Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 528

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 528 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 528 ตระกูลหวงกู่

ภายในตระกูลเจียงหยาง เจี้ยนเฉินเรียกพบหมิงตง, ตู่กูเฟิง, หยุนเจิ้ง,และศิษย์พี่อัน ทั้งหมดได้มานั่งล้อมรอบโต๊ะกลมโต๊ะหนึ่ง

เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ โต๊ะก่อนที่จะกระแอมขึ้น หลังจากที่พึมพำกับตัวเองเขาก็ได้พูดขึ้น “ตอนนี้ปัญหาของอาณาจักรเกอซุนได้รับการแก้ไขแล้ว พวกเราควรเริ่มจัดการเรื่องของตัวเองได้แล้ว”

ตาของหมิงตงเปล่งกายออกมา “เจี้ยนเฉิน นี่ท่านกำลังจะพูดถึงเรื่องกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีงั้นหรือ ? “

“ถูกต้อง กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนั้นคือเรื่องที่ข้าจะพูดถึง” เจี้ยนเฉินพูดต่อ “ข้าได้กลับไปยังอาณาจักรเกอซุนหลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน แต่ข้าก็ได้วางแผนที่จะได้เห็นว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนั้นพัฒนาไปมากเพียงใด อีกทั้งยังมีปัญหามากมายที่เข้ามาทำให้ข้าไม่มีเวลาว่าไปตรวจสอบว่ากลุ่มทหารรับจ้างนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อทุกอย่างได้รับการแก้ไขไปแล้ว ข้าจะใช้พลังทั้งหมดที่เหลือของข้าจัดการกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี”

“เจี้ยนเฉิน นี่ท่านก่อตั้งกลุ่มทหารนี่ขึ้นที่ใด? ข้าไม่เคยได้ยินถึงมันมาก่อน ข้าอยากรู้ว่ามันแข็งแกร่งเพียงใด” หยุนเจิ้งถาม

“ข้าไม่ได้สร้างกองทหารรับจ้างอัคนี ข้าเป็นแค่หัวหน้ารุ่นที่สอง มันเป็นเวลา 2 ปีแล้วที่ข้าจากมา ดังนั้นตอนนี้ข้าเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ย้ายตำแหน่งหรือยังอยู่ในเมืองเวคในอาณาจักรวายุโปรย และสำหรับความแข็งแกร่งของพวกเขานั้น….” ตอนนั้นเองเจี้ยนเฉินก็ได้ยิ้มแบบเขินอายออกมา “เอ่อ รอดูเอาเองเถอะ แล้วเจ้าจะเข้าใจเอง”

“ฮ่าฮ่า เจี้ยนเฉิน ข้าได้ยินมาว่าท่านมีกลุ่มทหารรับจ้างเป็นของตัวเองแต่ไม่เคยได้ยินถึงกลุ่มนี้มาก่อน พวกเราควรมุ่งหน้าไปยังเมืองเวค เพื่อดูว่ากองทหารรับจ้างของเจ้านั้นเป็นอย่างไร” หมิงตงหัวเราะเบา ๆ

“แล้วพวกเราจะไปกันตอนไหน ? ” ตู่กูเฟิงพูดขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกับคนอื่นเขาเป็นคนที่เงียบที่สุด แม้ว่าตอนที่เขาพูด ใบหน้าของเขาก็ไม่ได้แสงอารมณ์ใด ๆ ออกมา

เมื่อได้ยินแบบนั้นเจี้ยนเฉินก็พึมพำ “ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไปที่เมืองเวค ข้าอยากไปที่ที่หนึ่งก่อน พวกเจ้าควรอยู่ที่ตระกูลเจียงหยางสักพัก รอให้ข้ากลับมาแล้วพวกเราค่อยมุ่งหน้าไปที่นั่น”

เมื่อทุกคนกำลังจะออกไป เจี้ยนเฉินก็ได้ดึงหมิงตงเอาไว้ “หมิงตง เจ้าไปกับข้า ข้าอยากแนะนำสหายให้เจ้ารู้จัก”

“ก็ได้ ที่ไหนกัน ! ” หมิงตงถามชัดถ้อยชัดคำ

สำนักคากัต !

เจี้ยนเฉินและหมิงตง ทั้งคู่ได้ออกจากตระกูลเจียงหยางโดยที่เจี้ยนเฉินได้นำหมิงตงไปยังสำนักคากัต

พวกเขาเดินทางไปยังทิศใต้ที่มีป่าซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์อสูรอยู่ในนั้น ป่านี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อป่าหมอก เนื่องจากมีหมอกปกคลุมป่านี่ตลอดทั้งปี ยิ่งเข้าป่านี่ลึกเท่าไหร่หมอกก็จะยิ่งหนาขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมันทำให้บุคคลที่เข้าไปนั้นหลงทางได้ง่าย ๆ

อ้างอิงจากบันทึกที่มีไว้ก่อนหน้านี้ ป่าหมอกนั้นเป็นป่าธรรมดาที่มีสัตว์อสูรอยู่ในนั้น แต่หลายพันปีต่อมาก็ได้มีหมอกปรากฏขึ้นโดยที่ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ตอนแรกทุกคนสงสัยกันว่าเหตุใดมันจึงปรากฏขึ้น ได้มีคนและกลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งมากมายได้เข้าไปยังป่านั่นเพื่อทำการสำรวจ แต่บุคคลพวกนั้นก็ไม่ได้กลับออกมาเลยแม้แต่คนเดียว

การหายไปของกลุ่มคนนั้นไม่ได้ทำให้เกิดความกลัวแก่กลุ่มทหารรับจ้าง แต่กลับกันมันกลับกระตุ้นพวกเขาและทำให้มีกลุ่มทหารรับจ้างมากมายเชื่อว่าภายในป่านั้นมีสมบัติอะไรบางอย่างอยู่

กลุ่มทหารรับจ้างจำนวนมากได้รวมตัวกันเพื่อจะเข้าไปสำรวจป่านี่ หลังจากนั้นหลายวันก็ได้มีคนได้รับบาดเจ็บกลับออกมาจากป่า พวกเขาทุกคนยังคงได้รับข้อมูลที่น่าตกตะลึงเหมือนเดิม ภายในป่าหมอกนี่มีสัตว์อสูรระดับ 6 !

ข้อมูลนี้เหมือนกับฟ้าผ่าเข้าไปยังหัวใจของกลุ่มทหารรับจ้างที่นั่น เมืองรอบ ๆ ป่าหมอกนี่เป็นเมืองระดับสองและระดับสามที่ซึ่งแค่เพียงสัตว์อสูรระดับ 5 ก็ถือว่าแข็งแก่งเกินไปสำหรับพวกเขาแล้ว สัตว์อสูรระดับ 6 นั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาทำได้แค่มองเท่านั้น สัตว์อสูรระดับนั้นสามารถทำลายเมืองระดับสองได้อย่างง่ายดาย

อาณาจักรรอบ ๆ ทุกอาณาจักรได้รับข้อมูลนั้น และได้รวบรวบเซียนสวรรค์มามากมาย พวกเขารีบเข้าไปยังป่าหมอกนั่นเพื่อที่จะฆ่าสัตว์อสูรและเก็บแกนอสูรเอาไว้ ในทวีปเทียนหยุน สัตว์อสูรระดับ 6 นั้นเป็นสิ่งที่อาศัยในเทือกเขาครอสเท่านั้น ในสายตาของมนุษย์แล้วเทือกเขาครอสนั้นเป็นสถานที่ต้องห้ามที่ซึ่งถ้าผู้ใดมีระดับต่ำกว่าเซียนสวรรค์นั้นต้องตายอย่างแน่นอน อีกทั้งสัตว์อสูรระดับ 6 นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยาก เมื่อมันปรากฏตัวออกมา ทุก ๆ กลุ่มนั้นจะรีบทำการล่ามันทันที

เซียนสวรรค์ทุกคนได้เข้าไปยังป่านั้นและได้กลับออกมาพร้อมกับท่าทีตกใจกันทุกคน ไม่มีเสียงการต่อสู้ดังขึ้นภายในป่าแห่งนั้น ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนที่คอยจับตามองการต่อสู้ของเซียนสวรรค์นั้นผิดหวัง สถานการณ์แบบนั้นทำให้เกิดแรงกระตุ้นขึ้นหลายเท่าให้แก่กองทหารรับจ้าง ไม่นานข่าวลือนี่ก็ได้แพร่กระจายออกไป ทุกคนภายในรัศมีหนึ่งแสนกิโลเมตรล้วนทราบถึงเรื่องนี้

จากตอนนั้นกลุ่มทหารรับจ้างทุกกลุ่มรู้ว่ามีบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในป่าหมอกนั่นซึ่งทำให้เซียนสวรรค์หลายคนกลัว แม้ว่าจะมีกลุ่มทหารรับจ้างยังคงล่าสัตว์อสูรในป่านั่นอยู่แต่พวกเขาก็อยู่ที่บริเวณเขตนอกเท่านั้น ไม่มีใครกล้าเข้าไปลึกกว่านี้

นอกจากเซียนสวรรค์ที่เข้าไปในป่าแล้ว ไม่มีผู้ใดจินตนาการได้เลยว่าสิ่งที่หลบซ่อนอยู่ในส่วนลึกในป่าแห่งนี้จะเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ มีสิ่งก่อสร้างมากมายอยู่ที่นั่นแต่หมอกกลับไม่ปกคลุมนี่นั่นเลยแม้แต่นิดเดียว

ที่ใจกลางสิ่งก่อสร้างนั่นมีหอคอยที่สูงประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ชั้นแรกนั้นมีผู้อาวุโสหลายคนกำลังยิ้มและพูดคุยกัน ในกลุ่มนั้นมีผู้อาวุโสเฟิงและผู้อาวุโสหยุนจากตระกูลหวงอยู่ด้วย

“ผู้อาวุโสเฟิง, ผู้อาวุโสหยุน, เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นท่านออกมาจากตระกูลหวงของท่าน ทำไมท่านไม่อยู่ที่นี่สักพัก ? ” ผู้อาวุโสผมเรียบแปล้คนหนึ่งพูดขึ้น ผู้อาวุโสคนนี้สวมชุดสีขาวเหมือนกับว่าเป็นบัณฑิต

“ท่านเจี้ยง เราทั้งสองคนนั้นมาที่นี่เพราะมีเหตุผล ครั้งนี้มีเรื่องสำคัญ” ผู้อาวุโสเฟยพูดขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้าซับซ้อน เพราะเขารู้ว่าสิ่งที่เขาจะพูดนั้นค่อนข้างน่าอาย

“ฮ่าฮ่า เรื่องอะไรกันที่ทำให้ท่านทั้งสองต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง ? รึว่าตระกูลหงฝูได้ทำสิ่งใด ? ” หัวหน้าตระกูลหวงกู่ถามขึ้น

ผู้อาวุโสเฟิงส่ายหน้าก่อนจะเอาจดหมายออกจากแหวนมิติและส่งไปให้หัวหน้าตระกูล “ท่านเจี้ยง โปรดดูนี่”

หัวหน้าตระกูลหวงกู่รับจดหมายและเปิดมันออก เมื่อเขาเห็นข้อความในจดหมาย รอยยิ้มบนใบหน้าที่มีก่อนหน้านี้ได้หายไปและแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ตระกูลหวงของเจ้าตัดสินใจยกเลิกการหมั้นงั้นหรือ ? ผู้อาวุโสเฟิง, ผู้อาวุโสหยุน นี่ตระกูลหวงของเจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน ? “

ผู้อาวุโสทั้งสองยิ้มขออภัยออกมาพร้อมกับป้องมือ “ท่านเจี้ยง โปรดสงบสติอารมณ์ก่อน นี่เป็นการตัดสินใจของบรรพชนของเราเอง”

เมื่อได้ยินคำที่พูดถึงบรรพชน ใบหน้าของใต้เท้าเจี้ยงก็ได้จริงจังยิ่งกว่าเดิม เขาโยนจดหมายไปที่โต๊ะพร้อมกับพูดขึ้นในขณะที่ยังแสดงสีหน้าซับซ้อน “ผู้อาวุโส บรรพชนของเจ้าต้องการจะบอกสิ่งใด! การหมั้นนี่เป็นสิ่งที่เขาเสนอขึ้นมาเอง และตอนนี้เขากลับจะยกเลิกมัน นี่เขาเห็นตระกูลหวงกู่ของข้าเป็นของเล่นงั้นหรือ ? “

“ท่านเจี้ยง พวกเราขออภัย นี่ยังเป็นเรื่องของผู้เยาว์ของเรานั้นต้องการ ดังนั้นตระกูลหวงกู่เองก็ไม่ได้หวังจะทำลายความหวังของเธอ ถ้าการยกเลิกการหมั้นนี่ทำให้ตระกูลหวงกู่ไม่พอใจ โปรดอภัยให้พวกเราด้วย” ผู้อาวุโสหยุนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนออกมา

“ฮึ่ม คุณชายผู้ใดกันที่ทำให้คุณหนูของเจ้าตกหลุมรัก จนต้องให้บรรพชนของเจ้ามายกเลิกการหมั้น ? ” หัวหน้าตระกูลหวงกู่ถามขึ้น

“คุณชายที่คุณหนูของเราชมชอบนั้นคือผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง” ผู้อาวุโสเฟิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย หัวใจของเขาเต้นรัวเมื่อได้เห็นท่าทีที่หัวหน้าตระกูลหวงกู่แสดงออกมา

เมื่อได้ยินว่าพูดถึงผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง ใบหน้าของชายคนนั้นก็แสดงความกลัวออกมา จากนั้นเขาก็ได้ยิ้มแบบเยือกเย็นออกมา “อย่างงั้นหรือ ตอนนี้ตระกูลหวงของเจ้าได้พบต้นไม้ที่เรียกว่าอาณาจักรฉินหวงให้ปีนป่ายแล้ว เมื่อมีอาณาจักรฉินหวง ตระกูลหวงของเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องกลัวตระกูลหงฝูอีกต่อไป” มีความหงุดหงิดเกิดขึ้นเล็กน้อยในหัวใจของท่านผู้นี้ เด็กสาวหวงหลวนผู้นี้มีพรสวรรค์สูงส่ง ด้วยอายุแค่เพียง 20 ปี นางก็เข้าถึงระดับเซียนปฐพี นี่เป็นสิ่งที่ตระกูลหวงกู่ต้องการมากที่สุด พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะเอานางเข้ามาในตระกูลพวกเขา แต่ตระกูลหวงกลับตอบปฏิเสธพวกเขาได้

ในที่สุดหลังจากนั้นครึ่งปีตระกูลหงฝูก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นก่อให้เกิดความกดดันแก่ตระกูลหวง พวกตระกูลหวงได้พยายามอย่างมากที่จะเชื่อมความสัมพันธ์กับตระกูลหวงกู่ผ่านการแต่งงานเพื่อที่จะใช้อำนาจนั้นต่อกรกับตระกูลหงฝู

จุดประสงค์แบบนี้เป็นสิ่งที่ตระกูลหวงกู่ยินดีรับไว้อยู่แล้ว ถ้าตระกูลหวงกู่เข้าร่วมกับตระกูลหวงแล้ว พวกเขาจะรวมพลังกันต่อกรกับตระกูลหงฝูและไล่พวกเขาออกไป ถ้าเป็นแบบนั้นถ้ามีการต่อสู้เกิดขึ้นด้วยการที่ทั้งสองฝ่ายนั้นมีความแข็งแกร่งเท่ากัน การปะทะนั้นก็จะทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมาก ซึ่งไม่มีทางที่ตระกูลหงฝูจะกล้าเสี่ยงในเรื่องนี้

อาจพูดได้ว่าการแต่งงานของตระกูลหวงและตระกูลหวงกู่นั้นมีไว้เพื่อเพิ่มกำลังทางกองทหารเพื่อต่อการกับตระกูลหงฝู ด้วยเหตุผลนั้นตระกูลหวงกู่ก็ยินดีที่จะยอมรับการแต่งงานนี่ ตอนนี้ตระกูลหวงกลับตัดสินใจยกเลิกการแต่งงาน นั่นทำให้หัวหน้าตระกูลหวงกู่นั้นผิดหวังเป็นอย่างมาก พวกเขาได้ตีค่าหวงหลวนไว้ค่อนข้างสูง และผู้ที่จะทำการแต่งงานกับนางเองนั้นก็เป็นลูกชายสุดที่รักของท่านเจี้ยง ไม่มีทางเลยที่เขาจะไม่โกรธในเรื่องนี้

“ผู้อาวุโส โปรดอย่าโทษตัวเอง ข้าจะนำเรื่องนี้ไปบอกแก่บรรพชนของข้าและเขาอาจจะไปพูดเหตุผลกับบรรพชนของท่านเอง” ท่านเจี้ยงผายมือออกด้วยท่าทีอย่างจักรพรรดิขับไล่บุคคลภายนอก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 528

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 528 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 528 ตระกูลหวงกู่

ภายในตระกูลเจียงหยาง เจี้ยนเฉินเรียกพบหมิงตง, ตู่กูเฟิง, หยุนเจิ้ง,และศิษย์พี่อัน ทั้งหมดได้มานั่งล้อมรอบโต๊ะกลมโต๊ะหนึ่ง

เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ โต๊ะก่อนที่จะกระแอมขึ้น หลังจากที่พึมพำกับตัวเองเขาก็ได้พูดขึ้น “ตอนนี้ปัญหาของอาณาจักรเกอซุนได้รับการแก้ไขแล้ว พวกเราควรเริ่มจัดการเรื่องของตัวเองได้แล้ว”

ตาของหมิงตงเปล่งกายออกมา “เจี้ยนเฉิน นี่ท่านกำลังจะพูดถึงเรื่องกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีงั้นหรือ ? “

“ถูกต้อง กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนั้นคือเรื่องที่ข้าจะพูดถึง” เจี้ยนเฉินพูดต่อ “ข้าได้กลับไปยังอาณาจักรเกอซุนหลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน แต่ข้าก็ได้วางแผนที่จะได้เห็นว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนั้นพัฒนาไปมากเพียงใด อีกทั้งยังมีปัญหามากมายที่เข้ามาทำให้ข้าไม่มีเวลาว่าไปตรวจสอบว่ากลุ่มทหารรับจ้างนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อทุกอย่างได้รับการแก้ไขไปแล้ว ข้าจะใช้พลังทั้งหมดที่เหลือของข้าจัดการกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี”

“เจี้ยนเฉิน นี่ท่านก่อตั้งกลุ่มทหารนี่ขึ้นที่ใด? ข้าไม่เคยได้ยินถึงมันมาก่อน ข้าอยากรู้ว่ามันแข็งแกร่งเพียงใด” หยุนเจิ้งถาม

“ข้าไม่ได้สร้างกองทหารรับจ้างอัคนี ข้าเป็นแค่หัวหน้ารุ่นที่สอง มันเป็นเวลา 2 ปีแล้วที่ข้าจากมา ดังนั้นตอนนี้ข้าเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ย้ายตำแหน่งหรือยังอยู่ในเมืองเวคในอาณาจักรวายุโปรย และสำหรับความแข็งแกร่งของพวกเขานั้น….” ตอนนั้นเองเจี้ยนเฉินก็ได้ยิ้มแบบเขินอายออกมา “เอ่อ รอดูเอาเองเถอะ แล้วเจ้าจะเข้าใจเอง”

“ฮ่าฮ่า เจี้ยนเฉิน ข้าได้ยินมาว่าท่านมีกลุ่มทหารรับจ้างเป็นของตัวเองแต่ไม่เคยได้ยินถึงกลุ่มนี้มาก่อน พวกเราควรมุ่งหน้าไปยังเมืองเวค เพื่อดูว่ากองทหารรับจ้างของเจ้านั้นเป็นอย่างไร” หมิงตงหัวเราะเบา ๆ

“แล้วพวกเราจะไปกันตอนไหน ? ” ตู่กูเฟิงพูดขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกับคนอื่นเขาเป็นคนที่เงียบที่สุด แม้ว่าตอนที่เขาพูด ใบหน้าของเขาก็ไม่ได้แสงอารมณ์ใด ๆ ออกมา

เมื่อได้ยินแบบนั้นเจี้ยนเฉินก็พึมพำ “ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไปที่เมืองเวค ข้าอยากไปที่ที่หนึ่งก่อน พวกเจ้าควรอยู่ที่ตระกูลเจียงหยางสักพัก รอให้ข้ากลับมาแล้วพวกเราค่อยมุ่งหน้าไปที่นั่น”

เมื่อทุกคนกำลังจะออกไป เจี้ยนเฉินก็ได้ดึงหมิงตงเอาไว้ “หมิงตง เจ้าไปกับข้า ข้าอยากแนะนำสหายให้เจ้ารู้จัก”

“ก็ได้ ที่ไหนกัน ! ” หมิงตงถามชัดถ้อยชัดคำ

สำนักคากัต !

เจี้ยนเฉินและหมิงตง ทั้งคู่ได้ออกจากตระกูลเจียงหยางโดยที่เจี้ยนเฉินได้นำหมิงตงไปยังสำนักคากัต

พวกเขาเดินทางไปยังทิศใต้ที่มีป่าซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์อสูรอยู่ในนั้น ป่านี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อป่าหมอก เนื่องจากมีหมอกปกคลุมป่านี่ตลอดทั้งปี ยิ่งเข้าป่านี่ลึกเท่าไหร่หมอกก็จะยิ่งหนาขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมันทำให้บุคคลที่เข้าไปนั้นหลงทางได้ง่าย ๆ

อ้างอิงจากบันทึกที่มีไว้ก่อนหน้านี้ ป่าหมอกนั้นเป็นป่าธรรมดาที่มีสัตว์อสูรอยู่ในนั้น แต่หลายพันปีต่อมาก็ได้มีหมอกปรากฏขึ้นโดยที่ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ตอนแรกทุกคนสงสัยกันว่าเหตุใดมันจึงปรากฏขึ้น ได้มีคนและกลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งมากมายได้เข้าไปยังป่านั่นเพื่อทำการสำรวจ แต่บุคคลพวกนั้นก็ไม่ได้กลับออกมาเลยแม้แต่คนเดียว

การหายไปของกลุ่มคนนั้นไม่ได้ทำให้เกิดความกลัวแก่กลุ่มทหารรับจ้าง แต่กลับกันมันกลับกระตุ้นพวกเขาและทำให้มีกลุ่มทหารรับจ้างมากมายเชื่อว่าภายในป่านั้นมีสมบัติอะไรบางอย่างอยู่

กลุ่มทหารรับจ้างจำนวนมากได้รวมตัวกันเพื่อจะเข้าไปสำรวจป่านี่ หลังจากนั้นหลายวันก็ได้มีคนได้รับบาดเจ็บกลับออกมาจากป่า พวกเขาทุกคนยังคงได้รับข้อมูลที่น่าตกตะลึงเหมือนเดิม ภายในป่าหมอกนี่มีสัตว์อสูรระดับ 6 !

ข้อมูลนี้เหมือนกับฟ้าผ่าเข้าไปยังหัวใจของกลุ่มทหารรับจ้างที่นั่น เมืองรอบ ๆ ป่าหมอกนี่เป็นเมืองระดับสองและระดับสามที่ซึ่งแค่เพียงสัตว์อสูรระดับ 5 ก็ถือว่าแข็งแก่งเกินไปสำหรับพวกเขาแล้ว สัตว์อสูรระดับ 6 นั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาทำได้แค่มองเท่านั้น สัตว์อสูรระดับนั้นสามารถทำลายเมืองระดับสองได้อย่างง่ายดาย

อาณาจักรรอบ ๆ ทุกอาณาจักรได้รับข้อมูลนั้น และได้รวบรวบเซียนสวรรค์มามากมาย พวกเขารีบเข้าไปยังป่าหมอกนั่นเพื่อที่จะฆ่าสัตว์อสูรและเก็บแกนอสูรเอาไว้ ในทวีปเทียนหยุน สัตว์อสูรระดับ 6 นั้นเป็นสิ่งที่อาศัยในเทือกเขาครอสเท่านั้น ในสายตาของมนุษย์แล้วเทือกเขาครอสนั้นเป็นสถานที่ต้องห้ามที่ซึ่งถ้าผู้ใดมีระดับต่ำกว่าเซียนสวรรค์นั้นต้องตายอย่างแน่นอน อีกทั้งสัตว์อสูรระดับ 6 นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยาก เมื่อมันปรากฏตัวออกมา ทุก ๆ กลุ่มนั้นจะรีบทำการล่ามันทันที

เซียนสวรรค์ทุกคนได้เข้าไปยังป่านั้นและได้กลับออกมาพร้อมกับท่าทีตกใจกันทุกคน ไม่มีเสียงการต่อสู้ดังขึ้นภายในป่าแห่งนั้น ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนที่คอยจับตามองการต่อสู้ของเซียนสวรรค์นั้นผิดหวัง สถานการณ์แบบนั้นทำให้เกิดแรงกระตุ้นขึ้นหลายเท่าให้แก่กองทหารรับจ้าง ไม่นานข่าวลือนี่ก็ได้แพร่กระจายออกไป ทุกคนภายในรัศมีหนึ่งแสนกิโลเมตรล้วนทราบถึงเรื่องนี้

จากตอนนั้นกลุ่มทหารรับจ้างทุกกลุ่มรู้ว่ามีบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในป่าหมอกนั่นซึ่งทำให้เซียนสวรรค์หลายคนกลัว แม้ว่าจะมีกลุ่มทหารรับจ้างยังคงล่าสัตว์อสูรในป่านั่นอยู่แต่พวกเขาก็อยู่ที่บริเวณเขตนอกเท่านั้น ไม่มีใครกล้าเข้าไปลึกกว่านี้

นอกจากเซียนสวรรค์ที่เข้าไปในป่าแล้ว ไม่มีผู้ใดจินตนาการได้เลยว่าสิ่งที่หลบซ่อนอยู่ในส่วนลึกในป่าแห่งนี้จะเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ มีสิ่งก่อสร้างมากมายอยู่ที่นั่นแต่หมอกกลับไม่ปกคลุมนี่นั่นเลยแม้แต่นิดเดียว

ที่ใจกลางสิ่งก่อสร้างนั่นมีหอคอยที่สูงประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ชั้นแรกนั้นมีผู้อาวุโสหลายคนกำลังยิ้มและพูดคุยกัน ในกลุ่มนั้นมีผู้อาวุโสเฟิงและผู้อาวุโสหยุนจากตระกูลหวงอยู่ด้วย

“ผู้อาวุโสเฟิง, ผู้อาวุโสหยุน, เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นท่านออกมาจากตระกูลหวงของท่าน ทำไมท่านไม่อยู่ที่นี่สักพัก ? ” ผู้อาวุโสผมเรียบแปล้คนหนึ่งพูดขึ้น ผู้อาวุโสคนนี้สวมชุดสีขาวเหมือนกับว่าเป็นบัณฑิต

“ท่านเจี้ยง เราทั้งสองคนนั้นมาที่นี่เพราะมีเหตุผล ครั้งนี้มีเรื่องสำคัญ” ผู้อาวุโสเฟยพูดขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้าซับซ้อน เพราะเขารู้ว่าสิ่งที่เขาจะพูดนั้นค่อนข้างน่าอาย

“ฮ่าฮ่า เรื่องอะไรกันที่ทำให้ท่านทั้งสองต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง ? รึว่าตระกูลหงฝูได้ทำสิ่งใด ? ” หัวหน้าตระกูลหวงกู่ถามขึ้น

ผู้อาวุโสเฟิงส่ายหน้าก่อนจะเอาจดหมายออกจากแหวนมิติและส่งไปให้หัวหน้าตระกูล “ท่านเจี้ยง โปรดดูนี่”

หัวหน้าตระกูลหวงกู่รับจดหมายและเปิดมันออก เมื่อเขาเห็นข้อความในจดหมาย รอยยิ้มบนใบหน้าที่มีก่อนหน้านี้ได้หายไปและแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ตระกูลหวงของเจ้าตัดสินใจยกเลิกการหมั้นงั้นหรือ ? ผู้อาวุโสเฟิง, ผู้อาวุโสหยุน นี่ตระกูลหวงของเจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน ? “

ผู้อาวุโสทั้งสองยิ้มขออภัยออกมาพร้อมกับป้องมือ “ท่านเจี้ยง โปรดสงบสติอารมณ์ก่อน นี่เป็นการตัดสินใจของบรรพชนของเราเอง”

เมื่อได้ยินคำที่พูดถึงบรรพชน ใบหน้าของใต้เท้าเจี้ยงก็ได้จริงจังยิ่งกว่าเดิม เขาโยนจดหมายไปที่โต๊ะพร้อมกับพูดขึ้นในขณะที่ยังแสดงสีหน้าซับซ้อน “ผู้อาวุโส บรรพชนของเจ้าต้องการจะบอกสิ่งใด! การหมั้นนี่เป็นสิ่งที่เขาเสนอขึ้นมาเอง และตอนนี้เขากลับจะยกเลิกมัน นี่เขาเห็นตระกูลหวงกู่ของข้าเป็นของเล่นงั้นหรือ ? “

“ท่านเจี้ยง พวกเราขออภัย นี่ยังเป็นเรื่องของผู้เยาว์ของเรานั้นต้องการ ดังนั้นตระกูลหวงกู่เองก็ไม่ได้หวังจะทำลายความหวังของเธอ ถ้าการยกเลิกการหมั้นนี่ทำให้ตระกูลหวงกู่ไม่พอใจ โปรดอภัยให้พวกเราด้วย” ผู้อาวุโสหยุนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนออกมา

“ฮึ่ม คุณชายผู้ใดกันที่ทำให้คุณหนูของเจ้าตกหลุมรัก จนต้องให้บรรพชนของเจ้ามายกเลิกการหมั้น ? ” หัวหน้าตระกูลหวงกู่ถามขึ้น

“คุณชายที่คุณหนูของเราชมชอบนั้นคือผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง” ผู้อาวุโสเฟิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย หัวใจของเขาเต้นรัวเมื่อได้เห็นท่าทีที่หัวหน้าตระกูลหวงกู่แสดงออกมา

เมื่อได้ยินว่าพูดถึงผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรฉินหวง ใบหน้าของชายคนนั้นก็แสดงความกลัวออกมา จากนั้นเขาก็ได้ยิ้มแบบเยือกเย็นออกมา “อย่างงั้นหรือ ตอนนี้ตระกูลหวงของเจ้าได้พบต้นไม้ที่เรียกว่าอาณาจักรฉินหวงให้ปีนป่ายแล้ว เมื่อมีอาณาจักรฉินหวง ตระกูลหวงของเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องกลัวตระกูลหงฝูอีกต่อไป” มีความหงุดหงิดเกิดขึ้นเล็กน้อยในหัวใจของท่านผู้นี้ เด็กสาวหวงหลวนผู้นี้มีพรสวรรค์สูงส่ง ด้วยอายุแค่เพียง 20 ปี นางก็เข้าถึงระดับเซียนปฐพี นี่เป็นสิ่งที่ตระกูลหวงกู่ต้องการมากที่สุด พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะเอานางเข้ามาในตระกูลพวกเขา แต่ตระกูลหวงกลับตอบปฏิเสธพวกเขาได้

ในที่สุดหลังจากนั้นครึ่งปีตระกูลหงฝูก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากซึ่งการเปลี่ยนแปลงนั้นก่อให้เกิดความกดดันแก่ตระกูลหวง พวกตระกูลหวงได้พยายามอย่างมากที่จะเชื่อมความสัมพันธ์กับตระกูลหวงกู่ผ่านการแต่งงานเพื่อที่จะใช้อำนาจนั้นต่อกรกับตระกูลหงฝู

จุดประสงค์แบบนี้เป็นสิ่งที่ตระกูลหวงกู่ยินดีรับไว้อยู่แล้ว ถ้าตระกูลหวงกู่เข้าร่วมกับตระกูลหวงแล้ว พวกเขาจะรวมพลังกันต่อกรกับตระกูลหงฝูและไล่พวกเขาออกไป ถ้าเป็นแบบนั้นถ้ามีการต่อสู้เกิดขึ้นด้วยการที่ทั้งสองฝ่ายนั้นมีความแข็งแกร่งเท่ากัน การปะทะนั้นก็จะทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมาก ซึ่งไม่มีทางที่ตระกูลหงฝูจะกล้าเสี่ยงในเรื่องนี้

อาจพูดได้ว่าการแต่งงานของตระกูลหวงและตระกูลหวงกู่นั้นมีไว้เพื่อเพิ่มกำลังทางกองทหารเพื่อต่อการกับตระกูลหงฝู ด้วยเหตุผลนั้นตระกูลหวงกู่ก็ยินดีที่จะยอมรับการแต่งงานนี่ ตอนนี้ตระกูลหวงกลับตัดสินใจยกเลิกการแต่งงาน นั่นทำให้หัวหน้าตระกูลหวงกู่นั้นผิดหวังเป็นอย่างมาก พวกเขาได้ตีค่าหวงหลวนไว้ค่อนข้างสูง และผู้ที่จะทำการแต่งงานกับนางเองนั้นก็เป็นลูกชายสุดที่รักของท่านเจี้ยง ไม่มีทางเลยที่เขาจะไม่โกรธในเรื่องนี้

“ผู้อาวุโส โปรดอย่าโทษตัวเอง ข้าจะนำเรื่องนี้ไปบอกแก่บรรพชนของข้าและเขาอาจจะไปพูดเหตุผลกับบรรพชนของท่านเอง” ท่านเจี้ยงผายมือออกด้วยท่าทีอย่างจักรพรรดิขับไล่บุคคลภายนอก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+