

 

เดิมทีนั้นชิงสุ่ยคิดว่าเหล่าหญิงสาวนั้นไม่ได้เร่งรีบเหมือนที่พวกนางเคยเป็นก่อนหน้านี้ แต่เมื่อคิดให้ดีแล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่ามันไม่ใช่เลย ตัวอย่างเช่น ถานท่าย หลิงเยี่ยน นางไม่เคยยอมแพ้ต่อนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ

 

ก่อนหน้านี้นิกาย 5 พยัคฆ์อมตะนั้นอาจจะไม่ควรค่าต่อการจดจำ แต่พวกเขาก็ทำให้ถานท่าย หลิงเยียนต้องบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นนางจึงไม่ยอมแพ้ต่อการแก้แค้นของตนเอง

 

ปลาใหญ่กินปลาเล็ก นี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยได้ยินเสมอในโลกก่อนหน้านี้ของเขา แต่เขาเพิ่งจะเข้าใจมันก็วันนี้ ดังนั้นเอาจริงไม่ได้ขัดขวางที่เหล่าหญิงสาวต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง และเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือพวกนางด้วยเช่นกัน

 

เพื่อที่จะไม่ถูกรังแกก็ต้องมีพลังที่มากพอ ด้วยความงามของพวกนางมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกนางจะใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาได้

 

ยิ่งล้ำค่ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอันตรายมากขึ้นเท่านั้น เมื่อมองไปที่หญิงสาว 2 คนซึ่งสู่ยก็รู้สึกผิดขึ้นมา สิ่งที่มีค่าที่สุดกับหญิงสาวทั้งสองคนนี้คือความงามของนาง มีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่หมายตาพวกเราไว้ หากเขาไม่ได้แข็งแกร่งเขาคงตายไปแล้วในวันนี้

 

หลังจากผ่านไป 6 วันก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง ผลผลึกวชิระในดินแดนหยกยุพราชอมตะถึงเวลาเก็บเกี่ยวได้แล้ว ก่อนหน้านี้ต้นผลึกวชิระนั้นฉันชิงพบมันโดยบังเอิญ แต่ในตอนนี้เขาสามารถเก็บเกี่ยวมันได้เป็น 10 ผล

 

มันผ่านมานานมากแล้วที่เขาได้พบกับรูปภาพของฉันชิงโดยบังเอิญ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าตนเองนั้นคุ้นเคยกับนางมาเป็นเวลานาน

 

ผลผลึกวชิระนั้นสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว มันใช้ได้กับสัตว์อสูรทุกๆตัว เจ้ามังกรเขียวของฉันชิงและสัตว์อสูรของชิงสุ่ย 3 ตัวได้กินมันลงไปแล้วก่อนหน้านี้

 

ในตอนนี้เขามีผลผลึกวชิระมากกว่า 10 ผล แต่ชิงสุ่ยก็ยังคงคิดว่าไม่พอ คราวก่อนเย่ เจี้ยนเก้อก็ได้รับผลผลึกวชิระไปแล้ว ซึ่งสู่ยจะให้วิหคเพลิงนรกานต์และอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรกินผลผลึกวชิระในครั้งนี้ คราวก่อนอสูรสยบมังกร มังกรไอยราเกล็ดทองคำและอสูรนรกรัตติกาลต่างก็ได้กินมันไปแล้ว

 

อีก 8 ผลที่เหลือชิงสุ่ยจะมอบมันให้แก่ ถานท่าย หลิงเขียนและเต่ามังกรคนละผล ที่เหลือ 6 ผลนั้นมอบให้เหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งคนละผล เสวี่ย นั่วนั้นยังคงอ่อนแออยู่และอาจไม่เหมาะสำหรับผลผลึกวชิระอีก 4 ผลที่เหลือชิงสุ่ยจะมอบให้อีหวง ‘หรู ชางห่าย หมิงเยวีย อี้เฉินและอวเหอ

 

ผู้คนที่อยู่รอบกายเขามีมากมายในตอนนี้ เขาจะต้องดูแลพวกนางให้ดี ในท้ายที่สุดพวกนางทุกๆคนก็จะได้รับผลผล็กวชิระไป

 

เมื่อชิงสุ่ยวางแผนเสร็จสิ้นเขาก็ป้อนผลผลึกวชิระให้แก่วิหคเพลิงนรกานต์และอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรทันที คราวก่อนชิงสุ่ยก็คิดจะมอบมันให้แก่อสรแมงมุมมังกรแปดเศียรแต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามีสัตว์อสูรตัวอื่นที่เหมาะสมมากกว่า น่าเสียดายที่มันมีจพนวนไม่พอ

 

เปลวเพลิงสีดำเผาไหม้ไปรอบตัวของวิหคเพลิงนรกานต์ทันที มันเป็นเปลวเพลิงสีดำแต่ก็เปล่งประกายและดูแหลมคมราวกับมีดดาบ กลิ่นอายอันทรงพลังระเบิดออกมาจากร่างกายของวิหคเพลิง เมื่อได้เห็นเช่นนี้ชิงสุ่ยก็ยิ้มออกมา ต่อจากนี้สายฟ้าสีดำขนาดใหญ่ก็ฟาดลงมาจากท้องฟ้า

 

“เป็นไงบ้างนะ” ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง นั่นเป็นทัณฑ์สวรรค์พินาศของวิหคเพลิงนรกานต์ที่มันต้องผ่านไปใช่หรือไม่? เขายังไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่าต้องเป็นเช่นนั้น

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ วิหคเพลิงนรกานต์ยังคงปลดปล่อยพลังของมันออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ มันร้องเสียงแหลมออกมาและสืบนร่างกายของมันนั้นก็ดูเข้มมากขึ้น

 

ชิงสุ่ยมองไปยังวิหคเพลิงนรกานต์เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างสงบลงในตอนนี้ วิหคเพลิงนรกานต์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนัก มันยังคงมีขนาดเท่าเดิมเพียงแต่เปล่งประกายสีดำออกมา กลิ่นอายของมันราวกับสัตว์อสูรบรรพกาล

 

วิหคเพลิงนรกานต์ พลังทางสายเลือด: ทรงพลังถึงขีดสุด

 

ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้วิหคเพลิงนรกานต์ก็มีสายเลือดที่ทรงพลังอยู่แล้ว ตอนนี้มันอยู่ในระดับทรงพลังถึงขีดสุด

 

พลังในตอนนี้ของวิหคเพลิงนรกานต์เพิ่มขึ้นไปมากกว่า 20,000 สุริยา การยกระดับขึ้นในครั้งนี้ทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า แต่นี่ก็ยังอยู่ในการคาดการณ์ของชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยที่ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของมันทันที

 

หงส์เพลิงทมิฬ 9 สวรรค์ เพิ่มพลังของผู้ใช้ขึ้น 100 เท่า พลังงานที่ใช้ในเคล็ดวิชาต่างๆลดลงไปครึ่งหนึ่ง

 

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ชิงสุ่ยไม่รู้ว่านี่ถือว่าปกติหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชานี้จะไม่ยกระดับขึ้นง่ายๆ 

 

จิตวิญญาณแห่งวิหคเพลิง: ความสามารถในการบินของวิหคเพลิงนรกานต์ ความเร็วของมันจะเพิ่มขึ้น 100 เท่าในขณะที่บินอยู่และพลังงานที่ใช้ในการบินจะลดลงไป 100 เท่า

 

นี่ถือได้ว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ชิงสุ่ยคิดว่าหากเขาเดินทางไปทั่วมหาทวีปทั้ง 9 ด้วยวิหคเพลิงนรกานต์คงจะใช้เวลาไม่นานนัก

 

เคล็ดวิชาเปลวเพลิงแห่งนรก: เปลวเพลิงอันทรงพลังสองวิหคเพลิง เปลวเพลิงสีดำที่สามารถเผาผลาญทุกๆสิ่งได้ มันมีพลังทำลายอันน่าสะพรึงกลัว เป็นเคล็ดวิชาที่ทรงพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ การโจมตีครั้งนี้จะเพิ่มพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ 50 เท่า

 

เคล็ดวิชาหงส์เพลิงร่ายระบ่า : เคล็ดวิชาติดตัวเพิ่มพลังของผู้ใช้ขึ้นอีก 100 เท่าและลดความเสียหายที่ได้รับลงไปหลายเท่า พลังป้องกันทั้งหมดเพิ่มขึ้นอีก 9 เท่า

 

เพลิงนรกภูมิ: โจมตีด้วยลูกไฟเพลิงความเสียหายของผู้ใช้เพิ่มขึ้น 100 เท่า ลูกไฟเพลิงนี้มีความสามารถในการระเบิด เมื่อระเบิดจะสร้างความเสียหายขึ้นอีกหลายเท่า ล็อคเป้าหมายไปที่พลังวิญญาณของศัตรู

 

แดนวิหคอัคคีสวรรค์: เมื่อได้รับบาดเจ็บมีโอกาส 30% ที่วิหคเพลิงจะถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง เมื่อถือกำเนิดไหมสำเร็จพลังของมันจะเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า

 

ดวงใจแห่งวิหคเพลิง: ดวงใจแห่งวิหคเพลิงที่จะทำให้พลังทั้งหมดของวิหคเพลิงนั้นเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าความเสียหายที่ได้รับลดลงไป 1 เท่า การใช้พลังงานในเคล็ดวิชาต่างๆจะลดลงไปอีก 2 เท่า เป็นเคล็ดวิชาติดตัวไม่ใช้พลังงานใดๆ

 

เดชวิหคเพลิง: พลังอานาจเหนือวิหคชนิดอื่นที่ไม่ใช่วิหคเพลิง สามารถลดพลังของเป้าหมายลงไปได้ 10%

 

ในตอนนี้วิหคเพลิงมีพลังมากกว่า 800 เต่ำ มันเป็นสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าวิหคเพลิงนรกานต์นั้นถือว่าทรงพลังหรือไม่แต่เขาก็รู้สึกพึงพอใจกับมัน

 

เขารู้ว่านี้เกิดจากผลผลึกวชิระ น่าเสียดายที่มังกรไอยราเกล็ดทองคำและสัตว์อสูรตัวอื่นๆนั้นไม่อาจกินมันได้อีก ยิ่งสัตว์อสูรพรรสวรรค์มากเท่าไร่ผลผลึกวชิระก็จะส่งผลได้มากขึ้นเท่านั้น

 

สุกท้ายแล้วชิงสุ่ยก็มีสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เป็นของตนเอง เขาบอกได้เลยว่าวิหคเพลิงนรกานต์ในตอนนี้นั้นทรงพลังอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่น่ากลัวไปกว่านั้นความสามารถในการับการโจมตี หากเขาไม่มีทักษะวชิระจู่โจม ชิงสุ่ยเองก็คงไม่อาจทำให้มันบาดเจ็บได้

 

เผ่าวิหคเพลิงนั้นเหมือนกับลูกรักของพระเจ้า มันได้รับการอวยพรจากพระเจ้าอยู่เสมอ ดังนั้นในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถเรียกวิหคเพลิงนรกานต์ออกมาในการต่อสู้ได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ

 

ชิงสุ่ยยังไม่ได้ตรวจสอบเคล็ดวิชาสวรรค์ของมัน ชิงสุ่ยรีบครวจสอบทันที

 

เพชณฆาต 9 วิญญาณ!

 

มันยังคงเป็นเพชณฆาต 9 วิญญาณ!

 

เพชณฆาต 9 วิญญาณ: เพิ่มความเสียหายของผผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป ภายใต้ผลของเพชณฆาด 9 วิญญาณพลังงานที่ผู้ใช้ต้องใช้นั้นจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า สามารถใช้ได้วันละครั้ง

 

ชิงสุ่ยตกตะลึงไป นี่คือสิ่งที่ทำให้วิหคเพลิงนรกานต์นั้นน่าลกัวอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับเพชณฆาด 9 วิญญาณแล้วทักษะวชิระจู่โจมของชิงสุ่ยนั้นทรงพลังมากกว่า น่าเสียดายที่มันใช้ได้เพียงวันละครั้งเพชณฆาต 9 วิญญาณนั้นใช้ได้เพียงหนึ่งก้านธูป แต่เวลาหนึ่งก้านธูปนั้นก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้แล้ว

 

พลัง 8000 เดำเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป…….ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง…

 

ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง วิหคเพลิงนรกานต์ร้องเสียงแหลมออกมาขณะบินไปรอบๆชิงสุ่ย พลังของมันในตอนนี้เหนือกว่ามังกรไอยราเกล็ดทองคำและอสูรอัสนีคลั่งเสียอีก

 

นอกจากนี้เพลิงอสูร 9 วิญญาณนั้นยังทำให้มันเหนือกว่าผู้ใด

 

เพลิงอสูร 9 วิญญาณนั้นสามารถเผลาผลาญทุกๆสิ่งให้หายไปจนหมดสิ้นได้

 

ชิงสุ่ยไม่เคยลองว่าเขาสามารถเผาอสูรสยบมังกรได้หรือไม่ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าอสูรสยบมังกรนั้นจะหวาดกลัววิหคเพลิงนรกานต์ ในตอนนี้วิหคเพลิงนรกานต์นั้นทรงพลังอย่างยิ่งจนชิงสุ่ยก็รู้สึกอิจฉา

 

วิหคเพลิงนรกานต์นั้นกำเนิดขึ้นมาภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ สมบัติเพียงอย่างเดียวของมันนั้นคือต้นอู่ทงขนาดใหญ่

 

ในตอนนี้ร่างกายของอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+