Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 815 ชื่อเสียงโด่งดังกะทันหัน

Now you are reading Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ Chapter 815 ชื่อเสียงโด่งดังกะทันหัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 815 ชื่อเสียงโด่งดังกะทันหัน
ผู้ฝึกปราณทุกคนต่างรู้ว่า โดยทั่วไปน้อยมากที่กลางลำต้นจะถูกแขวนข่าวขึ้นไป

แต่ถ้ามีข่าวแขวนขึ้นไปในบริเวณนี้ ก็แสดงว่ามีเรื่องใหญ่ที่เพียงพอให้ฮือฮาไปทั้งแดนฐิติประจิมเกิดขึ้น

ตอนนี้บนกลางลำต้นของต้นข่าวสารอันเก่าแก่และแข็งแกร่ง ควบรวมใบไม้ขนาดเท่าใบพัด ขาวเป็นประกายราวกับหิมะ

ใบไม้ส่องประกาย แปรเป็นจอภาพจอหนึ่ง

ในจอภาพกำลังแสดงฉากการประลองที่ตะลึงโลกอย่างที่สุด

นั่นเป็นการประลองระหว่างชายหญิงรุ่นเยาว์คู่หนึ่ง

ฝ่ายชายราวกับเด็กหนุ่มเทพมารผู้หนึ่ง ดวงตาดำราวกับสายฟ้า รอบตัวแผ่แสงบริสุทธิ์ เงาร่างเหินทะยานภายใต้ท้องฟ้า ผงาดผยองและกร้าวแกร่ง

ส่วนฝ่ายหญิงนั้นสวมหน้ากากสีเงิน เงาร่างสง่างามราวกับเซียน แต่การโจมตีกลับตะลึงโลก ปลดปล่อยไอกระบี่อันน่าหวาดหวั่น แหลมคมพลิกฟ้า ผ่าโจมตีเก้าชั้นฟ้า!

จอภาพสั่นและเบลอเล็กน้อย แต่กลับไม่ส่งผลต่อความสนใจของผู้ฝึกปราณเลยสักนิด สีหน้าของพวกเขาล้วนสั่นสะเทือน จิตใจถูกดึงดูด

ในเวลาเดียวกันมีเสียงชราดังขึ้นในจอภาพ กำลังแนะนำการต่อสู้ครั้งนี้…

‘นี่เป็นการประลองตะลึงโลกที่เกิดขึ้นในนครเตโชแห่งแคว้นวิญญาณอัคนีเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ตอนนั้นสะเทือนไปทั้งแคว้น พอเผ่าวาทวาโยของเรารู้ข่าว ก็เริ่มสืบรายละเอียดเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งนี้ในทันที…’

‘ที่น่าเสียดายคือ จนตอนนี้เรายืนยันได้เพียงว่าเด็กหนุ่มที่ราวกับเทพมารนั่นชื่อหลินสวิน เคยปรากฏตัวในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งของนครเตโช ได้ยินว่าเขามีความสนิทสนมชิดเชื้อกับซย่าเสี่ยวฉงผู้สืบทอดสำนักยุทธ์กลุ่มดาว และฟางหลินหานผู้สืบทอดอาศรมดาบแปดวิทูร’

‘เพียงแต่ที่มาของหลินสวิน พวกเราเผ่าวาทวาโยใช้เวลาสืบอยู่หลายวันก็ยังไม่ได้ความ แต่สามารถยืนยันได้ว่า ในบรรดาคนรุ่นเยาว์ของแดนฐิติประจิม เพียงพอที่เรียกว่าเป็นบุคคลระดับพลิกฟ้าในหมู่ผู้กล้า!’

หลินสวิน?

ชื่อนี้ไม่คุ้นเลยสักนิด ทำให้กลุ่มผู้ฝึกปราณที่อยู่ในที่นั้นต่างงงงวย แคว้นวิญญาณอัคนีมีผู้กล้าแห่งยุคเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

ส่วนอวี๋เสวี่ยเจียวในใจไหวสะท้าน ตั้งแต่แวบแรกที่เห็นนางก็จำได้ว่าชายที่ราวกับเทพมารพลิกฟ้าผงาดผยองในจอภาพ คือเด็กหนุ่มที่บัญเอิญเจอกันเมื่อหลายชั่วยามก่อน!

‘ที่แท้ศักยภาพของเขาก็แข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิด…’ ในใจอวี๋เสวี่ยเจียวยากจะสงบ

นางแอบรู้สึกโชคดีที่ตอนนั้นไม่ได้ใช้วิธีแข็งกร้าวหยุดหลินสวิน มิฉะนั้นผลลัพธ์จะต้องเลวร้ายจนไม่กล้าคิดอย่างแน่นอน

ส่วนอวี๋เสวี่ยเทียนน้องชายของอวี๋เสวี่ยเจียวงงเป็นไก่ตาแตก สีหน้าอึมครึมสับสน ท่าทางไม่กล้าเชื่อ

เขาเองก็จำหลินสวินได้ ทันทีที่นึกได้ว่าตนเคยพูดจาเสียมารยาท ท้าทายและต่อว่าหลินสวิน เขาก็เหงื่อซึมไปทั้งร่าง ตน… เกือบก่อหายนะครั้งใหญ่แล้ว!

ในจอภาพเสียงชรานั้นดังขึ้นอีกครั้ง ‘สำหรับหญิงสาวคนนั้น ที่มายิ่งลึกลับและน่าสะพรึง เพราะข้อห้ามบางอย่าง เผ่าวาทวาโยของเราจำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้…’

ในที่นั้นฮือฮาขึ้นมาทันที!

เด็กหนุ่มที่ชื่อหลินสวินผู้ราวกับเทพมารก็ลึกลับมากพอแล้ว ตอนนี้แม้แต่หญิงสาวสวมหน้ากากสีเงินคนนั้น ที่มาถึงขั้นน่ากลัวและน่าหวาดหวั่นมากกว่า ทำให้เผ่าวาทวาโยไม่กล้าเปิดเผยฐานะ นี่มันน่าตกใจเกินไปแล้ว

“มหาสงครามกำลังจะมาเยือน พวกปีศาจสัตว์ปหระหลาดที่ปลีกวิเวกมากมายต่างเริ่มปรากฏแล้ว”

“ต่อไปใต้หล้านี้คงจะคึกคักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในบรรดาคนรุ่นเยาว์จะต้องมีบุคคลระดับเย้ยฟ้าที่ความสามารถน่าทึ่งเกิดใหม่อีกมากมาย อย่างเด็กหนุ่มที่ชื่อหลินสวินคนนี้ ที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ชื่อของเขาด้วยซ้ำ!”

ผู้ฝึกปราณมากมายถอนหายใจ

“การประลองที่โดดเด่นระดับนี้มีให้เห็นน้อยมากจริงๆ คาดการณ์ได้เลยว่า อีกไม่นานชื่อของหลินสวินจะต้องโด่งดังไปทั่วทั้งแดนฐิติประจิม!”

มีคนคาดเดา

“ใช่ บุคคลระดับปีศาจเช่นนี้ เมื่อเทียบกับศิษย์สืบทอดรุ่นเยาว์ทั้งห้าของสำนักกระบี่โผผินแห่งแคว้นล้ำเมฆาของเราคงไม่ด้อยไปกว่ากันแน่ ชื่อนี้จะต้องโด่งดังไปทั่วหล้าอย่างแน่นอน”

ได้ยินผู้ฝึกปราณรอบๆ ถอนหายใจและคาดเดา สีหน้าของอวี๋เสวี่ยเทียนก็ยิ่งซีดเซียว ในใจกระสับกระส่ายขึ้นมาแล้ว

ตระกูลอวี๋ของพวกเขาเป็นเพียงแค่ขุมอำนาจใหญ่ในเมืองก่วมหิมะเท่านั้น แม้รากฐานมั่นคง แต่จะเทียบผู้กล้าแห่งยุคที่ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งแดนฐิติประจิมได้อย่างไร

“น้องเล็ก บทเรียนครั้งนี้เจ้าต้องจำให้ขึ้นใจ ต่อไปอย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่ามอีก มิฉะนั้นสักวันจะต้องนำพาเคราะห์ภัยที่อันตรายถึงชีวิตเข้ามา!”

อวี๋เสวี่ยเจียวฉวยโอกาสเตือนและสอนอวี๋เสวี่ยเทียน

อวี๋เสวี่ยเทียนพยักหน้า คราวนี้เขาหลาบจำแล้ว

“ถอยๆ ถอยให้หมด!”

ทันใดนั้นผู้แข็งแกร่งของเผ่าวาทวาโยคนหนึ่งเบียดตัวผ่านกลุ่มคนเข้ามา สีหน้าตื่นเต้นอย่างที่สุด “ครั้งนี้มีข่าวที่น่าทึ่งยิ่งกว่าเกิดขึ้น อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับหลินสวินนั่น หากพวกเจ้าไม่ถอยแล้วรับข่าวล่าช้า อย่าหาว่าข้าไม่เตือน!”

เกี่ยวข้องกับหลินสวิน?

ข่าวที่น่าทึ่งยิ่งกว่า?

เสียงฮือฮาดังขึ้นโดยพลัน ผู้ฝึกปราณที่ล้อมอยู่หน้าต้นข่าวสารหลีกทางให้อย่างรู้ตัว เร่งให้ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยคนนั้นรีบวางข่าว

ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยคนนั้นพลันได้ใจอย่างมาก ราวกับกษัตริย์กำลังรับการสักการะบูชาจากทุกคน ก้าวเท้าอย่างมั่นคงเชิดหน้าขึ้นสูง เดินไปที่ต้นข่าวสารอย่างเชื่องช้า

เผ่าของพวกเขาชื่นชอบการสืบข่าวแต่กำเนิด และชอบที่จะเป็นที่สนใจของผู้คน นี่เป็นความรู้สึกที่เงินยังไม่สามารถแลกมาได้ สามารถให้ความรู้สึกเป็นเกียรติแก่พวกเขาอย่างสูงสุด

แม้ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบๆ อยากจะหยิกผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยที่จงใจกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจนแทบทนไม่ไหวแล้ว แต่ก่อนที่ปริศนานี้จะถูกคลี่คลาย กลับจำต้องรอคอยโดยไม่สามารถทำอะไรได้

สุดท้าย ราวกับกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นจนพอใจแล้ว ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยคนนั้นไม่ปกปิดอีกต่อไป แขวนใบไม้ที่เป็นประกายระยิบระยับราวกับหิมะขึ้นบนกลางลำต้นของต้นข่าวสาร

วู้ม!

ใบไม้ขาวดั่งหิมะประหนึ่งมีชีวิตขึ้นมากะทันหัน แผ่แสงเลือนลางราวมายา ไม่นานก็ควบรวมเป็นจอภาพจอหนึ่ง

เพียงแต่ในหน้าจอกลับเป็นตัวหนังสือที่อาบเลือดและเต็มไปด้วยไอสังหารเหี้ยมโหดน่ากลัว…

‘ประกาศนำจับ!’

‘จับกุมผู้ฝึกปราณเผ่ามนุษย์หลินสวิน ผู้ใดที่สามารถให้เบาะแสของเขาได้ ตกรางวัลแกนวิญญาณระดับสูงหนึ่งพันชิ้น!’

‘ผู้ที่สามารถฆ่าได้ เพียงนำศีรษะมาเข้าพบ ตกรางวัลเป็นแกนวิญญาณระดับสูงห้าพันชิ้น!’

‘ประกาศนี้มีผลระยะยาว!’

เนื้อหาเรียบง่ายและตรงไปตรงมา ไม่อธิบายและขยายความเลยสักนิด แต่ความอำมหิตและจิตสังหารในตัวอักษรนั้นกลับพาให้หนังหัวชาวาบ

ยามเห็นชื่อที่ลงนามประกาศนำจับนี้ ทั่วทั้งลานเงียบสนิททันที เปลี่ยนเป็นเงียบงันถึงที่สุด สีหน้าของผู้ฝึกปราณทุกคนต่างเปลี่ยนไปอย่างมาก

เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ!

นี่ดันเป็นประกาศนำจับจากเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ และคนที่ต้องการจับกุมก็คือหลินสวิน เด็กหนุ่มที่ราวกับผู้กล้าแห่งยุคนั่น!

แกนวิญญาณระดับสูงหนึ่งพันชิ้น เพียงพอจะทำให้มหายุทธ์ชั้นยอดระดับกระบวนแปรจุติถวายชีวิตแล้ว สามารถซื้อ ‘สมบัติวิญญาณมรรคราชัน’ ชิ้นหนึ่งได้

ส่วนแกนวิญญาณระดับสูงห้าพันชิ้น…

มูลค่ายิ่งสูงกว่า!

“หลินสวินทำเรื่องอะไรไว้กันแน่ ถึงได้ทำให้เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬอยากฆ่าเขาให้ได้โดยไม่เสียดายรางวัลชิ้นโต”

“เผ่านี้ชำนาญการสะกดรอยและสังหารศัตรูที่สุด อุปนิสัยดุร้ายและเหี้ยมโหด ตอนนี้กลับยังต้องใช้ประกาศนำจับเพื่อจับกุมหลินสวิน ดูท่าพวกเขาต้องเสียเปรียบยกใหญ่ในมือหลินสวินแน่!”

ครู่ใหญ่ในบรรยากาศอันเงียบสงัดมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้น แต่ละคนต่างแปลกใจ พูดถึงแล้วสีหน้าล้วนเปลี่ยนไป เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬเป็นเผ่าที่ทำให้ผู้คนเกลียดชัง หวั่นเกรงและหวาดกลัวอย่างแน่นอน

พวกเขาลงมือตามอำเภอใจ กระหายเลือดและเย็นชา ทำเรื่องที่ทั้งสวรรค์และคนต่างก็พากันเคียดแค้นในดินแดนรกร้างโบราณไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

วันนี้พวกเขากลับติดประกาศนำจับ จะจับกุมตัวเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะผงาดขึ้นมาและมีแววว่าจะเป็นผู้กล้าแห่งยุค ข่าวนี้น่าตะลึงเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย!

“เพราะอะไร เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬนี่รังแกกันเกินไปแล้ว เผ่ามนุษย์ของเราเพิ่งจะมีบุคคลพลิกฟ้าคนใหม่ผงาดขึ้น พวกเขาก็ทนไม่ได้จะกวาดล้างแล้วหรือ”

มีผู้ฝึกปราณส่งเสียงอย่างเดือดดาล ทำลายบรรยากาศในที่นั้นทันที

ผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่ล้วนชิงชังเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ ในจิตใต้สำนึกพวกเขาต่างยืนข้างหลินสวิน

“น่าชังนัก! พวกหมาดำสารเลวอวดดีเกินไปแล้ว ทั้งยังติดประกาศนำจับ ประกาศจับหลินสวินทั่วทั้งแดนฐิติประจิม รังแกกันเช่นนี้ได้ด้วยหรือ”

“คอยดูเถอะ พวกอวดดีและเผด็จการอย่างพวกเขา สักวันกรรมจะต้องตามสนอง!”

ในที่นั้นผู้ฝึกปราณต่างส่งเสียงเคียดแค้น

แม้แต่อวี๋เสวี่ยเจียวและน้องชาย ยามนี้ต่างเลือกที่จะยืนอยู่ข้างหลินสวินโดยพร้อมเพรียง เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬเป็น ‘ศัตรูร่วม’ ของโลกบำเพ็ญตน ชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั่วทุกสารทิศ!

หากไม่ใช่เพราะอิทธิพลของเผ่าพวกเขายิ่งใหญ่เกินไป เบื้องลึกเบื้องหลังน่าพรั่นพรึง คงถูกหลายสำนักร่วมมือกันกวาดล้างไปตั้งนานแล้ว

“แล้วก็เผ่าวาทวาโยของพวกเจ้ากลับช่วยคนเลวสร้างกรรมชั่ว ช่วยพวกหมาดำสารเลวติดประกาศนำจับ หรือพวกเจ้าก็กลายเป็นสุนัขรับใช้ไปแล้ว”

มีคนเดือดดาล พุ่งเป้าไปที่ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยที่เผยแพร่ข่าวนี้

ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยรีบพูดว่า “เผ่าวาทวาโยของพวกเรายึดหลักความเป็นธรรมและเป็นกลางเสมอมา เพียงเผยแพร่ข่าวสารเท่านั้น ส่วนบุญคุณความแค้นและข้อจริงเท็จ พวกเราไม่เคยเข้าไปมีส่วนร่วม จุดนี้คิดว่าทุกคนล้วนรู้ดี”

เขาหยุดไปครู่ค่อยกลอกตาแล้วพูด “ทุกท่านอย่าได้โกรธ ผู้ยิ่งใหญ่หลายคนของเผ่าวาทวาโยได้วิเคราะห์ข่าวนี้อย่างรอบคอบ ได้ความจริงที่น่าทึ่งบางอย่างมา หากทุกท่านรู้… ไม่แน่ว่าอาจจะดีใจ”

ดีใจงั้นหรือ

ทุกคนต่างแปลกใจ

หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงชราดังมาจากใบไม้น้ำแข็งหิมะที่กลายเป็นประกาศนำจับนั่น…

‘มีรายงานว่า หลินสวินออกจากนครเตโช เคยถูกผู้แข็งแกร่งจากเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬตามฆ่าด้วยเหตุผลบางประการที่ไม่สามารถเปิดเผยได้’

‘การตามฆ่าในครั้งนั้น เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬเคลื่อนกำลังราชันกึ่งระดับสองคนและราชันที่แท้จริงอีกหนึ่งคน นอกจากนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งชั้นยอดมือฉมังเกือบร้อยคน โดยมีโก่วซวีสิง นายน้อยผู้หนึ่งของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬที่มีสมญานามว่า ‘บั่นพันเศียร’ นำทัพ’

เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เสียงสูดหายเข้าด้วยความตกใจดังขึ้นในทันที ผู้ฝึกปราณหลายคนต่างมือเท้าเย็นเฉียบ หัวใจแขวนลอยขึ้นมา

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

เพื่อฆ่าเด็กหนุ่มเย้ยฟ้าคนหนึ่ง ถึงขั้นส่งราชันที่แท้จริงมา! เพียงจุดนี้ก็ทำให้ผู้คนกดดันและสั่นสะเทือนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น กองกำลังที่ตามฆ่ายังไม่ได้มีเพียงเท่านี้!

ในที่นั้นเงียบสงัดลงอีกครั้ง บรรยากาศกดดันมาก ผู้ฝึกปราณทั้งหมดต่างตั้งใจฟัง กลัวอย่างยิ่งว่าจะพลาดรายละเอียดจุดใดไป

นี่เป็นข่าวใหญ่ที่ตะลึงโลก สามารถทำให้เกิดคลื่นลมขนาดใหญ่ทั่วทั้งแดนฐิติประจิม!

‘จากข่าวที่พวกเราสืบมาได้ ในการตามฆ่าครั้งนั้น การเคลื่อนไหวของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬไม่ได้ราบรื่น กลับยังพบอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง…’

เสียงชราอธิบาย ผู้ฝึกปราณรอบๆ ต้นข่าสารต่างตั้งใจฟังใจจดจ่อ

ทุกคนไม่ได้สังเกตเห็นว่า ในมุมหนึ่งนอกฝูงชน เด็กหนุ่มที่รูปร่างสง่างามสวมเสื้อคลุมสีดำ ใช้ปีกหมวกบดบังใบหน้าครึ่งนึงเอาไว้ เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ก็หมุนตัวออกไปเงียบๆ

……………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด