Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย 438

Now you are reading Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย Chapter 438 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชูฮันที่อยู่ในรถจี๊ปกระพริบตาอย่างเย็นชา เขาจ้องไปที่ทหารคนนั้นอย่างโหดร้าย อยากจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ใช่มั้ย?

 

“มีกี่คนในกลุ่มตอนนี้ที่ภักดีกับนาย?” หวังไคถามขณะกินไปด้วย

 

“ศูนย์” น้ำเสียงของชูฮันเย็นเฉียบ

 

“หึ! ไม่มีสักคนในจำนวนสองร้อยคนที่สามารถพาไปค่ายได้?” แม้แต่หวังไคยังเยาะเย้ย อัตราส่วนนี้มันเกินไป

 

ชูฮันเอามือตบเก้าอี้เบาๆพยายามคิดบวก “มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นอะไร อีกอย่างมันพึ่งผ่านมาแค่สองวันเอง มันยังไม่มีเหตุการณ์อะไรให้พวกเขารู้สึกเคารพบูชาฉัน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนจำเป็นต้องมีเหตุการณ์มากระตุ้นมันถึงจะสามารถผลิตอารมณ์ที่แตกต่างได้”

 

ส่วนสถานการณ์ด้านนอก หลี่บี๋เฟิงกำลังมีสีหน้าแข็งๆตามมาด้วยสายตาสงสัยกับเรื่องที่ได้ยิน

 

เฉินเสี้ยนกาวเองก็มีความกังวล ในความคิดของเฉินเสี้ยนกาวผู้ชายที่พูดขึ้นมาเมื่อกี้ก็พูดถูกแล้ว เฉินช่าวเย่และติงเซวจริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย

 

เมื่อได้เห็นสีหน้าของเฉินเสี้ยนกาวและเยวจึ คนไม่กี่คนที่ยืนขึ้นและต้องการจะขอโทษก็ไม่สามารถมองหาเห็นเหตุผลได้เช่นกัน พวกเขาแทบจะเห็นการปฏิสัมพันธ์เกือบเป็นศูนย์ระหว่างเฉินช่าวเย่และติงเซวตลอดสองวันที่ผ่านมา มันจึงทำให้พวกเขาทั้งช็อคและตามมาด้วยอารมณ์โกรธต่อเฉินช่าวเย่

 

“ไม่ได้เป็นคู่รักกัน? นี่ท่านกำลังหลอกพวกเราเหรอ?”

 

“จะเป็นคู่รักกันได้ยังไง แตกต่างกันเกินไป ถ้าบอกว่าเป็นพี่น้องยังดีซะกว่า?”

 

“พวกเราขอเหตุผลที่เชื่อถือได้หน่อย ท่านอย่ากลืนน้ำลายตัวเองละ!”

 

“พวกเราทุกคนเป็นวิวัฒนาการกันหมด ท่านอยากจะปกป้องไอ้คนพวกนี้มากจนถึงกับฆ่าทหารด้วยกัน แล้วตอนนี้ยังจะให้พวกเราขอโทษผู้หญิงที่ไม่ใช่วิวัฒนาการอีกด้วยซ้ำเนี่ยนะ?”

 

“นี่วิวัฒนาการมีค่าเป็นขยะในทีมของชูฮันงั้นเหรอ?”

 

“ท่านใช้อะไรมาแบ่งลำดับความสำคัญกัน?”

 

“นี่มันไม่มีกฎในทีมนี้เลยเหรอไง? ท่านอยากจะฆ่ายังไงก็ได้ตามใจชอบ?”

 

“ถ้างั้นเราก็ฆ่าท่านเหมือนกัน ในเมื่อเราไม่มีอะไรจะเสีย!”

 

เสียงแห่งความโกรธเริ่มปะทุออกมาเรื่อยๆ

 

“หุบปากซะ!” เฉินช่าวเย่ตะโกนใส่เสียงดัง “ฉันบอกว่าเธอเป็นภรรยาฉันก็คือภรรยาฉัน!”

 

“ถ้างั้นทำไมพวกคุณไม่นอนด้วยกัน?” มีคนถามขึ้นมาทันที

 

เฉินช่าวเย่ยังคงปล่อยจิตสังหารออกมา “แกคิดว่าแกอยู่ในหน่วยทหารธรรมดางั้นเหรอ? นี่มันหน่วยพิเศษ ฉันและภรรยาถือเรื่องของทีมก่อนเป็นที่หนึ่งและเรื่องส่วนตัวไว้ทีหลัง!”

 

พอเฉินช่าวเย่พูดจบ ทุกคนก็เงียบสนิท หลี่บี๋เฟิงยืนอึ้งขณะมองไปที่เฉินช่าวเย่ที่พูดคำพูดอันน่าชอบธรรมออกมา…ไม่มีใครสามารถค้านเหตุผลนี้ได้แน่ๆ

 

เฉินเสี้ยนกาวและเยวจึเองก็อึ้ง ทุกคนตะลึงกับคำพูดของเจ้าอ้วนที่ทำเป็นแต่กินไปวันๆ

 

“พวกแกต้องการจะทำอะไรกับภรรยาของฉัน? ยังมีความเป็นคนอยู่มั้ย? งั้นพวกแกก็ไม่ต่างอะไรกับซอมบี้ที่พวกแกฆ่า?” เฉินช่าวพยายามใช้สำนวนในการโน้มน้าวคนแบบเดียวกับที่ชูฮันทำในห้องประชุม ทำให้ทุกคนที่ได้ฟังพูดหรือเถียงอะไรไม่ออก

 

หวังไคที่อยู่ในรถจี๊ปอดไม่ได้ที่จะปรบมือ ชูฮันเองก็ประหลาดใจที่ได้เห็นเจ้าอ้วนเป็นแบบนี้ ฉลาดดี!

 

และในขณะที่กลุ่มทหารโดนความยุติธรรมของเฉินช่าวเย่จัดการจนพูดอะไรไม่ออก จู่ๆมันก็มีบางอย่างพุ่งมาในอากาศอย่างรวดเร็วไปที่ด้านหลังของกลุ่มทหาร

 

ฟิ้วววว! เลือดไหลทะลักออกมาตรงลำคอของนายทหารคนหนึ่ง ไม่กี่วินาทีต่อมาหัวที่หลุดของนายทหารคนนั้นก็ตกกระทบกับพื้น สีหน้ายังคงค้างไว้ที่อาการอึ้งกับคำพูดของเฉินช่าวเย่อยู่เลย

 

เฉินเสี้ยนกาวและเยวจึที่เห็นเหตุการณ์ช็อคค้าง ส่วนนายทหารเกือบสองร้อยนายยังคงไม่ได้สติและอึ้งค้างกับคำพูดของเฉินช่าวเย่อยู่ เสียงของเลือดที่ไหลกระเซ็นและเสียงของศีรษะที่กระทบพื้นที่ไม่ได้ดังอะไรทำให้เหล่าทหารไม่ได้ยิน เพราะฉะนั้นมันจึงมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สังเกตเห็นว่ามันมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นและเมื่อหันกลับไปดูและก็ต้องช็อค

 

“อ๊ากกกกกก! ซอมบี้!” คนหนึ่งแหกปากดังลั่น

 

“ถอยเร็ว! ซอมบี้กำลังมา!” กลุ่มคนเริ่มแหกปากกันสนั่น

 

นายทหารที่ยืนอยู่หลังสุดและไม่ได้ยินเสียงมองไปที่ความวุ่นวายด้านหน้าอย่างไม่เข้าใจ จากนั้นเขาก็รู้สึกถึงน้ำที่กระเซ็นมาโดนตัวเองจึงเอื้อมมาไปแตะดูที่หลังคอตัวเองพลางคิดว่ากระติกน้ำน่าจะแตก

 

เขาจึงชักมือกลับมาดู จากนั้นสายตาก็พลันเปลี่ยนเป็นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

มือของเขาเต็มไปด้วยเลือด!

นัยน์ตาดำหดตัวอย่างรุนแรง กลไกการทำงานอัติโนมัตของร่างกายสั่งให้หันตัวไปด้านข้าง ตามมาด้วยเสียงแหกปากร้องที่เต็มไปด้วยความกลัว “อ๊ากกกกกกกก!”

 

ซอมบี้!

 

ซอมบี้ตัวใหญ่ยักษ์ยืนอยู่ด้านหลัง เล็บของมันแหลมคมเช่นเดียวกับเคี้ยวที่คมกริบและดูแข็งแรงอย่างมาก ถึงแม้ผิวจะซีดเซียวแต่เห็นได้ชัดว่าภายใต้นั้นเป็นกล้ามเนื้อที่แน่นและแข็งแรง ภายในปากของเจ้าซอมบี้กำลังเคี้ยวเนื้อของมนุษย์ในปากอยู่ แม้แต่กระดูกก็ยังถูกมันกลืนลงท้องไปจนไม่เหลือ มันแทะกินร่างของนายทหารคนนั้นจนแทบจะไม่เหลือซากอย่างน่าสยดสยอง!

 

มันไม่มีเสียงของการมาของซอมบี้เลยสักนิด แม้แต่ตอนที่มันกำลังกินและเคี้ยวกระดูก กลับเงียบสนิท ไม่มีใครรู้เลยว่ามันมาจากไหน…

 

เมื่อได้ยินเสียงแหกปากดังสนั่นเกินเหตุของคนหนึ่ง ทุกคนที่อยู่ด้านหน้าจึงรีบหันหน้ามาดูที่ด้านหลังทันที

 

“ซอมบี้ระยะ 4?!” เสียงของหลี่บี๋เฟิงดังขึ้น ถ้ามันไม่ใช่ซอมบี้ระยะ 4 ละก็ ไม่มีทางที่เหล่าวิวัฒนาการอย่างพวกเขาจะไม่รับรู้ถึงการลอบโจมตีอย่างไม่มีเสียงแบบนี้

 

ซอมบี้ระยะ 3 เริ่มมีร่องรอยของการคิด พวกมันเริ่มมีความฉลาดเมื่อเทียบกับมนุษย์ แต่ถ้าเทียบกับสัตว์ถือว่าพวกมันมีความฉลาดล้ำเลิศเลยทีเดียว พวกมันรู้ว่าต้องย่องเบา ห้ามลงน้ำหนักเท้า ห้ามส่งเสียง รู้แม้กระทั่งว่าต้องลอบโจมตี นี่คือสิ่งที่หลี่บี๋เฟิงได้ยินข่าวมาจากในซางจิงเกี่ยวกับซอมบี้ระยะ 4

 

และในขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในอาการแตกตื่น จู่ๆพื้นดินที่ยืนอยู่ก็เริ่มมีความสั่นสะเทือนเกิดขึ้น หิมะที่เกาะอยู่บนกิ่งก้านต้นไม้เริ่มตกลงมา

 

ต่อหน้าสายตาของทุกคน ภาพของแยกถนนข้างหน้าที่ห่างไกลออกไปจู่ๆก็ล้นไปทะลักไปด้วยจุดสีดำเต็มไปหมดที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆและตามมาด้วยเสียงคำรามที่ไล่ๆกันมา!

 

ฝูงซอมบี้!

 

ฝูงซอมบี้ขนาดใหญ่กำลังมุ่งหน้าเข้ามาโดยไม่ทราบจำนวน พวกมันเริ่มเข้ามาใกล้ทุกคนขึ้นเรื่อยๆ และเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ!

 

เจ้าซอมบี้ระยะ 4 ได้กินทหารไปแล้ว 3 นาย เคี้ยวขนาดใหญ่และแหลมคมของมันกัดเข้าที่คนตรงหน้าอย่างแรงและกระชากจนร่างขาด

 

พรึบ! ชึก!

มันเคี้ยวหนักๆและกลืนลงคอไป!

 

“หนีเร็ว! ฝูงซอมบี้มา! ฝูงซอมบี้มาแล้ว!”

 

ทันใดนั้นทุกคนก็ตกอยู่ความตระหนกและโกลาหล เสียงแหกปากกรีดร้องดังสนั่นไปทั่ว บางคนถึงกระทั่งขโมยของที่จำเป็นและหาที่ซ่อนตัว วิ่งวุ่นกันไปทั่วจนสถานที่เละเทะไปหมด ข้าวของกระจุยกระจายอย่างไร้ซึ่งความอับอายต่อชุดเครื่องแบบที่ทหารที่สวมใส่อยู่เลย…

 

ไม่มีการตอบโต้ ไม่มีการขัดขืน ไม่มีความเหนียวแน่นของพวกพ้อง!

 

“มีแต่พวกแมลงสาบ!” ชูฮันบ่นและเลิกผ้าม่านขึ้นไปอีก สายตาของเขายังคงเย็นชาและไร้ความปราณี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด