Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 552

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 552 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 552: กลุ่มทหารจากเมืองเทียนหลง

ลมพายุหมุนแพร่ผ่านท้องฟ้า มันเป็นเมฆ ก่อนที่จะเปิดท้องฟ้า กลายเป็นทะเลเมฆปกคลุมทั้งเมืองเวค ขณะที่คลื่นลมพัดแรงมากขึ้น เตะฝุ่นทั้งหมดใกล้ตัวเมือง ฝุ่นปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ ทำให้ทุกสายตาพร่ามัว

ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์นั้นแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้ท้องฟ้าปั่นป่วนและเปลี่ยนแปลง แต่ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีนั้นอ่อนกำลังกว่าทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ความแข็งแกร่งของหมิงตงนั้นคือเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 มันมากพอที่จะทำให้สายตาของทุกคนทั้งเมืองเวคนั้นพร่ามัวไปเกือบครึ่งหนึ่ง

ลมพายุหมุนขนาดใหม่ที่อยู่ด้านหลังของเมืองเวคและพัดอยู่ในหมู่ฝูงชน หลายคนก็สะดุ้งขึ้นและสายตาของพวกเขาถูกตรึงอย่างฉับพลัน หลายคนนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ความกลัวมันมีมากกว่านั้น

ทุกคน ดู ดูที่จำนวนทหารที่ถูกส่งให้บิน โดยพายุหมุนนั่น… หนึ่งในนั้นร้องออกมาจากขณะแหงนหน้าขึ้นไปด้านบนของพวกเขา

แหงนใบหน้าจ้องมองด้วยความชื่นชมเป็นอย่างมาก ทุกคนที่สังเกตเห็น พอที่จะแน่ใจว่า ทหารมากมายถูกส่งให้บินอยู่ในพายุหมุนโดยที่ไม่ตกลงบนพื้น

ถ้าข้าไม่เข้าใจผิด นั้นเป็นทหารที่ปกป้องเมืองของเรา

เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมพายุหมุนนี้จึงปรากฏขึ้นและทำไมมันไม่เคลื่อนไหวเลย ?

มันเป็นทักษะการต่อสู้อย่างแน่นอน ! สวรรค์ นี่จะต้องเป็นทักษะการต่อสู้ระดับสูง ข้าเคยได้ยินว่าเมื่อมีคนใช้ทักษะการต่อสู้ที่มีระดับสูงขึ้น พวกมันสามารถเขย่าสวรรค์ได้ด้วยตัวของมันเอง ! ดูจากฉากนี้ มันเป็นคล้ายกับข่าวลือที่กล่าวขานกัน

เช่นนั้นแล้ว มันคงจะเป็นทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีเป็นอย่างน้อยหรือไม่ก็ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ทว่ามันเป็นเพียงแค่ตำนาน ตั้งแต่เมื่อใดกันที่เมืองเวคของเรามีคนถึงระดับนั้น…

ที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ข้าได้ยินว่าพวกเขาเอาท่านเจ้าเมืองมาเป็นเชลย ในยามนี้ยอดฝีมือของทั้งสองฝ่ายมีการต่อสู้กัน แต่มันไม่เคยมีทักษะการต่อสู้ มันจะต้องมีการต่อสู้แข็งแกร่งต่อจากนี้ เราควรจะดูการต่อสู้นี้ เป็นเพียงครั้งเดียวในชีวิตที่เราไม่อาจจะพลาดมันไปได้”

เร็ว ลองดู การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือนั้นนั้นหาได้ยาก เราไม่ควรพลาดโอกาสนี้

ถนนเต็มไปด้วยผู้คน พวกเขาทะยานออกอย่างรวดเร็ว พวกเขามุ่งหน้าไปสถานที่นั้น ทหารรับจ้างและชาวบ้านพยายามอย่างมากเพื่อมองดูการต่อสู้

ในลาน เต้าหลี ผู้บัญชาการและทหารของเขา ได้ถอยทัพมากเท่าที่จะทำให้ ด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงไปกับพายุที่ด้านหน้าของพวกเขา

ไคเอ้อ ฉิงเฟิง ชาร์คัส และโม่เทียน ได้แต่ตกตะลึงในทักษะการต่อสู้ของหมิงตง พวกเขารู้สึกชื่นชมเขาจากก้นบึ้งหัวใจของพวกเขา แม้กระทั่งในดวงตาของเขาก็มีร่องรอยชื่นชมอย่างที่ไม่อาจปกปิด

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เต้าหลีพ่นลมหายใจออกคราหนึ่ง เพื่อเรียกคืนความสงบของตัวเอง และไม่อาจช่วยอะไรได้ ได้แต่พยายามคิด “ใครจะคิดกันว่า ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่หัวหน้าทหารรับจ้างอัคนีได้จากไป เขาก็สามารถดึงเซียนปฐพีเข้ามาเป็นผู้ดูแลกลุ่ม มันไม่มีผู้ใดที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้ในเมืองเวค มันปรากฏว่า ด้วยความแข็งแกร่งของข้าคนเดียวนั้นไม่อาจที่จะช่วยเหลือท่านเจ้าเมือง”

อย่างไม่ลังเลใจ เต้าหลีตะโกนด้วยเสียงอันดัง “เจี้ยนเฉิน เราพอจะเจรจาต่อรองกันได้หรือไม่ ? ข้าหวังว่าเจ้าจะแสดงความเมตตา อภัยแก่เหล่าทหาร”

หมิงตง หยุดมือของเจ้า และอย่าได้ทำอันตรายต่อชีวิตของทหารเหล่านี้ เจี้ยนเฉินออกคำสั่งต่อหมิงตง

หมิงตงค่อย ๆ เริ่มการยกเลิกการใช้ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี เจี้ยนเฉินควบคุมธาตุลมของโลก เขาเริ่มที่จะค่อย ๆ พาทหารที่ลอยขึ้นไปกลับลงไปพื้นดิน แม้กระทั่งหมิงตงที่ตั้งใจทำพายุหมุนของเขาอ่อนกำลัง ไม่ฆ่าทหารใด ๆ ทว่าพวกเขาทั้งหมดยังคงวิงเวียนและมีดวงตาที่พร่ามัว

ผู้บัญชาการเต้าหลี นำคนของเจ้าไป ปล่อยวางเรื่องราวของหยุนหลี ธุระนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ถ้าเจ้าไม่ฟัง ข้าจะไม่ปรานีเช่นตอนนี้ เจี้ยนเฉินกล่าว

ใบหน้าเต้าหลีเครียดอย่างรุนแรง เมื่อเขาได้ยินคำของเจี้ยนเฉิน แต่เขาไม่ได้กล่าวอะไร เขาป้องมือขึ้นก่อนจะถอนกำลังทหารของเขากลับไป เขารู้ตอนนี้ว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมีเซียนปฐพีและทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งเกินกว่าผู้ใด ดังนั้นเมืองเวคไม่อาจที่จะมีวิธีการวิธีการจัดการกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี

ด้วยใบหน้าที่ขาวซีดและเต็มไปด้วยฝุ่นที่เกาะ เต้าหลีและทหารของเขาออกจากลาน เพื่อกลับไปยังจวนเจ้าเมือง เป็นเต้าหลีที่เข้าไปในห้องของเขาเอง เขาตวัดพู่กันลงในกระดาษและเริ่มเขียนทันที นำข้อความของเขาเข้าไปในม้วนเล็ก แนบมันกับขาของนกสายฟ้าและปล่อยมันให้เป็นอิสระ สูงขึ้นผ่านอากาศ นกสายฟ้าโบยบินออกด้วยปีกสีขาวเงินและกลายเป็นสายฟ้าที่หายไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในขอบฟ้า

ครอบครัวไคที่เคยเป็นระเบียบ บางส่วนของผนังนั้นบุบเข้าไปเนื่องจากพายุหมุน ทหารรับจ้าง พ่อค้า ชาวบ้าน ผู้ที่มีตำแหน่งสำคัญ ต่างก็หวั่นกลัวที่จะเข้าใกล้กับเจ้าเมืองที่ยังคงคุกเข่าอยู่หน้าป้ายศพของเต้าคังตรงหน้าเขา

“ดูนั่น เขาจับเจ้าเมืองมัดกับเสา ไม่คิดเลยว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะกล้ากระทำต่อเจ้าเมืองเช่นนี้”

ทหารรับจ้างลักพาตัวท่านเจ้าเมือง นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก แต่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนั้นมีความแข็งแกร่งมากจนทหารในเมืองหมดหนทางจะทำอะไร

การกระทำของทหารรับจ้างอัคนีนี้เป็นการแตะเกล็ดย้อนของอาณาจักรวายุคราม ถึงแม้ว่าพวกเขาแข็งแกร่ง พวกเขาไม่สามารถต่อกรกับอาณาจักรทั้งหมด

หรือว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งซึ่งไม่กลัวอาณาจักรวายุคราม ?

ฝูงชนที่อยู่ด้านอกครอบครัวไคนั้นมีขนาดใหญ่และใหญ่ขึ้น เมื่อมีข่าวว่าเกิดอะไรขึ้นและแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ตระกูลไคและกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเติบโตขึ้นและมีชื่อเสียงในเมืองเวค สำหรับกลุ่มทหารรับจ้างที่ไปลักพาตัวเจ้าเมือง นี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอาณาจักรวายุคราม

“ไคเอ้อ เราจะละทิ้งการเดินทางไปที่เทือกเขาสัตว์อสูรในยามนี้ เฝ้าหยุนหลีและทำให้แน่ใจว่าเขาอยู่ที่ป้ายศพของเต้าคัง 7 วัน หลังจาก 7 วันผ่านไปให้จัดการกับเขา อย่าให้ใครเข้าใกล้เขาในขณะนี้” เจี้ยนเฉินสั่ง

ได้ หัวหน้า ทุกคนตอบด้วยความเคารพ เมื่อเจี้ยนเฉินเต็มใจที่จะประหารหยุนหลีที่สังหารเต้าคง ทุกคนภายในกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีต่างก็รู้สึกประทับใจ เจี้ยนเฉินได้รับทั้งความชื่นชมและความเคารพอีกครั้ง

2 ชั่วยามต่อมาในเมืองชั้นในที่ถูกเรียกว่าเมืองเทียนหลง เจ้าเมืองกำลังอ่านหนังสืออยู่เมื่อทหารยามเดินเข้ามาพร้อมกับจดหมายในมือ เมื่อส่งมอบและถอยกลับไป เจ้าเมืองหยิบจดหมายขึ้นและเปิดมัน เมื่อเขาอ่าน ใบหน้าของเขาเริ่มคล้ำลงเรื่อย ๆ ก่อนจะตบลงบนโต๊ะ และผุดลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ ไร้สาระ ไร้สาระจริง ๆ วิธีนี้ ทหารรับจ้างเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง ได้จับกุมตัวเจ้าเมือง สามัญสำนึกของพวกเขาอยู่ที่ไหน ? มันเป็นเรื่องไร้สาระอย่างแท้จริง พวกเจ้าเรียกคาตาต้า, คาตาเฟย และหยุนหลงให้มาพบกับข้า

คาตาต้า, คาตาเฟยและหยุนหลงมาถึงห้องทำงานอย่างรวดเร็ว แต่ละคนดูเหมือนจะอายุราว ๆ 40 ปี พวกเขาป้องมือขึ้น คาตาต้ากล่าวขึ้น ท่านเจ้าเมือง ท่านรีบร้อนเรียกเราสองพี่น้องมา มันเป็นเรื่องอันใดกัน ?

มันเป็นเรื่องไร้สาระ กลุ่มทหารรับจ้างเล็ก ๆ ได้ลักพาตัวเจ้าเมือง พวกเขาไม่ไว้หน้าของขุนนางอาณาจักรวายุครามเลย พวกเจ้ารีบไปที่เมืองเวค เจ้าเมืองพูดด้วยสีหน้าดุดัน การมีกลุ่มทหารรับจ้างที่กล้าลักพาตัวเจ้าเมือง มันเป็นบางสิ่งที่ไม่อาจทนได้

ขอรับ ท่านเจ้าเมือง ทั้งสามคนตอบก่อน

ภายในครอบครัวไค หมิงตงและเจี้ยนเฉินได้ออกไปยังห้องพักส่วนที่เหลือ พวกเขามอบส่วนที่เหลือของเรื่องให้ไคเอ้อและคนอื่น ๆ จัดการกับมัน

เจี้ยนเฉิน หยุนหลียังคงเป็นเจ้าเมือง หากเจ้าฆ่าเขามันจะเป็นอันตราย นี่คืออาณาจักรวายุครามไม่ใช่อาณาจักรเกอซุน เถี่ยต้าเอ่ยขึ้นมาด้วยความกังวล แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นเซียนสวรรค์ แต่ทว่าการเป็นศัตรูกับทั้งอาณาจักรวายุครามนี้ มันเป็นบางอย่างที่ร้ายแรงมากในสายตาของเถี่ยต้า ไม่มีทางที่จะสามารถปกป้องตัวเองได้ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเอง

เจี้ยนเฉินหัวเราะเบา ๆ เถี่ยต้า ข้าคำนึงถึงสิ่งที่ตามมาเสมอ อาณาจักรวายุครามมีอะไรต้องกลัว เราต้องกังวลมากกว่า ถ้าหากเราสูญเสียเส้นทางของการพัฒนาของเรา

เถี่ยต้า เจ้าต้องการความกล้าบางอย่างในตัวเจ้า อย่าลังเลที่จะรับคำชมจากรอบข้าง ดูพวกเราสิ ไม่เห็นมีความกังวลเลยสักคน ดังนั้นทำไมเจ้าต้องกังวลเล่า ? เจ้าเพิ่งเริ่มต้นการเดินทางในทวีปเทียนหยวน มันยังคงมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายให้เจ้าเรียนรู้ หมิงตงกล่าวเสริม

เห็นการปลอบความกังวล เถี่ยต้าไม่สามารถช่วยอะไรได้ ได้แต่รู้สึกกังวลเล็กน้อย โอ้ ดีแล้ว ข้าจะทำตามเจ้าโดยปราศจากคำถามใด ๆ

ในวันถัดไป นอกเมืองเวค ทหารสวมชุดเกราะกลุ่มเดียวอาจจะเห็นทะยานลงถนนที่ความเร็วสูงบนม้าอสูรของพวกเขา หลังจากการต้อนรับของเต้าหลี และทหารของเขาเริ่มการพูดคุยกับคนอื่น

หลังจากการเจรจาผ่าน กองของทหารย้ายไปเมืองเวคทันที และมุ่งไปยังบ้านของครอบครัวไค

ประมาณหนึ่งถ้วยน้ำชาหลังจากนั้น ไคเอ้อเดินเข้ามาในห้องของเจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าที่น่ากลัว หัวหน้า คนจากเมืองเทียนหลงได้มาถึงแล้ว ณ บัดนี้

ข้ารู้ เจ้าออกไปได้ อาจจะได้ยินเสียงของเจี้ยนเฉินจากภายในได้

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 552

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 552 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 552: กลุ่มทหารจากเมืองเทียนหลง

ลมพายุหมุนแพร่ผ่านท้องฟ้า มันเป็นเมฆ ก่อนที่จะเปิดท้องฟ้า กลายเป็นทะเลเมฆปกคลุมทั้งเมืองเวค ขณะที่คลื่นลมพัดแรงมากขึ้น เตะฝุ่นทั้งหมดใกล้ตัวเมือง ฝุ่นปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ ทำให้ทุกสายตาพร่ามัว

ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์นั้นแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้ท้องฟ้าปั่นป่วนและเปลี่ยนแปลง แต่ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีนั้นอ่อนกำลังกว่าทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ความแข็งแกร่งของหมิงตงนั้นคือเซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 มันมากพอที่จะทำให้สายตาของทุกคนทั้งเมืองเวคนั้นพร่ามัวไปเกือบครึ่งหนึ่ง

ลมพายุหมุนขนาดใหม่ที่อยู่ด้านหลังของเมืองเวคและพัดอยู่ในหมู่ฝูงชน หลายคนก็สะดุ้งขึ้นและสายตาของพวกเขาถูกตรึงอย่างฉับพลัน หลายคนนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ความกลัวมันมีมากกว่านั้น

ทุกคน ดู ดูที่จำนวนทหารที่ถูกส่งให้บิน โดยพายุหมุนนั่น… หนึ่งในนั้นร้องออกมาจากขณะแหงนหน้าขึ้นไปด้านบนของพวกเขา

แหงนใบหน้าจ้องมองด้วยความชื่นชมเป็นอย่างมาก ทุกคนที่สังเกตเห็น พอที่จะแน่ใจว่า ทหารมากมายถูกส่งให้บินอยู่ในพายุหมุนโดยที่ไม่ตกลงบนพื้น

ถ้าข้าไม่เข้าใจผิด นั้นเป็นทหารที่ปกป้องเมืองของเรา

เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมพายุหมุนนี้จึงปรากฏขึ้นและทำไมมันไม่เคลื่อนไหวเลย ?

มันเป็นทักษะการต่อสู้อย่างแน่นอน ! สวรรค์ นี่จะต้องเป็นทักษะการต่อสู้ระดับสูง ข้าเคยได้ยินว่าเมื่อมีคนใช้ทักษะการต่อสู้ที่มีระดับสูงขึ้น พวกมันสามารถเขย่าสวรรค์ได้ด้วยตัวของมันเอง ! ดูจากฉากนี้ มันเป็นคล้ายกับข่าวลือที่กล่าวขานกัน

เช่นนั้นแล้ว มันคงจะเป็นทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีเป็นอย่างน้อยหรือไม่ก็ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ ทว่ามันเป็นเพียงแค่ตำนาน ตั้งแต่เมื่อใดกันที่เมืองเวคของเรามีคนถึงระดับนั้น…

ที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ข้าได้ยินว่าพวกเขาเอาท่านเจ้าเมืองมาเป็นเชลย ในยามนี้ยอดฝีมือของทั้งสองฝ่ายมีการต่อสู้กัน แต่มันไม่เคยมีทักษะการต่อสู้ มันจะต้องมีการต่อสู้แข็งแกร่งต่อจากนี้ เราควรจะดูการต่อสู้นี้ เป็นเพียงครั้งเดียวในชีวิตที่เราไม่อาจจะพลาดมันไปได้”

เร็ว ลองดู การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือนั้นนั้นหาได้ยาก เราไม่ควรพลาดโอกาสนี้

ถนนเต็มไปด้วยผู้คน พวกเขาทะยานออกอย่างรวดเร็ว พวกเขามุ่งหน้าไปสถานที่นั้น ทหารรับจ้างและชาวบ้านพยายามอย่างมากเพื่อมองดูการต่อสู้

ในลาน เต้าหลี ผู้บัญชาการและทหารของเขา ได้ถอยทัพมากเท่าที่จะทำให้ ด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงไปกับพายุที่ด้านหน้าของพวกเขา

ไคเอ้อ ฉิงเฟิง ชาร์คัส และโม่เทียน ได้แต่ตกตะลึงในทักษะการต่อสู้ของหมิงตง พวกเขารู้สึกชื่นชมเขาจากก้นบึ้งหัวใจของพวกเขา แม้กระทั่งในดวงตาของเขาก็มีร่องรอยชื่นชมอย่างที่ไม่อาจปกปิด

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เต้าหลีพ่นลมหายใจออกคราหนึ่ง เพื่อเรียกคืนความสงบของตัวเอง และไม่อาจช่วยอะไรได้ ได้แต่พยายามคิด “ใครจะคิดกันว่า ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่หัวหน้าทหารรับจ้างอัคนีได้จากไป เขาก็สามารถดึงเซียนปฐพีเข้ามาเป็นผู้ดูแลกลุ่ม มันไม่มีผู้ใดที่จะสามารถต่อกรกับเขาได้ในเมืองเวค มันปรากฏว่า ด้วยความแข็งแกร่งของข้าคนเดียวนั้นไม่อาจที่จะช่วยเหลือท่านเจ้าเมือง”

อย่างไม่ลังเลใจ เต้าหลีตะโกนด้วยเสียงอันดัง “เจี้ยนเฉิน เราพอจะเจรจาต่อรองกันได้หรือไม่ ? ข้าหวังว่าเจ้าจะแสดงความเมตตา อภัยแก่เหล่าทหาร”

หมิงตง หยุดมือของเจ้า และอย่าได้ทำอันตรายต่อชีวิตของทหารเหล่านี้ เจี้ยนเฉินออกคำสั่งต่อหมิงตง

หมิงตงค่อย ๆ เริ่มการยกเลิกการใช้ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี เจี้ยนเฉินควบคุมธาตุลมของโลก เขาเริ่มที่จะค่อย ๆ พาทหารที่ลอยขึ้นไปกลับลงไปพื้นดิน แม้กระทั่งหมิงตงที่ตั้งใจทำพายุหมุนของเขาอ่อนกำลัง ไม่ฆ่าทหารใด ๆ ทว่าพวกเขาทั้งหมดยังคงวิงเวียนและมีดวงตาที่พร่ามัว

ผู้บัญชาการเต้าหลี นำคนของเจ้าไป ปล่อยวางเรื่องราวของหยุนหลี ธุระนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ถ้าเจ้าไม่ฟัง ข้าจะไม่ปรานีเช่นตอนนี้ เจี้ยนเฉินกล่าว

ใบหน้าเต้าหลีเครียดอย่างรุนแรง เมื่อเขาได้ยินคำของเจี้ยนเฉิน แต่เขาไม่ได้กล่าวอะไร เขาป้องมือขึ้นก่อนจะถอนกำลังทหารของเขากลับไป เขารู้ตอนนี้ว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมีเซียนปฐพีและทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งเกินกว่าผู้ใด ดังนั้นเมืองเวคไม่อาจที่จะมีวิธีการวิธีการจัดการกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี

ด้วยใบหน้าที่ขาวซีดและเต็มไปด้วยฝุ่นที่เกาะ เต้าหลีและทหารของเขาออกจากลาน เพื่อกลับไปยังจวนเจ้าเมือง เป็นเต้าหลีที่เข้าไปในห้องของเขาเอง เขาตวัดพู่กันลงในกระดาษและเริ่มเขียนทันที นำข้อความของเขาเข้าไปในม้วนเล็ก แนบมันกับขาของนกสายฟ้าและปล่อยมันให้เป็นอิสระ สูงขึ้นผ่านอากาศ นกสายฟ้าโบยบินออกด้วยปีกสีขาวเงินและกลายเป็นสายฟ้าที่หายไปอย่างรวดเร็วเข้าไปในขอบฟ้า

ครอบครัวไคที่เคยเป็นระเบียบ บางส่วนของผนังนั้นบุบเข้าไปเนื่องจากพายุหมุน ทหารรับจ้าง พ่อค้า ชาวบ้าน ผู้ที่มีตำแหน่งสำคัญ ต่างก็หวั่นกลัวที่จะเข้าใกล้กับเจ้าเมืองที่ยังคงคุกเข่าอยู่หน้าป้ายศพของเต้าคังตรงหน้าเขา

“ดูนั่น เขาจับเจ้าเมืองมัดกับเสา ไม่คิดเลยว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะกล้ากระทำต่อเจ้าเมืองเช่นนี้”

ทหารรับจ้างลักพาตัวท่านเจ้าเมือง นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก แต่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนั้นมีความแข็งแกร่งมากจนทหารในเมืองหมดหนทางจะทำอะไร

การกระทำของทหารรับจ้างอัคนีนี้เป็นการแตะเกล็ดย้อนของอาณาจักรวายุคราม ถึงแม้ว่าพวกเขาแข็งแกร่ง พวกเขาไม่สามารถต่อกรกับอาณาจักรทั้งหมด

หรือว่ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนีมีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งซึ่งไม่กลัวอาณาจักรวายุคราม ?

ฝูงชนที่อยู่ด้านอกครอบครัวไคนั้นมีขนาดใหญ่และใหญ่ขึ้น เมื่อมีข่าวว่าเกิดอะไรขึ้นและแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ตระกูลไคและกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีเติบโตขึ้นและมีชื่อเสียงในเมืองเวค สำหรับกลุ่มทหารรับจ้างที่ไปลักพาตัวเจ้าเมือง นี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอาณาจักรวายุคราม

“ไคเอ้อ เราจะละทิ้งการเดินทางไปที่เทือกเขาสัตว์อสูรในยามนี้ เฝ้าหยุนหลีและทำให้แน่ใจว่าเขาอยู่ที่ป้ายศพของเต้าคัง 7 วัน หลังจาก 7 วันผ่านไปให้จัดการกับเขา อย่าให้ใครเข้าใกล้เขาในขณะนี้” เจี้ยนเฉินสั่ง

ได้ หัวหน้า ทุกคนตอบด้วยความเคารพ เมื่อเจี้ยนเฉินเต็มใจที่จะประหารหยุนหลีที่สังหารเต้าคง ทุกคนภายในกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีต่างก็รู้สึกประทับใจ เจี้ยนเฉินได้รับทั้งความชื่นชมและความเคารพอีกครั้ง

2 ชั่วยามต่อมาในเมืองชั้นในที่ถูกเรียกว่าเมืองเทียนหลง เจ้าเมืองกำลังอ่านหนังสืออยู่เมื่อทหารยามเดินเข้ามาพร้อมกับจดหมายในมือ เมื่อส่งมอบและถอยกลับไป เจ้าเมืองหยิบจดหมายขึ้นและเปิดมัน เมื่อเขาอ่าน ใบหน้าของเขาเริ่มคล้ำลงเรื่อย ๆ ก่อนจะตบลงบนโต๊ะ และผุดลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ ไร้สาระ ไร้สาระจริง ๆ วิธีนี้ ทหารรับจ้างเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง ได้จับกุมตัวเจ้าเมือง สามัญสำนึกของพวกเขาอยู่ที่ไหน ? มันเป็นเรื่องไร้สาระอย่างแท้จริง พวกเจ้าเรียกคาตาต้า, คาตาเฟย และหยุนหลงให้มาพบกับข้า

คาตาต้า, คาตาเฟยและหยุนหลงมาถึงห้องทำงานอย่างรวดเร็ว แต่ละคนดูเหมือนจะอายุราว ๆ 40 ปี พวกเขาป้องมือขึ้น คาตาต้ากล่าวขึ้น ท่านเจ้าเมือง ท่านรีบร้อนเรียกเราสองพี่น้องมา มันเป็นเรื่องอันใดกัน ?

มันเป็นเรื่องไร้สาระ กลุ่มทหารรับจ้างเล็ก ๆ ได้ลักพาตัวเจ้าเมือง พวกเขาไม่ไว้หน้าของขุนนางอาณาจักรวายุครามเลย พวกเจ้ารีบไปที่เมืองเวค เจ้าเมืองพูดด้วยสีหน้าดุดัน การมีกลุ่มทหารรับจ้างที่กล้าลักพาตัวเจ้าเมือง มันเป็นบางสิ่งที่ไม่อาจทนได้

ขอรับ ท่านเจ้าเมือง ทั้งสามคนตอบก่อน

ภายในครอบครัวไค หมิงตงและเจี้ยนเฉินได้ออกไปยังห้องพักส่วนที่เหลือ พวกเขามอบส่วนที่เหลือของเรื่องให้ไคเอ้อและคนอื่น ๆ จัดการกับมัน

เจี้ยนเฉิน หยุนหลียังคงเป็นเจ้าเมือง หากเจ้าฆ่าเขามันจะเป็นอันตราย นี่คืออาณาจักรวายุครามไม่ใช่อาณาจักรเกอซุน เถี่ยต้าเอ่ยขึ้นมาด้วยความกังวล แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นเซียนสวรรค์ แต่ทว่าการเป็นศัตรูกับทั้งอาณาจักรวายุครามนี้ มันเป็นบางอย่างที่ร้ายแรงมากในสายตาของเถี่ยต้า ไม่มีทางที่จะสามารถปกป้องตัวเองได้ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเอง

เจี้ยนเฉินหัวเราะเบา ๆ เถี่ยต้า ข้าคำนึงถึงสิ่งที่ตามมาเสมอ อาณาจักรวายุครามมีอะไรต้องกลัว เราต้องกังวลมากกว่า ถ้าหากเราสูญเสียเส้นทางของการพัฒนาของเรา

เถี่ยต้า เจ้าต้องการความกล้าบางอย่างในตัวเจ้า อย่าลังเลที่จะรับคำชมจากรอบข้าง ดูพวกเราสิ ไม่เห็นมีความกังวลเลยสักคน ดังนั้นทำไมเจ้าต้องกังวลเล่า ? เจ้าเพิ่งเริ่มต้นการเดินทางในทวีปเทียนหยวน มันยังคงมีสิ่งต่าง ๆ อีกมากมายให้เจ้าเรียนรู้ หมิงตงกล่าวเสริม

เห็นการปลอบความกังวล เถี่ยต้าไม่สามารถช่วยอะไรได้ ได้แต่รู้สึกกังวลเล็กน้อย โอ้ ดีแล้ว ข้าจะทำตามเจ้าโดยปราศจากคำถามใด ๆ

ในวันถัดไป นอกเมืองเวค ทหารสวมชุดเกราะกลุ่มเดียวอาจจะเห็นทะยานลงถนนที่ความเร็วสูงบนม้าอสูรของพวกเขา หลังจากการต้อนรับของเต้าหลี และทหารของเขาเริ่มการพูดคุยกับคนอื่น

หลังจากการเจรจาผ่าน กองของทหารย้ายไปเมืองเวคทันที และมุ่งไปยังบ้านของครอบครัวไค

ประมาณหนึ่งถ้วยน้ำชาหลังจากนั้น ไคเอ้อเดินเข้ามาในห้องของเจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าที่น่ากลัว หัวหน้า คนจากเมืองเทียนหลงได้มาถึงแล้ว ณ บัดนี้

ข้ารู้ เจ้าออกไปได้ อาจจะได้ยินเสียงของเจี้ยนเฉินจากภายในได้

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+