Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 15 ป่าหมอก 2

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 15 ป่าหมอก 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถังเส้าหยางไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงของผู้ติดตามของเขา เขามุ่งความสนใจไปที่ลิง

ว้าว!

ถังเส้าหยางเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์ของเขาไปที่ลิง ฝูงลิงพุ่งเข้าหาถังเส้าหยาง พวกมันเข้ามาอยู่ในวงสวิงของเดสทรอยเยอร์อย่างน้อยสิบถึงสิบสามตัว จากนั้นถังเส้าหยางก็ตระหนักได้ว่าเขากำลังพบกับปัญหาแล้ว ลิงเหล่านี้ไม่มีความกลัว

แม้ว่าพรรคพวกของพวกมันจะถูกฆ่าตายอย่างโหดร้าย แต่พวกมันก็ไม่ได้หยุดฝีเท้าหรือวิ่งหนีไปด้วยความกลัวเลย พวกมันยังคงพุ่งเข้าใส่เขาอย่างไม่ลดละท่ามกลางการเข่นฆ่า

ปัญหาคือน้ำหนักของเดสทรอยเยอร์ เขาสามารถเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์ไปอย่างต่อเนื่องได้ แต่กระนั้นความเร็วในการเหวี่ยงของเขาก็ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับความเร็วของพวกมัน   และหากเขาช้าไปแม้เพียงไม่กี่วินาที ฟันที่แหลมคมเหล่านี้ก็อาจจะฉีกกระชากเนื้อของเขาได้

เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะอยากลองดูว่าฟันของลิงจะฉีกร่างของเขาได้หรือไม่ ถ้าลิงมีจำนวนน้อย ถังเส้าหยางก็มั่นใจในการใช้เดสทรอยเยอร์

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มีทางรู้จำนวนลิงได้เพราะหมอก การมองเห็นของเขามีจำกัด และเขาไม่สามารถคำนวณจำนวนลิงได้ด้วยซ้ำ

‘ เดสทรอยเยอร์ไม่ใช่อาวุธที่เหมาะสมกับลิง…’ หลังจากสรุปเรื่องนี้เสร็จ ถังเส้าหยางก็ได้ปักขวานศึกของเขาไว้ข้างๆ

แบม!

หลังจากนั้นถังเส้าหยางก็ดึงท่อเหล็กสองอันที่เอวของเขาออกมา ลิงพวกนี้ว่องไวมาก แต่มันก็ยังอ่อนแอกว่าซอมบี้ ดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา การฆ่าลิงด้วยการฟาดท่อเหล็กเพียงครั้งเดียวนั้นจึงเป็นไปได้

บัก! บัก! บัก! บัก!

ถังเส้าหยางต่อสู้กับลิงต่อโดยไม่ลังเล เขาเล็งท่อเหล็กไปที่ลิงที่ปรากฏอขึ้นมาในสายตา เป้าหมายของเขาคือบริเวณหัวของลิง แต่ถ้าเขาไม่สามารถเอื้อมไปถึงหัวมันได้ เขาก็จะตีทุกอย่างที่เขาจะตีได้

‘ โชคดีที่ฉันไม่ได้ทิ้งท่อเหล็กไป มันยังคงมีประโยชน์แม้แต่ในสถานการณ์แบบนี้…’ ถังเส้าหยางแอบดีใจที่เขาไม่ได้ทิ้งอาวุธของเขาไปหลังจากได้รับเดสทรอยเยอร์มา

ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของลิงที่มีหมอก ถังเส้าหยางก็ได้ตอบโต้อย่างไร้ความปราณี ศพของลิงล้อมรอบตัวเขา และส่วนใหญ่ศพเหล่านี้ก็ไม่มีหัว มันยังมีลิงอีกสองสามตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ร่างกายของพวกมันก็มีรอยบุบปรากฎอยู่ทั่วทุกที่

มีลิงหยางตัวที่นอนกองอยู่กับพื้นในสภาพที่ไร้แขนขา แต่มันก็ยังคงหายใจอยู่ นอกจากนี้มันก็ยังมีลิงที่มีแขนขาที่บิดเบี้ยวซึ่งมันก็ดูพิพลลพการเป็นอย่างมาก และแน่นนอน มันก็ยังหายใจอยู่

อย่างไรก็ตาม ถังเส้าหยางและลู่อันก็ไม่ได้สนใจฉากที่น่าสยดสยองรอบตัวพวกเขา ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่ลิงตรงหน้า พวกเขาไม่สามารถลดการ์ดลงได้ ไม่อย่างงั้นลิงพวกนี้ก็อาจจะฉีกร่างของพวกเขาเป็นชินๆได้

การต่อสู้ดำเนินไปเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง และตอนนี้จำนวนของลิงก็ลดลงไปอย่างมากแล้ว ในเวลานี้ ลมหายใจของลู่อันก็ไม่คงที่ในขณะที่เขาหายใจถี่มาก ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่หยุดมือ

ประมาณสิบนาทีหลังจากนั้น ลิงก็หยุดการโจมตี ถึงกระนั้นลู่อันและถังเส้าหยางก็ยังหันหลังให้กัน พวกเขามองดูหมอกอย่างระมัดระวัง  ในตอนนี้ดวงตาสีแดงสดก็ยังคงมองเห็นได้ภายในหมอก

นี่หมายความว่าลิงยังคงล้อมรอบพวกเขาอยู่ และพวกเขาก็ยังคงสบตากันกับมัน อย่างไรก็ตาม จู่ๆดวงตาสีแดงสดก็หายไป หมอกโดยรอบกลับมาเป็นปกติและการมองเห็นของถังเส้าหยางก็กลับไปเป็นสิบเมตรเหมือนเดิม

“ หมอกนี้เป็นของลิงพวกนั้นสินะ…” ถังเส้าหยางพึมพำด้วยเสียงต่ำ แต่ดวงตาของเขายังคงจ้องมองไปที่หมอก ลิงอาจโต้กลับมาโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวได้

อย่างไรก็ตาม ลู่อันก็กลับทำตรงกันข้าม ทันทีที่เขาสังเกตเห็นดวงตาสีแดงสดหายไป เขาก็ทรุดตัวลงกับพื้นในทันที เขาไม่สนใจว่าถนนลาดยางจะเปื้อนเลือดหรือไม่ในขณะที่เขานอนลงกับพื้น

“ ฮะ… ในที่สุด… ฮะ… พวกมัน… ฮะ… ก็ไป…”

ขณะที่เขานอนลง ความง่วงก็เข้ามากระทบเขา ลู่อันต้องการหลับตา แต่ถังเส้าหยางเตะเขา

“ ไอ้บ้า! แกทำอะไรอยู่?  ถังเส้าหยางดุลู่อัน  “ ถ้าลิงมันโต้เรากลับล่ะ นายอยากจะเป็นอาหารของพวกมันอย่างงั้นหรอ?”

เมื่อลู่อันได้ยินดังนั้นเขาก็รีบดีดตัวขึ้นมานทันที เขาไม่ได้มองการไกลขนาดนั้น ดังนั้นเขาเลยคิดว่าการต่อสู้นี้จะจบลงแล้ว

เขาคิดว่าตั้งแต่เขาและบอสถังจัดการโต้กลับลิงได้แล้ว พวกมันก็จะไม่กลับมาอีก แต่ลิงถือเป็นสัตว์ที่ฉลาด และถ้าลิงพวกนี้ฉลาดขึ้นหลังจากการกลายพันธุ์ล่ะ?

พวกมันอาจจะวางแผนเอาไว้แล้ว ถอยทัพเพื่อกลับมาโจมตีใหม่แบบไม่ทันตั้งตัว ใช่แล้ว มันเป็นไปได้ เมื่อเขาคิดจะหลับ ลิงพวกนี้ก็อาจจะโจมตีกลับได้ ลิงพวกนี้จะฉีกร่างของเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยฟันของพวกมัน

เมื่อคิดเช่นนี้ ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านขณะที่เขาสำรวจบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง ด้วยความช่วยเหลือของระบบที่ไม่รู้จัก เส้นทางใหม่ก็ถูกเปิดขึ้น เขาไม่อยากตายก่อนทั้งๆที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย

“ มีบางอย่างแปลกๆ…” ลู่อันกวาดสายตาไปรอบๆ และพบว่ามันมีสิ่งแปลกปลอม เพียงแค่มองไปรอบๆ เขาก็สามารถบอกได้ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ในขณะที่ลู่อันกำลังสับสน  ถังเส้าหยางก็ตอบเขา “ ซากศพ ซากลิงหายไปแล้ว!”

“ ใช่แล้ว ซากศพ ฉันแน่ใจว่าฉันฆ่าลิงไปหลายตัวแล้ว แต่ศพของพวกมันอยู่ที่ไหนกัน” ลู่อันโพล่งออกมาด้วยความสับสน เขามองไปรอบๆ แต่เขาก็พบแต่เลือดที่ยังไม่แห้งแต่ศพก็หายไปแล้ว

เขาแน่ใจว่าเขาฆ่าลิงไปหลายตัว และต้องขอบคุณลิงพวกนี้ที่ทำให้เขาได้เลเวลอัพ และการที่เขาเลเวลอัพนั้นก็หมายความว่าลิงได้ถูกฆ่าไปแล้วจริงๆ แต่ศพของพวกมันอยู่ที่ไหนล่ะ?

ก่อนหน้านี้เขาจดจ่ออยู่กับลิงและไม่ได้สนใจสภาพแวดล้อมของเขา เช่นเดียวกับถังเส้าหยาง เขาก็จดจ่ออยู่กับศัตรูของเขาและไม่ทันได้สังเกตเห็นซากศพที่หายไปเหมือนกัน

“ มันมีสัตว์ตัวอื่นนำศพไปหรือเปล่า แต่ทำไมมันถึงไม่โจมตีเราล่ะ?” ลู่อันเริ่มเดาอย่างบ้าคลั่งแต่มันก็ไม่มีทางที่จะยืนยันได้

“ หรือว่าสัตว์ตัวนั้นจะคิดว่ามันมีอาหารเพียงพอแล้วมันจึงไม่ทำร้ายเรา?” ยิ่งเขาคาดเดา เขาก็ยิ่งคิดว่าเขาพูดถูก

“ ไม่เป็นไร เราจะเดินทางกันต่อ การออกไปให้เร็วที่สุดคือวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด”  ถังเส้าหยางไม่ต้องการเสียเวลาคาดเดาสิ่งที่เขาไม่มีทางยืนยันได้ เขาหยุดเกมทายปริศนาของลู่อันในขณะที่ลู่อันก็พยักหน้า

ลู่อันเห็นด้วยในทันที แม้ว่าเขาจะเหนื่อยและต้องการการพักผ่อนอย่างมาก แต่เขาก็ต้องการออกจากสถานที่ที่น่าขนลุกแห่งนี้โดยเร็วที่สุดเช่นกัน

ถังเส้าหยางเป็นผู้นำในขณะที่เขาเดินไปตามถนนลาดยาง เพราะหมอกและลิง การไปตามถนนลาดยางจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

ด้วยทัศนวิสัยที่จำกัดและอันตรายที่ไม่รู้จักภายใต้หมอก พวกเขาจึงไม่กล้าวิ่งตรงไปข้างหน้า และถ้าเขาจำไม่ผิด มันก็มีทะเลสาบเทียมอยู่กลางสวนด้วย ซึ่งเขาก็เชื่อว่ามันจะต้องมีสัตว์กลายพันธุ์อื่นนอกจากลิงอยู่แน่ๆ

สัญชาตญาณของเขากำลังบอกเขาว่ามันจะต้องมีสัตว์อสูรกลายพันธุ์ที่ทรงพลังมากกว่าลิงแน่ๆ และเขาก็เชื่อว่าทะเลสาบเทียมแห่งนี้จะเป็นหนึ่งในรังของสัตว์กลายพันธุ์ ด้วยเหตุนี้เอง การหลีกเลี่ยงทะเลสาบเทียมจึงเป็นทางเลือกที่ฉลาด อย่างน้อยๆมันก็เป็นสิ่งที่เขาเชื่อ

ในชั่วโมงถัดมา พวกเขาก็ยังไม่พบสัตว์กลายพันธุ์หรืออันตรายอื่นใด อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ก็ยังคงไม่สามารถไปถึงอีกด้านหนึ่งของเซ็นทรัลปาร์คได้ พวกเขาควรจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงสองชั่วโมงเพื่อไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง แต่นี่มันก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่เขาเข้ามาในนี้

ถังเส้าหยางรู้สึกสงสัยเล็กน้อยในตอนแรก แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็เดินช้าลงเพราะมีหมอก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติหากพวกเขาจะใช้เวลานานกว่าจะไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง

สองชั่วโมงต่อมา

ในเวลานี้แม้แต่ลู่อันก็ตระหนักได้ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ  ถังเส้าหยางตัดสินใจในทันทีและเลือกที่จะหยุดพัก

ในตอนนี้พระอาทิตย์ได้ตกและพระจันทร์ก็ได้ลอยขึ้นมาแล้ว แม้ว่ามันจะมีม่านหมอก แต่ก็ต้องขอบคุณแสงจันทร์ที่จะพอทำให้พวกเขาสามารถมองเห็นได้

“ เรามาพักที่นี่กันเถอะ!” ถังเส้าหยางชี้ไปที่หญ้าสีเขียวสั้นๆ “ นายนอนก่อน แล้วเราจะผลัดกันทีหลัง!”

“ แต่…” ลู่อันไม่มั่นใจกับการตัดสินใจของถังเส้าหยาง  ในความเห็นของเขา การออกจากสวนสาธารณะโดยเร็วที่สุดก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่าการนอนในสวนสาธารณะที่น่าขนลุกนี่ ดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าพวกเขาจะเดินทางต่อไป

“ พักผ่อนซะ!”  ถังเส้าหยางขึ้นเสียงและลู่อันก็หุบปากไปในทันที เขาทำตามคำสั่งของบอสและนอนลงบนหญ้าเย็น

แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาชอบที่จะเดินทางต่อไป แต่เขาก็ผล็อยหลับไปทันทีเมื่อร่างของเขาแตะกับพื้นหญ้า ลู่อันมาถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว และนี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ถังเส้าหยางตัดสินใจหยุดพัก

สิบชั่วโมง ทั้งคู่หยุดอยู่ที่เดิมเป็นเวลาสิบชั่วโมง โชคดีที่ลิงไม่ได้โจมตีพวกเขาอีก ลู่อันและถังเส้าหยางนอนหลับไปคนละห้าชั่วโมงตามลำดับ  สีหน้าของลู่อันเองก็ดีขึ้นมากหลังจากตื่นนอน

ทั้งคู่ทานอาหารง่ายๆ กินบิสกิต ช็อคโกแลต และน้ำเปล่า ลู่อันไม่อยากอาหาร แต่ถังเส้าหยางบังคับให้เขากิน หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางต่อ

หนึ่งชั่วโมงต่อมา  ลู่อันก็รู้สึกตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าเขาหลงทางในสวนสาธารณะที่น่าขนลุกแห่งนี้ แม้จะเดินตามถนนลาดยางแล้วแต่มันก็ยังไม่สามารถออกจากสวนได้

“ บอส…” ลู่อันตื่นตระหนก แต่จากนั้นถังเส้าหยางก็เอานิ้วชี้ไปที่ปากแล้วส่งเสียง  “ ชู่ว!”

เขาบอกให้ลู่อันหุบปากและลู่อันก็ปิดปากไปในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียง ไม่นานหลังจากเสียงนั้น เขาก็รู้สึกว่าพื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนเล็กน้อย

ตึก! ตึก! ตึก!

เสียงังขึ้นราวกับกองทัพทหารม้าโจมตี แต่ลู่อันก็รู้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่กองทัพทหารม้า จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเสียงนั้นกำลังมาถึงพวกเขาและในไม่ช้าสิ่งที่ทำให้เกิดเสียงดังก็ปรากฏขึ้น

มันเป็นลิงตัวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม… สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ใหญ่กว่า แขนขาทั้งสี่ของมันดูแข็งแรงมาก ลิงตอนนี้ดูเหมือนลิงกอริลลามากกว่าลิง

โฮก!

กอริลลาคำรามใส่เขาและลู่อันก็แข็งค้างไปในทันที เขาไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะมาถึง แขนมันใหญ่พอๆกับร่างกายของเขา จากนั้นขวานศึกที่คุ้นเคยก็กวาดไปที่กอริลลา

แบ้มมม!

กอริลลากระโดดหลบไปได้อย่างายดายและไม่ได้รับบาดเจ็บ

“ วิ่ง!”  ถังเส้าหยางตะโกนใส่หูของลู่อัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 15 ป่าหมอก 2

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 15 ป่าหมอก 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถังเส้าหยางไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงของผู้ติดตามของเขา เขามุ่งความสนใจไปที่ลิง

ว้าว!

ถังเส้าหยางเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์ของเขาไปที่ลิง ฝูงลิงพุ่งเข้าหาถังเส้าหยาง พวกมันเข้ามาอยู่ในวงสวิงของเดสทรอยเยอร์อย่างน้อยสิบถึงสิบสามตัว จากนั้นถังเส้าหยางก็ตระหนักได้ว่าเขากำลังพบกับปัญหาแล้ว ลิงเหล่านี้ไม่มีความกลัว

แม้ว่าพรรคพวกของพวกมันจะถูกฆ่าตายอย่างโหดร้าย แต่พวกมันก็ไม่ได้หยุดฝีเท้าหรือวิ่งหนีไปด้วยความกลัวเลย พวกมันยังคงพุ่งเข้าใส่เขาอย่างไม่ลดละท่ามกลางการเข่นฆ่า

ปัญหาคือน้ำหนักของเดสทรอยเยอร์ เขาสามารถเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์ไปอย่างต่อเนื่องได้ แต่กระนั้นความเร็วในการเหวี่ยงของเขาก็ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับความเร็วของพวกมัน   และหากเขาช้าไปแม้เพียงไม่กี่วินาที ฟันที่แหลมคมเหล่านี้ก็อาจจะฉีกกระชากเนื้อของเขาได้

เขาไม่ใช่คนโง่ที่จะอยากลองดูว่าฟันของลิงจะฉีกร่างของเขาได้หรือไม่ ถ้าลิงมีจำนวนน้อย ถังเส้าหยางก็มั่นใจในการใช้เดสทรอยเยอร์

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่มีทางรู้จำนวนลิงได้เพราะหมอก การมองเห็นของเขามีจำกัด และเขาไม่สามารถคำนวณจำนวนลิงได้ด้วยซ้ำ

‘ เดสทรอยเยอร์ไม่ใช่อาวุธที่เหมาะสมกับลิง…’ หลังจากสรุปเรื่องนี้เสร็จ ถังเส้าหยางก็ได้ปักขวานศึกของเขาไว้ข้างๆ

แบม!

หลังจากนั้นถังเส้าหยางก็ดึงท่อเหล็กสองอันที่เอวของเขาออกมา ลิงพวกนี้ว่องไวมาก แต่มันก็ยังอ่อนแอกว่าซอมบี้ ดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา การฆ่าลิงด้วยการฟาดท่อเหล็กเพียงครั้งเดียวนั้นจึงเป็นไปได้

บัก! บัก! บัก! บัก!

ถังเส้าหยางต่อสู้กับลิงต่อโดยไม่ลังเล เขาเล็งท่อเหล็กไปที่ลิงที่ปรากฏอขึ้นมาในสายตา เป้าหมายของเขาคือบริเวณหัวของลิง แต่ถ้าเขาไม่สามารถเอื้อมไปถึงหัวมันได้ เขาก็จะตีทุกอย่างที่เขาจะตีได้

‘ โชคดีที่ฉันไม่ได้ทิ้งท่อเหล็กไป มันยังคงมีประโยชน์แม้แต่ในสถานการณ์แบบนี้…’ ถังเส้าหยางแอบดีใจที่เขาไม่ได้ทิ้งอาวุธของเขาไปหลังจากได้รับเดสทรอยเยอร์มา

ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของลิงที่มีหมอก ถังเส้าหยางก็ได้ตอบโต้อย่างไร้ความปราณี ศพของลิงล้อมรอบตัวเขา และส่วนใหญ่ศพเหล่านี้ก็ไม่มีหัว มันยังมีลิงอีกสองสามตัวที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ร่างกายของพวกมันก็มีรอยบุบปรากฎอยู่ทั่วทุกที่

มีลิงหยางตัวที่นอนกองอยู่กับพื้นในสภาพที่ไร้แขนขา แต่มันก็ยังคงหายใจอยู่ นอกจากนี้มันก็ยังมีลิงที่มีแขนขาที่บิดเบี้ยวซึ่งมันก็ดูพิพลลพการเป็นอย่างมาก และแน่นนอน มันก็ยังหายใจอยู่

อย่างไรก็ตาม ถังเส้าหยางและลู่อันก็ไม่ได้สนใจฉากที่น่าสยดสยองรอบตัวพวกเขา ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่ลิงตรงหน้า พวกเขาไม่สามารถลดการ์ดลงได้ ไม่อย่างงั้นลิงพวกนี้ก็อาจจะฉีกร่างของพวกเขาเป็นชินๆได้

การต่อสู้ดำเนินไปเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง และตอนนี้จำนวนของลิงก็ลดลงไปอย่างมากแล้ว ในเวลานี้ ลมหายใจของลู่อันก็ไม่คงที่ในขณะที่เขาหายใจถี่มาก ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่หยุดมือ

ประมาณสิบนาทีหลังจากนั้น ลิงก็หยุดการโจมตี ถึงกระนั้นลู่อันและถังเส้าหยางก็ยังหันหลังให้กัน พวกเขามองดูหมอกอย่างระมัดระวัง  ในตอนนี้ดวงตาสีแดงสดก็ยังคงมองเห็นได้ภายในหมอก

นี่หมายความว่าลิงยังคงล้อมรอบพวกเขาอยู่ และพวกเขาก็ยังคงสบตากันกับมัน อย่างไรก็ตาม จู่ๆดวงตาสีแดงสดก็หายไป หมอกโดยรอบกลับมาเป็นปกติและการมองเห็นของถังเส้าหยางก็กลับไปเป็นสิบเมตรเหมือนเดิม

“ หมอกนี้เป็นของลิงพวกนั้นสินะ…” ถังเส้าหยางพึมพำด้วยเสียงต่ำ แต่ดวงตาของเขายังคงจ้องมองไปที่หมอก ลิงอาจโต้กลับมาโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวได้

อย่างไรก็ตาม ลู่อันก็กลับทำตรงกันข้าม ทันทีที่เขาสังเกตเห็นดวงตาสีแดงสดหายไป เขาก็ทรุดตัวลงกับพื้นในทันที เขาไม่สนใจว่าถนนลาดยางจะเปื้อนเลือดหรือไม่ในขณะที่เขานอนลงกับพื้น

“ ฮะ… ในที่สุด… ฮะ… พวกมัน… ฮะ… ก็ไป…”

ขณะที่เขานอนลง ความง่วงก็เข้ามากระทบเขา ลู่อันต้องการหลับตา แต่ถังเส้าหยางเตะเขา

“ ไอ้บ้า! แกทำอะไรอยู่?  ถังเส้าหยางดุลู่อัน  “ ถ้าลิงมันโต้เรากลับล่ะ นายอยากจะเป็นอาหารของพวกมันอย่างงั้นหรอ?”

เมื่อลู่อันได้ยินดังนั้นเขาก็รีบดีดตัวขึ้นมานทันที เขาไม่ได้มองการไกลขนาดนั้น ดังนั้นเขาเลยคิดว่าการต่อสู้นี้จะจบลงแล้ว

เขาคิดว่าตั้งแต่เขาและบอสถังจัดการโต้กลับลิงได้แล้ว พวกมันก็จะไม่กลับมาอีก แต่ลิงถือเป็นสัตว์ที่ฉลาด และถ้าลิงพวกนี้ฉลาดขึ้นหลังจากการกลายพันธุ์ล่ะ?

พวกมันอาจจะวางแผนเอาไว้แล้ว ถอยทัพเพื่อกลับมาโจมตีใหม่แบบไม่ทันตั้งตัว ใช่แล้ว มันเป็นไปได้ เมื่อเขาคิดจะหลับ ลิงพวกนี้ก็อาจจะโจมตีกลับได้ ลิงพวกนี้จะฉีกร่างของเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยฟันของพวกมัน

เมื่อคิดเช่นนี้ ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านขณะที่เขาสำรวจบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง ด้วยความช่วยเหลือของระบบที่ไม่รู้จัก เส้นทางใหม่ก็ถูกเปิดขึ้น เขาไม่อยากตายก่อนทั้งๆที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย

“ มีบางอย่างแปลกๆ…” ลู่อันกวาดสายตาไปรอบๆ และพบว่ามันมีสิ่งแปลกปลอม เพียงแค่มองไปรอบๆ เขาก็สามารถบอกได้ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ในขณะที่ลู่อันกำลังสับสน  ถังเส้าหยางก็ตอบเขา “ ซากศพ ซากลิงหายไปแล้ว!”

“ ใช่แล้ว ซากศพ ฉันแน่ใจว่าฉันฆ่าลิงไปหลายตัวแล้ว แต่ศพของพวกมันอยู่ที่ไหนกัน” ลู่อันโพล่งออกมาด้วยความสับสน เขามองไปรอบๆ แต่เขาก็พบแต่เลือดที่ยังไม่แห้งแต่ศพก็หายไปแล้ว

เขาแน่ใจว่าเขาฆ่าลิงไปหลายตัว และต้องขอบคุณลิงพวกนี้ที่ทำให้เขาได้เลเวลอัพ และการที่เขาเลเวลอัพนั้นก็หมายความว่าลิงได้ถูกฆ่าไปแล้วจริงๆ แต่ศพของพวกมันอยู่ที่ไหนล่ะ?

ก่อนหน้านี้เขาจดจ่ออยู่กับลิงและไม่ได้สนใจสภาพแวดล้อมของเขา เช่นเดียวกับถังเส้าหยาง เขาก็จดจ่ออยู่กับศัตรูของเขาและไม่ทันได้สังเกตเห็นซากศพที่หายไปเหมือนกัน

“ มันมีสัตว์ตัวอื่นนำศพไปหรือเปล่า แต่ทำไมมันถึงไม่โจมตีเราล่ะ?” ลู่อันเริ่มเดาอย่างบ้าคลั่งแต่มันก็ไม่มีทางที่จะยืนยันได้

“ หรือว่าสัตว์ตัวนั้นจะคิดว่ามันมีอาหารเพียงพอแล้วมันจึงไม่ทำร้ายเรา?” ยิ่งเขาคาดเดา เขาก็ยิ่งคิดว่าเขาพูดถูก

“ ไม่เป็นไร เราจะเดินทางกันต่อ การออกไปให้เร็วที่สุดคือวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด”  ถังเส้าหยางไม่ต้องการเสียเวลาคาดเดาสิ่งที่เขาไม่มีทางยืนยันได้ เขาหยุดเกมทายปริศนาของลู่อันในขณะที่ลู่อันก็พยักหน้า

ลู่อันเห็นด้วยในทันที แม้ว่าเขาจะเหนื่อยและต้องการการพักผ่อนอย่างมาก แต่เขาก็ต้องการออกจากสถานที่ที่น่าขนลุกแห่งนี้โดยเร็วที่สุดเช่นกัน

ถังเส้าหยางเป็นผู้นำในขณะที่เขาเดินไปตามถนนลาดยาง เพราะหมอกและลิง การไปตามถนนลาดยางจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

ด้วยทัศนวิสัยที่จำกัดและอันตรายที่ไม่รู้จักภายใต้หมอก พวกเขาจึงไม่กล้าวิ่งตรงไปข้างหน้า และถ้าเขาจำไม่ผิด มันก็มีทะเลสาบเทียมอยู่กลางสวนด้วย ซึ่งเขาก็เชื่อว่ามันจะต้องมีสัตว์กลายพันธุ์อื่นนอกจากลิงอยู่แน่ๆ

สัญชาตญาณของเขากำลังบอกเขาว่ามันจะต้องมีสัตว์อสูรกลายพันธุ์ที่ทรงพลังมากกว่าลิงแน่ๆ และเขาก็เชื่อว่าทะเลสาบเทียมแห่งนี้จะเป็นหนึ่งในรังของสัตว์กลายพันธุ์ ด้วยเหตุนี้เอง การหลีกเลี่ยงทะเลสาบเทียมจึงเป็นทางเลือกที่ฉลาด อย่างน้อยๆมันก็เป็นสิ่งที่เขาเชื่อ

ในชั่วโมงถัดมา พวกเขาก็ยังไม่พบสัตว์กลายพันธุ์หรืออันตรายอื่นใด อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ก็ยังคงไม่สามารถไปถึงอีกด้านหนึ่งของเซ็นทรัลปาร์คได้ พวกเขาควรจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงสองชั่วโมงเพื่อไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง แต่นี่มันก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่เขาเข้ามาในนี้

ถังเส้าหยางรู้สึกสงสัยเล็กน้อยในตอนแรก แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็เดินช้าลงเพราะมีหมอก ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติหากพวกเขาจะใช้เวลานานกว่าจะไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง

สองชั่วโมงต่อมา

ในเวลานี้แม้แต่ลู่อันก็ตระหนักได้ว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ  ถังเส้าหยางตัดสินใจในทันทีและเลือกที่จะหยุดพัก

ในตอนนี้พระอาทิตย์ได้ตกและพระจันทร์ก็ได้ลอยขึ้นมาแล้ว แม้ว่ามันจะมีม่านหมอก แต่ก็ต้องขอบคุณแสงจันทร์ที่จะพอทำให้พวกเขาสามารถมองเห็นได้

“ เรามาพักที่นี่กันเถอะ!” ถังเส้าหยางชี้ไปที่หญ้าสีเขียวสั้นๆ “ นายนอนก่อน แล้วเราจะผลัดกันทีหลัง!”

“ แต่…” ลู่อันไม่มั่นใจกับการตัดสินใจของถังเส้าหยาง  ในความเห็นของเขา การออกจากสวนสาธารณะโดยเร็วที่สุดก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่าการนอนในสวนสาธารณะที่น่าขนลุกนี่ ดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าพวกเขาจะเดินทางต่อไป

“ พักผ่อนซะ!”  ถังเส้าหยางขึ้นเสียงและลู่อันก็หุบปากไปในทันที เขาทำตามคำสั่งของบอสและนอนลงบนหญ้าเย็น

แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาชอบที่จะเดินทางต่อไป แต่เขาก็ผล็อยหลับไปทันทีเมื่อร่างของเขาแตะกับพื้นหญ้า ลู่อันมาถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว และนี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ถังเส้าหยางตัดสินใจหยุดพัก

สิบชั่วโมง ทั้งคู่หยุดอยู่ที่เดิมเป็นเวลาสิบชั่วโมง โชคดีที่ลิงไม่ได้โจมตีพวกเขาอีก ลู่อันและถังเส้าหยางนอนหลับไปคนละห้าชั่วโมงตามลำดับ  สีหน้าของลู่อันเองก็ดีขึ้นมากหลังจากตื่นนอน

ทั้งคู่ทานอาหารง่ายๆ กินบิสกิต ช็อคโกแลต และน้ำเปล่า ลู่อันไม่อยากอาหาร แต่ถังเส้าหยางบังคับให้เขากิน หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางต่อ

หนึ่งชั่วโมงต่อมา  ลู่อันก็รู้สึกตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าเขาหลงทางในสวนสาธารณะที่น่าขนลุกแห่งนี้ แม้จะเดินตามถนนลาดยางแล้วแต่มันก็ยังไม่สามารถออกจากสวนได้

“ บอส…” ลู่อันตื่นตระหนก แต่จากนั้นถังเส้าหยางก็เอานิ้วชี้ไปที่ปากแล้วส่งเสียง  “ ชู่ว!”

เขาบอกให้ลู่อันหุบปากและลู่อันก็ปิดปากไปในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียง ไม่นานหลังจากเสียงนั้น เขาก็รู้สึกว่าพื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนเล็กน้อย

ตึก! ตึก! ตึก!

เสียงังขึ้นราวกับกองทัพทหารม้าโจมตี แต่ลู่อันก็รู้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่กองทัพทหารม้า จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเสียงนั้นกำลังมาถึงพวกเขาและในไม่ช้าสิ่งที่ทำให้เกิดเสียงดังก็ปรากฏขึ้น

มันเป็นลิงตัวเดียวกัน อย่างไรก็ตาม… สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ใหญ่กว่า แขนขาทั้งสี่ของมันดูแข็งแรงมาก ลิงตอนนี้ดูเหมือนลิงกอริลลามากกว่าลิง

โฮก!

กอริลลาคำรามใส่เขาและลู่อันก็แข็งค้างไปในทันที เขาไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะมาถึง แขนมันใหญ่พอๆกับร่างกายของเขา จากนั้นขวานศึกที่คุ้นเคยก็กวาดไปที่กอริลลา

แบ้มมม!

กอริลลากระโดดหลบไปได้อย่างายดายและไม่ได้รับบาดเจ็บ

“ วิ่ง!”  ถังเส้าหยางตะโกนใส่หูของลู่อัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+