Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 512

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 512 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 512 การมาถึงของเซียนผู้คุมกฎ

 

แม้แต่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิในห้องยังรู้สึกไม่พอใจอย่างชัดเจนหลังจากฟังเรื่องราวจากปากของฉิงเส้าฟาน “นิกาย พยัคฆ์มังกรรู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวงของเราและยังกล้าโจมตีเขา นี่เป็นเพียงการต่อต้านอาณาจักรฉินหวงของเรา ฉิงเส้าฟาน เจ้าดําเนินการอย่างเหมาะสม อาณาจักรฉินหวงของเราต้องปกป้องเกียรติที่สืบทอด กันยาวนานนับพันปีที่อาณาจักรของเราได้สร้างขึ้นมา เราจะไม่ยินยอมให้ใครมาท้าทายหรือมาเป็นศัตรูกับอาณาจักรฉินหวงของเรา เจ้าไปก่อน ข้าจะไปพูดคุยกับอีก 3 คน” 

 

“ขอรับ ท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ฉิงเส้าฟานต้องขออําลา” ฉิงเส้าฟานกล่าวขึ้นด้วยท่าที่เคารพ ก่อนที่จะคํานับและออกจากห้องไปด้วยฝีเท้าอันแผ่วเบา

 

หลังจากฉิงเส้าฟานจากไป ประตูทันทีได้เปิดออก เผยให้เห็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีขาว ที่เดินออกมาอย่างช้า ๆ

 

ชายวัยกลางคนผู้นี้ ไม่ได้ดูว่ามีอายุเกินกว่า 40 ปี แต่ผมของเขากลับขาวโพลน ที่ซึ่งไม่ได้ถูกรวบขึ้น ดังนั้น ผมของเขาจึงถูกปล่อยออกอย่างอิสระ ละบ่าของเขาราวกับน้ําตกสีเงิน

 

ใบหน้าของชายผู้นี้ ดวงตาที่ดําขลับที่สุกสกาวราวกับความลึกลับของดวงดาวในยามราตรี พวกมันราวกับจะหลบซ่อนทุกอย่างจากโลกใบนี้ แต่ทว่าแสงในดวงตาของเขา มันก็ดูราวกับว่า มันเป็นโลกอีกโลกหนึ่งอันกว้างใหญ่

 

ชายวัยกลางคนผู้นี้ เป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง ฉินหยุนหลง ฉินหยุนหลงนั้นเป็นสมาชิก คนหนึ่งในเหล่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิและเคยดํารงตําแหน่งราชา เมื่อราวหนึ่งพันปีก่อนเขาได้ก้าวไปยังขอบเขตของเซียนผู้คุมกฏ จากนั้นเขาก็ซ่อนตัวอยู่ภายในตําหนักสวรรค์ฉัน ที่ซึ่งน้อยคนมากจะได้เห็นเขา

 

หลังจากที่ฉินหยุนหลงก้าวออกจากห้องของเขา เขาเดินไปทางตําหนักอื่น ผ่านห้องวาดภาพที่เป็นศูนย์กลาง ที่ซึ่งอาจจะเห็นนางกํานัลหลายคนกําลังพูดคุย

 

เป็นนางกํานัลหลายคนภายในตําหนักสวรรค์ฉิน สถานะของพวกนางสูงที่สุดในอาณาจักรฉินหวง โดยพวกนางไม่ต้องกระทําสิ่งใดในตําหนักสวรรค์ฉิน นอกเหนือไปจากการทําความสะอาดและดูแลงานใด ๆ ในชีวิตประจําวัน เพื่อให้เหล่าผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นได้ใช้เวลาของพวกเขาทั้งหมดภายในห้องพักเพื่อบ่มเพาะพลัง และนอกเหนือจากนี้ สิ่งที่สําคัญคือพวกเขาจะไม่เคยออกมา นางดูแลเหล่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิหลายสิบปี

 

ยามเมื่อฉินหยุนหลงปรากฏตัวโดยปราศจากซึ่งเสียงต่อหน้าเหล่านางกํานัลเหล่านี้ พวกนางหยุดการสนทนาของพวกนางทันที ขณะที่พวกนางจ้องมองไปยังฉินหยุนหลงด้วยความประหลาดใจ แม้กระทั่งมารยาทพื้นฐานได้ถูกหลงลืมไปชั่วขณะ

 

แม้ว่าบางคนจะได้ทํางานอยู่ภายในตําหนักสวรรค์ฉันเป็นเวลาหลายปี โดยปกติ พวกนางไม่เคยเห็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิมาก่อน มีน้อยคนมากที่จะเคยได้พบเห็นพวกเขานอกเหนือจากพวกนาง ซึ่งมีโอกาสน้อยนัก คนเหล่านั้นไม่มีสิทธิ์ที่ย่างกรายเข้ามา แม้กระทั่งทหารยามด้านนอกก็ไม่กล้าที่จะย่างกรายเข้ามา โดยไม่มีสิ่งสําคัญใด ๆ รายงาน ดังนั้น เมื่อชายวัยกลางคน นี้ปรากฏต่อหน้าเหล่านางกํานัล พวกนางก็หยุดชะงักทันทีใน ชั่วขณะนั้น นับตั้งแต่พวกเขาได้รับจ้างให้มาที่ตําหนักสวรรค์ฉัน พวกนางไม่เคยเห็นคนแปลกหน้า ฉินหยุนหลงเดินไปทางประตูโดยไม่สนใจ ขณะที่เขาเดินเข้าประตูผ่านพวกนางไปโดยไม่มีเสียง

 

เมื่อเห็นฉินหยุนหลงหายไปผ่านประตู เหล่านางกํานัลก็ฟื้นสติกลับมา อกสั่นขวัญหาย หนึ่งในเหล่านางกํานัลรําพึงออกมา “โอ้ สวรรค์ เขา…เขา…เขาคงไม่ใช่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ หรือเป็นเขา ? ”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางกํานัลคนอื่น ๆ หน้าซีดลงทันที “ข้าไม่คิดว่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิจะออกมาจริง ๆ มันจบสิ้นแล้ว เราไม่ได้กล่าวทักทายเขาเลย ไม่ได้คารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ! ในกรณีที่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิกล่าวโทษ จะเป็นความผิดของพวกเราทุกคน”

 

นอกตําหนักสวรรค์ฉิน ยามยืนดูที่ประตูเห็นฉินหยุนหลง และพากันตกตะลึง อย่างไรก็ตาม พวกเขารีบคุกเข่าลงทันที “ข้าน้อยขอคารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ !” หัวหน้ายามกล่าวเป็นคนแรก เขาได้คอยคุ้มกันตําหนักสวรรค์ชิ้น มานานหลายร้อยปี และครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นฉินหยุนหลงก็ผ่านมาแล้ว 50 ปี เขารู้ดีว่าผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเขาคนนี้ เป็นหนึ่งในเซียนผู้คุมกฏที่ยิ่งใหญ่ของทวีปเทียนหยวน

 

“ข้าน้อยขอคารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ “

 

ขณะที่หัวหน้ายามได้กล่าวถึง “ผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ “ ยามทุกคนที่ยืนเฝ้าตําหนักสวรรค์ฉันรู้ทันทีว่าเขาผู้นี้คือฉินหยุนหลงและคุกเข่าลงกับพื้น

 

“ไม่จําเป็นต้องมากพิธี ลุกขึ้น” ฉินหยุนหลงยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้น ยามหลายร้อยคนรู้สึกถึงแรงดันที่เขาให้พวกเขาลุกขึ้นยืน

 

ฉินหยุนหลงเดินทางผ่านตําหนักและแต่ละก้าวที่เขาเดินราวกับว่าเขาเดินไปหลายสิบเมตรในชั่วพริบตา เขามาถึงตําหนักสวรรค์ฉินแห่งอื่น ๆ

 

เมื่อเขาเข้ามาในตําหนักสวรรค์ฉิน สามผู้อาวุโสก็รวมตัวกันอยู่แล้วที่โต๊ะ ผู้อาวุโสทั้งสามมวยผมขึ้นสูง และนอกจากนี้พวกเขาไม่ได้ดูแตกต่างจากคนทั่วไป แต่ละคนมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ธรรมดา – เหมือนเป็นผู้อาวุโสธรรมดา ด้านข้างมีนางกํานัลหลายคนสั่นกลัวในขณะที่พวกนางรินชา

 

ฉินหยุนหลงไม่ได้ทักทายใครสักคน เขาเดินตรงไปยังบัลลังก์ของเขาที่โต๊ะแทน

 

” พี่ฉิน มีเหตุอันใดจึงเรียกเราทั้งสามคนมาที่นี่” เสียงของผู้อาวุโสผู้หนึ่งพูดขึ้นมา เสียงของเขาค่อนข้างสูงราวกับเขาพูดออกมาจากแตร

 

ฉินหยุนหลงคิดครู่หนึ่งก่อนพูด “โดยหลักเกี่ยวข้องกับ เจี้ยนเฉิน” หลังจากนั้น เขาก็บอกผู้อาวุโสทั้งสามเกี่ยวกับสิ่งที่ฉิงเส้าฟานเล่าให้เขาฟัง

 

“ข้าอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับนิกายพยัคฆ์มังกรมาก่อนหน้านี้ พวกเขาก่อตั้งมาหลายพันปีแล้ว แต่เซียนผู้คุมกฏที่พวกเขามีได้ทะลวงผ่านเมื่อ 1 พันปีก่อน จากที่ขารู้มา พวกเขามีเซียนผู้คุมกฏเพียงแค่คนเดียว พวกเขายังมีหน้ามาต่อต้านอาณาจักรฉินหวงของเรา” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งกล่าว

 

“อืม เซียนผู้คุมกฏเพียงคนเดียวยังกล้าล่วงเกินอาณาจักรฉินฮวงของเรา ดูเหมือนว่าหนึ่งพันปีที่สงบสุขสําหรับอาณาจักรของเรา ทําให้มีหลายฝ่ายมองข้ามหัวพวกเรา”

 

ฉินหยุนหลงกล่าว “พวกเจ้าทั้งสามลองเสนอเรามาว่า ควรทําอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

“เจี้ยนเฉินมีพรสวรรค์เหนือผู้อื่นทั้งหมด ไม่มีผู้ใดในประวัติศาสตร์ที่สามารถเข้าถึงเซียนสวรรค์ในวัยเด็กได้เช่นเขา ด้วยการเข้าถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่จําเป็นต้องกล่าวถึงหากเขาจะกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ เขาอาจก้าวไปถึงเซียนระดับราชา ดังนั้นเขามีตําแหน่งสําคัญในอาณาจักรฉินหวงของเรา ถ้าเซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกรกล้ากระทํากับเขา เช่นนั้นแล้ว เราไม่สามารถนั่งเพิกเฉยได้ มิฉะนั้นเจี้ยนเฉินอาจ เอาใจออกห่างพวกเรา”

 

“ข้าเห็นด้วยกับเรื่องนั้น ไม่ว่าเราจัดการกับนิกายพยัคฆ์มังกรเพื่อปกป้องเกียรติของอาณาจักรฉินหวงหรือเพื่อแก้แค้นแทนเจี้ยนเฉิน พวกเราต้องเห็นด้วยตาของพวกเราเอง พวกท่านเห็นด้วยหรือไม่ ? ” อีกคนพูดขึ้น

 

ฉินหยุนหลงหัวเราะเบา ๆ “ข้าเป็นเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรฉินหวงและเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของอาณาจักรฉินหวงของข้า ไม่มีทางที่ข้าจะไม่ลงมือทําอะไร แฮร์รี่และข้าจําเป็นต้องไปด้วย”

 

“ถ้าเช่นนั้น พวกเจ้าสองคนก็ไป ไม่ต้องห่วงแม้ว่านิกายพยัคฆ์มังกรจะได้รับความช่วยเหลือจากคนนอก เมื่อไรพวกเจ้า ทั้งสองจะออกเดินทาง ? “

 

“เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้ากว่านี้ เราจะออกเดินทางตอนนี้”

 

หลังจากนั้น ฉินหยุนหลงและแฮร์รี่เรียกฉิงเส้าฟาน เขานำเซียนผู้คุมกฎทั้งสองไปยังประตูมิติออกจากอาณาจักรฉินหวง

คลิปหลุด

ในพระราชวังของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ มีรูขนาดเท่ากําปั้นตรงกลางลานขนาดใหญ่ ในรูมีผลึกขนาดเท่ากําปั้น

 

ที่ช่วงเวลานั้น มีไฟหลายสีมาพร้อมกระพริบจากผลึกที่ดูสามัญก่อนหน้านี้ หลังจากที่กระพริบพื้นที่เหนือลานกว้างก็เริ่มกระเพื่อม และบิดเบือนก่อนค่อย ๆ ขึ้นรูปประตูสูง 3 เมตร

 

เมื่อประตูมิติเกิดขึ้น เจี้ยนเฉินและคนอื่นอีก 12 คนรู้สึกถึงมันทันที พวกเขาบินลงตรงกลางของพระราชวังด้วยความเร็วสูง มาหยุดอยู่เบื้องหน้าประตู หลังจากที่ประตูมิติได้เสถียร พวกเขาสามารถเห็นฉากภายในพื้นที่ได้อย่างชัดเจน – พระราชวังอาณาจักรฉินหวง

 

ฉิงเส้าฟานและผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสองจากอาณาจักรฉินหวงก้าวผ่านประตูมิติประตูมิติกระพริบหลังจากที่พวกเขาข้าม

 

“พวกเราขอคารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่” ที่ปรึกษา จักรพรรดิทั้ง 12 คนคํานับ พวกเขาทั้งหมดของอาณาจักรฉินหวงรู้จักผู้พิทักษ์จักรพรรดิสี่คนแรกของอาณาจักรฉินหวง

 

เจี้ยนเฉินจ้องมองด้วยความอยากรู้ไปยังชายวัยกลางคน และผู้อาวุโสด้านหลังฉิงเส้าฟาน แม้ว่าเขาจะทราบว่าพวกเขาทั้งสองคือเซียนผู้คุมกฎ จิตใจของเขาไม่รู้สึกว่าอะไรผิดปกติ เนื่องจากเขาได้เห็นการดํารงอยู่แบบนี้มาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ครั้งแรกที่เห็นเป็นผู้อาวุโสนับโหลที่เมืองทหารรับจ้าง แล้วแม่ของลูกเสือขาว รัมกุยเนส แล้วก็ราชาวานรของอาณาจักรวานร ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเซียนผู้คุมกฎ

 

หลังจากที่เห็นเซียนผู้คุมกฎจํานวนมาก เจี้ยนเฉินได้ค่อย ๆ หมดความตื่นเต้นในตัวพวกเขา และไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าที่เขาได้เห็นเป็นครั้งแรก

 

สายตาของเซียนผู้คุมกฎทั้งสองจ้องมองเจี้ยนเฉินก่อน ผู้อาวุโสท่านหนึ่งจะเผยยิ้มออกมา “เจ้าต้องเป็นเจี้ยนเฉิน” 

 

เจี้ยนเฉินประสานมือของเขาเข้าด้วยกัน “ข้า เจี้ยนเฉิน ขอคารวะผู้อาวุโส”

 

“เจี้ยนเฉิน ไม่จําเป็นต้องมากพิธี ข้า ฉินหยุนหลง ราชารุ่น 173 แห่งอาณาจักรฉินหวง ข้าง ๆ ข้าคือแฮร์รี่ แม้ว่าเขาไม่ใช่คนจากอาณาจักรของเราเขาเป็นสหายที่ดีที่สุด ” ฉินหยุน หลงยิ้ม พูดเจี้ยนเฉินราวกับเขาอยู่ในฐานะเสมอกัน ในสายตาของอาณาจักรฉินหวง เจี้ยนเฉินเป็นเสาหลักในอนาคตของอาณาจักร แม้ในปัจจุบันจะมีเซียนผู้คุมกฏถึง 4 คนสําหรับราชอาณาจักรฉินหวง แต่พวกเขาไม่ได้คงอยู่ตลอดไป วันหนึ่งชีวิตของพวกเขาจะถึงจุดจบ

 

เมื่อเห็นเซียนผู้คมกฏทั้งสองมีอัธยาศัยอันดีและเป็นมิตร เจี้ยนเฉินเกิดความประทับใจแรกที่ดีต่อทั้งสอง

 

คําทักทายและบทสนทนาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก่อนที่เซียนผู้คุมกฎทั้งสองได้เริ่มย้ายเรื่องไปที่ปัญหา “เจี้ยน เฉิน เราทั้งสองรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับความก้าวร้าวของนิกายของมังกรพยัคฆ์ อาณาจักรฉินหวงของเราจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไว้อย่างแน่นอน เจ้าสามารถนําทางและเราจะได้พบและจัดการกับเซียนผู้คุมกฎ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 512

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 512 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่ 512 การมาถึงของเซียนผู้คุมกฎ

 

แม้แต่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิในห้องยังรู้สึกไม่พอใจอย่างชัดเจนหลังจากฟังเรื่องราวจากปากของฉิงเส้าฟาน “นิกาย พยัคฆ์มังกรรู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวงของเราและยังกล้าโจมตีเขา นี่เป็นเพียงการต่อต้านอาณาจักรฉินหวงของเรา ฉิงเส้าฟาน เจ้าดําเนินการอย่างเหมาะสม อาณาจักรฉินหวงของเราต้องปกป้องเกียรติที่สืบทอด กันยาวนานนับพันปีที่อาณาจักรของเราได้สร้างขึ้นมา เราจะไม่ยินยอมให้ใครมาท้าทายหรือมาเป็นศัตรูกับอาณาจักรฉินหวงของเรา เจ้าไปก่อน ข้าจะไปพูดคุยกับอีก 3 คน” 

 

“ขอรับ ท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ฉิงเส้าฟานต้องขออําลา” ฉิงเส้าฟานกล่าวขึ้นด้วยท่าที่เคารพ ก่อนที่จะคํานับและออกจากห้องไปด้วยฝีเท้าอันแผ่วเบา

 

หลังจากฉิงเส้าฟานจากไป ประตูทันทีได้เปิดออก เผยให้เห็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีขาว ที่เดินออกมาอย่างช้า ๆ

 

ชายวัยกลางคนผู้นี้ ไม่ได้ดูว่ามีอายุเกินกว่า 40 ปี แต่ผมของเขากลับขาวโพลน ที่ซึ่งไม่ได้ถูกรวบขึ้น ดังนั้น ผมของเขาจึงถูกปล่อยออกอย่างอิสระ ละบ่าของเขาราวกับน้ําตกสีเงิน

 

ใบหน้าของชายผู้นี้ ดวงตาที่ดําขลับที่สุกสกาวราวกับความลึกลับของดวงดาวในยามราตรี พวกมันราวกับจะหลบซ่อนทุกอย่างจากโลกใบนี้ แต่ทว่าแสงในดวงตาของเขา มันก็ดูราวกับว่า มันเป็นโลกอีกโลกหนึ่งอันกว้างใหญ่

 

ชายวัยกลางคนผู้นี้ เป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง ฉินหยุนหลง ฉินหยุนหลงนั้นเป็นสมาชิก คนหนึ่งในเหล่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิและเคยดํารงตําแหน่งราชา เมื่อราวหนึ่งพันปีก่อนเขาได้ก้าวไปยังขอบเขตของเซียนผู้คุมกฏ จากนั้นเขาก็ซ่อนตัวอยู่ภายในตําหนักสวรรค์ฉัน ที่ซึ่งน้อยคนมากจะได้เห็นเขา

 

หลังจากที่ฉินหยุนหลงก้าวออกจากห้องของเขา เขาเดินไปทางตําหนักอื่น ผ่านห้องวาดภาพที่เป็นศูนย์กลาง ที่ซึ่งอาจจะเห็นนางกํานัลหลายคนกําลังพูดคุย

 

เป็นนางกํานัลหลายคนภายในตําหนักสวรรค์ฉิน สถานะของพวกนางสูงที่สุดในอาณาจักรฉินหวง โดยพวกนางไม่ต้องกระทําสิ่งใดในตําหนักสวรรค์ฉิน นอกเหนือไปจากการทําความสะอาดและดูแลงานใด ๆ ในชีวิตประจําวัน เพื่อให้เหล่าผู้พิทักษ์จักรพรรดินั้นได้ใช้เวลาของพวกเขาทั้งหมดภายในห้องพักเพื่อบ่มเพาะพลัง และนอกเหนือจากนี้ สิ่งที่สําคัญคือพวกเขาจะไม่เคยออกมา นางดูแลเหล่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิหลายสิบปี

 

ยามเมื่อฉินหยุนหลงปรากฏตัวโดยปราศจากซึ่งเสียงต่อหน้าเหล่านางกํานัลเหล่านี้ พวกนางหยุดการสนทนาของพวกนางทันที ขณะที่พวกนางจ้องมองไปยังฉินหยุนหลงด้วยความประหลาดใจ แม้กระทั่งมารยาทพื้นฐานได้ถูกหลงลืมไปชั่วขณะ

 

แม้ว่าบางคนจะได้ทํางานอยู่ภายในตําหนักสวรรค์ฉันเป็นเวลาหลายปี โดยปกติ พวกนางไม่เคยเห็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิมาก่อน มีน้อยคนมากที่จะเคยได้พบเห็นพวกเขานอกเหนือจากพวกนาง ซึ่งมีโอกาสน้อยนัก คนเหล่านั้นไม่มีสิทธิ์ที่ย่างกรายเข้ามา แม้กระทั่งทหารยามด้านนอกก็ไม่กล้าที่จะย่างกรายเข้ามา โดยไม่มีสิ่งสําคัญใด ๆ รายงาน ดังนั้น เมื่อชายวัยกลางคน นี้ปรากฏต่อหน้าเหล่านางกํานัล พวกนางก็หยุดชะงักทันทีใน ชั่วขณะนั้น นับตั้งแต่พวกเขาได้รับจ้างให้มาที่ตําหนักสวรรค์ฉัน พวกนางไม่เคยเห็นคนแปลกหน้า ฉินหยุนหลงเดินไปทางประตูโดยไม่สนใจ ขณะที่เขาเดินเข้าประตูผ่านพวกนางไปโดยไม่มีเสียง

 

เมื่อเห็นฉินหยุนหลงหายไปผ่านประตู เหล่านางกํานัลก็ฟื้นสติกลับมา อกสั่นขวัญหาย หนึ่งในเหล่านางกํานัลรําพึงออกมา “โอ้ สวรรค์ เขา…เขา…เขาคงไม่ใช่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ หรือเป็นเขา ? ”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางกํานัลคนอื่น ๆ หน้าซีดลงทันที “ข้าไม่คิดว่าผู้พิทักษ์จักรพรรดิจะออกมาจริง ๆ มันจบสิ้นแล้ว เราไม่ได้กล่าวทักทายเขาเลย ไม่ได้คารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ! ในกรณีที่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิกล่าวโทษ จะเป็นความผิดของพวกเราทุกคน”

 

นอกตําหนักสวรรค์ฉิน ยามยืนดูที่ประตูเห็นฉินหยุนหลง และพากันตกตะลึง อย่างไรก็ตาม พวกเขารีบคุกเข่าลงทันที “ข้าน้อยขอคารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ !” หัวหน้ายามกล่าวเป็นคนแรก เขาได้คอยคุ้มกันตําหนักสวรรค์ชิ้น มานานหลายร้อยปี และครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นฉินหยุนหลงก็ผ่านมาแล้ว 50 ปี เขารู้ดีว่าผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเขาคนนี้ เป็นหนึ่งในเซียนผู้คุมกฏที่ยิ่งใหญ่ของทวีปเทียนหยวน

 

“ข้าน้อยขอคารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ “

 

ขณะที่หัวหน้ายามได้กล่าวถึง “ผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ “ ยามทุกคนที่ยืนเฝ้าตําหนักสวรรค์ฉันรู้ทันทีว่าเขาผู้นี้คือฉินหยุนหลงและคุกเข่าลงกับพื้น

 

“ไม่จําเป็นต้องมากพิธี ลุกขึ้น” ฉินหยุนหลงยกฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้น ยามหลายร้อยคนรู้สึกถึงแรงดันที่เขาให้พวกเขาลุกขึ้นยืน

 

ฉินหยุนหลงเดินทางผ่านตําหนักและแต่ละก้าวที่เขาเดินราวกับว่าเขาเดินไปหลายสิบเมตรในชั่วพริบตา เขามาถึงตําหนักสวรรค์ฉินแห่งอื่น ๆ

 

เมื่อเขาเข้ามาในตําหนักสวรรค์ฉิน สามผู้อาวุโสก็รวมตัวกันอยู่แล้วที่โต๊ะ ผู้อาวุโสทั้งสามมวยผมขึ้นสูง และนอกจากนี้พวกเขาไม่ได้ดูแตกต่างจากคนทั่วไป แต่ละคนมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ธรรมดา – เหมือนเป็นผู้อาวุโสธรรมดา ด้านข้างมีนางกํานัลหลายคนสั่นกลัวในขณะที่พวกนางรินชา

 

ฉินหยุนหลงไม่ได้ทักทายใครสักคน เขาเดินตรงไปยังบัลลังก์ของเขาที่โต๊ะแทน

 

” พี่ฉิน มีเหตุอันใดจึงเรียกเราทั้งสามคนมาที่นี่” เสียงของผู้อาวุโสผู้หนึ่งพูดขึ้นมา เสียงของเขาค่อนข้างสูงราวกับเขาพูดออกมาจากแตร

 

ฉินหยุนหลงคิดครู่หนึ่งก่อนพูด “โดยหลักเกี่ยวข้องกับ เจี้ยนเฉิน” หลังจากนั้น เขาก็บอกผู้อาวุโสทั้งสามเกี่ยวกับสิ่งที่ฉิงเส้าฟานเล่าให้เขาฟัง

 

“ข้าอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับนิกายพยัคฆ์มังกรมาก่อนหน้านี้ พวกเขาก่อตั้งมาหลายพันปีแล้ว แต่เซียนผู้คุมกฏที่พวกเขามีได้ทะลวงผ่านเมื่อ 1 พันปีก่อน จากที่ขารู้มา พวกเขามีเซียนผู้คุมกฏเพียงแค่คนเดียว พวกเขายังมีหน้ามาต่อต้านอาณาจักรฉินหวงของเรา” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งกล่าว

 

“อืม เซียนผู้คุมกฏเพียงคนเดียวยังกล้าล่วงเกินอาณาจักรฉินฮวงของเรา ดูเหมือนว่าหนึ่งพันปีที่สงบสุขสําหรับอาณาจักรของเรา ทําให้มีหลายฝ่ายมองข้ามหัวพวกเรา”

 

ฉินหยุนหลงกล่าว “พวกเจ้าทั้งสามลองเสนอเรามาว่า ควรทําอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

“เจี้ยนเฉินมีพรสวรรค์เหนือผู้อื่นทั้งหมด ไม่มีผู้ใดในประวัติศาสตร์ที่สามารถเข้าถึงเซียนสวรรค์ในวัยเด็กได้เช่นเขา ด้วยการเข้าถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่จําเป็นต้องกล่าวถึงหากเขาจะกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ เขาอาจก้าวไปถึงเซียนระดับราชา ดังนั้นเขามีตําแหน่งสําคัญในอาณาจักรฉินหวงของเรา ถ้าเซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกรกล้ากระทํากับเขา เช่นนั้นแล้ว เราไม่สามารถนั่งเพิกเฉยได้ มิฉะนั้นเจี้ยนเฉินอาจ เอาใจออกห่างพวกเรา”

 

“ข้าเห็นด้วยกับเรื่องนั้น ไม่ว่าเราจัดการกับนิกายพยัคฆ์มังกรเพื่อปกป้องเกียรติของอาณาจักรฉินหวงหรือเพื่อแก้แค้นแทนเจี้ยนเฉิน พวกเราต้องเห็นด้วยตาของพวกเราเอง พวกท่านเห็นด้วยหรือไม่ ? ” อีกคนพูดขึ้น

 

ฉินหยุนหลงหัวเราะเบา ๆ “ข้าเป็นเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรฉินหวงและเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของอาณาจักรฉินหวงของข้า ไม่มีทางที่ข้าจะไม่ลงมือทําอะไร แฮร์รี่และข้าจําเป็นต้องไปด้วย”

 

“ถ้าเช่นนั้น พวกเจ้าสองคนก็ไป ไม่ต้องห่วงแม้ว่านิกายพยัคฆ์มังกรจะได้รับความช่วยเหลือจากคนนอก เมื่อไรพวกเจ้า ทั้งสองจะออกเดินทาง ? “

 

“เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้ากว่านี้ เราจะออกเดินทางตอนนี้”

 

หลังจากนั้น ฉินหยุนหลงและแฮร์รี่เรียกฉิงเส้าฟาน เขานำเซียนผู้คุมกฎทั้งสองไปยังประตูมิติออกจากอาณาจักรฉินหวง

คลิปหลุด

ในพระราชวังของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ มีรูขนาดเท่ากําปั้นตรงกลางลานขนาดใหญ่ ในรูมีผลึกขนาดเท่ากําปั้น

 

ที่ช่วงเวลานั้น มีไฟหลายสีมาพร้อมกระพริบจากผลึกที่ดูสามัญก่อนหน้านี้ หลังจากที่กระพริบพื้นที่เหนือลานกว้างก็เริ่มกระเพื่อม และบิดเบือนก่อนค่อย ๆ ขึ้นรูปประตูสูง 3 เมตร

 

เมื่อประตูมิติเกิดขึ้น เจี้ยนเฉินและคนอื่นอีก 12 คนรู้สึกถึงมันทันที พวกเขาบินลงตรงกลางของพระราชวังด้วยความเร็วสูง มาหยุดอยู่เบื้องหน้าประตู หลังจากที่ประตูมิติได้เสถียร พวกเขาสามารถเห็นฉากภายในพื้นที่ได้อย่างชัดเจน – พระราชวังอาณาจักรฉินหวง

 

ฉิงเส้าฟานและผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสองจากอาณาจักรฉินหวงก้าวผ่านประตูมิติประตูมิติกระพริบหลังจากที่พวกเขาข้าม

 

“พวกเราขอคารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่” ที่ปรึกษา จักรพรรดิทั้ง 12 คนคํานับ พวกเขาทั้งหมดของอาณาจักรฉินหวงรู้จักผู้พิทักษ์จักรพรรดิสี่คนแรกของอาณาจักรฉินหวง

 

เจี้ยนเฉินจ้องมองด้วยความอยากรู้ไปยังชายวัยกลางคน และผู้อาวุโสด้านหลังฉิงเส้าฟาน แม้ว่าเขาจะทราบว่าพวกเขาทั้งสองคือเซียนผู้คุมกฎ จิตใจของเขาไม่รู้สึกว่าอะไรผิดปกติ เนื่องจากเขาได้เห็นการดํารงอยู่แบบนี้มาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ครั้งแรกที่เห็นเป็นผู้อาวุโสนับโหลที่เมืองทหารรับจ้าง แล้วแม่ของลูกเสือขาว รัมกุยเนส แล้วก็ราชาวานรของอาณาจักรวานร ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเซียนผู้คุมกฎ

 

หลังจากที่เห็นเซียนผู้คุมกฎจํานวนมาก เจี้ยนเฉินได้ค่อย ๆ หมดความตื่นเต้นในตัวพวกเขา และไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าที่เขาได้เห็นเป็นครั้งแรก

 

สายตาของเซียนผู้คุมกฎทั้งสองจ้องมองเจี้ยนเฉินก่อน ผู้อาวุโสท่านหนึ่งจะเผยยิ้มออกมา “เจ้าต้องเป็นเจี้ยนเฉิน” 

 

เจี้ยนเฉินประสานมือของเขาเข้าด้วยกัน “ข้า เจี้ยนเฉิน ขอคารวะผู้อาวุโส”

 

“เจี้ยนเฉิน ไม่จําเป็นต้องมากพิธี ข้า ฉินหยุนหลง ราชารุ่น 173 แห่งอาณาจักรฉินหวง ข้าง ๆ ข้าคือแฮร์รี่ แม้ว่าเขาไม่ใช่คนจากอาณาจักรของเราเขาเป็นสหายที่ดีที่สุด ” ฉินหยุน หลงยิ้ม พูดเจี้ยนเฉินราวกับเขาอยู่ในฐานะเสมอกัน ในสายตาของอาณาจักรฉินหวง เจี้ยนเฉินเป็นเสาหลักในอนาคตของอาณาจักร แม้ในปัจจุบันจะมีเซียนผู้คุมกฏถึง 4 คนสําหรับราชอาณาจักรฉินหวง แต่พวกเขาไม่ได้คงอยู่ตลอดไป วันหนึ่งชีวิตของพวกเขาจะถึงจุดจบ

 

เมื่อเห็นเซียนผู้คมกฏทั้งสองมีอัธยาศัยอันดีและเป็นมิตร เจี้ยนเฉินเกิดความประทับใจแรกที่ดีต่อทั้งสอง

 

คําทักทายและบทสนทนาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก่อนที่เซียนผู้คุมกฎทั้งสองได้เริ่มย้ายเรื่องไปที่ปัญหา “เจี้ยน เฉิน เราทั้งสองรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับความก้าวร้าวของนิกายของมังกรพยัคฆ์ อาณาจักรฉินหวงของเราจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไว้อย่างแน่นอน เจ้าสามารถนําทางและเราจะได้พบและจัดการกับเซียนผู้คุมกฎ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+