Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 1020: หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเจ้านาย

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 1020: หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเจ้านาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1020: หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเจ้านาย หลังจากที่เขาฟื้นฟูตัวเองจนหายดีแล้ว เจี้ยนเฉินก็ออกไปจากห้อง รุยจินและเฮยยู่กำลังรออยู่ที่ด้านนอก หัวใจของเจี้ยนเฉินอบอุ่นขึ้นทันทีเมื่อเขาเห็นว่ารุยจินและเฮยยู่เฝ้าเขาอยู่ตลอดเวลาแม้เขาจะอยู่ในเมืองทหารรับจ้าง เขาป้องมือไปที่พวกเขาทั้งสองแล้วพูด “ผู้อาวุโสรุยจินและผู้อาวุโสเฮยยู่ ข้าทำให้พวกท่านรอ” “ไม่มีปัญหา มันไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ให้ทำที่นี่ ดังนั้นพวกเราจึงมาที่ที่เจ้าเก็บตัว เผื่อว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเหมือนก่อนหน้านี้” เฮยยู่หัวเราะคิกคัก รุยจินจ้องไปที่เจี้ยนเฉินสักพักแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน เรื่องที่เกี่ยวกับโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งเป็นความจริงหรือ ? “ เฮยยู่หยุดยิ้มแล้วเครียดกับคำถามที่กะทันหันของรุยจินทันที เจี้ยนเฉินพยักหน้า “ถูกต้อง มันเป็นเรื่องจริง ผนึกของโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งมีอยู่จริง ๆ ใต้เมืองทหารรับจ้าง และจอมยุทธจากโลกนั้นก็มาโจมตีผนึก การโจมตีนี้ทำให้เมืองสั่นไหว” รุยจินเครียด เขาหยุดพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้นทันทีแล้วพูดขึ้นมา “เจี้ยนเฉิน พวกเราไปกันเถอะ” หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็พบกับเถี่ยต้าอีกครั้ง เขาพูดกับเถี่ยต้าสักพักก่อนที่จะออกจากมิติที่แยกตัวออกไปกับรุยจินและเฮยยู่แล้วกลับไปที่เมืองทหารรับจ้าง หมิงตงยังอยู่ในช่วงสำคัญของการตัดผ่านระดับ ดังนั้นมันจึงจะดีกว่าถ้าเจี้ยนเฉินไม่ไปรบกวนเขา เมื่อเจี้ยนเฉินกลับไปที่เมืองทหารรับจ้างกับรุยจินและเฮยยู่ เมืองก็กลับไปอยู่ในสภาพก่อนหน้านี้ พลังป้องกันได้ทำให้รอยแตกที่พื้นกลับมาเหมือนเดิม ราวกับว่าไม่มีรอยแยกก่อนหน้านี้เลย ผู้อาวุโสของเมืองทหารประกาศเหตุผลธรรมดาออกไปเพื่ออธิบายเกี่ยวกับการสั่นไหวของเมือง พวกเขาสงบจากความตื่นตระหนกและความสงสัย ภายใต้การนำของรุยจินและเฮยยู่ เจี้ยนเฉินก็ไปหาหงเหลียนและฮุสตันที่กำลังพักฟื้นอยู่ในโรงเตี้ยม พวกเขาทั้งสองอยู่ที่โรงเตี้ยมเดียวกัน “ข้าขอคารวะลุงเซียวและผู้อาวุโสหงเหลียน” เจี้ยนเฉินคารวะทั้งสองอย่างสุภาพทันทีที่พบกับพวกเขา เขามองผ่านไปที่ทั้งสองอย่างรวดเร็วและพบว่าฮุสตันยังคงหน้าซีดบาดเจ็บอยู่ ในอีกมุมหนึ่ง หงเหลียนก็ดูปกติดี ยกเว้นแต่ความเหนื่อยที่นางยากที่จะปิดบังเอาไว้ได้ เจี้ยนเฉินสามารถสัมผัสได้ชัดถึงพลังแห่งการมีอยู่ของหงเหลียนที่อ่อนแอกว่าก่อนหน้านี้ แม้ว่าหงเหลียนจะเป็นฟีนิกซ์ที่มีชีวิตอยู่ได้หลายพันปี นางก็ดูมีอายุแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้น หงเหลียนเริ่มจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างดุร้ายเมื่อนางได้ยินเจี้ยนเฉินเรียกนาง นางพูดพร้อมโกรธเล็กน้อย “ผู้อาวุโสอะไร ? เจี้ยนเฉิน ข้าดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือ ? “ เจี้ยนเฉินอึ้งไป เขาไม่คิดว่าหงเหลียนจะมีปฏิกิริยารุนแรงอย่างนี้จากการที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโส รุยจินยิ้มให้กับหงเหลียนที่มีปฏิกิริยาแบบนั้นแล้วพูด “หงเหลียน ตอนไหนกันที่เข้าเจ้าทำตัวเหมือนเด็กหญิง ? มันไม่เหมือนกับเป็นเจ้าเลย” หงเหลียนใช้มือเล่นผมของนาง หลังจากนั้น นางก็หันไปรอบ ๆ และนั่งลงที่เตียง นางจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความสนใจแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน ข้าสูญเสียอย่างมากเพื่อที่จะช่วยเจ้า ข้าเกิดใหม่ 4 ครั้งซึ่งทำให้ข้าอ่อนแอลง 40 ปี พูดมา ว่าเจ้ามีสมบัติอะไรที่จะชดเชยการสูญเสียของข้า ? ” หงเหลียนไม่ดูเหมือนล้อเล่นเลยและคำพูดของนางก็จริงจัง “ข้าจะไม่ลืมความมีน้ำใจของผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิตข้า ข้าจะใช้คืนแน่ถ้าข้ามีอากาสในอนาคต” เจี้ยนเฉินพูด ในขณะที่เขาป้องมือไปโดยไม่ได้คิดมาก รุยจินเดินไปเปะไหล่เจี้ยนเฉิน เขายิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน หงเหลียนกำลังล้อเจ้าเล่น อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงจังเลย” เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของรุยจินเลยแม้แต่น้อย นางจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างค่อนข้างไม่พอใจแล้วพูด “ข้าไม่ให้เรียกข้าว่าผู้อาวุโส เจี้ยนเฉิน ฟังให้ดี อย่าเรียกข้าว่าผู้อาวุโสอีก เรียกชื่อข้าเฉย ๆ ว่า หงเหลียน ! ก็พอ” “ได้ ! ” เจี้ยนเฉินป้องมือไปที่นาง หลังจากที่คิดแล้วเขาก็พูดออกมา “หงเหลียน ลุงเซียว พวกท่านยังบาดเจ็บอยู่ ทำไมเจ้าไม่เข้าไปที่วัตถุเซียนล่ะ ? ข้าสามารถให้วัตถุจิตวิญญาณรักษาบาดแผลทั้งหมดของพวกท่านได้” ตาของฮุสตันเบิกขึ้นหลังจากนั้น เขากระแอม 2 ครั้งและพูดอย่างค่อนข้างอ่อนแอ “นั่นน่าจะได้ผล ด้วยการช่วยเหลือจากวัตถุจิตวิญญาณของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ข้าจะสามารถฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บที่ปกติจะใช้เวลาหลายทศวรรษได้ในเวลาอันสั้น” จากนั้น เจี้ยนเฉินก็เอาวัตถุเซียนออกมาและส่งฮุสตันเข้าไปในมิติวัตถุเซียน หลังจากนั้น เขาก็หันไปหาหงเหลียนแล้วพูด “ทำไมเจ้าไม่เข้าไปในมิติวัตถุเซียนเพื่อรับการรักษาล่ะ หงเหลียน ? “ หงเหลียนจ้องไปที่เจี้ยนเฉิน และนางก็หลับตาเพื่อพุ่งสมาธิไปที่การทำสมาธิ นางพูด “ความอ่อนแอของข้ามาจากผลย้อนกลับของการเกิดใหม่ของไฟ ความแข็งแกร่งของข้าลดจากระดับสูงสุดเหลือชั้นสวรรค์ที่ 5 และวัตถุจิตวิญญาณไม่สามารถรักษาได้ ข้าสามารถฟื้นฟูได้อย่างช้า ๆ แน่นอนว่า ถ้าเจ้ามีสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ที่มีค่ามาก ๆ นั่นสามารถลดเวลาที่ข้าอ่อนแอลงได้เช่นกัน” “สมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ ? หญ้าน้ำลายมังกรใช้ได้หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างเร่งรีบ หงเหลียนส่ายหัวเบาเบา “หญ้าน้ำลายมังกรเป็นเพียงสมบัติสวรรค์ มันไม่ได้ใกล้เคียงกับสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้เลย” เจี้ยนเฉินสลดใจ เขารู้ว่ารุยจินพาหงเหลียนมาในฐานะผู้ช่วยที่ทรงพลัง ถ้านางฟื้นฟูเต็มกำลัง เขาคงจะได้ผู้ช่วยที่ทรงพลังมาเพิ่มอยู่เคียงข้างเขาอีก 1 คน “นายท่าน น้ำศักดิ์สิทธิ์ของทะเลวิญญาณสามารถช่วยฟื้นฟูความแข็งแกร่งของฟีนิกซ์น้อยนี้ได้” ในตอนนี้ เสียงของจิตวิญญาณกระบี่ดังขึ้นมาในหัวของเขา เขาไม่ได้ยินทั้งสองมาซักพักแล้ว เจี้ยนเฉินดีใจ เขามุ่งความสนใจไปที่สติสัมปะชัญญะของเขาทันทีและเขาเห็นจิตวิญญาณกระบี่ทั้งสองกำลังวนอยู่ที่หินหลากสีในรูปแบบของบอลแสง 2 ลูก ในหลายปีที่ผ่านมา จิตวิญญาณกระบี่ได้ดูดซับหินเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของพวกเขา เจี้ยนเฉินสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าจิตวิญญาณกระบี่ทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้มากเพียงแค่มองปราดเดียว ในขณะที่หินก็ก้อนเล็กลงด้วย “จือหยิง ฉิงโซว เจ้ากำลังพูดว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกสามารถช่วยให้หงเหลียนฟื้นฟูจากผลกระทบของการเกิดใหม่ของไฟได้?” เจี้ยนเฉินถาม น้ำศักดิ์สิทธิ์จากทะเลวิญญาณที่จิตวิญญาณกระบี่พูดถึงนั้นเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกที่อยู่ในอาณาจักรทะเล “ถูกต้อง พวกเราเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลฟีนิกซ์ พวกเขาจะอ่อนแอทุกครั้งที่พวกเขาใช้พลังโดยกำเนิด การเกิดใหม่ของไฟ และจะทำให้ความแข็งแกร่งลดลงอย่างมาก ถ้าพวกเขาใช้มันอย่างต่อเรื่อง มันจะส่งผลให้พวกเขาอ่อนแอลง 10 ปี ในโลกดั้งเดิมของพวกเรา มันจะถึงพันปี หมื่นปีหรือนานกว่านั้น ทุก ๆ ครั้งที่พวกเขาใช้การเกิดใหม่ เพื่อที่จะลดเวลาของความอ่อนแอนั้น จอมยุทธบางคนของตระกูลฟีนิกซ์จึงเดินทางไปทั่วโลกเพื่อที่จะหาวิธีการ ในท้ายที่สุด พวกเขาก็พบว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของทะเลวิญญาณเป็นน้ำที่ช่วยพวกเขาได้” จือหยิงอธิบาย สมาธิของเจี้ยนเฉินกลับมาที่ร่างของเขา แม้ว่าเขาจะรู้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกจะทำให้หงเหลียนฟื้นตัวได้ทันที แต่เขามีแค่ 1 ส่วนเท่านั้น ซึ่งมันจะต้องเอาไว้ใช้สำหรับหลอมกระบี่ม่วงฟ้า เขาไม่สามารถให้มันกกับหงเหลียนได้ “ข้าจะไปตามหาน้ำนั่นทันทีที่ข้ากลับไปที่เผ่าพันธุ์ทะเล” เจี้ยนเฉินคิด ในตอนนี้ เขาเชื่อว่า เขาแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเขาไปในเขตที่อันตรายในอาณาจักรทะเลเพื่อที่จะตามหาน้ำนั่นได้แล้ว เจี้ยนเฉินเข้าไปในมิติของวัตถุเซียนหลังจากที่เขาปล่อยหงเหลียนให้ได้พักผ่อน ในตอนแรกเขาเข้าไปเยี่ยมโหยวเยว่ เสี่ยวไป๋ และแม่ของมัน เพื่อที่จะปลอบโยนพวกเขาจากการตื่นตระหนก จากนั้น เขาก็ไปยังสถานที่ที่ลุงเซียวอยู่ทันที ลุงเซียวฟื้นตัวเต็มที่อย่างรวดเร็วภายใต้การรักษาจากพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงของวัตถุวิญญาณเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง เขาจึงชื่นชมในพลังและความมหัศจรรย์ในพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง เขาพลิกมือแล้วหนังสือก็ขึ้นมาปรากฏบนมือของเขา จักรพรรดิเลือดปีศาจได้ทิ้งคู่มือการฝึกฝนเอาไว้ที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด พลังหยินที่ชั่วร้ายได้หยุดโจมตีที่เจี้ยนเฉินมานานแล้วด้วยการยอมจำนนของหินปีศาจชั้นฟ้า เจี้ยนเฉินส่งหนังสือไปให้ลุยเซียวแล้วพูดว่า “ลุงเซียว กรุณาดูหนังสือนี้ด้วย” ทันทีที่เจี้ยนเฉินเอาหนังสือออกมา ฮุสตันก็จ้องไปที่มันตาไม่กระพริบ เขารับมันมาทันทีอย่างไม่ลังเลหลังจากที่เขาได้ยินคำของเจี้ยนเฉิน “หืม ? ” ฮุสตันอุทานออกมาอย่างตกใจทันที่ที่หนังสืออยู่ในมือของเขา สายตาที่ชราและลึกซึ้งของเขาเบิกออกอย่างประหลาดใจ และเขาก็ร้องออกมาในขณะที่เขาจ้องเขม็งไปที่หนังสือ “พลังหยินที่ชั่วร้าย ! มันเป็นพลังหยินที่ชั่วร้ายจริง ๆ และมันยังทรงพลังมากกว่าพลังงานหยินที่ชั่วร้ายที่ข้าควบคุมหลายเท่า ! “ ฮุสตันไม่ได้หยุดหลังงานหยินชั่วร้ายและปล่อยให้มันผ่านร่างกายของเขาไปที่วิญญาณของเขา ทันทีที่มันพบกับวิญญาณของเขา ไม่เพียงแต่มันจะไม่ทำอันตรายกับฮุสตัน แต่มันยังถูกกลืนกินเข้าไปแทน และกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานของเขา อย่างไรก็ตาม พลังงานหยินชั่วร้ายที่เหลือก็พุ่งออกไปเหมือนนกที่กำลังตกใจทันทีที่ฮุสตันเริ่มกลืนกินส่วนหนึ่งของมัน มันถอยกลับเข้าไปในหนังสือเร็วที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ มันเงียบไปและไม่กล้าที่จะปรากฎออกมาอีกครั้ง “หืม ? พลังหยินชั่วร้ายนี้ยังมีสติปัญญาอีกด้วย น่าประหลาดใจ น่าประหลาดใจจริง ๆ ” ฮุสตันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างประหลาดใจออกมา เขารู้สึกอยากรู้เกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือและเขาก็พลิกเปิดมันทันที อย่างไรก็ตาม ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นหน้าแรก ตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจที่เขายกจะเก็บเอาไว้ได้ และความตกใจของเขาก็เพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ ทันทีที่เขาเปิดหน้าต่อไปเรื่อย ๆ ในท้ายที่สุด มันก็เปลี่ยนไปด้วยความตกใจสุดขีดและความเหลือเชื่อ “นะ นี่เป็นคู่มือการฝึกฝนของนิกายดาบโลหิตของข้า เจี้ยนเฉิน เจ้าไปได้หนังสือนี้มาจากที่ไหน ? ” ฮุสตันปิดหนังสือทันทีและจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความสนใจ หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็บอกฮุสตันเกี่ยวกับที่มาของหนังสือและทุกอย่างที่เขาได้รู้มาจากความทรงจำของจักรพรรดิเลือดปีศาจ ฮุสตันอึ้งทันทีเมื่อเขาพบว่าผู้ก่อตั้งนิกายดาบโลหิตจริง ๆ แล้วเป็นคนของเผ่าพันธุ์ทะเล หัวใจของเขาเริ่มปั่นป่วนเพราะเขายากที่จะยอมรับหรือเชื่อได้ “ลุงเซียว นี่คือหินปีศาจชั้นฟ้า มันน่าจะเป็นประโยชน์มากสำหรับท่าน” จากนั้น เจี้ยนเฉินก็ส่งหินปีศาจชั้นฟ้าออกไป ลุงเซียวสงบใจลงอย่างช้า ๆ ในขณะที่เขาจ้องไปที่หินที่อยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน เขายื่นมือไปที่มันอย่างไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ลุยซุยแตะหินปีศาจชั้นฟ้ามันก็บินขึ้นจากปกติที่มันวางอยู่ที่มือของเจี้ยนเฉินอย่างเฉยเฉย มันเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงจางจางในขณะที่มังพุ่งเข้าไปหาลุงเซียว ก่อนที่จะหายไปในหว่างคิ้วของเขา ตาของลุยซุยหมองลงทันที และเขาก็หลับตา เขาหมดสติไป เจี้ยนเฉินจับไปที่ตัวของเขาอย่างรวดเร็ว แล้ววางเขานอนลงที่พื้น เขารู้ว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เพราะว่ามันเป็นเพียงขั้นตอนที่หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเขาเป็นเจ้านายเท่านั้น

ตอนที่ 1020: หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเจ้านาย

หลังจากที่เขาฟื้นฟูตัวเองจนหายดีแล้ว เจี้ยนเฉินก็ออกไปจากห้อง รุยจินและเฮยยู่กำลังรออยู่ที่ด้านนอก

หัวใจของเจี้ยนเฉินอบอุ่นขึ้นทันทีเมื่อเขาเห็นว่ารุยจินและเฮยยู่เฝ้าเขาอยู่ตลอดเวลาแม้เขาจะอยู่ในเมืองทหารรับจ้าง เขาป้องมือไปที่พวกเขาทั้งสองแล้วพูด “ผู้อาวุโสรุยจินและผู้อาวุโสเฮยยู่ ข้าทำให้พวกท่านรอ”

“ไม่มีปัญหา มันไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ให้ทำที่นี่ ดังนั้นพวกเราจึงมาที่ที่เจ้าเก็บตัว เผื่อว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเหมือนก่อนหน้านี้” เฮยยู่หัวเราะคิกคัก

รุยจินจ้องไปที่เจี้ยนเฉินสักพักแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน เรื่องที่เกี่ยวกับโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งเป็นความจริงหรือ ? “

เฮยยู่หยุดยิ้มแล้วเครียดกับคำถามที่กะทันหันของรุยจินทันที

เจี้ยนเฉินพยักหน้า “ถูกต้อง มันเป็นเรื่องจริง ผนึกของโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งมีอยู่จริง ๆ ใต้เมืองทหารรับจ้าง และจอมยุทธจากโลกนั้นก็มาโจมตีผนึก การโจมตีนี้ทำให้เมืองสั่นไหว”

รุยจินเครียด เขาหยุดพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้นทันทีแล้วพูดขึ้นมา “เจี้ยนเฉิน พวกเราไปกันเถอะ”

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็พบกับเถี่ยต้าอีกครั้ง เขาพูดกับเถี่ยต้าสักพักก่อนที่จะออกจากมิติที่แยกตัวออกไปกับรุยจินและเฮยยู่แล้วกลับไปที่เมืองทหารรับจ้าง หมิงตงยังอยู่ในช่วงสำคัญของการตัดผ่านระดับ ดังนั้นมันจึงจะดีกว่าถ้าเจี้ยนเฉินไม่ไปรบกวนเขา

เมื่อเจี้ยนเฉินกลับไปที่เมืองทหารรับจ้างกับรุยจินและเฮยยู่ เมืองก็กลับไปอยู่ในสภาพก่อนหน้านี้ พลังป้องกันได้ทำให้รอยแตกที่พื้นกลับมาเหมือนเดิม ราวกับว่าไม่มีรอยแยกก่อนหน้านี้เลย

ผู้อาวุโสของเมืองทหารประกาศเหตุผลธรรมดาออกไปเพื่ออธิบายเกี่ยวกับการสั่นไหวของเมือง พวกเขาสงบจากความตื่นตระหนกและความสงสัย

ภายใต้การนำของรุยจินและเฮยยู่ เจี้ยนเฉินก็ไปหาหงเหลียนและฮุสตันที่กำลังพักฟื้นอยู่ในโรงเตี้ยม พวกเขาทั้งสองอยู่ที่โรงเตี้ยมเดียวกัน

“ข้าขอคารวะลุงเซียวและผู้อาวุโสหงเหลียน” เจี้ยนเฉินคารวะทั้งสองอย่างสุภาพทันทีที่พบกับพวกเขา เขามองผ่านไปที่ทั้งสองอย่างรวดเร็วและพบว่าฮุสตันยังคงหน้าซีดบาดเจ็บอยู่ ในอีกมุมหนึ่ง หงเหลียนก็ดูปกติดี ยกเว้นแต่ความเหนื่อยที่นางยากที่จะปิดบังเอาไว้ได้

เจี้ยนเฉินสามารถสัมผัสได้ชัดถึงพลังแห่งการมีอยู่ของหงเหลียนที่อ่อนแอกว่าก่อนหน้านี้

แม้ว่าหงเหลียนจะเป็นฟีนิกซ์ที่มีชีวิตอยู่ได้หลายพันปี นางก็ดูมีอายุแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้น หงเหลียนเริ่มจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างดุร้ายเมื่อนางได้ยินเจี้ยนเฉินเรียกนาง นางพูดพร้อมโกรธเล็กน้อย “ผู้อาวุโสอะไร ? เจี้ยนเฉิน ข้าดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือ ? “

เจี้ยนเฉินอึ้งไป เขาไม่คิดว่าหงเหลียนจะมีปฏิกิริยารุนแรงอย่างนี้จากการที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโส

รุยจินยิ้มให้กับหงเหลียนที่มีปฏิกิริยาแบบนั้นแล้วพูด “หงเหลียน ตอนไหนกันที่เข้าเจ้าทำตัวเหมือนเด็กหญิง ? มันไม่เหมือนกับเป็นเจ้าเลย”

หงเหลียนใช้มือเล่นผมของนาง หลังจากนั้น นางก็หันไปรอบ ๆ และนั่งลงที่เตียง นางจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความสนใจแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน ข้าสูญเสียอย่างมากเพื่อที่จะช่วยเจ้า ข้าเกิดใหม่ 4 ครั้งซึ่งทำให้ข้าอ่อนแอลง 40 ปี พูดมา ว่าเจ้ามีสมบัติอะไรที่จะชดเชยการสูญเสียของข้า ? ” หงเหลียนไม่ดูเหมือนล้อเล่นเลยและคำพูดของนางก็จริงจัง

“ข้าจะไม่ลืมความมีน้ำใจของผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิตข้า ข้าจะใช้คืนแน่ถ้าข้ามีอากาสในอนาคต” เจี้ยนเฉินพูด ในขณะที่เขาป้องมือไปโดยไม่ได้คิดมาก

รุยจินเดินไปเปะไหล่เจี้ยนเฉิน เขายิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน หงเหลียนกำลังล้อเจ้าเล่น อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงจังเลย”

เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของรุยจินเลยแม้แต่น้อย นางจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างค่อนข้างไม่พอใจแล้วพูด “ข้าไม่ให้เรียกข้าว่าผู้อาวุโส เจี้ยนเฉิน ฟังให้ดี อย่าเรียกข้าว่าผู้อาวุโสอีก เรียกชื่อข้าเฉย ๆ ว่า หงเหลียน ! ก็พอ”

“ได้ ! ” เจี้ยนเฉินป้องมือไปที่นาง หลังจากที่คิดแล้วเขาก็พูดออกมา “หงเหลียน ลุงเซียว พวกท่านยังบาดเจ็บอยู่ ทำไมเจ้าไม่เข้าไปที่วัตถุเซียนล่ะ ? ข้าสามารถให้วัตถุจิตวิญญาณรักษาบาดแผลทั้งหมดของพวกท่านได้”

ตาของฮุสตันเบิกขึ้นหลังจากนั้น เขากระแอม 2 ครั้งและพูดอย่างค่อนข้างอ่อนแอ “นั่นน่าจะได้ผล ด้วยการช่วยเหลือจากวัตถุจิตวิญญาณของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ข้าจะสามารถฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บที่ปกติจะใช้เวลาหลายทศวรรษได้ในเวลาอันสั้น”

จากนั้น เจี้ยนเฉินก็เอาวัตถุเซียนออกมาและส่งฮุสตันเข้าไปในมิติวัตถุเซียน หลังจากนั้น เขาก็หันไปหาหงเหลียนแล้วพูด “ทำไมเจ้าไม่เข้าไปในมิติวัตถุเซียนเพื่อรับการรักษาล่ะ หงเหลียน ? “

หงเหลียนจ้องไปที่เจี้ยนเฉิน และนางก็หลับตาเพื่อพุ่งสมาธิไปที่การทำสมาธิ นางพูด “ความอ่อนแอของข้ามาจากผลย้อนกลับของการเกิดใหม่ของไฟ ความแข็งแกร่งของข้าลดจากระดับสูงสุดเหลือชั้นสวรรค์ที่ 5 และวัตถุจิตวิญญาณไม่สามารถรักษาได้ ข้าสามารถฟื้นฟูได้อย่างช้า ๆ แน่นอนว่า ถ้าเจ้ามีสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ที่มีค่ามาก ๆ นั่นสามารถลดเวลาที่ข้าอ่อนแอลงได้เช่นกัน”

“สมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ ? หญ้าน้ำลายมังกรใช้ได้หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างเร่งรีบ

หงเหลียนส่ายหัวเบาเบา “หญ้าน้ำลายมังกรเป็นเพียงสมบัติสวรรค์ มันไม่ได้ใกล้เคียงกับสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้เลย”

เจี้ยนเฉินสลดใจ เขารู้ว่ารุยจินพาหงเหลียนมาในฐานะผู้ช่วยที่ทรงพลัง ถ้านางฟื้นฟูเต็มกำลัง เขาคงจะได้ผู้ช่วยที่ทรงพลังมาเพิ่มอยู่เคียงข้างเขาอีก 1 คน

“นายท่าน น้ำศักดิ์สิทธิ์ของทะเลวิญญาณสามารถช่วยฟื้นฟูความแข็งแกร่งของฟีนิกซ์น้อยนี้ได้” ในตอนนี้ เสียงของจิตวิญญาณกระบี่ดังขึ้นมาในหัวของเขา เขาไม่ได้ยินทั้งสองมาซักพักแล้ว

เจี้ยนเฉินดีใจ เขามุ่งความสนใจไปที่สติสัมปะชัญญะของเขาทันทีและเขาเห็นจิตวิญญาณกระบี่ทั้งสองกำลังวนอยู่ที่หินหลากสีในรูปแบบของบอลแสง 2 ลูก ในหลายปีที่ผ่านมา จิตวิญญาณกระบี่ได้ดูดซับหินเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของพวกเขา เจี้ยนเฉินสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าจิตวิญญาณกระบี่ทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้มากเพียงแค่มองปราดเดียว ในขณะที่หินก็ก้อนเล็กลงด้วย

“จือหยิง ฉิงโซว เจ้ากำลังพูดว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกสามารถช่วยให้หงเหลียนฟื้นฟูจากผลกระทบของการเกิดใหม่ของไฟได้?” เจี้ยนเฉินถาม น้ำศักดิ์สิทธิ์จากทะเลวิญญาณที่จิตวิญญาณกระบี่พูดถึงนั้นเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกที่อยู่ในอาณาจักรทะเล

“ถูกต้อง พวกเราเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลฟีนิกซ์ พวกเขาจะอ่อนแอทุกครั้งที่พวกเขาใช้พลังโดยกำเนิด การเกิดใหม่ของไฟ และจะทำให้ความแข็งแกร่งลดลงอย่างมาก ถ้าพวกเขาใช้มันอย่างต่อเรื่อง มันจะส่งผลให้พวกเขาอ่อนแอลง 10 ปี ในโลกดั้งเดิมของพวกเรา มันจะถึงพันปี หมื่นปีหรือนานกว่านั้น ทุก ๆ ครั้งที่พวกเขาใช้การเกิดใหม่ เพื่อที่จะลดเวลาของความอ่อนแอนั้น จอมยุทธบางคนของตระกูลฟีนิกซ์จึงเดินทางไปทั่วโลกเพื่อที่จะหาวิธีการ ในท้ายที่สุด พวกเขาก็พบว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของทะเลวิญญาณเป็นน้ำที่ช่วยพวกเขาได้” จือหยิงอธิบาย

สมาธิของเจี้ยนเฉินกลับมาที่ร่างของเขา แม้ว่าเขาจะรู้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกจะทำให้หงเหลียนฟื้นตัวได้ทันที แต่เขามีแค่ 1 ส่วนเท่านั้น ซึ่งมันจะต้องเอาไว้ใช้สำหรับหลอมกระบี่ม่วงฟ้า เขาไม่สามารถให้มันกกับหงเหลียนได้

“ข้าจะไปตามหาน้ำนั่นทันทีที่ข้ากลับไปที่เผ่าพันธุ์ทะเล” เจี้ยนเฉินคิด ในตอนนี้ เขาเชื่อว่า เขาแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเขาไปในเขตที่อันตรายในอาณาจักรทะเลเพื่อที่จะตามหาน้ำนั่นได้แล้ว

เจี้ยนเฉินเข้าไปในมิติของวัตถุเซียนหลังจากที่เขาปล่อยหงเหลียนให้ได้พักผ่อน ในตอนแรกเขาเข้าไปเยี่ยมโหยวเยว่ เสี่ยวไป๋ และแม่ของมัน เพื่อที่จะปลอบโยนพวกเขาจากการตื่นตระหนก จากนั้น เขาก็ไปยังสถานที่ที่ลุงเซียวอยู่ทันที

ลุงเซียวฟื้นตัวเต็มที่อย่างรวดเร็วภายใต้การรักษาจากพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงของวัตถุวิญญาณเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง เขาจึงชื่นชมในพลังและความมหัศจรรย์ในพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง

เขาพลิกมือแล้วหนังสือก็ขึ้นมาปรากฏบนมือของเขา จักรพรรดิเลือดปีศาจได้ทิ้งคู่มือการฝึกฝนเอาไว้ที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด พลังหยินที่ชั่วร้ายได้หยุดโจมตีที่เจี้ยนเฉินมานานแล้วด้วยการยอมจำนนของหินปีศาจชั้นฟ้า

เจี้ยนเฉินส่งหนังสือไปให้ลุยเซียวแล้วพูดว่า “ลุงเซียว กรุณาดูหนังสือนี้ด้วย”

ทันทีที่เจี้ยนเฉินเอาหนังสือออกมา ฮุสตันก็จ้องไปที่มันตาไม่กระพริบ เขารับมันมาทันทีอย่างไม่ลังเลหลังจากที่เขาได้ยินคำของเจี้ยนเฉิน

“หืม ? ” ฮุสตันอุทานออกมาอย่างตกใจทันที่ที่หนังสืออยู่ในมือของเขา สายตาที่ชราและลึกซึ้งของเขาเบิกออกอย่างประหลาดใจ และเขาก็ร้องออกมาในขณะที่เขาจ้องเขม็งไปที่หนังสือ “พลังหยินที่ชั่วร้าย ! มันเป็นพลังหยินที่ชั่วร้ายจริง ๆ และมันยังทรงพลังมากกว่าพลังงานหยินที่ชั่วร้ายที่ข้าควบคุมหลายเท่า ! “

ฮุสตันไม่ได้หยุดหลังงานหยินชั่วร้ายและปล่อยให้มันผ่านร่างกายของเขาไปที่วิญญาณของเขา ทันทีที่มันพบกับวิญญาณของเขา ไม่เพียงแต่มันจะไม่ทำอันตรายกับฮุสตัน แต่มันยังถูกกลืนกินเข้าไปแทน และกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานของเขา

อย่างไรก็ตาม พลังงานหยินชั่วร้ายที่เหลือก็พุ่งออกไปเหมือนนกที่กำลังตกใจทันทีที่ฮุสตันเริ่มกลืนกินส่วนหนึ่งของมัน มันถอยกลับเข้าไปในหนังสือเร็วที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ มันเงียบไปและไม่กล้าที่จะปรากฎออกมาอีกครั้ง

“หืม ? พลังหยินชั่วร้ายนี้ยังมีสติปัญญาอีกด้วย น่าประหลาดใจ น่าประหลาดใจจริง ๆ ” ฮุสตันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างประหลาดใจออกมา เขารู้สึกอยากรู้เกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือและเขาก็พลิกเปิดมันทันที

อย่างไรก็ตาม ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นหน้าแรก ตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจที่เขายกจะเก็บเอาไว้ได้ และความตกใจของเขาก็เพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ ทันทีที่เขาเปิดหน้าต่อไปเรื่อย ๆ ในท้ายที่สุด มันก็เปลี่ยนไปด้วยความตกใจสุดขีดและความเหลือเชื่อ

“นะ นี่เป็นคู่มือการฝึกฝนของนิกายดาบโลหิตของข้า เจี้ยนเฉิน เจ้าไปได้หนังสือนี้มาจากที่ไหน ? ” ฮุสตันปิดหนังสือทันทีและจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความสนใจ

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็บอกฮุสตันเกี่ยวกับที่มาของหนังสือและทุกอย่างที่เขาได้รู้มาจากความทรงจำของจักรพรรดิเลือดปีศาจ

ฮุสตันอึ้งทันทีเมื่อเขาพบว่าผู้ก่อตั้งนิกายดาบโลหิตจริง ๆ แล้วเป็นคนของเผ่าพันธุ์ทะเล หัวใจของเขาเริ่มปั่นป่วนเพราะเขายากที่จะยอมรับหรือเชื่อได้

“ลุงเซียว นี่คือหินปีศาจชั้นฟ้า มันน่าจะเป็นประโยชน์มากสำหรับท่าน” จากนั้น เจี้ยนเฉินก็ส่งหินปีศาจชั้นฟ้าออกไป

ลุงเซียวสงบใจลงอย่างช้า ๆ ในขณะที่เขาจ้องไปที่หินที่อยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน เขายื่นมือไปที่มันอย่างไม่รู้ตัว

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ลุยซุยแตะหินปีศาจชั้นฟ้ามันก็บินขึ้นจากปกติที่มันวางอยู่ที่มือของเจี้ยนเฉินอย่างเฉยเฉย มันเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงจางจางในขณะที่มังพุ่งเข้าไปหาลุงเซียว ก่อนที่จะหายไปในหว่างคิ้วของเขา

ตาของลุยซุยหมองลงทันที และเขาก็หลับตา เขาหมดสติไป

เจี้ยนเฉินจับไปที่ตัวของเขาอย่างรวดเร็ว แล้ววางเขานอนลงที่พื้น เขารู้ว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เพราะว่ามันเป็นเพียงขั้นตอนที่หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเขาเป็นเจ้านายเท่านั้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 1020: หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเจ้านาย

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 1020: หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเจ้านาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1020: หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเจ้านาย หลังจากที่เขาฟื้นฟูตัวเองจนหายดีแล้ว เจี้ยนเฉินก็ออกไปจากห้อง รุยจินและเฮยยู่กำลังรออยู่ที่ด้านนอก หัวใจของเจี้ยนเฉินอบอุ่นขึ้นทันทีเมื่อเขาเห็นว่ารุยจินและเฮยยู่เฝ้าเขาอยู่ตลอดเวลาแม้เขาจะอยู่ในเมืองทหารรับจ้าง เขาป้องมือไปที่พวกเขาทั้งสองแล้วพูด “ผู้อาวุโสรุยจินและผู้อาวุโสเฮยยู่ ข้าทำให้พวกท่านรอ” “ไม่มีปัญหา มันไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ให้ทำที่นี่ ดังนั้นพวกเราจึงมาที่ที่เจ้าเก็บตัว เผื่อว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเหมือนก่อนหน้านี้” เฮยยู่หัวเราะคิกคัก รุยจินจ้องไปที่เจี้ยนเฉินสักพักแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน เรื่องที่เกี่ยวกับโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งเป็นความจริงหรือ ? “ เฮยยู่หยุดยิ้มแล้วเครียดกับคำถามที่กะทันหันของรุยจินทันที เจี้ยนเฉินพยักหน้า “ถูกต้อง มันเป็นเรื่องจริง ผนึกของโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งมีอยู่จริง ๆ ใต้เมืองทหารรับจ้าง และจอมยุทธจากโลกนั้นก็มาโจมตีผนึก การโจมตีนี้ทำให้เมืองสั่นไหว” รุยจินเครียด เขาหยุดพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้นทันทีแล้วพูดขึ้นมา “เจี้ยนเฉิน พวกเราไปกันเถอะ” หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็พบกับเถี่ยต้าอีกครั้ง เขาพูดกับเถี่ยต้าสักพักก่อนที่จะออกจากมิติที่แยกตัวออกไปกับรุยจินและเฮยยู่แล้วกลับไปที่เมืองทหารรับจ้าง หมิงตงยังอยู่ในช่วงสำคัญของการตัดผ่านระดับ ดังนั้นมันจึงจะดีกว่าถ้าเจี้ยนเฉินไม่ไปรบกวนเขา เมื่อเจี้ยนเฉินกลับไปที่เมืองทหารรับจ้างกับรุยจินและเฮยยู่ เมืองก็กลับไปอยู่ในสภาพก่อนหน้านี้ พลังป้องกันได้ทำให้รอยแตกที่พื้นกลับมาเหมือนเดิม ราวกับว่าไม่มีรอยแยกก่อนหน้านี้เลย ผู้อาวุโสของเมืองทหารประกาศเหตุผลธรรมดาออกไปเพื่ออธิบายเกี่ยวกับการสั่นไหวของเมือง พวกเขาสงบจากความตื่นตระหนกและความสงสัย ภายใต้การนำของรุยจินและเฮยยู่ เจี้ยนเฉินก็ไปหาหงเหลียนและฮุสตันที่กำลังพักฟื้นอยู่ในโรงเตี้ยม พวกเขาทั้งสองอยู่ที่โรงเตี้ยมเดียวกัน “ข้าขอคารวะลุงเซียวและผู้อาวุโสหงเหลียน” เจี้ยนเฉินคารวะทั้งสองอย่างสุภาพทันทีที่พบกับพวกเขา เขามองผ่านไปที่ทั้งสองอย่างรวดเร็วและพบว่าฮุสตันยังคงหน้าซีดบาดเจ็บอยู่ ในอีกมุมหนึ่ง หงเหลียนก็ดูปกติดี ยกเว้นแต่ความเหนื่อยที่นางยากที่จะปิดบังเอาไว้ได้ เจี้ยนเฉินสามารถสัมผัสได้ชัดถึงพลังแห่งการมีอยู่ของหงเหลียนที่อ่อนแอกว่าก่อนหน้านี้ แม้ว่าหงเหลียนจะเป็นฟีนิกซ์ที่มีชีวิตอยู่ได้หลายพันปี นางก็ดูมีอายุแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้น หงเหลียนเริ่มจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างดุร้ายเมื่อนางได้ยินเจี้ยนเฉินเรียกนาง นางพูดพร้อมโกรธเล็กน้อย “ผู้อาวุโสอะไร ? เจี้ยนเฉิน ข้าดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือ ? “ เจี้ยนเฉินอึ้งไป เขาไม่คิดว่าหงเหลียนจะมีปฏิกิริยารุนแรงอย่างนี้จากการที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโส รุยจินยิ้มให้กับหงเหลียนที่มีปฏิกิริยาแบบนั้นแล้วพูด “หงเหลียน ตอนไหนกันที่เข้าเจ้าทำตัวเหมือนเด็กหญิง ? มันไม่เหมือนกับเป็นเจ้าเลย” หงเหลียนใช้มือเล่นผมของนาง หลังจากนั้น นางก็หันไปรอบ ๆ และนั่งลงที่เตียง นางจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความสนใจแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน ข้าสูญเสียอย่างมากเพื่อที่จะช่วยเจ้า ข้าเกิดใหม่ 4 ครั้งซึ่งทำให้ข้าอ่อนแอลง 40 ปี พูดมา ว่าเจ้ามีสมบัติอะไรที่จะชดเชยการสูญเสียของข้า ? ” หงเหลียนไม่ดูเหมือนล้อเล่นเลยและคำพูดของนางก็จริงจัง “ข้าจะไม่ลืมความมีน้ำใจของผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิตข้า ข้าจะใช้คืนแน่ถ้าข้ามีอากาสในอนาคต” เจี้ยนเฉินพูด ในขณะที่เขาป้องมือไปโดยไม่ได้คิดมาก รุยจินเดินไปเปะไหล่เจี้ยนเฉิน เขายิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน หงเหลียนกำลังล้อเจ้าเล่น อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงจังเลย” เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของรุยจินเลยแม้แต่น้อย นางจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างค่อนข้างไม่พอใจแล้วพูด “ข้าไม่ให้เรียกข้าว่าผู้อาวุโส เจี้ยนเฉิน ฟังให้ดี อย่าเรียกข้าว่าผู้อาวุโสอีก เรียกชื่อข้าเฉย ๆ ว่า หงเหลียน ! ก็พอ” “ได้ ! ” เจี้ยนเฉินป้องมือไปที่นาง หลังจากที่คิดแล้วเขาก็พูดออกมา “หงเหลียน ลุงเซียว พวกท่านยังบาดเจ็บอยู่ ทำไมเจ้าไม่เข้าไปที่วัตถุเซียนล่ะ ? ข้าสามารถให้วัตถุจิตวิญญาณรักษาบาดแผลทั้งหมดของพวกท่านได้” ตาของฮุสตันเบิกขึ้นหลังจากนั้น เขากระแอม 2 ครั้งและพูดอย่างค่อนข้างอ่อนแอ “นั่นน่าจะได้ผล ด้วยการช่วยเหลือจากวัตถุจิตวิญญาณของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ข้าจะสามารถฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บที่ปกติจะใช้เวลาหลายทศวรรษได้ในเวลาอันสั้น” จากนั้น เจี้ยนเฉินก็เอาวัตถุเซียนออกมาและส่งฮุสตันเข้าไปในมิติวัตถุเซียน หลังจากนั้น เขาก็หันไปหาหงเหลียนแล้วพูด “ทำไมเจ้าไม่เข้าไปในมิติวัตถุเซียนเพื่อรับการรักษาล่ะ หงเหลียน ? “ หงเหลียนจ้องไปที่เจี้ยนเฉิน และนางก็หลับตาเพื่อพุ่งสมาธิไปที่การทำสมาธิ นางพูด “ความอ่อนแอของข้ามาจากผลย้อนกลับของการเกิดใหม่ของไฟ ความแข็งแกร่งของข้าลดจากระดับสูงสุดเหลือชั้นสวรรค์ที่ 5 และวัตถุจิตวิญญาณไม่สามารถรักษาได้ ข้าสามารถฟื้นฟูได้อย่างช้า ๆ แน่นอนว่า ถ้าเจ้ามีสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ที่มีค่ามาก ๆ นั่นสามารถลดเวลาที่ข้าอ่อนแอลงได้เช่นกัน” “สมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ ? หญ้าน้ำลายมังกรใช้ได้หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างเร่งรีบ หงเหลียนส่ายหัวเบาเบา “หญ้าน้ำลายมังกรเป็นเพียงสมบัติสวรรค์ มันไม่ได้ใกล้เคียงกับสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้เลย” เจี้ยนเฉินสลดใจ เขารู้ว่ารุยจินพาหงเหลียนมาในฐานะผู้ช่วยที่ทรงพลัง ถ้านางฟื้นฟูเต็มกำลัง เขาคงจะได้ผู้ช่วยที่ทรงพลังมาเพิ่มอยู่เคียงข้างเขาอีก 1 คน “นายท่าน น้ำศักดิ์สิทธิ์ของทะเลวิญญาณสามารถช่วยฟื้นฟูความแข็งแกร่งของฟีนิกซ์น้อยนี้ได้” ในตอนนี้ เสียงของจิตวิญญาณกระบี่ดังขึ้นมาในหัวของเขา เขาไม่ได้ยินทั้งสองมาซักพักแล้ว เจี้ยนเฉินดีใจ เขามุ่งความสนใจไปที่สติสัมปะชัญญะของเขาทันทีและเขาเห็นจิตวิญญาณกระบี่ทั้งสองกำลังวนอยู่ที่หินหลากสีในรูปแบบของบอลแสง 2 ลูก ในหลายปีที่ผ่านมา จิตวิญญาณกระบี่ได้ดูดซับหินเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของพวกเขา เจี้ยนเฉินสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าจิตวิญญาณกระบี่ทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้มากเพียงแค่มองปราดเดียว ในขณะที่หินก็ก้อนเล็กลงด้วย “จือหยิง ฉิงโซว เจ้ากำลังพูดว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกสามารถช่วยให้หงเหลียนฟื้นฟูจากผลกระทบของการเกิดใหม่ของไฟได้?” เจี้ยนเฉินถาม น้ำศักดิ์สิทธิ์จากทะเลวิญญาณที่จิตวิญญาณกระบี่พูดถึงนั้นเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกที่อยู่ในอาณาจักรทะเล “ถูกต้อง พวกเราเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลฟีนิกซ์ พวกเขาจะอ่อนแอทุกครั้งที่พวกเขาใช้พลังโดยกำเนิด การเกิดใหม่ของไฟ และจะทำให้ความแข็งแกร่งลดลงอย่างมาก ถ้าพวกเขาใช้มันอย่างต่อเรื่อง มันจะส่งผลให้พวกเขาอ่อนแอลง 10 ปี ในโลกดั้งเดิมของพวกเรา มันจะถึงพันปี หมื่นปีหรือนานกว่านั้น ทุก ๆ ครั้งที่พวกเขาใช้การเกิดใหม่ เพื่อที่จะลดเวลาของความอ่อนแอนั้น จอมยุทธบางคนของตระกูลฟีนิกซ์จึงเดินทางไปทั่วโลกเพื่อที่จะหาวิธีการ ในท้ายที่สุด พวกเขาก็พบว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของทะเลวิญญาณเป็นน้ำที่ช่วยพวกเขาได้” จือหยิงอธิบาย สมาธิของเจี้ยนเฉินกลับมาที่ร่างของเขา แม้ว่าเขาจะรู้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกจะทำให้หงเหลียนฟื้นตัวได้ทันที แต่เขามีแค่ 1 ส่วนเท่านั้น ซึ่งมันจะต้องเอาไว้ใช้สำหรับหลอมกระบี่ม่วงฟ้า เขาไม่สามารถให้มันกกับหงเหลียนได้ “ข้าจะไปตามหาน้ำนั่นทันทีที่ข้ากลับไปที่เผ่าพันธุ์ทะเล” เจี้ยนเฉินคิด ในตอนนี้ เขาเชื่อว่า เขาแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเขาไปในเขตที่อันตรายในอาณาจักรทะเลเพื่อที่จะตามหาน้ำนั่นได้แล้ว เจี้ยนเฉินเข้าไปในมิติของวัตถุเซียนหลังจากที่เขาปล่อยหงเหลียนให้ได้พักผ่อน ในตอนแรกเขาเข้าไปเยี่ยมโหยวเยว่ เสี่ยวไป๋ และแม่ของมัน เพื่อที่จะปลอบโยนพวกเขาจากการตื่นตระหนก จากนั้น เขาก็ไปยังสถานที่ที่ลุงเซียวอยู่ทันที ลุงเซียวฟื้นตัวเต็มที่อย่างรวดเร็วภายใต้การรักษาจากพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงของวัตถุวิญญาณเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง เขาจึงชื่นชมในพลังและความมหัศจรรย์ในพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง เขาพลิกมือแล้วหนังสือก็ขึ้นมาปรากฏบนมือของเขา จักรพรรดิเลือดปีศาจได้ทิ้งคู่มือการฝึกฝนเอาไว้ที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด พลังหยินที่ชั่วร้ายได้หยุดโจมตีที่เจี้ยนเฉินมานานแล้วด้วยการยอมจำนนของหินปีศาจชั้นฟ้า เจี้ยนเฉินส่งหนังสือไปให้ลุยเซียวแล้วพูดว่า “ลุงเซียว กรุณาดูหนังสือนี้ด้วย” ทันทีที่เจี้ยนเฉินเอาหนังสือออกมา ฮุสตันก็จ้องไปที่มันตาไม่กระพริบ เขารับมันมาทันทีอย่างไม่ลังเลหลังจากที่เขาได้ยินคำของเจี้ยนเฉิน “หืม ? ” ฮุสตันอุทานออกมาอย่างตกใจทันที่ที่หนังสืออยู่ในมือของเขา สายตาที่ชราและลึกซึ้งของเขาเบิกออกอย่างประหลาดใจ และเขาก็ร้องออกมาในขณะที่เขาจ้องเขม็งไปที่หนังสือ “พลังหยินที่ชั่วร้าย ! มันเป็นพลังหยินที่ชั่วร้ายจริง ๆ และมันยังทรงพลังมากกว่าพลังงานหยินที่ชั่วร้ายที่ข้าควบคุมหลายเท่า ! “ ฮุสตันไม่ได้หยุดหลังงานหยินชั่วร้ายและปล่อยให้มันผ่านร่างกายของเขาไปที่วิญญาณของเขา ทันทีที่มันพบกับวิญญาณของเขา ไม่เพียงแต่มันจะไม่ทำอันตรายกับฮุสตัน แต่มันยังถูกกลืนกินเข้าไปแทน และกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานของเขา อย่างไรก็ตาม พลังงานหยินชั่วร้ายที่เหลือก็พุ่งออกไปเหมือนนกที่กำลังตกใจทันทีที่ฮุสตันเริ่มกลืนกินส่วนหนึ่งของมัน มันถอยกลับเข้าไปในหนังสือเร็วที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ มันเงียบไปและไม่กล้าที่จะปรากฎออกมาอีกครั้ง “หืม ? พลังหยินชั่วร้ายนี้ยังมีสติปัญญาอีกด้วย น่าประหลาดใจ น่าประหลาดใจจริง ๆ ” ฮุสตันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างประหลาดใจออกมา เขารู้สึกอยากรู้เกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือและเขาก็พลิกเปิดมันทันที อย่างไรก็ตาม ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นหน้าแรก ตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจที่เขายกจะเก็บเอาไว้ได้ และความตกใจของเขาก็เพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ ทันทีที่เขาเปิดหน้าต่อไปเรื่อย ๆ ในท้ายที่สุด มันก็เปลี่ยนไปด้วยความตกใจสุดขีดและความเหลือเชื่อ “นะ นี่เป็นคู่มือการฝึกฝนของนิกายดาบโลหิตของข้า เจี้ยนเฉิน เจ้าไปได้หนังสือนี้มาจากที่ไหน ? ” ฮุสตันปิดหนังสือทันทีและจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความสนใจ หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็บอกฮุสตันเกี่ยวกับที่มาของหนังสือและทุกอย่างที่เขาได้รู้มาจากความทรงจำของจักรพรรดิเลือดปีศาจ ฮุสตันอึ้งทันทีเมื่อเขาพบว่าผู้ก่อตั้งนิกายดาบโลหิตจริง ๆ แล้วเป็นคนของเผ่าพันธุ์ทะเล หัวใจของเขาเริ่มปั่นป่วนเพราะเขายากที่จะยอมรับหรือเชื่อได้ “ลุงเซียว นี่คือหินปีศาจชั้นฟ้า มันน่าจะเป็นประโยชน์มากสำหรับท่าน” จากนั้น เจี้ยนเฉินก็ส่งหินปีศาจชั้นฟ้าออกไป ลุงเซียวสงบใจลงอย่างช้า ๆ ในขณะที่เขาจ้องไปที่หินที่อยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน เขายื่นมือไปที่มันอย่างไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ลุยซุยแตะหินปีศาจชั้นฟ้ามันก็บินขึ้นจากปกติที่มันวางอยู่ที่มือของเจี้ยนเฉินอย่างเฉยเฉย มันเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงจางจางในขณะที่มังพุ่งเข้าไปหาลุงเซียว ก่อนที่จะหายไปในหว่างคิ้วของเขา ตาของลุยซุยหมองลงทันที และเขาก็หลับตา เขาหมดสติไป เจี้ยนเฉินจับไปที่ตัวของเขาอย่างรวดเร็ว แล้ววางเขานอนลงที่พื้น เขารู้ว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เพราะว่ามันเป็นเพียงขั้นตอนที่หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเขาเป็นเจ้านายเท่านั้น

ตอนที่ 1020: หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเจ้านาย

หลังจากที่เขาฟื้นฟูตัวเองจนหายดีแล้ว เจี้ยนเฉินก็ออกไปจากห้อง รุยจินและเฮยยู่กำลังรออยู่ที่ด้านนอก

หัวใจของเจี้ยนเฉินอบอุ่นขึ้นทันทีเมื่อเขาเห็นว่ารุยจินและเฮยยู่เฝ้าเขาอยู่ตลอดเวลาแม้เขาจะอยู่ในเมืองทหารรับจ้าง เขาป้องมือไปที่พวกเขาทั้งสองแล้วพูด “ผู้อาวุโสรุยจินและผู้อาวุโสเฮยยู่ ข้าทำให้พวกท่านรอ”

“ไม่มีปัญหา มันไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ให้ทำที่นี่ ดังนั้นพวกเราจึงมาที่ที่เจ้าเก็บตัว เผื่อว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเหมือนก่อนหน้านี้” เฮยยู่หัวเราะคิกคัก

รุยจินจ้องไปที่เจี้ยนเฉินสักพักแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน เรื่องที่เกี่ยวกับโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งเป็นความจริงหรือ ? “

เฮยยู่หยุดยิ้มแล้วเครียดกับคำถามที่กะทันหันของรุยจินทันที

เจี้ยนเฉินพยักหน้า “ถูกต้อง มันเป็นเรื่องจริง ผนึกของโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งมีอยู่จริง ๆ ใต้เมืองทหารรับจ้าง และจอมยุทธจากโลกนั้นก็มาโจมตีผนึก การโจมตีนี้ทำให้เมืองสั่นไหว”

รุยจินเครียด เขาหยุดพูดเกี่ยวกับเรื่องนั้นทันทีแล้วพูดขึ้นมา “เจี้ยนเฉิน พวกเราไปกันเถอะ”

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็พบกับเถี่ยต้าอีกครั้ง เขาพูดกับเถี่ยต้าสักพักก่อนที่จะออกจากมิติที่แยกตัวออกไปกับรุยจินและเฮยยู่แล้วกลับไปที่เมืองทหารรับจ้าง หมิงตงยังอยู่ในช่วงสำคัญของการตัดผ่านระดับ ดังนั้นมันจึงจะดีกว่าถ้าเจี้ยนเฉินไม่ไปรบกวนเขา

เมื่อเจี้ยนเฉินกลับไปที่เมืองทหารรับจ้างกับรุยจินและเฮยยู่ เมืองก็กลับไปอยู่ในสภาพก่อนหน้านี้ พลังป้องกันได้ทำให้รอยแตกที่พื้นกลับมาเหมือนเดิม ราวกับว่าไม่มีรอยแยกก่อนหน้านี้เลย

ผู้อาวุโสของเมืองทหารประกาศเหตุผลธรรมดาออกไปเพื่ออธิบายเกี่ยวกับการสั่นไหวของเมือง พวกเขาสงบจากความตื่นตระหนกและความสงสัย

ภายใต้การนำของรุยจินและเฮยยู่ เจี้ยนเฉินก็ไปหาหงเหลียนและฮุสตันที่กำลังพักฟื้นอยู่ในโรงเตี้ยม พวกเขาทั้งสองอยู่ที่โรงเตี้ยมเดียวกัน

“ข้าขอคารวะลุงเซียวและผู้อาวุโสหงเหลียน” เจี้ยนเฉินคารวะทั้งสองอย่างสุภาพทันทีที่พบกับพวกเขา เขามองผ่านไปที่ทั้งสองอย่างรวดเร็วและพบว่าฮุสตันยังคงหน้าซีดบาดเจ็บอยู่ ในอีกมุมหนึ่ง หงเหลียนก็ดูปกติดี ยกเว้นแต่ความเหนื่อยที่นางยากที่จะปิดบังเอาไว้ได้

เจี้ยนเฉินสามารถสัมผัสได้ชัดถึงพลังแห่งการมีอยู่ของหงเหลียนที่อ่อนแอกว่าก่อนหน้านี้

แม้ว่าหงเหลียนจะเป็นฟีนิกซ์ที่มีชีวิตอยู่ได้หลายพันปี นางก็ดูมีอายุแค่ยี่สิบกว่าปีเท่านั้น หงเหลียนเริ่มจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างดุร้ายเมื่อนางได้ยินเจี้ยนเฉินเรียกนาง นางพูดพร้อมโกรธเล็กน้อย “ผู้อาวุโสอะไร ? เจี้ยนเฉิน ข้าดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือ ? “

เจี้ยนเฉินอึ้งไป เขาไม่คิดว่าหงเหลียนจะมีปฏิกิริยารุนแรงอย่างนี้จากการที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโส

รุยจินยิ้มให้กับหงเหลียนที่มีปฏิกิริยาแบบนั้นแล้วพูด “หงเหลียน ตอนไหนกันที่เข้าเจ้าทำตัวเหมือนเด็กหญิง ? มันไม่เหมือนกับเป็นเจ้าเลย”

หงเหลียนใช้มือเล่นผมของนาง หลังจากนั้น นางก็หันไปรอบ ๆ และนั่งลงที่เตียง นางจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความสนใจแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน ข้าสูญเสียอย่างมากเพื่อที่จะช่วยเจ้า ข้าเกิดใหม่ 4 ครั้งซึ่งทำให้ข้าอ่อนแอลง 40 ปี พูดมา ว่าเจ้ามีสมบัติอะไรที่จะชดเชยการสูญเสียของข้า ? ” หงเหลียนไม่ดูเหมือนล้อเล่นเลยและคำพูดของนางก็จริงจัง

“ข้าจะไม่ลืมความมีน้ำใจของผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิตข้า ข้าจะใช้คืนแน่ถ้าข้ามีอากาสในอนาคต” เจี้ยนเฉินพูด ในขณะที่เขาป้องมือไปโดยไม่ได้คิดมาก

รุยจินเดินไปเปะไหล่เจี้ยนเฉิน เขายิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูด “เจี้ยนเฉิน หงเหลียนกำลังล้อเจ้าเล่น อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงจังเลย”

เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของรุยจินเลยแม้แต่น้อย นางจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างค่อนข้างไม่พอใจแล้วพูด “ข้าไม่ให้เรียกข้าว่าผู้อาวุโส เจี้ยนเฉิน ฟังให้ดี อย่าเรียกข้าว่าผู้อาวุโสอีก เรียกชื่อข้าเฉย ๆ ว่า หงเหลียน ! ก็พอ”

“ได้ ! ” เจี้ยนเฉินป้องมือไปที่นาง หลังจากที่คิดแล้วเขาก็พูดออกมา “หงเหลียน ลุงเซียว พวกท่านยังบาดเจ็บอยู่ ทำไมเจ้าไม่เข้าไปที่วัตถุเซียนล่ะ ? ข้าสามารถให้วัตถุจิตวิญญาณรักษาบาดแผลทั้งหมดของพวกท่านได้”

ตาของฮุสตันเบิกขึ้นหลังจากนั้น เขากระแอม 2 ครั้งและพูดอย่างค่อนข้างอ่อนแอ “นั่นน่าจะได้ผล ด้วยการช่วยเหลือจากวัตถุจิตวิญญาณของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ข้าจะสามารถฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บที่ปกติจะใช้เวลาหลายทศวรรษได้ในเวลาอันสั้น”

จากนั้น เจี้ยนเฉินก็เอาวัตถุเซียนออกมาและส่งฮุสตันเข้าไปในมิติวัตถุเซียน หลังจากนั้น เขาก็หันไปหาหงเหลียนแล้วพูด “ทำไมเจ้าไม่เข้าไปในมิติวัตถุเซียนเพื่อรับการรักษาล่ะ หงเหลียน ? “

หงเหลียนจ้องไปที่เจี้ยนเฉิน และนางก็หลับตาเพื่อพุ่งสมาธิไปที่การทำสมาธิ นางพูด “ความอ่อนแอของข้ามาจากผลย้อนกลับของการเกิดใหม่ของไฟ ความแข็งแกร่งของข้าลดจากระดับสูงสุดเหลือชั้นสวรรค์ที่ 5 และวัตถุจิตวิญญาณไม่สามารถรักษาได้ ข้าสามารถฟื้นฟูได้อย่างช้า ๆ แน่นอนว่า ถ้าเจ้ามีสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ที่มีค่ามาก ๆ นั่นสามารถลดเวลาที่ข้าอ่อนแอลงได้เช่นกัน”

“สมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ ? หญ้าน้ำลายมังกรใช้ได้หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างเร่งรีบ

หงเหลียนส่ายหัวเบาเบา “หญ้าน้ำลายมังกรเป็นเพียงสมบัติสวรรค์ มันไม่ได้ใกล้เคียงกับสมบัติจิตวิญญาณสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้เลย”

เจี้ยนเฉินสลดใจ เขารู้ว่ารุยจินพาหงเหลียนมาในฐานะผู้ช่วยที่ทรงพลัง ถ้านางฟื้นฟูเต็มกำลัง เขาคงจะได้ผู้ช่วยที่ทรงพลังมาเพิ่มอยู่เคียงข้างเขาอีก 1 คน

“นายท่าน น้ำศักดิ์สิทธิ์ของทะเลวิญญาณสามารถช่วยฟื้นฟูความแข็งแกร่งของฟีนิกซ์น้อยนี้ได้” ในตอนนี้ เสียงของจิตวิญญาณกระบี่ดังขึ้นมาในหัวของเขา เขาไม่ได้ยินทั้งสองมาซักพักแล้ว

เจี้ยนเฉินดีใจ เขามุ่งความสนใจไปที่สติสัมปะชัญญะของเขาทันทีและเขาเห็นจิตวิญญาณกระบี่ทั้งสองกำลังวนอยู่ที่หินหลากสีในรูปแบบของบอลแสง 2 ลูก ในหลายปีที่ผ่านมา จิตวิญญาณกระบี่ได้ดูดซับหินเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของพวกเขา เจี้ยนเฉินสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าจิตวิญญาณกระบี่ทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้มากเพียงแค่มองปราดเดียว ในขณะที่หินก็ก้อนเล็กลงด้วย

“จือหยิง ฉิงโซว เจ้ากำลังพูดว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกสามารถช่วยให้หงเหลียนฟื้นฟูจากผลกระทบของการเกิดใหม่ของไฟได้?” เจี้ยนเฉินถาม น้ำศักดิ์สิทธิ์จากทะเลวิญญาณที่จิตวิญญาณกระบี่พูดถึงนั้นเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกที่อยู่ในอาณาจักรทะเล

“ถูกต้อง พวกเราเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลฟีนิกซ์ พวกเขาจะอ่อนแอทุกครั้งที่พวกเขาใช้พลังโดยกำเนิด การเกิดใหม่ของไฟ และจะทำให้ความแข็งแกร่งลดลงอย่างมาก ถ้าพวกเขาใช้มันอย่างต่อเรื่อง มันจะส่งผลให้พวกเขาอ่อนแอลง 10 ปี ในโลกดั้งเดิมของพวกเรา มันจะถึงพันปี หมื่นปีหรือนานกว่านั้น ทุก ๆ ครั้งที่พวกเขาใช้การเกิดใหม่ เพื่อที่จะลดเวลาของความอ่อนแอนั้น จอมยุทธบางคนของตระกูลฟีนิกซ์จึงเดินทางไปทั่วโลกเพื่อที่จะหาวิธีการ ในท้ายที่สุด พวกเขาก็พบว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของทะเลวิญญาณเป็นน้ำที่ช่วยพวกเขาได้” จือหยิงอธิบาย

สมาธิของเจี้ยนเฉินกลับมาที่ร่างของเขา แม้ว่าเขาจะรู้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลกจะทำให้หงเหลียนฟื้นตัวได้ทันที แต่เขามีแค่ 1 ส่วนเท่านั้น ซึ่งมันจะต้องเอาไว้ใช้สำหรับหลอมกระบี่ม่วงฟ้า เขาไม่สามารถให้มันกกับหงเหลียนได้

“ข้าจะไปตามหาน้ำนั่นทันทีที่ข้ากลับไปที่เผ่าพันธุ์ทะเล” เจี้ยนเฉินคิด ในตอนนี้ เขาเชื่อว่า เขาแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเขาไปในเขตที่อันตรายในอาณาจักรทะเลเพื่อที่จะตามหาน้ำนั่นได้แล้ว

เจี้ยนเฉินเข้าไปในมิติของวัตถุเซียนหลังจากที่เขาปล่อยหงเหลียนให้ได้พักผ่อน ในตอนแรกเขาเข้าไปเยี่ยมโหยวเยว่ เสี่ยวไป๋ และแม่ของมัน เพื่อที่จะปลอบโยนพวกเขาจากการตื่นตระหนก จากนั้น เขาก็ไปยังสถานที่ที่ลุงเซียวอยู่ทันที

ลุงเซียวฟื้นตัวเต็มที่อย่างรวดเร็วภายใต้การรักษาจากพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงของวัตถุวิญญาณเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง เขาจึงชื่นชมในพลังและความมหัศจรรย์ในพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง

เขาพลิกมือแล้วหนังสือก็ขึ้นมาปรากฏบนมือของเขา จักรพรรดิเลือดปีศาจได้ทิ้งคู่มือการฝึกฝนเอาไว้ที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด พลังหยินที่ชั่วร้ายได้หยุดโจมตีที่เจี้ยนเฉินมานานแล้วด้วยการยอมจำนนของหินปีศาจชั้นฟ้า

เจี้ยนเฉินส่งหนังสือไปให้ลุยเซียวแล้วพูดว่า “ลุงเซียว กรุณาดูหนังสือนี้ด้วย”

ทันทีที่เจี้ยนเฉินเอาหนังสือออกมา ฮุสตันก็จ้องไปที่มันตาไม่กระพริบ เขารับมันมาทันทีอย่างไม่ลังเลหลังจากที่เขาได้ยินคำของเจี้ยนเฉิน

“หืม ? ” ฮุสตันอุทานออกมาอย่างตกใจทันที่ที่หนังสืออยู่ในมือของเขา สายตาที่ชราและลึกซึ้งของเขาเบิกออกอย่างประหลาดใจ และเขาก็ร้องออกมาในขณะที่เขาจ้องเขม็งไปที่หนังสือ “พลังหยินที่ชั่วร้าย ! มันเป็นพลังหยินที่ชั่วร้ายจริง ๆ และมันยังทรงพลังมากกว่าพลังงานหยินที่ชั่วร้ายที่ข้าควบคุมหลายเท่า ! “

ฮุสตันไม่ได้หยุดหลังงานหยินชั่วร้ายและปล่อยให้มันผ่านร่างกายของเขาไปที่วิญญาณของเขา ทันทีที่มันพบกับวิญญาณของเขา ไม่เพียงแต่มันจะไม่ทำอันตรายกับฮุสตัน แต่มันยังถูกกลืนกินเข้าไปแทน และกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานของเขา

อย่างไรก็ตาม พลังงานหยินชั่วร้ายที่เหลือก็พุ่งออกไปเหมือนนกที่กำลังตกใจทันทีที่ฮุสตันเริ่มกลืนกินส่วนหนึ่งของมัน มันถอยกลับเข้าไปในหนังสือเร็วที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ มันเงียบไปและไม่กล้าที่จะปรากฎออกมาอีกครั้ง

“หืม ? พลังหยินชั่วร้ายนี้ยังมีสติปัญญาอีกด้วย น่าประหลาดใจ น่าประหลาดใจจริง ๆ ” ฮุสตันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างประหลาดใจออกมา เขารู้สึกอยากรู้เกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือและเขาก็พลิกเปิดมันทันที

อย่างไรก็ตาม ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นหน้าแรก ตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจที่เขายกจะเก็บเอาไว้ได้ และความตกใจของเขาก็เพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ ทันทีที่เขาเปิดหน้าต่อไปเรื่อย ๆ ในท้ายที่สุด มันก็เปลี่ยนไปด้วยความตกใจสุดขีดและความเหลือเชื่อ

“นะ นี่เป็นคู่มือการฝึกฝนของนิกายดาบโลหิตของข้า เจี้ยนเฉิน เจ้าไปได้หนังสือนี้มาจากที่ไหน ? ” ฮุสตันปิดหนังสือทันทีและจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความสนใจ

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็บอกฮุสตันเกี่ยวกับที่มาของหนังสือและทุกอย่างที่เขาได้รู้มาจากความทรงจำของจักรพรรดิเลือดปีศาจ

ฮุสตันอึ้งทันทีเมื่อเขาพบว่าผู้ก่อตั้งนิกายดาบโลหิตจริง ๆ แล้วเป็นคนของเผ่าพันธุ์ทะเล หัวใจของเขาเริ่มปั่นป่วนเพราะเขายากที่จะยอมรับหรือเชื่อได้

“ลุงเซียว นี่คือหินปีศาจชั้นฟ้า มันน่าจะเป็นประโยชน์มากสำหรับท่าน” จากนั้น เจี้ยนเฉินก็ส่งหินปีศาจชั้นฟ้าออกไป

ลุงเซียวสงบใจลงอย่างช้า ๆ ในขณะที่เขาจ้องไปที่หินที่อยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน เขายื่นมือไปที่มันอย่างไม่รู้ตัว

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ลุยซุยแตะหินปีศาจชั้นฟ้ามันก็บินขึ้นจากปกติที่มันวางอยู่ที่มือของเจี้ยนเฉินอย่างเฉยเฉย มันเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงจางจางในขณะที่มังพุ่งเข้าไปหาลุงเซียว ก่อนที่จะหายไปในหว่างคิ้วของเขา

ตาของลุยซุยหมองลงทันที และเขาก็หลับตา เขาหมดสติไป

เจี้ยนเฉินจับไปที่ตัวของเขาอย่างรวดเร็ว แล้ววางเขานอนลงที่พื้น เขารู้ว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เพราะว่ามันเป็นเพียงขั้นตอนที่หินปีศาจชั้นฟ้ายอมรับเขาเป็นเจ้านายเท่านั้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+