Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 438 ลูกกลอนวิญญาณที่เรียกได้ว่าน่าสะพรึง

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 438 ลูกกลอนวิญญาณที่เรียกได้ว่าน่าสะพรึง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 438 ลูกกลอนวิญญาณที่เรียกได้ว่าน่าสะพรึง
โดย

สายฟ้าผ่ากระหน่ำ สะเทือนทั่วฟ้าดิน

ท่ามกลางประกายสายฟ้าที่พลุ่งพล่านมีเสียงโอดครวญราวถูกเชือดของเฉียนไหวดังแว่วขึ้น เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

หลินสวินยืนอยู่ในระยะที่ห่างออกไปไกล นัยน์ตาดำขลับจับจ้องทุกสิ่ง

เขาเลือดอาบตัว มีแผลกระบี่นับไม่ถ้วน ราวกับแช่ตัวในแอ่งเลือดมา ดูกระหายเลือดผิดปกติ

ทว่าตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้หลินสวินราวกับไม่รู้สึกเจ็บ สีหน้าเผยความนิ่งสงบและเย็นชาอย่างที่สุด

ตอนอยู่ในค่ายกระหายเลือด เขาผ่านการเคี่ยวกรำถึงขั้นเลือดตกยางออกมาแล้วไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เกรงว่าต่อให้ตอนนี้จะได้รับบาดเจ็บยิ่งกว่านี้ แต่ขอเพียงแค่ยังมีลมหายใจ เขาก็จะไม่มีทางถูกความเจ็บปวดใดๆ ก่อกวนความแน่วแน่ในใจ

ไม่นานเสียงโอดครวญของเฉียนไหวก็อ่อนแรงลง ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน เพราะเงาร่างของเขาไม่ได้พุ่งออกมาอีก

จวบจนกระทั่งแสงจากสายฟ้านั่นหายไป จึงเห็นเงาร่างหนึ่งร่วงลงจากกลางอากาศมากระแทกพื้น

แน่นอนว่าต้องเป็นเฉียนไหว เพียงแต่บัดนี้ยอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะผู้นี้กลับบาดเจ็บหนักเจียนตาย

ร่างกายของเขาราวกับถูกระเบิด เลือดอาบเนื้อโผล่ บาดแผลรุนแรงจนไม่เหลือชิ้นดี นอนกองบนพื้น เหลือเพียงแค่เรี่ยวแรงใช้หายใจเท่านั้น

นี่ก็คือความน่ากลัวของไข่มุกสะเทือนสวรรค์ เฉียนไหวถูกโจมตีด้วยสายฟ้าพิฆาตจากไข่มุกสะเทือนสวรรค์ถึงสองเม็ด แม้แต่พลังปราณระดับหยั่งสัจจะของเขายังรับไม่ไหว!

เห็นเช่นนี้หลินสวินก็ชักดาบออกมา ถือดาบเดินเข้าไปอย่างไม่ลังเลแล้วง้างมือขึ้นฟันลงไป ตัดคอเฉียนไหวขาดในทันที!

ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉียนไหวไร้ซึ่งเรี่ยวแรงดิ้นรน ทำได้เพียงใช้สายตาเดือดดาล สับสน หวาดกลัวและไม่จำยอมจ้องมองทุกอย่าง

จวบจนกระทั่งตอนนี้ แววตาของเขาจึงคลายและหม่นแสงลง

ตัวเฉียงไหวเองก็คงคิดไม่ถึงว่า เขาที่เป็นถึงยอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะ สุดท้ายกลับตายในมือของเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณคนหนึ่ง

หลินสวินเก็บดาบเงียบๆ และเก็บแหวนเก็บของที่เฉียนไหวพกติดตัวกับกระบี่วิญญาณเงินอร่ามที่ตกอยู่บนพื้นเล่มนั้นขึ้นมา

หลังจากนั้นจึงหมุนตัวจากไป

เขาเลือดไหลทั่วร่าง แต่กลับเหมือนไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เงาร่างพุ่งไปข้างหน้าราวหมาป่าเดียวดายที่บาดเจ็บ อาศัยเพียงความมุ่งมั่นและสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดพุ่งทะยานต่อไป

มองจากภายนอกคงไม่มีใครรู้เลยว่า หลินสวินในตอนนี้พลังเสื่อมทรุดถึงที่สุดแล้ว ทั้งยังบาดเจ็บสาหัส สามารถล้มลงได้ตลอดเวลา!

ศึกไล่ล่าก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะผ่อนคลาย แต่มีเพียงหลินสวินที่รู้ตัวดีว่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวของเฉียนไหว เขาต้องแบกรับแรงกดดันหนักหน่วงเพียงใด

สามารถกล่าวได้อย่างไม่เกินจริงเลยว่า การต่อสู้ในครั้งนี้ ที่พึ่งเดียวของเขาก็คือไข่มุกสะเทือนสวรรค์เพียงสองเม็ดที่เหลืออยู่

และเพื่อให้ไข่มุกสะเทือนสวรรค์สำแดงอานุภาพรุนแรงที่สุด ตั้งแต่ต้นจนจบเขาจึงใช้วิธีที่เสี่ยงมากตอบโต้เฉียนไหว

สำหรับเฉียนไหว หลินสวินเหมือนกำลังทำเก่งเพื่อตบตา ดูตลกอย่างที่สุด

แต่สำหรับหลินสวิน นั่นกลับเป็นทางเลือกเดียวของเขา!

โชคดีที่สุดท้ายเขาทำสำเร็จ ไข่มุกสะเทือนสวรรค์ทั้งสองเม็ดไม่ได้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ สามารถกำจัดเฉียนไหวให้อยู่หมัดได้ในคราเดียว จบศึกการไล่ล่าที่ชวนขวัญหนีดีฝ่อนี้ได้อย่างงดงาม

……

ฟุ่บๆ

หลินสวินจากไปได้ราวครึ่งเค่อ เงาร่างชายหนึ่งหญิงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบริเวณนี้ เป็นเหวยจวิ้นและหญิงกระโปรงม่วงนั่นเอง

“เฉียนไหว!”

ยามเห็นศพที่ถูกตัดหัวของเฉียนไหวซึ่งนอนอยู่บนพื้น เหวยจวิ้นตัวแข็งค้างอย่างควบคุมไม่อยู่ ร้องเสียงหลงออกมา

ในขณะที่หญิงกระโปรงม่วงเองก็หน้าเปลี่ยนสีโดยพลัน มือเท้าเย็นเฉียบ

ทั้งสองต่างคิดไม่ถึงว่ายอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะอย่างเฉียนไหว เพียงสู้กับเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรขั้นปลายคนหนึ่งเท่านั้น ถึงกับต้องตายอย่างอนาถเช่นนี้!

“ใครเป็นคนทำ? มันเป็นใคร!”

ครู่ใหญ่เหวยจวิ้นพลันตะเบ็งเสียงอย่างกราดเกรี้ยว เฉียนไหวเป็นข้ารับใช้เก่าแก่ข้างกายเขา คุ้มกันเขาอย่างเงียบๆ มาโดยตลอด ซื่อสัตย์และจงรักภักดีเสมอมา

“ศิษย์พี่เหวยจวิ้น ต้องเป็นฝีมือของเด็กนั่นแน่!”

หญิงกระโปรงม่วงกัดฟันพูด

“ไม่ว่าจะเป็นใคร ข้าจะให้มันชดใช้เป็นร้อยเท่าพันเท่า!”

เหวยจวิ้นตะโกนเดือดดาล สีหน้าดุร้าย

หญิงกระโปรงม่วงสั่นไปทั้งตัว เพราะรู้ว่าการตายของเฉียนไหวได้กระตุ้นความโกรธของศิษย์พี่เหวยจวิ้น ผู้ที่ทางสำนักให้ความสำคัญอย่างมาก อีกทั้งที่มาก็ไม่ธรรมดาผู้นี้!

“ศิษย์น้องเหริน ส่งสารออกไป เรียกรวมศิษย์พี่ศิษย์น้องสำนักหลอมไฟของเราทุกคนที่กระจายตัวอยู่ในเทือกเขาราหู มาตามฆ่าไอ้เด็กเมื่อวานซืนนั่นด้วยกัน!”

เหวยจวิ้นสูดหายใจเข้าลึก หน้าเขียวเยียบเย็น “บอกพวกเขาว่า ถ้าใครตามฆ่าไอ้เด็กนั่นได้ก่อน ข้าเหวยจวิ้นจะยก ‘ลูกกลอนเสวียนจีทะลุสวรรค์’ ให้หนึ่งเม็ด และผลึกวิญญาณระดับสูงอีกร้อยเม็ด!”

หญิงกระโปรงม่วงสูดหายใจอย่างตะลึง ลูกกลอนเสวียนจีทะลุสวรรค์! นั่นมันลูกกลอนหายากที่สามารถช่วยให้ยอดฝีมือระดับมหาสมทุรวิญญาณบรรลุสู่ระดับหยั่งสัจจะเชียวนะ!

แม้แต่ในสำนักหลอมไฟก็มีเพียงลูกศิษย์คนสำคัญเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ มูลค่าไม่อาจประมาณได้!

และนอกจากนี้ยังมีผลึกวิญญาณระดับสูงอีกหนึ่งร้อยเม็ด แรงจูงใจขนาดนี้ เพียงพอที่จะทำให้ยอดฝีมือระดับมหาสมุทรวิญญาณทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้!

เด็กนั่นแย่แน่…

ทันใดนั้นหญิงกระโปรงม่วงพลันตระหนักได้ว่า ไม่ว่าหลินสวินจะเป็นคนฆ่าเฉียนไหวจริงๆ หรือไม่ และไม่ว่าหลินสวินจะมีที่มายิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่สามารถออกจากเทือกเขาราหูได้ตั้งแต่วินาทีที่เขาทำให้เหวยจวิ้นโกรธแล้ว!

……

อาทิตย์อัสดงสาดแสง

หมู่เขาตั้งตระหง่านไม่มีที่สิ้นสุด

ท่ามกลางทุ่งโล่งบนภูเขา หญ้าป่าสีทองกระจายไปทั่วราวกับมหาสมุทร พลิ้วไหวในสายลม ถูกอาทิตย์ตกสีเลือดย้อมเป็นสีแดงอันงดงาม

เงาร่างอันโดดเดี่ยวเดินไปข้างหน้าเพียงลำพัง คราบเลือดบนร่างเขาสะท้อนแสงอาทิตย์ตก ทำให้แยกไม่ออกว่าสีเลือดเข้มกว่าหรือสีจากอาทิตย์อัสดงแดงกว่า

หลินสวินไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดกลับเป็นพลังขับเคลื่อนให้เขาเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ

ร่างกายของเขาชาจนไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ แม้ไม่มีเลือดไหลออกจากแผลกระบี่แล้ว แต่บาดแผลก็แย่ลงเรื่อยๆ

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ พลังกายของเขาใกล้จะเหือดแห้งแล้ว!

พูดได้ว่า ตอนนี้เพียงแค่ผู้ฝึกปราณธรรมดาคนหนึ่งก็สามารถฆ่าหลินสวินได้อย่างง่ายดาย

เดินแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว!

ทันใดนั้นหลินสวินหยุดฝีเท้า สัมผัสได้ว่าความมุ่งมั่นของเขากำลังยันไว้ไม่อยู่ ใกล้จะพังทลายเต็มที สติก็เริ่มพร่าเลือน

เขาจึงนั่งขัดสมาธิลงกับพื้นทันใด กัดฟันแน่นทำจิตใจให้สงบ แล้วหยิบขวดหยกมันแพะโปร่งแสงใบหนึ่งขึ้นมา

ปากขวดหยกถูกปิดผนึกด้วยลายสลักวิญญาณแปลกประหลาดลึกลับ นี่เป็นรางวัลที่ได้รับในงานเลี้ยงฉลองพระชนมพรรษาของจักรพรรดินี ด้านในมีลูกกลอนวิญญาณอยู่เม็ดหนึ่ง

เขาเจาะผนึกลายสลักลึกลับบนปากขวดด้วยปลายนิ้วที่สั่นระริก ทันใดนั้นกลิ่นหอมเย็นยะเยือกดั่งน้ำแข็งก็อบอวลไปทั่ว ทำให้จิตวิญญาณของหลินสวินสั่นสะเทือนฉับพลัน

เพียงแค่กลิ่นหอมจากยาเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าจะได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ!

เขาเอียงปากขวดหยกมันแพะเล็กน้อย ได้ยินเสียงขลุกขลักพร้อมกับที่มีลูกกลอนวิญญาณขนาดเท่าลำไยเม็ดหนึ่งกลิ้งออกมา มันแวววาวราวไพลิน เจือประกายแสงสีฟ้า มองเห็นรางๆ ว่าคล้ายมีเมฆหมอกลอยคลุ้งอยู่ภายในลูกกลอนวิญญาณ วิเศษหาที่เปรียบไม่ได้

เพียงแค่ดูจากภายนอกก็รู้แล้วว่าลูกกลอนเม็ดนี้มีความพิเศษอย่างยิ่ง! อย่างน้อยๆ ก็คงเป็นลูกกลอนวิญญาณระดับสวรรค์ ถึงขนาดที่อาจมีที่มายิ่งใหญ่กว่าด้วยซ้ำ!

หลินสวินไม่รู้ว่ายานี้มีฤทธิ์วิเศษอย่างไร แต่ยามนี้เขาไม่มีเวลาสนใจมากขนาดนั้นแล้ว จึงอ้าปากแล้วกลืนลงไป

พริบตานั้นในปากราวกับถูกจู่โจมด้วยความเย็นยะเยือก ทำให้หลินสวินเย็นจนตัวสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่

และยามกลืนลงท้อง ความเย็นเยียบถึงขั้วกระดูกนั้นก็ระเบิดออกฉับพลัน กลายเป็นพลังอันน่าสะพรึงเหมือนคลื่นน้ำซัดกระหน่ำ แพร่กระจายออกไปทันใด

พลังนั้นใหญ่โตเกินไป และน่ากลัวเกินจินตนาการ ทันใดนั้นหลินสวินรู้สึกราวกับว่าในร่างมีม้าหลายพันตัวกำลังห้อทะยานพุ่งชน อวัยวะตันห้ากลวงหก เส้นลมปราณทั่วร่าง แม้แต่ทุกส่วนของร่างกายล้วนสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดรุนแรง!

ครืน~~

เมื่อพลังอันเยียบเย็นที่ยิ่งใหญ่เกินจะควบคุมนี้พุ่งเข้าสู่ทะเลปราณที่ใกล้จะเหือดแห้ง ก็ราวกับหาที่ระบายได้ ส่งเสียงครืนครันกึกก้องแผ่ซ่านออกมาอย่างรวดเร็ว

หลินสวินรู้สึกตระหนกในใจ ลูกกลอนวิญญาณนี้คืออะไรกันแน่ เหตุใดฤทธิ์ยาจึงน่ากลัวถึงเพียงนี้!

เขาไม่กล้าลังเลอีกต่อไป พลันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วโคจร ‘เคล็ดวิชาหลุมดำกลืนกิน’ ควบคุมลมหายใจ เริ่มนั่งสมาธิ

แต่เพียงชั่วครู่เท่านั้นในใจหลินสวินก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง เขาประเมินพลังของลูกกลอนวิญญาณเม็ดนี้ต่ำไปมาก พลังอันเย็นยะเยือกที่พลุ่งพล่านรุนแรงนั้นราวกับไม่มีที่สิ้นสุด กลายเป็นคลื่นใหญ่โหมซัดพลิกม้วนอยู่ในทะเลปราณ ทั้งยังหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ พลุ่งพล่านมากขึ้นเรื่อยๆ…

อาศัยความเร็วในการหลอมกลั่นของ ‘เคล็ดวิชาหลุมดำกลืนกิน’ อย่างเดียว ก็เกือบจะตามพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นไม่ทัน!

ครืน~~

จวบจนถึงตอนท้าย ในทะเลปราณปรากฏคลื่นพายุพุ่งสูงจรดฟ้า เริ่มโคจรอย่างบ้าคลั่งร่วมกับเคล็ดวิชาหลุมดำกลืนกิน หล่อหลอมฤทธิ์ยาน่าพรั่นพรึงนั้น

และบนจุดปราณทั้งสี่แห่งเส้นปราณหัวใจก็มีพายุก่อตัวขึ้น พาให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปด้วย กลายเป็นหินโม่พายุที่สอดรับไปพร้อมกับคลื่นพายุจรดฟ้าในทะเลปราณ!

จวบจนถึงตอนนี้ หลินสวินจึงสามารถฝืนขับเคลื่อนและควบคุมพลังที่พลุ่งพล่านอยู่ในตัวได้บ้าง

สิ่งนี้ทำให้เห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวของลูกกลอนวิญญาณนี้ แม้จะใช้เคล็ดวิชาหลุมดำกลืนกินไปพร้อมกับหินโม่พายุ ก็ต้องทุ่มกำลังทั้งหมดโคจรจนถึงขีดจำกัด จึงจะสามารถพอควบคุมได้บ้าง!

สามารถจินตนาการได้ว่า หากเป็นผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณคนอื่นๆ เกรงว่าคงถูกฤทธิ์ยาน่าสะพรึงนั่นพุ่งทะลวงจนทำลายพลังปราณ และบีบร่างกายจนระเบิดไปแล้ว

ทว่า…

เพียงหนึ่งถ้วยชาหลังจากนั้น สีหน้าของหลินสวินก็เปลี่ยนไปอีก พลังของลูกกลอนวิญญาณภายในร่างยังคงพลุ่งพล่าน!

ราวกับปากภูเขาไฟที่ปะทุอย่างไม่สามารถควบคุมได้!

ตูม!

พริบตานั้นหลินสวินรู้สึกเพียงว่าร่างกายเหมือนจะระเบิดออก ถูกพลังมหาศาลเข้ามาเติมเต็ม ซัดกระหน่ำอย่างเอาแต่ใจและไม่มีที่สิ้นสุด

และตัวหลินสวินเองก็เสียการควบคุมไปชั่วขณะ สติหลุดลอย ภาพตรงหน้าดับวูบ หงายหลังล้มลงพื้น

ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ทุ่งโล่งสีทองอร่ามถูกปกคลุมด้วยเงารัตติกาล

เด็กหนุ่มนอนหมดสติอยู่กับพื้น เพียงแต่ก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดมิดไปทั้งผืน กลับมีพลังน่าหวาดหวั่นพุ่งออกจากร่างเขาโดยพลัน

พลังนั่นลึกล้ำและรุนแรงมาก!

พุ่งพรวดขึ้นท้องฟ้ากลายเป็นพายุลูกหนึ่ง สาดซัดมวลอากาศ ก่อกวนสายลมเมฆา!

ครื้น~

เสียงสั่นสะเทือนราวกับฟ้าผ่าดังมาจากบนฟากฟ้า สีรัตติกาลแผ่คลุม แสงดาวบิดเบี้ยว หญ้าป่าเขียวชอุ่มบนพื้นดินประหนึ่งถูกฝ่ามือใหญ่ล่องหนข้างหนึ่งบดขยี้จนแหลกละเอียด กลายเป็นฝุ่นผงปลิวกระจาย

วู้มๆๆ~~

ที่ตรงนี้สายลมโหมกระหน่ำโดยมีหลินสวินเป็นศูนย์กลาง ภายในรัศมีสิบลี้ ต้นไม้ใบหญ้า ก้อนหินและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดสลายไป

ในบริเวณห่างไกลออกไปมีเสียงคำรามอย่างตื่นตระหนกของสัตว์อสูรมากมาย พวกมันวิ่งหนีกระเจิงไปซ่อนตัวอยู่ในระยะไกล ราวกับกลัวว่าจะได้รับผลกระทบ เมื่อดังขึ้นท่ามกลางท้องฟ้าสีรัตติกาลแล้วชวนขนลุกมากเป็นพิเศษ

มองจากระยะไกลบริเวณนี้เหมือนกลายเป็นกระแสน้ำวนใหญ่ พุ่งออกมาเป็นลมพายุทะลวงฟ้า ราวกับจะกลืนท้องนภา!

และทั้งหมดนี้ล้วนมาจากพลังที่ปลดปล่อยออกจากภายในร่างหลินสวิน

หลินสวินที่หมดสติอยู่ไม่อาจสังเกตได้เลยว่า ยามนี้ในจุดปราณทั้งสี่แห่งเส้นปราณหัวใจของเขา มีชีพจรวิญญาณที่ราวกับเป็นภาพมายาหนึ่งซ่อนอยู่รางๆ และค่อยๆ เกิดการเปลี่ยนแปลง…

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด