Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 806 ถูกหลอกแล้ว

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 806 ถูกหลอกแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินสวินซึ่งหลบซ่อนอยู่ท่ามกลางความมืดเห็นดังนั้นในใจก็รู้สึกพิกลอย่างอดไม่อยู่ เจ้าหมาแก่นั่นสมเป็นผู้มีพลังปราณระดับราชัน ช่างมั่นใจในตนเองจริงๆ!

แต่เพียงเท่านี้ก็เท่ากับตกหลุมพรางหลินสวิน เวลานี้เขาป้องกันตัวเองอย่างครบชุดเต็มกำลัง แอบเตรียมการพร้อมสรรพ

ครืน!

แม้แต่หลินสวินล้วนไม่อาจไม่ยอมรับ เจ้าพวกเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬนี่กร้าวแกร่งและเย่อหยิ่งเหลือเกิน ลงมาจากเมฆมาเยือนภูเขาวิญญาณไร้นามโดยตรง ซ้ำยังเคลื่อนไหวใหญ่โต ท่าทางไม่หวั่นเกรงสรรพสิ่ง หยิ่งผยองเหลือประมาณ

หลินสวินแทบหลุดขำออกมา ไอ้หมาพวกนี้ท่าทางราวข้าเป็นหนึ่งในใต้หล้า รอเมื่ออสูรเนตรทองนอเดียวปรากฏกาย จะเปลี่ยนท่าทีเป็นยังไงกันนะ

“เอ๋! โอสถวิเศษเพียบเลย!”

เสียงร้องอุทานดังขึ้น เหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬซึ่งเดิมกระเหี้ยนกระหือรือ แทบอยากจับตัวหลินสวินออกมาโดยเร็ว

แต่เมื่อพบว่าบนเขาลูกนี้มีโอสถวิญญาณหายากมากมายอยู่ทั่วไปหมด ความสนใจพลันถูกดึงดูดจนลูกตาเบิกโพลงทันควัน

“นี่มันต้นวิญญาณพุทราเพลิง! สวรรค์ แถมกิ่งก้านมีผลชิดถี่แน่นขนัดเต็มไปหมด พุทราเพลิงผลหนึ่งเพียงพอแลกเปลี่ยนเป็นสิบแกนวิญญาณขั้นกลางเชียว!”

ผู้แข็งแกร่งส่วนหนึ่งน้ำลายยืดน้ำลายหก แววตาร้อนระอุ

“ยังมีบัวหิมะลายทอง ดูจากเปลวเพลิงของมันอย่างน้อยคงเกิดมาราวหมื่นปี ภายในควบรวมเม็ดบัวลายทอง นี่เป็นมหาโอสถหายากแห่งยุค”

“นี่… คงไม่ใช่หลินจือโลหิตรากม่วงกระมัง ซ้ำยังมีสามสิบหกใบ รากราวน้ำตก ยากพบเห็นยิ่งนัก!”

แม้แต่พวกโก่วซวีสิง โก่วซาน โก่วไห่ล้วนไหวหวั่น สายตาสำรวจทั่วบริเวณ ค้นพบโอสถวิเศษล้ำค่าต้นแล้วต้นเล่าที่ต่างเรียกได้ว่าล้ำค่าอัศจรรย์ ทำให้สายตาพวกเขาเปลี่ยนเป็นร้อนเร่า

มีเพียงโก่วขุ่ยที่ยังสำรวมนิ่งสงบ ในฐานะราชัน โอสถวิญญาณล้ำค่าที่เรียกกันทั่วๆ ไปเขาล้วนไม่เห็นอยู่ในสายตา แต่ไม่ช้านัยน์ตาเขารวมก็หดเกร็ง ก่อนกล่าวอย่างตกตะลึง “ที่นี่ยังมีถ้ำสถิตหลงเหลืออยู่!”

ฟึ่บ!

ประโยคเดียวดึงดูดความสนใจทุกคนให้หันมองไปทันที จากนั้นพวกเขาต่างไม่อาจสงบใจ สายตาลุกโชนเร่าร้อน

เขาลูกนี้อัศจรรย์งามวิจิตร มีโอสถวิเศษมากมาย ภายในถ้ำสถิตนี่จะซ่อนวาสนาสะเทือนใต้หล้ายิ่งกว่าหรือไม่

โก่วตงแววตาลุ่มลึก วิเคราะห์อย่างสุขุมเยือกเย็น “บางที ตอนนี้เจ้าเด็กนั่นอาจซ่อนอยู่ภายใน!”

ประโยคเดียวทำให้ไอสังหารในใจโก่วซวีสิงแผ่กระจาย เขาหาได้ลังเลอีก สะบัดมือกล่าว “พวกเจ้าเข้าไปดู จงจำว่าต้องระวังหน่อย”

เขาละเอียดรอบคอบยิ่ง ไม่ได้หลงระเริงจนเสียสติ ส่งผู้ใต้บังคับบัญชาไปหยั่งเชิงสถานการณ์ก่อน

กลับเห็นโก่วขุ่ยยิ้มเยาะกล่าวอย่างจองหอง “ไม่ต้องทำเกินจำเป็น ข้าเข้าไปเพียงลำพังก็พอแล้ว”

อันที่จริงในใจเขาร้อนเร่า เห็นว่าเขาลูกนี้ไม่ธรรมดา ภายในถ้ำสถิตนั่นคงซ่อนสมบัติไร้เทียมทานบางอย่างไว้ เขาไม่อาจทนเห็นคนอื่นชิงตัดหน้าไปก่อน

ยามกล่าวโก่วขุ่ยย่างเท้าหนึ่งก้าวย่นย่อระยะทางเหลือเพียงคืบ เสื้อคลุมสีโลหิตพลิ้วไหว เงาร่างพุ่งสู่ส่วนลึกของถ้ำสถิตนั่น

นี่ทำโก่วซวีสิงแววตาวาบประกายด้วยรู้ทันความคิดของโก่วขุ่ย ในใจจึงไม่พอใจอยู่บ้างทันที เป็นถึงราชันอาวุโส แต่กลับช่วงชิงวาสนาเป็นคนแรก นี่ออกจะน่าเกลียดอยู่บ้าง!

“โก่วซาน โก่วไห่” เขาเอ่ยปาก

“นายน้อยมีสิ่งใดสั่งกำชับหรือ” ราชันกึ่งระดับทั้งสองรีบร้อนกล่าว

“พวกเจ้าเข้าไปดูพร้อมใต้เท้าขุ่ย ที่แห่งนี้ไม่ธรรมดายิ่ง ดูเหมือนอัศจรรย์งามวิจิตร แท้จริงแล้วไม่รู้ว่าแอบซ่อนอันตรายและไอสังหารอะไรไว้ ไม่สามารถให้ใต้เท้าขุ่ยเสี่ยงอันตรายคนเดียวเพื่อพวกเรา”

โก่วซวีสิงสั่งการเสียงแข็ง

โก่วซานและโก่วไห่พลันรู้ความนัย นี่คือการตรวจสอบอย่างหนึ่ง ต่อให้เจอวาสนาแห่งยุคบางอย่าง ก็ไม่สามารถให้กอบโกยเพียงคนเดียว!

เงาร่างทั้งสองไหววาบในบัดดล มุ่งเข้าสู่ส่วนลึกของถ้ำสถิต

ณ เชิงเขา หลินสวินที่แอบอยู่เห็นทุกอย่างกับตา สีหน้าพิลึกพิลั่นยิ่งกว่าเดิม นี่มันสุนัขกล้าคับฟ้าขนานแท้ นึกไม่ถึงว่ายังแอบเล่นแง่กันเอง วางแผนแย่งชิงวาสนากันด้วย!

นี่ทำให้หลินสวินเกือบหลุดหัวเราะ สะกดกลั้นจนแทบช้ำใน เดิมทีเขายังเตรียมกลวิธีบางส่วน หมายให้พวกผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬและอสูรเนตรทองนอเดียวสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ตัวเขาค่อยตักตวงผลประโยชน์ใส่ตัวง่ายหน่อย

แต่สภาพการณ์เห็นชัดว่าเหนือความคาดหมายหลินสวิน เขาไม่จำเป็นต้องลงมือใดๆ ไอ้สุนัขพวกนั้นก็แส่หาเรื่องเสียเอง

นี่ช่างเพลิดเพลินเจริญใจซะจริง

หลินสวินแอบรวบรวมพลัง เตรียมการพร้อมสรรพ

บนภูเขา โก่วซวีสิงอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด วันนี้ไม่เพียงแต่สามารถจับเป้าหมายทั้งเป็น ซ้ำยังอาจเจอศุภโชคซึ่งหาได้ยาก นี่ทำให้เขารู้สึกปิติยินดีราวมีสวรรค์อุปถัมภ์

“นี่ก็คือเมื่อเคราะห์ร้ายถึงขีดสุดสุขสวัสดิ์จึงปรากฏ!”

โก่วซวีสิงกล่าวอย่างศรัทธาต่อโชควาสนา นึกถึงทุกอย่างที่ประสบมาจากปฏิบัติการครานี้ นี่จะไม่ใช่เคราะห์ร้ายถึงขีดสุดสุขสวัสดิ์จึงปรากฏได้อย่างไร

“เหอะๆ โชคดีมาเยือนแล้ว ต่อให้ฉุดก็หยุดไม่อยู่!” โก่วซวีสิงยิ้มอยู่นาน

คนอื่นทยอยผงกศีรษะ กล่าวประจบประแจง “นายน้อยคือผู้กล้าแห่งสวรรค์ซึ่งมาพร้อมโชควาสนา โชคลาภรุ่งเรือง เปล่งประกายชั่วกัปชั่วกัลป์!”

โก่วซวีสิงแช่มชื่นไปทั้งตัว แต่ปากกล่าวอย่างราบเรียบ “ข้ารู้ตัวเองดี โชควาสนาอาจมีบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นเปล่งประกายชั่วกัปชั่วกัลป์ ทุกท่านอย่าได้ยกยอข้าเลย”

พูดถึงตรงนี้สายตาเขากวาดมองโดยรอบพลางกล่าว “ที่แห่งนี้มีโอสถวิญญาณถ้วนทั่ว พวกเจ้าไปเก็บพวกมันมา และสามารถเก็บไว้เองส่วนหนึ่ง ถือเป็นรางวัลในปฏิบัติการครานี้ของพวกเจ้าแล้วกัน”

“ขอบคุณนายน้อย!” พวกโก่วตงพลันจิตใจฮึกเหิม พวกเขาต่างรอจนทนไม่ไหวอยู่นานแล้ว

โก่วซวีสิงยิ้มเก็บอาการ จิตใจชื่นมื่นยิ่งกว่าเดิม ความกลัดกลุ้มและคับแค้นก่อนหน้าหายเป็นปลิดทิ้ง ราศีจับเปล่งประกายไปทั้งตัว

‘ภูเขานี้สมเป็นแดนสมบัติแห่งหนึ่งจริงๆ บางทีนี่อาจเป็นวาสนาอย่างหนึ่งที่มาเยือนข้าอย่างเงียบเชียบ’

โก่วซวีสิงพึมพำอยู่ในใจ ‘หนทางบำเพ็ญเพียรต่อจากนี้ หากยังคงสามารถครองวาสนาเช่นนี้ได้ มีหรือจะไม่เด่นผงาดกลางมหาสงครามในใต้หล้า ก้าวเข้าสู่กลุ่มผู้กล้าแห่งยุค’

ตูม!

ทันใดนั้นเขาทั้งลูกพลันสั่นสะเทือน ส่ายไหวรุนแรงครู่หนึ่ง หมอกม่วงทั่วเขาโหมกระหน่ำ แสงวิญญาณม้วนซัดดั่งเกลียวคลื่นอย่างเกรียงไกรยิ่ง

โก่วซวีสิงนัยน์ตาราวอสนี กล่าวชื่นชมยินดี “นี่คือการตอบรับจากสรวงสวรรค์ต่อเสียงในใจข้างั้นรึ”

ทว่าเวลาต่อมาทั่วร่างเขาพลันแข็งทื่อ นัยน์ตาเบิกกว้าง

ก็เห็นกลางถ้ำสถิตนั่น เงาร่างหนึ่งพุ่งออกมาอย่างร้อนรนกระสับกระส่าย ผมเผ้ายุ่งเหยิง อาภรณ์ขาดรุ่งริ่งมอมแมม ผิวหนังมีร่องรอยไหม้เกรียม เห็นได้ว่าอเนจอนาถผิดธรรมดา

ท่าทางช่างราวกับขอทาน

เนื่องจากกะทันหันเกินไป โก่วซวีสิงตกใจจนเกือบสะดุ้งโหยง ซัดฝ่ามือหนึ่งออกไปทันที “ใคร! ถึงกับกล้าพรางเป็นเทพแสร้งเป็นผีต่อหน้าข้าผู้นี้!”

เงาร่างซึ่งผมเผ้าสยายยุ่งนั่นคล้ายคาดไม่ถึงว่าโก่วซวีสิงจะลงมือ พลันถูกฝ่ามือนี้ซัดลงบนร่างเต็มๆ

ทว่าเขาไม่เป็นอะไร แต่โก่วซวีสิงกลับถูกสะท้อนกลับจนซวนเซถอยร่นไปหลายก้าว หน้าเปลี่ยนสีอย่างอดไม่อยู่ แต่เมื่อเขาจดจำฐานะผู้มาเยือนได้ทั่วร่างพลันแข็งทื่อราวเห็นผี ร้องอย่างตระหนก “ใต้เท้าขุ่ย นี่ท่านเป็นอะไร”

ผู้ที่ผมเผ้าสยายยุ่งอเนจอนาถเกินทน กลับเป็นโก่วขุ่ย!

โก่วซวีสิงออกจะตะลึงงันอยู่บ้าง เหตุไม่คาดฝันนี่เกิดขึ้นเร็วมาก โก่วขุ่ยราชันผู้หนึ่งมุ่งหน้าเข้าสู่ถ้ำสถิตเสาะหาวาสนาไร้เทียมทาน ผ่านไปครู่เดียวทำไมถึงพุ่งออกมาอย่างกับขอทาน

“นายน้อยหนีเร็ว! พวกเราถูกหลอกแล้ว!”

แต่โก่วขุ่ยไม่มีเวลาอธิบาย หิ้วตัวโก่วซวีสิงทะยานเหนือเมฆา

ส่วนผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬคนอื่นๆ ต่างตกตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้น

เดิมพวกเขากำลังเตรียมเก็บโอสถวิญญาณอย่างเบิกบานชื่นมื่น ไหนเลยจะคิดว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้ จึงออกจะรับมือไม่ทันไปชั่วขณะ

“อ๊าก…”

“ไม่…!”

เกือบจะเวลาเดียวกัน ส่วนลึกของถ้ำสถิตแว่วเสียงร้องโหยหวนหาใดเปรียบสองเสียง น่าหวาดกลัวเหลือประมาณ แต่ไม่ทันไรก็พลันหยุดลง

ทว่าผู้แข็งแกร่ง ณ ที่นั้นล้วนฟังออก นั่นคือเสียงราชันกึ่งระดับโก่วซานและโก่วไห่!

พริบตานั้นพวกเขารู้สึกพรั่นพรึงขนพองสยองเกล้า ตระหนักได้ว่าไม่เข้าที มีหรือจะมัวมาเก็บโอสถวิญญาณ ต่างหันหลังเผ่นแน่บอย่างรวดเร็ว ท่าทางคับแค้นที่บิดามารดาไม่ให้ขามาเพิ่มอีกสองข้าง

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

พวกเขาสังหรณ์ว่าโก่วซานและโก่วไห่คงประสบเคราะห์กรรม แม้โก่วขุ่ยหนีออกมาได้แต่กลับเห็นว่าอเนจอนาถผิดธรรมดา นี่คือข้อพิสูจน์อย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนลึกในถ้ำสถิตนั่นมีวาสนาแห่งยุคซะที่ไหน ชัดแจ้งว่าซ่อนไอสังหารไร้เทียมทานไว้ต่างหาก!

ตอนนี้โก่วซวีสิงเองก็ตระหนักได้ สีหน้าพลันผิดแปลกหาใดเปรียบ สั่นไปทั้งตัวราวถูกคนฟาดกระบองเตือนสติ

ถูกหลอกแล้ว!

ที่แห่งนี้ดูเหมือนอัศจรรย์งามวิจิตรหาใดเปรียบ เป็นแดนสมบัติซึ่งหาได้ยาก แท้จริงแล้วแอบซ่อนเคราะห์สังหารอันน่าหวาดกลัว!

เสียแรงที่พวกเขามีท่าทางปิติยินดีก่อนหน้านี้ คิดว่าพบเจอวาสนายิ่งใหญ่ ไหนเลยจะคาดคิดว่าผลกลับเป็นเช่นนี้…

โก่วซวีสิงโกรธจนแทบกระอักเลือด

เมื่อครู่เขายังคิดว่าโชควาสนามาเยือน ทำให้ตนพลิกสถานการณ์จากเคราะห์ร้ายถึงขีดสุดกลายเป็นความโชคดี ถึงขั้นกระตือรือร้นพึงใจ เห็นว่าด้วยโชควาสนาเช่นนี้มีหรือจะต้องกังวลว่างานใหญ่จะไม่สำเร็จ

ไหนเลยจะคาดคิด แค่พริบตาสถานการณ์ก็พลิกผัน ความเป็นจริงตบใส่หน้าอย่างแรงจนเขาอ้าปากค้าง ในใจเปี่ยมล้นความคับแค้นอับอาย โกรธจนแทบบ้าตาย

“นี่แม่งเกิดเรื่องบ้าอะไรกันแน่”

โก่วซวีสิงสีหน้าอึมครึม ยามนี้เขาถูกโก่วขุ่ยพาตัวทะยานสูงเหนือห้วงอากาศ

มองลงไปจากตรงนี้ เขาก็เห็นทันทีว่าภูเขาวิญญาณไร้นามลูกนั้นกำลังสะเทือนเลือนลั่น มีแรงกดดันชวนประหวั่นไร้ขอบเขตอบอวลอยู่รางๆ

“นี่มัน…” โก่วซวีสิงตื่นตระหนก สีหน้าปรวนแปร

“อสูรเนตรทองนอเดียวซึ่งก้าวสู่ระดับราชันตัวหนึ่ง หรือสามารถเรียกมันว่าราชันอสูร!” เสียงโก่วขุ่ยทุ้มต่ำเย็นเยียบ สีหน้าอึมครึม

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามีวาสนาไร้เทียมทาน ด้วยเหตุนี้จึงเข้าไปในถ้ำสถิตนั่นเป็นคนแรก ใครเล่าจะคิดว่าต้องเจอกับอสูรเนตรทองนอเดียว!

ที่น่ากลัวที่สุดคือพลังของอสูรนั่นชวนประหวั่นไร้ขอบเขต เมื่อโก่วขุ่ยรู้ว่าท่าไม่ดี เร่งหนียังไม่ทันการ ถูกหางอสูรเนตรทองนอเดียวฟาดกระเด็น ซัดจนเขาผิวแตกเลือดอาบ ไหม้เกรียมไปทั้งตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่น้อย

ต้องรู้ว่าเขาเป็นถึงราชัน! ซ้ำโลดแล่นทั่วสารทิศมาหลายปี ราชันปกติทั่วไปล้วนไม่อยู่ในสายตาเขา

แต่บัดนี้กลับถูกหางราชันอสูรตัวหนึ่งหวดกระเด็น แค่คิดก็รู้ว่าอานุภาพของราชันอสูรนี่วิปริตและน่าพรั่นพรึงเพียงใด

ดังนั้นโก่วขุ่ยจึงหลบหนีในทันใด!

เวลานี้หวนนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ เมื่อครู่ ถ้าสีหน้าโก่วขุ่ยยังดูดีคงประหลาด ถึงขั้นที่ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกอับอายด้วยซ้ำ

เพิ่งพบหน้าก็ถูกฟาดกระเด็น เขาเคยอเนจอนาถเช่นนี้มาก่อนเสียที่ไหน

นี่มันช่างอัปยศอดสูอย่างยิ่ง!

บนท้องฟ้า เหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬต่างกระเจิดกระเจิงอลหม่านยิ่งนัก ทำให้หลินสวินซึ่งแอบหลบดูสถานการณ์โดยตลอดลอบทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้ นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าหมากระสับกระส่ายไร้เจ้าของอย่างแท้จริง คำโบราณไม่เคยหลอกลวง

และท่าทางอเนจอนาถของโก่วขุ่ยและโก่วซวีสิงยิ่งทำให้หลินสวินได้เปิดโลกทัศน์

แต่ไม่ช้าหลินสวินก็ไม่สนใจเรื่องพวกนี้อีก ภูเขากำลังส่งเสียงกัมปนาทรุนแรง อานุภาพชวนประหวั่นมาพร้อมแสงทองเจิดจรัสแสบตา ดั่งวารีโหมซัดสนั่นหวั่นไหว ทำให้ลมเมฆปั่นป่วนถล่มทลาย สะเทือนทั่วสารทิศ!

หลินสวินรู้ว่าอสูรเนตรทองนอเดียวนั่นใกล้ออกมาแล้ว และโอกาสของเขาก็จวนมาเยือน…

…………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด