Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย 661 ต้องดึงปีศาจมากำจัดปีศาจ

Now you are reading Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย Chapter 661 ต้องดึงปีศาจมากำจัดปีศาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ควันท่ีไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร จู่ๆก็ลอยฟุ้งขึ้นมาในพื้นที่ของค่ายเถาจิน ในขณะที่เถาจินกำลังรับมือกับเหตุการณ์ในถนนซ่องอยู่ ชูฮันและฟานเจี้ยนก็เริ่มทำการกวาดล้างคนในคฤหาสน์ของเถาจิน

 

ฟานเจี้ยนแม้จะเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 หากเขาไม่สามารถห้ามความคลั่งของชูฮันได้เลย ชูฮันที่ระเบิดพลังออกมาเต็มที่นั้นทำให้คนและทหารในคฤหาสน์ของเถาจินที่อยู่รอบๆเกิดความหวาดกลัว ยิ่งทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันมา พลังอำนาจที่แผ่กระจายจึงยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก ภายในเวลาไม่ถึงชั่วขณะ เหล่าทหารมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ในคฤหาสน์เถาจินก็ไม่มีใครเหลือรอดชีวิตไปได้ เมื่อเทียบกับการนองเลือดในถนนซ่อง ที่นี้ต่างหากคือการสังหารหมู่ที่แท้จริง เลือดไหลนองรวมกันจนเป็นแม่น้ำ!

 

ศพทั้งหลายกระจัดกระจายเต็มไปทุกจุด เลือดสีแดงสาดกระเซ็นจนส่งกลิ่นคาวเหม็นคละคลุ้งในอากาศ

 

และเป็นเพราะลักษณะนิสัยของคนในค่ายเถาจินที่มักส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายดังสนั่นทั้งวันทั้งคืนอยู่แล้ว เหล่าทหารบางคนจึงไม่รับรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น นั่นจึงทำให้ชูฮันสามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย พอจัดการคนตรงนี้เสร็จก็ย้ายไปที่ต่อไปเรื่อยๆ เปิดประตูเข้าไปห้องและฆ่าทันทีโดยที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว

 

ในเวลาเดียวกัน เพราะการหมุนเวียนไล่ฆ่าไปรอบตัวคฤหาสน์ เด็กทั้งหลายที่ทั้งถูกจับมาเป็นทาสก็ค่อยๆเริ่มปรากฏตัวออกมา พวกเขาได้แต่ยืนตะลึงดูภาพการสังหารอันโหดร้ายและสยดสยองจากชูฮันและฟานเจี้ยน

 

ไม่ใช่แค่เถาจินที่มีกลุ่มเด็กผู้หญิงถูกจับมาทรมานในบ้านตัวเอง แต่กลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับสูงของค่ายเถาจินเองก็ทำตัวไม่ต่างอะไรกับสัตว์เช่นกัน มีเด็กผู้หญิงถูกทรมานจนตายเป็นจำนวนมากในบ้านของเลห่ามนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับสูงพวกนี้ แถมส่วนใหญ่มีอายุเพียงแค่สิบปีเท่านั้น แม้กระทั่งบางบ้านก็มีเด็กผู้ชาย

 

ความปรารถนาและความมืดมนที่ต่ำสุดของมนุษย์ได้โหมกระหน่ำไปทั่วค่ายเถาจิน รสชาติของการลิ้มรสเด็กสาวสดใหม่นั้นทำให้พวกชั่วยิ่งพอใจและติดใจกับรสชาติที่ได้รับ พวกมันมีความสุขกับการได้ทรมานเด็กพวกนี้จนค่อยๆตาย แม้ชูฮันกำลังเข้าโจมตีทุกจุดเรื่อยๆ แต่ในบ้านหลังหนึ่งมันช้าไปเพียงนิดเดียวสำหรับเด็กสาวอายุแปดขวบคนนี้

เมื่อความปรารถนาในใจแปรเปลี่ยนเป็นการกระทำที่ระเบิดโพล่งออกมา สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในใจของมนุษย์ที่ถูกกักเก็บไว้ก็จะเผยออกมาให้เห็น ค่ายเถาจินคือสถานที่ที่สกปรก มันคือที่ที่ความชั่วที่ลึกที่สุดในจิตใจของมนุษย์แสดงออกมาให้เห็น ถ้ายังปล่อยให้มีคนแบบนี้อยู่ต่อไปมันก็จะเหมือนกับเนื้อร้ายที่ค่อยๆแพร่กระจายไปทั่วร่าง

 

ชูฮันไม่ใช่คนใจอ่อน เขาไม่ใช่คนที่มาตัดสินการกระทำของใครว่าใครดีใครเลว เขาไม่ได้มีความต้องการที่จะมาไล่ฆ่าคนที่ค่ายเถาจินอย่างนี้เลยสักนิด หากตอนนี้เนื้อตัวของชูฮันเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของคนที่เขาฆ่า ตัวใบมีดของขวานซิ่วโหลก็อาบไปด้วยน้ำเลือดแดงสดจนมองไม่เห็นสีเดิม

 

นี่แหละคือการสังหารหมู่ที่แท้จริง!

 

ทันทีที่แสงแรกของเช้าวันใหม่สาดส่องไปทั่วทั้งโลก ใจกลางของค่ายเถาจินซึ่งก็คือที่พักของเถาจินมีแต่เลือกแดงฉานปรากฏสู่สายตายของคนที่มองมา ศพจำนวนมากของเหล่ามนุษย์สายพันธุ์ใหม่นอนกองกันอยู่ที่พื้น ชูฮันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาเดินเข้าไปในห้องทั้งๆที่เสื้อผ้าเละเทะ พาเด็กผู้ชายและผู้หญิงทั้งหลายที่หวาดกลัวออกมา

 

คนชั่วถูกฆ่า ชูฮันต้องการให้เด็กพวกนี้เห็นด้วยตาตัวเอง เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ เขาเพียงแค่ทำลายทุกอย่างให้พวกเด็กๆได้เห็น

 

ไม่เพียงแค่เด็กๆพวกนี้จะเกิดความสับสน แต่ชูฮันเองก็สับสนกับตัวเองเหมือนกัน

 

มองไปที่ใบหน้าเยาว์วัยทั้งหลายของเด็กพวกนี้ ทันใดนั้นชูฮันก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันที ทำไมมันถึงมีเรื่องชั่วแบบนี้เกิดขึ้น? มีอีกกี่ชีวิตกันที่ต้องถูกย่ำยีและทรมานอย่างนี้? พวกเขาถูกทำร้ายอย่างหนักทั้งจิตใจและร่างกายจนอาจกลายเป็นบ้าไปเลยก็ได้ แม้ตอนนี้พวกเขาจะรอดแล้วแต่ถึงอย่างไรความเจ็บปวดก็ยังคงฝังลึกในใจไม่มีวันเลือน

 

หลังจากผ่านไปนานแล้ว เมื่อเด็กพวกนี้เติบโตขึ้น อาจเป็นหลังจากนี้อีกสิบปี พวกเขาอาจจะยึดครองโลกที่ที่พวกเขาเกลียดชังเพราะความทรมานและเลวร้ายที่เคยเจอในตอนเด็ก?

 

ชูฮันไม่อยากจะคิดเลย…

 

นี้แหละคือโลกที่ทุกอาศัยอยู่ โลกที่ไม่มีแสงสว่าง มีแต่ความมืดที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อย

 

ฟานเจี้ยนยืนนิ่งๆเงียบๆ แววตาของเขาบ่งบอกทุกอย่างขณะมองไปที่เด็กทั้งหลายที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่อยากจะคิดภาพเลยว่าเด็กพวกนี้ที่สามารถเอาชีวิตรอดหนีพ้นซอมบี้มาได้และเข้ามาหลบหนีในค่ายด้วยความรู้สึกปลอดภัย แต่แล้วกลับต้องโดนทรมานทั้งเป็นแบบนี้ จิตใจของทุกคนจะเป็นอย่างไรบ้าง?!

 

เด็กกลุ่มนี้ถูกทำลายโดยไม่มีใครช่วยเหลือ แม้ตอนนี้เขาและชูฮันจะช่วยเด็กพวกนี้ออกมาแล้ว แต่จิตใจของเด็กเหล่าก็ไม่สามารถกอบกู้กลับมาได้

 

“อยากจะแก้แค้นมั้ย?!” เสียงที่แฝงไปด้วยความกดขี่และอำนาจของชูฮันดังขึ้น ชูฮันตอนนี้ดูไม่ต่างอะไรกับคนคลั่ง เส้นเลือดปูดขึ้นชัดตามอารมณ์ที่เดือดดาล

 

ฟานเจี้ยนตะลึงค้างอย่างตกใจจัด เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจู่ๆชูฮันถึงถามคำถามแบบนี้ขึ้นมา เด็กชายและเด็กหญิงที่ยืนอยู่บนถนนต่างสับสนและงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น บางคนที่เข้าใจก็เริ่มมีสีหน้าและแววตาเปลี่ยนไป มันกลายเป็นความรุนแรงและความเคียดแค้นปรากฏให้ชูฮันเห็น

 

“บอกฉันมา พวกเธออยากจะแก้แค้นมั้ย?!” ชูฮันตะโกนถามคำถามเดิมขึ้นอีกครั้งจนมันดังก้องไปทั่วทั้งถนนที่เงียบสงัด “ฉันไม่อยากจะฆ่าพวกที่ทำทารุณพวกเธอแบบธรรมดา พวกเธออยากปล่อยให้พวกคนที่ทำร้ายพวกเธอตายโดยไม่ต้องมีโอกาสได้ฝังศพมั้ย?!”

 

ทันใดนั้นทั้งถนนก็เต็มไปด้วยเสียงสะท้อนคำพูดของชูฮัน เด็กขี้อายบางคนหวาดกลัวคอยต้องซ่อนตัวอยู่หลังประตูแอบลอดมองมาที่กลางถนนด้วยความตระหนก เสียงของชูฮันเหมือนแสงสว่างที่สาดส่องเด็กหลายคนที่ด่ำดิ่งอยู่ในความมืด ความเกลียดชังอัดแน่นอยู่ในแววตาของหลายคน ความแค้นสุมแน่นอยู่ในอก

 

“อยากใช่มั้ย? แน่นอนว่าฉันจะให้พวกมันตายโดยไม่มีโอกาสที่จะได้ฝังศพ ฉันจะให้ไอ้พวกชั่วพวกนี้ได้ลิ้มรสชาติของความทรมาน!”

 

หากไม่มีใครกล้าพูดหรือเคลื่อนไหวใดๆ เด็กๆเหล่านี้ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ พวกเขาไม่สามารถเชื่อใจใครได้อีก แม้ชูฮันจะฆ่าทุกคนจนเลือดไหลเป็นแม่น้ำตรงหน้า แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถลดความระแวงซึ่งเป็นเกราะป้องกันตัวเองลงได้

 

ทันใดนั้นชูฮันก็ก้าวเท้าออกมา เดินเข้ามาหาเด็กชายตัวน้อยที่กำลังหวาดกลัวคนหนึ่ง เนื้อตัวสั่นเทิ้ม แววตาดำลึกสนิทของชูฮันมีประกายบางอย่างและจู่ๆเขาก็ดันตัวเด็กชายออกมาที่กลางถนน

 

“ชูฮัน นายจะทำอะไร?” ฟานเจี้ยนตกใจกับการกระทำของชูฮันและโพล่งถามออกมาทันที

 

เด็กชายตัวน้อยกลัวจนฉี่จะราด หน้าตาซีดเผือด เช่นเดียวกับเด็กทุกคนรอบๆที่เริ่มเกิดความกลัวและระแวงขึ้นมา ทุกคนรีบหาที่ซ่อนตัวกันใหญ่

 

ชูฮันที่ไม่ตอบคำถาม จู่ๆก็หยิบดาบยาวที่พื้นขึ้นมา เขายัดมันเข้าไปในมือของเด็กชาย จากนั้นก็เตะเท้าใส่ร่างของชายคนหนึ่งที่นอนอยู่ตรงใกล้เท้าเขาและหันหน้ากลับมาจ้องเด็กน้อย

 

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคลั่งเอ่ยถามเด็กน้อย “เกลียดมันมั้ย? มันทำอะไรกับหนูก่อนที่ฉันจะเข้าไปช่วย?”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟานเจี้ยนก็ชะงัก หัวใจหยุดเต้นไปครู่หนึ่ง เขาจ้องเขม็งไปที่ชูฮันด้วยความสยอง นี่ชูฮันบ้าหรือเปล่า?

 

เด็กชายตัวน้อยเริ่มโกรธจัดเพราะคำถามของชูฮัน ตาแดงก่ำอย่างโมโห ความชั่วร้ายเริ่มเผยตัวออกมาให้เห็นในสีหน้าและแววตา ดาบในมือถูกกำแน่นจนตัวสั่น

 

เสียงที่เย็นชาของชูฮันดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่ได้พูดกับเด็กชายตัวน้อยแค่คนเดียว แต่เขาพูดกับเด็กทุกคนในที่นี้ “วันนี้ฉันบอกความจริงพวกเธอให้ฟัง ในโลกตอนนี้การห่าคนไม่ใช่การทำผิดกฏหมายอีกต่อไป! ตามหาศัตรูของพวกเธอและแทงเข้าไปที่หน้าอกของมัน ตัดลิ้นและควักลูกตามันออกมา และทิ้งให้มันตายอย่างทรมาน! ในโลกาวินาศ ใครที่มันทำร้ายเรา เราต้องเอาเอาคืนกลับไปเป็นสิบเท่าให้สาสม!”

 

คำพูดของชูฮันนั้นคือความจริงและเป็นการกระตุ้น มันคือการยุยงเด็กพวกนี้ เด็กที่โตที่สุดนั้นสิบแปดปี ส่วนที่เด็กที่สุดอายุเพียงแค่เจ็ดขวบเท่านั้น แต่ชูฮันกลับบอกให้พวกเขาฆ่าคนอยากโหดเหี้ยม

 

ในโลกนี้เราไม่สามารถพึ่งพาใครได้ ถ้าอยากจะอยู่รอด เราต้องดึงปีศาจในตัวออกมา!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด