Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย 763 วุ่นวาย

Now you are reading Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย Chapter 763 วุ่นวาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  กวงโถวเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าท่ามกลางความสิ้นหวังมันมีความโกรธผสมอยู่ ชูฮันไม่ได้ออกมา แต่กลายเป็นคนแปลกหน้าพร้อมกับกระต่ายยักษ์ประหลาดที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนแทน?
ส่วนเหอซางที่อยู่ห่างออกไปในห้องควบคุมก็ได้เคาะนิ้วลงไปที่ปุ่มสุดท้ายไปแล้วก่อนที่กวงโถวจะเอ่ยปากห้ามเขาได้ยินเสียงตะโกนห้ามของกวงโถวชัดเจนแต่มันสายเกินไปแล้ว หัวใจของเหอซางตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเมื่อได้เห็นหน้าจอนับร้อยภายในห้องควบคุมที่แสดงภาพก่อนหน้านี้หายวับไปกับตาทันที ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก แม้แต่ลำโพงก็เช่นกัน ทุกอย่างหายวับไปในอากาศทันทีที่เวลาหมดลง
ไม่เพียงแค่นอกจากจะมองไม่เห็นอะไรแล้วแต่การติดต่อระหว่างเขากับกวงโถวก็ขาดหายไปอย่างสมบูรณ์แบบด้วย คำพูดสุดท้ายของกวงโถวที่ยังดังก้องอยู่ในหัวเหอซางนั้นทำให้ห้องควบคุมตกอยู่ในความเงียบสนิท
”ฮัลโหล?เฮ้!” เสี่ยติงเองก็ได้ยินเสียงตะโกนสุดท้ายของกวงโถวเช่นกัน เขาสังเกตได้ว่าบางอย่างมันผิดปกติ จึงรีบวิ่งมาที่ไมโครโฟนพยายามส่งเสียงติดต่อกับกวงโถว แต่มันไม่ได้ช่วยอะไร
”นี่…”เสี่ยติงที่วิตกรีบหันมามองเหอซาง “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมหัวหน้าชูฮันไม่ได้ออกมาครับ?”
”ฉันก็ไม่รู้…”สีหน้าของเหอซางอึมครึม จากนั้นก็หันไปจ้องตามทางที่กวงโถวออกไป “หยิบอาวุธมา”
เสี่ยติงเองก็รีบหยิบอาวุธตัวเองขึ้นมาทันทีและรีบตามฝีเท้าของเหอซางไป
และในเวลาเดียวกันที่ด้านนอกประตูหวังไคยืนหอบหายใจเหนื่อยอยู่พักหนึ่ง จากนั้นขณะที่กำลังวางฟานฮงเหวียนที่บาดเจ็บรุนแรงลงจากหลัง ร่างของฟานฮงเหวียนก็ไถลตกลงมา หัวกระแทกลงกับพื้น
ส่วนฟานฮงเหวียนนั้นที่ไม่มีสติก็ไม่สามารถรับรู้อะไรเลย ตัวที่กระแทกลงพื้นอย่างแรงทำให้บาดแผลปริแตกออกอีกครั้ง เลือดเริ่มไหลซึมทะลักออกมา
จู่ๆเสียงแข็งกร้าวอย่างพร้อมจะสู้ของกวงโถวก็ดังขึ้น”แกเป็นใคร แล้วคนข้างในล่ะ?!”
คนที่ออกมาข้างนอกนั้นมันเหนือความคาดหมายของกวงโถวไปไกลความตึงเครียดในอกไม่สามารถระงับไว้ได้อยู่ เขาอยากจะจัดการฝ่ายที่ปรากฏตัวตรงหน้าซะให้สิ้นเรื่องไปเลย แต่เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของหัวหน้าชูฮัน แม้แต่กวงโถวที่เป็นคนอารมณ์ร้อนก็ต้องกดอารมณ์ตัวเองไว้
”แค่ก!อั่ก!” ฟานฮงเหวียนกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ท่าทางเหมือนกับจะหมดสติไปอีกรอบ ดูท่าว่ายากที่มีชีวิตรอดไปได้
”อย่าเอาแต่กระอักเลือดสิวะ!พูดออกมา!” กวงโถวตะคอกใส่ราวกับคนเสียสติ เขาเดือดดาลอย่างมากและไม่สนใจว่าฟานฮงเหวียนจะเป็นตายร้ายดียังไง กวงโถวชะงักคอเสื้อฟานฮงเหวียนที่อ่อนเปรี้ยขึ้นมาอย่างต้องการคำตอบ
”เป็นยังไง?!”เวลานั้นเองเหอซางก็วิ่งมาถึง ทันทีที่เห็นฟานฮงเหวียนและภาพประตูที่ปิดสนิท สมองของเหอซางก็บีบตัวทันที ความรู้สิ้นหวังท้อแท้โจมตีเข้ามาในอก
”หัวหน้าชูฮันล่ะ?”เสี่ยติงกังวลจนหน้าเบ้ น้ำตาคลอ ต่อมาก็เริ่มโกรธจัดเหมือนกับกวงโถว “ไอ้นี่คือใคร โอกาสเดียวในการเปิดประตูของเราถูกมันปล้นไป?!”
”ปั่ก!”.Aileen-novel.
กวงโถวโมโหทุบกำปั้นลงพื้นขณะมองไปที่ฟานฮงเหวียนที่ตัวงอและกำลังสำลักเลือดออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้นี้อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น เขาคงไม่สับสนและเสียโอกาสเพียงครั้งเดียวในการเปิดประตูเข้าไปตามหาหัวหน้าชูฮัน โอกาสเพียงครั้งเดียว…
”พัฟ!ค่อก! แค่ก! แค่ก!” เมื่อได้ยินชื่อชูฮัน ฟานฮงเหวียนก็พยายามจะเอ่ยบอกคนพวกนี้ถึงคำพูดของชูฮัน แต่เป็นเพราะบาดแผลสาหัสทำให้เขาพูดไม่ได้สักคำ แต่ได้แต่กระอักเป็นเลือดออกมา
เหอซางที่มีสีหน้าอึมครึมยกแท่งเหล็กในมือขึ้น สีหน้าดุดัน “ไป พังประประตู!”
”เฮ้!”เสี่ยติงที่เตรียมพร้อมก็ชูแท่งเหล็กในมือขึ้นเหมือนกัน “ไว้เราค่อยมาจัดการมันทีหลัว ก่อนอื่นเราต้องตามหาหัวหน้าชูฮัน!”
”อ๊ากกกก!”เหอซางที่เลือดพรุ่งพล่าน ตอนนี้เขาจะอัดใครสักคนเพื่อระบายความโกรธ
ฟานฮงเหวียนนั้นกลัวจนสติแทบหลุดหากยังไม่ได้ที่เขาจะได้อ้าปากพูดอะไร…
”โฮ่ง!”เสียงเห่าขู่ของหวังไคดังขึ้นทันที มันอ้าปากกว้างเต็มที่ หัวล้านทั้งสามคนที่กำลังจะพังประตูเข้าไปก็ต้องตกใจกับกระต่ายยักษ์ที่ขวางทางพวกเขาเอาไว้
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบผสมความกลัวอยู่พักหนึ่งทั้งสามคนได้แต่ยืนตะลึงมองกระต่ายยักษ์คลั่งที่เห่าเหมือนหมาตรงหน้า
”ชูฮันไม่เป็นไร”ฟานฮงเหวียนรีบใช้โอกาสทันที ตอนนี้เขาไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นหัวล้านทั้งสามคนนี้อาจจะทำอะไรบุ่มบ่ามจนเรียกทหารทั้งค่ายหนานตู้มาที่นี้หมดได้
”อะไรน่ะ?”เมื่อได้ยินว่าหัวหน้าชูฮันสบายดี เหอซางก็ได้สติกลับมา เขาเดินก้าวเข้ามาใกล้ฟานฮงเหวียน
”อย่าเขย่าตัวฉันฉันมีบาดแผลฉกรรจ์!” ฟานฮงเหวียนตกใจที่เห็นหัวล้านคนหนึ่งเดินเข้ามารีบตะโกนลั่นบอกก่อนทันที
”ฉันไม่ได้จะทำอะไรฉันยืนอยู่นี่!” เหอซางที่กำลังรีบอย่างมากพยายามบังคับตัวเองให้สงบลง “ช่วยบอกให้ชัดเจนที ฉันไม่มีเวลาไม่ถามทีละข้อ”
ฟานฮงเหวียนถอนหายใจอย่างโล่งอกมองไปที่หัวหน้าทั้งสามคนที่หัวสะท้อนแทนราวกับหลอดไฟและเริ่มอธิบาย “ฉันเป็นเพื่อนร่วมห้องพักของชูฮันที่มหาวิทยาลัยชื่อฟานฮงเหวียน ชูฮันช่วยฉันไว้ เขาปล่อยให้ฉันออกมาก่อนและบอกให้พวกคุณหนีทันที ให้ไปเจอกันที่เขตผู้ลี้ภัยและรอเขาอยู่ที่นั่น ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”
”คุณคือฟานฮงเหวียน?”เหอซางมองอย่างประหลาดใจและรู้สึกจุกอกหน่วงๆ เกือบแทบทุกคนอยู่บนหน้าผากแห่งความตายกันทั้งนั้น
”แล้วหัวหน้าชูฮันล่ะ?เขาไม่ออกมา?” เสี่ยติงยังคงไม่อยากยอมรับ
”เขาอยากจะออกมาแต่แน่นอนว่าไม่ได้ออกมาทางนี้ ประตูนี้ต้องใช้โปรแกรมในการเปิด” ฟานฮงเหวียนตอบด้วยพลังเฮือกสุดท้ายที่มี “พวกคุณควรรีบและอย่าเสียเวลามาสงสัยคำพูดของชูฮัน เขาเอาตัวรอดในนั้นได้ ตอนนี้ที่เราต้องทำก็คือเลิกถ่วงเวลากันเองแล้วรีบไปจากที่นี่”
ฟานฮงเหวียนรู้ดีว่าชูฮันมักมีความคิดเป็นของตัวเองการจะพังประตูเข้าไปจะเป็นการทำลายแผนที่ชูฮันวางไว้ และไม่มีใครสามารถเข้าใจหรือตามการกระทำของชูฮันได้ทันเพราะฉะนั้นทำตามที่ชูฮันบอกจะเป็นการดีที่สุด
คำพูดของฟานฮงเหวียนได้กำจัดความสงสัยของเหอซางในหัวไปหมดอีกฝ่ายสามารถเข้าใจชูฮันได้ดีมากๆแสดงว่าจะต้องสนิทกับชูฮันมากพอตัว
”ทำไมพวกเราต้องเชื่อแก?”กวงโถวโพล่งออกมาอย่างไม่เชื่อ
”นี่คือหวังไคสัตว์เลี้ยงของชูฮัน” ฟานฮงเหวียนชี้ไปที่หวังไค “มันรู้ถนนที่จะเราไปเจอกับลูกน้องของชูฮัน”
”แค่นั้น?”กวงโถวยังคงไม่เชื่อ เขาหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน “คิดว่าฉันโง่?”
อย่างไรก็ตามขณะที่กวงโถวยังคงเชื่อปักใจว่าฟานฮงเหวียนโกหก เสี่ยติงที่เดินสำรวจรอบๆก็กำลังยืนจ้องกระต่ายยักษ์ตรงหน้าตัวเองไม่วางตา
”โฮ่ง!”เสียงเห่าของกระต่ายยักษ์ดังขึ้นอีกครั้ง ขัดเสียงโตเถียงของทุกคน ทันใดนั้นสายตาของทุกคนจึงหันมาจับจ้องที่กระต่ายยักษ์พร้อมกันหมด
ทันใดนั้นความกลัวก็ฉายขึ้นบนสีหน้าของทั้งสามคนหัวใจเต้นรัวอย่างไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่ได้เห็น
เพราะตรงหน้าพวกเขาหวังไคกำลังถือกระดาษแผ่นใหญ่และเขียนออกมาเป็นคำพูดว่า “เสียงดัง จะเลิกเถียงได้ยัง? ตามฟานฮงเหวียนไป นี่คือคำสั่งของชูฮัน!”

  กวงโถวเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าท่ามกลางความสิ้นหวังมันมีความโกรธผสมอยู่ ชูฮันไม่ได้ออกมา แต่กลายเป็นคนแปลกหน้าพร้อมกับกระต่ายยักษ์ประหลาดที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนแทน?
ส่วนเหอซางที่อยู่ห่างออกไปในห้องควบคุมก็ได้เคาะนิ้วลงไปที่ปุ่มสุดท้ายไปแล้วก่อนที่กวงโถวจะเอ่ยปากห้ามเขาได้ยินเสียงตะโกนห้ามของกวงโถวชัดเจนแต่มันสายเกินไปแล้ว หัวใจของเหอซางตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเมื่อได้เห็นหน้าจอนับร้อยภายในห้องควบคุมที่แสดงภาพก่อนหน้านี้หายวับไปกับตาทันที ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก แม้แต่ลำโพงก็เช่นกัน ทุกอย่างหายวับไปในอากาศทันทีที่เวลาหมดลง
ไม่เพียงแค่นอกจากจะมองไม่เห็นอะไรแล้วแต่การติดต่อระหว่างเขากับกวงโถวก็ขาดหายไปอย่างสมบูรณ์แบบด้วย คำพูดสุดท้ายของกวงโถวที่ยังดังก้องอยู่ในหัวเหอซางนั้นทำให้ห้องควบคุมตกอยู่ในความเงียบสนิท
”ฮัลโหล?เฮ้!” เสี่ยติงเองก็ได้ยินเสียงตะโกนสุดท้ายของกวงโถวเช่นกัน เขาสังเกตได้ว่าบางอย่างมันผิดปกติ จึงรีบวิ่งมาที่ไมโครโฟนพยายามส่งเสียงติดต่อกับกวงโถว แต่มันไม่ได้ช่วยอะไร
”นี่…”เสี่ยติงที่วิตกรีบหันมามองเหอซาง “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมหัวหน้าชูฮันไม่ได้ออกมาครับ?”
”ฉันก็ไม่รู้…”สีหน้าของเหอซางอึมครึม จากนั้นก็หันไปจ้องตามทางที่กวงโถวออกไป “หยิบอาวุธมา”
เสี่ยติงเองก็รีบหยิบอาวุธตัวเองขึ้นมาทันทีและรีบตามฝีเท้าของเหอซางไป
และในเวลาเดียวกันที่ด้านนอกประตูหวังไคยืนหอบหายใจเหนื่อยอยู่พักหนึ่ง จากนั้นขณะที่กำลังวางฟานฮงเหวียนที่บาดเจ็บรุนแรงลงจากหลัง ร่างของฟานฮงเหวียนก็ไถลตกลงมา หัวกระแทกลงกับพื้น
ส่วนฟานฮงเหวียนนั้นที่ไม่มีสติก็ไม่สามารถรับรู้อะไรเลย ตัวที่กระแทกลงพื้นอย่างแรงทำให้บาดแผลปริแตกออกอีกครั้ง เลือดเริ่มไหลซึมทะลักออกมา
จู่ๆเสียงแข็งกร้าวอย่างพร้อมจะสู้ของกวงโถวก็ดังขึ้น”แกเป็นใคร แล้วคนข้างในล่ะ?!”
คนที่ออกมาข้างนอกนั้นมันเหนือความคาดหมายของกวงโถวไปไกลความตึงเครียดในอกไม่สามารถระงับไว้ได้อยู่ เขาอยากจะจัดการฝ่ายที่ปรากฏตัวตรงหน้าซะให้สิ้นเรื่องไปเลย แต่เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของหัวหน้าชูฮัน แม้แต่กวงโถวที่เป็นคนอารมณ์ร้อนก็ต้องกดอารมณ์ตัวเองไว้
”แค่ก!อั่ก!” ฟานฮงเหวียนกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ท่าทางเหมือนกับจะหมดสติไปอีกรอบ ดูท่าว่ายากที่มีชีวิตรอดไปได้
”อย่าเอาแต่กระอักเลือดสิวะ!พูดออกมา!” กวงโถวตะคอกใส่ราวกับคนเสียสติ เขาเดือดดาลอย่างมากและไม่สนใจว่าฟานฮงเหวียนจะเป็นตายร้ายดียังไง กวงโถวชะงักคอเสื้อฟานฮงเหวียนที่อ่อนเปรี้ยขึ้นมาอย่างต้องการคำตอบ
”เป็นยังไง?!”เวลานั้นเองเหอซางก็วิ่งมาถึง ทันทีที่เห็นฟานฮงเหวียนและภาพประตูที่ปิดสนิท สมองของเหอซางก็บีบตัวทันที ความรู้สิ้นหวังท้อแท้โจมตีเข้ามาในอก
”หัวหน้าชูฮันล่ะ?”เสี่ยติงกังวลจนหน้าเบ้ น้ำตาคลอ ต่อมาก็เริ่มโกรธจัดเหมือนกับกวงโถว “ไอ้นี่คือใคร โอกาสเดียวในการเปิดประตูของเราถูกมันปล้นไป?!”
”ปั่ก!”.Aileen-novel.
กวงโถวโมโหทุบกำปั้นลงพื้นขณะมองไปที่ฟานฮงเหวียนที่ตัวงอและกำลังสำลักเลือดออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้นี้อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น เขาคงไม่สับสนและเสียโอกาสเพียงครั้งเดียวในการเปิดประตูเข้าไปตามหาหัวหน้าชูฮัน โอกาสเพียงครั้งเดียว…
”พัฟ!ค่อก! แค่ก! แค่ก!” เมื่อได้ยินชื่อชูฮัน ฟานฮงเหวียนก็พยายามจะเอ่ยบอกคนพวกนี้ถึงคำพูดของชูฮัน แต่เป็นเพราะบาดแผลสาหัสทำให้เขาพูดไม่ได้สักคำ แต่ได้แต่กระอักเป็นเลือดออกมา
เหอซางที่มีสีหน้าอึมครึมยกแท่งเหล็กในมือขึ้น สีหน้าดุดัน “ไป พังประประตู!”
”เฮ้!”เสี่ยติงที่เตรียมพร้อมก็ชูแท่งเหล็กในมือขึ้นเหมือนกัน “ไว้เราค่อยมาจัดการมันทีหลัว ก่อนอื่นเราต้องตามหาหัวหน้าชูฮัน!”
”อ๊ากกกก!”เหอซางที่เลือดพรุ่งพล่าน ตอนนี้เขาจะอัดใครสักคนเพื่อระบายความโกรธ
ฟานฮงเหวียนนั้นกลัวจนสติแทบหลุดหากยังไม่ได้ที่เขาจะได้อ้าปากพูดอะไร…
”โฮ่ง!”เสียงเห่าขู่ของหวังไคดังขึ้นทันที มันอ้าปากกว้างเต็มที่ หัวล้านทั้งสามคนที่กำลังจะพังประตูเข้าไปก็ต้องตกใจกับกระต่ายยักษ์ที่ขวางทางพวกเขาเอาไว้
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบผสมความกลัวอยู่พักหนึ่งทั้งสามคนได้แต่ยืนตะลึงมองกระต่ายยักษ์คลั่งที่เห่าเหมือนหมาตรงหน้า
”ชูฮันไม่เป็นไร”ฟานฮงเหวียนรีบใช้โอกาสทันที ตอนนี้เขาไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นหัวล้านทั้งสามคนนี้อาจจะทำอะไรบุ่มบ่ามจนเรียกทหารทั้งค่ายหนานตู้มาที่นี้หมดได้
”อะไรน่ะ?”เมื่อได้ยินว่าหัวหน้าชูฮันสบายดี เหอซางก็ได้สติกลับมา เขาเดินก้าวเข้ามาใกล้ฟานฮงเหวียน
”อย่าเขย่าตัวฉันฉันมีบาดแผลฉกรรจ์!” ฟานฮงเหวียนตกใจที่เห็นหัวล้านคนหนึ่งเดินเข้ามารีบตะโกนลั่นบอกก่อนทันที
”ฉันไม่ได้จะทำอะไรฉันยืนอยู่นี่!” เหอซางที่กำลังรีบอย่างมากพยายามบังคับตัวเองให้สงบลง “ช่วยบอกให้ชัดเจนที ฉันไม่มีเวลาไม่ถามทีละข้อ”
ฟานฮงเหวียนถอนหายใจอย่างโล่งอกมองไปที่หัวหน้าทั้งสามคนที่หัวสะท้อนแทนราวกับหลอดไฟและเริ่มอธิบาย “ฉันเป็นเพื่อนร่วมห้องพักของชูฮันที่มหาวิทยาลัยชื่อฟานฮงเหวียน ชูฮันช่วยฉันไว้ เขาปล่อยให้ฉันออกมาก่อนและบอกให้พวกคุณหนีทันที ให้ไปเจอกันที่เขตผู้ลี้ภัยและรอเขาอยู่ที่นั่น ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”
”คุณคือฟานฮงเหวียน?”เหอซางมองอย่างประหลาดใจและรู้สึกจุกอกหน่วงๆ เกือบแทบทุกคนอยู่บนหน้าผากแห่งความตายกันทั้งนั้น
”แล้วหัวหน้าชูฮันล่ะ?เขาไม่ออกมา?” เสี่ยติงยังคงไม่อยากยอมรับ
”เขาอยากจะออกมาแต่แน่นอนว่าไม่ได้ออกมาทางนี้ ประตูนี้ต้องใช้โปรแกรมในการเปิด” ฟานฮงเหวียนตอบด้วยพลังเฮือกสุดท้ายที่มี “พวกคุณควรรีบและอย่าเสียเวลามาสงสัยคำพูดของชูฮัน เขาเอาตัวรอดในนั้นได้ ตอนนี้ที่เราต้องทำก็คือเลิกถ่วงเวลากันเองแล้วรีบไปจากที่นี่”
ฟานฮงเหวียนรู้ดีว่าชูฮันมักมีความคิดเป็นของตัวเองการจะพังประตูเข้าไปจะเป็นการทำลายแผนที่ชูฮันวางไว้ และไม่มีใครสามารถเข้าใจหรือตามการกระทำของชูฮันได้ทันเพราะฉะนั้นทำตามที่ชูฮันบอกจะเป็นการดีที่สุด
คำพูดของฟานฮงเหวียนได้กำจัดความสงสัยของเหอซางในหัวไปหมดอีกฝ่ายสามารถเข้าใจชูฮันได้ดีมากๆแสดงว่าจะต้องสนิทกับชูฮันมากพอตัว
”ทำไมพวกเราต้องเชื่อแก?”กวงโถวโพล่งออกมาอย่างไม่เชื่อ
”นี่คือหวังไคสัตว์เลี้ยงของชูฮัน” ฟานฮงเหวียนชี้ไปที่หวังไค “มันรู้ถนนที่จะเราไปเจอกับลูกน้องของชูฮัน”
”แค่นั้น?”กวงโถวยังคงไม่เชื่อ เขาหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน “คิดว่าฉันโง่?”
อย่างไรก็ตามขณะที่กวงโถวยังคงเชื่อปักใจว่าฟานฮงเหวียนโกหก เสี่ยติงที่เดินสำรวจรอบๆก็กำลังยืนจ้องกระต่ายยักษ์ตรงหน้าตัวเองไม่วางตา
”โฮ่ง!”เสียงเห่าของกระต่ายยักษ์ดังขึ้นอีกครั้ง ขัดเสียงโตเถียงของทุกคน ทันใดนั้นสายตาของทุกคนจึงหันมาจับจ้องที่กระต่ายยักษ์พร้อมกันหมด
ทันใดนั้นความกลัวก็ฉายขึ้นบนสีหน้าของทั้งสามคนหัวใจเต้นรัวอย่างไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่ได้เห็น
เพราะตรงหน้าพวกเขาหวังไคกำลังถือกระดาษแผ่นใหญ่และเขียนออกมาเป็นคำพูดว่า “เสียงดัง จะเลิกเถียงได้ยัง? ตามฟานฮงเหวียนไป นี่คือคำสั่งของชูฮัน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย 763 วุ่นวาย

Now you are reading Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย Chapter 763 วุ่นวาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

  กวงโถวเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าท่ามกลางความสิ้นหวังมันมีความโกรธผสมอยู่ ชูฮันไม่ได้ออกมา แต่กลายเป็นคนแปลกหน้าพร้อมกับกระต่ายยักษ์ประหลาดที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนแทน?
ส่วนเหอซางที่อยู่ห่างออกไปในห้องควบคุมก็ได้เคาะนิ้วลงไปที่ปุ่มสุดท้ายไปแล้วก่อนที่กวงโถวจะเอ่ยปากห้ามเขาได้ยินเสียงตะโกนห้ามของกวงโถวชัดเจนแต่มันสายเกินไปแล้ว หัวใจของเหอซางตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเมื่อได้เห็นหน้าจอนับร้อยภายในห้องควบคุมที่แสดงภาพก่อนหน้านี้หายวับไปกับตาทันที ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก แม้แต่ลำโพงก็เช่นกัน ทุกอย่างหายวับไปในอากาศทันทีที่เวลาหมดลง
ไม่เพียงแค่นอกจากจะมองไม่เห็นอะไรแล้วแต่การติดต่อระหว่างเขากับกวงโถวก็ขาดหายไปอย่างสมบูรณ์แบบด้วย คำพูดสุดท้ายของกวงโถวที่ยังดังก้องอยู่ในหัวเหอซางนั้นทำให้ห้องควบคุมตกอยู่ในความเงียบสนิท
”ฮัลโหล?เฮ้!” เสี่ยติงเองก็ได้ยินเสียงตะโกนสุดท้ายของกวงโถวเช่นกัน เขาสังเกตได้ว่าบางอย่างมันผิดปกติ จึงรีบวิ่งมาที่ไมโครโฟนพยายามส่งเสียงติดต่อกับกวงโถว แต่มันไม่ได้ช่วยอะไร
”นี่…”เสี่ยติงที่วิตกรีบหันมามองเหอซาง “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมหัวหน้าชูฮันไม่ได้ออกมาครับ?”
”ฉันก็ไม่รู้…”สีหน้าของเหอซางอึมครึม จากนั้นก็หันไปจ้องตามทางที่กวงโถวออกไป “หยิบอาวุธมา”
เสี่ยติงเองก็รีบหยิบอาวุธตัวเองขึ้นมาทันทีและรีบตามฝีเท้าของเหอซางไป
และในเวลาเดียวกันที่ด้านนอกประตูหวังไคยืนหอบหายใจเหนื่อยอยู่พักหนึ่ง จากนั้นขณะที่กำลังวางฟานฮงเหวียนที่บาดเจ็บรุนแรงลงจากหลัง ร่างของฟานฮงเหวียนก็ไถลตกลงมา หัวกระแทกลงกับพื้น
ส่วนฟานฮงเหวียนนั้นที่ไม่มีสติก็ไม่สามารถรับรู้อะไรเลย ตัวที่กระแทกลงพื้นอย่างแรงทำให้บาดแผลปริแตกออกอีกครั้ง เลือดเริ่มไหลซึมทะลักออกมา
จู่ๆเสียงแข็งกร้าวอย่างพร้อมจะสู้ของกวงโถวก็ดังขึ้น”แกเป็นใคร แล้วคนข้างในล่ะ?!”
คนที่ออกมาข้างนอกนั้นมันเหนือความคาดหมายของกวงโถวไปไกลความตึงเครียดในอกไม่สามารถระงับไว้ได้อยู่ เขาอยากจะจัดการฝ่ายที่ปรากฏตัวตรงหน้าซะให้สิ้นเรื่องไปเลย แต่เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของหัวหน้าชูฮัน แม้แต่กวงโถวที่เป็นคนอารมณ์ร้อนก็ต้องกดอารมณ์ตัวเองไว้
”แค่ก!อั่ก!” ฟานฮงเหวียนกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ท่าทางเหมือนกับจะหมดสติไปอีกรอบ ดูท่าว่ายากที่มีชีวิตรอดไปได้
”อย่าเอาแต่กระอักเลือดสิวะ!พูดออกมา!” กวงโถวตะคอกใส่ราวกับคนเสียสติ เขาเดือดดาลอย่างมากและไม่สนใจว่าฟานฮงเหวียนจะเป็นตายร้ายดียังไง กวงโถวชะงักคอเสื้อฟานฮงเหวียนที่อ่อนเปรี้ยขึ้นมาอย่างต้องการคำตอบ
”เป็นยังไง?!”เวลานั้นเองเหอซางก็วิ่งมาถึง ทันทีที่เห็นฟานฮงเหวียนและภาพประตูที่ปิดสนิท สมองของเหอซางก็บีบตัวทันที ความรู้สิ้นหวังท้อแท้โจมตีเข้ามาในอก
”หัวหน้าชูฮันล่ะ?”เสี่ยติงกังวลจนหน้าเบ้ น้ำตาคลอ ต่อมาก็เริ่มโกรธจัดเหมือนกับกวงโถว “ไอ้นี่คือใคร โอกาสเดียวในการเปิดประตูของเราถูกมันปล้นไป?!”
”ปั่ก!”.Aileen-novel.
กวงโถวโมโหทุบกำปั้นลงพื้นขณะมองไปที่ฟานฮงเหวียนที่ตัวงอและกำลังสำลักเลือดออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้นี้อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น เขาคงไม่สับสนและเสียโอกาสเพียงครั้งเดียวในการเปิดประตูเข้าไปตามหาหัวหน้าชูฮัน โอกาสเพียงครั้งเดียว…
”พัฟ!ค่อก! แค่ก! แค่ก!” เมื่อได้ยินชื่อชูฮัน ฟานฮงเหวียนก็พยายามจะเอ่ยบอกคนพวกนี้ถึงคำพูดของชูฮัน แต่เป็นเพราะบาดแผลสาหัสทำให้เขาพูดไม่ได้สักคำ แต่ได้แต่กระอักเป็นเลือดออกมา
เหอซางที่มีสีหน้าอึมครึมยกแท่งเหล็กในมือขึ้น สีหน้าดุดัน “ไป พังประประตู!”
”เฮ้!”เสี่ยติงที่เตรียมพร้อมก็ชูแท่งเหล็กในมือขึ้นเหมือนกัน “ไว้เราค่อยมาจัดการมันทีหลัว ก่อนอื่นเราต้องตามหาหัวหน้าชูฮัน!”
”อ๊ากกกก!”เหอซางที่เลือดพรุ่งพล่าน ตอนนี้เขาจะอัดใครสักคนเพื่อระบายความโกรธ
ฟานฮงเหวียนนั้นกลัวจนสติแทบหลุดหากยังไม่ได้ที่เขาจะได้อ้าปากพูดอะไร…
”โฮ่ง!”เสียงเห่าขู่ของหวังไคดังขึ้นทันที มันอ้าปากกว้างเต็มที่ หัวล้านทั้งสามคนที่กำลังจะพังประตูเข้าไปก็ต้องตกใจกับกระต่ายยักษ์ที่ขวางทางพวกเขาเอาไว้
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบผสมความกลัวอยู่พักหนึ่งทั้งสามคนได้แต่ยืนตะลึงมองกระต่ายยักษ์คลั่งที่เห่าเหมือนหมาตรงหน้า
”ชูฮันไม่เป็นไร”ฟานฮงเหวียนรีบใช้โอกาสทันที ตอนนี้เขาไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นหัวล้านทั้งสามคนนี้อาจจะทำอะไรบุ่มบ่ามจนเรียกทหารทั้งค่ายหนานตู้มาที่นี้หมดได้
”อะไรน่ะ?”เมื่อได้ยินว่าหัวหน้าชูฮันสบายดี เหอซางก็ได้สติกลับมา เขาเดินก้าวเข้ามาใกล้ฟานฮงเหวียน
”อย่าเขย่าตัวฉันฉันมีบาดแผลฉกรรจ์!” ฟานฮงเหวียนตกใจที่เห็นหัวล้านคนหนึ่งเดินเข้ามารีบตะโกนลั่นบอกก่อนทันที
”ฉันไม่ได้จะทำอะไรฉันยืนอยู่นี่!” เหอซางที่กำลังรีบอย่างมากพยายามบังคับตัวเองให้สงบลง “ช่วยบอกให้ชัดเจนที ฉันไม่มีเวลาไม่ถามทีละข้อ”
ฟานฮงเหวียนถอนหายใจอย่างโล่งอกมองไปที่หัวหน้าทั้งสามคนที่หัวสะท้อนแทนราวกับหลอดไฟและเริ่มอธิบาย “ฉันเป็นเพื่อนร่วมห้องพักของชูฮันที่มหาวิทยาลัยชื่อฟานฮงเหวียน ชูฮันช่วยฉันไว้ เขาปล่อยให้ฉันออกมาก่อนและบอกให้พวกคุณหนีทันที ให้ไปเจอกันที่เขตผู้ลี้ภัยและรอเขาอยู่ที่นั่น ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”
”คุณคือฟานฮงเหวียน?”เหอซางมองอย่างประหลาดใจและรู้สึกจุกอกหน่วงๆ เกือบแทบทุกคนอยู่บนหน้าผากแห่งความตายกันทั้งนั้น
”แล้วหัวหน้าชูฮันล่ะ?เขาไม่ออกมา?” เสี่ยติงยังคงไม่อยากยอมรับ
”เขาอยากจะออกมาแต่แน่นอนว่าไม่ได้ออกมาทางนี้ ประตูนี้ต้องใช้โปรแกรมในการเปิด” ฟานฮงเหวียนตอบด้วยพลังเฮือกสุดท้ายที่มี “พวกคุณควรรีบและอย่าเสียเวลามาสงสัยคำพูดของชูฮัน เขาเอาตัวรอดในนั้นได้ ตอนนี้ที่เราต้องทำก็คือเลิกถ่วงเวลากันเองแล้วรีบไปจากที่นี่”
ฟานฮงเหวียนรู้ดีว่าชูฮันมักมีความคิดเป็นของตัวเองการจะพังประตูเข้าไปจะเป็นการทำลายแผนที่ชูฮันวางไว้ และไม่มีใครสามารถเข้าใจหรือตามการกระทำของชูฮันได้ทันเพราะฉะนั้นทำตามที่ชูฮันบอกจะเป็นการดีที่สุด
คำพูดของฟานฮงเหวียนได้กำจัดความสงสัยของเหอซางในหัวไปหมดอีกฝ่ายสามารถเข้าใจชูฮันได้ดีมากๆแสดงว่าจะต้องสนิทกับชูฮันมากพอตัว
”ทำไมพวกเราต้องเชื่อแก?”กวงโถวโพล่งออกมาอย่างไม่เชื่อ
”นี่คือหวังไคสัตว์เลี้ยงของชูฮัน” ฟานฮงเหวียนชี้ไปที่หวังไค “มันรู้ถนนที่จะเราไปเจอกับลูกน้องของชูฮัน”
”แค่นั้น?”กวงโถวยังคงไม่เชื่อ เขาหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน “คิดว่าฉันโง่?”
อย่างไรก็ตามขณะที่กวงโถวยังคงเชื่อปักใจว่าฟานฮงเหวียนโกหก เสี่ยติงที่เดินสำรวจรอบๆก็กำลังยืนจ้องกระต่ายยักษ์ตรงหน้าตัวเองไม่วางตา
”โฮ่ง!”เสียงเห่าของกระต่ายยักษ์ดังขึ้นอีกครั้ง ขัดเสียงโตเถียงของทุกคน ทันใดนั้นสายตาของทุกคนจึงหันมาจับจ้องที่กระต่ายยักษ์พร้อมกันหมด
ทันใดนั้นความกลัวก็ฉายขึ้นบนสีหน้าของทั้งสามคนหัวใจเต้นรัวอย่างไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่ได้เห็น
เพราะตรงหน้าพวกเขาหวังไคกำลังถือกระดาษแผ่นใหญ่และเขียนออกมาเป็นคำพูดว่า “เสียงดัง จะเลิกเถียงได้ยัง? ตามฟานฮงเหวียนไป นี่คือคำสั่งของชูฮัน!”

  กวงโถวเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าท่ามกลางความสิ้นหวังมันมีความโกรธผสมอยู่ ชูฮันไม่ได้ออกมา แต่กลายเป็นคนแปลกหน้าพร้อมกับกระต่ายยักษ์ประหลาดที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนแทน?
ส่วนเหอซางที่อยู่ห่างออกไปในห้องควบคุมก็ได้เคาะนิ้วลงไปที่ปุ่มสุดท้ายไปแล้วก่อนที่กวงโถวจะเอ่ยปากห้ามเขาได้ยินเสียงตะโกนห้ามของกวงโถวชัดเจนแต่มันสายเกินไปแล้ว หัวใจของเหอซางตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเมื่อได้เห็นหน้าจอนับร้อยภายในห้องควบคุมที่แสดงภาพก่อนหน้านี้หายวับไปกับตาทันที ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีก แม้แต่ลำโพงก็เช่นกัน ทุกอย่างหายวับไปในอากาศทันทีที่เวลาหมดลง
ไม่เพียงแค่นอกจากจะมองไม่เห็นอะไรแล้วแต่การติดต่อระหว่างเขากับกวงโถวก็ขาดหายไปอย่างสมบูรณ์แบบด้วย คำพูดสุดท้ายของกวงโถวที่ยังดังก้องอยู่ในหัวเหอซางนั้นทำให้ห้องควบคุมตกอยู่ในความเงียบสนิท
”ฮัลโหล?เฮ้!” เสี่ยติงเองก็ได้ยินเสียงตะโกนสุดท้ายของกวงโถวเช่นกัน เขาสังเกตได้ว่าบางอย่างมันผิดปกติ จึงรีบวิ่งมาที่ไมโครโฟนพยายามส่งเสียงติดต่อกับกวงโถว แต่มันไม่ได้ช่วยอะไร
”นี่…”เสี่ยติงที่วิตกรีบหันมามองเหอซาง “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมหัวหน้าชูฮันไม่ได้ออกมาครับ?”
”ฉันก็ไม่รู้…”สีหน้าของเหอซางอึมครึม จากนั้นก็หันไปจ้องตามทางที่กวงโถวออกไป “หยิบอาวุธมา”
เสี่ยติงเองก็รีบหยิบอาวุธตัวเองขึ้นมาทันทีและรีบตามฝีเท้าของเหอซางไป
และในเวลาเดียวกันที่ด้านนอกประตูหวังไคยืนหอบหายใจเหนื่อยอยู่พักหนึ่ง จากนั้นขณะที่กำลังวางฟานฮงเหวียนที่บาดเจ็บรุนแรงลงจากหลัง ร่างของฟานฮงเหวียนก็ไถลตกลงมา หัวกระแทกลงกับพื้น
ส่วนฟานฮงเหวียนนั้นที่ไม่มีสติก็ไม่สามารถรับรู้อะไรเลย ตัวที่กระแทกลงพื้นอย่างแรงทำให้บาดแผลปริแตกออกอีกครั้ง เลือดเริ่มไหลซึมทะลักออกมา
จู่ๆเสียงแข็งกร้าวอย่างพร้อมจะสู้ของกวงโถวก็ดังขึ้น”แกเป็นใคร แล้วคนข้างในล่ะ?!”
คนที่ออกมาข้างนอกนั้นมันเหนือความคาดหมายของกวงโถวไปไกลความตึงเครียดในอกไม่สามารถระงับไว้ได้อยู่ เขาอยากจะจัดการฝ่ายที่ปรากฏตัวตรงหน้าซะให้สิ้นเรื่องไปเลย แต่เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของหัวหน้าชูฮัน แม้แต่กวงโถวที่เป็นคนอารมณ์ร้อนก็ต้องกดอารมณ์ตัวเองไว้
”แค่ก!อั่ก!” ฟานฮงเหวียนกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ท่าทางเหมือนกับจะหมดสติไปอีกรอบ ดูท่าว่ายากที่มีชีวิตรอดไปได้
”อย่าเอาแต่กระอักเลือดสิวะ!พูดออกมา!” กวงโถวตะคอกใส่ราวกับคนเสียสติ เขาเดือดดาลอย่างมากและไม่สนใจว่าฟานฮงเหวียนจะเป็นตายร้ายดียังไง กวงโถวชะงักคอเสื้อฟานฮงเหวียนที่อ่อนเปรี้ยขึ้นมาอย่างต้องการคำตอบ
”เป็นยังไง?!”เวลานั้นเองเหอซางก็วิ่งมาถึง ทันทีที่เห็นฟานฮงเหวียนและภาพประตูที่ปิดสนิท สมองของเหอซางก็บีบตัวทันที ความรู้สิ้นหวังท้อแท้โจมตีเข้ามาในอก
”หัวหน้าชูฮันล่ะ?”เสี่ยติงกังวลจนหน้าเบ้ น้ำตาคลอ ต่อมาก็เริ่มโกรธจัดเหมือนกับกวงโถว “ไอ้นี่คือใคร โอกาสเดียวในการเปิดประตูของเราถูกมันปล้นไป?!”
”ปั่ก!”.Aileen-novel.
กวงโถวโมโหทุบกำปั้นลงพื้นขณะมองไปที่ฟานฮงเหวียนที่ตัวงอและกำลังสำลักเลือดออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้นี้อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น เขาคงไม่สับสนและเสียโอกาสเพียงครั้งเดียวในการเปิดประตูเข้าไปตามหาหัวหน้าชูฮัน โอกาสเพียงครั้งเดียว…
”พัฟ!ค่อก! แค่ก! แค่ก!” เมื่อได้ยินชื่อชูฮัน ฟานฮงเหวียนก็พยายามจะเอ่ยบอกคนพวกนี้ถึงคำพูดของชูฮัน แต่เป็นเพราะบาดแผลสาหัสทำให้เขาพูดไม่ได้สักคำ แต่ได้แต่กระอักเป็นเลือดออกมา
เหอซางที่มีสีหน้าอึมครึมยกแท่งเหล็กในมือขึ้น สีหน้าดุดัน “ไป พังประประตู!”
”เฮ้!”เสี่ยติงที่เตรียมพร้อมก็ชูแท่งเหล็กในมือขึ้นเหมือนกัน “ไว้เราค่อยมาจัดการมันทีหลัว ก่อนอื่นเราต้องตามหาหัวหน้าชูฮัน!”
”อ๊ากกกก!”เหอซางที่เลือดพรุ่งพล่าน ตอนนี้เขาจะอัดใครสักคนเพื่อระบายความโกรธ
ฟานฮงเหวียนนั้นกลัวจนสติแทบหลุดหากยังไม่ได้ที่เขาจะได้อ้าปากพูดอะไร…
”โฮ่ง!”เสียงเห่าขู่ของหวังไคดังขึ้นทันที มันอ้าปากกว้างเต็มที่ หัวล้านทั้งสามคนที่กำลังจะพังประตูเข้าไปก็ต้องตกใจกับกระต่ายยักษ์ที่ขวางทางพวกเขาเอาไว้
บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบผสมความกลัวอยู่พักหนึ่งทั้งสามคนได้แต่ยืนตะลึงมองกระต่ายยักษ์คลั่งที่เห่าเหมือนหมาตรงหน้า
”ชูฮันไม่เป็นไร”ฟานฮงเหวียนรีบใช้โอกาสทันที ตอนนี้เขาไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นหัวล้านทั้งสามคนนี้อาจจะทำอะไรบุ่มบ่ามจนเรียกทหารทั้งค่ายหนานตู้มาที่นี้หมดได้
”อะไรน่ะ?”เมื่อได้ยินว่าหัวหน้าชูฮันสบายดี เหอซางก็ได้สติกลับมา เขาเดินก้าวเข้ามาใกล้ฟานฮงเหวียน
”อย่าเขย่าตัวฉันฉันมีบาดแผลฉกรรจ์!” ฟานฮงเหวียนตกใจที่เห็นหัวล้านคนหนึ่งเดินเข้ามารีบตะโกนลั่นบอกก่อนทันที
”ฉันไม่ได้จะทำอะไรฉันยืนอยู่นี่!” เหอซางที่กำลังรีบอย่างมากพยายามบังคับตัวเองให้สงบลง “ช่วยบอกให้ชัดเจนที ฉันไม่มีเวลาไม่ถามทีละข้อ”
ฟานฮงเหวียนถอนหายใจอย่างโล่งอกมองไปที่หัวหน้าทั้งสามคนที่หัวสะท้อนแทนราวกับหลอดไฟและเริ่มอธิบาย “ฉันเป็นเพื่อนร่วมห้องพักของชูฮันที่มหาวิทยาลัยชื่อฟานฮงเหวียน ชูฮันช่วยฉันไว้ เขาปล่อยให้ฉันออกมาก่อนและบอกให้พวกคุณหนีทันที ให้ไปเจอกันที่เขตผู้ลี้ภัยและรอเขาอยู่ที่นั่น ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”
”คุณคือฟานฮงเหวียน?”เหอซางมองอย่างประหลาดใจและรู้สึกจุกอกหน่วงๆ เกือบแทบทุกคนอยู่บนหน้าผากแห่งความตายกันทั้งนั้น
”แล้วหัวหน้าชูฮันล่ะ?เขาไม่ออกมา?” เสี่ยติงยังคงไม่อยากยอมรับ
”เขาอยากจะออกมาแต่แน่นอนว่าไม่ได้ออกมาทางนี้ ประตูนี้ต้องใช้โปรแกรมในการเปิด” ฟานฮงเหวียนตอบด้วยพลังเฮือกสุดท้ายที่มี “พวกคุณควรรีบและอย่าเสียเวลามาสงสัยคำพูดของชูฮัน เขาเอาตัวรอดในนั้นได้ ตอนนี้ที่เราต้องทำก็คือเลิกถ่วงเวลากันเองแล้วรีบไปจากที่นี่”
ฟานฮงเหวียนรู้ดีว่าชูฮันมักมีความคิดเป็นของตัวเองการจะพังประตูเข้าไปจะเป็นการทำลายแผนที่ชูฮันวางไว้ และไม่มีใครสามารถเข้าใจหรือตามการกระทำของชูฮันได้ทันเพราะฉะนั้นทำตามที่ชูฮันบอกจะเป็นการดีที่สุด
คำพูดของฟานฮงเหวียนได้กำจัดความสงสัยของเหอซางในหัวไปหมดอีกฝ่ายสามารถเข้าใจชูฮันได้ดีมากๆแสดงว่าจะต้องสนิทกับชูฮันมากพอตัว
”ทำไมพวกเราต้องเชื่อแก?”กวงโถวโพล่งออกมาอย่างไม่เชื่อ
”นี่คือหวังไคสัตว์เลี้ยงของชูฮัน” ฟานฮงเหวียนชี้ไปที่หวังไค “มันรู้ถนนที่จะเราไปเจอกับลูกน้องของชูฮัน”
”แค่นั้น?”กวงโถวยังคงไม่เชื่อ เขาหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน “คิดว่าฉันโง่?”
อย่างไรก็ตามขณะที่กวงโถวยังคงเชื่อปักใจว่าฟานฮงเหวียนโกหก เสี่ยติงที่เดินสำรวจรอบๆก็กำลังยืนจ้องกระต่ายยักษ์ตรงหน้าตัวเองไม่วางตา
”โฮ่ง!”เสียงเห่าของกระต่ายยักษ์ดังขึ้นอีกครั้ง ขัดเสียงโตเถียงของทุกคน ทันใดนั้นสายตาของทุกคนจึงหันมาจับจ้องที่กระต่ายยักษ์พร้อมกันหมด
ทันใดนั้นความกลัวก็ฉายขึ้นบนสีหน้าของทั้งสามคนหัวใจเต้นรัวอย่างไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่ได้เห็น
เพราะตรงหน้าพวกเขาหวังไคกำลังถือกระดาษแผ่นใหญ่และเขียนออกมาเป็นคำพูดว่า “เสียงดัง จะเลิกเถียงได้ยัง? ตามฟานฮงเหวียนไป นี่คือคำสั่งของชูฮัน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+