Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 1511 อยู่ที่เตาหลอม

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 1511 อยู่ที่เตาหลอม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไอสังหารที่ไม่มีปกปิดของหลินสวินเขย่าขวัญไปทั้งลาน

แต่ฉับพลันเล่อมู่จิ้นก็แสยะยิ้มเอ่ย “คุยโวไม่ละอาย ถ้าเจ้ามีปัญญาก็ออกมาจากหุบเหวก่อนไหม เอ้า ข้าจะให้เจ้าเห็นว่าแพะสองขาที่เหมือนกับเจ้าพวกนี้ตายอย่างไร”

ยามเขาพูดก็ยกกระบองเหล็กทุบศีรษะของผู้แข็งดินแดนรกร้างโบราณที่อยู่ข้างกายเขาคนหนึ่ง

ด้านอริยะทั้งสี่อย่างพวกติงซานเหอได้เตรียมลงมือไว้แล้ว

สวบ!

ทันใดนั้นคลื่นอัศจรรย์ที่ไม่อาจบรรยายได้แผ่กระจายออกไปทั่ว

ก็เห็นว่าร่างของหลินสวินพลันส่องแสง ที่หน้าอกเขาชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดเปล่งประกายโชติช่วงอบอวล วิวัฒน์เป็นอภินิหารหยุดเวลา

ขณะนี้เวลาได้หยุดลงชั่วพริบตา

และเป็นชั่วพริบตานี้เช่นกันที่ปีกผลาญเทพบนหลังหลินสวินไหววูบ ตัวเขามาตรงหน้าเล่อมู่จิ้นแล้ว ฝ่ามือควบรวมแสงมรรคน่าครั่นคร้าม ฉวยคอของเล่อมู่จิ้นโดยพลัน

และตอนนี้กระบองเหล็กที่เล่อมู่จิ้นโบกลงมา ห่างจากศีรษะของผู้กล้าดินแดนรกร้างโบราณคนนั้นเพียงสามชุ่น!

เร็ว!

เร็วเกินไปแล้ว!

เวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น สถานการณ์ในที่นั้นแปรเปลี่ยนฉับพลัน

ไม่ว่าจะเป็นเล่อมู่จิ้นหรืออริยะทั้งสี่อย่างพวกติงซานเหอต่างไม่สามารถตอบสนองชั่วพริบตานี้ได้

นี่ก็คืออภินิหารหยุดเวลา!

“เจ้า…”

ตอนแรกเล่อมู่จิ้นตะลึงงัน จากนั้นความเจ็บแปลบที่คอเขาก็กระตุ้นให้เขาหน้าเปลี่ยนสีทันควัน จากนั้นดวงตาเบิกกว้าง เผยแววเชื่อได้ยาก

คิดไม่ถึงสักนิดว่าจู่ๆ หลินสวินปรากฏตัวขึ้นทันตาได้อย่างไร ทั้งยังจับเขาเอาไว้ด้วย!

พวกติงซานเหอก็หน้าเปลี่ยนสี ก่อนหน้านี้พวกเขาตั้งท่าเตรียมพร้อมลงมือทันทีไว้เรียบร้อย

แต่ตอนนี้ยังช้าไปจังหวะหนึ่งเสียได้!

ถึงขั้นที่พวกเขายังไม่อาจตอบสนองได้ทันท่วงที สิ่งนี้ทำเอาพวกเขาแทบไม่กล้าเชื่อ ชายหนุ่มที่ยังไม่บรรลุอริยะคนหนึ่งถึงกับมีปฏิกิริยาเร็วกว่าอริยะอย่างพวกเขาหรือ

กร๊อบ!

ร่างของเล่อมู่จิ้นถูกกำราบให้คุกเข่าลง หลินสวินใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งกดหัวเขาไว้ จากนั้นสายตาก็กวาดมองพวกติงซานเหอแล้วพูดว่า

“ตอนนี้ปล่อยพวกเขาไปซะ ไม่เช่นนั้นข้ารับรองได้ว่าเขาศพไม่สวยแน่”

เสียงพูดเฉยชาก้องไปทั่วลาน บรรยากาศกดดัน

บนพื้นผู้แข็งแกร่งจากดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกจับไว้เหล่านั้น แต่ละคนต่างตื่นเต้นขึ้นมา บางคนถึงกับน้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ

ล้วนคิดไม่ถึงว่าแม้ไม่เคยพบกันมาก่อน แต่เพียงเพราะอยู่ในทัพเดียวกันเท่านั้น หลินสวินจะช่วยพวกเขาโดยไม่สนใจสิ่งใด!

พวกติงซานเหอสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ เมื่อไรกันที่คนรุ่นหลังคนหนึ่งกล้ามาข่มขู่พวกเขา

“เจ้าปล่อยคุณชายเล่อก่อน ข้ารับรองว่าจะให้เจ้ากับคนเหล่านี้มีโอกาสรอดชีวิตสักครั้ง”

ติงซานเหอสูดหายใจลึก เอ่ยเสียงเข้ม

“รอดหรือ ข้าอยากให้มันตาย!”

เล่อมูจิ้นที่ถูกกำราบให้คุกเข่าลงกับพื้นตาถลนแทบหลุดออกจากเบ้า ร้องคำรามเสียงดัง

เขาเป็นบุคคลแห่งยุครุ่นเยาว์จากดินแดนโบราณมารโลหิต ทั้งยังเป็นลูกหลานสายตรงของเผ่าเหยี่ยวมารเหิน พรสวรรค์ล้ำเลิศ หยิ่งผยองจองหอง แม้แต่อริยะทั่วไปยังไม่อยู่ในสายตาเขา

แต่ตอนนี้กลับถูก ‘แพะสองขา’ ที่เขาดูถูกเป็นที่สุดกำราบให้คุกเข่าลงกับพื้น ชีวิตอยู่ในกำมือของอีกฝ่าย ความอัปยศนี้สะเทือนใจจนเขาแทบบ้า

ปัง!

หลินสวินออกแรงที่นิ้วมือ ทวารทั้งเจ็ดของเล่อมู่จิ้นเลือดไหล ร่างกายเกร็งกระตุก จิตวิญญาณยังได้รับบาดเจ็บรุนแรง ส่งเสียงอู้อี้เจ็บปวด

“เจ้ากล้า!”

พวกติงซานเหอหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง ฐานะของเล่อมู่จิ้นสูงส่งยิ่งนัก หากปล่อยให้เขาถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา มกุฎอริยะเผ่าเหยี่ยวมารเหินเหล่านั้นต้องกินพวกเขาทั้งเป็นแน่!

“เขายังไม่ตาย แต่ก็จวนเจียนแล้ว ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเจ้า”

หลินสวินสีหน้าเฉยเมย แววเย็นชาไหวเคลื่อนในดวงตาดำ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาฝืนกดไอสังหารในใจเอาไว้ เขาคงใช้มือเดียวตบเจ้าสวะเล่อมู่จิ้นนี่ให้ตายไปนานแล้ว

ตอนนี้พวกติงซานเหอจะทำอะไรก็กลัวกระทบถึงเล่อมู่จิ้น

แต่เช่นเดียวกัน หลินสวินก็ทำได้แค่ใช้ชีวิตของเล่อมู่จิ้นเป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนเพื่อช่วยผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณเหล่านั้น

“ถ้าพวกเราปล่อยคนพวกนี้ แต่เจ้าไม่ปล่อย…”

ติงซานเหอสูดหายใจลึกเอ่ยถาม

ยังไม่ทันขาดคำก็ถูกหลินสวินตัดบท “พวกเจ้าทำได้เพียงเดิมพัน!”

“เจ้า…”

ติงซานเหอกราดเกรี้ยว สีหน้าน่าสะพรึงกลัว ครู่สั้นๆ จึงกัดฟันพูดว่า “ได้ พวกเรารับปากเจ้า แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันกับคุณชายเล่อ ข้ารับรองได้ว่าเจ้าศพไม่สวยแน่!”

หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย เขาเคยได้ยินการข่มขู่เช่นนี้มาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว

ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกจับไว้ในที่นั้นมาที่ข้างหุบเหวใหญ่นั้น และถูกผีเสื้อมารแยกฟ้าที่รออยู่ก่อนแล้วรับไปภายใต้การจับจ้องอย่างกินเลือดกินเนื้อของเหล่าอริยะ

เห็นดังนี้หลินสวินจึงลอบถอนหายใจโล่งอก

“ตอนนี้เจ้าปล่อยเขาได้แล้วกระมัง”

ติงซานเหอสีหน้าอึมครึม

หลินสวินจับร่างของเล่อมู่จิ้นไว้ เดินมาริมหุบเหวใหญ่ทีละก้าว

ในระหว่างนี้พวกติงซานเหอจ้องหลินสวินเขม็ง ขอเพียงหลินสวินเผยท่าทีว่าจะหลบหนีสักนิด พวกเขาก็จะออกโจมตีทันที!

เพียงแค่อานุภาพที่พวกเขาแผ่ออกมาก็เต็มแน่นไปทั่วบริเวณใกล้เคียง ดั่งสะเทือนภูผาทลายสมุทร ทำเอาทุกคนหายใจติดขัด

ด้านหลินสวินที่ถูกเหล่าอริยะจับจ้องก็รู้สึกได้ถึงไอสังหารและอันตรายที่มีอยู่ทุกแห่งหนเช่นกัน

เขาหันตัวมองดูพวกติงซานเหอ จู่ๆ ก็ยิ้มเอ่ยว่า “ถ้าข้าใช้ชีวิตของเล่อมู่จิ้นบีบให้พวกเจ้าฆ่าตัวตาย พวกเจ้าจะว่าอย่างไร”

พวกติงซานเหอสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นย่ำแย่หาใดเทียบทันใด เจ้าเด็กนี่ หรือคิดจะผิดคำสัญญา

ฟุ่บ!

ก็ในตอนนี้เอง หลินสวินโยนร่างของเล่อมู่จิ้นออกไป

แทบจะในขณะเดียวกัน ร่างเขาพริบไหวกระโจนเข้าไปในหุบเหว

ตูม!

ก็ในตอนที่เงาร่างของหลินสวินเพิ่งหายลับไป จุดที่เขายืนอยู่เดิมถูกทวนศึกสีเขียวเล่มหนึ่งเจาะเป็นหลุมใหญ่ ฝุ่นควันตลบอบอวล

เห็นได้ชัดว่ามีอริยะลงมือหมายจะฆ่าหลินสวิน แต่กลับถูกหลินสวินชิงหนีไปได้เสียก่อน

ในหุบเหวหลินสวินหมุนตัวกลับมา มองดูภาพนี้แล้วเอ่ยว่า “ข้าบอกแล้ว ไม่ฆ่าพวกเจ้า ไม่ขอเป็นคน!”

ติงซานเหอสีหน้าอึมครึม ยิ้มเหี้ยมเอ่ยว่า “ไอ้สวะตัวจ้อย เจ้าดูข้างหลังเจ้าก่อน”

หลินสวินไม่ได้หันหน้าไป แต่จิตรับรู้แผ่ออกไปแล้ว

เขาหน้าเปลี่ยนสีทันใด

ก็เห็นว่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกผีเสื้อมารแยกฟ้าช่วยไว้เหล่านั้น แต่ละคนร่างแตก เลือดและเนื้อหนังเหมือนถูกกัดกร่อน ตายคาที่อย่างเงียบเชียบไปทีละคน!

ก่อนตายล้วนไม่ทันได้ตอบโต้

“นี่พวกเจ้าทำหรือ” หลินสวินสีหน้าน่ากลัว

พวกติงซานเหอหัวเราะร่าขึ้นมา กล่าวอย่างสมใจ “ตอนแพะสองขาพวกนี้ถูกจับก็ถูกพวกเราฝัง ‘กู่[1]วิญญาณ’ ไว้แล้ว ขอเพียงคิดในใจ พวกมันก็จะตายทันที”

“ไอ้โง่ คิดว่าพวกเราทำอะไรไม่ได้จริงหรือ บอกเจ้าให้ แพะสองขาพวกนี้ล้วนตายเพราะเจ้า ที่เจ้าควรแค้นที่สุดก็คือทำไมตัวเจ้าถึงโง่ปานนี้!”

พูดถึงตอนท้าย ติงซานเหอก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมาอีกครั้งอย่างอดไม่อยู่

“พวกเจ้าแต่ละคนหนีไม่พ้น!”

นัยน์ตาดำของหลินสวินดุจเหวลึก ประกายเย็นเยียบน่าหวาดหวั่นไหวเคลื่อน พอพูดประโยคนี้แล้วเขาก็หมุนตัวพุ่งเข้าไปในหุบเหว

“น่าขัน!”

พวกติงซานเหอไม่สนใจ

ปึง!

แต่ก็ในตอนนี้เอง เล่อมู่จิ้นที่ถูกพวกเขาช่วยไว้พลันอ่อนยวบล้มลงไปกับพื้น ร่างกายสมบูรณ์ไม่สึกหรอ แต่จิตวิญญาณกลับหายไปแล้วไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร!

นี่…

พวกติงซานเหอสีหน้าแข็งทื่อ ลูกตาถลนออกมา มือเท้าเย็นเฉียบ

เล่อมู่จิ้น… ตายแล้วหรือ

นี่เหมือนกับถูกคนใช้กระบองทุบใส่ ทำให้พวกติงซานเหอตระหนกไปหมด รีบร้อนเข้าไปช่วยชีวิต

แต่ไม่นานนักสีหน้าพวกเขาก็พากันอึมครึมลง

จิตวิญญาณของเล่อมู่จิ้นถูกกลืนกินหมดจดอย่างเงียบเชียบแล้ว!

“พี่ติง เจ้ามาจากเผ่างูมารทองคำ สิ่งที่เชี่ยวชาญที่สุดก็คือวิชาลับจิตวิญญาณ ดูออกไหมว่าคุณชายเล่อถูกฆ่าอย่างไร”

มีคนถามอย่างอดไม่ได้

“หนอนกินเทพ!”

ติงซานเหอสีหน้าคล้ำเขียว แค้นจนกัดฟันกรอด “ตอนไอ้สวะตัวจ้อยนั่นจับคุณชายเล่อไว้ก็มีเจตนาจะฆ่าแล้ว ให้หนอนกินเทพตัวหนึ่งเจาะเข้าไปในจิตวิญญาณของคุณชายเล่อ!”

“น่าชังนัก!”

อริยะคนหนึ่งเดือดดาล ไอสังหารผุดขึ้นอย่างรุนแรง

“เรื่องนี้จะประกาศออกไปไม่ได้เด็ดขาด หากให้สัตว์ประหลาดเฒ่าเผ่าเหยี่ยวมารเหินรู้ว่าเล่อมู่จิ้นถูกฆ่าต่อหน้าพวกเรา พวกเราก็คงหนีความผิดได้ยาก!”

ติงซานเหอสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ฝืนสงบใจแล้วเอ่ยว่า “เรื่องเร่งด่วนตอนนี้คือใช้พลังทั้งหมดฆ่าไอ้สวะตัวจ้อยนั่น แล้วค่อยบอกเรื่องนี้กับเผ่าเหยี่ยวมารเหิน ไม่แน่อาจจะพอช่วยได้บ้าง”

อริยะคนอื่นสีหน้าสับสนไม่นิ่ง พยักหน้าตอบในที่สุด

บุคคลแห่งยุคอย่างเล่อมู่จิ้น หากบรรลุมกุฎอริยะได้ ภายหน้าต้องประสบความสำเร็จอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแน่ แต่ตอนนี้กลับตายกะทันหัน

ทันทีที่เผ่าเหยี่ยวมารเหินกล่าวโทษ อริยะอย่างพวกเขาต้องประสบกับหายนะแน่!

“จี้ชิ่ง เจ้าลงมือด้วยตัวเอง ไปจับแพะสองขามาอีกหน่อย ยิ่งเยอะยิ่งดี ข้าไม่เชื่อว่าไม่มีทางบีบไอ้สวะนั่นได้อีก!”

ติงซานเหอเอ่ยอย่างแน่วแน่

“ได้!”

จี้ชิ่งรับคำสั่งแล้วจากไป

……

วังใต้ดินในเหวลึก หลินสวินนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแอ สีหน้าซีดขาว

การสำแดงอภินิหารหยุดเวลากินพลังเขาไปจนหมด

ภาพที่ได้ประสบแต่ละภาพทำให้เขารับรู้ได้โดยสมบูรณ์ว่า อย่างไรเรียกหนี้เลือดฝังใจ!

ไม่อาจสลายได้สักนิด!

ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณเหล่านั้น แต่ละคนถูกเหยียบย่ำ หยามเหยียด ฆ่าแกงเหมือนหมูเหมือนหมา ภาพนองเลือดทั้งหมดจู่โจมจิตใจของหลินสวินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

นี่ก็คือความแค้นเลือด!

การต่อสู้แห่งเก้าดินแดน จะใจอ่อนไม่ได้!

พอนึกถึงว่าชายหนุ่มที่ไม่รู้กระทั่งชื่อแซ่คนนั้นยอมตายอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อไม่ให้ตนถูกข่มขู่ ในใจหลินืสวินก็แปร่งปร่ายิ่ง

“ยามข้าหลินสวินบรรลุอริยะ จะใช้ดาบของข้าพิฆาตศัตรูทั้งปวง เลือดต้องล้างด้วยเลือด!”

ครู่ใหญ่หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งถึงค่อยเก็บกลั้นไอสังหารที่พลุ่งพล่านในใจได้

เขาเริ่มบำเพ็ญ

พลังแห้งเหือดแล้ว ต้องฟื้นฟูโดยเร็วที่สุด

วู้ม!

ทันใดนั้นคลื่นประหลาดระลอกหนึ่งแผ่กระจายออกมา

ชั่วพริบตานี้ จู่ๆ หลินสวินก็พบว่าตนอยู่ในเตาไฟที่เปลวไฟลุกโชนถาโถมเตาหนึ่ง เพลิงเทพน่าหวาดหวั่นกึกก้อง มีอานุภาพเผาฟ้าผลาญดิน

ส่วนตน กำลังถูกเพลิงใหญ่หลอม!

ตูม!

พลังหลอมอันร้อนระอุหาใดเทียบทำให้หลินสวินรู้สึกเพียงว่าร่างกำลังจะละลาย จึงกระตุ้นพลังทั้งหมดในร่างเข้าต่อต้านอย่างไม่ลังเล

ขณะเดียวกันคลื่นลายมรรคอัศจรรย์ปรากฏออกมาจาก ‘หอยอดมรรค’ ที่อยู่ไม่ไกล ท้ายที่สุดก็รวมตัวกันเป็นเตาไฟใหญ่เตาหนึ่ง

เตาไฟลุกโชนถาโถม เปลวเพลิงเทพไหลเวียน ประหนึ่งตั้งตระหง่านท่ามกลางนิรันดร์กาล คล้ายสามารถหลอมหมู่มวลสวรรค์!

เห็นได้ชัดว่านี่คือบททดสอบเคี่ยวกรำครั้งที่สองซึ่งกระจายตัวอยู่ในโลกลี้ลับแห่งนี้ ต่างมาเยือนโดยบังเอิญเหมือนการทดสอบแรกที่เรือนสังหารจิต

หลินสวินก็รับรู้ได้ถึงเรื่องนี้ แต่ไม่ทันได้คิดอะไรอีก เพราะความรู้สึกที่ถูกหลอมอยู่ในเตาช่างเหมือนถูกแล่เป็นหมื่นชิ้น ทั้งกายใจได้รับความเจ็บปวดถึงที่สุด

——

[1] กู่ ตามตำนานเชื่อกันว่าเป็นพญาพิษที่ถูกคนเพาะเลี้ยงโดยการนำหนอนพิษร้ายแรงมาอยู่ด้วยกัน และปล่อยให้กัดกินกันเองจนเหลือเพียงตัวสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 1511 อยู่ที่เตาหลอม

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 1511 อยู่ที่เตาหลอม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไอสังหารที่ไม่มีปกปิดของหลินสวินเขย่าขวัญไปทั้งลาน

แต่ฉับพลันเล่อมู่จิ้นก็แสยะยิ้มเอ่ย “คุยโวไม่ละอาย ถ้าเจ้ามีปัญญาก็ออกมาจากหุบเหวก่อนไหม เอ้า ข้าจะให้เจ้าเห็นว่าแพะสองขาที่เหมือนกับเจ้าพวกนี้ตายอย่างไร”

ยามเขาพูดก็ยกกระบองเหล็กทุบศีรษะของผู้แข็งดินแดนรกร้างโบราณที่อยู่ข้างกายเขาคนหนึ่ง

ด้านอริยะทั้งสี่อย่างพวกติงซานเหอได้เตรียมลงมือไว้แล้ว

สวบ!

ทันใดนั้นคลื่นอัศจรรย์ที่ไม่อาจบรรยายได้แผ่กระจายออกไปทั่ว

ก็เห็นว่าร่างของหลินสวินพลันส่องแสง ที่หน้าอกเขาชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดเปล่งประกายโชติช่วงอบอวล วิวัฒน์เป็นอภินิหารหยุดเวลา

ขณะนี้เวลาได้หยุดลงชั่วพริบตา

และเป็นชั่วพริบตานี้เช่นกันที่ปีกผลาญเทพบนหลังหลินสวินไหววูบ ตัวเขามาตรงหน้าเล่อมู่จิ้นแล้ว ฝ่ามือควบรวมแสงมรรคน่าครั่นคร้าม ฉวยคอของเล่อมู่จิ้นโดยพลัน

และตอนนี้กระบองเหล็กที่เล่อมู่จิ้นโบกลงมา ห่างจากศีรษะของผู้กล้าดินแดนรกร้างโบราณคนนั้นเพียงสามชุ่น!

เร็ว!

เร็วเกินไปแล้ว!

เวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น สถานการณ์ในที่นั้นแปรเปลี่ยนฉับพลัน

ไม่ว่าจะเป็นเล่อมู่จิ้นหรืออริยะทั้งสี่อย่างพวกติงซานเหอต่างไม่สามารถตอบสนองชั่วพริบตานี้ได้

นี่ก็คืออภินิหารหยุดเวลา!

“เจ้า…”

ตอนแรกเล่อมู่จิ้นตะลึงงัน จากนั้นความเจ็บแปลบที่คอเขาก็กระตุ้นให้เขาหน้าเปลี่ยนสีทันควัน จากนั้นดวงตาเบิกกว้าง เผยแววเชื่อได้ยาก

คิดไม่ถึงสักนิดว่าจู่ๆ หลินสวินปรากฏตัวขึ้นทันตาได้อย่างไร ทั้งยังจับเขาเอาไว้ด้วย!

พวกติงซานเหอก็หน้าเปลี่ยนสี ก่อนหน้านี้พวกเขาตั้งท่าเตรียมพร้อมลงมือทันทีไว้เรียบร้อย

แต่ตอนนี้ยังช้าไปจังหวะหนึ่งเสียได้!

ถึงขั้นที่พวกเขายังไม่อาจตอบสนองได้ทันท่วงที สิ่งนี้ทำเอาพวกเขาแทบไม่กล้าเชื่อ ชายหนุ่มที่ยังไม่บรรลุอริยะคนหนึ่งถึงกับมีปฏิกิริยาเร็วกว่าอริยะอย่างพวกเขาหรือ

กร๊อบ!

ร่างของเล่อมู่จิ้นถูกกำราบให้คุกเข่าลง หลินสวินใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งกดหัวเขาไว้ จากนั้นสายตาก็กวาดมองพวกติงซานเหอแล้วพูดว่า

“ตอนนี้ปล่อยพวกเขาไปซะ ไม่เช่นนั้นข้ารับรองได้ว่าเขาศพไม่สวยแน่”

เสียงพูดเฉยชาก้องไปทั่วลาน บรรยากาศกดดัน

บนพื้นผู้แข็งแกร่งจากดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกจับไว้เหล่านั้น แต่ละคนต่างตื่นเต้นขึ้นมา บางคนถึงกับน้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ

ล้วนคิดไม่ถึงว่าแม้ไม่เคยพบกันมาก่อน แต่เพียงเพราะอยู่ในทัพเดียวกันเท่านั้น หลินสวินจะช่วยพวกเขาโดยไม่สนใจสิ่งใด!

พวกติงซานเหอสีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ เมื่อไรกันที่คนรุ่นหลังคนหนึ่งกล้ามาข่มขู่พวกเขา

“เจ้าปล่อยคุณชายเล่อก่อน ข้ารับรองว่าจะให้เจ้ากับคนเหล่านี้มีโอกาสรอดชีวิตสักครั้ง”

ติงซานเหอสูดหายใจลึก เอ่ยเสียงเข้ม

“รอดหรือ ข้าอยากให้มันตาย!”

เล่อมูจิ้นที่ถูกกำราบให้คุกเข่าลงกับพื้นตาถลนแทบหลุดออกจากเบ้า ร้องคำรามเสียงดัง

เขาเป็นบุคคลแห่งยุครุ่นเยาว์จากดินแดนโบราณมารโลหิต ทั้งยังเป็นลูกหลานสายตรงของเผ่าเหยี่ยวมารเหิน พรสวรรค์ล้ำเลิศ หยิ่งผยองจองหอง แม้แต่อริยะทั่วไปยังไม่อยู่ในสายตาเขา

แต่ตอนนี้กลับถูก ‘แพะสองขา’ ที่เขาดูถูกเป็นที่สุดกำราบให้คุกเข่าลงกับพื้น ชีวิตอยู่ในกำมือของอีกฝ่าย ความอัปยศนี้สะเทือนใจจนเขาแทบบ้า

ปัง!

หลินสวินออกแรงที่นิ้วมือ ทวารทั้งเจ็ดของเล่อมู่จิ้นเลือดไหล ร่างกายเกร็งกระตุก จิตวิญญาณยังได้รับบาดเจ็บรุนแรง ส่งเสียงอู้อี้เจ็บปวด

“เจ้ากล้า!”

พวกติงซานเหอหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง ฐานะของเล่อมู่จิ้นสูงส่งยิ่งนัก หากปล่อยให้เขาถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา มกุฎอริยะเผ่าเหยี่ยวมารเหินเหล่านั้นต้องกินพวกเขาทั้งเป็นแน่!

“เขายังไม่ตาย แต่ก็จวนเจียนแล้ว ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเจ้า”

หลินสวินสีหน้าเฉยเมย แววเย็นชาไหวเคลื่อนในดวงตาดำ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาฝืนกดไอสังหารในใจเอาไว้ เขาคงใช้มือเดียวตบเจ้าสวะเล่อมู่จิ้นนี่ให้ตายไปนานแล้ว

ตอนนี้พวกติงซานเหอจะทำอะไรก็กลัวกระทบถึงเล่อมู่จิ้น

แต่เช่นเดียวกัน หลินสวินก็ทำได้แค่ใช้ชีวิตของเล่อมู่จิ้นเป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนเพื่อช่วยผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณเหล่านั้น

“ถ้าพวกเราปล่อยคนพวกนี้ แต่เจ้าไม่ปล่อย…”

ติงซานเหอสูดหายใจลึกเอ่ยถาม

ยังไม่ทันขาดคำก็ถูกหลินสวินตัดบท “พวกเจ้าทำได้เพียงเดิมพัน!”

“เจ้า…”

ติงซานเหอกราดเกรี้ยว สีหน้าน่าสะพรึงกลัว ครู่สั้นๆ จึงกัดฟันพูดว่า “ได้ พวกเรารับปากเจ้า แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันกับคุณชายเล่อ ข้ารับรองได้ว่าเจ้าศพไม่สวยแน่!”

หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย เขาเคยได้ยินการข่มขู่เช่นนี้มาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว

ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกจับไว้ในที่นั้นมาที่ข้างหุบเหวใหญ่นั้น และถูกผีเสื้อมารแยกฟ้าที่รออยู่ก่อนแล้วรับไปภายใต้การจับจ้องอย่างกินเลือดกินเนื้อของเหล่าอริยะ

เห็นดังนี้หลินสวินจึงลอบถอนหายใจโล่งอก

“ตอนนี้เจ้าปล่อยเขาได้แล้วกระมัง”

ติงซานเหอสีหน้าอึมครึม

หลินสวินจับร่างของเล่อมู่จิ้นไว้ เดินมาริมหุบเหวใหญ่ทีละก้าว

ในระหว่างนี้พวกติงซานเหอจ้องหลินสวินเขม็ง ขอเพียงหลินสวินเผยท่าทีว่าจะหลบหนีสักนิด พวกเขาก็จะออกโจมตีทันที!

เพียงแค่อานุภาพที่พวกเขาแผ่ออกมาก็เต็มแน่นไปทั่วบริเวณใกล้เคียง ดั่งสะเทือนภูผาทลายสมุทร ทำเอาทุกคนหายใจติดขัด

ด้านหลินสวินที่ถูกเหล่าอริยะจับจ้องก็รู้สึกได้ถึงไอสังหารและอันตรายที่มีอยู่ทุกแห่งหนเช่นกัน

เขาหันตัวมองดูพวกติงซานเหอ จู่ๆ ก็ยิ้มเอ่ยว่า “ถ้าข้าใช้ชีวิตของเล่อมู่จิ้นบีบให้พวกเจ้าฆ่าตัวตาย พวกเจ้าจะว่าอย่างไร”

พวกติงซานเหอสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นย่ำแย่หาใดเทียบทันใด เจ้าเด็กนี่ หรือคิดจะผิดคำสัญญา

ฟุ่บ!

ก็ในตอนนี้เอง หลินสวินโยนร่างของเล่อมู่จิ้นออกไป

แทบจะในขณะเดียวกัน ร่างเขาพริบไหวกระโจนเข้าไปในหุบเหว

ตูม!

ก็ในตอนที่เงาร่างของหลินสวินเพิ่งหายลับไป จุดที่เขายืนอยู่เดิมถูกทวนศึกสีเขียวเล่มหนึ่งเจาะเป็นหลุมใหญ่ ฝุ่นควันตลบอบอวล

เห็นได้ชัดว่ามีอริยะลงมือหมายจะฆ่าหลินสวิน แต่กลับถูกหลินสวินชิงหนีไปได้เสียก่อน

ในหุบเหวหลินสวินหมุนตัวกลับมา มองดูภาพนี้แล้วเอ่ยว่า “ข้าบอกแล้ว ไม่ฆ่าพวกเจ้า ไม่ขอเป็นคน!”

ติงซานเหอสีหน้าอึมครึม ยิ้มเหี้ยมเอ่ยว่า “ไอ้สวะตัวจ้อย เจ้าดูข้างหลังเจ้าก่อน”

หลินสวินไม่ได้หันหน้าไป แต่จิตรับรู้แผ่ออกไปแล้ว

เขาหน้าเปลี่ยนสีทันใด

ก็เห็นว่าผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณที่ถูกผีเสื้อมารแยกฟ้าช่วยไว้เหล่านั้น แต่ละคนร่างแตก เลือดและเนื้อหนังเหมือนถูกกัดกร่อน ตายคาที่อย่างเงียบเชียบไปทีละคน!

ก่อนตายล้วนไม่ทันได้ตอบโต้

“นี่พวกเจ้าทำหรือ” หลินสวินสีหน้าน่ากลัว

พวกติงซานเหอหัวเราะร่าขึ้นมา กล่าวอย่างสมใจ “ตอนแพะสองขาพวกนี้ถูกจับก็ถูกพวกเราฝัง ‘กู่[1]วิญญาณ’ ไว้แล้ว ขอเพียงคิดในใจ พวกมันก็จะตายทันที”

“ไอ้โง่ คิดว่าพวกเราทำอะไรไม่ได้จริงหรือ บอกเจ้าให้ แพะสองขาพวกนี้ล้วนตายเพราะเจ้า ที่เจ้าควรแค้นที่สุดก็คือทำไมตัวเจ้าถึงโง่ปานนี้!”

พูดถึงตอนท้าย ติงซานเหอก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมาอีกครั้งอย่างอดไม่อยู่

“พวกเจ้าแต่ละคนหนีไม่พ้น!”

นัยน์ตาดำของหลินสวินดุจเหวลึก ประกายเย็นเยียบน่าหวาดหวั่นไหวเคลื่อน พอพูดประโยคนี้แล้วเขาก็หมุนตัวพุ่งเข้าไปในหุบเหว

“น่าขัน!”

พวกติงซานเหอไม่สนใจ

ปึง!

แต่ก็ในตอนนี้เอง เล่อมู่จิ้นที่ถูกพวกเขาช่วยไว้พลันอ่อนยวบล้มลงไปกับพื้น ร่างกายสมบูรณ์ไม่สึกหรอ แต่จิตวิญญาณกลับหายไปแล้วไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร!

นี่…

พวกติงซานเหอสีหน้าแข็งทื่อ ลูกตาถลนออกมา มือเท้าเย็นเฉียบ

เล่อมู่จิ้น… ตายแล้วหรือ

นี่เหมือนกับถูกคนใช้กระบองทุบใส่ ทำให้พวกติงซานเหอตระหนกไปหมด รีบร้อนเข้าไปช่วยชีวิต

แต่ไม่นานนักสีหน้าพวกเขาก็พากันอึมครึมลง

จิตวิญญาณของเล่อมู่จิ้นถูกกลืนกินหมดจดอย่างเงียบเชียบแล้ว!

“พี่ติง เจ้ามาจากเผ่างูมารทองคำ สิ่งที่เชี่ยวชาญที่สุดก็คือวิชาลับจิตวิญญาณ ดูออกไหมว่าคุณชายเล่อถูกฆ่าอย่างไร”

มีคนถามอย่างอดไม่ได้

“หนอนกินเทพ!”

ติงซานเหอสีหน้าคล้ำเขียว แค้นจนกัดฟันกรอด “ตอนไอ้สวะตัวจ้อยนั่นจับคุณชายเล่อไว้ก็มีเจตนาจะฆ่าแล้ว ให้หนอนกินเทพตัวหนึ่งเจาะเข้าไปในจิตวิญญาณของคุณชายเล่อ!”

“น่าชังนัก!”

อริยะคนหนึ่งเดือดดาล ไอสังหารผุดขึ้นอย่างรุนแรง

“เรื่องนี้จะประกาศออกไปไม่ได้เด็ดขาด หากให้สัตว์ประหลาดเฒ่าเผ่าเหยี่ยวมารเหินรู้ว่าเล่อมู่จิ้นถูกฆ่าต่อหน้าพวกเรา พวกเราก็คงหนีความผิดได้ยาก!”

ติงซานเหอสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ฝืนสงบใจแล้วเอ่ยว่า “เรื่องเร่งด่วนตอนนี้คือใช้พลังทั้งหมดฆ่าไอ้สวะตัวจ้อยนั่น แล้วค่อยบอกเรื่องนี้กับเผ่าเหยี่ยวมารเหิน ไม่แน่อาจจะพอช่วยได้บ้าง”

อริยะคนอื่นสีหน้าสับสนไม่นิ่ง พยักหน้าตอบในที่สุด

บุคคลแห่งยุคอย่างเล่อมู่จิ้น หากบรรลุมกุฎอริยะได้ ภายหน้าต้องประสบความสำเร็จอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแน่ แต่ตอนนี้กลับตายกะทันหัน

ทันทีที่เผ่าเหยี่ยวมารเหินกล่าวโทษ อริยะอย่างพวกเขาต้องประสบกับหายนะแน่!

“จี้ชิ่ง เจ้าลงมือด้วยตัวเอง ไปจับแพะสองขามาอีกหน่อย ยิ่งเยอะยิ่งดี ข้าไม่เชื่อว่าไม่มีทางบีบไอ้สวะนั่นได้อีก!”

ติงซานเหอเอ่ยอย่างแน่วแน่

“ได้!”

จี้ชิ่งรับคำสั่งแล้วจากไป

……

วังใต้ดินในเหวลึก หลินสวินนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแอ สีหน้าซีดขาว

การสำแดงอภินิหารหยุดเวลากินพลังเขาไปจนหมด

ภาพที่ได้ประสบแต่ละภาพทำให้เขารับรู้ได้โดยสมบูรณ์ว่า อย่างไรเรียกหนี้เลือดฝังใจ!

ไม่อาจสลายได้สักนิด!

ผู้แข็งแกร่งดินแดนรกร้างโบราณเหล่านั้น แต่ละคนถูกเหยียบย่ำ หยามเหยียด ฆ่าแกงเหมือนหมูเหมือนหมา ภาพนองเลือดทั้งหมดจู่โจมจิตใจของหลินสวินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

นี่ก็คือความแค้นเลือด!

การต่อสู้แห่งเก้าดินแดน จะใจอ่อนไม่ได้!

พอนึกถึงว่าชายหนุ่มที่ไม่รู้กระทั่งชื่อแซ่คนนั้นยอมตายอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อไม่ให้ตนถูกข่มขู่ ในใจหลินืสวินก็แปร่งปร่ายิ่ง

“ยามข้าหลินสวินบรรลุอริยะ จะใช้ดาบของข้าพิฆาตศัตรูทั้งปวง เลือดต้องล้างด้วยเลือด!”

ครู่ใหญ่หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งถึงค่อยเก็บกลั้นไอสังหารที่พลุ่งพล่านในใจได้

เขาเริ่มบำเพ็ญ

พลังแห้งเหือดแล้ว ต้องฟื้นฟูโดยเร็วที่สุด

วู้ม!

ทันใดนั้นคลื่นประหลาดระลอกหนึ่งแผ่กระจายออกมา

ชั่วพริบตานี้ จู่ๆ หลินสวินก็พบว่าตนอยู่ในเตาไฟที่เปลวไฟลุกโชนถาโถมเตาหนึ่ง เพลิงเทพน่าหวาดหวั่นกึกก้อง มีอานุภาพเผาฟ้าผลาญดิน

ส่วนตน กำลังถูกเพลิงใหญ่หลอม!

ตูม!

พลังหลอมอันร้อนระอุหาใดเทียบทำให้หลินสวินรู้สึกเพียงว่าร่างกำลังจะละลาย จึงกระตุ้นพลังทั้งหมดในร่างเข้าต่อต้านอย่างไม่ลังเล

ขณะเดียวกันคลื่นลายมรรคอัศจรรย์ปรากฏออกมาจาก ‘หอยอดมรรค’ ที่อยู่ไม่ไกล ท้ายที่สุดก็รวมตัวกันเป็นเตาไฟใหญ่เตาหนึ่ง

เตาไฟลุกโชนถาโถม เปลวเพลิงเทพไหลเวียน ประหนึ่งตั้งตระหง่านท่ามกลางนิรันดร์กาล คล้ายสามารถหลอมหมู่มวลสวรรค์!

เห็นได้ชัดว่านี่คือบททดสอบเคี่ยวกรำครั้งที่สองซึ่งกระจายตัวอยู่ในโลกลี้ลับแห่งนี้ ต่างมาเยือนโดยบังเอิญเหมือนการทดสอบแรกที่เรือนสังหารจิต

หลินสวินก็รับรู้ได้ถึงเรื่องนี้ แต่ไม่ทันได้คิดอะไรอีก เพราะความรู้สึกที่ถูกหลอมอยู่ในเตาช่างเหมือนถูกแล่เป็นหมื่นชิ้น ทั้งกายใจได้รับความเจ็บปวดถึงที่สุด

——

[1] กู่ ตามตำนานเชื่อกันว่าเป็นพญาพิษที่ถูกคนเพาะเลี้ยงโดยการนำหนอนพิษร้ายแรงมาอยู่ด้วยกัน และปล่อยให้กัดกินกันเองจนเหลือเพียงตัวสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+