Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 668 ทวนที่น่าตื่นตา

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 668 ทวนที่น่าตื่นตา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“รนหาที่ตาย!”

หลินสวินออกตัวโจมตี ทำให้ฉินเสวียนตู้นิ่วหน้า รอบกายเขาสายฟ้าพลุ่งพล่าน กระแสไฟฟ้าแสบตาเจิดจ้ารวมตัวที่ฝ่ามือ จากนั้นก็สะบัดมือตบออกไป

อสนีกลางหัตถ์!

ชั่วพริบตานั้นราวกับมีอสนีเคราะห์ฟาดลงมาจากฟ้า นั่นเป็นพลังแห่งอสนี เต็มไปด้วยไอสังหารล้างโลก!

สายลับที่ซ่อนตัวในที่มืดทุกคนสะท้านขวัญแทบหายใจไม่ออก เพียงโจมตีง่ายๆ คราเดียวเท่านั้นกลับทำให้พวกเขาหวาดผวาจนขนลุกขนพองได้

“พี่เสวียนตู้โมโหแล้ว อย่าว่าแต่เด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนเดียวเลย ต่อให้เป็นมหายุทธ์ระดับเดียวกันมาสู้ก็ต้องถอยหนีไปไกล”

ผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่งสายหน้าทอดถอนใจ

“ดูท่าไม่ถึงสามกระบวนท่า หรืออาจจะเพียงการโจมตีนี้ก็เอาชีวิตเจ้าเด็กนั่นได้แล้ว!”

มุมปากของผู้ฝึกปราณระดับกระบวนแปรจุติคนอื่นปรากฏความยินดี ‘อสนีกลางหัตถ์’ นี่เป็นถึงวิชาลับที่ตกทอดมาในตระกูลฉิน พลังสังหารไร้เทียมทาน

ความยินดีแล่นปราดเข้ามาในจิตใจฉินจื่อหมิง เมื่อครู่เขาแทบพังทลาย ละล้าละลังถึงที่สุด แต่ตอนนี้เมื่อเห็นหลินสวินกำลังจะได้รับโทษตายในที่สุด ในใจจะไม่ตื่นเต้นได้หรือ

“เอ๋!”

จ้าวไท่ไหลประหลาดใจ เหมือนพบอะไรเข้า

ในดวงตาจูเหล่าซานมีรังสีเย็นเยียบยิงพุ่งออกมา สีหน้าเหมือนเปลี่ยนไปบ้าง

“ไม่ใช่! ฉินเสวียนตู้มีอันตราย!”

ในขณะเดียวกัน จั่วเป่าอิ๋งก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง นัยน์ตาหดรัดลงโดยพลัน แต่เมื่อนางเอ่ยปากเตือนก็สายไปแล้ว

ตูม!

คมทวนสีเทาเข้มของอาสัญสลายพุ่งตรงออกมา เรียบง่ายถึงที่สุด ดูแล้วไม่มีอะไรพิเศษเลย

แต่พริบตาที่อสนีสายนั้นสัมผัสโดนคมทวนก็ระเบิดออกฉับพลัน กระแสไฟเส้นแล้วเส้นเล่าแตกกระสานซ่านเซ็น ไม่อาจต้านทานการโจมตีได้

นี่เป็นถึงอสนีกลางหัตถ์ วิชาลับของตระกูลฉิน เวลานี้กลับถูกทำลายราวเศษกระดาษ!

“นี่…”

เดิมฉินเสวียนตู้โอหังยิ่งนัก เต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง คิดว่าพลังระดับกระบวนแปรจุติของเขาสามารถบทขยี้ผู้มีระดับหยั่งสัจจะทั้งมวลโดยสมบูรณ์

แต่เวลานี้เขาไม่อาจสงบใจได้อีกแล้ว!

เงาร่างเขาพุ่งตรงไปราวสายฟ้า พริบตาก็ซัดอสนีบาตนับหมื่นพันออกมาจากฝ่ามือ กระบวนท่านั้นดุจสายฟ้าถาโถมลงมามืดฟ้ามัวดิน น่ากลัวถึงที่สุด

ชั่วขณะนั้นฟ้าดินเต็มไปเสียงอสนีบาตกัมปนาทจนหูแทบดับ สั่นสะท้านไปสี่ทิศแปดด้าน นี่ทำให้ทุกคนในบริเวณนั้นล้วนตื่นตระหนก การโจมตีนี้ของฉินเสวียนตู้ไม่ต่างอะไรกับการเอาชีวิตเข้าแลก

นี่เพิ่งเริ่มประมือกันเองนะ เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ได้

เพียงแต่ไม่รอให้ฉินเสวียนตู้ได้หายใจหายคอ ก็เห็นว่าคมทวนสีเทาเล่มนั้นราวกับไม่ได้ถูกขัดขวางแต่อย่างใด พุ่งตรงโจมตีออกมา!

เปรี้ยง!

เมื่อคมทวนเคลื่อนผ่าน รอยฝ่ามืออสนีบาตลูกแล้วเล่าถูกแทงทะลุ โจมตีให้สลาย ไม่ก็แตกตัวพังทลายเป็นรัศมีสายฟ้ากระเซ็นกระสาย ระเบิดห้วงอากาศบริเวณใกล้เคียง

ฉินเสวียนตู้หน้าเปลี่ยนสีในทันใด ไม่อาจไม่หลีกหลบ เขาคาดไม่ถึง และถูกการโจมตีนี้เล่นงานโดยรับมือไม่ทัน

เพียงแต่ต่อให้เขาถอยออกมาเร็วแค่ไหนก็ไม่เท่าคมทวนนั้น นั่นช่างเหมือนประกาบคมกริบไร้เทียมทาน สามารถแทงทะลุสรรพสิ่ง ไม่พ่ายแพ้สิ่งใด!

ตาเห็นคมทวนกำลังจะมาถึงตัว ฉินเสวียนตู้เหมือนถูกยั่วโมโหโดยสมบูรณ์ เรียกบรรทัดทองเหลืองเล่มหนึ่งออกมาประจันหน้าคมทวน

นี่เป็นสมบัติโบราณชิ้นหนึ่ง ปกติไม่นำออกมาใช้ง่ายๆ แต่ตอนนี้กลับถูกเด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะอย่างหลินสวินบีบให้ต้องเรียกออกมา นี่ทำให้ใบหน้าชราของฉินเสวียนตู้แขวนไว้ไม่อยู่ เปลี่ยนจากความอับอายกลายเป็นโมโห

ตูม!

ถึงกระนั้นภายใต้สายตาจับจ้องอย่างเหลือเชื่อทั่วบริเวณ คมทวนนั้นก็ทำให้บรรทัดทองเหลืองเล่มนั้นแหลกสลายทั้งอย่างนั้น!

ฉินเสวียนตู้ตกใจจนขนหัวลุก นี่เป็นถึงสมบัติโบราณที่เขารักที่สุดชิ้นหนึ่ง มาถูกทำลายเช่นนี้เสียแล้วหรือ

แต่ที่ทำให้เขาเบิกตากว้างจนแทบถลนก็คือ ด้วยการโจมตีนี้ เขาสกัดคมทวนที่แทงเข้ามาไม่ได้อีกแล้ว!

เสียงปึ้กดังขึ้น ทรวงอกของฉินเสวีนตู้พลันเกิดเสียงกระแทกดัง เสียดหูเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นเขาก็ถูกคมทวนนั้นซัดกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง

ทุกคนล้วนอึ้งอยู่เช่นนั้น ทั่บริเวณเงียบสนิท

ชั่วพริบตาก่อนหน้านี้ การต่อสู้เพิ่งเปิดฉาก

หลังจากนั้นชั่วพริบตา…

ฉินเสวียนตู้ก็แพ้แล้วหรือ

เร็วเกินไปแล้ว!

ก่อนหน้านี้ยังคาดเดากันอยู่เลยว่าหลินสวินจะปราชัยในกี่กระบวนท่า ต่างคิดว่าเขาไม่มีโอกาสชนะแต่อย่างใด

จะไปคิดได้อย่างไรว่าในชั่วพริบตาก็รู้แพ้รู้ชนะแล้ว เพียงแต่ผู้พ่ายแพ้กลับเป็นฉินเสวียนตู้ผู้เป็นถึงมหายุทธ์ยิ่งใหญ่ผู้นี้!

ทวนเดียว เขาก็รับไม่ไหวแล้ว!

นี่ทำให้ทุกคนงงงวย

กระทั่งว่าสายลับที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดล้วนคิดว่าตาฝาด ไม่ทันได้ดูต้นสายปลายเหตุ การประลองก็จบลงแล้ว

ลูกตาของฉินจื่อหมิงแทบหลุดออกจากเบ้า อ้าปากค้าง ท่าทางเหมือนเห็นผี

พวกจั่วเป่าอิ๋งต่างสับสนงงงวย หัวใจหดรัด เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ได้

ขนาดพวกหลินจงก็พากันตกตะลึง เดิมทีพวกเขาจิตใจตึงเครียด กังวลเป็นอย่างยิ่ง เตรียมการเข้าช่วยเหลือหลินสวินทุกเมื่อ

แต่ทวนที่น่าตื่นตาของหลินสวินนั้น กลับประหนึ่งสายฟ้าฟาด ทำให้พวกเขาแทบไม่อาจเชื่อได้

มีเพียงจ้าวไท่ไหลพึมพำว่า “ตามคาด เยียบย่างไปบนมกุฎมรรคาที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ดูท่าศุภโชคที่เจ้าหนูนี่ได้มาจากแดนลับอสูรมารอริยะจะน่าตกใจกว่าที่ลือกันเสียอีกนะ…”

เขาเองก็ไม่อาจสงบใจได้

ต่อให้ชั่วพริบตาที่หลินสวินลงมือนั้นจะทำให้เขาสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าเพียงการโจมตีเดียวจะทำให้ฉินเสวียนตู้ตั้งรับได้ยาก!

กลางอากาศ ห้วงอากาศยังคงมีเสียงกึกก้องยุ่งเหยิง ฝุ่นควันตลบเต็มฟ้า ฉินเสวียนตู้สีหน้าตกใจระคนโกรธจนหน้าบูดหน้าเขียว ลุกขึ้นยืนอยู่ก่อนแล้ว

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าบริเวณทรวงอกของเขาเสื้อผ้าถูกฉีกกระจุย เผยให้เห็นเกราะหัวใจอันหนึ่ง เพียงแต่ในชั่วขณะที่เขาลุกขึ้นนั้น เกราะหัวใจก็ระเบิดแหลกแตก ร่วงผล็อยหล่นลงมา

ทุกคนถึงตระหนักได้ว่า ที่ช่วยชีวิตฉินเสวียนตู้ไว้เมื่อครู่เป็นเกราะหัวใจนี้ หาไม่แล้วเกรงว่าการโจมตีนั้นของหลินสวินคงทะลวงหัวใจของเขาไปนานแล้ว!

ทั้งบริเวณล้วนพรั่นพรึง!

ก่อนหน้านี้ยามหลินสวินคุยโวว่าจะสู้กับมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติหกคนด้วยตัวคนเดียว ทุกคนต่างเห็นเป็นเรื่องตลก คิดว่าเขาไม่รู้ดีรู้ชั่ว กำเริบเสิบสานถึงที่สุด

แต่ตอนนี้เรื่องตลกนี้กลับดูไม่ตลกเลยสักนิด ไม่มีใครหัวเราะออก

ฉินเสวียนตู้ มหายุทธ์ทรงอิทธิพลที่มีชื่อเสียงมานานปีเช่นนี้ ภายใต้สถานการณ์ที่ราชันระดับหยั่งสัจจะไม่ปรากฏตัว แทบจะเรียกได้ว่าอยู่เหนือสุดปลายยอด

แต่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้กลับถูกทวนเดียวซัดกระเด็น กระทั่งสามารถรักษาชีวิตไว้ได้เพราะอาศัยเกราะหัวใจบนหน้าอกช่วยไว้!

นี่น่าหวาดผวาไปแล้ว

เด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนเดียวเนี่ยนะ ต่อให้มีชุดศึกสลักวิญญาณที่สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้ แต่ใครจะคาดคิดว่าเขาถึงกับกำราบฉินเสวียนตู้ได้ในการโจมตีเดียว

สายตาที่ทุกคนมองหลินสวินล้วนเปลี่ยนไปแล้ว

“ข้าชะล่าใจไปแล้วจริงๆ ไม่คิดว่าเจ้าจะต่างจากผู้กล้าทั่วไป แต่ว่า ตอนนี้ข้าจะไม่ให้โอกาสใดๆ กับเจ้าอีก!”

เสียงของฉินเสวียนตู้ลอดไรฟันออกมา แววตาเย็นเยียบโหดเหี้ยมถึงที่สุด ในใจเขาทั้งตกใจทั้งโกรธแค้นทั้งอับอาย ท่ามกลางสายตามากมายที่จับจ้องกลับเกิดเรื่องเช่นนี้ ต่อให้วันนี้ฆ่าหลินสวินได้ก็ยังทำให้เขาขายหน้า!

“เจ้าควรขอบคุณเกราะหัวใจชิ้นนั้น หาไม่แล้วเจ้าจะยังมีโอกาสมายืนคุยกับข้าได้อย่างไร”

หลินสวินพูดจบก็กระโดดตัดผ่านห้วงอากาศราวย่นย่อระยะทางให้สั้นเพียงชุ่น จากนั้นก็แกว่งทวนซัดโจมตีอีกครั้ง

ตูม!

ทั้งสองประลองกันเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้ฉินเสวียนตู้เตรียมพร้อม ถึงกับไม่ดูเบาแม้แต่น้อย ใช้พลังทั้งหมด ทั่วร่างมีสายอสนีไหลวน เปล่งประกายโชติช่วงถึงที่สุด ประหนึ่งเผชิญหน้าศัตรูตัวฉกาจ

แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ยามทั้งสองแยกออกจากกันอีกครั้ง ก็เห็นว่าเงาร่างของฉินเสวียนตู้ซวนเซ ถอยหลังออกไปสิบกว่าจั้งกลางอากาศดังตึงๆๆ ใบหน้าชราเขียวแล้วขาว ขาวแล้วเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ แดงก่ำแปรเปลี่ยนเป็นดำทะมึน สีหน้าไหววูบหลากหลายยิ่งนัก

หันกลับมาดูหลินสวิน อาภรณ์สีขาวพระจันทร์กระพือพัดเกิดเสียง ดวงตาสีดำราวสายฟ้า ท่วงท่าปลอดมลทิน ทวนเทาเข้มยิ่งเพิ่มรังสีไร้เทียมทานให้เขาขึ้นไปอีก

เฮือก!

ทั่วบริเวณฮือฮายิ่งนัก หากการปะทะกันรอบแรกฉินเสวียนตู้ชะล่าใจ เช่นนั้นการปะทะรอบที่สองก็ไม่อาจพูดได้ว่าโชคดีแล้ว

นี่ไม่ได้หมายความว่ายามหลินสวินเผชิญหน้ากับบุคคลระดับฉินเสวียนตู้นี้ แท้จริงได้เตรียมพลังเย้ยฟ้าที่สามารถบดขยี้ได้ไว้นานแล้วหรือ

สายลับที่อยู่ในมุมมืดล้วนจิตใจหวาดหวั่นสั่นระรัว เวลานี้พวกเขาถึงได้ค้นพบว่าทุกสิ่งที่พวกตนคาดเดาไว้ล้วนผิดหมด ผิดจนน่าขัน!

พวกเขาถึงกับสามารถคาดเดาได้ว่า ยามเหตุการณ์นี้ถูกผู้ฝึกปราณทั้งนครต้องห้ามล่วงรู้เข้า จะก่อให้เกิดคลื่นลูกมหึมา!

“เข้าไปพร้อมกัน!”

จั่วเป่าอิ๋งสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นดุดันโหดเหี้ยมแล้ว นางรับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ไม่อาจมองหลินสวินเป็นคนรุ่นเด็กอีกแล้ว

หรือพูดอีกอย่างก็คือ นี่เป็นผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์ที่เรียกได้ว่าน่าหวาดหวั่นคนหนึ่ง พลังที่เขาครอบครอง สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติคนใดๆ ล้วนหน้าเปลี่ยนสี

สิ่งเดียวที่ทำให้นางใจชื้นก็คือ ครั้งนี้พวกเขาใช้มหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติหกคน หาไม่แล้ว ไม่แน่ว่าวันนี้อาจจะทำอะไรหลินสวินไม่ได้จริงๆ!

“ฆ่า!”

เหล่ามหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติที่เย่อหยิ่งและเชื่อมั่นในตัวเองซึ่งเดิมสังเกตการณ์อยู่ด้านนอก เวลานี้ก็ไม่สนใจหน้าตาและศักดิ์ศรีใดๆ แล้ว ร่วมกันลงมือจากรอบทิศ

ตู้ม!

พริบตานั้นสภาพอากาศบนห้วงอากาศปั่นป่วน แสงเทพม้วนตลบ วิชาลับน่าหวาดหวั่นแผ่สยายพุ่งทะยาน สมบัติทรงพลังปล่อยแสงสมบัติสาดส่องท้องนภา

เวลานี้แม้แต่ผู้ฝึกปราณที่อยู่ใกล้เคียงก็ล้วนตกใจ สัตว์ประหลาดเฒ่าที่ครอบครองความยิ่งใหญ่แต่ละที่ในนครต้องห้ามพากันพุ่งจิตมาตรวจสอบเรื่องทางนี้

อย่างไรเสียการประลองระหว่างผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติกลุ่มหนึ่งกับเด็กหนุ่มผู้ประดุจเทพมาร ย่อมดึงดูดความเคลื่อนไหวใหญ่โตยิ่ง

ในนครต้องห้ามในอดีต น้อยนักที่จะเกิดการต่อสู้มาตรฐานสูงเช่นนี้กลางวันแสกๆ!

“ต่ำช้า!”

พวกหลินจงด่าทอด้วยความเดือดดาล หกรุมหนึ่ง อีกทั้งยังล้วนเป็นมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติที่มีชื่อเสียงมายาวนาน กลับสู้กับหลินสวินคนเดียวโดยวไม่สนใจสิ่งใด ช่างหน้าไม่อายไปแล้ว

“เหอะๆ อย่างนี้ถึงจะดูออกว่าขีดจำกัดที่แท้จริงของเจ้าหนูนี่อยู่ตรงไหน”

จ้าวไท่ไหลหัวเราะ เขาดูคล้ายพึงพอใจกับภาพตรงหน้านี้ ดวงตาทั้งสองฉายแววคลุมเครือลึกลับ จับจ้องหลินสวินตั้งแต่เริ่มจนจบอย่างไม่วางตา ประหนึ่งหมายจะมองความลับทั้งหมดของหลินสวินให้ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

เวลานี้อวิ๋นยงอ๋องจ้าวซวี่ก็ไม่อาจเป็น ‘สมณะเฒ่าเข้าฌาน’ ได้อีกแล้ว ดวงตาจับจ้องไปยังการต่อสู้ดุเดือดกลางอากาศ สีหน้าอ่านยากหาใดเทียบ

‘เด็กหนุ่มนั่น… ที่แท้ก็เป็นตัวร้ายกาจเย้ยฟ้าสินะ! ยังดีที่ครั้งนี้ไหวตัวเร็ว ไม่ได้ลงมือกับเขา หาไม่แล้ว…’

สายตาของเขามองดูจ้าวไท่ไหลที่อยู่ด้านหนึ่ง ‘หาไม่แล้ว ต่อให้ท่านผู้นี้ไม่แทรกแซง อาศัยพลังของข้า ก็เกรงว่าจะทำอะไรเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้ ถึงกับจะถูกอีกฝ่ายเล่นงานเสียด้วย…’

จ้าวซวี่คิดถึงตรงนี้ ความขัดเคืองในใจก็มลายหายไป ถูกความขมขื่นเข้าแทนที่

พลังปราณของฉินเสวียนตู้เขารู้ดียิ่ง ถึงกับคิดใคร่ครวญว่าแม้เขาจะลงมืออย่างเต็มกำลัง ก็ทำได้เพียงเสมอกับฉินเสวียนตู้

เมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้ ไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าเขาสู้หลินสวินไม่ได้!

ทำให้เขาผู้เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ชนชั้นบรรดาศักดิ์ที่มีชื่อลือไปทั่วนครต้องห้ามผู้หนึ่งยอมรับข้อนี้ได้ เป็นเรื่องยากอย่างไม่ได้ต้องสงสัย แต่ความเป็นจริงก็โหดร้ายเช่นนี้ เขาจะไม่ยอมรับก็ไม่ได้!

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด