Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 1500 แหล่งสมบัติหลอมจิต

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 1500 แหล่งสมบัติหลอมจิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อย่างตอนนี้ ด้วยประสบการณของหลินสวินยังไม่รู้แน่ชัดว่าสิ่งที่เด็กสาวชุดทหารเผ่างูมารทองคำรวบรวมเป็นของเช่นไร และมีประโยชน์อะไร

แต่ที่แน่ใจได้คือ สมบัติที่ถูกมกุฎราชันระดับอมตะเคราะห์ด่านแปดคนหนึ่งจับจ้อง ต้องไม่ธรรมดาสามัญแน่

สิ่งเดียวที่หลินสวินไม่เข้าใจก็คือ พลังปราณอย่างเด็กสาวชุดทหาร ตอนเก็บของเหลวสีทองเหล่านั้นกลับเหมือนมหาศัตรูจะมาเยือน ไม่กล้าชะล่าใจเลยสักนิด

หรือว่าต้นไม้โบราณนี้ยังมีอันตรายที่ไม่อาจคาดคิดได้อยู่

“จบงานได้แล้ว”

ไม่นานนักเด็กสาวชุดทหารก็ลุกขึ้น นางรวบรวมของเหลวสีทองได้ขวดหนึ่งเต็มๆ ตอนนี้จึงตัดสินใจจะจากไป

แต่ในตอนที่นางคิดจะก้าวเดิน ก็รู้สึกเพียงภาพตรงหน้าพร่ามัว

แย่แล้ว!

เด็กสาวชุดทหารหน้าเปลี่ยนสีทันที จะตอบโต้กลับไปตามสัญชาตญาณ

ทว่าไม่ทันรอให้นางเคลื่อนไหวก็ถูกมือใหญ่มือหนึ่งบีบคอไว้แน่น ผนึกพลังทั้งตัวนางเอาไว้ ทำให้ใบหน้านางม่วงคล้ำแทบจะหายใจไม่ออก

นางรู้สึกตกตะลึงในใจ ก็เห็นว่าเบื้องหน้ามีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ ดวงตาดำล้ำลึกทั้งสองข้างจ้องตนอย่างเฉยชา

ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณ!

ชั่วพริบตาเด็กสาวชุดทหารก็ชี้ชัดได้

แต่ที่ทำให้นางไม่เข้าใจก็คือ ดินแดนรกร้างโบราณแห่งนั้นล้าหลังและตกต่ำขนาดไหน เหตุใดถึงมีผู้แข็งแกร่งปานนี้ได้

“ข้าอยากรู้บางเรื่อง ข้าถามเจ้าตอบ”

หลินสวินเอ่ยปาก วาจาเรียบง่ายความหมายครบถ้วน “มิเช่นนั้น ตาย”

เด็กสาวชุดทหารสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ ครู่ใหญ่ถึงพยักหน้าอย่างยากลำบาก

“ที่นี่ที่ไหน”

“ป่าหลอมจิต”

“อยู่บริเวณไหนของสมรภูมิเก้าดินแดน”

“โลกมารโลหิต”

พอฟังมาถึงตรงนี้ในใจหลินสวินก็หนักอึ้ง ไม่ว่าคิดอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าทันทีที่ตนเข้ามาที่สมรภูมิเก้าดินแดน ก็ถูกเคลื่อนย้ายมาในอาณาเขตของดินแดนโบราณมารโลหิตเสียได้!

หลินสวินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถามอีกครั้งว่า “ที่นี่ไกลจาก ‘เมืองอารักษ์มรรค’ ของพวกเจ้าแค่ไหน”

“ห่างกันประมาณสามหมื่นลี้”

คำตอบของเด็กสาวชุดทหารทำให้หลินสวินลอบถอนหายใจ ก็ยังดี ป่าหลอมจิตแห่งนี้ยังไกลจากค่ายทัพที่ผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณมารโลหิตอยู่

“ที่นี่นอกจากเจ้ายังมีคนอื่นหรือไม่”

หลินสวินเอ่ยถาม

“ข้าไม่รู้”

เด็กสาวชุดทหารเพิ่งพูดจบ ก็รู้สึกเพียงว่ามือใหญ่ที่บีบคออยู่พลันออกแรง ความเจ็บปวดรุนแรงที่เกิดขึ้นทำเอานางยังจะร้องโหยหวนออกมาอย่างอดไม่ได้

แต่พออ้าปากออก กลับส่งเสียงใดออกมาไม่ได้!

สายตาของนางมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างแค้นเคือง ในใจลอบสาบานว่าหากคราวนี้มีโอกาสรอดชีวิต จะต้องหลอมกลืนกินวิญญาณของคนผู้นี้ให้ได้

“เจ้าจริงใจหน่อยจะดีที่สุด หาไม่ข้าก็ไม่ถือที่จะฆ่าเจ้าทันที”

หลินสวินพูดพลางถามคำถามเมื่อกี้อีกครั้งหนึ่ง

เด็กสาวชุดทหารสีหน้าอึมครึม “ข้าไม่รู้จริงๆ แต่ข้ารู้ว่าผู้แข็งแกร่งที่มาจากดินแดนโบราณมารโลหิตของข้า มีไม่น้อยที่มายังป่าหลอมจิต”

“เพราะอะไร”

“รวบรวบรวม ‘แหล่งสมบัติหลอมจิต’”

ประโยคเดียวทำให้หลินสวินใจสั่น พลันนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าคางคกเคยพูดไว้ว่า การที่ศาสตราราชันบริสุทธิ์จะเลื่อนขั้นเป็นสมบัติอริยะได้ มีเงื่อนไขเข้มงวดหาใดเทียบ

นอกจากจำเป็นต้องหลอมสมบัติวัตถุดิบจากธรรมชาตินานาชนิด หลอมรวมเข้าไปในศาสตราราชันบริสุทธิ์ ยังต้องดูที่วาสนาด้วย!

ในศาสตราชันบริสุทธิ์นับร้อยนับพันชิ้น ยังไม่เห็นชิ้นที่ให้กำเนิดศาสตราอริยะบริสุทธิ์ได้สักชิ้น

และยิ่งเป็นศาสตราราชันบริสุทธิ์ที่คุณลักษณะโดดเด่น ยามแปรสภาพเป็นศาสตราอริยะบริสุทธิ์ ความเสี่ยงที่จะประสบก็ยิ่งมาก ถูกทำลายได้ง่ายดายยิ่งนัก

นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมอริยะมากมายในดินแดนรกร้างโบราณถึงมีเพียงสมบัติอริยะ แต่ไม่มีศาสตราอริยะบริสุทธิ์

ควรรู้ว่าสมบัติอริยะกับศาสตราอริยะบริสุทธิ์ไม่เหมือนกัน

สมบัติอริยะสามารถหลอมออกมาโดยอริยะได้ แต่ศาสตราอริยะบริสุทธิ์แทบจะเป็นการแปรสภาพจากยอดศาสตรามรรคราชันของตนเองทั้งนั้น

คำว่าบริสุทธิ์ก็แทนความไม่ธรรมดาของสมบัติระดับนี้แล้ว

สามารถพูดอย่างไม่เกินเลยว่า ถ้าได้หลอมศาสตราอริยะบริสุทธิ์เข้ากับมรรควิถีของตนแล้ว ก็จะเป็นดั่งส่วนหนึ่งในเลือดเนื้อของผู้ฝึกปราณเอง อานุภาพย่อมไม่อาจเปรียบเทียบกับสมบัติอริยะชิ้นอื่นได้

แต่หากได้ครอบครอง ‘แหล่งสมบัติหลอมจิต’ จะสามารถเพิ่มโอกาสสำเร็จตอนศาสตราราชันบริสุทธิ์แปรสภาพเป็นศาตราอริยะให้สูงขึ้นมาก!

อีกทั้งยิ่งมีแหล่งสมบัติหลอมจิตมากเท่าไร ความเป็นไปได้ที่ศาสตราราชันบริสุทธิ์จะแปรสภาพได้สมบูรณ์ก็จะมากยิ่งขึ้น!

น่าเสียดายที่ในดินแดนรกร้างโบราณ แหล่งสมบัติหลอมจิตนี้ ต่อให้อยู่ในยุคบรรพกาลก็เป็นสมบัติล้ำค่าหาใดเทียบ หายากเสียยิ่งกว่าศาสตราอริยะบริสุทธิ์ บังเอิญพบเจอได้แต่ไม่อาจร้องขอ

และในดินแดนรกร้างโบราณในปัจจุบันแทบหาแหล่งสมบัติหลอมจิตไม่ได้แล้ว

หลินสวินกลับคิดไม่ถึงว่าในป่าหลอมจิตอันพิสดารแห่งนี้จะยังหาสิ่งนี้พบ!

นี่ทำให้เขาใจเต้นระส่ำ

ก็ในตอนนี้เองเด็กสาวชุดทหารที่ถูกเขาบีบคอไว้ จู่ๆ ในนัยน์ตาสีน้ำตาลแปลกประหลาดก็ปรากฏเงาแสงมายาสีทองเจิดจ้าแถบหนึ่ง กวาดสายตามองมายังหลินสวิน

วิชาเนตรสังหารวิญญาณ!

อภินิหารพรสวรรค์ของเผ่างูมารทองคำ

สาเหตุที่พวกเขาถูกเรียกว่า ‘ผู้กระหายวิญญาณ’ ก็อยู่ที่อภินิหารพรสวรรค์วิชานี้ ถ้าใช้อานุภาพของมันกับจิตวิญญาณตรงๆ จะทำให้ผู้อื่นตั้งตัวไม่ทัน

และเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวชุดทหารผู้นี้ไม่ใช่คนที่ต่อกรได้ง่าย ชั่วขณะหลังจากถูกสยบก็ไม่ได้เลือกใช้วิชานี้ทันทีทันใด แต่กลับรอจังหวะที่จิตใจของหลินสวินวอกแวกเล็กน้อยถึงค่อยลงมือ เห็นได้ว่าความคิดของนางเจ้าเล่ห์ร้ายกาจปานไหน

หลินสวินไม่ได้สกัดกั้นไว้จริงๆ นี่ทำให้เด็กสาวชุดทหารยินดีปรีดาอยู่ในใจ

แต่ครู่ต่อมานางก็ชะงักไป

เพราะแววตาหลินสวินเย็นชาลุ่มลึกและสงบนิ่ง ราวกับไม่รู้สึกแปลกไปสักนิด และไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

อภินิหารพรสวรรค์ที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยติดขัดดันเสื่อมฤทธิ์เสียแล้ว!

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร

เด็กสาวชุดทหารตาเบิกกว้าง จิตใจหนาวยะเยือก นางเพิ่งเคยพบเรื่องประหลาดเช่นนี้เป็นครั้งแรก

กร๊อบ!

และก็ในตอนนี้เอง หลินสวินออกแรงที่นิ้วมือบีบคอเด็กสาวผู้นี้ให้แหลกสลาย ขจัดจิตวิญญาณโดยสมบูรณ์

ก่อนตายสีหน้าของนางเจือไปด้วยความไม่เข้าใจ

ที่น่าเสียดายก็คือ หลินสวินไม่มีทางบอกนางว่ามีราชันหนอนกินเทพระดับอมตะเคราะห์ที่บรรลุขอบเขตมกุฎมานานแล้วตัวหนึ่ง คอยดูแลอยู่ในห้วงนิมิตของเขาตลอด

การจู่โจมทางจิตวิญญาณแบบไหนก็ย่อมดูน่าขันทั้งนั้น

“ทำเป็นอวดฉลาด”

หลินสวินถอนใจเบาๆ

เดิมเขายังมีเรื่องอยากถามมากกว่านี้หน่อย แต่ก็รู้ว่าหลังจากเด็กสาวชุดทหารคนนี้ลงมือล้มเหลวแล้ว ย่อมไม่มีทางให้ความร่วมมือเหมือนก่อนหน้านี้ จึงสังหารนางไปโดยไม่ลังเล

ต่อมาหลินสวินก็ตักตวงทรัพย์หลังศึกมาอย่างว่องไว

ดาบกระดูกขาวเล่มหนึ่ง ขวดหยกมันแพะขวดหนึ่ง ป้ายคำสั่งแทนตัวตนของเด็กสาวชุดทหารป้ายหนึ่ง กับต่างหูเก็บของสีเงินอ่อนวงหนึ่ง

ดาบกระดูกขาวเป็นสมบัติอริยะ คมหาใดเทียบ แต่ไม่ถือว่าล้ำค่ามากมาย ส่วนในขวดหยกมันแพะเปี่ยมไปด้วยแหล่งสมบัติหลอมจิตสีทอง

ในต่างหูเก็บของสีเงินอ่อนมีสิ่งของยิบย่อยอย่างแกนวิญญาณเจตะที่จำเป็นต่อการฝึกฝน เจตวัตถุ และลูกกลอนโอสถกองอยู่

ส่วนบนป้ายคำสั่งสลักคำว่า ‘มารโลหิต’ ไว้ ภายในมีกลิ่นอายเจตจำนงของผู้หญิงคนนี้

หลินสวินสัมผัสเพียงเล็กน้อยก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อเสอเจิน เป็นลูกหลานสายตรงของเผ่างูมารทองคำผู้หนึ่ง

ภายในป้ายคำสั่งยังเก็บสะสม ‘ผลงานรบ’ ชิ้นหนึ่ง เป็นสิ่งที่เสอเจินได้มาหลังจากสังหารผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่งไป

นี่ทำให้นัยน์ตาดำหลินสวินหดเกร็ง

ยกนิ้วขึ้นมานับ ตั้งแต่เขาเข้ามาในสมรภูมิเก้าดินแดนจวบจนตอนนี้ยังผ่านไปไม่ถึงสองชั่วยาม

แต่เสอเจินคนนี้ดันสังหารผู้แข็งแกร่งจากแดนรกร้างไปแล้วหนึ่งคน!

‘ดูท่า ไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียวที่ถูกเคลื่อนย้ายมาถึงบริเวณที่ผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณมารโลหิตนี้ยึดครอง…’

หลินสวินครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วก็ส่ายหน้า

ซ่า!

พอเขากวาดปลายนิ้วไป เปลวเพลิงริ้วหนึ่งก็เคลื่อนออกมาแผดเผาร่างของเสอเจินให้กลายเป็นเถ้าธุลีหายลับไปโดยสมบูรณ์

ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกได้ว่าในป้ายคำสั่งรกร้างโบราณของตนมีผลงานรบเพิ่มมาจุดหนึ่ง ตีตรากลิ่นอายของเสอเจินเอาไว้

แต่ในป้ายคำสั่งเซียนเหินสองชิ้นกลับไม่มีการเคลื่อนไหวสักนิด ยังคงว่างเปล่าดังเดิม

‘ที่แม่นางอาหูพูดถูกต้องดังคาด คิดจะเก็บเกี่ยวชะตามรรคผลงานรบ มีเพียงสังหารบุคคลระดับผู้กล้าที่โดดเด่นสะดุดตา พลังต่อสู้เลิศล้ำ หรือไม่ก็พวกที่บรรลุอริยะเหล่านั้น คนอื่นไม่มีชะตามรรคผลงานรบเลย…’

อย่างเสอเจินคนนี้ ก็ถือเป็นบุคคลขอบเขตมกุฎที่บรรลุระดับอมตะเคราะห์ด่านแปดคนหนึ่ง แต่กลับไม่มีชะตามรรคผลงานรบเสียอย่างนั้น

เพียงคิดก็รู้ว่าหากต้องการรวบรวมชะตามรรคผลงานรบพันชิ้นเพื่อกระตุ้นพลังในป้ายคำสั่งเซียนเหินชิ้นหนึ่ง เป็นเรื่องยากลำบากปานไหน

แต่หลินสวินก็ไม่รีบร้อน สมรภูมิเก้าดินแดนเพิ่งเปิดม่าน ขอเพียงมีชีวิตอยู่ ภายหน้าก็มีโอกาสไปล่าศัตรูที่เงื่อนไขครบได้

ฟึ่บ!

หลินสวินไม่ร่ำไร เงาร่างไหววูบและออกไปจากที่นี่

“เร็วเข้า ทางนี้ เมื่อกี้มีคลื่นพลังลอยมา!”

ตอนที่หลินสวินเพิ่งจากมา เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นในส่วนลึกของป่าดำมืดแห่งนั้น

จากนั้นเงาร่างทั้งชายและหญิงกลิ่นอายแข็งแกร่งถึงที่สุดกลุ่มหนึ่งเคลื่อนออกมา มีทั้งหมดเจ็ดคน

ที่นำหน้าเป็นชายวัยกลางคนชุดเทาที่มีหางงูทองคำ ผมเผ้าเคราหนวดราวน้ำหมึก ทั้งกายแผ่กลิ่นอายของระดับอริยะ

หลังจากคนทั้งกลุ่มมาถึงที่นี่ ชายวัยกลางคนชุดเทาผู้นั้นสังเกตเล็กน้อยก็สีหน้าถมึงทึง ในดวงตามีแววเย็นชาน่าตกใจไหลทะลักออกมา

“เสอเจินถูกฆ่าแล้ว!”

ชายชุดเทาเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ จิตสังหารโอบล้อมไปทั้งกาย

แต่พอเขาเห็นต้นไม้โบราณที่เหมือนกับหล่อขึ้นจากของเหลวสำริดที่อยู่ใกล้เคียงต้นนั้น พลันเผยสีหน้าหวาดหวั่น เก็บงำกลิ่นอายของตนทันใด ไม่กล้าไปแตะต้องเข้าใกล้ต้นไม้โบราณต้นนั้น

“น่าชังนัก!”

เบื้องหลังชายวัยกลางคนชุดเทา ชายหญิงเหล่านั้นต่างสีหน้าถมึงทึง

“ไม่ว่าเป็นใคร กล้าฆ่าคนในเผ่างูมารทองคำของพวกเราก็จะต้องตาย!”

มีคนกัดฟันเค้นเขี้ยว

“เสอเจินเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเสอหลินบุตรเทพเผ่าเรา ถ้าให้เขารู้เรื่องนี้เข้าต้องโมโหเดือดดาลแน่”

มีคนหน้าเปลี่ยนสี

“เรื่องนี้อย่าเพิ่งบอกเสอหลิน เขาไปรวมตัวกับเหล่าผู้โดดเด่นแห่งยุคจากดินแดนโบราณมารโลหิตที่เมืองอารักษ์มรรคแล้ว ทันทีที่เขารู้เรื่องนี้ จะต้องกลายเป็นตัวถ่วงให้เรื่องใหญ่ที่เขาแบกไว้อยู่แน่!”

ชายวัยกลางคนสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือไปจับตัวฆาตกรมาให้ได้ก่อน!”

“ผู้อาวุโสเสอเฟิง ข้ากล้ามั่นใจว่าฆาตกรต้องยังอยู่ในป่าหลอมจิตแห่งนี้!”

ชายหนุ่มคนหนึ่งสีหน้าเย็นเยียบ เมื่อกี้เขาสังเกตดูบริเวณใกล้เคียง พบร่องรอยการต่อสู้บางอย่าง จึงตัดสินออกมาเช่นนี้

“แต่ว่าป่าหลอมจิตมีอันตรายมากมาย ทั้งยังกว้างขวางถึงที่สุดด้วย หากศัตรูซุกซ่อนอยู่ภายในนี้ คิดจะจับเขาออกมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร”

มีคนนิ่วหน้า “ที่น่ากลัวที่สุดก็คือฆาตกรคนนี้เจ้าเล่ห์นัก ในบริเวณใกล้เคียงไม่หลงเหลือกลิ่นอายใดๆ ของเขาเลย”

ประโยคเดียวทำให้ในใจคนอื่นๆ หนักอึ้ง รับรู้ได้ว่าฆาตกรคราวนี้ไม่ใช่คนที่ต่อกรได้ง่ายๆ!

แค่ความสามารถในการกลบร่องรอยยังไม่ธรรมดาสามัญ

ชายวัยกลางคนชุดเทาที่ถูกเรียกขานว่าเสอเฟิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วกัดฟันพูดว่า “พวกเราออกเคลื่อนไหวก่อน ถ้าสุดท้ายไม่ไหวจริงๆ… เช่นนั้นก็ไปขอความช่วยเหลือจากสหายเผ่า ‘ผึ้งมารลายดำ’!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 1500 แหล่งสมบัติหลอมจิต

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 1500 แหล่งสมบัติหลอมจิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อย่างตอนนี้ ด้วยประสบการณของหลินสวินยังไม่รู้แน่ชัดว่าสิ่งที่เด็กสาวชุดทหารเผ่างูมารทองคำรวบรวมเป็นของเช่นไร และมีประโยชน์อะไร

แต่ที่แน่ใจได้คือ สมบัติที่ถูกมกุฎราชันระดับอมตะเคราะห์ด่านแปดคนหนึ่งจับจ้อง ต้องไม่ธรรมดาสามัญแน่

สิ่งเดียวที่หลินสวินไม่เข้าใจก็คือ พลังปราณอย่างเด็กสาวชุดทหาร ตอนเก็บของเหลวสีทองเหล่านั้นกลับเหมือนมหาศัตรูจะมาเยือน ไม่กล้าชะล่าใจเลยสักนิด

หรือว่าต้นไม้โบราณนี้ยังมีอันตรายที่ไม่อาจคาดคิดได้อยู่

“จบงานได้แล้ว”

ไม่นานนักเด็กสาวชุดทหารก็ลุกขึ้น นางรวบรวมของเหลวสีทองได้ขวดหนึ่งเต็มๆ ตอนนี้จึงตัดสินใจจะจากไป

แต่ในตอนที่นางคิดจะก้าวเดิน ก็รู้สึกเพียงภาพตรงหน้าพร่ามัว

แย่แล้ว!

เด็กสาวชุดทหารหน้าเปลี่ยนสีทันที จะตอบโต้กลับไปตามสัญชาตญาณ

ทว่าไม่ทันรอให้นางเคลื่อนไหวก็ถูกมือใหญ่มือหนึ่งบีบคอไว้แน่น ผนึกพลังทั้งตัวนางเอาไว้ ทำให้ใบหน้านางม่วงคล้ำแทบจะหายใจไม่ออก

นางรู้สึกตกตะลึงในใจ ก็เห็นว่าเบื้องหน้ามีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ ดวงตาดำล้ำลึกทั้งสองข้างจ้องตนอย่างเฉยชา

ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณ!

ชั่วพริบตาเด็กสาวชุดทหารก็ชี้ชัดได้

แต่ที่ทำให้นางไม่เข้าใจก็คือ ดินแดนรกร้างโบราณแห่งนั้นล้าหลังและตกต่ำขนาดไหน เหตุใดถึงมีผู้แข็งแกร่งปานนี้ได้

“ข้าอยากรู้บางเรื่อง ข้าถามเจ้าตอบ”

หลินสวินเอ่ยปาก วาจาเรียบง่ายความหมายครบถ้วน “มิเช่นนั้น ตาย”

เด็กสาวชุดทหารสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ ครู่ใหญ่ถึงพยักหน้าอย่างยากลำบาก

“ที่นี่ที่ไหน”

“ป่าหลอมจิต”

“อยู่บริเวณไหนของสมรภูมิเก้าดินแดน”

“โลกมารโลหิต”

พอฟังมาถึงตรงนี้ในใจหลินสวินก็หนักอึ้ง ไม่ว่าคิดอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าทันทีที่ตนเข้ามาที่สมรภูมิเก้าดินแดน ก็ถูกเคลื่อนย้ายมาในอาณาเขตของดินแดนโบราณมารโลหิตเสียได้!

หลินสวินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถามอีกครั้งว่า “ที่นี่ไกลจาก ‘เมืองอารักษ์มรรค’ ของพวกเจ้าแค่ไหน”

“ห่างกันประมาณสามหมื่นลี้”

คำตอบของเด็กสาวชุดทหารทำให้หลินสวินลอบถอนหายใจ ก็ยังดี ป่าหลอมจิตแห่งนี้ยังไกลจากค่ายทัพที่ผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณมารโลหิตอยู่

“ที่นี่นอกจากเจ้ายังมีคนอื่นหรือไม่”

หลินสวินเอ่ยถาม

“ข้าไม่รู้”

เด็กสาวชุดทหารเพิ่งพูดจบ ก็รู้สึกเพียงว่ามือใหญ่ที่บีบคออยู่พลันออกแรง ความเจ็บปวดรุนแรงที่เกิดขึ้นทำเอานางยังจะร้องโหยหวนออกมาอย่างอดไม่ได้

แต่พออ้าปากออก กลับส่งเสียงใดออกมาไม่ได้!

สายตาของนางมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างแค้นเคือง ในใจลอบสาบานว่าหากคราวนี้มีโอกาสรอดชีวิต จะต้องหลอมกลืนกินวิญญาณของคนผู้นี้ให้ได้

“เจ้าจริงใจหน่อยจะดีที่สุด หาไม่ข้าก็ไม่ถือที่จะฆ่าเจ้าทันที”

หลินสวินพูดพลางถามคำถามเมื่อกี้อีกครั้งหนึ่ง

เด็กสาวชุดทหารสีหน้าอึมครึม “ข้าไม่รู้จริงๆ แต่ข้ารู้ว่าผู้แข็งแกร่งที่มาจากดินแดนโบราณมารโลหิตของข้า มีไม่น้อยที่มายังป่าหลอมจิต”

“เพราะอะไร”

“รวบรวบรวม ‘แหล่งสมบัติหลอมจิต’”

ประโยคเดียวทำให้หลินสวินใจสั่น พลันนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าคางคกเคยพูดไว้ว่า การที่ศาสตราราชันบริสุทธิ์จะเลื่อนขั้นเป็นสมบัติอริยะได้ มีเงื่อนไขเข้มงวดหาใดเทียบ

นอกจากจำเป็นต้องหลอมสมบัติวัตถุดิบจากธรรมชาตินานาชนิด หลอมรวมเข้าไปในศาสตราราชันบริสุทธิ์ ยังต้องดูที่วาสนาด้วย!

ในศาสตราชันบริสุทธิ์นับร้อยนับพันชิ้น ยังไม่เห็นชิ้นที่ให้กำเนิดศาสตราอริยะบริสุทธิ์ได้สักชิ้น

และยิ่งเป็นศาสตราราชันบริสุทธิ์ที่คุณลักษณะโดดเด่น ยามแปรสภาพเป็นศาสตราอริยะบริสุทธิ์ ความเสี่ยงที่จะประสบก็ยิ่งมาก ถูกทำลายได้ง่ายดายยิ่งนัก

นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมอริยะมากมายในดินแดนรกร้างโบราณถึงมีเพียงสมบัติอริยะ แต่ไม่มีศาสตราอริยะบริสุทธิ์

ควรรู้ว่าสมบัติอริยะกับศาสตราอริยะบริสุทธิ์ไม่เหมือนกัน

สมบัติอริยะสามารถหลอมออกมาโดยอริยะได้ แต่ศาสตราอริยะบริสุทธิ์แทบจะเป็นการแปรสภาพจากยอดศาสตรามรรคราชันของตนเองทั้งนั้น

คำว่าบริสุทธิ์ก็แทนความไม่ธรรมดาของสมบัติระดับนี้แล้ว

สามารถพูดอย่างไม่เกินเลยว่า ถ้าได้หลอมศาสตราอริยะบริสุทธิ์เข้ากับมรรควิถีของตนแล้ว ก็จะเป็นดั่งส่วนหนึ่งในเลือดเนื้อของผู้ฝึกปราณเอง อานุภาพย่อมไม่อาจเปรียบเทียบกับสมบัติอริยะชิ้นอื่นได้

แต่หากได้ครอบครอง ‘แหล่งสมบัติหลอมจิต’ จะสามารถเพิ่มโอกาสสำเร็จตอนศาสตราราชันบริสุทธิ์แปรสภาพเป็นศาตราอริยะให้สูงขึ้นมาก!

อีกทั้งยิ่งมีแหล่งสมบัติหลอมจิตมากเท่าไร ความเป็นไปได้ที่ศาสตราราชันบริสุทธิ์จะแปรสภาพได้สมบูรณ์ก็จะมากยิ่งขึ้น!

น่าเสียดายที่ในดินแดนรกร้างโบราณ แหล่งสมบัติหลอมจิตนี้ ต่อให้อยู่ในยุคบรรพกาลก็เป็นสมบัติล้ำค่าหาใดเทียบ หายากเสียยิ่งกว่าศาสตราอริยะบริสุทธิ์ บังเอิญพบเจอได้แต่ไม่อาจร้องขอ

และในดินแดนรกร้างโบราณในปัจจุบันแทบหาแหล่งสมบัติหลอมจิตไม่ได้แล้ว

หลินสวินกลับคิดไม่ถึงว่าในป่าหลอมจิตอันพิสดารแห่งนี้จะยังหาสิ่งนี้พบ!

นี่ทำให้เขาใจเต้นระส่ำ

ก็ในตอนนี้เองเด็กสาวชุดทหารที่ถูกเขาบีบคอไว้ จู่ๆ ในนัยน์ตาสีน้ำตาลแปลกประหลาดก็ปรากฏเงาแสงมายาสีทองเจิดจ้าแถบหนึ่ง กวาดสายตามองมายังหลินสวิน

วิชาเนตรสังหารวิญญาณ!

อภินิหารพรสวรรค์ของเผ่างูมารทองคำ

สาเหตุที่พวกเขาถูกเรียกว่า ‘ผู้กระหายวิญญาณ’ ก็อยู่ที่อภินิหารพรสวรรค์วิชานี้ ถ้าใช้อานุภาพของมันกับจิตวิญญาณตรงๆ จะทำให้ผู้อื่นตั้งตัวไม่ทัน

และเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวชุดทหารผู้นี้ไม่ใช่คนที่ต่อกรได้ง่าย ชั่วขณะหลังจากถูกสยบก็ไม่ได้เลือกใช้วิชานี้ทันทีทันใด แต่กลับรอจังหวะที่จิตใจของหลินสวินวอกแวกเล็กน้อยถึงค่อยลงมือ เห็นได้ว่าความคิดของนางเจ้าเล่ห์ร้ายกาจปานไหน

หลินสวินไม่ได้สกัดกั้นไว้จริงๆ นี่ทำให้เด็กสาวชุดทหารยินดีปรีดาอยู่ในใจ

แต่ครู่ต่อมานางก็ชะงักไป

เพราะแววตาหลินสวินเย็นชาลุ่มลึกและสงบนิ่ง ราวกับไม่รู้สึกแปลกไปสักนิด และไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

อภินิหารพรสวรรค์ที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยติดขัดดันเสื่อมฤทธิ์เสียแล้ว!

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร

เด็กสาวชุดทหารตาเบิกกว้าง จิตใจหนาวยะเยือก นางเพิ่งเคยพบเรื่องประหลาดเช่นนี้เป็นครั้งแรก

กร๊อบ!

และก็ในตอนนี้เอง หลินสวินออกแรงที่นิ้วมือบีบคอเด็กสาวผู้นี้ให้แหลกสลาย ขจัดจิตวิญญาณโดยสมบูรณ์

ก่อนตายสีหน้าของนางเจือไปด้วยความไม่เข้าใจ

ที่น่าเสียดายก็คือ หลินสวินไม่มีทางบอกนางว่ามีราชันหนอนกินเทพระดับอมตะเคราะห์ที่บรรลุขอบเขตมกุฎมานานแล้วตัวหนึ่ง คอยดูแลอยู่ในห้วงนิมิตของเขาตลอด

การจู่โจมทางจิตวิญญาณแบบไหนก็ย่อมดูน่าขันทั้งนั้น

“ทำเป็นอวดฉลาด”

หลินสวินถอนใจเบาๆ

เดิมเขายังมีเรื่องอยากถามมากกว่านี้หน่อย แต่ก็รู้ว่าหลังจากเด็กสาวชุดทหารคนนี้ลงมือล้มเหลวแล้ว ย่อมไม่มีทางให้ความร่วมมือเหมือนก่อนหน้านี้ จึงสังหารนางไปโดยไม่ลังเล

ต่อมาหลินสวินก็ตักตวงทรัพย์หลังศึกมาอย่างว่องไว

ดาบกระดูกขาวเล่มหนึ่ง ขวดหยกมันแพะขวดหนึ่ง ป้ายคำสั่งแทนตัวตนของเด็กสาวชุดทหารป้ายหนึ่ง กับต่างหูเก็บของสีเงินอ่อนวงหนึ่ง

ดาบกระดูกขาวเป็นสมบัติอริยะ คมหาใดเทียบ แต่ไม่ถือว่าล้ำค่ามากมาย ส่วนในขวดหยกมันแพะเปี่ยมไปด้วยแหล่งสมบัติหลอมจิตสีทอง

ในต่างหูเก็บของสีเงินอ่อนมีสิ่งของยิบย่อยอย่างแกนวิญญาณเจตะที่จำเป็นต่อการฝึกฝน เจตวัตถุ และลูกกลอนโอสถกองอยู่

ส่วนบนป้ายคำสั่งสลักคำว่า ‘มารโลหิต’ ไว้ ภายในมีกลิ่นอายเจตจำนงของผู้หญิงคนนี้

หลินสวินสัมผัสเพียงเล็กน้อยก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ชื่อเสอเจิน เป็นลูกหลานสายตรงของเผ่างูมารทองคำผู้หนึ่ง

ภายในป้ายคำสั่งยังเก็บสะสม ‘ผลงานรบ’ ชิ้นหนึ่ง เป็นสิ่งที่เสอเจินได้มาหลังจากสังหารผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณคนหนึ่งไป

นี่ทำให้นัยน์ตาดำหลินสวินหดเกร็ง

ยกนิ้วขึ้นมานับ ตั้งแต่เขาเข้ามาในสมรภูมิเก้าดินแดนจวบจนตอนนี้ยังผ่านไปไม่ถึงสองชั่วยาม

แต่เสอเจินคนนี้ดันสังหารผู้แข็งแกร่งจากแดนรกร้างไปแล้วหนึ่งคน!

‘ดูท่า ไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียวที่ถูกเคลื่อนย้ายมาถึงบริเวณที่ผู้แข็งแกร่งดินแดนโบราณมารโลหิตนี้ยึดครอง…’

หลินสวินครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วก็ส่ายหน้า

ซ่า!

พอเขากวาดปลายนิ้วไป เปลวเพลิงริ้วหนึ่งก็เคลื่อนออกมาแผดเผาร่างของเสอเจินให้กลายเป็นเถ้าธุลีหายลับไปโดยสมบูรณ์

ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกได้ว่าในป้ายคำสั่งรกร้างโบราณของตนมีผลงานรบเพิ่มมาจุดหนึ่ง ตีตรากลิ่นอายของเสอเจินเอาไว้

แต่ในป้ายคำสั่งเซียนเหินสองชิ้นกลับไม่มีการเคลื่อนไหวสักนิด ยังคงว่างเปล่าดังเดิม

‘ที่แม่นางอาหูพูดถูกต้องดังคาด คิดจะเก็บเกี่ยวชะตามรรคผลงานรบ มีเพียงสังหารบุคคลระดับผู้กล้าที่โดดเด่นสะดุดตา พลังต่อสู้เลิศล้ำ หรือไม่ก็พวกที่บรรลุอริยะเหล่านั้น คนอื่นไม่มีชะตามรรคผลงานรบเลย…’

อย่างเสอเจินคนนี้ ก็ถือเป็นบุคคลขอบเขตมกุฎที่บรรลุระดับอมตะเคราะห์ด่านแปดคนหนึ่ง แต่กลับไม่มีชะตามรรคผลงานรบเสียอย่างนั้น

เพียงคิดก็รู้ว่าหากต้องการรวบรวมชะตามรรคผลงานรบพันชิ้นเพื่อกระตุ้นพลังในป้ายคำสั่งเซียนเหินชิ้นหนึ่ง เป็นเรื่องยากลำบากปานไหน

แต่หลินสวินก็ไม่รีบร้อน สมรภูมิเก้าดินแดนเพิ่งเปิดม่าน ขอเพียงมีชีวิตอยู่ ภายหน้าก็มีโอกาสไปล่าศัตรูที่เงื่อนไขครบได้

ฟึ่บ!

หลินสวินไม่ร่ำไร เงาร่างไหววูบและออกไปจากที่นี่

“เร็วเข้า ทางนี้ เมื่อกี้มีคลื่นพลังลอยมา!”

ตอนที่หลินสวินเพิ่งจากมา เสียงหนึ่งพลันดังขึ้นในส่วนลึกของป่าดำมืดแห่งนั้น

จากนั้นเงาร่างทั้งชายและหญิงกลิ่นอายแข็งแกร่งถึงที่สุดกลุ่มหนึ่งเคลื่อนออกมา มีทั้งหมดเจ็ดคน

ที่นำหน้าเป็นชายวัยกลางคนชุดเทาที่มีหางงูทองคำ ผมเผ้าเคราหนวดราวน้ำหมึก ทั้งกายแผ่กลิ่นอายของระดับอริยะ

หลังจากคนทั้งกลุ่มมาถึงที่นี่ ชายวัยกลางคนชุดเทาผู้นั้นสังเกตเล็กน้อยก็สีหน้าถมึงทึง ในดวงตามีแววเย็นชาน่าตกใจไหลทะลักออกมา

“เสอเจินถูกฆ่าแล้ว!”

ชายชุดเทาเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ จิตสังหารโอบล้อมไปทั้งกาย

แต่พอเขาเห็นต้นไม้โบราณที่เหมือนกับหล่อขึ้นจากของเหลวสำริดที่อยู่ใกล้เคียงต้นนั้น พลันเผยสีหน้าหวาดหวั่น เก็บงำกลิ่นอายของตนทันใด ไม่กล้าไปแตะต้องเข้าใกล้ต้นไม้โบราณต้นนั้น

“น่าชังนัก!”

เบื้องหลังชายวัยกลางคนชุดเทา ชายหญิงเหล่านั้นต่างสีหน้าถมึงทึง

“ไม่ว่าเป็นใคร กล้าฆ่าคนในเผ่างูมารทองคำของพวกเราก็จะต้องตาย!”

มีคนกัดฟันเค้นเขี้ยว

“เสอเจินเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเสอหลินบุตรเทพเผ่าเรา ถ้าให้เขารู้เรื่องนี้เข้าต้องโมโหเดือดดาลแน่”

มีคนหน้าเปลี่ยนสี

“เรื่องนี้อย่าเพิ่งบอกเสอหลิน เขาไปรวมตัวกับเหล่าผู้โดดเด่นแห่งยุคจากดินแดนโบราณมารโลหิตที่เมืองอารักษ์มรรคแล้ว ทันทีที่เขารู้เรื่องนี้ จะต้องกลายเป็นตัวถ่วงให้เรื่องใหญ่ที่เขาแบกไว้อยู่แน่!”

ชายวัยกลางคนสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือไปจับตัวฆาตกรมาให้ได้ก่อน!”

“ผู้อาวุโสเสอเฟิง ข้ากล้ามั่นใจว่าฆาตกรต้องยังอยู่ในป่าหลอมจิตแห่งนี้!”

ชายหนุ่มคนหนึ่งสีหน้าเย็นเยียบ เมื่อกี้เขาสังเกตดูบริเวณใกล้เคียง พบร่องรอยการต่อสู้บางอย่าง จึงตัดสินออกมาเช่นนี้

“แต่ว่าป่าหลอมจิตมีอันตรายมากมาย ทั้งยังกว้างขวางถึงที่สุดด้วย หากศัตรูซุกซ่อนอยู่ภายในนี้ คิดจะจับเขาออกมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร”

มีคนนิ่วหน้า “ที่น่ากลัวที่สุดก็คือฆาตกรคนนี้เจ้าเล่ห์นัก ในบริเวณใกล้เคียงไม่หลงเหลือกลิ่นอายใดๆ ของเขาเลย”

ประโยคเดียวทำให้ในใจคนอื่นๆ หนักอึ้ง รับรู้ได้ว่าฆาตกรคราวนี้ไม่ใช่คนที่ต่อกรได้ง่ายๆ!

แค่ความสามารถในการกลบร่องรอยยังไม่ธรรมดาสามัญ

ชายวัยกลางคนชุดเทาที่ถูกเรียกขานว่าเสอเฟิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วกัดฟันพูดว่า “พวกเราออกเคลื่อนไหวก่อน ถ้าสุดท้ายไม่ไหวจริงๆ… เช่นนั้นก็ไปขอความช่วยเหลือจากสหายเผ่า ‘ผึ้งมารลายดำ’!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+