Carefree Path of Dreams 48: ลูกไผ่

Now you are reading Carefree Path of Dreams Chapter 48: ลูกไผ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Chapter 48: ลูกไผ่

 

“นั่นมัน… นกอินทรี?!”

 

เมื่อจุดสีดําเข้ามาใกล้มากขึ้น ฟางหยวนก็ได้เห็นว่าเสียงร้องดังลั่นนั่นมาจากนกอินทรียักษ์ มันมีขนสีดําสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นเงาวับราวกับเหล็ก

 

“สัตว์วิญญาณ! เป็นสัตว์วิญญาณจริง ๆ!”

 

อินทรียักษ์สีดําตัวนี้เร็วมาก แค่ตอนที่ฟางหยวนเงยหน้าขึ้นดูมันก็บินผ่านเทือกเขาชอุ่มและหายไปบนฟ้าแล้ว

 

“แปลก… ทําไมข้าถึงไม่เคยเห็นนกอินทรีนี่มาก่อน?”

 

ฟางหยวนมองฝูงนกหงเอี่ยนปายที่ดูวุ่นวายและตั้งข้อสงสัย “เป็นเรื่องบังเอิญหรือว่าเป็นเพราะมีสัตว์วิญญาณจากที่อื่นเข้ามา?”

 

“จิ๊บ!”

 

ในตอนนั้นเอง ทั้งฝูงของนกหงเอี่ยนปายรอบ ๆ หน้าผาก็วุ่นวายขึ้นมา ภายใต้การนําของนกวิญญาณกลุ่มหนึ่ง พวกมันก็จับกลุ่มเป็นวงอยู่กลางอากาศราวกับกองทัพหนึ่ง

 

“วูบ!”

 

นกอินทรียักษ์นั้นไม่ได้รู้สึกกลัวกลุ่มนกหงเอี่ยนป๋ายที่กลางอากาศ มันพุ่งตรงเข้าใส่นกหงเอียนป๋ายฝูงนั้น

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

เสียงร้องแหลมของฝูงนกดังมา ขนนกสีขาวมากมายร่วงจากฟ้า

 

กรงเล็บของนกอินทรียักษ์คมราวกับตะขอเหล็กและนกวิญญาณพวกนั้นก็กระเสือกกระสนหลบกรงเล็บคมกริบนั่น อินทรียักษ์ยังใช้จงอยปากจิกกะโหลกนกหงเอี่ยนป๋ายตัวหนึ่ง นกตัวนั้นตายตกทันทีร่างร่วงหล่นลงมา

 

“กรงเล็บอินทรี! นี่คือกรงเล็บอินทรีที่แท้จริง!”

 

ขณะฟางหยวนสังเกตการต่อสู้ของนกวิญญาณอย่างใกล้ชิด เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาทําความเข้าใจเคล็ดกรงเล็บอินทรีได้ดีขึ้นกว่าเดิม

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

ในที่สุด หลังจากนกอินทรียักษ์เริ่มฆ่านกหงเอี่ยนป๋ายตัวอื่น ๆ ในฝูง เสียงร้องดังลั่นด้วยความโกรธก็ดังมาจากยอดหน้าผา

 

นกสีขาวตัวใหญ่ปรากฏขึ้น เป็นราชานกหงเอี่ยนปาย!

 

มันสยายปีกและบินตรงขึ้นฟ้าไปสู้กับอินทรียักษ์ นกยักษ์ได้เปรียบอย่างรวดเร็ว

 

“เคี้ยกเคี้ยก!”

 

นกอินทรียักษ์สะบัดปีกและหลบออกห่างจากราชานกหงเอี่ยนป๋าย จากนั้นมันก็ใช้กรงเล็บคม ๆ กรีดผ่านการป้องกันของหนึ่งในเหล่านกฉีกกระชากร่างของนกตัวนั้น อินทรียักษ์ตัวนั้นแสดงการท้าทายราชานกหงเอี่ยนป๋ายและบินหนีออกจากฝูงราวกับลูกศรหลุดจากแล่ง ขนนกสีดําสนิทสองสามเส้นร่วงหล่นลงมาตอนที่มันบินหนี

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

ร่างไร้วิญญาณของนกพวกนี้นั้นพบเห็นได้ยากแม้ว่าฟางหยวนจะเข้ามาที่นี่บ่อยครั้งเพื่อหยิบฉวยของล้ําค่า

 

เมื่อเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้น ราชานกหงเอี่ยนปายก็กรีดร้องแหลมยาวและบินนําฝูงนกหงเอียนปายไล่ตามหลังอินทรียักษ์ไป

 

“เอ๋?”

 

ฟางหยวนเหลือบมองอย่างเงียบ ๆ และรู้สึกได้ว่ามีอะไรแปลกๆ

 

“อินทรียักษ์สีดํานั่นตั้งใจชะลอความเร็วลง มันต้องการให้พวกนกหงเอี่ยนปายรู้สึกว่าไล่ตามทันได้เป็นสัตว์ที่เจ้าเล่ห์นัก…”

 

เห็นราชานกนําฝูงนกที่เหลืออยู่ออกจากรังไป ดวงตาของฟางหยวนก็เป็นประกายวับขึ้นมา “เป็นโอกาสของข้าแล้ว!”

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

ฝูงนกบินไกลออกไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็ลับหายไป

 

ฟางหยวนตามทางเข้าไปและปีนขึ้นไปเรื่อย ๆ “น่าจะมีของดี ๆ ในรังของราชานกหงเอี่ยนป๋ายอยู่บ้าง! หรือต่อให้ไม่มี ข้าก็จะให้นกหงเอี่ยนป๋ายพวกนั้นได้ลิ้มรสการสูญเสียครั้งใหญ่!”

 

ก่อนหน้านี้เขาเพียงสังหารพวกมันได้ไม่กี่ตัวเพราะการปรากฏตัวของราชานกและพวกมันที่เหลือ ส่วนตอนนี้นั้นเล่า?

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

เขาปรากฏตัวขึ้น และนกหงเอี่ยนป๋ายก็รู้ตัวว่ามีผู้บุกรุก นกเหล่านั้นกรีดร้องแหลมยาว

 

“หลบไป!”

 

นกหงเอียนป๋ายที่ดูแลรังอยู่นั้นอ่อนแอ ฟางหยวนปล่อยเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กไม่กี่กระบวนท่าก็จัดการนกที่เหลือได้เกือบหมด แม้ว่าเสื้อของเขาจะฉีกขาดรุ่งริ่ง แต่นกหงเอี่ยนป๋ายนั้นสาหัสกว่ามาก

 

“ก็เป็นธรรมดาที่จะมีไข่อยู่ในรังนกธรรมดา…”

 

ในตอนนี้นั้น ฟางหยวนไม่ได้ถูกดึงดูดด้วยไข่พวกนั้นและเดินตรงไปที่จุดสูงสุด เขากระโดดขึ้นไปบนพื้นหน้าตัดที่เห็น

 

“ พรึ่บ!”

 

เท้าทั้งสองวางลงบนที่ราบอย่างมั่นคง มือขวายกขึ้นป้องร่างกาย เขาตรวจสอบรอบตัวว่ามีการเคลื่อนไหวที่เป็นอันตรายหรือไม่

 

บนพื้นหน้าตัดนี่เชื่อมต่อกับหน้าผาและยังมีหลุมใหญ่อยู่ด้านในหลุมนั่นน่าจะเป็นบริเวณที่มีรังนกอยู่

 

เมื่อเห็นผู้บุกรุกเข้ามาถึงในรัง นกหงเอี่ยนป๋ายก็ยิ่งบ้าคลั่งขึ้นและเป็นฝ่ายโจมตีผู้บุกรุกโดยไม่เสียดายชีวิต

 

“ออกไปให้พ้นทางข้า!”

 

ฟางหยวนตะโกนอย่างโมโห เขารับมือกับพวกนกและต้องก้าวถอยหลังหลายก้าว และที่สุดก็ลงไปในหลุมที่เห็น

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

ทันใดนั้น ท่ามกลางนกหงเอี่ยนป๋ายทั้งหลาย นกวิญญาณตัวจิ๋วที่มีขนเป็นประกายพุ่งผ่านนกตัวอื่น ๆ ตรงมาที่ฟางหยวน

 

ฟางหยวนไม่สามารถหลบได้ทัน เขาเรียกกําลังภายในขึ้นมามากขึ้น หัวไหล่สั่นเล็กน้อยราวกับจู่ ๆ ก็มีพลังพุ่งสูงขึ้น

 

ในตอนนั้นเอง เลือดก็สาดกระจายไปทั่ว!

 

แม้ว่าเขาจะใช้กําลังภายในป้องกันตัวเอง ไหล่เขาก็ยังถูกกรงเล็บตัดเข้าลึก

 

“มีสัตว์วิญญาณคอยดูแลรังอยู่จริง ๆ ด้วย แล้วยังสามารถทําให้ข้าบาดเจ็บได้อีกด้วย! ดี! ดีมาก!”

 

เขาหรี่ตา และครู่ถัดมา เขาก็กระโดดไปข้างหน้าราวกับเสือดาวพุ่งเข้าหาสัตว์วิญญาณโดยไม่สนใจนกตัวอื่นที่เหลือ

 

“แกต้องลองลิ้มรสฝ่ามือทรายดํากรงเล็บเหล็กของข้า”

 

ฝามือเขาเปลี่ยนสีดําราวหมึก นิ้วและเล็บเป็นสีเดียวกับเหล็กเงาวับและยังส่งกลิ่นประหลาด

 

ด้วยความช่วยเหลือจากระบบและการค้นคว้าของเขาเอง ฟางหยวนสามารถใช้ฝ่ามือทรายดําและเคล็ดกรงเล็บอินทรีสร้างเป็นวิชาใหม่เรียกเป็นฝ่ามือทรายดํากรงเล็บเหล็ก

 

ตอนนี้ฟางหยวนก็สามารถปลดปล่อยความสามารถที่แท้จริงของ [ฝ่ามือทรายดํา (ระดับ 5)] โดยสะสมพิษไว้ที่กรงเล็บอินทรี เปลี่ยนให้มันอยู่ในรูปแบบอันตรายถึงตายอย่างแท้จริงได้

 

“จิ๊บ!”

 

นกหงเอี่ยนป๋ายกลายพันธุ์นั้นมีความเร็วสูงมาก พอฟางหยวนพลาด มันก็หนีไปอยู่ที่ไกล ๆ

 

ถ้านกวิญญาณช้ากว่านี้เพียงนิดเดียว ปีกของมันก็คงโดนกรงเล็บอินทรีของฟางหยวนจนขาดเข้าแล้ว

 

“เหอเหอ!”

 

หลังจากหนึ่งกระบวนท่า ฟางหยวนก็หยุดไล่ล่าและเริ่มหัวเราะ

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

นกวิญญาณนั่นยังบินไปได้ไม่ไกลนัก จู่ ๆ มันก็กรีดร้องโหยหวน จากนั้นก็หล่นจากกลางอากาศตกลงมาตาย แรงลมทําให้ขนปีกของมันพลิ้วขึ้น

 

นี่เป็นผลจากพิษงูจูเหว่ยกลายพันธุ์ มันมีพิษแรงขนาดที่ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีกําลังภายในถูกพิษนี้ยังต้องลําบาก

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

เห็นนกวิญญาณตายตกลง นกหงเอี่ยนป๋ายที่เหลือก็ถอยกันหมด ไม่มีใครกล้าลงมือ พวกนกไม่มีทางเลือกนอกจากยอมปล่อยให้ฟางหยวนเข้าไปในรัง

 

“โอ้!”

 

หลุมที่เห็นนั้นไม่ลึกมาก และยังมีแสงที่ส่องผ่านช่องว่างระหว่างก้อนหินส่องเข้ามา ฟางหยวนเดินเข้าไปไม่กี่ก้าวและเริ่มตื่นตัวขึ้น เขาเริ่มได้กลิ่นบางอย่าง “แปลกจริง!”

 

อันที่จริง มันควรจะมีกลิ่นเหม็นคาวในรังสัตว์วิญญาณนี้

 

แต่ว่า เขากลับได้กลิ่นอากาศสดชื่นเท่านั้น และยังเป็นอากาศที่สะอาด พลังวิญญาณที่นี่เข้มข้นอย่างน่าแปลกใจ

 

ที่ก้นหลุม มีก้อนหินสีเขียวก้อนใหญ่ตรงกลางยุบลงเล็กน้อย มีกิ่งไม้และขนที่เกาะเกี่ยวกันเกิดเป็นรังนกขนาดใหญ่มหึมา

 

“นี่คือรังนอนของราชานกหงเอี่ยนป๋ายสินะ?”

 

ฟางหยวนเดินตรงไปอีกสองสามก้าว และต้องผิดหวังเมื่อไม่เห็นไข่ของสัตว์วิญญาณ

 

ตั้งแต่เลี้ยงดูฮวาหูเตียวเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยง เขาก็เริ่มสนใจเลี้ยงสัตว์วิญญาณอื่นดูบ้าง สัตว์วิญญาณที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์แบบฮวาหูเตียวนั้นหาได้ยาก

 

ฟางหยวนนั้นหวังจะเลี้ยงนกหงเอี่ยนป๋ายสักตัวเพราะมันเป็นสัตว์วิญญาณที่บินได้

 

“นกจะรู้สึกใกล้ชิดกับสิ่งที่มันเห็นเป็นสิ่งแรกหลังออกจากไข่ ถ้าข้าเก็บไข่นกวิญญาณได้แล้วเลี้ยงดูมันตั้งแต่ยังเล็ก สัตว์วิญญาณอายุน้อยแบบนั้นก็สามารถที่จะเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้”

 

ฟางหยวนนั้นเสียดายมากที่ราชานกหงเอี่ยนป๋ายไม่ได้มีไข่สักฟองให้เห็น

 

เขาตรงไปอีกสองสามก้าวเพ่งมองอย่างละเอียดไปตามรังนกดวงตาของเขาสะดุดกับบางอย่างสีเขียว ๆ

 

ที่ข้าง ๆ รังนก มีน้ําพุไหลผ่านเกิดเป็นแอ่งเล็ก ๆ

 

ที่ขอบแอ่งน้ํามีต้นไผ่แปลกตาสองสามต้นเติบโตอยู่

 

ไผ่พวกนั้นมีสีเขียวหยกราวกับสลักขึ้นมาจากหยกคุณภาพสูงและยังแผ่พลังวิญญาณออกมาดูดซับอากาศเสียเอาไว้

 

“ดูเหมือนว่าไผ่นี่จะเป็นสาเหตุที่ทําให้อากาศในถ้ําสดชื่นได้ขนาดนี้ ”

 

ฟางหยวนเดินตรงไปตรวจสอบต้นไผ่วิญญาณดู

 

“เอ๋?”

 

คราวนี้เขาเห็นอะไรบางอย่าง เขาพบดอกตูมของดอกไผ่ที่เกือบจะบานแล้ว

 

“ไผ่นี่กําลังจะออกดอก?”

 

ฟางหยวนนึกถึงบันทึกโบราณที่บอกไว้ว่า “มันคือวงจรชีวิต ต้นไผ่จะออกหน่อทุก ๆ หกสิบปี จากหน่อก็จะเป็นดอก และดอกจะให้ผลก่อนจะเหี่ยวเฉาไป จากนั้นผลก็จะงอกใหม่ เกิดเป็นวงจรที่สมบูรณ์

 

“ดอกไผ่ที่กําลังบานของไผ่หยกจะเกิดผลไผ่ขนาดเล็กเท่าเมล็ดข้าว หรือที่เรียกว่าลูกไผ่”

 

“ตํานานเก่าแก่บอกว่าเฟิงหวง*ปฏิเสธที่จะทํารังบนต้นไม้อื่นนอกจากหูถัง ไม่กินอะไรนอกจากเหลียนฉือ และไม่ดื่มอะไรนอกจากน้ำพุที่เลอเลิศที่สุด เหลียนฉือตามที่ตํานานพูดถึงก็คือลูกไผ่!”

 

“ก่อนหน้านี้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีของดีน้อยนัก ข้าคิดว่าเป็นเพราะมีคนเอาของวิเศษพวกนั้นไปก่อนแล้ว และก็ดูเหมือนว่าข้าจะคิดถูก ราชานกหงเอียนป๋ายนี่เอาทุกอย่างมาไว้กับตัว!”

 

ในหลุมเต็มไปด้วยรัศมีบริสุทธิ์จากสิ่งของวิเศษที่กองรวมกันอยู่ตรงนี้

 

แต่ของวิเศษบางอย่างนั้นไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยง่ายมิเช่นนั้นมันจะเสียหายหากถูกเคลื่อนย้ายอย่างไม่เหมาะสม ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่กล้าเก็บของวิเศษใดออกไปเพราะว่าเขายังไม่ได้เตรียมการให้ดีพอ

 

ต้นไผ่วิญญาณนั้นตรงกันข้าม มันเติบโตขึ้นเดี่ยว ๆ และโตเร็วมาก ดังนั้นไผ่วิญญาณจึงไม่มีปัญหานี้และสามารถเคลื่อนย้ายได้โดยง่าย

 

ฟางหยวนตรงไปหาต้นไผ่วิญญาณและเริ่มขุดโดยใช้เคล็ดกรงเล็บอินทรี เขาขุดได้เร็วกว่าใช้เสียมเสียอีก ไม่นานนัก เขาก็จัดการขุดต้นไผ่วิญญาณขึ้นมาได้ทั้งหมดรวมถึงรากของมันด้วย รากของต้นไผ่อยู่ในสภาพดี

 

“แค่ไผ่วิญญาณนี่ การเดินทางครั้งนี้ของข้าก็คุ้มค่าแล้ว!”

 

ฟางหยวนแบกต้นไผ่วิญญาณขึ้นมาอย่างมีความสุข และมองหาของวิเศษอื่น

 

“กิกิ๊!”

 

ทันใดนั้น ฮวาหูเตียวที่คอยดูลาดเลาก็วิ่งเข้ามาอย่างกระวนกระวาย

 

“นั่น…นกอินทรียักษ์สีดําตัวนั้น?”

 

ฟาวหยวนมาที่ทางเข้าถ้ําและเห็นนกอินทรียักษ์สีดํา ก่อนหน้านี้ มันเพียงแค่วนอยู่รอบ ๆ นกหงเอี่ยนป๋ายตัวอื่น ๆ แต่ตอนนี้ มันพุ่งเข้ามาหาเขาตรง ๆ

 

“มันล่อราชานกหงเอี่ยนป๋ายกับฝูงออกจากรังเพื่อที่กลับมาที่รังนกนี่อีกรอบ?”

 

เขามองอย่างยินดีก่อนพูด “ดูเหมือนว่าเจ้าจะมาเพราะสมบัติที่ในรังของราชานกหงเอี่ยนป๋าย แต่โชคร้ายสําหรับเจ้าแล้ว ข้ามาถึงที่นี่ก่อนและรับของไปแล้ว…”

 

ในตอนนั้น มีนกจํานวนมากไล่ตามนกอินทรียักษ์อยู่ ราชานกหงเอี่ยนป๋ายนั้นบินนํานกตัวอื่นแต่ก็ยังช้ากว่านกอินทรียักษ์ และทั้งคู่ก็บินนําไปไกล

 

ฟางหยวนเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น นกอินทรียักษ์นั่นดึงดูดความสนใจของราชานกหงเอียนป๋ายด้วยการเข้าต่อสู้ด้วย และมันก็ใช้ความเร็วที่เหนือกว่าล่ออีกฝ่ายออกไปจากรัง แล้วสุดท้ายนกอินทรียักษ์ก็บินกลับมาที่เป้าหมายแท้จริงของมันซึ่งก็คือสมบัติที่ฟางหยวนเก็บมาจากรั้งเรียบร้อยแล้ว

 

เพราะว่านกอินทรียักษ์ทํางานตัวเดียวดังนั้นจึงเสียท่าให้กับฟางหยวนที่เข้ามาถึงรังได้ก่อน

 

“ข้าต้องขออภัยด้วย.ของทั้งหมดนี้เป็นของข้าแล้ว และข้าจะไม่ยกให้เจ้า!”

 

เมื่อนกอินทรียักษ์พุ่งมาถึงตรงหน้าเขา ฟางหยวนหัวเราะเสียงดังก้อง มือขวาเปลี่ยนเป็นกรงเล็บสีดํา เขาคว้าจับอย่างแรงและตะโกน “เคล็ดกรงเล็บอินทรี!”

 

“ปัง!”

 

นกอินทรียักษ์ปลิวกลับไป

 

ราชานกหงเอี่ยนป๋ายนั้นอยู่ไม่ไกลนัก และเมื่อมันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็คลั่งขึ้นมาและส่งเสียงกรีดร้องแหลมยาวบาดหู ที่ปลายขนของมันสีเข้มขึ้นราวแต้มด้วยเลือด เจ้าสัตว์ร้ายนั้นบินตรงเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วไม่น่าเชื่อ

 

“คลั่ง? แต่ข้าไม่สนใจจะเล่นกับพวกเจ้ามากไปกว่านี้แล้ว!”

 

ฟางหยวนหัวเราะ เขาแบกต้นไผ่วิญญาณและหนีลงจากยอดเขาไปอย่างรวดเร็ว

 

กลับมาที่ปากทางเข้าถ้ํา นกอินทรียักษ์ถูกล้อมไว้ด้วยราชานกหงเอี่ยนป๋ายที่กําลังคลั่ง และมันก็ได้แต่กรีดร้องโหยหวน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Carefree Path of Dreams 48: ลูกไผ่

Now you are reading Carefree Path of Dreams Chapter 48: ลูกไผ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Chapter 48: ลูกไผ่

 

“นั่นมัน… นกอินทรี?!”

 

เมื่อจุดสีดําเข้ามาใกล้มากขึ้น ฟางหยวนก็ได้เห็นว่าเสียงร้องดังลั่นนั่นมาจากนกอินทรียักษ์ มันมีขนสีดําสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นเงาวับราวกับเหล็ก

 

“สัตว์วิญญาณ! เป็นสัตว์วิญญาณจริง ๆ!”

 

อินทรียักษ์สีดําตัวนี้เร็วมาก แค่ตอนที่ฟางหยวนเงยหน้าขึ้นดูมันก็บินผ่านเทือกเขาชอุ่มและหายไปบนฟ้าแล้ว

 

“แปลก… ทําไมข้าถึงไม่เคยเห็นนกอินทรีนี่มาก่อน?”

 

ฟางหยวนมองฝูงนกหงเอี่ยนปายที่ดูวุ่นวายและตั้งข้อสงสัย “เป็นเรื่องบังเอิญหรือว่าเป็นเพราะมีสัตว์วิญญาณจากที่อื่นเข้ามา?”

 

“จิ๊บ!”

 

ในตอนนั้นเอง ทั้งฝูงของนกหงเอี่ยนปายรอบ ๆ หน้าผาก็วุ่นวายขึ้นมา ภายใต้การนําของนกวิญญาณกลุ่มหนึ่ง พวกมันก็จับกลุ่มเป็นวงอยู่กลางอากาศราวกับกองทัพหนึ่ง

 

“วูบ!”

 

นกอินทรียักษ์นั้นไม่ได้รู้สึกกลัวกลุ่มนกหงเอี่ยนป๋ายที่กลางอากาศ มันพุ่งตรงเข้าใส่นกหงเอียนป๋ายฝูงนั้น

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

เสียงร้องแหลมของฝูงนกดังมา ขนนกสีขาวมากมายร่วงจากฟ้า

 

กรงเล็บของนกอินทรียักษ์คมราวกับตะขอเหล็กและนกวิญญาณพวกนั้นก็กระเสือกกระสนหลบกรงเล็บคมกริบนั่น อินทรียักษ์ยังใช้จงอยปากจิกกะโหลกนกหงเอี่ยนป๋ายตัวหนึ่ง นกตัวนั้นตายตกทันทีร่างร่วงหล่นลงมา

 

“กรงเล็บอินทรี! นี่คือกรงเล็บอินทรีที่แท้จริง!”

 

ขณะฟางหยวนสังเกตการต่อสู้ของนกวิญญาณอย่างใกล้ชิด เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขาทําความเข้าใจเคล็ดกรงเล็บอินทรีได้ดีขึ้นกว่าเดิม

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

ในที่สุด หลังจากนกอินทรียักษ์เริ่มฆ่านกหงเอี่ยนป๋ายตัวอื่น ๆ ในฝูง เสียงร้องดังลั่นด้วยความโกรธก็ดังมาจากยอดหน้าผา

 

นกสีขาวตัวใหญ่ปรากฏขึ้น เป็นราชานกหงเอี่ยนปาย!

 

มันสยายปีกและบินตรงขึ้นฟ้าไปสู้กับอินทรียักษ์ นกยักษ์ได้เปรียบอย่างรวดเร็ว

 

“เคี้ยกเคี้ยก!”

 

นกอินทรียักษ์สะบัดปีกและหลบออกห่างจากราชานกหงเอี่ยนป๋าย จากนั้นมันก็ใช้กรงเล็บคม ๆ กรีดผ่านการป้องกันของหนึ่งในเหล่านกฉีกกระชากร่างของนกตัวนั้น อินทรียักษ์ตัวนั้นแสดงการท้าทายราชานกหงเอี่ยนป๋ายและบินหนีออกจากฝูงราวกับลูกศรหลุดจากแล่ง ขนนกสีดําสนิทสองสามเส้นร่วงหล่นลงมาตอนที่มันบินหนี

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

ร่างไร้วิญญาณของนกพวกนี้นั้นพบเห็นได้ยากแม้ว่าฟางหยวนจะเข้ามาที่นี่บ่อยครั้งเพื่อหยิบฉวยของล้ําค่า

 

เมื่อเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้น ราชานกหงเอี่ยนปายก็กรีดร้องแหลมยาวและบินนําฝูงนกหงเอียนปายไล่ตามหลังอินทรียักษ์ไป

 

“เอ๋?”

 

ฟางหยวนเหลือบมองอย่างเงียบ ๆ และรู้สึกได้ว่ามีอะไรแปลกๆ

 

“อินทรียักษ์สีดํานั่นตั้งใจชะลอความเร็วลง มันต้องการให้พวกนกหงเอี่ยนปายรู้สึกว่าไล่ตามทันได้เป็นสัตว์ที่เจ้าเล่ห์นัก…”

 

เห็นราชานกนําฝูงนกที่เหลืออยู่ออกจากรังไป ดวงตาของฟางหยวนก็เป็นประกายวับขึ้นมา “เป็นโอกาสของข้าแล้ว!”

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

ฝูงนกบินไกลออกไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็ลับหายไป

 

ฟางหยวนตามทางเข้าไปและปีนขึ้นไปเรื่อย ๆ “น่าจะมีของดี ๆ ในรังของราชานกหงเอี่ยนป๋ายอยู่บ้าง! หรือต่อให้ไม่มี ข้าก็จะให้นกหงเอี่ยนป๋ายพวกนั้นได้ลิ้มรสการสูญเสียครั้งใหญ่!”

 

ก่อนหน้านี้เขาเพียงสังหารพวกมันได้ไม่กี่ตัวเพราะการปรากฏตัวของราชานกและพวกมันที่เหลือ ส่วนตอนนี้นั้นเล่า?

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

เขาปรากฏตัวขึ้น และนกหงเอี่ยนป๋ายก็รู้ตัวว่ามีผู้บุกรุก นกเหล่านั้นกรีดร้องแหลมยาว

 

“หลบไป!”

 

นกหงเอียนป๋ายที่ดูแลรังอยู่นั้นอ่อนแอ ฟางหยวนปล่อยเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กไม่กี่กระบวนท่าก็จัดการนกที่เหลือได้เกือบหมด แม้ว่าเสื้อของเขาจะฉีกขาดรุ่งริ่ง แต่นกหงเอี่ยนป๋ายนั้นสาหัสกว่ามาก

 

“ก็เป็นธรรมดาที่จะมีไข่อยู่ในรังนกธรรมดา…”

 

ในตอนนี้นั้น ฟางหยวนไม่ได้ถูกดึงดูดด้วยไข่พวกนั้นและเดินตรงไปที่จุดสูงสุด เขากระโดดขึ้นไปบนพื้นหน้าตัดที่เห็น

 

“ พรึ่บ!”

 

เท้าทั้งสองวางลงบนที่ราบอย่างมั่นคง มือขวายกขึ้นป้องร่างกาย เขาตรวจสอบรอบตัวว่ามีการเคลื่อนไหวที่เป็นอันตรายหรือไม่

 

บนพื้นหน้าตัดนี่เชื่อมต่อกับหน้าผาและยังมีหลุมใหญ่อยู่ด้านในหลุมนั่นน่าจะเป็นบริเวณที่มีรังนกอยู่

 

เมื่อเห็นผู้บุกรุกเข้ามาถึงในรัง นกหงเอี่ยนป๋ายก็ยิ่งบ้าคลั่งขึ้นและเป็นฝ่ายโจมตีผู้บุกรุกโดยไม่เสียดายชีวิต

 

“ออกไปให้พ้นทางข้า!”

 

ฟางหยวนตะโกนอย่างโมโห เขารับมือกับพวกนกและต้องก้าวถอยหลังหลายก้าว และที่สุดก็ลงไปในหลุมที่เห็น

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

ทันใดนั้น ท่ามกลางนกหงเอี่ยนป๋ายทั้งหลาย นกวิญญาณตัวจิ๋วที่มีขนเป็นประกายพุ่งผ่านนกตัวอื่น ๆ ตรงมาที่ฟางหยวน

 

ฟางหยวนไม่สามารถหลบได้ทัน เขาเรียกกําลังภายในขึ้นมามากขึ้น หัวไหล่สั่นเล็กน้อยราวกับจู่ ๆ ก็มีพลังพุ่งสูงขึ้น

 

ในตอนนั้นเอง เลือดก็สาดกระจายไปทั่ว!

 

แม้ว่าเขาจะใช้กําลังภายในป้องกันตัวเอง ไหล่เขาก็ยังถูกกรงเล็บตัดเข้าลึก

 

“มีสัตว์วิญญาณคอยดูแลรังอยู่จริง ๆ ด้วย แล้วยังสามารถทําให้ข้าบาดเจ็บได้อีกด้วย! ดี! ดีมาก!”

 

เขาหรี่ตา และครู่ถัดมา เขาก็กระโดดไปข้างหน้าราวกับเสือดาวพุ่งเข้าหาสัตว์วิญญาณโดยไม่สนใจนกตัวอื่นที่เหลือ

 

“แกต้องลองลิ้มรสฝ่ามือทรายดํากรงเล็บเหล็กของข้า”

 

ฝามือเขาเปลี่ยนสีดําราวหมึก นิ้วและเล็บเป็นสีเดียวกับเหล็กเงาวับและยังส่งกลิ่นประหลาด

 

ด้วยความช่วยเหลือจากระบบและการค้นคว้าของเขาเอง ฟางหยวนสามารถใช้ฝ่ามือทรายดําและเคล็ดกรงเล็บอินทรีสร้างเป็นวิชาใหม่เรียกเป็นฝ่ามือทรายดํากรงเล็บเหล็ก

 

ตอนนี้ฟางหยวนก็สามารถปลดปล่อยความสามารถที่แท้จริงของ [ฝ่ามือทรายดํา (ระดับ 5)] โดยสะสมพิษไว้ที่กรงเล็บอินทรี เปลี่ยนให้มันอยู่ในรูปแบบอันตรายถึงตายอย่างแท้จริงได้

 

“จิ๊บ!”

 

นกหงเอี่ยนป๋ายกลายพันธุ์นั้นมีความเร็วสูงมาก พอฟางหยวนพลาด มันก็หนีไปอยู่ที่ไกล ๆ

 

ถ้านกวิญญาณช้ากว่านี้เพียงนิดเดียว ปีกของมันก็คงโดนกรงเล็บอินทรีของฟางหยวนจนขาดเข้าแล้ว

 

“เหอเหอ!”

 

หลังจากหนึ่งกระบวนท่า ฟางหยวนก็หยุดไล่ล่าและเริ่มหัวเราะ

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

นกวิญญาณนั่นยังบินไปได้ไม่ไกลนัก จู่ ๆ มันก็กรีดร้องโหยหวน จากนั้นก็หล่นจากกลางอากาศตกลงมาตาย แรงลมทําให้ขนปีกของมันพลิ้วขึ้น

 

นี่เป็นผลจากพิษงูจูเหว่ยกลายพันธุ์ มันมีพิษแรงขนาดที่ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีกําลังภายในถูกพิษนี้ยังต้องลําบาก

 

“จิ๊บ! จิ๊บ!”

 

เห็นนกวิญญาณตายตกลง นกหงเอี่ยนป๋ายที่เหลือก็ถอยกันหมด ไม่มีใครกล้าลงมือ พวกนกไม่มีทางเลือกนอกจากยอมปล่อยให้ฟางหยวนเข้าไปในรัง

 

“โอ้!”

 

หลุมที่เห็นนั้นไม่ลึกมาก และยังมีแสงที่ส่องผ่านช่องว่างระหว่างก้อนหินส่องเข้ามา ฟางหยวนเดินเข้าไปไม่กี่ก้าวและเริ่มตื่นตัวขึ้น เขาเริ่มได้กลิ่นบางอย่าง “แปลกจริง!”

 

อันที่จริง มันควรจะมีกลิ่นเหม็นคาวในรังสัตว์วิญญาณนี้

 

แต่ว่า เขากลับได้กลิ่นอากาศสดชื่นเท่านั้น และยังเป็นอากาศที่สะอาด พลังวิญญาณที่นี่เข้มข้นอย่างน่าแปลกใจ

 

ที่ก้นหลุม มีก้อนหินสีเขียวก้อนใหญ่ตรงกลางยุบลงเล็กน้อย มีกิ่งไม้และขนที่เกาะเกี่ยวกันเกิดเป็นรังนกขนาดใหญ่มหึมา

 

“นี่คือรังนอนของราชานกหงเอี่ยนป๋ายสินะ?”

 

ฟางหยวนเดินตรงไปอีกสองสามก้าว และต้องผิดหวังเมื่อไม่เห็นไข่ของสัตว์วิญญาณ

 

ตั้งแต่เลี้ยงดูฮวาหูเตียวเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยง เขาก็เริ่มสนใจเลี้ยงสัตว์วิญญาณอื่นดูบ้าง สัตว์วิญญาณที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์แบบฮวาหูเตียวนั้นหาได้ยาก

 

ฟางหยวนนั้นหวังจะเลี้ยงนกหงเอี่ยนป๋ายสักตัวเพราะมันเป็นสัตว์วิญญาณที่บินได้

 

“นกจะรู้สึกใกล้ชิดกับสิ่งที่มันเห็นเป็นสิ่งแรกหลังออกจากไข่ ถ้าข้าเก็บไข่นกวิญญาณได้แล้วเลี้ยงดูมันตั้งแต่ยังเล็ก สัตว์วิญญาณอายุน้อยแบบนั้นก็สามารถที่จะเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้”

 

ฟางหยวนนั้นเสียดายมากที่ราชานกหงเอี่ยนป๋ายไม่ได้มีไข่สักฟองให้เห็น

 

เขาตรงไปอีกสองสามก้าวเพ่งมองอย่างละเอียดไปตามรังนกดวงตาของเขาสะดุดกับบางอย่างสีเขียว ๆ

 

ที่ข้าง ๆ รังนก มีน้ําพุไหลผ่านเกิดเป็นแอ่งเล็ก ๆ

 

ที่ขอบแอ่งน้ํามีต้นไผ่แปลกตาสองสามต้นเติบโตอยู่

 

ไผ่พวกนั้นมีสีเขียวหยกราวกับสลักขึ้นมาจากหยกคุณภาพสูงและยังแผ่พลังวิญญาณออกมาดูดซับอากาศเสียเอาไว้

 

“ดูเหมือนว่าไผ่นี่จะเป็นสาเหตุที่ทําให้อากาศในถ้ําสดชื่นได้ขนาดนี้ ”

 

ฟางหยวนเดินตรงไปตรวจสอบต้นไผ่วิญญาณดู

 

“เอ๋?”

 

คราวนี้เขาเห็นอะไรบางอย่าง เขาพบดอกตูมของดอกไผ่ที่เกือบจะบานแล้ว

 

“ไผ่นี่กําลังจะออกดอก?”

 

ฟางหยวนนึกถึงบันทึกโบราณที่บอกไว้ว่า “มันคือวงจรชีวิต ต้นไผ่จะออกหน่อทุก ๆ หกสิบปี จากหน่อก็จะเป็นดอก และดอกจะให้ผลก่อนจะเหี่ยวเฉาไป จากนั้นผลก็จะงอกใหม่ เกิดเป็นวงจรที่สมบูรณ์

 

“ดอกไผ่ที่กําลังบานของไผ่หยกจะเกิดผลไผ่ขนาดเล็กเท่าเมล็ดข้าว หรือที่เรียกว่าลูกไผ่”

 

“ตํานานเก่าแก่บอกว่าเฟิงหวง*ปฏิเสธที่จะทํารังบนต้นไม้อื่นนอกจากหูถัง ไม่กินอะไรนอกจากเหลียนฉือ และไม่ดื่มอะไรนอกจากน้ำพุที่เลอเลิศที่สุด เหลียนฉือตามที่ตํานานพูดถึงก็คือลูกไผ่!”

 

“ก่อนหน้านี้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีของดีน้อยนัก ข้าคิดว่าเป็นเพราะมีคนเอาของวิเศษพวกนั้นไปก่อนแล้ว และก็ดูเหมือนว่าข้าจะคิดถูก ราชานกหงเอียนป๋ายนี่เอาทุกอย่างมาไว้กับตัว!”

 

ในหลุมเต็มไปด้วยรัศมีบริสุทธิ์จากสิ่งของวิเศษที่กองรวมกันอยู่ตรงนี้

 

แต่ของวิเศษบางอย่างนั้นไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยง่ายมิเช่นนั้นมันจะเสียหายหากถูกเคลื่อนย้ายอย่างไม่เหมาะสม ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่กล้าเก็บของวิเศษใดออกไปเพราะว่าเขายังไม่ได้เตรียมการให้ดีพอ

 

ต้นไผ่วิญญาณนั้นตรงกันข้าม มันเติบโตขึ้นเดี่ยว ๆ และโตเร็วมาก ดังนั้นไผ่วิญญาณจึงไม่มีปัญหานี้และสามารถเคลื่อนย้ายได้โดยง่าย

 

ฟางหยวนตรงไปหาต้นไผ่วิญญาณและเริ่มขุดโดยใช้เคล็ดกรงเล็บอินทรี เขาขุดได้เร็วกว่าใช้เสียมเสียอีก ไม่นานนัก เขาก็จัดการขุดต้นไผ่วิญญาณขึ้นมาได้ทั้งหมดรวมถึงรากของมันด้วย รากของต้นไผ่อยู่ในสภาพดี

 

“แค่ไผ่วิญญาณนี่ การเดินทางครั้งนี้ของข้าก็คุ้มค่าแล้ว!”

 

ฟางหยวนแบกต้นไผ่วิญญาณขึ้นมาอย่างมีความสุข และมองหาของวิเศษอื่น

 

“กิกิ๊!”

 

ทันใดนั้น ฮวาหูเตียวที่คอยดูลาดเลาก็วิ่งเข้ามาอย่างกระวนกระวาย

 

“นั่น…นกอินทรียักษ์สีดําตัวนั้น?”

 

ฟาวหยวนมาที่ทางเข้าถ้ําและเห็นนกอินทรียักษ์สีดํา ก่อนหน้านี้ มันเพียงแค่วนอยู่รอบ ๆ นกหงเอี่ยนป๋ายตัวอื่น ๆ แต่ตอนนี้ มันพุ่งเข้ามาหาเขาตรง ๆ

 

“มันล่อราชานกหงเอี่ยนป๋ายกับฝูงออกจากรังเพื่อที่กลับมาที่รังนกนี่อีกรอบ?”

 

เขามองอย่างยินดีก่อนพูด “ดูเหมือนว่าเจ้าจะมาเพราะสมบัติที่ในรังของราชานกหงเอี่ยนป๋าย แต่โชคร้ายสําหรับเจ้าแล้ว ข้ามาถึงที่นี่ก่อนและรับของไปแล้ว…”

 

ในตอนนั้น มีนกจํานวนมากไล่ตามนกอินทรียักษ์อยู่ ราชานกหงเอี่ยนป๋ายนั้นบินนํานกตัวอื่นแต่ก็ยังช้ากว่านกอินทรียักษ์ และทั้งคู่ก็บินนําไปไกล

 

ฟางหยวนเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น นกอินทรียักษ์นั่นดึงดูดความสนใจของราชานกหงเอียนป๋ายด้วยการเข้าต่อสู้ด้วย และมันก็ใช้ความเร็วที่เหนือกว่าล่ออีกฝ่ายออกไปจากรัง แล้วสุดท้ายนกอินทรียักษ์ก็บินกลับมาที่เป้าหมายแท้จริงของมันซึ่งก็คือสมบัติที่ฟางหยวนเก็บมาจากรั้งเรียบร้อยแล้ว

 

เพราะว่านกอินทรียักษ์ทํางานตัวเดียวดังนั้นจึงเสียท่าให้กับฟางหยวนที่เข้ามาถึงรังได้ก่อน

 

“ข้าต้องขออภัยด้วย.ของทั้งหมดนี้เป็นของข้าแล้ว และข้าจะไม่ยกให้เจ้า!”

 

เมื่อนกอินทรียักษ์พุ่งมาถึงตรงหน้าเขา ฟางหยวนหัวเราะเสียงดังก้อง มือขวาเปลี่ยนเป็นกรงเล็บสีดํา เขาคว้าจับอย่างแรงและตะโกน “เคล็ดกรงเล็บอินทรี!”

 

“ปัง!”

 

นกอินทรียักษ์ปลิวกลับไป

 

ราชานกหงเอี่ยนป๋ายนั้นอยู่ไม่ไกลนัก และเมื่อมันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็คลั่งขึ้นมาและส่งเสียงกรีดร้องแหลมยาวบาดหู ที่ปลายขนของมันสีเข้มขึ้นราวแต้มด้วยเลือด เจ้าสัตว์ร้ายนั้นบินตรงเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วไม่น่าเชื่อ

 

“คลั่ง? แต่ข้าไม่สนใจจะเล่นกับพวกเจ้ามากไปกว่านี้แล้ว!”

 

ฟางหยวนหัวเราะ เขาแบกต้นไผ่วิญญาณและหนีลงจากยอดเขาไปอย่างรวดเร็ว

 

กลับมาที่ปากทางเข้าถ้ํา นกอินทรียักษ์ถูกล้อมไว้ด้วยราชานกหงเอี่ยนป๋ายที่กําลังคลั่ง และมันก็ได้แต่กรีดร้องโหยหวน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+