Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 751 รื่นรมย์

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 751 รื่นรมย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เจ้าแพ้แล้ว ขัดขืนไปก็เปลืองแรงเปล่า”

หลินสวินเอ่ย ดาบหักแปรเป็นสายรุ้งขาวกระจ่างราวโปร่งแสง ส่งเสียงคำรามก้องกังวาน พุ่งโฉบออกมาแสนมหัศจรรย์

เป็นวิชาแห่งจิตขับเคลื่อนเช่นเดียวกัน ทว่าสิ่งที่หลินสวินใช้พลังจิตควบคุมคือศาสตราจิต ส่วนที่ชิงเจ๋อใช้กลับเป็นกระบี่ลับที่ควบรวมมาจากพลังจิต

นี่จึงจะเป็นความแตกต่างของทั้งสอง ซึ่งส่งผลให้พลานุภาพบังเกิดความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว

เห็นได้ชัดว่าชิงเจ๋อเองก็ตระหนักถึงจุดนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นการลงมือครั้งนี้จึงเรียกกระบี่วิญญาณสีเขียวเล่มหนึ่งออกมา

ชิ้ง!

การต่อสู้ปะทุขึ้นอีกครั้ง ดาบหักดุจสายรุ้ง ลอยล่องราวภาพฝัน อัสจรรย์และโปร่งแสง สลายการโจมตีของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย

โฮก!

ขณะที่ต่อสู้ หลินสวินได้สำแดง ‘เสียงคำรามผูเหลา’ คลื่นเสียงสนั่นฟ้าสะเทือนดินแปรเปลี่ยนเป็นมีรูปร่างกลายเป็นคลื่นแผ่ซ่านออกไป ซัดทำลายห้วงอากาศ ปกคลุมทั่วสารทิศ

พลันเห็นชิงเจ๋อที่ต่อสู้ดุเดือดส่งเสียงร้องอึดอัด ทั่วร่างสั่นเทิ้มไม่รู้จบ

“ต่ำช้า!”

นัยน์ตาของเขาน่ากลัว ลุกโชนด้วยเพลิงโทสะ ก่อนหน้านี้เขาถูกดาบหักทำร้ายพลังจิต และตอนนี้ยังถูกคลื่นเสียงอันน่ากลัวนั้นพุ่งจู่โจมจิตวิญญาณอีกด้วย พลันรู้สึกรับไม่ไหวขึ้นมาในบัดดล

“ต่ำช้า? นี่คือการต่อสู้ เจ้าเป็นถึงศิษย์สืบทอดของสำนักกระบี่เทียมฟ้า ยังต้องให้ข้าสอนเจ้าอยู่หรือ”

หลินสวินพูดไปพลางสำแดงก้าวย่างชือน้ำแข็งไปด้วย โจมตีออกไปอย่างแกร่งกล้า

เขาคิดสยบคู่ต่อสู้ ครั้งนี้จึงไม่ได้ยั้งมือใดๆ หมายจะพิชิตชัยในอึดใจเดียว ยุติการดวลนี้ไปเสีย

ตูม!

เงามายาชือน้ำแข็งโผทะยานกลางอากาศ ขาวผ่องเป็นยองใย แผดคำรามเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ส่วนความเร็วของหลินสวินนั้นได้บรรลุถึงระดับที่น่าตกใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผมยาวของเขาปลิวสยายไปด้านหลัง นัยน์ตาดำราวหุบเหว ยามนี้ได้แสดงให้เห็นถึงอานุภาพของตนโดยสมบูรณ์แล้ว ท่วงท่าอันแสนเหยียดหยันไร้เทียมทานนั่น สั่นสะเทือนไปทั่วลาน!

ชิงเจ๋อบันดาลโทสะ แข็งขืนสู้ไม่ยอมหลบหลีก

โครม!

ห้วงอากาศแถบนี้ราวกับถูกระเบิด ดาบหักร่ายรำ คมกระบี่ว่ายเวียน แสงศักดิ์สิทธิ์พลุ่งพล่านแผ่ซ่าน กวาดม้วนทั่วสารทิศราวกับน้ำไหลหลากก็ไม่ปาน

ผู้ฝึกปราณที่จับตามองศึกครั้งนี้ต่างนิ่งงันไปแล้ว ก่อนหน้านี้ความสามารถของชิงเจ๋อแข็งแกร่งตั้งเท่าไร แต่อยู่ต่อหน้าหลินสวินในยามนี้ ถึงกับถูกสยบจนเกือบโงหัวไม่ขึ้น!

