Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 54 สงครามซอมบี้ 1

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 54 สงครามซอมบี้ 1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Armipotent – จักรวรรดิคลัง จักรพรรดิอมตะ

 

บทที่ 54 สงครามซอมบี้ 1

 

“ เขาตายแล้ว!”

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่า” จ้าวจงหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินเช่นนั้น

 

“ อะไร นายหัวเราะทําไมกัน นายบ้าไปแล้วหรอ?” ว่านจิงยี่ตกใจ

 

“ หืม? บ้าหรอ?” จ้าวจงทําเพียงแค่ส่ายหัวกับคําพูดของว่านจิงยี่

 

ย้อนกลับไปในตอนนั้น ถึงเส้าหยางก็สามารถเอาชนะคนหลายสิบคนได้ในคราวเดียว อย่างงั้นแล้วนับประสาอะไรกับตอนนี้ที่เขามีค่าคุณสมบัติเพิ่มขึ้นจากการอัพเลเวลล่ะ ศพเดินได้ที่เรียกว่าซอมบี้พวกนี้จะสามารถฆ่าชายคนนั้นได้หรอ? ไม่มีทาง!!

 

ว่านจิงยี่ไม่เข้าใจความคิดของจ้าวจง เธอไม่สนใจแม้แต่ความคิดของเขา สิ่งที่สําคัญในตอนนี้คือการเอาชีวิตของเธอและสามีให้รอดจากฝูงซอมบี้

 

“ เราต้องไปแล้ว เว่ยซี!” เธอเรียกชื่อเต็มของสามีในขณะที่ดึงมือของเขา

 

อย่างไรก็ตาม เว่ยซีก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนจากจุดที่เขาอยู่ ตาของเขาจับจ้องไปที่ฝูงซอมบี้ “ รอก่อนที่รัก! รออีกหน่อย!”

 

“ อะไรนะ จะรออะไรอีก รอความตายรึไง!” ว่านจิงยี่โกรธสามีของเธอที่คิดจะฝากชีวิตไว้กับอันธพาลที่โหดเหี้ยม

 

ตั้งแต่แรก เธอก็ไม่เคยเห็นด้วยกับการอยู่ที่ฐานทัพของถังเส้าหยาง แต่เธอก็รู้ว่าฐานทัพแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะอยู่อาศัย ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่กัยสามีของเธอ

 

“ ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปคนเดียวก็ได้! คุณอยากจะตายอยู่ที่นี่กับบอสเลือดเย็นของคุณก็เชิญ” เธอปล่อมมือออกจากสามีของเธอ

 

แน่นอนว่าเว่นซีไม่ได้ปล่อยมือของเขาออกจากภรรยาของเขา

 

“ ดูนั่นสิที่รัก! ฉันบอกแล้ว!”

 

ว่านจิงยี่ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ จากนั้นเธอก็มองไปที่ฝูงซอมบี้ตามที่สามีเธอบอก

 

เมื่อเอมองไปที่ฝูงซอมบี้ สิ่งแรกที่เธอเห้นก็คือมันกําลังมีหัวของซอมบี้ลอยขึ้นไปบนฟ้าขณะที่ขวานขนาดใหญ่สีแดงก็กําลังกวัดแกว่งไปมาในฝูงนั้น

 

“ ฉันบอกแล้วไง เขาไม่ตายง่ายขนาดนั้นหรอก!” จ้าวจงโอ้อวดต่อหน้าว่านจิงยี่

 

หญิงสาวกลอกตาไปที่จ้าวจง เธอไม่ได้ให้ความเห็นอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับถังเส้าหยางขณะที่เธอรู้สึกถึงกับภาพที่เห็น

 

“ เราควรไปช่วยเขาไหม?” เว่ยซีรู้สึกเป็นกังวล ไม่ว่าถังเส้าหยางจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่เขาก็มีเพียวตัวคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถกําจัดฝูงซอมบี้ทั้งหมดลงได้

 

“ อืม…” จ้าวจงพยักหน้าขณะครุ่งคิด “ เราควรไปช่วยบอสนะ คุณสองคนกําจัดปีกขวา ฉันกําจัดปีกซ้ายเอง!”

 

ทั้งสามพยักหน้าและมุ่งหน้าไปช่วยถังเส้าหยาง

 

ในขณะเดียวกัน ถังเส้าหยางก็เหวี่ยงขวานศึกออกไปโกรธเกรี้ยว

 

“ ทําไมพวกแกถึงไม่สู้กับฉันล่ะ ไอ้เวร! หยุดและมาต่อสู้กับฉันสิ อย่ามาเมินฉันนะ!” เขากําลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

 

ไม่ว่าซอมบี้จะถูกฆ่าตายไปมากแค่ไหน แต่พวกมันก็ไม่ได้สนใจเขาเลยราวกับว่าเขาเป็นอากาศ

 

“ บอส พวกเรามาช่วยแล้ว!” จ้าวจงตะโกนดังมาจากข้างหลัง

 

ทันทีที่ถึงเส้าหยางได้ยินเสียงตะโกน เขาก็สังเกตเห็นว่าฝูงซอมบี้เริ่มที่จะเดินเร็วขึ้น และมันก็กําลังแบ่งออกเป็นสองส่วนส่วนหนึ่งไปทางซ้าย และส่วนหนึ่งไปทางขวา

 

เขามองย้อนกลับไปและพบว่าฝูงซอมบี้ทั้งสองนี้กําลังมุ่งหน้าไปหาจ้าวจงและเว่ยซี

 

“ ตรึงมันเอาไว้” เขาตะโกนบอกทั้งสองคน

 

จากสถานการณ์ปัจจุบัน เขาก็สามารถใช้ทั้งสองเพื่อซื้อเวลาเพิ่มได้ ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงสั่งให้ทั้งสองคนดึงฝูงซอมบี้เอาไว้

 

ถังเส้าหยางพุ่งไปช่วยจ้าวจงและเว่ยซี ในขณะที่ว่านจิงยี่ก็ให้การสนับสนุนพวกเขาด้วยธนูของเธอ เธอยิงซอมบี้ระยะที่ 2 ที่กําลังตามหลังสามีของเธอและจ้าวจง

 

ในไม่ช้าผู้หญิงคนนี้ก็พบว่ามันมีบางอย่างแปลกๆ ซอมบี้พวกนี้ไม่สนใจถึงเส้าหยางเลย

 

“ ไม่ยุติธรรมเลย! คุณใช้กลอุบายอะไรกัน ทําไมซอมบี้ถึงไม่โจมตีคุณ” ว่านจิงยี่ตะโกนออกมาดังๆ

“ ฉันรู้ ฉันเองก็ไม่ได้อยากถูกเมินเหมือนกันนะ!” ถังเส้าหยางตะโกนโต้กลับไปอย่างโกรธจัด

 

ต้องขอบคุณการเสริมกําลังทั้งสาม ตอนนี้คนทั้งสี่จึงสามารถชะลอฝูงซอมบี้ให้ช้าลงได้

 

ทั้งสี่คนถูกผลักออกจากสะพานโดยไม่รู้ตัว แต่พวกเขาก็ยังพอสามารถซื้อเวลาได้เกือบชั่วโมง

 

เมื่อถึงระยะหนึ่งเว่ยซี,ว่านจิงยี่และจ้าวจงก็ได้มาถึงขีดจํากัดของพวกเขาแล้ว พวกเขาเริ่มหายใจหอบอย่างหนักหน่วง

 

“ เอาล่ะ พอได้แล้ว! พวกนายกลับไปแจ้งทางฐานทัได้แล้วว่าพวกซอมบี้กําลังมา! ฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อลดจํานวนของพวกมันต่อไปเอง!”

 

ถังเส้าหยางสั่งให้ทั้งสามคนกลับไป

 

“ แต่…” จ้าวจงต้องการที่จะอยู่และต่อสู้เคียงข้างบอส

 

“ กลับไปเดี๋ยวนี้เ” ถึงเส้าหยางยืนยันคําเดิม

 

“ เข้าใจแล้ว!” ทั้งสามพยักหน้าและถอยกลับไปในทันที

 

เมื่อทั้งสามกําลังถอยกลับไป ฝูงซอมบี้ก็กลับมาเดินต่อด้วยความเร็วปกติ พวกมันยังคงเพิกเฉยต่อการปรากฏตัวของถังเส้าหยาง

 

ไม่นานหลังจากที่ทั้งสามกลับไป พวกเขาก็ได้พบกับจางเหมิงเหยาและผู้ใต้บังคับบัญชาอีกสองคนของเธอ ฝูตันตันและไต่เหวินเฉียน

 

เมื่อมองไปที่สามคนที่อยู่ในสภาพที่สะบัดสะบอมและถังเส้าหยางที่หายตัวไป จางเหมิงเหยาก็เริ่มตื่นตระหนก

 

“ เขาอยู่ที่ไหน!?” เธอขึ้นเสียงโดยไม่รู้ตัว

 

“ไม่ต้องกังวล เขากําลังชะลอฝูงซมบี้อยู่ที่ด้านหน้า และเราก็กลับมาเพื่อแจ้งให้ทุกคนรู้ว่าฝูงซอมบี้นั้นได้ข้ามสะพานมาแล้ว” ว่านจิงยี่รายงานจางเหมิงเหยา

 

จากนั้นแม่ทัพหญิงก็ดูโล่งใจขึ้น เธอพยักหน้าและบอกให้ทั้งสามไปพักผ่อนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะสั่งให้ฝูตันตันและไต่เหวินฉียนไปแจ้งทีมหลักทั้งหกเพื่อเตรียมพร้อม

 

เมื่อสั่งงานเสร็จ จางเหมิงเหยาก็รีบเดินทางไปหาถึงเส้าหยาง

 

ในไม่ช้า เธอก็พบว่าชายคนนั้นกําลังต่อสู้กับฝูงซอมบี้อยู่เพียงลําพัง อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีซอมบี้ตัวไหนเลยที่สนใจเขา

 

จางเหมิงเหยารีบไปดึงตัวถังเส้าหยางที่เปื้อนเลือดออกมา ใช่แล้ว ร่างกายของถังเส้าหยางนั้นเปียกโชกไปด้วยเลือดขอ

งซอมบี้

 

“ พอได้แล้ว! หยุดต่อสู้กับพวกซอมบี้พวกนี้ได้แล้ว! พลังของคุณเป็นสิ่งจําเป็นเพื่อต่อสู้กับซอมบี้ระยะที่ 2 และ 3!” หญิงสาวดึงผู้ชายของเธอไปกับเธอ

 

ถังเส้าหยางปฏิเสธที่จะตามเธอไปในตอนแรก แต่เขาก็พบว่าเธอพูดถูก นอกจากนี้ ซอมบี้ระยะที่ 1 พวกนี้ก็ยังสามารถใช้เพื่ออัพเลเวลให้กับคนอื่นๆได้

 

ถังเส้าหยางและจางเหมิงเหยาถอยกลับไปและปล่อยให้ฝูงซอมบี้บุกเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง

 

“ ทุกอย่างพร้อมแล้ว! ตราบใดที่เราจัดการซอมบี้ระยะที่ 2 และ 3 ได้ การเอาชนะฝูงซอมบี้พวกนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

 

“ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปจากที่นี่กันเถอะ!”

 

ตอนนี้ที่กําบังบนถนนได้ถูกสร้างขึ้นเรียบร้อยแล้ว พวกเขาใช้ซากรถยนต์มาเรียงต่อกัน มันเป็นที่กําบังที่เพอร์เฟ็ค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกซอมบี้ระยะที่ 1 พวกมันไม่สามารถบินข้ามรถขึ้นมาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถใช้หอกในการฆ่าพวกมันได้

 

นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมจางเหมิงเหยาถึงเลือกที่จะใช้หอกเป็นอาวุธ นั่นก็เพราะพวกเขาจะสามารถโจมตีพวกมันผ่านรูได้

 

กระแสการต่อสู้ดําเนินไปตามที่จางเหมิงเหยาคาดการณ์ไว้ ฝูงซอมแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มในตอนแรก และต่อมาฝูงซอมบี้ก็ได้ปรากฏอยู่เต็มถนนหลักอีกสองแห่งเช่นกัน

 

มันน่าแปลกที่ฝูงซอมบี้ที่โจมตีพวกเขานั้นมีเพียงซอมบี้ระยะที่ 1 เท่านั้น และแม้จะเต็มไปด้วยซอมบี้จํานวนมาก แต่จักรวรรดิถังก็ยังสามารถต้านทานพวกมันได้เป็นอย่างดี

 

หลังจากการต่อสู้ดําเนินไปห้าชั่วโมง ซอมบี้ระยะที่ 1 ทั้งหมดก็ได้ถูกกําจัดไป ใช่แล้ว มันไม่มีซอมบี้โจมตีพวกเขาอีกต่อไปแล้ว

 

“ เราชนะแล้วหรอ!?” ชายที่ถือหอกด้วยมือที่สั่นเทาพึมพําอย่างเหลือเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะซอมบีหลายพันตัวได้ด้วยจํานวนคนเพียงหลักร้อย

 

จางเหมิงเหยาขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่ามันมีบางอย่างแปลกๆ นั่นก็เพราะซอมบี้ทั้งหมดที่โจมตีเข้ามานั้นเป็นเพียงซอมบี้ระยะที่ 1

 

เธอแลกเปลี่ยนสายตากับถังเส้าหยาง ถังเส้าหยางเองก็รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆเช่นกัน ในตอนนี้เขาก็ไม่เห็นซอมบี้ระยะ ที่ 2 และ 3 เลย

 

และในขณะที่ทั้งคู่กําลังสับสน มันก็มีเสียงกรีดร้องดังมาจากทางด้านหลัง

 

ทั้งสองมองย้อนกลับไปและเห็นซอมบี้ระยะที่ 2 ขนาดมหึมา และแม้แต่ซอมบีระยะที่ 3 ก็โผล่มาจากด้านหลังของพวกเขา

 

จากนั้นคลาวเลอร์ก็เคลื่อนตัวเข้าไปในกลุ่ม และเริ่มโจมตีทีมธนู

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 54 สงครามซอมบี้ 1

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 54 สงครามซอมบี้ 1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Armipotent – จักรวรรดิคลัง จักรพรรดิอมตะ

 

บทที่ 54 สงครามซอมบี้ 1

 

“ เขาตายแล้ว!”

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่า” จ้าวจงหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินเช่นนั้น

 

“ อะไร นายหัวเราะทําไมกัน นายบ้าไปแล้วหรอ?” ว่านจิงยี่ตกใจ

 

“ หืม? บ้าหรอ?” จ้าวจงทําเพียงแค่ส่ายหัวกับคําพูดของว่านจิงยี่

 

ย้อนกลับไปในตอนนั้น ถึงเส้าหยางก็สามารถเอาชนะคนหลายสิบคนได้ในคราวเดียว อย่างงั้นแล้วนับประสาอะไรกับตอนนี้ที่เขามีค่าคุณสมบัติเพิ่มขึ้นจากการอัพเลเวลล่ะ ศพเดินได้ที่เรียกว่าซอมบี้พวกนี้จะสามารถฆ่าชายคนนั้นได้หรอ? ไม่มีทาง!!

 

ว่านจิงยี่ไม่เข้าใจความคิดของจ้าวจง เธอไม่สนใจแม้แต่ความคิดของเขา สิ่งที่สําคัญในตอนนี้คือการเอาชีวิตของเธอและสามีให้รอดจากฝูงซอมบี้

 

“ เราต้องไปแล้ว เว่ยซี!” เธอเรียกชื่อเต็มของสามีในขณะที่ดึงมือของเขา

 

อย่างไรก็ตาม เว่ยซีก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนจากจุดที่เขาอยู่ ตาของเขาจับจ้องไปที่ฝูงซอมบี้ “ รอก่อนที่รัก! รออีกหน่อย!”

 

“ อะไรนะ จะรออะไรอีก รอความตายรึไง!” ว่านจิงยี่โกรธสามีของเธอที่คิดจะฝากชีวิตไว้กับอันธพาลที่โหดเหี้ยม

 

ตั้งแต่แรก เธอก็ไม่เคยเห็นด้วยกับการอยู่ที่ฐานทัพของถังเส้าหยาง แต่เธอก็รู้ว่าฐานทัพแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะอยู่อาศัย ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่กัยสามีของเธอ

 

“ ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปคนเดียวก็ได้! คุณอยากจะตายอยู่ที่นี่กับบอสเลือดเย็นของคุณก็เชิญ” เธอปล่อมมือออกจากสามีของเธอ

 

แน่นอนว่าเว่นซีไม่ได้ปล่อยมือของเขาออกจากภรรยาของเขา

 

“ ดูนั่นสิที่รัก! ฉันบอกแล้ว!”

 

ว่านจิงยี่ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ จากนั้นเธอก็มองไปที่ฝูงซอมบี้ตามที่สามีเธอบอก

 

เมื่อเอมองไปที่ฝูงซอมบี้ สิ่งแรกที่เธอเห้นก็คือมันกําลังมีหัวของซอมบี้ลอยขึ้นไปบนฟ้าขณะที่ขวานขนาดใหญ่สีแดงก็กําลังกวัดแกว่งไปมาในฝูงนั้น

 

“ ฉันบอกแล้วไง เขาไม่ตายง่ายขนาดนั้นหรอก!” จ้าวจงโอ้อวดต่อหน้าว่านจิงยี่

 

หญิงสาวกลอกตาไปที่จ้าวจง เธอไม่ได้ให้ความเห็นอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับถังเส้าหยางขณะที่เธอรู้สึกถึงกับภาพที่เห็น

 

“ เราควรไปช่วยเขาไหม?” เว่ยซีรู้สึกเป็นกังวล ไม่ว่าถังเส้าหยางจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่เขาก็มีเพียวตัวคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถกําจัดฝูงซอมบี้ทั้งหมดลงได้

 

“ อืม…” จ้าวจงพยักหน้าขณะครุ่งคิด “ เราควรไปช่วยบอสนะ คุณสองคนกําจัดปีกขวา ฉันกําจัดปีกซ้ายเอง!”

 

ทั้งสามพยักหน้าและมุ่งหน้าไปช่วยถังเส้าหยาง

 

ในขณะเดียวกัน ถังเส้าหยางก็เหวี่ยงขวานศึกออกไปโกรธเกรี้ยว

 

“ ทําไมพวกแกถึงไม่สู้กับฉันล่ะ ไอ้เวร! หยุดและมาต่อสู้กับฉันสิ อย่ามาเมินฉันนะ!” เขากําลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

 

ไม่ว่าซอมบี้จะถูกฆ่าตายไปมากแค่ไหน แต่พวกมันก็ไม่ได้สนใจเขาเลยราวกับว่าเขาเป็นอากาศ

 

“ บอส พวกเรามาช่วยแล้ว!” จ้าวจงตะโกนดังมาจากข้างหลัง

 

ทันทีที่ถึงเส้าหยางได้ยินเสียงตะโกน เขาก็สังเกตเห็นว่าฝูงซอมบี้เริ่มที่จะเดินเร็วขึ้น และมันก็กําลังแบ่งออกเป็นสองส่วนส่วนหนึ่งไปทางซ้าย และส่วนหนึ่งไปทางขวา

 

เขามองย้อนกลับไปและพบว่าฝูงซอมบี้ทั้งสองนี้กําลังมุ่งหน้าไปหาจ้าวจงและเว่ยซี

 

“ ตรึงมันเอาไว้” เขาตะโกนบอกทั้งสองคน

 

จากสถานการณ์ปัจจุบัน เขาก็สามารถใช้ทั้งสองเพื่อซื้อเวลาเพิ่มได้ ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงสั่งให้ทั้งสองคนดึงฝูงซอมบี้เอาไว้

 

ถังเส้าหยางพุ่งไปช่วยจ้าวจงและเว่ยซี ในขณะที่ว่านจิงยี่ก็ให้การสนับสนุนพวกเขาด้วยธนูของเธอ เธอยิงซอมบี้ระยะที่ 2 ที่กําลังตามหลังสามีของเธอและจ้าวจง

 

ในไม่ช้าผู้หญิงคนนี้ก็พบว่ามันมีบางอย่างแปลกๆ ซอมบี้พวกนี้ไม่สนใจถึงเส้าหยางเลย

 

“ ไม่ยุติธรรมเลย! คุณใช้กลอุบายอะไรกัน ทําไมซอมบี้ถึงไม่โจมตีคุณ” ว่านจิงยี่ตะโกนออกมาดังๆ

“ ฉันรู้ ฉันเองก็ไม่ได้อยากถูกเมินเหมือนกันนะ!” ถังเส้าหยางตะโกนโต้กลับไปอย่างโกรธจัด

 

ต้องขอบคุณการเสริมกําลังทั้งสาม ตอนนี้คนทั้งสี่จึงสามารถชะลอฝูงซอมบี้ให้ช้าลงได้

 

ทั้งสี่คนถูกผลักออกจากสะพานโดยไม่รู้ตัว แต่พวกเขาก็ยังพอสามารถซื้อเวลาได้เกือบชั่วโมง

 

เมื่อถึงระยะหนึ่งเว่ยซี,ว่านจิงยี่และจ้าวจงก็ได้มาถึงขีดจํากัดของพวกเขาแล้ว พวกเขาเริ่มหายใจหอบอย่างหนักหน่วง

 

“ เอาล่ะ พอได้แล้ว! พวกนายกลับไปแจ้งทางฐานทัได้แล้วว่าพวกซอมบี้กําลังมา! ฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อลดจํานวนของพวกมันต่อไปเอง!”

 

ถังเส้าหยางสั่งให้ทั้งสามคนกลับไป

 

“ แต่…” จ้าวจงต้องการที่จะอยู่และต่อสู้เคียงข้างบอส

 

“ กลับไปเดี๋ยวนี้เ” ถึงเส้าหยางยืนยันคําเดิม

 

“ เข้าใจแล้ว!” ทั้งสามพยักหน้าและถอยกลับไปในทันที

 

เมื่อทั้งสามกําลังถอยกลับไป ฝูงซอมบี้ก็กลับมาเดินต่อด้วยความเร็วปกติ พวกมันยังคงเพิกเฉยต่อการปรากฏตัวของถังเส้าหยาง

 

ไม่นานหลังจากที่ทั้งสามกลับไป พวกเขาก็ได้พบกับจางเหมิงเหยาและผู้ใต้บังคับบัญชาอีกสองคนของเธอ ฝูตันตันและไต่เหวินเฉียน

 

เมื่อมองไปที่สามคนที่อยู่ในสภาพที่สะบัดสะบอมและถังเส้าหยางที่หายตัวไป จางเหมิงเหยาก็เริ่มตื่นตระหนก

 

“ เขาอยู่ที่ไหน!?” เธอขึ้นเสียงโดยไม่รู้ตัว

 

“ไม่ต้องกังวล เขากําลังชะลอฝูงซมบี้อยู่ที่ด้านหน้า และเราก็กลับมาเพื่อแจ้งให้ทุกคนรู้ว่าฝูงซอมบี้นั้นได้ข้ามสะพานมาแล้ว” ว่านจิงยี่รายงานจางเหมิงเหยา

 

จากนั้นแม่ทัพหญิงก็ดูโล่งใจขึ้น เธอพยักหน้าและบอกให้ทั้งสามไปพักผ่อนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะสั่งให้ฝูตันตันและไต่เหวินฉียนไปแจ้งทีมหลักทั้งหกเพื่อเตรียมพร้อม

 

เมื่อสั่งงานเสร็จ จางเหมิงเหยาก็รีบเดินทางไปหาถึงเส้าหยาง

 

ในไม่ช้า เธอก็พบว่าชายคนนั้นกําลังต่อสู้กับฝูงซอมบี้อยู่เพียงลําพัง อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีซอมบี้ตัวไหนเลยที่สนใจเขา

 

จางเหมิงเหยารีบไปดึงตัวถังเส้าหยางที่เปื้อนเลือดออกมา ใช่แล้ว ร่างกายของถังเส้าหยางนั้นเปียกโชกไปด้วยเลือดขอ

งซอมบี้

 

“ พอได้แล้ว! หยุดต่อสู้กับพวกซอมบี้พวกนี้ได้แล้ว! พลังของคุณเป็นสิ่งจําเป็นเพื่อต่อสู้กับซอมบี้ระยะที่ 2 และ 3!” หญิงสาวดึงผู้ชายของเธอไปกับเธอ

 

ถังเส้าหยางปฏิเสธที่จะตามเธอไปในตอนแรก แต่เขาก็พบว่าเธอพูดถูก นอกจากนี้ ซอมบี้ระยะที่ 1 พวกนี้ก็ยังสามารถใช้เพื่ออัพเลเวลให้กับคนอื่นๆได้

 

ถังเส้าหยางและจางเหมิงเหยาถอยกลับไปและปล่อยให้ฝูงซอมบี้บุกเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง

 

“ ทุกอย่างพร้อมแล้ว! ตราบใดที่เราจัดการซอมบี้ระยะที่ 2 และ 3 ได้ การเอาชนะฝูงซอมบี้พวกนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

 

“ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปจากที่นี่กันเถอะ!”

 

ตอนนี้ที่กําบังบนถนนได้ถูกสร้างขึ้นเรียบร้อยแล้ว พวกเขาใช้ซากรถยนต์มาเรียงต่อกัน มันเป็นที่กําบังที่เพอร์เฟ็ค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกซอมบี้ระยะที่ 1 พวกมันไม่สามารถบินข้ามรถขึ้นมาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถใช้หอกในการฆ่าพวกมันได้

 

นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมจางเหมิงเหยาถึงเลือกที่จะใช้หอกเป็นอาวุธ นั่นก็เพราะพวกเขาจะสามารถโจมตีพวกมันผ่านรูได้

 

กระแสการต่อสู้ดําเนินไปตามที่จางเหมิงเหยาคาดการณ์ไว้ ฝูงซอมแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มในตอนแรก และต่อมาฝูงซอมบี้ก็ได้ปรากฏอยู่เต็มถนนหลักอีกสองแห่งเช่นกัน

 

มันน่าแปลกที่ฝูงซอมบี้ที่โจมตีพวกเขานั้นมีเพียงซอมบี้ระยะที่ 1 เท่านั้น และแม้จะเต็มไปด้วยซอมบี้จํานวนมาก แต่จักรวรรดิถังก็ยังสามารถต้านทานพวกมันได้เป็นอย่างดี

 

หลังจากการต่อสู้ดําเนินไปห้าชั่วโมง ซอมบี้ระยะที่ 1 ทั้งหมดก็ได้ถูกกําจัดไป ใช่แล้ว มันไม่มีซอมบี้โจมตีพวกเขาอีกต่อไปแล้ว

 

“ เราชนะแล้วหรอ!?” ชายที่ถือหอกด้วยมือที่สั่นเทาพึมพําอย่างเหลือเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะซอมบีหลายพันตัวได้ด้วยจํานวนคนเพียงหลักร้อย

 

จางเหมิงเหยาขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่ามันมีบางอย่างแปลกๆ นั่นก็เพราะซอมบี้ทั้งหมดที่โจมตีเข้ามานั้นเป็นเพียงซอมบี้ระยะที่ 1

 

เธอแลกเปลี่ยนสายตากับถังเส้าหยาง ถังเส้าหยางเองก็รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆเช่นกัน ในตอนนี้เขาก็ไม่เห็นซอมบี้ระยะ ที่ 2 และ 3 เลย

 

และในขณะที่ทั้งคู่กําลังสับสน มันก็มีเสียงกรีดร้องดังมาจากทางด้านหลัง

 

ทั้งสองมองย้อนกลับไปและเห็นซอมบี้ระยะที่ 2 ขนาดมหึมา และแม้แต่ซอมบีระยะที่ 3 ก็โผล่มาจากด้านหลังของพวกเขา

 

จากนั้นคลาวเลอร์ก็เคลื่อนตัวเข้าไปในกลุ่ม และเริ่มโจมตีทีมธนู

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+