Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 1400 สังหารตลอดทาง ใครจะขวางได้

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 1400 สังหารตลอดทาง ใครจะขวางได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตำหนักเฉียนหยวน

หลังจากจ้าวจิ่งเซวียนได้รู้ข่าวที่สัตว์อสูรมารยกทัพใหญ่เคลื่อนขบวน ก็บัญชาส่งไปทันที

มีเพียงประโยคเดียวว่า…

“ระดมกำลังทั้งหมดในจักรวรรดิ ฆ่า!”

เมื่อยิงธนูออกไปก็ไม่อาจเรียกคืนลูกธนูแล้ว หลักการข้อนี้นางเข้าใจดี

นางยิ่งรู้ดีว่าในเมื่อหลินสวินโจมตีกลับอย่างแข็งกร้าวเช่นนี้ ก็ย่อมไม่ทำให้นางผิดหวังอย่างแน่นอน

เมื่อมีคำสั่งนี้ประกาศลงไป บรรยากาศทั่วทั้งจักรวรรดิก็เริ่มเคร่งครัดขึ้น

ฟ้าแผ่ไอสังหาร ดาวเคลื่อนดาราคล้อย

ดินแผ่ไอสังหาร งูมังกรผงาด

มนุษย์แผ่ไอสังหาร ฟ้าดินแปรปรวน!

จักรวรรดิอันกว้างใหญ่ ทุกที่ล้วนมองเห็นกองทัพใหญ่ของจักรวรรดิที่รวมเป็นขบวนๆ โดยสารยานสมบัติหลาดรูปแบบปรากฏในอาณาเขตต่างๆ

ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนก็สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ พากันขันอาสาเข้าร่วมปฏิบัติการล่าสังหารสัตว์อสูรมาร

แม้แต่ขุมอำนาจทรงอิทธิพลในนครต้องห้ามเหล่านั้นก็เริ่มเคลื่อนกำลังพลเช่นกัน

หากจักรวรรดิพินาศ ไม่ว่าจะเป็นคนชั้นสูงทรงอำนาจหรือประชาชนคนทั่วไปที่ใช้ชีวิตรากหญ้า ล้วนมีจุดจบที่ไม่อาจหนีพ้น

เพราะฉะนั้นเมื่อทัพใหญ่สัตว์อสูรมารเริ่มบุกโจมตีอย่างดุเดือด จักรวรรดิก็เริ่มกรีธาทัพเต็มรูปแบบ ไม่ว่าใครต่างก็ไม่อาจนิ่งดูดาย

……

เมื่อได้รู้ข่าวพวกนี้ หลินสวินที่บอกลาพวกชีชานนานแล้วก็ออกจากมณฑลเยี่ยนเป่ยของจักรวรรดิ ปรากฏตัวอยู่ภายในมณฑลอวิ๋นกวงที่อยู่ใกล้ตอนเหนือมากกว่าเดิม

“เดรัจฉานชั่วพวกนี้คิดจะแก้แค้นด้วยการยกทัพใหญ่บุกอาณาเขตจักรวรรดิหรือ…”

นัยน์ตาดำของหลินสวินสะท้อนประกายเย็นเยียบ

“ดูเหมือนว่าข้ายังสังหารราชันอสูรมารไม่มากพอ!”

สวบ!

เงาร่างเขาหายลับไป

ไม่กี่ชั่วยามให้หลัง ภายในบึงยักษ์เขางูเหลือม มณฑลอวิ๋นกวง

ที่นี่เป็นถิ่นของราชันนิลดำ

“ฆ่า ระดมกำลังทั้งหมดไปฆ่าล้างเมือง เขาหลินสวินที่ตัวคนเดียวคิดจะช่วยทั้งจักรวรรดิหรือ เพ้อฝัน!”

กลางบึงยักษ์เขางูเหลือม ราชันนิลดำแผดเสียงตะโกนประหนึ่งฟ้าร้อง

ร่างเดิมของเขาเป็นวัวกระทิงหลังเทาตัวหนึ่ง นิสัยดิบเถื่อนและเผด็จการถึงที่สุด

“ฆ่า!” “ฆ่า!” “ฆ่า!”

สัตว์อสูรมารนับไม่ถ้วนอยู่รวมกันเป็นฝูงส่งเสียงคำราม คลื่นเสียงราวกับฟ้าระเบิดพลุ่งพล่าน สั่นสะเทือนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ทำให้คนหน้าเปลี่ยนสี

ทอดสายตามองไป ภายในบึงยักษ์เขางูเหลือมที่เหมือนทะเลสาบมหึมาแห่งหนึ่ง ทุกแห่งหนล้วนมีแต่นกปีศาจและสัตว์อสูรมารแน่นขนัดเบียดเสียด

ภาพเพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้คนหนังหัวชาหนึบแล้ว

“ไปกัน ล้างบางเผ่ามนุษย์ต่ำต้อยพวกนั้น มีแต่การฆ่าและคาวเลือดเท่านั้นถึงจะทำให้พวกมันหวาดกลัว ถึงจะทำให้พวกมันตระหนักได้ว่าตัวเองเล็กจ้อยและด้อยค่าแค่ไหน!”

ราชันนิลดำตะโกนลั่น

ฟึ่บ!

แต่ตอนที่เสียงเขาเพิ่งสิ้นสุด ปราณกระบี่สายหนึ่งก็โฉบเข้ามาจากขอบฟ้า เคลื่อนขวางตัดห้วงอากาศเข้ามา แล่นวาบแผ่วเบา

หัวของราชันนิลดำก็ลอยคว้างบนอากาศตามมาด้วย บนใบหน้าอัปลักษณ์ยังคงฉายแววเกรี้ยวกราดและตกตะลึง

ตูม!

ศพหัวขาดของเขาร่วงลงไปกลางบึงยักษ์ น้ำกระเด็นออกมาแถบหนึ่ง

ทัพใหญ่สัตว์อสูรมารที่เดิมที่ยังกู่ร้องแผดคำราม ขณะนี้ต่างหุบปากหน้าตาเหลอหลา ล้วนคิดไม่ถึงว่าราชันนิลดำที่เมื่อครู่ยังออกคำสั่งท่าทางดุเดือด เหตุใดพริบตาต่อมาถึงได้ตายเสียแล้ว…

บรรยากาศเงียบกริบ ไร้สรรพเสียง

บริเวณไกลโพ้น หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย แขนเสื้อโบกปลิว

สวบๆๆ!

ปราณกระบี่ไท่เสวียนเจ็ดร้อยยี่สิบสายโฉบออกไป เบียดแน่นราวกับกระแสน้ำเชี่ยว ไขว้ตัดกลางอากาศ วิวัฒน์เป็นค่ายกลกระบี่มหึมาอันหนึ่ง

ปราณกระบี่แต่ละสายต่างคมกริบสะท้านโลก ทำให้คนใจสะท้าน

จังหวะที่ค่ายกลใหญ่ก่อตัวเป็นรูปร่าง ปราณกระบี่เหล่านั้นกลับกลายเป็นเหมือนความว่างเปล่า อันตรธานหายลับไปจากห้วงอากาศอย่างสิ้นเชิง

ในระดับอมตะเคราะห์ สามารถเคี่ยวกรำค่ายกลกระบี่สามอย่างใน ‘คัมภีร์กระบี่ไท่เสวียน’ ได้

แบ่งออกเป็น ‘ค่ายกลกระบี่สังหารว่างเปล่า’ ‘ค่ายกลกระบี่สังหารพิฆาตนรก’ และ ‘ค่ายกลกระบี่สังหารรู้ตน’

ที่หลินสวินสำแดงในตอนนี้ก็คือค่ายกลกระบี่สังหารว่างเปล่า ประกอบขึ้นจากปราณกระบี่เจ็ดร้อยยี่สิบสาย เมื่อค่ายกลกระบี่ประกอบสำเร็จ ก็ฆ่าศัตรูได้อย่างไร้ร่องรอย!

‘ไป!’

เมื่อความคิดของหลินสวินขยับไหว

กลางบึงยักษ์เขางูเหลือม สัตว์อสูรมารนับไม่ถ้วนยังไม่ทันตอบสนองร่างก็ถูกฟันขาด ร่วงลงไปประหนึ่งหญ้าที่ถูกตัดถอน

เลือดสดๆ ราวกับน้ำทะเลสาบที่เดือดพล่าน ไม่นานก็ย้อมทั่วทั้งบึงยักษ์เขางูเหลือมให้เป็นสีแดงฉาน

ห่างเพียงสองวัน ในมณฑลอวิ๋นกวงของจักรวรรดิ ราชันนิลดำถูกตัดหัว ทัพใหญ่สัตว์อสูรมารใต้บัญชาถูกสังหาร เลือดย้อมบึงยักษ์!

ใต้หล้าสะท้านสะเทือนขึ้นมาอีกครั้ง

……

เพียงแต่ทุกอย่างนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

นับตั้งแต่พริบตานั้นที่ย่างเท้าเคลื่อนตัวออกจากมณฑลซีหนานของจักรวรรดิ ก็กำหนดไว้แล้วว่าหลินสวินไม่อาจยั้งมือเพียงเท่านี้

หนำซ้ำจากสถานการณ์ในตอนนี้ของจักรวรรดิ ก็ไม่ยอมให้หลินสวินยั้งมือ

ห้าวันให้หลัง

มณฑลทางตะวันออกเฉียงเหนือของจักรวรรดิ

ทัพใหญ่สัตว์อสูรมาร ราชันมังกรดินที่ยกทัพบุกตีเมืองใหญ่แห่งหนึ่งถูกหลินสวินที่ร่วงลงมาจากฟ้าใช้ดาบหักฟันตาย ร่างสิ้นจิตสลาย

ทัพใหญ่สัตว์อสูรมารซึ่งมีเขาเป็นผู้นำทัพก็ขวัญกระเจิง ถูกกองทัพใหญ่ของจักรวรรดิที่มาทันเวลาไล่ล่าสังหาร เลือดนองเป็นสายธารตลอดทาง

เก้าวันให้หลัง

มณฑลเว่ยสุ่ยของจักรวรรดิ

ราชันแพะดำที่รู้ว่าหลินสวินบุกเข้ามาเลือกเผ่นหนีตั้งแต่จังหวะแรก แต่ถูกหลินสวินขวางไว้ ถลกเนื้อเถือหนังระหว่างทาง

วันนั้นหลินสวินใช้เนื้อราชันแพะดำเป็นรางวัลให้กับกองทัพใหญ่จักรวรรดิ

ว่ากันว่าในวันนั้นมีอาหารรสโอชามากมาย อย่างเนื้อแพะย่าง น้ำแกงแพะ ซี่โครงแพะเป็นต้น ไม่ว่าทหารจักรวรรดิคนไหนที่ได้ลิ้มรสชาติเลิศล้ำมื้อนี้ ต่างก็พากันบอกว่านี่คืออาหารเลิศรสที่สุดที่พวกเขาเคยกินมาในชีวิต เป็นมื้อที่สำราญใจที่สุดจนวาระสุดท้ายก็ยากจะลืมเลือน

สิบแปดวันให้หลัง

พื้นที่ทะเลทรายตะวันตกเฉียงเหนือของจักรวรรดิ ผ่านการค้นหามาเจ็ดแปดวัน หลินสวินก็สังหารราชันหลอมเพลิงที่ก้นทะเลทรายกว้างใหญ่ลงได้

ตอนนั้นแสงเพลิงสูงลิ่ว เสียงร้องโหยหวนสะเทือนฟ้า

พร้อมๆ กับเวลาที่เคลื่อนคล้อย เรื่องราวคล้ายคลึงกันก็บังเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน

และพร้อมๆ กับข่าวที่แพร่กระจายไป ทั่วทั้งจักรวรรดิล้วนตกอยู่ในความสั่นสะเทือนเนิ่นนาน

ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วน ทหารจักรวรรดินับไม่ถ้วน ประชาชนของจักรวรรดินับไม่ถ้วนต่างดีใจ ฮึกเหิม ตื่นเต้น ฮือฮา เดือดปะทุ…

จนกระทั่งต่อมา ดูเหมือนว่าเพราะตื่นตะลึงกันมากเกินไปแล้ว จึงค่อยๆ ชินชาขึ้นมา

ถึงขั้นที่ในระยะหนึ่งหากไม่มีใครได้ยินว่าราชันอสูรมารตนไหนถูกหลินสวินสังหาร กลับจะรู้สึกว่าออกจะผิดปกติ

นครต้องห้ามของจักรวรรดิ ตำหนักเฉียนหยวน

“รายงาน ในมณฑลเฮยสุ่ย ราชันเต่าเงินถูกสังหาร!”

มีข่าวรายงานเข้ามา ดังก้องทั่วตำหนัก

จ้าวจิ่งเซวียนที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทรงงานไม่ได้เงยหน้า กล่าวเพียงว่า “รู้แล้ว”

สองเดือนมาแล้ว

ในสองเดือนนี้ภายในอาณาเขตของจักรวรรดิ มีราชันอสูรมารราวๆ สิบสามตนที่ยึดครองพื้นที่แต่ละแห่งถูกหลินสวินบุกสังหาร ขุมอำนาจใต้บัญชาของพวกมันก็พังครืนไม่เป็นท่าตามไปด้วย

ในนั้นมีราชันอสูรมารชื่อสะท้านโลกเหมือนกับราชันหลอมเพลิง และก็มีราชันอสูรมารที่จิตใจโหดเหี้ยม ชื่อเสียงอำมหิตด้วยส่วนหนึ่ง

แรกเริ่มเดิมทีจ้าวจิ่งเซวียนก็ตกใจไม่สิ้นเช่นกัน

แต่ตอนนี้นางเองก็ชินแล้ว

สิ่งที่ทำให้จ้าวจิ่งเซวียนดีใจคือ สถานการณ์ของจักรวรรดิในตอนนี้กำลังดีขึ้นมาก มีข่าวดีรายงานเข้ามาเกือบทุกวัน

เมืองและอาณาเขตที่ถูกยึดครองส่วนหนึ่งก็ถูกยึดคืนมาอีกครั้ง!

กลับกัน ขุมอำนาจสัตว์อสูรมารแต่ละแห่งที่ยึดครองดินแดนของจักรวรรดิกลับตกอยู่ในอันตรายถึงขีดสุด พากันล่าถอย อำนาจตกต่ำไม่ยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อน

และการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงสองเดือนเท่านั้น!

“องค์หญิง กระบี่เดียวของคุณชายหลินเท่ากับคุณงามความชอบนับแสน คุณูปการยิ่งใหญ่เช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และไม่เคยได้ยินมาก่อนในอดีต กระหม่อมไม่ทราบจริงๆ ว่าควรตกรางวัลคุณชายหลินอย่างไร”

ขุนนางเฒ่าคนหนึ่งยิ้มเจื่อน

คนอื่นๆ ก็พากันทอดถอนใจไม่สิ้น

การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในจักรวรรดิช่วงสองเดือนนี้ เกิดขึ้นเพราะหลินสวินคนเดียวอย่างสิ้นเชิง หากคำนวณตามเหรียญกล้าหาญ เหรียญกล้าหาญที่เขาสะสมทั้งหมดคนเดียวล้วนเรียกได้ว่ามากมายมหาศาล!

“ตกรางวัล? ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง”

จ้าวจิ่งเซวียนอดหัวเราะไม่ได้ ปราณระดับหลินสวินไหนเลยจะยังมัวสนใจรางวัลอะไรนี่

เว้นเสียแต่มอบโอกาสให้เขาได้เป็นมกุฎอริยะ!

นึกถึงตรงนี้จู่ๆ จ้าวจิ่งเซวียนก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา กล่าวว่า “ข่าวเกี่ยวกับลู่ป๋อหยา พวกท่านรวบรวมไปถึงไหนกันแล้ว”

จากนั้นก็มีคนกล่าวตอบทันที “มีความคืบหน้ามากแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่เนื่องจากข้อมูลซับซ้อน เบาะแสเสะปะสะปะ จึงต้องเรียบเรียงใหม่ก่อน”

จ้าวจิ่งเซวียนพยักหน้ากล่าวว่า “ไม่ต้องรีบ ยิ่งสมบูรณ์ยิ่งดี”

จากนั้นนางก็กำชับ “แล้วก็ช่วยรวบรวมข่าวในตอนที่เสด็จพ่อเสด็จแม่ออกไปให้ข้าด้วย”

……

เขาวายุดำทางตอนใต้ของจักรวรรดิ

“ราชันอาภรณ์ดำ ข่าวช่วงสองเดือนมานี้เจ้าก็รู้หมด หากเจ้ายังไม่ออกหน้าไปจัดการหลินสวินนั่นอีก พวกเราอสูรมารก็จะย่อยยับกันหมดแล้ว!”

“ใต้เท้าบรรพจารย์อสูรมารเดือดดาลหาใดเปรียบ สั่งการลงมาแล้วว่าให้พวกเราร่วมมือกันไปบุกสังหารหลินสวินนั่น หรือเจ้าคิดขัดขืนคำสั่ง”

“ราชันอาภรณ์ดำ ถึงเวลาต้องตัดสินใจแล้ว!”

ในวันนี้ราชันอสูรมารกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ต่างหน้านิ่วคิ้วขมวด จับจ้องประตูใหญ่ของถ้ำสถิตที่ปิดสนิทซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปบานนั้น

ราชันอสูรมารเหล่านี้ ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่มีใครไม่ใช่พวกชื่อเสียงโด่งดัง อิทธิพลอยู่ในระดับแนวหน้า บางส่วนยิ่งสามารถไต่เต้าไปอยู่ในสิบอันดับพญาราชันอสูรมาร

อย่างเช่นราชันผึ้งขาว ราชันเถาวัลย์เพลิงเป็นต้น

แต่ยามนี้พวกเขาต่างวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด!

เป็นเพราะช่วงที่ผ่านมานี้หลินสวินสังหารราชันอสูรมารมากเกินไปจริงๆ ฆ่าจนทำให้พวกเขารับรู้ถึงความหวาดหวั่นสั่นสะท้าน ไม่อาจไม่มุ่งหน้ามาร้องขอความช่วยเหลือจากราชันอาภรณ์ดำที่เขาวายุดำ

คนอื่นอาจไม่รู้ชัด แต่พวกเขาย่อมรู้ดี ราชันอาภรณ์ดำเป็นศิษย์เบื้องท้ายที่บรรพจารย์อสูรมารรับไว้ ลึกลับและเก็บตัวอย่างที่สุด

หลายปีมานี้แทบจะโผล่หน้าออกมาน้อยครั้ง

แต่ความแข็งแกร่งในพลังของเขา กลับไม่มีใครกล้าตั้งข้อสงสัย!

“พวกเจ้า… เหตุใดต้องไปยั่วโทสะหลินสวินนั่นด้วย”

ในถ้ำที่ปิดสนิทนั้น เสียงถอนใจสายหนึ่งดังลอยออกมา

ราชันอสูรมารพวกนั้นต่างตะลึง จากนั้นก็ปั้นหน้าขรึม ล้วนคิดไม่ถึงว่าพวกเขาตรากตรำเฝ้ารอมานาน ที่รออยู่กลับเป็นประโยคเช่นนี้!

หมายความว่าอย่างไร

นี่กำลังโทษพวกเขาที่เป็นฝ่ายไปยั่วโทสะหลินสวินนั่นอยู่หรือ

“ราชันอาภรณ์ดำ อย่าบอกว่าเจ้ากลัวนะ”

ราชันอสูรมารตนหนึ่งเดือดดาลยกใหญ่ โพล่งเสียงเย็นชา

“ไม่ ข้าแค่บอกว่าพวกเจ้าโง่เกินไป ยั่วโทสะคนที่ไม่ควรยั่ว ผลสุดท้ายกลับได้แต่มาขอความช่วยเหลือจากข้า ไม่รู้สึกขายหน้ากันบ้างหรือ”

เสียงของราชันอาภรณ์ดำราบเรียบ ไม่ได้เจือความรู้สึกใดๆ

“พวกข้าไม่ได้มาฟังเจ้าเยาะเย้ยเสียหน่อย!”

ราชันผึ้งขาวเอ่ยปากแล้ว สีหน้าเยียบเย็น “เจ้าจะลงมือหรือไม่ พูดชัดๆ มาคำเดียวก็พอ”

ทันใดนั้นราชันอาภรณ์ดำนิ่งเงียบแล้ว

เนิ่นนานกว่าที่ถ้ำซึ่งปิดสนิทนั้นจะมีเสียงของเขาดังลอยออกมา “ไม่เกินสามเดือน ข้าจะต้องข้ามเคราะห์บรรลุอริยะแล้ว ถึงตอนนั้นข้าย่อมลงมือแน่นอน”

บรรลุอริยะ!

ทันใดนั้นในใจราชันอสูรมารทั้งกลุ่มต่างสั่นสะท้าน หน้าเปลี่ยนสีไปบ้าง มีทั้งอิจฉาชื่นชม และเคืองแค้นริษยา คล้ายกับทุกคนคิดไม่ถึงว่าราชันอาภรณ์ดำจะลอยลำตัดหน้าพวกเขาไปไกลโข จวนจะสัมผัสระดับอริยะอยู่รอมร่อแล้ว!

“สามเดือนหรือ”

มีราชันอสูรมารขมวดคิ้ว เพิ่งตั้งท่าจะพูดอะไรก็ถูกราชันผึ้งขาวตัดบท กล่าวว่า “ขอเพียงราชันอาภรณ์ดำเป็นอริยะ การฆ่าหลินสวินนั่นจะไม่ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือเลยหรือ”

กล่าวพลางราชันผึ้งขาวสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ทอดสายตามองไปทางถ้ำที่ปิดสนิทอยู่ไกลๆ นั้น กล่าวด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว “ดี พวกเราจะรออีกสามเดือนก็แล้วกัน!”

——

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 1400 สังหารตลอดทาง ใครจะขวางได้

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 1400 สังหารตลอดทาง ใครจะขวางได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตำหนักเฉียนหยวน

หลังจากจ้าวจิ่งเซวียนได้รู้ข่าวที่สัตว์อสูรมารยกทัพใหญ่เคลื่อนขบวน ก็บัญชาส่งไปทันที

มีเพียงประโยคเดียวว่า…

“ระดมกำลังทั้งหมดในจักรวรรดิ ฆ่า!”

เมื่อยิงธนูออกไปก็ไม่อาจเรียกคืนลูกธนูแล้ว หลักการข้อนี้นางเข้าใจดี

นางยิ่งรู้ดีว่าในเมื่อหลินสวินโจมตีกลับอย่างแข็งกร้าวเช่นนี้ ก็ย่อมไม่ทำให้นางผิดหวังอย่างแน่นอน

เมื่อมีคำสั่งนี้ประกาศลงไป บรรยากาศทั่วทั้งจักรวรรดิก็เริ่มเคร่งครัดขึ้น

ฟ้าแผ่ไอสังหาร ดาวเคลื่อนดาราคล้อย

ดินแผ่ไอสังหาร งูมังกรผงาด

มนุษย์แผ่ไอสังหาร ฟ้าดินแปรปรวน!

จักรวรรดิอันกว้างใหญ่ ทุกที่ล้วนมองเห็นกองทัพใหญ่ของจักรวรรดิที่รวมเป็นขบวนๆ โดยสารยานสมบัติหลาดรูปแบบปรากฏในอาณาเขตต่างๆ

ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนก็สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ พากันขันอาสาเข้าร่วมปฏิบัติการล่าสังหารสัตว์อสูรมาร

แม้แต่ขุมอำนาจทรงอิทธิพลในนครต้องห้ามเหล่านั้นก็เริ่มเคลื่อนกำลังพลเช่นกัน

หากจักรวรรดิพินาศ ไม่ว่าจะเป็นคนชั้นสูงทรงอำนาจหรือประชาชนคนทั่วไปที่ใช้ชีวิตรากหญ้า ล้วนมีจุดจบที่ไม่อาจหนีพ้น

เพราะฉะนั้นเมื่อทัพใหญ่สัตว์อสูรมารเริ่มบุกโจมตีอย่างดุเดือด จักรวรรดิก็เริ่มกรีธาทัพเต็มรูปแบบ ไม่ว่าใครต่างก็ไม่อาจนิ่งดูดาย

……

เมื่อได้รู้ข่าวพวกนี้ หลินสวินที่บอกลาพวกชีชานนานแล้วก็ออกจากมณฑลเยี่ยนเป่ยของจักรวรรดิ ปรากฏตัวอยู่ภายในมณฑลอวิ๋นกวงที่อยู่ใกล้ตอนเหนือมากกว่าเดิม

“เดรัจฉานชั่วพวกนี้คิดจะแก้แค้นด้วยการยกทัพใหญ่บุกอาณาเขตจักรวรรดิหรือ…”

นัยน์ตาดำของหลินสวินสะท้อนประกายเย็นเยียบ

“ดูเหมือนว่าข้ายังสังหารราชันอสูรมารไม่มากพอ!”

สวบ!

เงาร่างเขาหายลับไป

ไม่กี่ชั่วยามให้หลัง ภายในบึงยักษ์เขางูเหลือม มณฑลอวิ๋นกวง

ที่นี่เป็นถิ่นของราชันนิลดำ

“ฆ่า ระดมกำลังทั้งหมดไปฆ่าล้างเมือง เขาหลินสวินที่ตัวคนเดียวคิดจะช่วยทั้งจักรวรรดิหรือ เพ้อฝัน!”

กลางบึงยักษ์เขางูเหลือม ราชันนิลดำแผดเสียงตะโกนประหนึ่งฟ้าร้อง

ร่างเดิมของเขาเป็นวัวกระทิงหลังเทาตัวหนึ่ง นิสัยดิบเถื่อนและเผด็จการถึงที่สุด

“ฆ่า!” “ฆ่า!” “ฆ่า!”

สัตว์อสูรมารนับไม่ถ้วนอยู่รวมกันเป็นฝูงส่งเสียงคำราม คลื่นเสียงราวกับฟ้าระเบิดพลุ่งพล่าน สั่นสะเทือนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ทำให้คนหน้าเปลี่ยนสี

ทอดสายตามองไป ภายในบึงยักษ์เขางูเหลือมที่เหมือนทะเลสาบมหึมาแห่งหนึ่ง ทุกแห่งหนล้วนมีแต่นกปีศาจและสัตว์อสูรมารแน่นขนัดเบียดเสียด

ภาพเพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้คนหนังหัวชาหนึบแล้ว

“ไปกัน ล้างบางเผ่ามนุษย์ต่ำต้อยพวกนั้น มีแต่การฆ่าและคาวเลือดเท่านั้นถึงจะทำให้พวกมันหวาดกลัว ถึงจะทำให้พวกมันตระหนักได้ว่าตัวเองเล็กจ้อยและด้อยค่าแค่ไหน!”

ราชันนิลดำตะโกนลั่น

ฟึ่บ!

แต่ตอนที่เสียงเขาเพิ่งสิ้นสุด ปราณกระบี่สายหนึ่งก็โฉบเข้ามาจากขอบฟ้า เคลื่อนขวางตัดห้วงอากาศเข้ามา แล่นวาบแผ่วเบา

หัวของราชันนิลดำก็ลอยคว้างบนอากาศตามมาด้วย บนใบหน้าอัปลักษณ์ยังคงฉายแววเกรี้ยวกราดและตกตะลึง

ตูม!

ศพหัวขาดของเขาร่วงลงไปกลางบึงยักษ์ น้ำกระเด็นออกมาแถบหนึ่ง

ทัพใหญ่สัตว์อสูรมารที่เดิมที่ยังกู่ร้องแผดคำราม ขณะนี้ต่างหุบปากหน้าตาเหลอหลา ล้วนคิดไม่ถึงว่าราชันนิลดำที่เมื่อครู่ยังออกคำสั่งท่าทางดุเดือด เหตุใดพริบตาต่อมาถึงได้ตายเสียแล้ว…

บรรยากาศเงียบกริบ ไร้สรรพเสียง

บริเวณไกลโพ้น หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย แขนเสื้อโบกปลิว

สวบๆๆ!

ปราณกระบี่ไท่เสวียนเจ็ดร้อยยี่สิบสายโฉบออกไป เบียดแน่นราวกับกระแสน้ำเชี่ยว ไขว้ตัดกลางอากาศ วิวัฒน์เป็นค่ายกลกระบี่มหึมาอันหนึ่ง

ปราณกระบี่แต่ละสายต่างคมกริบสะท้านโลก ทำให้คนใจสะท้าน

จังหวะที่ค่ายกลใหญ่ก่อตัวเป็นรูปร่าง ปราณกระบี่เหล่านั้นกลับกลายเป็นเหมือนความว่างเปล่า อันตรธานหายลับไปจากห้วงอากาศอย่างสิ้นเชิง

ในระดับอมตะเคราะห์ สามารถเคี่ยวกรำค่ายกลกระบี่สามอย่างใน ‘คัมภีร์กระบี่ไท่เสวียน’ ได้

แบ่งออกเป็น ‘ค่ายกลกระบี่สังหารว่างเปล่า’ ‘ค่ายกลกระบี่สังหารพิฆาตนรก’ และ ‘ค่ายกลกระบี่สังหารรู้ตน’

ที่หลินสวินสำแดงในตอนนี้ก็คือค่ายกลกระบี่สังหารว่างเปล่า ประกอบขึ้นจากปราณกระบี่เจ็ดร้อยยี่สิบสาย เมื่อค่ายกลกระบี่ประกอบสำเร็จ ก็ฆ่าศัตรูได้อย่างไร้ร่องรอย!

‘ไป!’

เมื่อความคิดของหลินสวินขยับไหว

กลางบึงยักษ์เขางูเหลือม สัตว์อสูรมารนับไม่ถ้วนยังไม่ทันตอบสนองร่างก็ถูกฟันขาด ร่วงลงไปประหนึ่งหญ้าที่ถูกตัดถอน

เลือดสดๆ ราวกับน้ำทะเลสาบที่เดือดพล่าน ไม่นานก็ย้อมทั่วทั้งบึงยักษ์เขางูเหลือมให้เป็นสีแดงฉาน

ห่างเพียงสองวัน ในมณฑลอวิ๋นกวงของจักรวรรดิ ราชันนิลดำถูกตัดหัว ทัพใหญ่สัตว์อสูรมารใต้บัญชาถูกสังหาร เลือดย้อมบึงยักษ์!

ใต้หล้าสะท้านสะเทือนขึ้นมาอีกครั้ง

……

เพียงแต่ทุกอย่างนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น

นับตั้งแต่พริบตานั้นที่ย่างเท้าเคลื่อนตัวออกจากมณฑลซีหนานของจักรวรรดิ ก็กำหนดไว้แล้วว่าหลินสวินไม่อาจยั้งมือเพียงเท่านี้

หนำซ้ำจากสถานการณ์ในตอนนี้ของจักรวรรดิ ก็ไม่ยอมให้หลินสวินยั้งมือ

ห้าวันให้หลัง

มณฑลทางตะวันออกเฉียงเหนือของจักรวรรดิ

ทัพใหญ่สัตว์อสูรมาร ราชันมังกรดินที่ยกทัพบุกตีเมืองใหญ่แห่งหนึ่งถูกหลินสวินที่ร่วงลงมาจากฟ้าใช้ดาบหักฟันตาย ร่างสิ้นจิตสลาย

ทัพใหญ่สัตว์อสูรมารซึ่งมีเขาเป็นผู้นำทัพก็ขวัญกระเจิง ถูกกองทัพใหญ่ของจักรวรรดิที่มาทันเวลาไล่ล่าสังหาร เลือดนองเป็นสายธารตลอดทาง

เก้าวันให้หลัง

มณฑลเว่ยสุ่ยของจักรวรรดิ

ราชันแพะดำที่รู้ว่าหลินสวินบุกเข้ามาเลือกเผ่นหนีตั้งแต่จังหวะแรก แต่ถูกหลินสวินขวางไว้ ถลกเนื้อเถือหนังระหว่างทาง

วันนั้นหลินสวินใช้เนื้อราชันแพะดำเป็นรางวัลให้กับกองทัพใหญ่จักรวรรดิ

ว่ากันว่าในวันนั้นมีอาหารรสโอชามากมาย อย่างเนื้อแพะย่าง น้ำแกงแพะ ซี่โครงแพะเป็นต้น ไม่ว่าทหารจักรวรรดิคนไหนที่ได้ลิ้มรสชาติเลิศล้ำมื้อนี้ ต่างก็พากันบอกว่านี่คืออาหารเลิศรสที่สุดที่พวกเขาเคยกินมาในชีวิต เป็นมื้อที่สำราญใจที่สุดจนวาระสุดท้ายก็ยากจะลืมเลือน

สิบแปดวันให้หลัง

พื้นที่ทะเลทรายตะวันตกเฉียงเหนือของจักรวรรดิ ผ่านการค้นหามาเจ็ดแปดวัน หลินสวินก็สังหารราชันหลอมเพลิงที่ก้นทะเลทรายกว้างใหญ่ลงได้

ตอนนั้นแสงเพลิงสูงลิ่ว เสียงร้องโหยหวนสะเทือนฟ้า

พร้อมๆ กับเวลาที่เคลื่อนคล้อย เรื่องราวคล้ายคลึงกันก็บังเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน

และพร้อมๆ กับข่าวที่แพร่กระจายไป ทั่วทั้งจักรวรรดิล้วนตกอยู่ในความสั่นสะเทือนเนิ่นนาน

ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วน ทหารจักรวรรดินับไม่ถ้วน ประชาชนของจักรวรรดินับไม่ถ้วนต่างดีใจ ฮึกเหิม ตื่นเต้น ฮือฮา เดือดปะทุ…

จนกระทั่งต่อมา ดูเหมือนว่าเพราะตื่นตะลึงกันมากเกินไปแล้ว จึงค่อยๆ ชินชาขึ้นมา

ถึงขั้นที่ในระยะหนึ่งหากไม่มีใครได้ยินว่าราชันอสูรมารตนไหนถูกหลินสวินสังหาร กลับจะรู้สึกว่าออกจะผิดปกติ

นครต้องห้ามของจักรวรรดิ ตำหนักเฉียนหยวน

“รายงาน ในมณฑลเฮยสุ่ย ราชันเต่าเงินถูกสังหาร!”

มีข่าวรายงานเข้ามา ดังก้องทั่วตำหนัก

จ้าวจิ่งเซวียนที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทรงงานไม่ได้เงยหน้า กล่าวเพียงว่า “รู้แล้ว”

สองเดือนมาแล้ว

ในสองเดือนนี้ภายในอาณาเขตของจักรวรรดิ มีราชันอสูรมารราวๆ สิบสามตนที่ยึดครองพื้นที่แต่ละแห่งถูกหลินสวินบุกสังหาร ขุมอำนาจใต้บัญชาของพวกมันก็พังครืนไม่เป็นท่าตามไปด้วย

ในนั้นมีราชันอสูรมารชื่อสะท้านโลกเหมือนกับราชันหลอมเพลิง และก็มีราชันอสูรมารที่จิตใจโหดเหี้ยม ชื่อเสียงอำมหิตด้วยส่วนหนึ่ง

แรกเริ่มเดิมทีจ้าวจิ่งเซวียนก็ตกใจไม่สิ้นเช่นกัน

แต่ตอนนี้นางเองก็ชินแล้ว

สิ่งที่ทำให้จ้าวจิ่งเซวียนดีใจคือ สถานการณ์ของจักรวรรดิในตอนนี้กำลังดีขึ้นมาก มีข่าวดีรายงานเข้ามาเกือบทุกวัน

เมืองและอาณาเขตที่ถูกยึดครองส่วนหนึ่งก็ถูกยึดคืนมาอีกครั้ง!

กลับกัน ขุมอำนาจสัตว์อสูรมารแต่ละแห่งที่ยึดครองดินแดนของจักรวรรดิกลับตกอยู่ในอันตรายถึงขีดสุด พากันล่าถอย อำนาจตกต่ำไม่ยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อน

และการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงสองเดือนเท่านั้น!

“องค์หญิง กระบี่เดียวของคุณชายหลินเท่ากับคุณงามความชอบนับแสน คุณูปการยิ่งใหญ่เช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และไม่เคยได้ยินมาก่อนในอดีต กระหม่อมไม่ทราบจริงๆ ว่าควรตกรางวัลคุณชายหลินอย่างไร”

ขุนนางเฒ่าคนหนึ่งยิ้มเจื่อน

คนอื่นๆ ก็พากันทอดถอนใจไม่สิ้น

การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในจักรวรรดิช่วงสองเดือนนี้ เกิดขึ้นเพราะหลินสวินคนเดียวอย่างสิ้นเชิง หากคำนวณตามเหรียญกล้าหาญ เหรียญกล้าหาญที่เขาสะสมทั้งหมดคนเดียวล้วนเรียกได้ว่ามากมายมหาศาล!

“ตกรางวัล? ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง”

จ้าวจิ่งเซวียนอดหัวเราะไม่ได้ ปราณระดับหลินสวินไหนเลยจะยังมัวสนใจรางวัลอะไรนี่

เว้นเสียแต่มอบโอกาสให้เขาได้เป็นมกุฎอริยะ!

นึกถึงตรงนี้จู่ๆ จ้าวจิ่งเซวียนก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา กล่าวว่า “ข่าวเกี่ยวกับลู่ป๋อหยา พวกท่านรวบรวมไปถึงไหนกันแล้ว”

จากนั้นก็มีคนกล่าวตอบทันที “มีความคืบหน้ามากแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่เนื่องจากข้อมูลซับซ้อน เบาะแสเสะปะสะปะ จึงต้องเรียบเรียงใหม่ก่อน”

จ้าวจิ่งเซวียนพยักหน้ากล่าวว่า “ไม่ต้องรีบ ยิ่งสมบูรณ์ยิ่งดี”

จากนั้นนางก็กำชับ “แล้วก็ช่วยรวบรวมข่าวในตอนที่เสด็จพ่อเสด็จแม่ออกไปให้ข้าด้วย”

……

เขาวายุดำทางตอนใต้ของจักรวรรดิ

“ราชันอาภรณ์ดำ ข่าวช่วงสองเดือนมานี้เจ้าก็รู้หมด หากเจ้ายังไม่ออกหน้าไปจัดการหลินสวินนั่นอีก พวกเราอสูรมารก็จะย่อยยับกันหมดแล้ว!”

“ใต้เท้าบรรพจารย์อสูรมารเดือดดาลหาใดเปรียบ สั่งการลงมาแล้วว่าให้พวกเราร่วมมือกันไปบุกสังหารหลินสวินนั่น หรือเจ้าคิดขัดขืนคำสั่ง”

“ราชันอาภรณ์ดำ ถึงเวลาต้องตัดสินใจแล้ว!”

ในวันนี้ราชันอสูรมารกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ต่างหน้านิ่วคิ้วขมวด จับจ้องประตูใหญ่ของถ้ำสถิตที่ปิดสนิทซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปบานนั้น

ราชันอสูรมารเหล่านี้ ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่มีใครไม่ใช่พวกชื่อเสียงโด่งดัง อิทธิพลอยู่ในระดับแนวหน้า บางส่วนยิ่งสามารถไต่เต้าไปอยู่ในสิบอันดับพญาราชันอสูรมาร

อย่างเช่นราชันผึ้งขาว ราชันเถาวัลย์เพลิงเป็นต้น

แต่ยามนี้พวกเขาต่างวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด!

เป็นเพราะช่วงที่ผ่านมานี้หลินสวินสังหารราชันอสูรมารมากเกินไปจริงๆ ฆ่าจนทำให้พวกเขารับรู้ถึงความหวาดหวั่นสั่นสะท้าน ไม่อาจไม่มุ่งหน้ามาร้องขอความช่วยเหลือจากราชันอาภรณ์ดำที่เขาวายุดำ

คนอื่นอาจไม่รู้ชัด แต่พวกเขาย่อมรู้ดี ราชันอาภรณ์ดำเป็นศิษย์เบื้องท้ายที่บรรพจารย์อสูรมารรับไว้ ลึกลับและเก็บตัวอย่างที่สุด

หลายปีมานี้แทบจะโผล่หน้าออกมาน้อยครั้ง

แต่ความแข็งแกร่งในพลังของเขา กลับไม่มีใครกล้าตั้งข้อสงสัย!

“พวกเจ้า… เหตุใดต้องไปยั่วโทสะหลินสวินนั่นด้วย”

ในถ้ำที่ปิดสนิทนั้น เสียงถอนใจสายหนึ่งดังลอยออกมา

ราชันอสูรมารพวกนั้นต่างตะลึง จากนั้นก็ปั้นหน้าขรึม ล้วนคิดไม่ถึงว่าพวกเขาตรากตรำเฝ้ารอมานาน ที่รออยู่กลับเป็นประโยคเช่นนี้!

หมายความว่าอย่างไร

นี่กำลังโทษพวกเขาที่เป็นฝ่ายไปยั่วโทสะหลินสวินนั่นอยู่หรือ

“ราชันอาภรณ์ดำ อย่าบอกว่าเจ้ากลัวนะ”

ราชันอสูรมารตนหนึ่งเดือดดาลยกใหญ่ โพล่งเสียงเย็นชา

“ไม่ ข้าแค่บอกว่าพวกเจ้าโง่เกินไป ยั่วโทสะคนที่ไม่ควรยั่ว ผลสุดท้ายกลับได้แต่มาขอความช่วยเหลือจากข้า ไม่รู้สึกขายหน้ากันบ้างหรือ”

เสียงของราชันอาภรณ์ดำราบเรียบ ไม่ได้เจือความรู้สึกใดๆ

“พวกข้าไม่ได้มาฟังเจ้าเยาะเย้ยเสียหน่อย!”

ราชันผึ้งขาวเอ่ยปากแล้ว สีหน้าเยียบเย็น “เจ้าจะลงมือหรือไม่ พูดชัดๆ มาคำเดียวก็พอ”

ทันใดนั้นราชันอาภรณ์ดำนิ่งเงียบแล้ว

เนิ่นนานกว่าที่ถ้ำซึ่งปิดสนิทนั้นจะมีเสียงของเขาดังลอยออกมา “ไม่เกินสามเดือน ข้าจะต้องข้ามเคราะห์บรรลุอริยะแล้ว ถึงตอนนั้นข้าย่อมลงมือแน่นอน”

บรรลุอริยะ!

ทันใดนั้นในใจราชันอสูรมารทั้งกลุ่มต่างสั่นสะท้าน หน้าเปลี่ยนสีไปบ้าง มีทั้งอิจฉาชื่นชม และเคืองแค้นริษยา คล้ายกับทุกคนคิดไม่ถึงว่าราชันอาภรณ์ดำจะลอยลำตัดหน้าพวกเขาไปไกลโข จวนจะสัมผัสระดับอริยะอยู่รอมร่อแล้ว!

“สามเดือนหรือ”

มีราชันอสูรมารขมวดคิ้ว เพิ่งตั้งท่าจะพูดอะไรก็ถูกราชันผึ้งขาวตัดบท กล่าวว่า “ขอเพียงราชันอาภรณ์ดำเป็นอริยะ การฆ่าหลินสวินนั่นจะไม่ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือเลยหรือ”

กล่าวพลางราชันผึ้งขาวสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ทอดสายตามองไปทางถ้ำที่ปิดสนิทอยู่ไกลๆ นั้น กล่าวด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว “ดี พวกเราจะรออีกสามเดือนก็แล้วกัน!”

——

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+