ส่วนสีหน้าของบุคคลสำคัญตระกูลจั่วและฉินล้วนเปลี่ยนเป็นเหยเกถึงขีดสุด ผลลัพธ์นี้ทำให้พวกเขายากยอมรับเป็นอย่างยิ่ง ความสามารถของหลินสวินเจิดจ้าขึ้นทุกที ยิ่งทำให้พวกเขาหงุดหงิดและอัดอั้นขึ้นเรื่อยๆ นี่มันยากรับไหวเหมือนกินแมลงวันตายชัดๆ!

ปังๆๆ!

ชิงเจ๋อรู้สึกเพียงว่าเลือดลมพลิกตลบ ถูกซัดสะเทือนจนมือไม้ชาวาบ จิตวิญญาณกวัดแกว่ง มีความรู้สึกโกรธแค้นและอัดอั้นที่บรรยายไม่ถูก

นี่เป็นไปได้อย่างไร

เขาไม่อยากเชื่อ

เขาก้าวสู้อันดับผู้แข็งแกร่งชั้นยอดในระดับกระบวรแปรจุติแล้ว พลังต่อสู้โดดเด่น น่าทึ่งเหนือธรรมดา แม้แต่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่แห่งดินแดนรกร้างโบราณ ยังเรียกได้ว่าเป็นระดับผู้กล้า แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติขั้นสมบูรณ์ยังไม่อยู่ในสายตาเขา

ทว่าตอนนี้เขากลับถูกกำราบ ซ้ำยังถูกเด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่งกำราบอีกด้วย!

สภาพจิตใจของชิงเจ๋อแน่วแน่เสมอมา เพียงแต่ในยามนี้เขากลับรู้สึกเสียหน้าหาที่เปรียบ อึดอัดสุดจะทน ถ้าหากถูกโจมตีจนปราชัยในโลกชั้นล่างอันแร้นแค้นแห่งนี้ เมื่อข่าวแพร่สะพัดกลับสำนัก คงทำให้เขาไม่พ้นเป็นตัวตลกอย่างแน่นอน!

เคร้ง!

ไม่นานหลินสวินก็ขับเคลื่อนดาบหัก ปะทะสะบั้นกระบี่วิญญาณของชิงเจ๋อจนเกิดเสียงเล็กแหลม

ขณะเดียวกันหลินสวินสาวเท้าออกมา กดฝ่ามือลงกลางอากาศ ประทับปี้อั้นที่ควบแน่นสายหนึ่งปลดปล่อยแสงจ้าล้นหลามกดทับบนตัวชิงเจ๋อ

ตู้ม!

ชิงเจ๋อถูกซัดจนลอยขว้าง ทรวงอกเว้ายุบ เลือดข้นพุ่งสาด

ณ ที่นั้นเกิดเสียงฮือฮาโกลาหลในบัดดล ชิงเจ๋อถูกกำราบอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ฝึกปราณของจักรวรรดิต่างรู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่

ทว่าในเวลาเดียวกัน พลังต่อสู้อันกล้าแกร่งที่หลินสวินสำแดงออกมา ก็ทำให้เหล่าผู้ฝึกปราณของจักรวรรดิเลือดร้อนพลุ่งพล่าน รู้สึกถึงความฮึกเหิมและประหลาดใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

แน่นอน ใครเลยจะเคยจินตนาการ ว่าเด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่งถึงกับสามารถสยบศิษย์สืบทอดที่มาจากสำนักกระบี่เทียมฟ้าจนโงหัวไม่ขึ้นได้

ศิษย์สืบทอดคนนี้ เคยกวาดล้างคนใหญ่คนโตระดับกระบวนแปรจุติกลุ่มหนึ่งภายในสามกระบี่เชียว!

เมื่อเทียบกันเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงความเย้ยฟ้าของหลินสวินได้ชัดเจนขึ้น

“ผู้สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้าอะไรกัน ยังกล้าอวดอ้างในจักรวรรดิของเรา ดูสิ ไม่ใช่ว่าถูกคุณชายหลินสวินกำราบไปแล้วหรือ”

“นี่ก็คือจุดจบของคนที่ดูถูกคนอื่นไปทั่ว!”

“รื่นรมย์ ช่างรื่นรมย์จริงๆ! ไม่เสียทีที่คุณชายหลินเป็นบุคคลชั้นนำของคนรุ่นใหม่ในจักรวรรดิ อำนาจทั่วนครหลวงจะเป็นฉายาจอมปลอมได้อย่างไร”

เมื่อได้ยินชิงเจ๋อถูกสบประมาทอย่างรุนแรง กู้ตงถิงที่อยู่ไกลออกไปสีหน้าเปลี่ยนเป็นอึมครึมขึ้นมา แผ่กลิ่นอายน่าหวาดกลัวครอบฟ้าคลุมดิน ถึงขั้นมีความคิดอยากลงมือเองหลายต่อหลายครั้ง

ชิงเจ๋อตกสู่สถานการณ์เสียเปรียบ ทำให้เขาเองก็หน้าเจื่อนไปเหมือนกัน

ทว่ากู้ตงถิงตื่นตัวขึ้นอย่างว่องไว ด้วยสัมผัสได้ว่ามีพลังน่าสะพรึงสุดขีดคละคลุ้งไปทั่วฟ้าดินแห่งนี้ ขอเพียงเขากล้าเคลื่อนไหวผิดปกติแม้แต่น้อย การปะทะอันไร้เทียมทานของราชันจะต้องปะทุขึ้นอย่างแน่นอน!

‘เป็นเขา…’ กู้ตงถิงชี้ตัวคู่ต่อสู้ได้ในทันที เป็นจ้าวไท่ไหลนั่นเอง สิ่งนี้ทำให้นัยน์ตาของเขาพลุ่งพล่านระลอกหนึ่ง ท้ายที่สุดก็ยังข่มกลั้นเอาไว้

อย่างไรเสียจักรวรรดินี้ก็ไม่ใช่ถิ่นของสำนักกระบี่เทียมฟ้าของพวกเขา แม้กู้ตงถิงจะถือดี ก็รู้แก่ใจว่าถ้าบุ่มบ่ามไปจะต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย

ในลานเวลานี้ชิงเจ๋อตกสู่สภาพการณ์ถูกกำราบไว้อย่างสิ้นเชิง บาดเจ็บหนักหลายครั้ง เลือดอาบทั่วร่าง ผมเผ้ากระเซิง กระดูกแตกหักไปหลายจุด เหมือนกับหุ่นฟางที่จมอยู่ในพายุฝนฟ้าคะนองก็ไม่ปาน

“นายท่าน…!”

สีหน้าเฉินเฟิงข้ารับใช้ของชิงเจ๋อซีดเซียว ร้องตะโกนอย่างลนลาน

ข้ารับใช้คนนี้ก่อนหน้านี้ก็ถือดีมากเช่นเดียวกัน มองว่าผู้ฝึกปราณในจักรวรรดิไร้ตัวตน ทว่าตอนนี้กลับมีท่าทีเลิ่กลั่กลนลาน กระสับกระส่ายยากสงบใจ พาให้ผู้ฝึกปราณในจักรวรรดิบางคนหัวเราะเยาะไม่สิ้น

ปึง!

ไม่นานชิงเจ๋อก็ถูกสยบ ร่างกระแทกลงกับพื้นจนเกิดเป็นหลุมใหญ่ หน้าคลุกฝุ่นผมเผ้ารุงรัง น่าสังเวชยิ่งยัก

ดวงตาของเขาแทบถลนออกมา ยังคงไม่อาจยอมรับผลลัพธ์ข้อนี้ได้ คำรามเดือดดาลพลางหยัดตัวขึ้น เพียงแต่ชั่วขณะนั้นร่างของเขาพลันแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น เหงื่อเย็นผุดท่วมหน้าผาก

เนื่องจากดาบหักที่โปร่งแสงราวน้ำค้างแข็งเจิดจ้าได้พาดบนลำคอเขาเรียบร้อยแล้ว ขอเพียงเขากล้าขยับแม้แต่นิด ก็จะถูกตัดคอขาดสะบั้น!

แพ้แล้ว!

ชิงเจ๋อรู้สึกราวกับฟ้าถล่มลงมาจนสิ้น สีหน้าอึมครึมไม่นิ่ง บิดเบี้ยวและสะบักสะบอม แค้นจนแทบกระอักเลือด

“เจ้าไม่ได้พูดว่าคุณชายหลินก็ไม่เท่าไรหรอกหรือ เหตุใดกลับเป็นเจ้าที่แพ้เสียแล้ว” ทางฝั่งผู้ฝึกปราณของจักรวรรดิส่งเสียงหัวเราะถากถางเป็นระลอก

สิ่งนี้ทำให้ชิงเจ๋ออับอายจนกลายเป็นโกรธอย่างถึงที่สุด ดวงหน้าทรวงอกร้อนวูบ เขาผู้สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้าอันยิ่งใหญ่ ผู้กล้าไร้เทียบเทียมในรุ่น มากด้วยความมั่นใจและถือดีเต็มพิกัด หลังจากมาเยือนโลกชั้นล่างก็ไม่เคยเห็นคนรุ่นเดียวกันคนใดอยู่ในสายตา

ทว่าตอนนี้กลับถูกสยบอย่างน่าอนาถภายใต้สายตาจับจ้องของธารกำนัล แรงโจมตีนี้หนักหน่วงเกินไป ทำเอาชิงเจ๋อไม่สามารถรับได้ไปชั่วขณะ

“ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ ตอบคำถามข้ามาตามความจริงแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไปทันที” หลินสวินลอยลงพื้นแผ่วเบา นัยน์ตาดำลุ่มลึกจับจ้องชิงเจ๋อไม่วางตา

ว่ากันตามจริง ถ้าไม่ใช่เพราะชิงเจ๋อต่อสู้ด้วยวิธีใช้พลังจิตโจมตี หลินสวินก็คงไม่กำราบเขารวดเร็วขนาดนี้

อย่างไรเสียชิงเจ๋อคนนี้ก็ทรงพลังมากจริงๆ เป็นระดับผู้กล้าที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งเท่าที่หลินสวินเคยพบมา

แต่ว่า พูดเรื่องพวกนี้ในตอนนี้ก็ไม่ได้มีความหมายเท่าใดนัก

ในสายตาของทุกคน ขั้นตอนไม่สำคัญ ที่สำคัญมีเพียงแค่ผลลัพธ์เท่านั้น นี่ก็คือความเป็นจริง

ชิงเจ๋อไม่ได้เตรียมตัวมาเป็นผู้แพ้เลยสักนิด ดังนั้นตอนที่ได้ยินถ้อยคำของหลินสวิน ภายในใจเขายิ่งย่ำแย่ขึ้นเรื่อยๆ เคียดแค้นไม่ยินยอมถึงที่สุด

หลินสวินไม่แยแสสภาพจิตใจของเขาสักนิด ถามออกไปตรงๆ ว่า “บอกข้ามา อวิ๋นชิ่งไป๋เป็นคนชี้นำให้เจ้ามาท้าดวลข้าใช่หรือไม่”

นัยน์ตาของชิงเจ๋อหดรัดลง สีหน้าปรวนแปรไม่สงบ

ขณะที่เขาจะเอ่ยอะไรบางอย่าง หลินสวินก็กล่าวขึ้นมาเสียก่อน “ไม่จำเป็นต้องตอบแล้ว ข้ารู้คำตอบแล้ว คำถามข้อที่สอง อวิ๋นชิ่งไป๋ยุยงเจ้าให้สังหารข้าในการดวลครั้งนี้ใช่หรือไม่”

ครั้งนี้ชิงเจ๋อกลับตอบคำถามอย่างรื่นรมย์ กล่าวแค่นเสียงเย็นชา “เจ้านับเป็นตัวอะไรกัน คู่ควรให้ศิษย์พี่อวิ๋นจดจำขนาดนี้ด้วยหรือ”

“ไม่ใช่งั้นหรือ” หลินสวินขมวดคิ้ว

“ศิษย์พี่อวิ๋นเป็นคนเที่ยงธรรม กระทำการผ่าเผยตรงไปตรงมา ถ้าหากอยากฆ่าเจ้า ไม่ต้องยืมมือข้าเลยแม้แต่น้อย” ชิงเจ๋อกล่าวอย่างเย็นชา

หลินสวินจ้องชิงเจ๋ออยู่สักพัก ท้ายที่สุดก็มั่นใจว่าเจ้าหมอนี่น่าจะไม่ได้โป้ปด

เพียงแต่ภายในใจของเขากลับไม่เข้าใจอยู่บ้าง ในเมื่ออวิ๋นชิ่งไป๋ชี้นำให้ชิงเจ๋อผู้นี้มาท้าดวลตน แล้วเหตุใดถึงไม่เคยสั่งให้ฆ่าเลย

หรืออวิ๋นชิ่งไป๋ยังมีจุดประสงค์อื่นอีก

“เจ้าไปเถอะ”

หลินสวินหมุนกายจากไป ไม่ได้สนใจชิงเจ๋ออีก ก็แค่หนอนแมลงน่าสงสารที่ทำงานให้อวิ๋นชิ่งไป๋เท่านั้นเอง

อากัปกิริยาไม่แยแสเช่นนี้ของหลินสวินเหมือนใบมีดคมกริบกรีดลึกลงกลางใจชิงเจ๋อ ทำให้เขารู้สึกอัปยศ เดือดดาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้

“หลินสวิน!”

ชิงเจ๋อคำรามประหนึ่งสัตว์ร้ายก็ไม่ปาน “ช้าเร็วก็ต้องมีสักวัน ข้าจะมาคิดบัญชีนี้กับเจ้า!”

หลินสวินยังคงไม่ได้สนใจเขาตามเดิม ก็แค่คำพูดแก้แค้นของผู้แพ้เท่านั้น ตะโกนออกมาในเวลานี้เห็นชัดว่าน่าขันอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ได้มีความน่าสะทกสะท้านแต่อย่างใด

ชิงเจ๋อโกรธจนสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง เขาเป็นถึงศิษย์สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้า อาศัยอานุภาพแห่งสามกระบี่สยบคนใหญ่คนโตระดับกระบวนแปรจุติได้ทั้งกลุ่มเชียวนะ

ทว่าตอนนี้กลับถูกเด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่งโจมตีจนพ่ายแพ้ ทั้งยังไม่เห็นหัวเขา ความอัปยศเช่นนี้ทำให้ชิงเจ๋อเกือบคลั่งแล้ว

“ไปเถิด”

กู้ตงถิงที่อยู่ห่างออกไปทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว ทะยานตัวมาในลานและพาชิงเจ๋อออกไป ศึกครั้งนี้มีหมื่นสายตาจับจ้อง ชิงเจ๋อถูกหัวเราะเยาะเต็มทนแล้ว ถ้าหากยังอาละวาดต่อไปคงเสียหน้ายกใหญ่เป็นแน่

แม้แต่กู้ตงถิงเวลานี้ยังรู้สึกหน้าจืดเจื่อน ไม่อยากรั้งอยู่ที่นี่ต่ออีก

“เยี่ยมยอด!”

“ฮ่าๆ…”

ในลาน เสียงไชโยโห่ร้องยกใหญ่ราวกับสะท้านฟ้าพลันปะทุขึ้น ทุกคนล้วนรู้สึกว่ารื่นรมย์สมใจ ผู้แกร่งกล้าอย่างชิงเจ๋อยังถูกหลินสวินกำราบเอาไว้ได้ สิ่งนี้ทำให้ผู้ฝึกปราณทั่วจักรวรรดิต่างฮึกเหิม ครึ้มใจและภาคภูมิใจถึงที่สุด

นี่ก็คือหลินสวิน เด็กหนุ่มผู้กล้าที่อำนาจทั่วนครหลวง!

ส่วนบุคคลสำคัญตระกูลจั่วและฉินล้วนตะลึงงันอย่างสิ้นเชิง สีหน้าเปลี่ยนเป็นหลากสีสัน ไหนเลยจะเคยคาดคิดว่าผลลัพธ์ในตอนสุดท้ายจะเป็นเช่นนี้

เวลานี้หลินสวินได้กลับขึ้นไปบนยอดภูเขาชำระจิตแล้ว จากไปโดยมีบุคคลระดับสูงในตระกูลหลินกลุ่มหนึ่งโอบล้อม

ส่วนด้านนอกภูเขาชำระจิตยังคงฮือฮาเอ็ดตะโรกันเป็นแถบ ผู้ฝึกปราณของจักรวรรดิแต่ละคนยากจะควบคุมความเหิมฮึกภายในใจ วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างออกรสออกชาติ

“เฮอะ ชิงเจ๋อคนนั้นช่างไร้เดียงสาเสียจริง หากเขารู้ว่าหลินสวินสังหารราชันกึ่งระดับไปหลายคนตลอดครึ่งปีที่อยู่ในสมรภูมิกระหายเลือด ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเสียใจกับการท้าดวลครั้งนี้หรือไม่”

บุคคลสำคัญที่มาจากกองทัพจักรวรรดิกลุ่มหนึ่งต่างหัวเราะอย่างสะใจ ผลลัพธ์นี้เดิมก็อยู่ในความคาดหมายของพวกเขาอยู่แล้ว!

“ศึกครั้งนี้ต้องทำให้เกิดความฮือฮาในนครต้องห้าม ทำให้ใต้หล้าสั่นสะเทือนเป็นแน่! และเมื่อผ่านศึกนี้ ผู้ที่สามารถประชันกับหลินสวินได้ บางทีอาจมีแค่บุคคลชั้นแนวหน้าอย่างแท้จริงในดินแดนรกร้างโบราณเท่านั้นแล้ว!”

คนใหญ่คนโตมากมายคาดการณ์เอาไว้เช่นนี้

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด