Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย 712 คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถาม

Now you are reading Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย Chapter 712 คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 712 คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถาม

 

“สองทางเลือก” หยางเทียนกวาดตามองหลูอี้ที่แต่งองค์ทรงเครื่องตัวด้วยชุดเจ้าหน้าที่ทหาร ” ข้อหนึ่ง กลุ่มของคุณจ่ายราคาตั๋วเข้าด้วยราคาปกติ ข้อสองเนื่องด้วยค่ายของคุณอยู่ในขอบเขตพื้นที่ของเมืองอันลู ภายใต้เขตอํานาจปกครองของพลเอกชูชัน ตราบใดที่คุณเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรเข้าร่วมกับค่ายเขี้ยวหมาปา เราจะปฏิบัติเหมือนพวกคุณคือประชากรของเมืองอันดูและจะได้ส่วนลด 50%”

 

เมื่อได้ยินข้อเสนอทั้งสองเงื่อนไข กลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 2 ที่มาจากค่ายเจี้ยนอี้ส่งเสียงพูดคุยเสียงดังระงมทันที

 

“นี่ยังต้องเก็บค่าตั๋วอีกเหรอ ฉันพึ่งจะได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรก?”

 

“เราติดตามท่านผู้นํา เราก็ไม่ต้องจ่ายค่าตัวเองไม่ใช่เหรอไง?”

 

“นี่ค่าตัวมันเท่าไหร่?”

 

“เมืองโรแมนติกนี่หรูหราเหลือเกิน ทุกอย่างดูมีราคาแพงทั้งนั้น ฉันกลัวว่ามันจะไม่ใช่ถูกๆ”

 

หลูอี๋ยังหาคำพูดออกจากปากตัวเองไม่เจอ –

 

“ตั๋วมีราคายังไง?” ทันใดนั้นชายคนหนึ่งที่ยืนถัดจากหลูอี๋ก็เอ่ยถามออกมา เขาแต่งตัวด้วยชุดราคาแพงและสะอาดสะอ้าน รอบกายมีกลุ่มของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่ดูแตกต่างกับผู้ชายคนนี้อย่างสิ้นเชิง แววตาดูภาคภูมิในตัวเอง ดูทระนงตัวอย่างมากและเหยียดใส่คนอื่นๆ

 

หยางเทียนมองชายคนนี้ด้วยความสนใจ จากนั้นก็หันมายิ้มให้หลูอี๋ “ใครกันล่ะ หรือเป็นคนที่ซางจิงส่งมา?”

 

คําพูดของหยางเทียนมันชัดเจนในตัวเอง และมันก็ทําให้เหล่าทหารของหลูอี๋ส่งเสียงอื้ออึง

 

หลูอี๋หัวใจเต้นรัว คําพูดของหยางเทียนเป็นการหยามหน้าเขาชัด ก่อนหน้านี้เขาอยู่แต่ในค่ายเจียน วุ่นวายอย่างมาก จนในที่สุดก็รู้สึกเหมือนอํานาจของตัวเองถดถอยลง

 

เจ้าหน้าที่ซางจึงส่งมาชะงัก และรีบหันมามองหน้าหมูอี้ทันที

 

“โอ๊ะ ขออนุญาติแนะนํา” หลูอี๋ยิ้มกว้าง “นี่คือเจ้าหน้าที่ที่ซางจึงส่งมา…ขุนอี้เจีย และเขาก็เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 2 ที่มาทําการประเมิณเสาหินจากค่ายเจี้ยนอี้เช่นกัน”

 

แควิวัฒนาการระยะ 2?

 

หยางเทียนยิ้มมุมปากอย่างสนใจ เขากวาดสายตามองทั่วตัวซุนอี้เจีย แสดงความสนใจอย่างมาก “เจ้าหน้าที่จากซางจิง?”

 

ซุนอี้เจียชักสีหน้าทันที หากเขาก็รีบเก็บซ่อนสีหน้าและอารมณ์เอาไว้ เขาไม่เคยถูกมองอย่างโจ่งแจ้งและหยาบคายแบบนี้มาก่อน ซุนอี้เจียไม่ได้มองกลับหยางเทียน เขาซ่อนแววตาดูถูกและเหยียดหยามเอาไว้ ไอ้หน้าหล่อนี้มันกล้าทําตัวไม่สุภาพกับเขางั้นเหรอ?

 

“มองหาอะไร?” ซุนอี้เจียที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป ถามใส่หยางเทียนทันที

 

หยางเทียนที่เห็นอีกฝ่ายหลุดความควบคุมก็พอใจอย่างมาก เขาใช้นิ้วพันเล่นผมสีเงินของตัวเองจากนั้น —

 

” ปัง!”

 

พลังผันผวนของวิวัฒนาการระยะ 6 ระเบิดโพล่งออกมาอย่างกระทันหัน!

 

“พริป-”

 

พลังผันผวนอันรุนแรงโหมกระหน่ําปะทุขึ้นมาราวกับพายุ สิ่งของรอบๆลอยกระจายปลิวตามแรงลม ส่งผลให้กลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 2 ยืนตะลึงขาแข็ง แม้แต่หลูอี๋ซึ่งเป็นวิวัฒนาการระยะ 5 ก็ยังช็อคและอึ้งค้าง มองไปที่หยางเทียนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

 

นี้อีกฝ่ายวิวัฒนาการระยะ 6 งั้นเหรอ?

 

ได้เจอกับวิวัฒนาการระยะ 6 อีกคนแล้ว!

 

นี้ชูฮันมีมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 6 อยู่ในมือกี่คนกัน? ไม่ใช่ว่าระยะ 6 ที่มีทั้งจีนกลายเป็นคนของชูฮันหมดเลยเหรอไง?

 

ในเวลาเดียวกัน หลังจากผ่านความกลัวและความกังวลไปแล้ว หลูอี๋ก็ตัดสินใจได้ว่าแม้ว่าเขาจะถูกชูฮันบังคับช่วงชิงผลประโยชน์ไปทางอ้อม แต่ชูฮันก็เป็นคนพูดจริง ทําจริง และน่าเคารพ ดังนั้นมันถึงได้มีมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับสูงมากมายติดตามชูฮัน

 

ซุนอี้เจียเป็นแค่วิวัฒนาการระยะ 2 เท่านั้น พลังผันผวนของหยางเทียนจึงส่งผลกระทบต่อซุนอี้เจียเต็มๆ ภายใต้ความกดดันมหาศาลที่โดนบีบอัด ซุนอีเจียแทบอดต่อไม่ได้ไหวอีกแม้แต่วินาทีเดียว

 

“บึง!”

 

หัวเข่ากระแทกลงกับพื้นอย่างแรง ร่างสั่นเทิ้มจากนั้นก็นั่งแหมะลงกับพื้น เขาไม่สามารถต้านทานพลังมหาศาลที่บีบอัดร่างกายตัวเองอยู่ได้

 

“หึ!” หยางเทียนเยาะเย้ยและดึงพลังผันผวนของตัวเองกลับคืนเข้าร่าง หลุบตามองซุนลี่เจีย ที่อยู่ที่พื้นและส่งรอยยิ้มดูถูกใส่ “ฉันเป็นใคร? คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถาม?”

 

อย่าเอาภาพลักษณ์ที่ดูเป็นผู้ชายหน้าสวยมาดูถูกหยางเทียนเด็ดขาด ภายในของหยางเทียนเป็นคนที่เย่อหยิ่งสุดๆและเด็ดขาด ไม่ว่าจะในยุคศิวิไลซ์หรือในโลกาวินาศ ก่อนที่ชูฮันจะปรากฏตัวขึ้นและหยางเทียนตัดสินใจยกค่ายของตัวเองให้ชูฮันนั้น ก่อนที่ใครจะได้เห็นวิธีการปกครองค่ายของหยางเทียนนั้น ไม่มีใครสักคนกล้าพูดคําว่า “ไม่ เพราะทันทีที่พูด คนคนนั้นจะถูกฆ่าทันที

 

ส่วนสําหรับอันดับของหยางเทียน เขารักษาอันดับของตัวเองไว้ที่ระยะ 5 เป็นเวลานาน ด้วยเพราะงานที่มากมายและยุ่งอยู่เสมอ หากตัวหยางเทียนเองก็พึ่งจะได้ยกระดับขึ้นเป็นระยะ 6 เมื่อวานนี้เอง และความสามารถของหยางเทียนเป็นเหมือนกับธรรมชาติติดตัวมาแต่เกิดเหมือนกับที่ชูฮันเคยพูดไว้ แม้จะเป็นหลี่อีเฟิงที่ฝึกฝนอย่างหนักหน่วงด้วยตัวเองอยู่เสมอก็ไม่สามารถเอา ชนะหยางเทียนได้

 

ในจังหวะที่ความกดดันมหาศาลที่มองไม่เห็นหายไป ซุนอี้เจียก็เหงื่อแตกพลั่ก และมันพึ่งจังหวะนั้นที่เขาพึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองถูกบังคับให้คุกเข่าลงพื้น ความอับอายพุ่งขึ้นมาใจทันที แววตาสั่นระริก หากก็ไม่สามารถหนีไปได้

 

แต่หลูอี๋ที่ช็อคอยู่ในตอนแรก พอได้สติก็รีบเอ่ยขึ้นทันที “คุณเป็นใคร?”

 

นอกเหนือจากการที่รู้ว่าชายรูปงามคนนี้ชื่อว่าหยางเทียน หลูอี๋ก็รู้แค่ว่าหยางเทียนเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายเขี้ยวหมาปาเท่านั้น แต่ข้อมูลเฉพาะเจาะจงนั้นเขาไม่รู้เลยสักนิด โดยเฉพาะเมื่อพึ่งได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 ความคิดในหัวของหลูอี๋ก็ยิ่งล้มระเนระนาดไปหมด

 

ยังไงเขาก็ยศสูงกว่าอยู่แล้ว! มันกล้าทําตัวเหนือกว่าได้ยังไ?

 

สําหรับคําถามภายในใจของหลูอี๋นั้น หยางเทียนมองออกและยกยิ้มมุมาก “หลูอี๋ ฉันจะบอกให้ว่าเราอยู่สถานะระดับเดียวกัน”

 

ทันทีที่หยางเทียนพูดออกมา ซุนอี้เจียที่พึ่งตะกายตัวขึ้นยืนด้วยก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขาหันไปมองหลูอี๋ ด้วยท่าทางไร้ซึ่งความถ่อมตัว แถมยังมองหยางเทียนด้วยสายตาเย่อหยิ่ง กว่าหลูอี๋มองหยางเทียนซะอีก

 

ถ้าสถานะเดียวกัน ก็ต้องเป็นพลโทสิ?

 

นี้อีกฝ่ายก็เป็นพลโทเหมือนกันเหรอ?

 

แต่ไหนค่ายเขี้ยวหมาปาบอกว่ามีเฉินชาวเยู่คนเดียวที่เป็นพลโท?

 

“ฉันเป็นกัปตันของเจ้าหน้าที่เมืองอันลู” หยางเทียนยิ้มอย่างมีนัยนะ “ขอบเขตทั้งหมดของเมืองอัน ไม่ว่าจะเป็นค่ายเขี้ยวหมาป่า เมืองโรแมนติก หรือแม้กระทั่งค่ายเจี้ยนอี้ของคุณ ทั้งหมดอยู่ใต้การดูแลของฉันทั้งหมด ท่านพลเอกชูชันได้ทําเรื่องขออนุมัติอย่างเป็นทางการสําหรับตําแหน่งพลโทของฉันเรียบร้อย และมันกําลังถูกส่งไปที่ซางจิง ถ้าไม่มีอุบัติเหตุใดๆ ฉันก็จะมีตําแหน่งเท่ากับคุณในเดือนหน้า”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย 712 คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถาม

Now you are reading Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย Chapter 712 คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถาม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 712 คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถาม

 

“สองทางเลือก” หยางเทียนกวาดตามองหลูอี้ที่แต่งองค์ทรงเครื่องตัวด้วยชุดเจ้าหน้าที่ทหาร ” ข้อหนึ่ง กลุ่มของคุณจ่ายราคาตั๋วเข้าด้วยราคาปกติ ข้อสองเนื่องด้วยค่ายของคุณอยู่ในขอบเขตพื้นที่ของเมืองอันลู ภายใต้เขตอํานาจปกครองของพลเอกชูชัน ตราบใดที่คุณเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรเข้าร่วมกับค่ายเขี้ยวหมาปา เราจะปฏิบัติเหมือนพวกคุณคือประชากรของเมืองอันดูและจะได้ส่วนลด 50%”

 

เมื่อได้ยินข้อเสนอทั้งสองเงื่อนไข กลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 2 ที่มาจากค่ายเจี้ยนอี้ส่งเสียงพูดคุยเสียงดังระงมทันที

 

“นี่ยังต้องเก็บค่าตั๋วอีกเหรอ ฉันพึ่งจะได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรก?”

 

“เราติดตามท่านผู้นํา เราก็ไม่ต้องจ่ายค่าตัวเองไม่ใช่เหรอไง?”

 

“นี่ค่าตัวมันเท่าไหร่?”

 

“เมืองโรแมนติกนี่หรูหราเหลือเกิน ทุกอย่างดูมีราคาแพงทั้งนั้น ฉันกลัวว่ามันจะไม่ใช่ถูกๆ”

 

หลูอี๋ยังหาคำพูดออกจากปากตัวเองไม่เจอ –

 

“ตั๋วมีราคายังไง?” ทันใดนั้นชายคนหนึ่งที่ยืนถัดจากหลูอี๋ก็เอ่ยถามออกมา เขาแต่งตัวด้วยชุดราคาแพงและสะอาดสะอ้าน รอบกายมีกลุ่มของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่ดูแตกต่างกับผู้ชายคนนี้อย่างสิ้นเชิง แววตาดูภาคภูมิในตัวเอง ดูทระนงตัวอย่างมากและเหยียดใส่คนอื่นๆ

 

หยางเทียนมองชายคนนี้ด้วยความสนใจ จากนั้นก็หันมายิ้มให้หลูอี๋ “ใครกันล่ะ หรือเป็นคนที่ซางจิงส่งมา?”

 

คําพูดของหยางเทียนมันชัดเจนในตัวเอง และมันก็ทําให้เหล่าทหารของหลูอี๋ส่งเสียงอื้ออึง

 

หลูอี๋หัวใจเต้นรัว คําพูดของหยางเทียนเป็นการหยามหน้าเขาชัด ก่อนหน้านี้เขาอยู่แต่ในค่ายเจียน วุ่นวายอย่างมาก จนในที่สุดก็รู้สึกเหมือนอํานาจของตัวเองถดถอยลง

 

เจ้าหน้าที่ซางจึงส่งมาชะงัก และรีบหันมามองหน้าหมูอี้ทันที

 

“โอ๊ะ ขออนุญาติแนะนํา” หลูอี๋ยิ้มกว้าง “นี่คือเจ้าหน้าที่ที่ซางจึงส่งมา…ขุนอี้เจีย และเขาก็เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 2 ที่มาทําการประเมิณเสาหินจากค่ายเจี้ยนอี้เช่นกัน”

 

แควิวัฒนาการระยะ 2?

 

หยางเทียนยิ้มมุมปากอย่างสนใจ เขากวาดสายตามองทั่วตัวซุนอี้เจีย แสดงความสนใจอย่างมาก “เจ้าหน้าที่จากซางจิง?”

 

ซุนอี้เจียชักสีหน้าทันที หากเขาก็รีบเก็บซ่อนสีหน้าและอารมณ์เอาไว้ เขาไม่เคยถูกมองอย่างโจ่งแจ้งและหยาบคายแบบนี้มาก่อน ซุนอี้เจียไม่ได้มองกลับหยางเทียน เขาซ่อนแววตาดูถูกและเหยียดหยามเอาไว้ ไอ้หน้าหล่อนี้มันกล้าทําตัวไม่สุภาพกับเขางั้นเหรอ?

 

“มองหาอะไร?” ซุนอี้เจียที่ทนไม่ไหวอีกต่อไป ถามใส่หยางเทียนทันที

 

หยางเทียนที่เห็นอีกฝ่ายหลุดความควบคุมก็พอใจอย่างมาก เขาใช้นิ้วพันเล่นผมสีเงินของตัวเองจากนั้น —

 

” ปัง!”

 

พลังผันผวนของวิวัฒนาการระยะ 6 ระเบิดโพล่งออกมาอย่างกระทันหัน!

 

“พริป-”

 

พลังผันผวนอันรุนแรงโหมกระหน่ําปะทุขึ้นมาราวกับพายุ สิ่งของรอบๆลอยกระจายปลิวตามแรงลม ส่งผลให้กลุ่มมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 2 ยืนตะลึงขาแข็ง แม้แต่หลูอี๋ซึ่งเป็นวิวัฒนาการระยะ 5 ก็ยังช็อคและอึ้งค้าง มองไปที่หยางเทียนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

 

นี้อีกฝ่ายวิวัฒนาการระยะ 6 งั้นเหรอ?

 

ได้เจอกับวิวัฒนาการระยะ 6 อีกคนแล้ว!

 

นี้ชูฮันมีมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระยะ 6 อยู่ในมือกี่คนกัน? ไม่ใช่ว่าระยะ 6 ที่มีทั้งจีนกลายเป็นคนของชูฮันหมดเลยเหรอไง?

 

ในเวลาเดียวกัน หลังจากผ่านความกลัวและความกังวลไปแล้ว หลูอี๋ก็ตัดสินใจได้ว่าแม้ว่าเขาจะถูกชูฮันบังคับช่วงชิงผลประโยชน์ไปทางอ้อม แต่ชูฮันก็เป็นคนพูดจริง ทําจริง และน่าเคารพ ดังนั้นมันถึงได้มีมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับสูงมากมายติดตามชูฮัน

 

ซุนอี้เจียเป็นแค่วิวัฒนาการระยะ 2 เท่านั้น พลังผันผวนของหยางเทียนจึงส่งผลกระทบต่อซุนอี้เจียเต็มๆ ภายใต้ความกดดันมหาศาลที่โดนบีบอัด ซุนอีเจียแทบอดต่อไม่ได้ไหวอีกแม้แต่วินาทีเดียว

 

“บึง!”

 

หัวเข่ากระแทกลงกับพื้นอย่างแรง ร่างสั่นเทิ้มจากนั้นก็นั่งแหมะลงกับพื้น เขาไม่สามารถต้านทานพลังมหาศาลที่บีบอัดร่างกายตัวเองอยู่ได้

 

“หึ!” หยางเทียนเยาะเย้ยและดึงพลังผันผวนของตัวเองกลับคืนเข้าร่าง หลุบตามองซุนลี่เจีย ที่อยู่ที่พื้นและส่งรอยยิ้มดูถูกใส่ “ฉันเป็นใคร? คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถาม?”

 

อย่าเอาภาพลักษณ์ที่ดูเป็นผู้ชายหน้าสวยมาดูถูกหยางเทียนเด็ดขาด ภายในของหยางเทียนเป็นคนที่เย่อหยิ่งสุดๆและเด็ดขาด ไม่ว่าจะในยุคศิวิไลซ์หรือในโลกาวินาศ ก่อนที่ชูฮันจะปรากฏตัวขึ้นและหยางเทียนตัดสินใจยกค่ายของตัวเองให้ชูฮันนั้น ก่อนที่ใครจะได้เห็นวิธีการปกครองค่ายของหยางเทียนนั้น ไม่มีใครสักคนกล้าพูดคําว่า “ไม่ เพราะทันทีที่พูด คนคนนั้นจะถูกฆ่าทันที

 

ส่วนสําหรับอันดับของหยางเทียน เขารักษาอันดับของตัวเองไว้ที่ระยะ 5 เป็นเวลานาน ด้วยเพราะงานที่มากมายและยุ่งอยู่เสมอ หากตัวหยางเทียนเองก็พึ่งจะได้ยกระดับขึ้นเป็นระยะ 6 เมื่อวานนี้เอง และความสามารถของหยางเทียนเป็นเหมือนกับธรรมชาติติดตัวมาแต่เกิดเหมือนกับที่ชูฮันเคยพูดไว้ แม้จะเป็นหลี่อีเฟิงที่ฝึกฝนอย่างหนักหน่วงด้วยตัวเองอยู่เสมอก็ไม่สามารถเอา ชนะหยางเทียนได้

 

ในจังหวะที่ความกดดันมหาศาลที่มองไม่เห็นหายไป ซุนอี้เจียก็เหงื่อแตกพลั่ก และมันพึ่งจังหวะนั้นที่เขาพึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองถูกบังคับให้คุกเข่าลงพื้น ความอับอายพุ่งขึ้นมาใจทันที แววตาสั่นระริก หากก็ไม่สามารถหนีไปได้

 

แต่หลูอี๋ที่ช็อคอยู่ในตอนแรก พอได้สติก็รีบเอ่ยขึ้นทันที “คุณเป็นใคร?”

 

นอกเหนือจากการที่รู้ว่าชายรูปงามคนนี้ชื่อว่าหยางเทียน หลูอี๋ก็รู้แค่ว่าหยางเทียนเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายเขี้ยวหมาปาเท่านั้น แต่ข้อมูลเฉพาะเจาะจงนั้นเขาไม่รู้เลยสักนิด โดยเฉพาะเมื่อพึ่งได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 ความคิดในหัวของหลูอี๋ก็ยิ่งล้มระเนระนาดไปหมด

 

ยังไงเขาก็ยศสูงกว่าอยู่แล้ว! มันกล้าทําตัวเหนือกว่าได้ยังไ?

 

สําหรับคําถามภายในใจของหลูอี๋นั้น หยางเทียนมองออกและยกยิ้มมุมาก “หลูอี๋ ฉันจะบอกให้ว่าเราอยู่สถานะระดับเดียวกัน”

 

ทันทีที่หยางเทียนพูดออกมา ซุนอี้เจียที่พึ่งตะกายตัวขึ้นยืนด้วยก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขาหันไปมองหลูอี๋ ด้วยท่าทางไร้ซึ่งความถ่อมตัว แถมยังมองหยางเทียนด้วยสายตาเย่อหยิ่ง กว่าหลูอี๋มองหยางเทียนซะอีก

 

ถ้าสถานะเดียวกัน ก็ต้องเป็นพลโทสิ?

 

นี้อีกฝ่ายก็เป็นพลโทเหมือนกันเหรอ?

 

แต่ไหนค่ายเขี้ยวหมาปาบอกว่ามีเฉินชาวเยู่คนเดียวที่เป็นพลโท?

 

“ฉันเป็นกัปตันของเจ้าหน้าที่เมืองอันลู” หยางเทียนยิ้มอย่างมีนัยนะ “ขอบเขตทั้งหมดของเมืองอัน ไม่ว่าจะเป็นค่ายเขี้ยวหมาป่า เมืองโรแมนติก หรือแม้กระทั่งค่ายเจี้ยนอี้ของคุณ ทั้งหมดอยู่ใต้การดูแลของฉันทั้งหมด ท่านพลเอกชูชันได้ทําเรื่องขออนุมัติอย่างเป็นทางการสําหรับตําแหน่งพลโทของฉันเรียบร้อย และมันกําลังถูกส่งไปที่ซางจิง ถ้าไม่มีอุบัติเหตุใดๆ ฉันก็จะมีตําแหน่งเท่ากับคุณในเดือนหน้า”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+