Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย 685 เด็กหนุ่มแปลกหน้า

Now you are reading Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย Chapter 685 เด็กหนุ่มแปลกหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 685 เด็กหนุ่มแปลกหน้า

 

น้ำเสียงของชายหนุ่มแปลกหน้าขัดกับอารมณ์ภายในห้องประชุมในขณะนี้อย่างสิ้นเชิง สายตาของทุกคนเบนจากจวงฮงและอี้มาที่ชายหนุ่มที่เงยหน้าขึ้นมาเป็นครั้งแรก

 

เพียงแค่สายตาของเด็กหนุ่มที่มองมา หัวใจของทุกคนก็แทบหยุดเต้น หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คนคนนี้คือใคร หากเพียงแค่สายตากลับทําให้พวกเขารู้สึกเสียววาบและขนลุกได้แล้ว

 

ในตอนแรกที่เห็นผมที่ถูกย้อมด้วยสีน้ำตาลเหลืองมันก็น่าประหลาดใจตั้งแต่แรกแล้ว ถึงอย่างไรแล้วด้วยเพราะเงื่อนไขมากมายในโลกาวินาศที่แตกต่างไปจากยุคก่อนอย่างสิ้นเชิงมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะย้อมผมในโลกาวินาศเช่นนี้ได้ หลายๆคนจึงเหลือเพียงแค่สีปลายผมที่ทิ้งไว้มาตั้งแต่ยุคศิวิไลซ์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะคนละกรณีกันเลย

 

เพราะนัยน์ตาของเด็กหนุ่มก็เป็นสีน้ำตาลเหลือง สว่างประกายราวกับหลอดไฟ!

 

แม้มันจะน่าอาย แต่มันยากที่จะปฏิเสธเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มคนนี้ ถ้าซูฮันอยู่ ที่นี้ ซูฮันจะต้องเรียกเด็ดหนุ่มคนนี้ว่า “หนุ่มหน้าสวย”

 

ทันทีที่ได้เห็นรูปลักษณ์ของหนุ่มคนนี้ ความคิดแรกที่เข้ามาหาในหัวทุกคนก็ ต่างชาติ?  

 

แต่แล้วพวกเขาก็ต้องรีบปัดความคิดนี้ทิ้งทันที เพราะมันชัดเจนว่าเด็กหนุ่มคนนี้เกิดในจีน แน่ๆ ยกเว้นแค่สีผมและสีตาที่แตกต่างจากคนจีนอย่างเห็นได้ชัด

 

ประหลาด!

 

คือใครกัน?

 

เด็กหนุ่มได้ดึงความสนใจของทุกคนในประชุมไปทันที หากตัวเด็กหนุ่มเองกลับไม่แยแสเลยสักนิดกับสายตาของหลายคนที่มองมาราวกับว่าเขาไม่ว่ากําลังถูกทุกคนจับจ้องอยู่ เขาสนใจเพียงแค่จวงฮงและอี้เท่านั้น

 

เกาหัวยุ่งๆเหมือนกับรังนกของตัวเองขณะมองไปที่จวงฮงและอี้อย่างสงสัย สักพักเขาก็ยิ้มุม ปาก “คุณสองคนออกไปสู้กันข้างนอก ฉันจะนอนต่อ แล้วก็ช่วยเลิกส่งเสียงดังกันซะที ฉันต้องการนอน”

 

ทันทีที่เด็กหนุ่มคนนี้พูดออกมา คนส่วนใหญ่ในห้องประชุมนิ่วหน้าคิ้วขมวด เด็กหนุ่มคนนี้มาทําอะไรที่นี้ แล้วเขารู้ตัวมั้ยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน? พูดจาอย่างกับเป็นพระราชา!

 

อย่างไม่คาดคิด ทันทีที่เด็ดหนุ่มคนนี้พูดจบ อี้ที่จับจวงฮงล็อคพร้อมกับมีดจ่อคลายอยู่ก็ได้แรงที่แขนออก แม้แต่มือที่จับมีดอยู่ก็สั่นระริกจนมีดตกลงไปกับกระแทกพื้น สีหน้าของอี้ดูเหมือนกําลังเจ็บปวดเกินกว่าจะทนไหว เหงื่อซึมเต็มใบหน้า ลูกตาสั่นไหวไปมา เหมือนพยายามจะฝืนแรงบางอย่างอยู่ ร่างกายสั่นน้อยๆเหมือนกับดูแรงกดบางอย่างหรือกําลังหวาดกลัวอะไรอยู่

 

ภาพแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันทําให้ทุกคนยิ่งงุนงง มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา?

 

ฟรึบ!

 

ทั้งเขี้ยวมังกรและฟานรีบวิ่งเข้าไปหาอี้ที่กําลังจะล้มลงทันที ในขณะเดียวกันเขี้ยวมังกรก็ตะคอกระเบิดความเดือดออกมา “แกทําอะไรอี้?!”

 

ไม่มีใครตอบ และการที่อี้มีท่าทางผิดปกติทันทีหลังจากที่เด็กหนุ่มแปลกหน้าคนนี้พูดจบ มันจึงแสดงว่าเด็กหนุ่มแปลกหน้าคนนี้จะต้องทําอะไรสักอย่างแน่ๆ!

 

และสิ่งที่ทําให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ—- 

 

เฮือก! เฮือก!

 

เสียงเล็กๆเบาๆสองเสียงดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

 

พ้ะ! พ้ะ!

 

ร่างของเขี้ยวมังกรและฟานปลิวออกไปพร้อมกัน ร่างของทั้งคู่ๆกระแทกเข้ากับประตูด้านหลังอย่างแรงพร้อมๆกัน ประตูหลุดและล้มหงายตึงทันที แสดงให้เห็นถึงพละกําลัง มหาศาลของอีกฝ่าย

 

คนที่สามารถจัดการคนที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามคนของทีมหลงยาได้ภายในพริบตานั้นก็คือ ชายหนุ่มแปลกหน้าที่นั่งอยู่ที่เดิมนั่นเอง ไม่มีใครมองเห็นการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มเลย เขี้ยวมังกรและฟานลอยกระเด็นไปแบบนี้ คนอื่นๆไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าชายหนุ่มคนนี้คลั่งขึ้นมา คนที่ต่อต้านจะมีสภาพเป็นอย่างไร

 

จวงฮงยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิมเหมือนคนโง่ เขาทั้งวิตกและหวาดกลัว แววตาที่จ้องชายหนุ่มแปลกหน้าข้างตัวนั้นอัดแน่นไปด้วยความกลัว

 

บรรยากาศภายในห้องประชุมกลับเข้าสู่ความตึงเครียดอีกครั้ง ลมหายใจของชายหนุ่มแปลกหน้าที่อัดแน่นไปด้วยความกดดันแพร่กระจายไปทั่วห้อง มุมปากยกยิ้มขึ้นชัดเจนกว่าเดิม เขาลุกขึ้นยืนเผยท่าทางอวดดีและเต็มไปด้วยอํานาจ เขาสวมรองเท้าหนังสวยงามที่สะดุดตาและมีเอกลักษณ์อย่างมาก ถ้าใครในที่นี้รู้จักของโบราณจะต้องตกใจอย่างมาก เพราะรองเท้าคู่นี้มีอายุมากกว่า 5,000 ปี

 

น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม “โอ้ ฉันต้องการความเงียบ แต่คุณสองคนเอาแต่ส่งเสียงดังน่ารําคาญ คิดจะหาเรื่องฉันหรือไงถึงไม่ฟัง คิดจะทําอะไร?”

 

ในตอนนี้ เขี้ยวมังกรและฟานที่โดนอัดลอยกระเด็นไปก่อนหน้านี้ กําลังนอนกระอักเลือดอยู่ที่พื้น ทั้งคู่พยายามจะตะกายตัวขึ้นยืนอย่างยากลําบาก พวกเขามองไปที่ชายหนุ่มแปลกหน้าอย่างค้นหาเพราะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังผันผวนของอีกฝ่าย เนื่องจากชายหนุ่มแปลกหน้าได้ ซ่อนเอาไว้ คนคนนี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน พวกเขาสามคนเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 แท้ๆ 

 

จุนจื่อและจุ้ยชูกําลังอยู่ในสภาวะตึงเครียด ทั้งคู่ที่เป็นสมาชิกของทีมฮูหยาคิดไม่ตกว่ามันเกิดอะไรขึ้น หากทั้งคู่ก็เดินออกมาบังเขี้ยวมังกรและอี้เอาไว้อย่างปกป้องเป็นครั้งแรก

 

เหอเฟิงที่ความมืดพรางตัวเขาเอาไว้และเป็นที่รู้จักในฐานะกัปตันของทีมฮูหยารู้สึกเลือดร้อนขึ้นมาทันที เขารับรู้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้เดินเข้ามาในห้องแล้วว่าจะต้องไม่ธรรมดา เหอเฟิงมักจะสามารถเดาตัวตนของคนที่พบเจอได้จากการมองแต่เหอเฟิงก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มแปลกหน้าจะทรงพลังได้ถึงขั้นนี้!

 

“ท่านครับ ให้ผมได้แนะนําท่านดีกว่าครับ” ในจังหวะนั้นเอง จวงฮงที่ได้สติกลับมา เขารีบระงับความกลัวในใจตัวเองเอาไว้ ฉีกยิ้มกว้างอย่างพยายามเอาใจชายหนุ่มแปลกหน้า จากนั้นก็หันไปพูดกับทุกคนด้วยท่วงท่าอวดๆ “นี่คือปรมาจารย์หนุ่มของตระกูลเกา เกาช้าวฮุย”

 

” ตระกูลเกา?”

 

เกือบจะทันที ทุกคนในห้องต่างมีท่าทิ้งงงวยกับชื่อที่ได้ยิน

 

“ทุกคนก็ได้เห็นพลังความสามารถของตระกูลเกากันไปแล้ว” จวงฮงไม่คิดจะอธิบายอะไรให้ทุกคนเข้าใจ หากกลับภูมิใจที่จะพูดต่อ “ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลเกาคอยช่วยฉันอย่างลับๆ ค่าย ซางจิงของเราก็คงไม่ได้ก่อตั้งเสร็จรวดเร็วขนาดนี้”

 

“ไม่ต้องชมกันขนาดนั้น” เมื่อได้ยินคําพูดประจบของจวงฮง เกาข้าวฮุยก็กรอกตาและเอ่ยถาม “แล้วตระกูลปายล่ะ?”

 

เมื่อได้ยินคําถามนี้ จวงฮงก็ชะงักทันที ตัวนิ่งค้าง

 

ส่วนคนในห้องส่วนใหญ่ที่กําลังงุนงงอยู่ในตอนแรก เมื่อได้ยินคําพูดล่าสุดของเกาช้าวฮุ่ยก็ช็อคทันที พวกเขาอาจจะไม่รู้จักตระกูลเกา แต่กับตระกูลปายนั้นมันคนละเรื่อง!

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล่านายทหารระดับสูงที่รู้เรื่องตระกูลปายดีนั้นชะงักค้างกันทันที มันชัดเจนว่าตระกูลเกาน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับตระกูลปาย คนระดับชื่อเสียงขนาดนี้มาปรากฏตัวที่นี้เนี่ยนะ?

 

รวมกับพลังเกาช้าวฮุ่ยพึ่งแสดงออกมาให้เห็น ความตกใจนั้นยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก แค่คนคน เดียวสามารถจัดการทีมหลงยาที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามคนได้อย่างง่ายๆ น่ากลัวเหลือเกิน!

 

ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงสบตากัน ทั้งคู่ต่างมีแววตาล้ำลึกที่มีความหมายเหมือนกัน…ไม่นึกเลยว่าจวงฮงจะเลือกไปอยู่กับตระกูลเกา

 

หลังจากความตกใจผ่านไป เกาช้าวฮุ่ยก็อ้าปากหาวกว้างและเคาะมือลงโต๊ะอย่างสุ่มๆ “รีบๆ ประชุมอะไรนี่ให้เสร็จสักที เร็วเข้า ฉันอยากจะอยู่เงียบๆ”

 

“ครับ! ครับ! ครับ!” จวงฮงรีบตอบเอาใจเกาช้าวฮุ่ยพร้อมยิ้มกว้างอย่างประจบ จวงฮงก้มหัวและพูดด้วยความเคารพ “เราได้คุยกันก่อนหน้านี้แล้วครับ?”

 

“อ่าาา…” เกาช้าวฮุ่ยกระพริบตา ท่าทางสับสน “ใครคือชูฮัน?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย 685 เด็กหนุ่มแปลกหน้า

Now you are reading Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย Chapter 685 เด็กหนุ่มแปลกหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 685 เด็กหนุ่มแปลกหน้า

 

น้ำเสียงของชายหนุ่มแปลกหน้าขัดกับอารมณ์ภายในห้องประชุมในขณะนี้อย่างสิ้นเชิง สายตาของทุกคนเบนจากจวงฮงและอี้มาที่ชายหนุ่มที่เงยหน้าขึ้นมาเป็นครั้งแรก

 

เพียงแค่สายตาของเด็กหนุ่มที่มองมา หัวใจของทุกคนก็แทบหยุดเต้น หลายคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คนคนนี้คือใคร หากเพียงแค่สายตากลับทําให้พวกเขารู้สึกเสียววาบและขนลุกได้แล้ว

 

ในตอนแรกที่เห็นผมที่ถูกย้อมด้วยสีน้ำตาลเหลืองมันก็น่าประหลาดใจตั้งแต่แรกแล้ว ถึงอย่างไรแล้วด้วยเพราะเงื่อนไขมากมายในโลกาวินาศที่แตกต่างไปจากยุคก่อนอย่างสิ้นเชิงมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะย้อมผมในโลกาวินาศเช่นนี้ได้ หลายๆคนจึงเหลือเพียงแค่สีปลายผมที่ทิ้งไว้มาตั้งแต่ยุคศิวิไลซ์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะคนละกรณีกันเลย

 

เพราะนัยน์ตาของเด็กหนุ่มก็เป็นสีน้ำตาลเหลือง สว่างประกายราวกับหลอดไฟ!

 

แม้มันจะน่าอาย แต่มันยากที่จะปฏิเสธเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มคนนี้ ถ้าซูฮันอยู่ ที่นี้ ซูฮันจะต้องเรียกเด็ดหนุ่มคนนี้ว่า “หนุ่มหน้าสวย”

 

ทันทีที่ได้เห็นรูปลักษณ์ของหนุ่มคนนี้ ความคิดแรกที่เข้ามาหาในหัวทุกคนก็ ต่างชาติ?  

 

แต่แล้วพวกเขาก็ต้องรีบปัดความคิดนี้ทิ้งทันที เพราะมันชัดเจนว่าเด็กหนุ่มคนนี้เกิดในจีน แน่ๆ ยกเว้นแค่สีผมและสีตาที่แตกต่างจากคนจีนอย่างเห็นได้ชัด

 

ประหลาด!

 

คือใครกัน?

 

เด็กหนุ่มได้ดึงความสนใจของทุกคนในประชุมไปทันที หากตัวเด็กหนุ่มเองกลับไม่แยแสเลยสักนิดกับสายตาของหลายคนที่มองมาราวกับว่าเขาไม่ว่ากําลังถูกทุกคนจับจ้องอยู่ เขาสนใจเพียงแค่จวงฮงและอี้เท่านั้น

 

เกาหัวยุ่งๆเหมือนกับรังนกของตัวเองขณะมองไปที่จวงฮงและอี้อย่างสงสัย สักพักเขาก็ยิ้มุม ปาก “คุณสองคนออกไปสู้กันข้างนอก ฉันจะนอนต่อ แล้วก็ช่วยเลิกส่งเสียงดังกันซะที ฉันต้องการนอน”

 

ทันทีที่เด็กหนุ่มคนนี้พูดออกมา คนส่วนใหญ่ในห้องประชุมนิ่วหน้าคิ้วขมวด เด็กหนุ่มคนนี้มาทําอะไรที่นี้ แล้วเขารู้ตัวมั้ยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน? พูดจาอย่างกับเป็นพระราชา!

 

อย่างไม่คาดคิด ทันทีที่เด็ดหนุ่มคนนี้พูดจบ อี้ที่จับจวงฮงล็อคพร้อมกับมีดจ่อคลายอยู่ก็ได้แรงที่แขนออก แม้แต่มือที่จับมีดอยู่ก็สั่นระริกจนมีดตกลงไปกับกระแทกพื้น สีหน้าของอี้ดูเหมือนกําลังเจ็บปวดเกินกว่าจะทนไหว เหงื่อซึมเต็มใบหน้า ลูกตาสั่นไหวไปมา เหมือนพยายามจะฝืนแรงบางอย่างอยู่ ร่างกายสั่นน้อยๆเหมือนกับดูแรงกดบางอย่างหรือกําลังหวาดกลัวอะไรอยู่

 

ภาพแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันทําให้ทุกคนยิ่งงุนงง มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา?

 

ฟรึบ!

 

ทั้งเขี้ยวมังกรและฟานรีบวิ่งเข้าไปหาอี้ที่กําลังจะล้มลงทันที ในขณะเดียวกันเขี้ยวมังกรก็ตะคอกระเบิดความเดือดออกมา “แกทําอะไรอี้?!”

 

ไม่มีใครตอบ และการที่อี้มีท่าทางผิดปกติทันทีหลังจากที่เด็กหนุ่มแปลกหน้าคนนี้พูดจบ มันจึงแสดงว่าเด็กหนุ่มแปลกหน้าคนนี้จะต้องทําอะไรสักอย่างแน่ๆ!

 

และสิ่งที่ทําให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ—- 

 

เฮือก! เฮือก!

 

เสียงเล็กๆเบาๆสองเสียงดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

 

พ้ะ! พ้ะ!

 

ร่างของเขี้ยวมังกรและฟานปลิวออกไปพร้อมกัน ร่างของทั้งคู่ๆกระแทกเข้ากับประตูด้านหลังอย่างแรงพร้อมๆกัน ประตูหลุดและล้มหงายตึงทันที แสดงให้เห็นถึงพละกําลัง มหาศาลของอีกฝ่าย

 

คนที่สามารถจัดการคนที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามคนของทีมหลงยาได้ภายในพริบตานั้นก็คือ ชายหนุ่มแปลกหน้าที่นั่งอยู่ที่เดิมนั่นเอง ไม่มีใครมองเห็นการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มเลย เขี้ยวมังกรและฟานลอยกระเด็นไปแบบนี้ คนอื่นๆไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าชายหนุ่มคนนี้คลั่งขึ้นมา คนที่ต่อต้านจะมีสภาพเป็นอย่างไร

 

จวงฮงยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิมเหมือนคนโง่ เขาทั้งวิตกและหวาดกลัว แววตาที่จ้องชายหนุ่มแปลกหน้าข้างตัวนั้นอัดแน่นไปด้วยความกลัว

 

บรรยากาศภายในห้องประชุมกลับเข้าสู่ความตึงเครียดอีกครั้ง ลมหายใจของชายหนุ่มแปลกหน้าที่อัดแน่นไปด้วยความกดดันแพร่กระจายไปทั่วห้อง มุมปากยกยิ้มขึ้นชัดเจนกว่าเดิม เขาลุกขึ้นยืนเผยท่าทางอวดดีและเต็มไปด้วยอํานาจ เขาสวมรองเท้าหนังสวยงามที่สะดุดตาและมีเอกลักษณ์อย่างมาก ถ้าใครในที่นี้รู้จักของโบราณจะต้องตกใจอย่างมาก เพราะรองเท้าคู่นี้มีอายุมากกว่า 5,000 ปี

 

น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม “โอ้ ฉันต้องการความเงียบ แต่คุณสองคนเอาแต่ส่งเสียงดังน่ารําคาญ คิดจะหาเรื่องฉันหรือไงถึงไม่ฟัง คิดจะทําอะไร?”

 

ในตอนนี้ เขี้ยวมังกรและฟานที่โดนอัดลอยกระเด็นไปก่อนหน้านี้ กําลังนอนกระอักเลือดอยู่ที่พื้น ทั้งคู่พยายามจะตะกายตัวขึ้นยืนอย่างยากลําบาก พวกเขามองไปที่ชายหนุ่มแปลกหน้าอย่างค้นหาเพราะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังผันผวนของอีกฝ่าย เนื่องจากชายหนุ่มแปลกหน้าได้ ซ่อนเอาไว้ คนคนนี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน พวกเขาสามคนเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 แท้ๆ 

 

จุนจื่อและจุ้ยชูกําลังอยู่ในสภาวะตึงเครียด ทั้งคู่ที่เป็นสมาชิกของทีมฮูหยาคิดไม่ตกว่ามันเกิดอะไรขึ้น หากทั้งคู่ก็เดินออกมาบังเขี้ยวมังกรและอี้เอาไว้อย่างปกป้องเป็นครั้งแรก

 

เหอเฟิงที่ความมืดพรางตัวเขาเอาไว้และเป็นที่รู้จักในฐานะกัปตันของทีมฮูหยารู้สึกเลือดร้อนขึ้นมาทันที เขารับรู้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้เดินเข้ามาในห้องแล้วว่าจะต้องไม่ธรรมดา เหอเฟิงมักจะสามารถเดาตัวตนของคนที่พบเจอได้จากการมองแต่เหอเฟิงก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มแปลกหน้าจะทรงพลังได้ถึงขั้นนี้!

 

“ท่านครับ ให้ผมได้แนะนําท่านดีกว่าครับ” ในจังหวะนั้นเอง จวงฮงที่ได้สติกลับมา เขารีบระงับความกลัวในใจตัวเองเอาไว้ ฉีกยิ้มกว้างอย่างพยายามเอาใจชายหนุ่มแปลกหน้า จากนั้นก็หันไปพูดกับทุกคนด้วยท่วงท่าอวดๆ “นี่คือปรมาจารย์หนุ่มของตระกูลเกา เกาช้าวฮุย”

 

” ตระกูลเกา?”

 

เกือบจะทันที ทุกคนในห้องต่างมีท่าทิ้งงงวยกับชื่อที่ได้ยิน

 

“ทุกคนก็ได้เห็นพลังความสามารถของตระกูลเกากันไปแล้ว” จวงฮงไม่คิดจะอธิบายอะไรให้ทุกคนเข้าใจ หากกลับภูมิใจที่จะพูดต่อ “ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลเกาคอยช่วยฉันอย่างลับๆ ค่าย ซางจิงของเราก็คงไม่ได้ก่อตั้งเสร็จรวดเร็วขนาดนี้”

 

“ไม่ต้องชมกันขนาดนั้น” เมื่อได้ยินคําพูดประจบของจวงฮง เกาข้าวฮุยก็กรอกตาและเอ่ยถาม “แล้วตระกูลปายล่ะ?”

 

เมื่อได้ยินคําถามนี้ จวงฮงก็ชะงักทันที ตัวนิ่งค้าง

 

ส่วนคนในห้องส่วนใหญ่ที่กําลังงุนงงอยู่ในตอนแรก เมื่อได้ยินคําพูดล่าสุดของเกาช้าวฮุ่ยก็ช็อคทันที พวกเขาอาจจะไม่รู้จักตระกูลเกา แต่กับตระกูลปายนั้นมันคนละเรื่อง!

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล่านายทหารระดับสูงที่รู้เรื่องตระกูลปายดีนั้นชะงักค้างกันทันที มันชัดเจนว่าตระกูลเกาน่าจะอยู่ในระดับเดียวกับตระกูลปาย คนระดับชื่อเสียงขนาดนี้มาปรากฏตัวที่นี้เนี่ยนะ?

 

รวมกับพลังเกาช้าวฮุ่ยพึ่งแสดงออกมาให้เห็น ความตกใจนั้นยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก แค่คนคน เดียวสามารถจัดการทีมหลงยาที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามคนได้อย่างง่ายๆ น่ากลัวเหลือเกิน!

 

ผู้บัญชาการมู๋และเลาหมิงสบตากัน ทั้งคู่ต่างมีแววตาล้ำลึกที่มีความหมายเหมือนกัน…ไม่นึกเลยว่าจวงฮงจะเลือกไปอยู่กับตระกูลเกา

 

หลังจากความตกใจผ่านไป เกาช้าวฮุ่ยก็อ้าปากหาวกว้างและเคาะมือลงโต๊ะอย่างสุ่มๆ “รีบๆ ประชุมอะไรนี่ให้เสร็จสักที เร็วเข้า ฉันอยากจะอยู่เงียบๆ”

 

“ครับ! ครับ! ครับ!” จวงฮงรีบตอบเอาใจเกาช้าวฮุ่ยพร้อมยิ้มกว้างอย่างประจบ จวงฮงก้มหัวและพูดด้วยความเคารพ “เราได้คุยกันก่อนหน้านี้แล้วครับ?”

 

“อ่าาา…” เกาช้าวฮุ่ยกระพริบตา ท่าทางสับสน “ใครคือชูฮัน?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+