Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 470 จับได้ในครั้งเดียว

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 470 จับได้ในครั้งเดียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 470 จับได้ในครั้งเดียว
โดย

พลั่ก

จั่วหยางล้มลงพื้น ระหว่างนั้นยังกระอักเลือดระรัว

เพียงหมัดเดียวเท่านั้นกลับทำให้ฝั่งตรงข้ามบาดเจ็บสาหัสจนลุกไม่ขึ้นอีก พาให้ทุกคนในลานตัวแข็งทื่อ ยากจะเชื่อ

วิชามหาเพลิงผลาญสวรรค์เชียวนะ!

นี่เป็นวิชาเฉพาะของตระกูลจั่วบวกกับพลังปราณชั้นยอดของจั่วหยาง กลับถูกกำราบในการโจมตีเดียว!

ใครจะเชื่อลง

พวกคนตระกูลจั่วต่างตาค้าง พ่ายแพ้ได้น่าเกลียดเกินไปแล้ว ราวกับต้านทานไม่ได้เลย แค่การโจมตีเดียวก็พ่ายแพ้เสียแล้ว…

ด้านคนตระกูลฉินเองก็ตกตะลึง พวกเขาต่างดูออกว่าไม่ใช่จั่วหยางไม่แข็งแกร่งพอ แต่เพราะหลินสวินซึ่งอยู่ในระดับมหาสมุทรวิญญาณ ได้ก้าวมาถึงขั้นที่เรียกว่าน่าสะพรึงได้แล้ว!

ถ้าเมื่อครู่เป็นคุณชายฉินซิงของพวกเขาที่ชิงลงมือก่อนล่ะก็…

คิดถึงตรงนี้ สีหน้าของคนตระกูลฉินต่างเปลี่ยนไป ไม่กล้าคิดต่อ

ขณะนี้แม้แต่พวกของเสี่ยวเคอ พญาแร้ง หลินจงและจูเหล่าซานเองก็ตะลึง หลังหลินสวินออกจากการปิดด่านเก็บตัวฝึกในครั้งนี้ก็เปลี่ยนไปมาก มีพลังเหนือคนทั่วไป กำลังต่อสู้ก็แข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอจะสู้กับข้า เจ้าก็ไม่เชื่อ คราวนี้เจ้าพอใจหรือยัง”

เงาร่างของหลินสวินพุ่งไปอยู่ข้างๆ จั่วหยางแล้วหิ้วตัวเขาขึ้น ยิ้มอย่างสดใส

เพียงแต่ในสายตาของจั่วหยาง รอยยิ้มนั้นกลับดูเสียดตา กระตุ้นจนเขาแทบคลั่ง คำรามดิ้นรนต้องการต่อสู้อีกครั้ง

เพียงแต่เขาเพิ่งจะขยับตัวก็กระอักเลือดระรัว ภาพตรงหน้ามืดสลัว เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่นี้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงเกินไป ทำให้เขาไม่มีเรี่ยวแรงจะดิ้นรน

“หลินสวิน เจ้าอย่าได้ย่ามใจไป!”

จั่วหยางกรีดร้อง ผมเผ้ายุ่งเหยิง เขาในก่อนหน้านี้มาดผู้กล้ายโสโอหัง ยามนี้กลับเลือดอาบตัว บาดเจ็บสาหัส ถูกหลินสวินจับกุม เมื่อเทียบกันแล้วดูน่าสงสารอย่างที่สุด พาให้อดสลดใจไม่ได้

“บังอาจ!”

“ปล่อยคุณชายของข้าเดี๋ยวนี้!”

“เจ้าหนุ่มอย่าหาเรื่องใส่ตัว ศึกนี้เจ้าชนะแล้ว รีบปล่อยจั่วหยางซะ มิเช่นนั้นไม่เพียงแค่เจ้า แต่ทั้งภูเขาชำระจิตต้องเจอมหาภัย!”

เหล่าคนตระกูลจั่วเอะอะโวยวาย สีหน้าเดือดดาล ด้วยกลัวว่าหลินสวินจะฆ่าจั่วหยางจึงส่งเสียงข่มขู่

หลินสวินยิ้ม พลันโยนจั่วหยางให้หลินจงเหมือนโยนขยะ เอ่ยว่า “เฝ้าเขาไว้ให้ดี ใครกล้าลงมืออุกอาจก็ฆ่าจั่วหยางนี่ก่อนเลย”

“นายน้อยไม่ต้องห่วง”

หลินจงหิ้วจั่วหยางขึ้นเหมือนหิ้วลูกไก่ เขาเป็นถึงผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะ แค่คิดก็รู้ว่าออกแรงเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะเอาชีวิตของจั่วหยางได้อย่างง่ายดาย

“พวกเจ้ารนหาที่ตาย!”

บรรดาคนตระกูลจั่วต่างเดือดแค้น โมโหจนเบ้าตาแทบจะหลุดออกมา ไม่คิดเลยว่าหลินสวินจะไม่รู้จักกลัว คุมตัวจั่วหยางเอาไว้ ทั้งยังเอาชีวิตของจั่วหยางมาขู่พวกเขา สมควรเอาตัวมาหั่นเป็นชิ้นๆ!

“หลินสวิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่”

สีหน้าของชายชราร่างผอมจั่วเซิงจินอึมครึมน่ากลัว น้ำเสียงแฝงการข่มขู่ เต็มไปด้วยไอสังหาร “หากคุณชายจั่วเป็นอะไรขึ้นมา พวกเจ้ารับโทสะรุนแรงของตระกูลจั่วไม่ไหวหรอก!”

“เจ้าหมาแก่ ขนาดนี้แล้วเจ้ายังกล้าข่มขู่ข้าอีกหรือ”

หลินสวินขมวดคิ้ว “ลุงจง ข้าว่าฆ่าจั่วหยางก่อนเลยดีกว่า”

“อย่า…!”

จั่วหยางตกใจจนกรีดร้องทันควัน เขากลัวแล้วจริงๆ หลินสวินคนนี้ยกำเริบเสิบสานถึงที่สุด แม้แต่หลิงเทียนโหวยังถูกบังคับให้คุกเข่า ยังจะมีอะไรที่เขาไม่กล้าทำ

โดยเฉพาะเมื่อครู่นี้จั่วหยางเห็นกับตาว่าหลินสวินฆ่าหลินจือ นั่นเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาเชียวนะ!

ในสถานการณ์แบบนี้จั่วหยางกลัวแล้วจริงๆ

“อย่าทำบ้าๆ!”

ยามนี้จั่วเซิงจินเองก็จำต้องยอมถอย โกรธหน้าเขียว กัดฟันอย่างชิงชังจนแทบแหลกละเอียด “ขอเพียงแค่พวกเจ้าปล่อยคุณชายจั่วหยางไป ทุกอย่างล้วนเจรจากันได้”

“อ้อ เช่นนั้นจะไว้ชีวิตสุนัขของเขาก่อนก็ได้”

หลินสวินพูดอย่างสบายๆ สายตามองไปที่ฉินซิงซึ่งอยู่อีกข้าง พลันเผยรอยยิ้ม “ดูพอหรือยัง เราเริ่มกันเถอะ”

ฉินซิงสั่นไปทั้งตัว ยามนี้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในใจเขาสลายไปแล้ว ถูกความหวาดกลัวเข้ามาแทนที่ ยังจะกล้าเข้าไปสู้ซะที่ไหน

จั่วหยางเป็นบุคคลที่มีฝีมือเก่งกาจสูสีกับเขา แต่ยามนี้พ่ายแพ้ให้กับหลินสวินในหมัดเดียว ต่อให้ฉินซิงจะผยองแค่ไหน ก็รู้ว่าแม้เขาสู้สุดชีวิตก็สู้หลินสวินไม่ได้อยู่ดี

เพียงแต่เขาเพิ่งคิดจะหนี ก็เห็นเงาร่างของหลินสวินพุ่งเข้ามาแล้ว

“มา สู้! เจ้าอยากชนะข้าเพื่อชื่อเสียงไม่ใช่หรือ ข้าให้โอกาสเจ้า!”

ท่ามกลางเสียงตะโกน เงาร่างของหลินสวินราวกับชือน้ำแข็งเคลื่อนไหวกลางอากาศ แรงหมัดราวกับภูเขาทลาย คลื่นมหาสมุทรซัดกระหน่ำ บดขยี้อากาศออกไป

“เจ้ากล้า!”

ฉินซิงทั้งตะลึงทั้งโกรธ ทีแรกเขาคิดจะหนี แต่หลินสวินกลับเป็นฝ่ายพุ่งเข้ามาก่อน ท่าทางเหมือนจะจับตัวเขาไปด้วยอีกคน ทำให้เขาโกรธจนแทบระเบิด

อวดดีเกินไปแล้ว!

เจ้าหมอนี่ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด!

มีพริบตาหนึ่งที่ฉินซิงอยากสู้สุดชีวิต แต่สุดท้ายเพราะสัญชาตญาณบางอย่างทำให้เขาเลือกที่จะหนี

ฟุ่บ!

เงาร่างของเขาวูบไหว โฉบไปทางกลุ่มคนตระกูลฉินทันที

เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าหลินสวินระวังทุกอย่างเอาไว้ก่อนแล้ว ใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็งไปขวางอยู่ตรงหน้าฉินซิงราวกับวิญญาณ

“ถอยไป!”

ฉินซิงตะเบ็งเสียงกราดเกรี้ยว ประกายสีทองแผ่ไปทั่วทั้งร่าง ใช้พลังทั้งหมดหมายจะทำให้หลินสวินสะเทือนถอย

เขาใช้วิชาลับที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ โคจรคุณลักษณะพรสวรรค์ ‘กายพรตกระดูกทอง’ ร่างกายราวกับทองคำหลอม พลานุภาพยิ่งใหญ่

เห็นว่าเขาเคลื่อนตัวมาราวกับภูเขาทองคำ บดขยี้อากาศ บีบอัดกระแสลม อานุภาพน่าสะพรึงกลัว

ทว่าเพียงหมัดเดียวของหลินสวินก็มีอานุภาพทำลายยิ่งใหญ่ พลังมหาศาลทำลายแสงทองทั่วร่างเขาจนแตกกระจาย แรงหมัดอันน่าสะพรึงสะเทือนจนเขาควบคุมไม่อยู่ ปลิวกระเด็นออกไป

ทุกคนในลานหนังหัวชาวาบ เบิกตาโพลง แม้แต่ฉินซิงก็ยังพ่ายแพ้ภายใต้การโจมตีเดียว! นี่มันวิชาหมัดอะไรกัน เย้ยฟ้าเกินไปหรือเปล่า

เสียงพลั่กดังลั่น ฉินซิงมาล้มอยู่ตรงหน้าหลินจงพอดี ถูกหลินจงคว้าตัวขึ้นมาและควบคุมเอาไว้

“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ตายซะ!”

เสียงตู้มดังขึ้น ฝั่งตระกูลฉิน ฉินอันผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะจู่โจมออกมา ร่างเงารวดเร็วจนเหลือเชื่อ จู่ๆ ก็มาอยู่ตรงหน้าหลินสวิน หมายจะคุมตัวเขาเอาไว้เพื่อพลิกสถานการณ์ ช่วยฉินซิงกลับมา

เพียงแต่แม้ฉินอันจะไว แต่มีคนไวกว่าเขา!

ฟุ่บ!

ร่างสูงใหญ่กำยำขวางอยู่ตรงหน้าหลินสวิน ฝ่ามือโจมตีออกมาเป็นเสียงดังกึกก้อง ฉินอันสะเทือนจนเซถอย

จูเหล่าซาน!

แม้ก่อนหน้านี้เขานิ่งเงียบไม่พูดจา แต่กลับเฝ้าดูสถานการณ์อย่างไม่คลาดสายตา การโจมตีครั้งนี้หลินสวินไม่จำเป็นต้องสั่งด้วยซ้ำ ทั้งยังเอาชนะฉินอันได้ในคราเดียว!

หลินสวินถือโอกาสนี้กลับไปอยู่ข้างๆ หลินจงอย่างปลอดภัย

“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน! ปล่อยคุณชายของข้าเดี๋ยวนี้!”

คนตระกูลฉินเองก็คำรามด้วยความโกรธ ทุกอย่างเกิดขึ้นไวเกินไป ใครจะกล้าจินตนาการว่าไม่เพียงจั่วหยางที่พ่ายแพ้อย่างราบคาบ แม้แต่ฉินซิงเองก็ต้านการโจมตีเดียวของหลินสวินไม่ได้

เหลือเชื่อมากจริงๆ ผู้กล้ารุ่นหนุ่มสาวสองคนที่ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งนครต้องห้าม เพียงพริบตาเดียวก็ถูกสยบจนสะบักสะบอม

หลินสวินใช้พลังอันเย้ยฟ้า ทำให้ผู้ฝึกปราณตระกูลจั่วและฉินตั้งตัวไม่ทันด้วยซ้ำ!

ไวเกินไปแล้ว!

ยามนี้จั่วหยางและฉินซิงถูกจับตัว ทำให้คนตระกูลจั่วและฉินต่างหวาดเกรง ไม่กล้าเคลื่อนไหว ได้แต่ด่าทอข่มขู่อย่างเกรี้ยวกราด

“หลินสวิน เจ้ากำลังรนหาที่ตาย นำพามหันตภัยสู่ภูเขาชำระจิตของพวกเจ้า!”

“ไอ้ลูกหมา ให้โอกาสเจ้าครั้งหนึ่ง ปล่อยคุณชายของข้า เรื่องวันนี้เราจะไม่เอาความ มิเช่นนั้นผลลัพธ์ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะรับไหวแน่!”

“ปล่อยคนเดี๋ยวนี้!”

คนเหล่านั้นตะเบ็งเสียงโมโหเดือด

หลินสวินกลับไม่เร่งไม่รีบ ยกมือขึ้นแล้วสะบัดฝ่ามือใส่แก้มของจั่วหยางและฉินซิงรอบหนึ่งอย่างรุนแรง ตบจนทั้งสองตะโกนด้วยความโกรธ แก้มบวมแดงช้ำเลือด

นี่เป็นความอับอาย!

ถูกจับตัวเหมือนนักโทษ ทั้งยังถูกหลินสวินตบหน้าต่อหน้าทุกคน ทำให้ทั้งสองแค้นจนตัวสั่น ใกล้คลั่งอยู่รอมร่อ

พวกเขามาจากตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูง ฐานะสูงส่ง ทั้งความสามารถก็โดดเด่น ได้รับการยกย่องจากคนในตระกูล ไปถึงไหนก็ได้รับความเคารพ เคยได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจแบบนี้เสียที่ไหน

“เจ้ารนหาที่ตาย สักวันข้าจะป่นกระดูกเจ้าให้แหลกละเอียด!”

“เจ้าคอยดู คอยดู…!”

จั่วหยางและฉินซิงคำราม

และคนในตระกูลของพวกเขาต่างก็โกรธจนหน้าดำหน้าแดง หายใจหอบถี่ รังแกกันเกินไปแล้ว รังแกกันเกินไปแล้ว!

“ขืนพวกเจ้ายังโวยวาย ข้าจะทำให้พวกเจ้าพิการก่อนแล้วค่อยทรมานให้สาแก่ใจ ไม่ต้องห่วง ความอดทนข้าสูง จะทำให้พวกเจ้าได้ลิ้มรสความเหี้ยมโหดและความอับอายอย่างแท้จริง”

หลินสวินยิ้มอย่างสดใส

เพียงแต่เสียงและรอยยิ้มนี้กลับพาให้คนใจสะท้าน จั่วหยางและฉินซิงต่างเงียบปาก มองหลินสวินอย่างเคียดแค้น ในใจกลับหวาดหวั่น กลัวว่าหลินสวินจะทำอะไรที่เหนือความคาดหมายอีก

ส่วนพวกเสี่ยวเคอ พญาแร้งรวมทั้งคนของตระกูลหลินแห่งแสงอุดร ความจริงต่างรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน หลินสวินแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ไม่กลัวฟ้าดิน ราวกับว่าขอแค่เขาต้องการ แม้จะฆ่าจั่วหยางและฉินซิงไปเขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัว

“เจ้าต้องการอะไรกันแน่”

ฝั่งตระกูลจั่ว จั่วเซิงจินพูดเสียงเย็นเยียบ ใบหน้าชราภาพเขียวคล้ำอึมครึม

อีกด้านฉินอันเองก็ก้าวออกมา แววตาดุจคมมีดจ้องหลินสวินเขม็ง

“ตอนนี้ในที่สุดพวกเจ้าก็เลิกเห่า ยอมฟังข้าพูดแล้วงั้นหรือ”

หลินสวินหมุนตัวกลับพร้อมรอยยิ้ม สายตากวาดมองเหล่าผู้ฝึกปราณของตระกูลจั่วและฉิน สีหน้าของเขาราบเรียบ ท่าทางนิ่งเฉยไร้ซึ่งความหวาดกลัว

แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นหนาวเยือกในใจ เด็กคนนี้เหี้ยมโหดเกินไปแล้ว การกระทำเหนือความคาดหมาย ถ้าเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ ใครจะกล้าทำแบบนี้กับตระกูลจั่วและฉินบ้าง

แต่หลินสวินกลับทำลงไปแล้ว อีกทั้งยังไร้ซึ่งความเกรงกลัว อันธพาลกำเริบเสิบสานนัก!

นี่ทำให้พวกเขาเข้าใจในที่สุด ไม่แปลกที่ตอนนั้นหลินสวินกล้าจะฆ่าฮวาอู๋โยวโดยไม่สนใจอะไร และไม่แปลกที่อยู่ในวังหลวงแท้ๆ หลินสวินยังกล้าบีบบังคับให้หลิงเทียนโหวคุกเข่า

เด็กคนนี้มันตัวประหลาดชัดๆ ไม่สนกฎกติกา มองข้ามคำข่มขู่ ไม่คิดถึงผลเสีย ไม่เกรงกลัวอำนาจ!

“ว่ามา เสนอเงื่อนไขของเจ้ามา ความอดทนของพวกเรามีจำกัด”

จั่วเซิงจินสูดหายใจเข้าลึกๆ สายตาเย็นเยียบ พูดออกมาทีละคำๆ

ทุกคนเงียบสนิท

ทุกสายตาหยุดอยู่ที่หลินสวิน

“ถ้าข้าบอกให้ทุกคนในตระกูลจั่วและฉินปาดคอตัวเองตาย พวกเจ้าจะยอมหรือไม่”

หลินสวินยิ้มถาม

“หลินสวิน ข้าจะเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย อย่าได้หาเรื่องใส่ตัว!”

เส้นเลือดบนหน้าผากจั่วเซิงจินปูดนูนออกมา สีหน้าอึมครึมอย่างที่สุด แทบจะสกัดกั้นไอสังหารและโทสะในใจไม่อยู่แล้ว

คนอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้นก็เช่นกัน ต่างถูกคำพูดอวดดีของหลินสวินกระตุ้น แต่ละคนสีหน้าเขียวคล้ำอึมครึมอย่างที่สุด

ทันใดนั้นฟ้าดินแถบนี้พลันเต็มไปด้วยไอสังหาร

หลินสวินกลับประหนึ่งสัมผัสไม่ได้ว่าบรรยากาศเปลี่ยนไป ยังคงยิ้มพูดต่อ “แน่นอน ข้ารู้ว่าพวกเจ้าจะไม่ยอม เพราะฉะนั้นข้าก็ไม่มีเงื่อนไขอะไร แค่คิดจะให้คุณชายสองท่านนี้อยู่ที่ภูเขาชำระจิตสักระยะ ส่วนจะปล่อยพวกเขาออกไปเมื่อไหร่ ก็ดูอารมณ์ข้าอีกที”

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด