Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 473 เตรียมพร้อมไว้ก่อน

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 473 เตรียมพร้อมไว้ก่อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 473 เตรียมพร้อมไว้ก่อน
โดย

ชุดศึกสลักวิญญาณ!

สมบัติวิญญาณที่โดดเด่นเกินคาดเดานี้ มีเพียงปรมาจารย์สลักวิญญาณที่มีความสามารถ ‘บรรจุวิญญาณ’ เท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์แสวงหาและหลอมสมบัตินี้ได้

แน่นอนว่าเพียงมีสิทธิ์เท่านั้น หากจะหลอมจริงๆ ยากลำบากยิ่งกว่า!

เสิ่นทั่วเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณอาวุโสและมีความสามารถ ‘บรรจุวิญญาณ’ ทว่าจวบจนถึงตอนนี้ แม้แต่เขายังไม่เคยหลอมชุดศึกสลักวิญญาณที่สมบูรณ์แบบด้วยตัวเองได้เลยแม้แต่ชุดเดียว!

ดังนั้นเขารู้ดีกว่าใครว่าการหลอมชุดศึกสลักวิญญาณนั้นยากเพียงใด

ก่อนอื่น การหลอมสมบัติแบบนี้ต้องใช้วัตถุดิบวิญญาณหายากจำนวนมาก หากวัดค่าด้วยเหรียญทองของจักรวรรดิ อย่างน้อยจะต้องมีต้นทุนห้าสิบล้านเหรียญทอง จึงพอจะได้วัตถุดิบวิญญาณที่ต้องการ

เพียงแค่ด่านนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ปรมาจารย์สลักวิญญาณส่วนใหญ่ยอมแพ้

เพราะห้าสิบล้านเหรียญทองสามารถซื้อเรือรบขนาดใหญ่ลำหนึ่งของจักรวรรดิได้ทั้งลำแล้ว! นี่เป็นตัวเลขที่สูงเสียดฟ้า!

ประการต่อมา การหลอมชุดศึกสลักวิญญาณเกี่ยวโยงไปถึงกระบวนรอยสลักวิญญาณที่เก่าแก่และลึกลับมากมาย ทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิด ‘เคราะห์เปลี่ยน’!

ต่อให้เป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเสี้ยวเดียว ความพยายามที่ทุ่มเทไปก่อนหน้านี้ล้วนสูญเปล่า คว้าน้ำเหลวอย่างถึงที่สุด

เสิ่นทั่วเคยร่วมมือกับปรมาจารย์สลักวิญญาณหลายท่านในสาขาสลักวิญญาณ ทุ่มเทพลังทั้งหมดเตรียมการมานานหลายปีไปหลอมชุดศึกสลักวิญญาณชิ้นหนึ่ง สุดท้ายเพราะระหว่างการหลอมเกิดข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ทำให้วัตถุดิบวิญญาณทั้งหมดถูกทำลาย ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ หนึ่งในปรมาจารย์สลักวิญญาณทุ่มเทแรงกายแรงใจมากเกินไป ตอนที่ล้มเหลวถึงขั้นได้รับพลังสะท้อนกลับ พลังปราณถูกทำลายไปกว่าครึ่ง!

ประสบการณ์แบบนั้นทำให้เสิ่นทั่วรู้ดีว่า สมบัติพลิกฟ้าอย่างชุดศึกสลักวิญญาณ ใช่ว่าใครคิดจะหลอมก็จะหลอมได้

ยามนี้ในจักรวรรดิ ก็มีเพียงสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างปฐมาจารย์สลักวิญญาณเท่านั้น ที่มีความสามารถในการหลอมชุดศึกสลักวิญญาณได้สำเร็จ!

แต่จำนวนสัตว์ประหลาดระดับนี้มีน้อยมากจนสามารถนับนิ้วได้

ปฐมาจารย์สลักวิญญาณที่มีชื่อเสียงที่สุด ตอนนี้ล้วนต่างได้รับการเทิดทูนบูชาอยู่ในสำนักศึกษาเซียนช่างฝีมือแห่งจักรวรรดิ สาขาสลักวิญญาณ และสามตระกูลใหญ่นักสลักวิญญาณ

ด้วยเหตุนี้ เมื่อได้ยินว่าหลินสวินขอยืมใช้ชั้นเก้าของหอหลอมวิญญาณเพื่อหลอมชุดศึกสลักวิญญาณ เสิ่นทั่วจึงดูเสียอาการและตื่นตะลึงเพียงนี้

“เจ้า…ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”

เสิ่นทั่วสูดหายใจเข้าหลายครั้ง พยายามสกัดกั้นความตะลึงภายในใจ อยากถามให้แน่ใจอีกอย่างอดไม่อยู่

“อืม”

หลินสวินพยักหน้า แน่นอนว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น

“มั่นใจแค่ไหน”

ประกายตาของเสิ่นทั่วเร่าร้อน หากเป็นคนอื่นพูดคำนี้ เขาคงคิดว่าอีกฝ่ายเป็นบ้าไปแล้ว แต่หลินสวินกลับแตกต่าง

แม้ว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาจะอายุเพียงสิบหกปี แต่ก็สามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาด ‘เสียงร้องแห่งเก้ามังกร’ สร้างปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมีมาก่อน

ยิ่งไปกว่านั้น ชุดศึกสลักวิญญาณ ‘กระบี่เบิกฟ้า’ ของจักรพรรดินีองค์ปัจจุบันซึ่งได้รับความเสียหายอย่างมาก และแทบไม่มีความหวังที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่สุดท้ายหลินสวินก็ซ่อมได้อย่างน่าอัศจรรย์!

ด้วยความรู้ความเข้าใจเหล่านี้ เสิ่นทั่วเริ่มเชื่อแล้วว่า หลินสวินอาจตัดสินใจจะหลอมชุดศึกสลักวิญญาณจริงๆ!

หลินสวินไหวไหล่พูด “มีความคิดคร่าวๆ มั่นใจแค่ไหนข้าเองก็ยังไม่แน่ใจ”

เสิ่นทั่วอึ้ง ความตื่นเต้นในใจถดถอยไปกว่าครึ่งและสงบลงไม่น้อย เขาตระหนักได้แล้วว่าตนตื่นเต้นไวไปหน่อย

หลินสวินไม่มีประสบการณ์ในการหลอมชุดศึกสลักวิญญาณมาก่อน ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ว่าการจะทำได้ถึงขั้นนั้นยากเพียงใด

ที่เขาตัดสินใจหลอมชุดศึกสลักวิญญาณในครั้งนี้ บางทีอาจเพียงแค่อยากลองเท่านั้น

“แล้วเจ้าจะหลอมชุดศึกสลักวิญญาณอะไร เตรียมวัตถุดิบวิญญาณพร้อมแล้วหรือยัง”

เสิ่นทั่วถาม

“ทวนเล่มหนึ่ง”

หลินสวินตอบอย่างไม่ลังเล นี่เป็นสิ่งที่เขาเตรียมไว้ให้หลินจง บนโลกนี้คนที่เขาเชื่อถือได้หมดใจมีไม่มาก แต่หลินจงเป็นหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

“สำหรับวัตถุดิบวิญญาณ…”

หลินสวินพูดถึงตรงนี้ก็จนปัญญาขึ้นมาบ้าง

“ทำไมหรือ” เสิ่นทั่วตื๊อถาม

หลินสวินเองก็ไม่ได้ปิดบัง พูดราบเรียบ “ขาดวัตถุดิบวิญญาณอีกเจ็ดแปดชนิด อย่างเช่น ‘เหล็กดาราโบราณห้าปราณ’ ‘ไหมวิญญาณสมุทรเมฆแสง’ ‘ไขกระดูกหยกทองเทพทมิฬ’…”

เสิ่นทั่วอึ้งค้างอยู่กับที่ รู้สึกว่าตนตื่นเต้นไวเกินไปจริงๆ วัตถุดิบวิญญาณเหล่านี้เรียกว่าหายากได้ที่ไหน นี่มันเป็นระดับมีวาสนาจึงพบเจอ แต่ไม่อาจร้องขอชัดๆ!

อย่าง ‘เหล็กดาราโบราณห้าปราณ’ ในนั้นแฝงปราณห้าธาตุ มหัศจรรย์หาใดเปรียบ ขนาดเพียงนิ้วโป้งก็มีมูลค่าสิบล้านเหรียญทองแล้ว เป็นสมบัติล้ำค่าที่อยู่ในวัตถุดิบวิญญาณระดับสวรรค์

ส่วน ‘ไขกระดูกหยกทองเทพทมิฬ’ ก็สาบสูญไปตั้งนานแล้ว ในปัจจุบันที่ยังเหลืออยู่ ล้วนถูกเก็บซ่อนไว้ในราชวงศ์และตระกูลทรงอิทธิพลเก่าแก่เกือบทั้งหมด มูลค่าเกินจะประมาณ

“เจ้าหนุ่ม เช่นนั้นก็ยากแล้ว”

เสิ่นทั่วถอนหายใจ ยามนี้เขาเกิดสงสัยแล้วว่าหลินสวินล้อเล่นหรือเปล่า ขาดวัตถุดิบวิญญาณที่หายากมากมายขนาดนี้ ยังคิดจะหลอมชุดศึกสลักวิญญาณอีกหรือ

ไม่มีทางเสียหรอก!

“ข้าจึงมาหาท่านอย่างไรล่ะ”

หลินสวินยิ้มพูด

“ข้าหรือ”

เสิ่นทั่วพลันยิ้มขื่น “เจ้าหนุ่ม เจ้าประเมินข้าสูงเกินไปแล้ว วัตถุดิบวิญญาณที่เจ้าขาดข้าพอรู้เบาะแสอยู่บ้าง แต่ถ้าอยากได้มาครอบครองเห็นจะยากเกินไป…”

“มีเบาะแสก็เพียงพอแล้ว ข้าสามารถเอาวัตถุดิบวิญญาณเหล่านี้ไปแลกได้”

หลินสวินตาเป็นประกาย สะบัดแขนเสื้อ บนพื้นพลันปรากฏแสงสมบัติสีเงินเป็นประกายดั่งดวงดาราแถบหนึ่ง งดงามสะดุดตา

ทีแรกเสิ่นทั่วยังไม่เชื่อ คิดว่าหลินสวินกำลังล้อเล่น วัตถุดิบเหล่านั้นเป็นของหายาก เขาจะเอาอะไรไปแลก?

แต่พอเขาเห็นแสงสมบัติที่ส่องประกายระยิบระยับเหล่านั้นก็อึ้งค้างกับที่ทันที

แสงสีเงินเหล่านั้นราวกับดวงดาราที่ทั่วฟ้า แผ่กระจายไหวเคลื่อน ทั้งยังเหมือนน้ำตกขนาดเล็กที่กำลังถาโถมม้วนตัว ภาพนี้ไม่เพียงยิ่งใหญ่ตระการตา แต่เรียกได้ว่ารวมความงดงามของใต้หล้าเอาไว้!

สวยงามเกินไปแล้ว!

เสิ่นทั่วตื่นตะลึงขึ้นมาทันที เขาดูออกว่านั่นคือหญ้าวิญญาณสีเงินต้นแล้วต้นเล่า ลำต้นตรงและแหลมคมราวกับกระบี่ ดุจดั่งง้าว ส่องแสงสีเงินทั่วตัวราวกับเกล็ดดารา ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้นแล้วดูเหมือนเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบ ราวกับสามารถแทงทะลุห้วงฟ้าได้!

สิ่งที่ทำให้เสิ่นทั่วหวั่นไหวที่สุดคือ รอบๆ วัตถุดิบวิญญาณสีเงินนั่นเต็มไปด้วยกลิ่นอายบริสุทธิ์เข้มข้นยิ่ง กลิ่นอายที่ปล่อยออกมานั้นดูเลือนราง หอมหวน และเย็นชื่น ราวกับกำลังจะแทรกซึมสู่ส่วนลึกของจิตวิญญาณ

“ใบราวกับกระบี่ วิญญาณราวกับดวงดารา แสงประกายราวกับฝัน…”

ประหนึ่งว่าในหัวมีสายฟ้าสายหนึ่งแวบผ่าน ทำให้เสิ่นทั่วนึกบางอย่างขึ้นได้กะทันหัน ตัวแข็งค้างร้องเสียงหลง “หรือนี่คือหญ้ากระบี่เกล็ดเงิน?”

หลินสวินอึ้งไปโดยพลัน ไม่คิดว่าเสิ่นทั่วจะดูออกในทันที จึงพยักหน้าพูด “ใช่แล้ว”

หญ้ากระบี่เกล็ดเงินเหล่านี้ หลินสวินได้มาจากโบราณสถานบรรพกาลในส่วนลึกของทะเลกลืนวิญญาณ

ตอนที่เพิ่งมาถึงนครต้องห้าม เพราะรีบใช้เงิน หลินสวินเคยเอาวัตถุดิบวิญญาณหกเจ็ดชนิดอย่างผลึกเก้าลำนำผสานใจ ดอกอำพรางวิญญาณ ไม้มรกตไล่มังกร สะเก็ดดาวเคราะห์แดง หญ้าเงาหยาดน้ำตาแดงไปประมูลที่อัครการค้า ได้รับทรัพย์อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว

ยามนี้วัตถุดิบวิญญาณที่เหลืออยู่กับตัวหลินสวิน นอกจากหญ้ากระบี่เกล็ดเงินนับร้อยต้น ยังเหลือผลแกนมังกรสุริยา ผลึกวิญญาณพิสุทธ์ม่วงเป็นต้นอีกเจ็ดแปดอย่าง ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าที่สาบสูญไปแล้ว มูลค่านั้นไม่อาจจะประมาณ

“วัตถุดิบโบราณชนิดนี้จริงๆ ด้วย! มันยังมีอยู่บนโลกหรือนี่!”

สีหน้าเสิ่นทั่วดูตื่นเต้นและแฝงความคลั่งไคล้ “แม้ในสมัยโบราณก็ยังถูกเรียกว่าเป็นสมบัติหายาก เรียกได้ว่าเป็นยาหายากระดับสูงบนโลก เพียงพอที่จะพลากชีวิตคน แม้แต่ผู้ฝึกปราณระดับกระบวนแปรจุติยังแย่งชิงกันแทบตาย ราชันระดับสังสารวัฏเห็นยังอิจฉาตาร้อน!”

หลินสวินรู้สึกแปลกใจขึ้นมาอีก สิ่งที่เสิ่นทั่วพูดเหมือนกับที่ตะพาบเขียวเคยพูดไว้ไม่มีผิด ล้วนพูดถึงความอัศจรรย์ของหญ้ากระบี่เกล็ดเงินนี้

“สมบัตินี้สาบสูญไปตั้งนานแล้ว เดิมข้าคิดว่าเป็นเพียงตำนาน ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เห็นกับตา เหลือเชื่อมากจริงๆ!”

เสิ่นทั่วอุทานอย่างตื่นเต้น เห็นได้ชัดว่าการปรากฏของหญ้ากระบี่เกล็ดเงินกระทบจิตใจของเขาเพียงใด

หลินสวินเพิ่งจะเอ่ยปาก เสิ่นทั่วก็ร้องเสียงหลงขึ้นมาอีก “สวรรค์ สิบต้นเชียว! ไหนบอกว่าสมบัติชนิดนี้สัมผัสแล้วอาจถึงตาย แตะต้องจะมอดไหม้ แค่ปนเปื้อนก็จะสลายหายไปมิใช่หรือ”

หลินสวินยืนอยู่ข้างๆ เห็นปรมาจารย์สลักวิญญาณมากประสบการณ์ที่ปกติดูเคร่งขรึมจริงจัง ยามนี้กลับร้องเสียงหลงระรัวอย่างคนไม่เคยเห็นโลก เขาเองก็ถอนหายใจในใจ นี่ก็คือความยั่วยวนของวัตถุดิบวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกปราณระดับไหนก็ยากจะต้านทาน

ครู่ใหญ่เสิ่นทั่วจึงสงบลงได้บ้าง สีหน้าดูสับสน มองหลินสวินด้วยแววตาประหลาด กล่าวว่า “ดูท่าเจ้าคงเตรียมความพร้อมมาตั้งนานแล้ว”

หลินสวินประสานหมัด “ยังต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสอีกมาก”

“เจ้าคิดจะเอาหญ้ากระบี่เกล็ดเงินเหล่านี้ไปแลกวัตถุดิบวิญญาณงั้นหรือ”

เสิ่นทั่วถาม

หลินสวินพยักหน้า

“ได้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า เชื่อว่ามีหญ้ากระบี่เกล็ดเงินพวกนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางปฏิเสธการเอาวัตถุดิบวิญญาณในมือมาแลก!”

เสิ่นทั่วตอบกลับอย่างร่าเริง “ข้าจำได้ว่าในมือของตาเฒ่าหลายคนในสำนักศึกษามฤคมรกตของเรา มีวัตถุดิบวิญญาณที่เจ้าต้องการ อืม และทางฝั่งสำนักศึกษาเซียนช่างฝีมือแห่งจักรวรรดิก็น่าจะมี…”

เห็นได้ชัดว่าเขาเริ่มคิดคำนวณแล้ว ว่าจะเอาหญ้ากระบี่เกล็ดเงินสิบต้นนี้ไปแลกกับใครบ้าง

หลินสวินพูดขึ้นจากด้านข้าง “ผู้อาวุโส หญ้ากระบี่เกล็ดเงินหนึ่งต้นในนี้มอบให้ท่าน อย่าเอาไปแลกล่ะ”

เสิ่นทั่วตัวสะท้าน พลันตระหนักได้ทันทีว่าหลินสวินกำลังตอบแทนตน

เขาตบไหล่หลินสวินอย่างสลดใจ “เจ้าน่ะยังไม่รู้มูลค่าของหญ้ากระบี่เกล็ดเงิน ข้าเพียงประกาศออกไปนิดเดียวเท่านั้นก็สามารถดึงดูดให้เทพเซียนจากทั่วทุกสารทิศมาด้วยตัวเอง และร้องขอให้ข้าให้โอกาสแลกหญ้ากระบี่เกล็ดเงินกับพวกเขาแล้ว”

เขายิ้มพูดต่อ “เช่นนี้ข้าก็สามารถสร้างหนี้บุญคุณ ผลประโยชน์ถมเถ”

หลินสวินอึ้งไป พลันรู้สึกนับถือใจ ขิงแก่ย่อมเผ็ดตามคาด

“จริงสิ”

เสิ่นทั่วฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ พลันขมวดคิ้วพูด “มีวัตถุดิบวิญญาณชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถแลกมาได้ เท่าที่ข้ารู้ ในจักรวรรดิตอนนี้มีเก็บไว้เพียงหนึ่งชิ้นใน ‘คลังเก็บสมบัติหยกงาม’ ของสำนักศึกษามฤคมรกตเรา”

“คืออะไรหรือ”

หลินสวินหรี่ตา

เสิ่นทั่วพูด “เขาวัวขุย[1]!”

หลินสวินหัวใจสะท้าน นี่คือวัตถุดิบแกนกลางที่เขาจะใช้ในการหลอมชุดศึกสลักวิญญาณ หากไม่มีมัน ทุกอย่างก็จะสูญเปล่า

“แลกไม่ได้ แล้วจะได้มาอย่างไร”

หลินสวินอดถามไม่ได้

เสิ่นทั่วพูดออกมาทันที “วิธีการง่ายมาก แต่…ยากเกินไป มีเงื่อนไขหลายประการเป็นข้อจำกัด ก่อนอื่นจะต้องมีคะแนนสะสมห้าพันคะแนน จากนั้นจึงจะมีสิทธิ์ไปที่สาขายุทธ์วิถี เข้าร่วม ‘การทดสอบบันไดสวรรค์’ ที่เข้มงวดและรุนแรงที่สุด ต้องผ่านการทดสอบเท่านั้นจึงสามารถไปแลกสมบัติชนิดนี้ที่คลังเก็บสมบัติหยกงามได้”

หลินสวินพลันสูดหายใจเข้าด้วยความตะลึง

……………………

[1] วัวขุย เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานของจีน มีลักษณะเหมือนวัวแต่มีขาหนึ่งข้าง บางตำนานเล่าว่ามีเขาเดียว บางตำนานกล่าวว่าไม่มีเขา สามารถเรียกลมฝน เสียงคำรามดุจสายฟ้า ทั้งยังมีแสงประกายดุจตะวันจันทรา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด