Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 68 การเผชิญหน้า

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 68 การเผชิญหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Armipotent – จักรวรรดิคลั่งจักรพรรดิอมตะ บทที่ 68 การเผชิญหน้า หานเจียงมันเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่ออกมาจากฐานในทันทีที่อันตรายมาถึงอย่างไรก็ตามคนส่วนน้อยก็รู้ว่ามันไม่ได้ออกไปจากฐานอย่างแท้จริง มันกับกลุ่มของมันซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆกับฐานพวกมันเฝ้าดูจนกระทั่งการต่อสู้คลี่คลายลงเมื่อฝูงซอมบี้กลุ่มแรกถูกกำจัดไปมันก็วางแผนที่จะกลับไปยึดฐานมาจากถังเส้หยาง อย่างไรก็ตามไม่นานมันก็ได้ยินมันยังว่ามีซอมบี้อีกฝูงหนึ่งกำลังมามันและมันก็ยังเป็นฝูงซอมบี้ที่ใหญ่กว่าเดิมอีกด้วยและเพราะอย่างนี้เองหานเจียงจึงได้ล้มเลิกความคิดของมัน จากนั้นมันก็ค้นหาผู้คนเพิ่มเติมและคัดเลือกพวกเขาเข้ากลุ่มของมัน หานเจียงและกลุ่มของมันเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีชื่อเสียงในฐานทัพดังนั้นมันจึงสามารถทำการคัดเลือกคนเข้ามาในกลุ่มของมันได้เป็นจำนวนมากเมื่อมันบอกแผนการของมันกับผู้คนของมันทุกคนก็เห็นด้วยกับแผนของมันในทันที ฐานนั้นมีความสำคัญอย่างแน่นอนมันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่มันไม่สามารถหาได้จากข้างนอกหรือหาได้จากการฆ่าซอมบี้ พรสวรรค์,ร้านค้าทั่วไปและที่สำคัญกว่านั้นคือคลาสสิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่ทำให้หานเจียงไม่อยากจะพลาดโอกาสในการยึดฐานไป ในขณะที่ถังเส้าหยางและผู้คนที่อยู่ในฐานกำลังต่อสู้กับฝูงซอมบี้ระลอกที่สองหานเหลียงก็กำลังรวบรวมผู้คนด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละของเขาเขาจึงสามารถรับสมัครคนมาได้ทั้งสิ้นจำนวน 209 คนและเมื่อบวกกบกลุ่มเดิมของมันตอนนี้เขาก็มีทั้งหมด 239 คน คนเหล่านี้ทั้งหมดคือคนที่ตัดสินใจจะออกจากฐานเช่นเดียวกับมันด้วยเหตุนี้เองมันจึงสามารถเกณฑ์พวกมันเมาได้อย่างง่ายดาย “ทำไมเราถึงจะกลับบ้านของเราไม่ได้”หานเหลียงกล่าวกับจางเหมิงเหยาอย่างไร้ยางอาย มันอ้างว่าฐานแห่งนี้เป็นบ้านของมันแต่ถึงอย่างนั้นมันก็เลือกที่จะออกไปในช่วงเวลาที่บ้านกำลังเกิดวิกฤต จางเหมิงเหยามองดูชายผู้ไร้ยางอายอย่างรังเกียจ“นอกจากจะไม่เคยมีส่วนร่วมในการปกป้องฐานแลวแกยังมีหน้ามาบอกว่าที่แห่งนี้คือบ้านของแกอีกอย่างงั้นหรอ?” “ฉันออกไปก็เพื่อเกลี้ยกล่อมคนเหล่านี้ให้กลับมาปกป้องบ้านของเรานะ”หานเจียงยิ้มตอบในขณะที่มันไม่ใส่ใจกับคำพูดของจางเหมิงเหยา “หลังจากฉันยึดฐานได้แล้วผู้หญิงคนนี้ก็จะต้องเป็นของฉัน “อย่างไรก็ตามในตอนที่เรากลับมาการสู้รบก็ได้จบลงไปแล้วมันช่างโชคร้ายแต่เราก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว”หานเจียงส่ายหัวขณะที่มันพยายามพูดอย่างจริงใจที่สุด “ใช้เวลาสี่วันในการกลับมาแกปัญญาอ่อนจนจำทางกลับบ้านไม่ได้รึไง!?”จางเหมิงเหยาตอบอย่างประชดประชัน “เรารู้ว่าเราผิดแต่เราก็เสียใจกับสิ่งที่เลือกดังนั้นเราจึงกลับมาเราขอโทษสำหรับการกระทำที่ขี้ขลาดของเราแต่เรากลับมาแล้ว “ชายข้างหานเหลียงกัมศีรษะให้จางเหมิงเหยา ชายคนนั้นมีชื่อว่าฉีปิงมันก็เป็นคนของหานเจียงและการขอโทษของมันนั้นก็เป็นหนึ่งในแผนการของหานเหลียง”เรายอมรับคำขอโทษแล้วที่นี่ก็ไสหัวออกไปได้แล้ว!“เต๋เหอที่เฝ้าดูอยู่เงียบๆจากข้างสนามในที่สุดก็พูดออกมาเขาบอกให้คนเหล่านี้ออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา”ทำไมล่ะ?เราก็ขอโทษแล้วเราเสียใจกับการเลือกของเราและฉันก็เชื่อว่าเราสมควรได้รับโอกาสครั้งที่สอง!“ฉีปิงขึ้นเสียงใส่เต๋เหอ “ชิไอ้เวรนี่กล้ามาอวดเบ่งต่อหน้าฉันดูสิว่ามันจะยังปากดีอีกไหมถ้าเจอน้องของฉันเล่งานเข้าไป!” “ใช่!เราเองก็คู่ควรกับโอกาสครั้งที่สองเช่นกัน!” “เราเสียใจจริงๆทำไมเราถึงจะไม่สามารถเข้าร่วมกับพวกคุณได้ล่ะ!” “เราสัญญาว่าเราจะไม่ทำอีก!” “เราขอโทษ!” “แกเป็นใครทำไมแกถึงทำอย่างกับว่าแกเป็นผู้นำถังเส้าหยางอยู่ที่ไหนเราต้องการความยุติธรรม!“ ผู้คนที่อยู่ด้านหลังฉีปิงและหานเจียงเริ่มตะโกนออกมา จาเงหมิงเหยาสะดุ้งเล็กน้อยเธอไม่แน่ใจว่าเธอควรจะทำอย่างไรดีการรับคนเหล่านี้เข้ามานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียเธอต้องคิดให้รอบคอบและนอกจากนี้เธอก็ยังจำเป็นจะต้องปรึกษาเรื่องนี้กับถังเฝ้ายางอีกด้วย หลังจากการสู้รบจบลงพวกเขาก็สูญเสียกำลังไปถึงครึ่งหนึ่งดังนั้นการยอมรับคนเหล่านี้กลับมาจึงพอจะสามารถชดใช้ความสูญเสียของพวกเขาได้และหากฝูงซอมบี้เข้ามาโจมตีพวกเขาอีกพวกเขาก็จะมีคนจำนวนมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับฝูงซอมบี้และนี่ก็เป็นหนึ่งในข้อดี สำหรับข้อเสียเธอก็กลัวว่าคนเหล่านี้จะเข้ามาเพื่อทำลายความสามัคคีในฐาน ”ไม่ชอบการตัดสินใจของฉันงนก็เข้ามาสู่สิ!“ เต๋เหอยกหอกของเขาขึ้นและชี้หอกไปทางฉีปิง ความอารมณ์ร้อนของเต๋เหอนั้นเป็นที่เข้าใจได้เขาเสียเพื่อนสองคนไปในการต่อสู้กับฝูงซอมบี้กลุ่มแรกเขาไม่ได้โทษจางเหมิงเหยาแต่เขาโทษคนที่ออกไปจากฐานหากพวกมันไม่ออกไปจากฐานเขาก็เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะฝูงซอมบี้ได้โดยมีผู้เสียชีวิตน้อยลงไปกว่านี้”อะไรนะแกต้องการการต่อสู้ใช่ไหมได้เลย!”ไปฆ่าไอ้คนอวดดีนั่นซะ!”ใช่ฆ่าไอ้ตัวน่ารำคาญนั่นซะ!“ผู้คนที่อยู่ด้านหลังฉีปิงและหานเจียงเริ่มชักอาวุธของพวกเขาออกมา อย่างไรก็ตามกลุ่มของจางเหมิงเหยาก็มีเพียงสามสิบสามคนเท่านั้นและพวกเขาก็เสียเปรียบทางด้านจำนวน ในช่วงเวลานี้ฉีปิงก็ขยิบตาขวาให้หานเจียงแม้ว่าแผนของมันจะไม่ราบรื่นเนื่องจากการแทรกแซงของเต๋เหอแต่มันก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี แผนเดิมคือการล่อถังเส้าหยางออกจากฐานก่อนที่พวกมันจะเริ่มการต่อสู้พวกมันต้องการใช้ประโยชน์จากความเหนื่อยล้าของถังเส้าหยางเพื่อฆ่าเขาและผู้คนของเขาและนั่นก็คือแผนอย่างไรก็ตามในตอนนี้ไม่ว่าถึงเส้าหยางจะอยู่หรือไม่มันก็ไม่มีอะไรสำคัญแล้วพวกมันจะต้องลงมือในตอนนี้ การฆ่าคนสามสิบคนนี้จะทำให้ความแข็งแกร่งของถังเส้หยางลดลงไปอย่างมากมันเหมือนกับการตัดแขนข้างหนึ่งของเขา เมื่อเห็นแบบนี้จางเหมิงเหยาก็รู้สึกตื่นตระหนกเธอยังคงไม่แน่ใจว่าเธอจะทำอย่างไรกับคนเหล่านี้ดีนับตั้งแต่การต่อสู้กับฝูงซอมบี้ครั้งแรกความมั่นใจของเธอก็ถูกสั่นคลอนเธอเริ่มกลัวที่จะตัดสินใจโดยไม่คิดให้รอบคอบเธอกลัวการตัดสินใจของเธอจะนำไปสู่หายนะเหมือนเมื่อก่อน อย่างไรก็ตามคนที่อยู่เบื้องหลังจางเหมิงเหยาก็ได้เริ่มชักอาวุธออกมาแล้วแม้จะเสียเปรียบเรื่องจำนวนแต่พวกเขาก็ไม่กลัวพวกเขาเคยต้องเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้มามากมายดังนั้นคนขี้ขลาดเพียงสองร้อยกว่าคนจึงไม่สามารถนับเป็นอะไรได้สำหรับพวกเขา เมื่อจางเหมิงเหยากำลังจะเกลี้ยกล่อมทั้งสองฝ่ายเธอก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น”จะวุ่นวายอะไรกันนักหนา!“ใบหน้าของจางเหมิงเหยาดูดีขึ้นเมื่อเธอได้ยินเสียงนี้เธอไม่ต้องการที่จะให้เกิดสงครามที่ไม่จำเป็น กลุ่มของจางเหมิงเหยาลดอาวุธของพวกเขาลงในขณะที่คนทั้ง30คนย้ายไปด้านข้างและเปิดทางให้ถึงเส้าหยางเดิน ถังเส้หยางเดินออกมาเพร้อมกับเดสทรอยเยอร์บนไหล่ของเขาและด้านหลังเขาลู่อันก็กำลังติดตามเขามาอย่างใกล้ชิดด้วยดาบที่คาดอยู่ที่เอวของเขา ใบหน้าของฉีปิงและหานเจียงเองก็สว่างขึ้นเมื่อเห็นถึงเส้หยางแม้ว่าพวกมันจะไม่เห็นสัญญาณของความอ่อนล้าบนใบหน้าของเขาถึงเส้หยางแต่เป้าหมายหลักของพวกมันก็ได้มาถึงแล้ว เหตุผลหลักที่พวกมันต้องการที่จะฆ่าถังเส้าหยางนั้นก็เป็นเพราะออริจิ้นพวกมันเชื่อว่าหากพวกมันสามารถฆ่าถึงเส้าหยางได้ออริจิ้นก็จะเปลี่ยนมารับใช้พวกมันแทน ถังเส้าหยางโอบเอวของจาเงหมิงเหยาด้วยมือเปล่าและกระซิบ”ที่รักเธอไม่ควรลังเลใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนทรยศอย่างพวกมัน!” ปากของพวกมันอาจบอกว่าเสียใจกับการกระทำที่ผ่านมาแต่เราไม่รู้ข้างในใจของพวกมันหรอกแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็รู้อะไรบางอย่างพวกมันจะออกไปเมื่อเกิดวิกฤตดังนั้นฉันเลยมีคำถามจะถามเธอ”เธอคิดว่าหากฐานของเราเกิดวิกฤตขึ้นอีกครั้งเธอคิดว่าพวกมันจะยังคงอยู่ที่นี่ไหม?“จางเหมิงเหยาเงียบไปกับคำถามแต่เธอก็มีคำตอบสำหรับคำถามนี้แล้วพวกมันจะต้องหนีออกไปอีกแน่นอน เอมีครั้งที่หนึ่งแล้วมันก็ง่ายที่จะมีครั้งที่สองต่อเว้นซะแต่ว่าพวกมันจะรู้สึกผิดจริงๆ”ดูเหมือนว่าเธอจะรู้คำตอบแล้วสินะ“หลังจากพูดเสร็จถึงเส้าหยางก็หันปทางกลุ่มหานเจียง”ถ้าแกเสียใจจริงๆกับการกระทำที่ผ่านมาของแกงั้นแกก็พิสูจน์ด้วยการกระทำของแกสิไม่ใช่ปาก!มาเป็นทาสของฉันตลอดเวลาหนึ่งปีส่งมอบ GC ทั้งหมดที่พวกแกมีและสมบัติทั้งหมดของแกก็จะถูกริบเป็นของจักรวรรดิ!ถ้าแกตกลงฐานแห่งนี้ก็จะเป็นบ้านของแกอีกครั้ง!นี่ไงโอกาสครั้งที่สองที่พวกแกกำลังแสวงหา!”ถึงเส้าหยางยิ้มให้กับกลุ่ม

นิยาย Armipotent – จักรวรรดิคลั่งจักรพรรดิอมตะ

บทที่ 68 การเผชิญหน้า

หานเจียงมันเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่ออกมาจากฐานในทันทีที่อันตรายมาถึงอย่างไรก็ตามคนส่วนน้อยก็รู้ว่ามันไม่ได้ออกไปจากฐานอย่างแท้จริง

มันกับกลุ่มของมันซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆกับฐานพวกมันเฝ้าดูจนกระทั่งการต่อสู้คลี่คลายลงเมื่อฝูงซอมบี้กลุ่มแรกถูกกำจัดไปมันก็วางแผนที่จะกลับไปยึดฐานมาจากถังเส้หยาง

อย่างไรก็ตามไม่นานมันก็ได้ยินมันยังว่ามีซอมบี้อีกฝูงหนึ่งกำลังมามันและมันก็ยังเป็นฝูงซอมบี้ที่ใหญ่กว่าเดิมอีกด้วยและเพราะอย่างนี้เองหานเจียงจึงได้ล้มเลิกความคิดของมัน

จากนั้นมันก็ค้นหาผู้คนเพิ่มเติมและคัดเลือกพวกเขาเข้ากลุ่มของมัน

หานเจียงและกลุ่มของมันเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีชื่อเสียงในฐานทัพดังนั้นมันจึงสามารถทำการคัดเลือกคนเข้ามาในกลุ่มของมันได้เป็นจำนวนมากเมื่อมันบอกแผนการของมันกับผู้คนของมันทุกคนก็เห็นด้วยกับแผนของมันในทันที

ฐานนั้นมีความสำคัญอย่างแน่นอนมันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่มันไม่สามารถหาได้จากข้างนอกหรือหาได้จากการฆ่าซอมบี้

พรสวรรค์,ร้านค้าทั่วไปและที่สำคัญกว่านั้นคือคลาสสิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่ทำให้หานเจียงไม่อยากจะพลาดโอกาสในการยึดฐานไป

ในขณะที่ถังเส้าหยางและผู้คนที่อยู่ในฐานกำลังต่อสู้กับฝูงซอมบี้ระลอกที่สองหานเหลียงก็กำลังรวบรวมผู้คนด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละของเขาเขาจึงสามารถรับสมัครคนมาได้ทั้งสิ้นจำนวน 209 คนและเมื่อบวกกบกลุ่มเดิมของมันตอนนี้เขาก็มีทั้งหมด 239 คน

คนเหล่านี้ทั้งหมดคือคนที่ตัดสินใจจะออกจากฐานเช่นเดียวกับมันด้วยเหตุนี้เองมันจึงสามารถเกณฑ์พวกมันเมาได้อย่างง่ายดาย

“ทำไมเราถึงจะกลับบ้านของเราไม่ได้”หานเหลียงกล่าวกับจางเหมิงเหยาอย่างไร้ยางอาย

มันอ้างว่าฐานแห่งนี้เป็นบ้านของมันแต่ถึงอย่างนั้นมันก็เลือกที่จะออกไปในช่วงเวลาที่บ้านกำลังเกิดวิกฤต

จางเหมิงเหยามองดูชายผู้ไร้ยางอายอย่างรังเกียจ“นอกจากจะไม่เคยมีส่วนร่วมในการปกป้องฐานแลวแกยังมีหน้ามาบอกว่าที่แห่งนี้คือบ้านของแกอีกอย่างงั้นหรอ?”

“ฉันออกไปก็เพื่อเกลี้ยกล่อมคนเหล่านี้ให้กลับมาปกป้องบ้านของเรานะ”หานเจียงยิ้มตอบในขณะที่มันไม่ใส่ใจกับคำพูดของจางเหมิงเหยา

“หลังจากฉันยึดฐานได้แล้วผู้หญิงคนนี้ก็จะต้องเป็นของฉัน

“อย่างไรก็ตามในตอนที่เรากลับมาการสู้รบก็ได้จบลงไปแล้วมันช่างโชคร้ายแต่เราก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว”หานเจียงส่ายหัวขณะที่มันพยายามพูดอย่างจริงใจที่สุด

“ใช้เวลาสี่วันในการกลับมาแกปัญญาอ่อนจนจำทางกลับบ้านไม่ได้รึไง!?”จางเหมิงเหยาตอบอย่างประชดประชัน

“เรารู้ว่าเราผิดแต่เราก็เสียใจกับสิ่งที่เลือกดังนั้นเราจึงกลับมาเราขอโทษสำหรับการกระทำที่ขี้ขลาดของเราแต่เรากลับมาแล้ว

“ชายข้างหานเหลียงกัมศีรษะให้จางเหมิงเหยา

ชายคนนั้นมีชื่อว่าฉีปิงมันก็เป็นคนของหานเจียงและการขอโทษของมันนั้นก็เป็นหนึ่งในแผนการของหานเหลียง”เรายอมรับคำขอโทษแล้วที่นี่ก็ไสหัวออกไปได้แล้ว!“เต๋เหอที่เฝ้าดูอยู่เงียบๆจากข้างสนามในที่สุดก็พูดออกมาเขาบอกให้คนเหล่านี้ออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา”ทำไมล่ะ?เราก็ขอโทษแล้วเราเสียใจกับการเลือกของเราและฉันก็เชื่อว่าเราสมควรได้รับโอกาสครั้งที่สอง!“ฉีปิงขึ้นเสียงใส่เต๋เหอ

“ชิไอ้เวรนี่กล้ามาอวดเบ่งต่อหน้าฉันดูสิว่ามันจะยังปากดีอีกไหมถ้าเจอน้องของฉันเล่งานเข้าไป!” “ใช่!เราเองก็คู่ควรกับโอกาสครั้งที่สองเช่นกัน!” “เราเสียใจจริงๆทำไมเราถึงจะไม่สามารถเข้าร่วมกับพวกคุณได้ล่ะ!” “เราสัญญาว่าเราจะไม่ทำอีก!” “เราขอโทษ!” “แกเป็นใครทำไมแกถึงทำอย่างกับว่าแกเป็นผู้นำถังเส้าหยางอยู่ที่ไหนเราต้องการความยุติธรรม!“ ผู้คนที่อยู่ด้านหลังฉีปิงและหานเจียงเริ่มตะโกนออกมา

จาเงหมิงเหยาสะดุ้งเล็กน้อยเธอไม่แน่ใจว่าเธอควรจะทำอย่างไรดีการรับคนเหล่านี้เข้ามานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียเธอต้องคิดให้รอบคอบและนอกจากนี้เธอก็ยังจำเป็นจะต้องปรึกษาเรื่องนี้กับถังเฝ้ายางอีกด้วย

หลังจากการสู้รบจบลงพวกเขาก็สูญเสียกำลังไปถึงครึ่งหนึ่งดังนั้นการยอมรับคนเหล่านี้กลับมาจึงพอจะสามารถชดใช้ความสูญเสียของพวกเขาได้และหากฝูงซอมบี้เข้ามาโจมตีพวกเขาอีกพวกเขาก็จะมีคนจำนวนมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับฝูงซอมบี้และนี่ก็เป็นหนึ่งในข้อดี

สำหรับข้อเสียเธอก็กลัวว่าคนเหล่านี้จะเข้ามาเพื่อทำลายความสามัคคีในฐาน ”ไม่ชอบการตัดสินใจของฉันงนก็เข้ามาสู่สิ!“ เต๋เหอยกหอกของเขาขึ้นและชี้หอกไปทางฉีปิง

ความอารมณ์ร้อนของเต๋เหอนั้นเป็นที่เข้าใจได้เขาเสียเพื่อนสองคนไปในการต่อสู้กับฝูงซอมบี้กลุ่มแรกเขาไม่ได้โทษจางเหมิงเหยาแต่เขาโทษคนที่ออกไปจากฐานหากพวกมันไม่ออกไปจากฐานเขาก็เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะฝูงซอมบี้ได้โดยมีผู้เสียชีวิตน้อยลงไปกว่านี้”อะไรนะแกต้องการการต่อสู้ใช่ไหมได้เลย!”ไปฆ่าไอ้คนอวดดีนั่นซะ!”ใช่ฆ่าไอ้ตัวน่ารำคาญนั่นซะ!“ผู้คนที่อยู่ด้านหลังฉีปิงและหานเจียงเริ่มชักอาวุธของพวกเขาออกมา

อย่างไรก็ตามกลุ่มของจางเหมิงเหยาก็มีเพียงสามสิบสามคนเท่านั้นและพวกเขาก็เสียเปรียบทางด้านจำนวน

ในช่วงเวลานี้ฉีปิงก็ขยิบตาขวาให้หานเจียงแม้ว่าแผนของมันจะไม่ราบรื่นเนื่องจากการแทรกแซงของเต๋เหอแต่มันก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี

แผนเดิมคือการล่อถังเส้าหยางออกจากฐานก่อนที่พวกมันจะเริ่มการต่อสู้พวกมันต้องการใช้ประโยชน์จากความเหนื่อยล้าของถังเส้าหยางเพื่อฆ่าเขาและผู้คนของเขาและนั่นก็คือแผนอย่างไรก็ตามในตอนนี้ไม่ว่าถึงเส้าหยางจะอยู่หรือไม่มันก็ไม่มีอะไรสำคัญแล้วพวกมันจะต้องลงมือในตอนนี้

การฆ่าคนสามสิบคนนี้จะทำให้ความแข็งแกร่งของถังเส้หยางลดลงไปอย่างมากมันเหมือนกับการตัดแขนข้างหนึ่งของเขา

เมื่อเห็นแบบนี้จางเหมิงเหยาก็รู้สึกตื่นตระหนกเธอยังคงไม่แน่ใจว่าเธอจะทำอย่างไรกับคนเหล่านี้ดีนับตั้งแต่การต่อสู้กับฝูงซอมบี้ครั้งแรกความมั่นใจของเธอก็ถูกสั่นคลอนเธอเริ่มกลัวที่จะตัดสินใจโดยไม่คิดให้รอบคอบเธอกลัวการตัดสินใจของเธอจะนำไปสู่หายนะเหมือนเมื่อก่อน

อย่างไรก็ตามคนที่อยู่เบื้องหลังจางเหมิงเหยาก็ได้เริ่มชักอาวุธออกมาแล้วแม้จะเสียเปรียบเรื่องจำนวนแต่พวกเขาก็ไม่กลัวพวกเขาเคยต้องเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้มามากมายดังนั้นคนขี้ขลาดเพียงสองร้อยกว่าคนจึงไม่สามารถนับเป็นอะไรได้สำหรับพวกเขา

เมื่อจางเหมิงเหยากำลังจะเกลี้ยกล่อมทั้งสองฝ่ายเธอก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น”จะวุ่นวายอะไรกันนักหนา!“ใบหน้าของจางเหมิงเหยาดูดีขึ้นเมื่อเธอได้ยินเสียงนี้เธอไม่ต้องการที่จะให้เกิดสงครามที่ไม่จำเป็น

กลุ่มของจางเหมิงเหยาลดอาวุธของพวกเขาลงในขณะที่คนทั้ง30คนย้ายไปด้านข้างและเปิดทางให้ถึงเส้าหยางเดิน

ถังเส้หยางเดินออกมาเพร้อมกับเดสทรอยเยอร์บนไหล่ของเขาและด้านหลังเขาลู่อันก็กำลังติดตามเขามาอย่างใกล้ชิดด้วยดาบที่คาดอยู่ที่เอวของเขา

ใบหน้าของฉีปิงและหานเจียงเองก็สว่างขึ้นเมื่อเห็นถึงเส้หยางแม้ว่าพวกมันจะไม่เห็นสัญญาณของความอ่อนล้าบนใบหน้าของเขาถึงเส้หยางแต่เป้าหมายหลักของพวกมันก็ได้มาถึงแล้ว

เหตุผลหลักที่พวกมันต้องการที่จะฆ่าถังเส้าหยางนั้นก็เป็นเพราะออริจิ้นพวกมันเชื่อว่าหากพวกมันสามารถฆ่าถึงเส้าหยางได้ออริจิ้นก็จะเปลี่ยนมารับใช้พวกมันแทน

ถังเส้าหยางโอบเอวของจาเงหมิงเหยาด้วยมือเปล่าและกระซิบ”ที่รักเธอไม่ควรลังเลใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนทรยศอย่างพวกมัน!” ปากของพวกมันอาจบอกว่าเสียใจกับการกระทำที่ผ่านมาแต่เราไม่รู้ข้างในใจของพวกมันหรอกแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็รู้อะไรบางอย่างพวกมันจะออกไปเมื่อเกิดวิกฤตดังนั้นฉันเลยมีคำถามจะถามเธอ”เธอคิดว่าหากฐานของเราเกิดวิกฤตขึ้นอีกครั้งเธอคิดว่าพวกมันจะยังคงอยู่ที่นี่ไหม?“จางเหมิงเหยาเงียบไปกับคำถามแต่เธอก็มีคำตอบสำหรับคำถามนี้แล้วพวกมันจะต้องหนีออกไปอีกแน่นอน

เอมีครั้งที่หนึ่งแล้วมันก็ง่ายที่จะมีครั้งที่สองต่อเว้นซะแต่ว่าพวกมันจะรู้สึกผิดจริงๆ”ดูเหมือนว่าเธอจะรู้คำตอบแล้วสินะ“หลังจากพูดเสร็จถึงเส้าหยางก็หันปทางกลุ่มหานเจียง”ถ้าแกเสียใจจริงๆกับการกระทำที่ผ่านมาของแกงั้นแกก็พิสูจน์ด้วยการกระทำของแกสิไม่ใช่ปาก!มาเป็นทาสของฉันตลอดเวลาหนึ่งปีส่งมอบ GC ทั้งหมดที่พวกแกมีและสมบัติทั้งหมดของแกก็จะถูกริบเป็นของจักรวรรดิ!ถ้าแกตกลงฐานแห่งนี้ก็จะเป็นบ้านของแกอีกครั้ง!นี่ไงโอกาสครั้งที่สองที่พวกแกกำลังแสวงหา!”ถึงเส้าหยางยิ้มให้กับกลุ่ม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ 68 การเผชิญหน้า

Now you are reading Armipotent จักรวรรดิคลั่ง จักรพรรดิอมตะ Chapter 68 การเผชิญหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Armipotent – จักรวรรดิคลั่งจักรพรรดิอมตะ บทที่ 68 การเผชิญหน้า หานเจียงมันเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่ออกมาจากฐานในทันทีที่อันตรายมาถึงอย่างไรก็ตามคนส่วนน้อยก็รู้ว่ามันไม่ได้ออกไปจากฐานอย่างแท้จริง มันกับกลุ่มของมันซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆกับฐานพวกมันเฝ้าดูจนกระทั่งการต่อสู้คลี่คลายลงเมื่อฝูงซอมบี้กลุ่มแรกถูกกำจัดไปมันก็วางแผนที่จะกลับไปยึดฐานมาจากถังเส้หยาง อย่างไรก็ตามไม่นานมันก็ได้ยินมันยังว่ามีซอมบี้อีกฝูงหนึ่งกำลังมามันและมันก็ยังเป็นฝูงซอมบี้ที่ใหญ่กว่าเดิมอีกด้วยและเพราะอย่างนี้เองหานเจียงจึงได้ล้มเลิกความคิดของมัน จากนั้นมันก็ค้นหาผู้คนเพิ่มเติมและคัดเลือกพวกเขาเข้ากลุ่มของมัน หานเจียงและกลุ่มของมันเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีชื่อเสียงในฐานทัพดังนั้นมันจึงสามารถทำการคัดเลือกคนเข้ามาในกลุ่มของมันได้เป็นจำนวนมากเมื่อมันบอกแผนการของมันกับผู้คนของมันทุกคนก็เห็นด้วยกับแผนของมันในทันที ฐานนั้นมีความสำคัญอย่างแน่นอนมันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่มันไม่สามารถหาได้จากข้างนอกหรือหาได้จากการฆ่าซอมบี้ พรสวรรค์,ร้านค้าทั่วไปและที่สำคัญกว่านั้นคือคลาสสิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่ทำให้หานเจียงไม่อยากจะพลาดโอกาสในการยึดฐานไป ในขณะที่ถังเส้าหยางและผู้คนที่อยู่ในฐานกำลังต่อสู้กับฝูงซอมบี้ระลอกที่สองหานเหลียงก็กำลังรวบรวมผู้คนด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละของเขาเขาจึงสามารถรับสมัครคนมาได้ทั้งสิ้นจำนวน 209 คนและเมื่อบวกกบกลุ่มเดิมของมันตอนนี้เขาก็มีทั้งหมด 239 คน คนเหล่านี้ทั้งหมดคือคนที่ตัดสินใจจะออกจากฐานเช่นเดียวกับมันด้วยเหตุนี้เองมันจึงสามารถเกณฑ์พวกมันเมาได้อย่างง่ายดาย “ทำไมเราถึงจะกลับบ้านของเราไม่ได้”หานเหลียงกล่าวกับจางเหมิงเหยาอย่างไร้ยางอาย มันอ้างว่าฐานแห่งนี้เป็นบ้านของมันแต่ถึงอย่างนั้นมันก็เลือกที่จะออกไปในช่วงเวลาที่บ้านกำลังเกิดวิกฤต จางเหมิงเหยามองดูชายผู้ไร้ยางอายอย่างรังเกียจ“นอกจากจะไม่เคยมีส่วนร่วมในการปกป้องฐานแลวแกยังมีหน้ามาบอกว่าที่แห่งนี้คือบ้านของแกอีกอย่างงั้นหรอ?” “ฉันออกไปก็เพื่อเกลี้ยกล่อมคนเหล่านี้ให้กลับมาปกป้องบ้านของเรานะ”หานเจียงยิ้มตอบในขณะที่มันไม่ใส่ใจกับคำพูดของจางเหมิงเหยา “หลังจากฉันยึดฐานได้แล้วผู้หญิงคนนี้ก็จะต้องเป็นของฉัน “อย่างไรก็ตามในตอนที่เรากลับมาการสู้รบก็ได้จบลงไปแล้วมันช่างโชคร้ายแต่เราก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว”หานเจียงส่ายหัวขณะที่มันพยายามพูดอย่างจริงใจที่สุด “ใช้เวลาสี่วันในการกลับมาแกปัญญาอ่อนจนจำทางกลับบ้านไม่ได้รึไง!?”จางเหมิงเหยาตอบอย่างประชดประชัน “เรารู้ว่าเราผิดแต่เราก็เสียใจกับสิ่งที่เลือกดังนั้นเราจึงกลับมาเราขอโทษสำหรับการกระทำที่ขี้ขลาดของเราแต่เรากลับมาแล้ว “ชายข้างหานเหลียงกัมศีรษะให้จางเหมิงเหยา ชายคนนั้นมีชื่อว่าฉีปิงมันก็เป็นคนของหานเจียงและการขอโทษของมันนั้นก็เป็นหนึ่งในแผนการของหานเหลียง”เรายอมรับคำขอโทษแล้วที่นี่ก็ไสหัวออกไปได้แล้ว!“เต๋เหอที่เฝ้าดูอยู่เงียบๆจากข้างสนามในที่สุดก็พูดออกมาเขาบอกให้คนเหล่านี้ออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา”ทำไมล่ะ?เราก็ขอโทษแล้วเราเสียใจกับการเลือกของเราและฉันก็เชื่อว่าเราสมควรได้รับโอกาสครั้งที่สอง!“ฉีปิงขึ้นเสียงใส่เต๋เหอ “ชิไอ้เวรนี่กล้ามาอวดเบ่งต่อหน้าฉันดูสิว่ามันจะยังปากดีอีกไหมถ้าเจอน้องของฉันเล่งานเข้าไป!” “ใช่!เราเองก็คู่ควรกับโอกาสครั้งที่สองเช่นกัน!” “เราเสียใจจริงๆทำไมเราถึงจะไม่สามารถเข้าร่วมกับพวกคุณได้ล่ะ!” “เราสัญญาว่าเราจะไม่ทำอีก!” “เราขอโทษ!” “แกเป็นใครทำไมแกถึงทำอย่างกับว่าแกเป็นผู้นำถังเส้าหยางอยู่ที่ไหนเราต้องการความยุติธรรม!“ ผู้คนที่อยู่ด้านหลังฉีปิงและหานเจียงเริ่มตะโกนออกมา จาเงหมิงเหยาสะดุ้งเล็กน้อยเธอไม่แน่ใจว่าเธอควรจะทำอย่างไรดีการรับคนเหล่านี้เข้ามานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียเธอต้องคิดให้รอบคอบและนอกจากนี้เธอก็ยังจำเป็นจะต้องปรึกษาเรื่องนี้กับถังเฝ้ายางอีกด้วย หลังจากการสู้รบจบลงพวกเขาก็สูญเสียกำลังไปถึงครึ่งหนึ่งดังนั้นการยอมรับคนเหล่านี้กลับมาจึงพอจะสามารถชดใช้ความสูญเสียของพวกเขาได้และหากฝูงซอมบี้เข้ามาโจมตีพวกเขาอีกพวกเขาก็จะมีคนจำนวนมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับฝูงซอมบี้และนี่ก็เป็นหนึ่งในข้อดี สำหรับข้อเสียเธอก็กลัวว่าคนเหล่านี้จะเข้ามาเพื่อทำลายความสามัคคีในฐาน ”ไม่ชอบการตัดสินใจของฉันงนก็เข้ามาสู่สิ!“ เต๋เหอยกหอกของเขาขึ้นและชี้หอกไปทางฉีปิง ความอารมณ์ร้อนของเต๋เหอนั้นเป็นที่เข้าใจได้เขาเสียเพื่อนสองคนไปในการต่อสู้กับฝูงซอมบี้กลุ่มแรกเขาไม่ได้โทษจางเหมิงเหยาแต่เขาโทษคนที่ออกไปจากฐานหากพวกมันไม่ออกไปจากฐานเขาก็เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะฝูงซอมบี้ได้โดยมีผู้เสียชีวิตน้อยลงไปกว่านี้”อะไรนะแกต้องการการต่อสู้ใช่ไหมได้เลย!”ไปฆ่าไอ้คนอวดดีนั่นซะ!”ใช่ฆ่าไอ้ตัวน่ารำคาญนั่นซะ!“ผู้คนที่อยู่ด้านหลังฉีปิงและหานเจียงเริ่มชักอาวุธของพวกเขาออกมา อย่างไรก็ตามกลุ่มของจางเหมิงเหยาก็มีเพียงสามสิบสามคนเท่านั้นและพวกเขาก็เสียเปรียบทางด้านจำนวน ในช่วงเวลานี้ฉีปิงก็ขยิบตาขวาให้หานเจียงแม้ว่าแผนของมันจะไม่ราบรื่นเนื่องจากการแทรกแซงของเต๋เหอแต่มันก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี แผนเดิมคือการล่อถังเส้าหยางออกจากฐานก่อนที่พวกมันจะเริ่มการต่อสู้พวกมันต้องการใช้ประโยชน์จากความเหนื่อยล้าของถังเส้าหยางเพื่อฆ่าเขาและผู้คนของเขาและนั่นก็คือแผนอย่างไรก็ตามในตอนนี้ไม่ว่าถึงเส้าหยางจะอยู่หรือไม่มันก็ไม่มีอะไรสำคัญแล้วพวกมันจะต้องลงมือในตอนนี้ การฆ่าคนสามสิบคนนี้จะทำให้ความแข็งแกร่งของถังเส้หยางลดลงไปอย่างมากมันเหมือนกับการตัดแขนข้างหนึ่งของเขา เมื่อเห็นแบบนี้จางเหมิงเหยาก็รู้สึกตื่นตระหนกเธอยังคงไม่แน่ใจว่าเธอจะทำอย่างไรกับคนเหล่านี้ดีนับตั้งแต่การต่อสู้กับฝูงซอมบี้ครั้งแรกความมั่นใจของเธอก็ถูกสั่นคลอนเธอเริ่มกลัวที่จะตัดสินใจโดยไม่คิดให้รอบคอบเธอกลัวการตัดสินใจของเธอจะนำไปสู่หายนะเหมือนเมื่อก่อน อย่างไรก็ตามคนที่อยู่เบื้องหลังจางเหมิงเหยาก็ได้เริ่มชักอาวุธออกมาแล้วแม้จะเสียเปรียบเรื่องจำนวนแต่พวกเขาก็ไม่กลัวพวกเขาเคยต้องเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้มามากมายดังนั้นคนขี้ขลาดเพียงสองร้อยกว่าคนจึงไม่สามารถนับเป็นอะไรได้สำหรับพวกเขา เมื่อจางเหมิงเหยากำลังจะเกลี้ยกล่อมทั้งสองฝ่ายเธอก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น”จะวุ่นวายอะไรกันนักหนา!“ใบหน้าของจางเหมิงเหยาดูดีขึ้นเมื่อเธอได้ยินเสียงนี้เธอไม่ต้องการที่จะให้เกิดสงครามที่ไม่จำเป็น กลุ่มของจางเหมิงเหยาลดอาวุธของพวกเขาลงในขณะที่คนทั้ง30คนย้ายไปด้านข้างและเปิดทางให้ถึงเส้าหยางเดิน ถังเส้หยางเดินออกมาเพร้อมกับเดสทรอยเยอร์บนไหล่ของเขาและด้านหลังเขาลู่อันก็กำลังติดตามเขามาอย่างใกล้ชิดด้วยดาบที่คาดอยู่ที่เอวของเขา ใบหน้าของฉีปิงและหานเจียงเองก็สว่างขึ้นเมื่อเห็นถึงเส้หยางแม้ว่าพวกมันจะไม่เห็นสัญญาณของความอ่อนล้าบนใบหน้าของเขาถึงเส้หยางแต่เป้าหมายหลักของพวกมันก็ได้มาถึงแล้ว เหตุผลหลักที่พวกมันต้องการที่จะฆ่าถังเส้าหยางนั้นก็เป็นเพราะออริจิ้นพวกมันเชื่อว่าหากพวกมันสามารถฆ่าถึงเส้าหยางได้ออริจิ้นก็จะเปลี่ยนมารับใช้พวกมันแทน ถังเส้าหยางโอบเอวของจาเงหมิงเหยาด้วยมือเปล่าและกระซิบ”ที่รักเธอไม่ควรลังเลใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนทรยศอย่างพวกมัน!” ปากของพวกมันอาจบอกว่าเสียใจกับการกระทำที่ผ่านมาแต่เราไม่รู้ข้างในใจของพวกมันหรอกแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็รู้อะไรบางอย่างพวกมันจะออกไปเมื่อเกิดวิกฤตดังนั้นฉันเลยมีคำถามจะถามเธอ”เธอคิดว่าหากฐานของเราเกิดวิกฤตขึ้นอีกครั้งเธอคิดว่าพวกมันจะยังคงอยู่ที่นี่ไหม?“จางเหมิงเหยาเงียบไปกับคำถามแต่เธอก็มีคำตอบสำหรับคำถามนี้แล้วพวกมันจะต้องหนีออกไปอีกแน่นอน เอมีครั้งที่หนึ่งแล้วมันก็ง่ายที่จะมีครั้งที่สองต่อเว้นซะแต่ว่าพวกมันจะรู้สึกผิดจริงๆ”ดูเหมือนว่าเธอจะรู้คำตอบแล้วสินะ“หลังจากพูดเสร็จถึงเส้าหยางก็หันปทางกลุ่มหานเจียง”ถ้าแกเสียใจจริงๆกับการกระทำที่ผ่านมาของแกงั้นแกก็พิสูจน์ด้วยการกระทำของแกสิไม่ใช่ปาก!มาเป็นทาสของฉันตลอดเวลาหนึ่งปีส่งมอบ GC ทั้งหมดที่พวกแกมีและสมบัติทั้งหมดของแกก็จะถูกริบเป็นของจักรวรรดิ!ถ้าแกตกลงฐานแห่งนี้ก็จะเป็นบ้านของแกอีกครั้ง!นี่ไงโอกาสครั้งที่สองที่พวกแกกำลังแสวงหา!”ถึงเส้าหยางยิ้มให้กับกลุ่ม

นิยาย Armipotent – จักรวรรดิคลั่งจักรพรรดิอมตะ

บทที่ 68 การเผชิญหน้า

หานเจียงมันเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่ออกมาจากฐานในทันทีที่อันตรายมาถึงอย่างไรก็ตามคนส่วนน้อยก็รู้ว่ามันไม่ได้ออกไปจากฐานอย่างแท้จริง

มันกับกลุ่มของมันซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆกับฐานพวกมันเฝ้าดูจนกระทั่งการต่อสู้คลี่คลายลงเมื่อฝูงซอมบี้กลุ่มแรกถูกกำจัดไปมันก็วางแผนที่จะกลับไปยึดฐานมาจากถังเส้หยาง

อย่างไรก็ตามไม่นานมันก็ได้ยินมันยังว่ามีซอมบี้อีกฝูงหนึ่งกำลังมามันและมันก็ยังเป็นฝูงซอมบี้ที่ใหญ่กว่าเดิมอีกด้วยและเพราะอย่างนี้เองหานเจียงจึงได้ล้มเลิกความคิดของมัน

จากนั้นมันก็ค้นหาผู้คนเพิ่มเติมและคัดเลือกพวกเขาเข้ากลุ่มของมัน

หานเจียงและกลุ่มของมันเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีชื่อเสียงในฐานทัพดังนั้นมันจึงสามารถทำการคัดเลือกคนเข้ามาในกลุ่มของมันได้เป็นจำนวนมากเมื่อมันบอกแผนการของมันกับผู้คนของมันทุกคนก็เห็นด้วยกับแผนของมันในทันที

ฐานนั้นมีความสำคัญอย่างแน่นอนมันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่มันไม่สามารถหาได้จากข้างนอกหรือหาได้จากการฆ่าซอมบี้

พรสวรรค์,ร้านค้าทั่วไปและที่สำคัญกว่านั้นคือคลาสสิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่ทำให้หานเจียงไม่อยากจะพลาดโอกาสในการยึดฐานไป

ในขณะที่ถังเส้าหยางและผู้คนที่อยู่ในฐานกำลังต่อสู้กับฝูงซอมบี้ระลอกที่สองหานเหลียงก็กำลังรวบรวมผู้คนด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละของเขาเขาจึงสามารถรับสมัครคนมาได้ทั้งสิ้นจำนวน 209 คนและเมื่อบวกกบกลุ่มเดิมของมันตอนนี้เขาก็มีทั้งหมด 239 คน

คนเหล่านี้ทั้งหมดคือคนที่ตัดสินใจจะออกจากฐานเช่นเดียวกับมันด้วยเหตุนี้เองมันจึงสามารถเกณฑ์พวกมันเมาได้อย่างง่ายดาย

“ทำไมเราถึงจะกลับบ้านของเราไม่ได้”หานเหลียงกล่าวกับจางเหมิงเหยาอย่างไร้ยางอาย

มันอ้างว่าฐานแห่งนี้เป็นบ้านของมันแต่ถึงอย่างนั้นมันก็เลือกที่จะออกไปในช่วงเวลาที่บ้านกำลังเกิดวิกฤต

จางเหมิงเหยามองดูชายผู้ไร้ยางอายอย่างรังเกียจ“นอกจากจะไม่เคยมีส่วนร่วมในการปกป้องฐานแลวแกยังมีหน้ามาบอกว่าที่แห่งนี้คือบ้านของแกอีกอย่างงั้นหรอ?”

“ฉันออกไปก็เพื่อเกลี้ยกล่อมคนเหล่านี้ให้กลับมาปกป้องบ้านของเรานะ”หานเจียงยิ้มตอบในขณะที่มันไม่ใส่ใจกับคำพูดของจางเหมิงเหยา

“หลังจากฉันยึดฐานได้แล้วผู้หญิงคนนี้ก็จะต้องเป็นของฉัน

“อย่างไรก็ตามในตอนที่เรากลับมาการสู้รบก็ได้จบลงไปแล้วมันช่างโชคร้ายแต่เราก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว”หานเจียงส่ายหัวขณะที่มันพยายามพูดอย่างจริงใจที่สุด

“ใช้เวลาสี่วันในการกลับมาแกปัญญาอ่อนจนจำทางกลับบ้านไม่ได้รึไง!?”จางเหมิงเหยาตอบอย่างประชดประชัน

“เรารู้ว่าเราผิดแต่เราก็เสียใจกับสิ่งที่เลือกดังนั้นเราจึงกลับมาเราขอโทษสำหรับการกระทำที่ขี้ขลาดของเราแต่เรากลับมาแล้ว

“ชายข้างหานเหลียงกัมศีรษะให้จางเหมิงเหยา

ชายคนนั้นมีชื่อว่าฉีปิงมันก็เป็นคนของหานเจียงและการขอโทษของมันนั้นก็เป็นหนึ่งในแผนการของหานเหลียง”เรายอมรับคำขอโทษแล้วที่นี่ก็ไสหัวออกไปได้แล้ว!“เต๋เหอที่เฝ้าดูอยู่เงียบๆจากข้างสนามในที่สุดก็พูดออกมาเขาบอกให้คนเหล่านี้ออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา”ทำไมล่ะ?เราก็ขอโทษแล้วเราเสียใจกับการเลือกของเราและฉันก็เชื่อว่าเราสมควรได้รับโอกาสครั้งที่สอง!“ฉีปิงขึ้นเสียงใส่เต๋เหอ

“ชิไอ้เวรนี่กล้ามาอวดเบ่งต่อหน้าฉันดูสิว่ามันจะยังปากดีอีกไหมถ้าเจอน้องของฉันเล่งานเข้าไป!” “ใช่!เราเองก็คู่ควรกับโอกาสครั้งที่สองเช่นกัน!” “เราเสียใจจริงๆทำไมเราถึงจะไม่สามารถเข้าร่วมกับพวกคุณได้ล่ะ!” “เราสัญญาว่าเราจะไม่ทำอีก!” “เราขอโทษ!” “แกเป็นใครทำไมแกถึงทำอย่างกับว่าแกเป็นผู้นำถังเส้าหยางอยู่ที่ไหนเราต้องการความยุติธรรม!“ ผู้คนที่อยู่ด้านหลังฉีปิงและหานเจียงเริ่มตะโกนออกมา

จาเงหมิงเหยาสะดุ้งเล็กน้อยเธอไม่แน่ใจว่าเธอควรจะทำอย่างไรดีการรับคนเหล่านี้เข้ามานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียเธอต้องคิดให้รอบคอบและนอกจากนี้เธอก็ยังจำเป็นจะต้องปรึกษาเรื่องนี้กับถังเฝ้ายางอีกด้วย

หลังจากการสู้รบจบลงพวกเขาก็สูญเสียกำลังไปถึงครึ่งหนึ่งดังนั้นการยอมรับคนเหล่านี้กลับมาจึงพอจะสามารถชดใช้ความสูญเสียของพวกเขาได้และหากฝูงซอมบี้เข้ามาโจมตีพวกเขาอีกพวกเขาก็จะมีคนจำนวนมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับฝูงซอมบี้และนี่ก็เป็นหนึ่งในข้อดี

สำหรับข้อเสียเธอก็กลัวว่าคนเหล่านี้จะเข้ามาเพื่อทำลายความสามัคคีในฐาน ”ไม่ชอบการตัดสินใจของฉันงนก็เข้ามาสู่สิ!“ เต๋เหอยกหอกของเขาขึ้นและชี้หอกไปทางฉีปิง

ความอารมณ์ร้อนของเต๋เหอนั้นเป็นที่เข้าใจได้เขาเสียเพื่อนสองคนไปในการต่อสู้กับฝูงซอมบี้กลุ่มแรกเขาไม่ได้โทษจางเหมิงเหยาแต่เขาโทษคนที่ออกไปจากฐานหากพวกมันไม่ออกไปจากฐานเขาก็เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะฝูงซอมบี้ได้โดยมีผู้เสียชีวิตน้อยลงไปกว่านี้”อะไรนะแกต้องการการต่อสู้ใช่ไหมได้เลย!”ไปฆ่าไอ้คนอวดดีนั่นซะ!”ใช่ฆ่าไอ้ตัวน่ารำคาญนั่นซะ!“ผู้คนที่อยู่ด้านหลังฉีปิงและหานเจียงเริ่มชักอาวุธของพวกเขาออกมา

อย่างไรก็ตามกลุ่มของจางเหมิงเหยาก็มีเพียงสามสิบสามคนเท่านั้นและพวกเขาก็เสียเปรียบทางด้านจำนวน

ในช่วงเวลานี้ฉีปิงก็ขยิบตาขวาให้หานเจียงแม้ว่าแผนของมันจะไม่ราบรื่นเนื่องจากการแทรกแซงของเต๋เหอแต่มันก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี

แผนเดิมคือการล่อถังเส้าหยางออกจากฐานก่อนที่พวกมันจะเริ่มการต่อสู้พวกมันต้องการใช้ประโยชน์จากความเหนื่อยล้าของถังเส้าหยางเพื่อฆ่าเขาและผู้คนของเขาและนั่นก็คือแผนอย่างไรก็ตามในตอนนี้ไม่ว่าถึงเส้าหยางจะอยู่หรือไม่มันก็ไม่มีอะไรสำคัญแล้วพวกมันจะต้องลงมือในตอนนี้

การฆ่าคนสามสิบคนนี้จะทำให้ความแข็งแกร่งของถังเส้หยางลดลงไปอย่างมากมันเหมือนกับการตัดแขนข้างหนึ่งของเขา

เมื่อเห็นแบบนี้จางเหมิงเหยาก็รู้สึกตื่นตระหนกเธอยังคงไม่แน่ใจว่าเธอจะทำอย่างไรกับคนเหล่านี้ดีนับตั้งแต่การต่อสู้กับฝูงซอมบี้ครั้งแรกความมั่นใจของเธอก็ถูกสั่นคลอนเธอเริ่มกลัวที่จะตัดสินใจโดยไม่คิดให้รอบคอบเธอกลัวการตัดสินใจของเธอจะนำไปสู่หายนะเหมือนเมื่อก่อน

อย่างไรก็ตามคนที่อยู่เบื้องหลังจางเหมิงเหยาก็ได้เริ่มชักอาวุธออกมาแล้วแม้จะเสียเปรียบเรื่องจำนวนแต่พวกเขาก็ไม่กลัวพวกเขาเคยต้องเผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้มามากมายดังนั้นคนขี้ขลาดเพียงสองร้อยกว่าคนจึงไม่สามารถนับเป็นอะไรได้สำหรับพวกเขา

เมื่อจางเหมิงเหยากำลังจะเกลี้ยกล่อมทั้งสองฝ่ายเธอก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น”จะวุ่นวายอะไรกันนักหนา!“ใบหน้าของจางเหมิงเหยาดูดีขึ้นเมื่อเธอได้ยินเสียงนี้เธอไม่ต้องการที่จะให้เกิดสงครามที่ไม่จำเป็น

กลุ่มของจางเหมิงเหยาลดอาวุธของพวกเขาลงในขณะที่คนทั้ง30คนย้ายไปด้านข้างและเปิดทางให้ถึงเส้าหยางเดิน

ถังเส้หยางเดินออกมาเพร้อมกับเดสทรอยเยอร์บนไหล่ของเขาและด้านหลังเขาลู่อันก็กำลังติดตามเขามาอย่างใกล้ชิดด้วยดาบที่คาดอยู่ที่เอวของเขา

ใบหน้าของฉีปิงและหานเจียงเองก็สว่างขึ้นเมื่อเห็นถึงเส้หยางแม้ว่าพวกมันจะไม่เห็นสัญญาณของความอ่อนล้าบนใบหน้าของเขาถึงเส้หยางแต่เป้าหมายหลักของพวกมันก็ได้มาถึงแล้ว

เหตุผลหลักที่พวกมันต้องการที่จะฆ่าถังเส้าหยางนั้นก็เป็นเพราะออริจิ้นพวกมันเชื่อว่าหากพวกมันสามารถฆ่าถึงเส้าหยางได้ออริจิ้นก็จะเปลี่ยนมารับใช้พวกมันแทน

ถังเส้าหยางโอบเอวของจาเงหมิงเหยาด้วยมือเปล่าและกระซิบ”ที่รักเธอไม่ควรลังเลใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนทรยศอย่างพวกมัน!” ปากของพวกมันอาจบอกว่าเสียใจกับการกระทำที่ผ่านมาแต่เราไม่รู้ข้างในใจของพวกมันหรอกแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็รู้อะไรบางอย่างพวกมันจะออกไปเมื่อเกิดวิกฤตดังนั้นฉันเลยมีคำถามจะถามเธอ”เธอคิดว่าหากฐานของเราเกิดวิกฤตขึ้นอีกครั้งเธอคิดว่าพวกมันจะยังคงอยู่ที่นี่ไหม?“จางเหมิงเหยาเงียบไปกับคำถามแต่เธอก็มีคำตอบสำหรับคำถามนี้แล้วพวกมันจะต้องหนีออกไปอีกแน่นอน

เอมีครั้งที่หนึ่งแล้วมันก็ง่ายที่จะมีครั้งที่สองต่อเว้นซะแต่ว่าพวกมันจะรู้สึกผิดจริงๆ”ดูเหมือนว่าเธอจะรู้คำตอบแล้วสินะ“หลังจากพูดเสร็จถึงเส้าหยางก็หันปทางกลุ่มหานเจียง”ถ้าแกเสียใจจริงๆกับการกระทำที่ผ่านมาของแกงั้นแกก็พิสูจน์ด้วยการกระทำของแกสิไม่ใช่ปาก!มาเป็นทาสของฉันตลอดเวลาหนึ่งปีส่งมอบ GC ทั้งหมดที่พวกแกมีและสมบัติทั้งหมดของแกก็จะถูกริบเป็นของจักรวรรดิ!ถ้าแกตกลงฐานแห่งนี้ก็จะเป็นบ้านของแกอีกครั้ง!นี่ไงโอกาสครั้งที่สองที่พวกแกกำลังแสวงหา!”ถึงเส้าหยางยิ้มให้กับกลุ่ม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+