Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 457 สภาพการณ์พลันแปรเปลี่ยน

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 457 สภาพการณ์พลันแปรเปลี่ยน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 457 สภาพการณ์พลันแปรเปลี่ยน
โดย

บริเวณทางเข้าแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นทุกคนแตกตื่นพากันกรูออกไปข้างนอก ด้วยกลัวว่าหากช้าไปก้าวเดียวก็จะประสบเคราะห์ ถูกปิดล้อมสังหารในนั้น

ในเดือนปีที่ผันผ่าน ทุกครั้งที่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นจะปิดลง ล้วนมีตัวอย่างของผู้ฝึกปราณที่ติดค้างอยู่ในนั้นจนร่างสลายวิญญาณสาบสูญ

ด้วยเหตุนี้ ใครก็ไม่กล้าอยู่ต่ออีก

รวมถึงหลินสวินและเหลียนเตี๋ยอีก็รีบเร่งพุ่งตัวออกมาเช่นกัน

สวบ!

เพียงแต่เพิ่งออกมาจากทางเข้าแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นเท่านั้น ทวนเล่มหนึ่งก็ถูกยิงออกมา ควบรวมด้วยแสงอัศจรรย์ พุ่งกวาดตามแนวราบมายังเหลียนเตี๋ยอี

ตู้ม!

เหลียนเตี๋ยอีเหมือนเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว มืองามทำมุทรา บังเกิดแสงสีรุ้งสลายการโจมตีนี้ แล้วพลันหายตัวอย่างรวดเร็วหลบไปอีกด้าน

ที่นี่มีผู้ฝึกปราณมากเกินไป แออัดเบียดเสียด จะลงมือทำอะไรก็ไม่อาจไม่กระทบคนอื่น พาให้ตนเหมือนถูกผูกไม้ผูกมือ สำแดงพลังออกมาได้ยาก

“หนุ่มน้อยรูปหล่อ มาทางนี้!”

เหลียนเตี๋ยอีพุ่งไปข้างหน้าพลางโบกมือเรียกหลินสวิน

“คิดจะไปหรือ หยุดอยู่ตรงนั้นนะ!”

เสียงตะคอกดังขึ้น ทวนเล่มนั้นพุ่งโจมตีอีกครั้ง แสงสว่างวูบวาบแปรสภาพเป็นเงาทวนเต็มฟ้าในการโจมตีเดียว ถึงกับปกคลุมเหลียนเตี๋ยอีและหลินสวินเอาไว้โดยสมบูรณ์

นั่นเป็นชายในเกราะทองผู้หนึ่ง สีหน้าเหี้ยมเกรียม พลานุภาพดุจดวงตะวัน จิตสังหารพลุ่งพล่าน

ไม่ต้องเดาเลย นั่นก็คือผู้สืบทอดตระกูลปราบมารไป๋อวี่!

เดิมทีเมื่อออกจากแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นหลินสวินก็คิดจะแยกกับเหลียนเตี๋ยอี แต่ไม่คิดว่าเพิ่งจะออกมาก็ถูกเล่นงานเข้า

นี่ทำให้เขาสีหน้าถมึงทึง กระแทกหมัดออกไป

เสียงปึงดังสนั่น เงาทวนวูบไหวแหลกสลายกลายเป็นละอองแสงปลิวว่อน

ในเวลาเดียวกันเหลียนเตี๋ยอีก็ร้องเสียงใส ทั้งกายอวลไปด้วยแสงสีรุ้ง ซัดลำแสงออกมาจากมืองามทำให้ไป๋อวี่ผู้นั้นล่าถอยไป

ฟุ่บๆ

นางกับหลินสวินทะยานไปยังที่ไกลออกไป

“ทิ้งสมบัติไว้ แล้วจะไว้ชีวิตเจ้า!”

บนทางข้างหน้าพลันปรากฏเงาร่างอ้อนแอ้นบริสุทธิ์ราวเซียน งดงามเกินธรรมดา ในฝ่ามือเรียวเล็กราวหยกขาวมีลำแสงสีฟ้าสดใสไหลวน

ผู้สืบทอดเขาเมฆาสวรรค์หลิงจื่อนั่ว!

เหลียนเตี๋ยอีสีหน้าเปลี่ยนไป พุ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง

‘หนุ่มน้อยรูปหล่อ พวกเขาแอบวางแผนกันไว้ก่อนแล้วว่าจะรั้งตัวพวกเราไว้ที่นี่ ช่วยข้าขจัดอุปสรรคที หลังจากนั้นพวกเรามาครองสมบัติลับราหูร่วมกัน!’

เหลียนเตี๋ยอีสื่อจิต

หลินสวินอดลังเลไม่ได้ เขาไม่อยากร่วมลงน้ำโคลนนี่อีกแล้ว

เพียงแต่เขายังไม่ทันได้ปฏิเสธ ไป๋อวี่ที่เหมือนเทพสงครามก็โจมตีอีกครั้ง เกราะทองของเขาเปล่งแสง ทวนว่องไวราวสายฟ้า พลานุภาพมหัศจรรย์ปกคลุมไปทั่วทั้งโลกา

โครม!

เหลียนเตี๋ยอีไปรับหน้า แสงสีรุ้งในฝ่ามือแปรสภาพเป็นผืนแพรต่อต้านไป๋อวี่

‘หนุ่มน้อยรูปหล่อ รีบลงมือ! ถ้าถูกพวกมันปิดล้อม พวกเราสองคนก็ไม่ต้องคิดหนีแล้ว!’

เหลียนเตี๋ยอีสื่อจิต ร้อนรนหาใดเทียบ

‘ข้า…’

หลินสวินกำลังจะพูดอะไร อีกด้านหนึ่งกระบี่โบราณเล่มหนึ่งก็พุ่งผ่านอากาศออกมา ส่งเสียงชิ้งๆ เหมือนมังกรกระซิบ ควบรวมแสงสุกสกาวพุ่งกำราบหลินสวิน

นี่ทำให้เขาสีหน้านิ่งขึง เดิมตนไม่ต้องการต่อสู้ แต่เจ้าพวกนี้เห็นได้ชัดว่ามองเขาเป็นสหายของเหลียนเตี๋ยอี จะสังหารไปด้วยกันให้ได้

ตูม!

ทั้งร่างของหลินสวินราวหินหนืดปะทุ แสงสีฟ้าอ่อนอบอวลไปทั่วร่าง เมื่อกระแทกหมัดออกไปก็ปะทะเข้ากับกระบี่โบราณเล่มนั้น

ในที่นั้นเกิดเสียงปะทะดังขึ้นราวกริชทองร้องประสาน กระบี่โบราณถูกกระแทกจนส่งเสียงวิ้ง ไม่อาจทำให้หลินสวินบาดเจ็บ

เสียงเบาๆ ดังขึ้นจากที่ไกลๆ ทันใดนั้นก็เห็นเด็กหนุ่มสวมชุดนักพรต ใบหน้าเกลี้ยงเกลาหมดจด ทั้งร่างเปี่ยมด้วยไอสมบัติโฉบออกมา

ผู้สืบทอดสำนักกระบี่แรกวิญญาณอวิ๋นเคอ!

“อสูรมารสาว ข้าจะดูว่าครั้งนี้เจ้าจะหนีไปไหน!”

แทบจะในเวลาเดียวกัน เสียงคำรามดังขึ้นสะเทือนเมฆา คนหนุ่มในชุดสีดำราวเทพวานรปรากฏตัวขึ้น จิตสังหารพวยพุ่งทั่วร่าง เป็นผู้สืบทอดสำนักเทพโลหิตหยวนจั้น

อีกด้านหนึ่ง เถี่ยเชียนหานผู้สืบทอดสำนักสงัดดาราที่พาดกระบองเหล็กไว้บนไหล่ เงาร่างสูงใหญ่กำยำราวบรรพตก็ย่างสามขุมเข้ามาเช่นกัน

นอกจากนี้ ผู้สืบทอดสำนักโบราณหลายคนที่ไม่ด้อยไปกว่าหลิงจื่อนั่ว อวิ๋นเคอ ไป๋อวี่ หยวนจั้น ก็ทะยานมาทางนี้

สถานการณ์เปลี่ยนเป็นโหดร้ายน่าหวาดหวั่นถึงที่สุด

เดิมทีผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนที่พุ่งออกจากแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นก็รวมตัวกันที่บริเวณนี้ ด้วยเกิดการต่อสู้ที่นี่ จึงดึงดูดเสียงฮือฮาแตกตื่นและพากันหลบไป ยังผลให้เกิดที่ว่างขึ้น

เพราะดูออกว่าการต่อสู้นี้ไม่ธรรมดายิ่ง ผู้ที่ลงมือล้วนเป็นอัจฉริยะผู้โดดเด่นในโลกาที่มีชื่อเสียงระบือลั่น ที่มาที่ไปน่าหวั่นกลัวยิ่งนัก

ตอนนี้แม้พวกเขาไม่เคยร่วมมือกัน ทว่าปลายอาวุธล้วนพุ่งตรงไปยังผู้สืบทอดแดนวิญญาณหมื่นมายาเหลียนเตี๋ยอี พาให้หลายคนสะท้านขวัญ

เห็นได้ชัดว่าเหลียนเตี๋ยอีต้องก่อเรื่องใหญ่ในแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นแน่ ถึงได้รับ ‘การปฏิบัติ’ เช่นนี้

ที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงที่สุดก็คือ ข้างกายเหลียนเตี๋ยอีกลับมีคนติดตามมาคนหนึ่งถูกโจมตี

นั่นเป็นเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง หน้าตาหล่อเหลา ดวงตาสีดำลุ่มลึกราวห้วงน้ำ ท่าทางโดดเด่นยิ่ง ดูไม่คุ้นหน้าอยู่บ้าง

เด็กหนุ่มผู้นี้ย่อมเป็นหลินสวิน สาเหตุที่ไม่มีใครจำเขาได้ ก็ล้วนเป็นเพราะตัวเขาก่อนหน้านี้เสื้อผ้าขาดวิ่นเปื้อนเลือด ท่าทางสะบักสะบอม ทั้งกลิ่นอายก็เหี้ยมเกรียมเหลือแสน

ส่วนเขาในตอนนี้ก่อชีพจรวิญญาณขึ้นมาใหม่ ทำให้ทั้งร่างกายแปรเปลี่ยน อีกทั้งยังเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าที่สะอาดเรียบร้อย ตัวเขาเหมือนเกิดใหม่ บารมีเปล่งปลั่งทำให้ผู้อื่นไม่อาจจำได้

การต่อสู้กำลังปะทุ วุ่นวายอลหม่าน พาให้กลุ่มผู้ฝึกปราณหลบออกไป

สีหน้าและอารมณ์ของหลินสวินล้วนย่ำแย่ เพิ่งออกมาจากแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นก็ถูกคนไม่รู้จักกลุ่มหนึ่งล้อมโจมตี ไม่ให้โอกาสเขาได้อธิบายเลย

ที่ทำให้หลินสวินหงุดหงิดที่สุดก็คือ เจ้าพวกนี้ลงมืออย่างร้ายกาจไร้น้ำใจ ประหนึ่งหมายจะสังหารสิ้น พาให้ผู้อื่นไม่อาจโอนอ่อนได้

คิดว่าเขารังแกได้ง่ายจริงหรือ

“พอแล้ว!”

เสียงตูมดังขึ้น หลินสวินสำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ พลังหมัดเพิ่มขึ้นสี่เท่า บดขยี้ห้วงอากาศ ทำให้การโจมตีที่หมายสังหารสิ้นทุกอย่างสั่นสะเทือน

“ข้าไปหาเรื่องพวกเจ้าตอนไหนถึงได้กัดไม่ปล่อย”

ดวงตาสีดำของหลินสวินเย็นเยียบ กวาดไปทั่วพื้นที่ พลังปราณทั่วร่างเขาราวห้วงน้ำเหวลึก มีอานุภาพโอหังราวกลืนฟ้าอยู่ในที

นี่ยังผลให้ผู้ฝึกปราณหลายคนพากันตื่นตะลึง พลังของเจ้านี่แข็งแกร่งนัก!

“อยู่กับอสูรมารสาวผู้นั้น ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นคนจำพวกเดียวกัน ต้องฆ่า!”

เทพสังหารน้อยไป๋อวี่ส่งเสียงหึหยัน ดุดันกดขี่ เห็นหลินสวินเป็นเหยื่อล่า ยามพูดจาทวนในมือเขาก็พลิ้วไหวปราดเปรียวฟันลงมาอย่างแรง

ห้วงอากาศแถบนี้ถูกบดขยี้ ดูน่ากลัวถึงที่สุด

“ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่เจ้าร่วมทางกับอสูรมารสาว ต่อให้ถูกฆ่าก็แค้นใครไม่ได้!”

อีกด้านหนึ่งหยวนจั้นยิ้มเหี้ยม เงาร่างของเขาดุจมารวานร เลือดลมทั่วร่างพลุ่งพล่าน ลมหมัดอหังกาหาใดเทียบ

คนที่ล้อมโจมตีหลินสวินมีมากนัก ไม่เพียงแค่พวกเขาสองคน ยังมีพวกผู้สืบทอดสำนักโบราณอื่นๆ จิตสังหารล้วนพุ่งปะทุ

สถานการณ์ของเหลียนเตี๋ยอีที่อยู่ข้างๆ หลินสวินก็ไม่ต่างกันเท่าใดนัก

เมื่อมองลงมาจากบนท้องฟ้าจะเห็นว่าพวกเขาสองคนถูกปิดล้อมไว้ตรงกลาง สี่ด้านแปดทิศล้วนเป็นผู้เก่งกาจที่อานุภาพเลื่องระบือ

หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่น น่ากลัวคงถูกสังหารคาที่ไปนานแล้ว ด้วยแตกต่างกันเกินไป ศัตรูมีมากฝั่งตนมีน้อย โอกาสชนะริบหรี่

โครม!

บริเวณนั้นสั่นสะเทือน ถูกแสงสีต่างๆ เข้ามาเติมเต็ม ทำให้หินผาแหลกเป็นจุณ พื้นดินแตกระแหง สั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ

ไม่นานนักใบหน้างามของเหลียนเตี๋ยอีก็ซีดขาว ถูกอัสนีบาตรสีฟ้าที่หลิงจื่อนั่วสำแดงออกมาฟาดเข้าที่ไหล่ เลือดพุ่งกระฉูด ได้รับบาดเจ็บแล้ว

ทุกคนดูออกว่าไม่ช้าก็เร็วเหลียนเตี๋ยอีต้องจบเห่ ไม่มีทางพลิกสถานการณ์ได้เลย

เช่นเดียวกัน เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างกายนางก็ต้องสิ้นชื่อไปด้วย ไม่อาจโชคดีมีชีวิตรอดจากการโจมตีของยอดผู้แข็งแกร่งมากมายได้อีก

เห็นเหลียนเตี๋ยอีได้รับบาดเจ็บ จิตสังหารในใจหลินสวินพลันปรากฏ เขารู้ดีว่าหากไม่ใช้พลังที่แท้จริง เรื่องในวันนี้ไม่มีทางจบลงด้วยดีแน่!

แต่ก็เป็นเวลานี้เองที่เหลียนเตี๋ยอีพลันส่งเสียง “หนุ่มน้อยรูปหล่อ เจ้าไม่ใช่ว่าอยากหยั่งรู้ปริศนาของวิชาลับราหูหรือ เจ้านำมันจากไปเถอะ”

นางพูดพลางสะบัดมือ โยนเขาเดี่ยวสีขาวเปล่งประกายออกมาให้หลินสวิน

วิชาลับราหู!

เมื่อได้ยินทั้งที่นั้นก็สั่นสะเทือน ทุกคนพากันอิจฉาตาร้อน หายใจกระชั้น ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดเหลียนเตี๋ยอีผู้นั้นถึงถูกล้อมโจมตี ที่แท้ยามนางอยู่ในแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นก็ได้มรดกวิชาลับของราชาอสูรมารราหูมาครองนี่เอง!

กลุ่มผู้กล้าที่ล้อมโจมตีเหลียนเตี๋ยอีไว้ล้วนประหลาดใจ ไม่คิดว่าในสถานการณ์คับขันเช่นนี้นางจะยอมปล่อยวิชาลับราหูไปได้

อีกทั้งพวกเขายังดูออกว่าเขาสัตว์อันนั้นกลิ่นอายไพศาล ต้องไม่ใช่ของปลอมแน่ แต่เป็นเขาสัตว์ที่เป็นของราชาอสูรมารราหูของจริง!

แต่เมื่อหลินสวินถือเขาสัตว์สีขาวนั้นไว้ในมือ ในใจกลับเต้นตึกตัก รับรู้ได้ว่าผิดปกติ

เหลียนเตี๋ยอีผู้นี้แม้ต้องการมอบสมบัติให้ตนก็ไม่ต้องตะโกนเสียงดังกระมัง…

“เจ้าหนู ส่งสมบัตินี้มา!”

“ดูท่าเจ้าเด็กนี่คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับอสูรมารสาวเพียงเล็กน้อยอย่างที่คิด”

“ฆ่าเจ้าหนูนี่ก่อนเลย!”

เวลานี้เหล่าผู้กล้าที่เดิมล้อมโจมตีเหลียนเตี๋ยอีอย่างหลิงจื่อนั่ว เถี่ยเชียนหาน สายตาพลันพุ่งเป้าไปยังหลินสวิน

โครม!

การต่อสู้ดำเนินต่อไป เพียงแต่เวลานี้เป้าหมายหลักในการโจมตีล้วนรวมอยู่ที่หลินสวิน

ทันใดนั้นแรงกดดันบนตัวหลินสวินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ เห็นได้ชัดว่าเหลียนเตี๋ยอีผู้นั้นกำลังใส่ความตน!

“ทุกท่าน ข้ามอบวิชาลับให้แล้ว หากพวกท่านยังตามขัดขวางสังหารข้าอีก เช่นนั้นอย่างหาว่าข้าก่อบาปสังหารใหญ่เลยนะ!”

เงาร่างของเหลียนเตี๋ยอีแปรสภาพเป็นแสงรุ้งสุกสกาว เปิดช่องทางหนึ่งเสียงดังโครม หนีไปไกลลิบ

มีคนคิดจะตามไปแต่ก็อดทนไว้ในท้ายที่สุด เพราะวิชาลับราหูถูกส่งต่อมาอยู่ในมือหลินสวินแล้ว ไปตามฆ่าเหลียนเตี๋ยอีก็ไม่คุ้มค่าอย่างชัดเจน

เห็นได้ชัดว่าผู้อื่นก็คิดเช่นนี้ แม้ในใจจะโมโหที่เหลียนเตี๋ยอีจากไป แต่สุดท้ายก็ล้วนเลือกอยู่ที่เดิมเพื่อต่อกรหลินสวิน

“หนุ่มน้อยรูปหล่อ ขอโทษด้วยนะ เพื่อรักษาชีวิตพี่สาวได้แต่ทำเช่นนี้ แต่ข้าก็ให้วิชาลับราหูกับเจ้าแล้ว หากเจ้าตายไปก็อย่าเคืองแค้นข้าล่ะ”

เสียงหัวเราะราวกระดิ่งเงินของเหลียนเตี๋ยอีดังขึ้นจากที่ไกลๆ ออดอ้อนออเซาะหาใดเทียบ เจือแววได้ใจ

ถูกคิดบัญชีอย่างที่คิดไว้เลย!

หลินสวินลอบถอนใจ เขารู้นานแล้วว่าหญิงนางนี้ไม่น่ายุ่งเกี่ยวด้วย แต่คิดไม่ถึงว่านางจะเจ้าเล่ห์เพียงนี้

“เจ้าไม่เสียดายหรือ ไม่อยากได้มรดกราหูนั่นแล้วหรือ”

หลินสวินส่งเสียงปั่นป่วนราวอัสนีบาตร

เพียงแต่ครั้งนี้เหลียนเตี๋ยอีสื่อจิตตอบกลับพลางหัวเราะว่า ‘อ้อ ลืมบอกเจ้าไป วิชาลับราหูแท้จริงเป็นลายสมบัติผืนหนึ่ง ไม่มีมรดกสืบทอดอะไร ข้ารู้อยู่แก่ใจมานานแล้ว น่าเสียดายนะ เจ้าพวกนั้นต้องไม่เชื่อแน่ ดังนั้น…ก็ได้แต่ต้องให้เจ้าลำบากแล้วล่ะ แน่นอนว่าเจ้าจะมอบมันไปก็ได้นะ อาจจะแลกชีวิตกลับมาได้’

‘ทำไมไม่ใส่ร้ายคนอื่น แต่มาใส่ร้ายข้า’

หลินสวินแค้นจนลอบกัดฟัน อัดอั้นยิ่งนัก

‘อ้อ เรื่องนี้หรือ ง่ายจะตาย ใครใช้ให้เจ้าปฏิเสธตอนที่ข้าขอให้เจ้ามาร่วมมือกับข้าเล่า ข้าเป็นผู้หญิง แค้นฝังใจนักล่ะ’

เหลียนเตี๋ยอีหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงออดอ้อนฟังดูได้ใจอย่างพูดไม่ถูก ไม่นานนักก็หายไป

หลินสวินหน้าเสียอย่างหาใดเปรียบ เพียงเพราะการปฏิเสธครั้งเดียวก็คิดบัญชีกับตนแล้ว ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมเสียจริง!

แต่หลินสวินมาคิดมากก็ไม่ทันแล้ว เขาตัวคนเดียวกำลังเผชิญการล้อมโจมตีรอบทิศ!

คนพวกนั้น แต่ละคนเรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือ ชื่อเสียงระบือลั่น อานุภาพเหลือคณา หมายจะสังหารเขาเพื่อชิงวิชาลับราหู!

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด