Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 744: ความแข็งแกร่งของกระบี่แห่งการพิพากษา

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 744: ความแข็งแกร่งของกระบี่แห่งการพิพากษา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 744: ความแข็งแกร่งของกระบี่แห่งการพิพากษา

“อะไรกัน ! ? กระบี่แห่งการพิพากษา ! ? นั่นเป็นหนึ่งในสามสุดยอดทักษะธาตุแสงของระดับ 7 กระบี่แห่งการพิพากษา ! ? ” ผู้คนจากตระกูลทั้งแปดต่างพากันตกตะลึงและจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างเหลือเชื่อ

“เป็นไปไม่ได้ ! หยางยู่เทียนเพิ่งจะเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 เท่านั้น! เขาเข้าถึงคู่มือลับเพื่อฝึกฝนกระบี่แห่งการพิพากษาได้อย่างไร ? ข้าได้ยินมาว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอ่านมันถ้ายังไม่เป็นระดับ 7 และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกด้วย ! “

“หยางยู่เทียนต้องกำลังหลอกพวกมันอยู่เป็นแน่ มันเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะร่ายหนึ่งในสามสุดยอดทักษะธาตุแสง กระบี่แห่งการพิพากษา”

เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 จากตระกูลทั้งแปดทั้งหมดพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน พวกนั้นส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะใช้กระบี่แห่งการพิพากษาได้จริง ๆ

“เป็นไปไม่ได้ นี่มันก็ผ่านมาซักพักแล้วและน้องหยางยู่เทียนก็สามารถใช้ทักษะธาตุแสงที่สุดยอดทั้งสามได้อีกด้วย หรือว่าเขาจะไม่ใช่ระดับ 6 แต่เป็นระดับ 7 ? ” กวานหยูไค่ที่ซ่อนตัวอยู่ในเรือได้ชะโงกหัวออกมาและจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉิน

ในตอนนี้เอง แสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้าไกล ๆ ส่องแสงสว่างท่ามกลางท้องฟ้าสีดำสนิท มันทำให้เกิดภาพแปลก ๆ ซึ่งทำให้คนจำนวนมากที่อยู่บนฝั่งแม่น้ำไกล ๆ สนใจ สำแสงสีขาวนั้นคือพลังเซียนธาตุแสงซึ่งกำลังพุ่งรวมกันมาที่เจี้ยนเฉินจากที่ซึ่งอยู่ไกล 5 กิโลเมตรออกไป

เจี้ยนเฉินชี้ไปบนท้องฟ้าด้วยนิ้วนิ้วหนึ่งของเขา พลังเซียนธาตุแสงจำนวนมากได้มารวมตัวกันอย่างรวดเร็วที่ปลายนิ้วของเขาและไม่นานหลังจากนั้นมันก็ควบรวมเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สีเงินยาว 10 เมตร กระบี่นั้นส่องแสงจ้า อาบทั่วบริเวณให้เป็นสีขาวเหมือนหิมะ

นอกจากนั้นกระบี่ยังมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งทำให้บริเวณรอบ ๆ รู้สึกอึดอัด แม้กระทั่งเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ที่อยู่ต่อหน้าความกดดันนี้ยังยากที่จะหายใจ

เจี้ยนเฉินยืนตรงอยู่ที่ดาดฟ้าของเรือภายใต้กระบี่สีเงินนั้น เขาดูเหมือนเทพเจ้าที่ยืนอยู่ระหว่างพื้นดินและสวรรค์ ท่าทีที่เย็นชาและสายตาที่แหลมคมของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรงเหมือนกับว่าเขาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สามารถโจมตีได้

“นี่ นี่ นี่มันคือ กระบี่แห่งการพิพากษาจริง ๆ ! ” เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงของตระกูลทั้งแปดร้องออกออกด้วยเสียงสั่นเทา

“ไม่ใช่ นี่ยังไม่ใช่กระบี่แห่งการพิพากษาที่แม้จริง กระบี่แห่งการพิพากษาที่แท้จริงนั้นทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มากกว่านี้อีกหลายเท่า แม้ว่าหยางยู่เทียนจะร่ายกระบี่แห่งการพิพากษาออกมา แต่มันก็ยังห่างไกลจากกระบี่แห่งการพิพากษาที่แท้จริง” หัวหน้าฮัวพูดเสียงทุ้ม แม้ว่ากระบี่แห่งการพิพากษาซึ่งถูกร่ายออกมาโดยเจี้ยนเฉินจะห่างไกลจากทักษะที่แท้จริงในด้านของความแข็งแกร่ง แต่มันก็หาใดเปรียบได้ในสายตาของพวกเขา

ท่าทีของนักฆ่าที่อยู่รอบ ๆ เจี้ยนเฉินน่ากลัวขึ้นทันที พวกเขาร้องออกมา “แย่แล้ว นี่เป็นหนึ่งในสามของทักษะธาตุแสงที่สุดยอด กระบี่แห่งการพิพากษา มันสามารถสังหารได้แม้กระทั่งเซียนผู้คุมกฎ ถอยก่อน จะถูกมันโจมดีไม่ได้ ไม่มีใครสามารถหลบมันได้โดยยังมีชีวิตรอด”

เมื่อได้ยินดังนั้น นักฆ่าโดยรอบก็กระจายตัวออกไปทันที และบินหนีออกไปไกล

ทันใดนั้น เจี้ยนเฉินก็เหวี่ยงมือของเขา กระบี่ที่ควบรวมหนาแน่นที่มือของเขาได้เปลี่ยนเป็นลำแสงสีเงินขาวและพุ่งออกไปหานักฆ่าที่หนีได้ช้ากว่าเพื่อนที่ข้างหลังของมันด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าฟาด

กระบี่นั้นรวดเร็วมากจนไม่ปล่อยให้นักฆ่าหนีไปได้ มันผ่านตัวของพวกเขาไป แต่จุดที่มันผ่านตัวไปนั้นไม่ได้มีแผลอะไรร้ายแรง อย่างไรก็ตาม กระบี่นั้นเป็นกระบี่แห่งการพิพากษา หนึ่งในสามสุดยอดทักษะธาตุแสง ดังนั้นมันจึงมีพลังอย่างมหาศาลและสังหารพวกนักฆ่าจนตายในทันที

ตาของเจี้ยนเฉินเห็นการระเบิดเป็นแสงแวบขึ้นมา เหมือนตะเกียงสองอันที่อยู่ในท้องฟ้าที่มืดสลัว ในตอนนั้น พลังของเขาสร้างพันธะกับกระบี่แห่งการพิพากษาได้รุนแรงอย่างน่ามหัศจรรย์ หลังจากที่กระบี่สังหารนักฆ่าไปแล้ว มันก็ไล่ตามชายชุดดำคนอื่นอยู่ตามการควบคุมของเจี้ยนเฉิน

ด้วยความเร็วของกระบี่แห่งการพิพากษา มันได้ฆ่านักฆ่าไปอีก 3 คนในพริบตาเดียว หลังจากนั้นมันก็ยังคงไล่ตามคนอื่นต่อโดยไม่มีทีท่าว่าจะลดความเร็วลง

“ไม่ใช่ นี่มันไม่ใช่กระบี่แห่งการพิพากษาที่แท้จริง พลังของกระบี่แห่งการพิพากษาที่แท้จริงไม่ได้มีแค่นี้ ยังไงก็เถอะ ในเมื่อเราหนีมันไม่ได้แล้ว เราน่าจะร่วมมือกันแล้วร่ายทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์พร้อมกันเพื่อกำจัดกระบี่แห่งการพิพากษาที่ไม่สมบูรณ์นั่นซะ” นักฆ่าเข้าใจทักษะธาตุแสงอย่างแจ่มชัดแล้ว ดังนั้นเขาจึงร้องออกมาและพยายามที่จะช่วยเพื่อนของเขา

นักฆ่าที่เหลืออยู่สองสามคนมารวมตัวกัน แล้วร่ายทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์พร้อมกันทันที ทันใดนั้นเอง แรงกดดันที่มหาศาลก็ได้แผ่ซ่านไปรอบ ๆ ตรึงกระบี่แห่งการพิพากษาไม่ให้ขยับไปไหน ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์พุ่งออกไปจากมือของนักฆ่าสองสามคนนั้นและกระทบอย่างรุนแรงไปที่กระบี่นั้น

ตูม ! เสียงดังสนั่น กระบี่และทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์หลายอันได้ปะทะกันกลางท้องฟ้า คลื่นพลังแห่งความหายนะได้พุ่งไปรอบ ๆ ทำให้น้ำรอบ ๆ ยกตัวขึ้นสูงหลายสิบเมตร แม้แต่เรือยังได้รับผลกระทบหนักและเกิดรอยแตกที่บนดาดฟ้า ไม่นานมันก็กระจายไปทั่วเรือ ในขณะที่หัวเรือนั้นถูกทำลายโดยสิ้นเชิง

นักฆ่าในชุดดำหลายคนถูกกระแทกกระเด็นไปด้วยคลื่นพลังที่รุนแรง แม้ว่าจะมีโล่ธาตุแสงป้องกันอยู่ด้านหน้าเจี้ยนเฉิน แต่เขาก็ยังถูกทำให้ถอยกระเด็นไปหลายก้าวหลังจากที่คลื่นพลังนั้นกระทบกับโล่

ในอีกด้านหนึ่ง ตระกูลทั้งแปดได้หยุดการต่อสู้กับนักฆ่าประมาณ 20 คนนั้น ทั้งหมดมองไปที่เจี้ยนเฉิน

ในฐานะที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ทักษะที่ถูกร่ายออกมาจากเจี้ยนเฉินนั้นทำให้ทุกคนประหลาดใจ เซียนสวรรค์ที่ล้อมรอบเขาอยู่สิบกว่าคนนั้น เกือบสิบคนได้ตายไปแล้ว ในขณะที่ยังเหลือพวกนักฆ่าอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นักฆ่ายี่สิบกว่าคนรอบ ๆ สมาชิกของตระกูลทั้งแปดและเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 คนอื่น ๆ มองตาซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นนักฆ่าทั้งหลายก็เหมือนจะตั้งสติได้ ทุกคนรามือจากคนของตระกูลทั้งแปดและพุ่งไปที่เจี้ยนเฉิน ในตอนนั้นเอง สายตาของพวกเขาทั้งหมดนั้นช่างเย็นชารวมถึงคนของตระกูลทั้งแปดด้วย จิตสังหารที่รุนแรงแผ่ซ่านออกมาจากพวกเขา ซึ่งเป็นได้ชัดว่าในใจของพวกนั้นต้องการที่จะฆ่าเจี้ยนเฉิน

นักฆ่าสิบกว่าคนโจมตีไปที่เจี้ยนเฉินด้วยการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของพวกเขารอบทิศทางของตัวเจี้ยนเฉิน ในขณะที่นักฆ่าที่เหลือพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขากำลังรวบรวมทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์อยู่

เมื่อได้เห็นดังนั้น ท่าทีของกวานหยูไค่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาพึมพำด้วยเสียงที่มีแต่ตัวเขาเท่านั้นที่จะได้ยิน “แม่เจ้าโว้ย คนของตระกูลทั้งแปดทำเกินไปแล้ว พวกเขาต้องการที่จะปิดปากหยางยู่เทียนด้วยการปล่อยให้เขาถูกฆ่าเช่นนั้นหรือ ? หยางยู่เทียนเป็นศิษย์ของท่านประธาน ถ้าพวกเขาทำแบบนั้น ไม่เท่ากับว่าเขาต่อต้านท่านประธานอย่างนั้นหรือ ? เห้อ น่าเสียดายจริง ๆ ที่ข้ามีพลังเพียงแค่นี้ ข้าต้องตายแน่ต่อหน้าเซียนสวรรค์ที่มากมายขนาดนี้ น้องหยางยู่เทียน ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยเจ้าหรอกนะ แต่มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดโดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า ข้าจะไปรายงานท่านประธานและให้เขามาแก้แค้นให้เจ้าแน่นอน”

เมื่อรู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่มาจากนักฆ่าชุดดำ แววตาของเจี้ยนเฉินก็เย็นชาขึ้น จิตสังหารที่ทรงพลังเริ่มแผ่ซ่านออกมาจากใจของเขา

“ท่านหยางยู่เทียนออกมาเร็ว ข้าจะป้องกันพวกมันไว้” เสียงหนักแน่นลอยออกมา เสียงนั้นคือหยางหลิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าเจี้ยนเฉินและปกป้องเขาไว้ด้วยร่างกายที่ใหญ่โต ท่าทีของเขานั้นเด็ดเดี่ยว ในตอนนี้เอง หยางหลิงคิดที่จะยอมตาย แม้ว่าเขาจะต้องตายที่นี่ เขาก็ต้องการให้เจี้ยนเฉินหนีไปได้อย่างปลอดภัย

เมื่อเห็นร่างที่กำยำของหยางหลิง เจี้ยนเฉินก็รู้สึกตื้นตัน สายตาของเขาสับสน เขารู้สึกได้เลยว่าหยางหลิงนั้นพร้อมที่จะสละชีวิตของเขาเพื่อคนที่เขาเพิ่งรู้จักยังไม่ถึง 3 วันดีและไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเป็นพิเศษ

ในตอนนี้ ความประทับใจในตัวหยางหลิงของเจี้ยนเฉินนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก

“ฮ่าห์” หยางหลิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าเจี้ยนเฉินไม่รู้เลยว่าความสำคัญของเขาในใจของเจี้ยนเฉินได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาคำรามออกมาเสียงดังไปบนท้องฟ้าและพุ่งไปที่นักฆ่าสิบกว่าคนนั้นพร้อมกับดาบใหญ่ในมือของเขาโดยปราศจากความกลัว เขาเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณที่ไม่กลัวตาย

แม้ว่าหยางหลิงจะเป็นเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6 แต่นักฆ่าสิบกว่าคนนั้นก็ยังคงได้เปรียบในเรื่องจำนวนอยู่ดี พวกเขาไม่ได้อ่อนแอเลย หลายคนในกลุ่มนั้นเป็นถึงเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 5 ในท้ายที่สุด เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น เขาก็ถูกกดดันจากคนหลายคนที่มีระดับความสามารถใกล้เคียงกับเขา หลังจากนั้นเขาก็ถูกโจมตีด้วยฝ่ามือจากนักฆ่า 2 คน ทำให้เขากระอักเลือดออกมาจากปากและได้รับบาดเจ็บหนัก ในท้ายที่สุด อาวุธเซียนอีก 3 เล่มก็แทงอย่างไร้ความปราณีมาที่ร่างของเขา มันทำให้เกิดรูที่หน้าอก หัวใจ และตันเถียนของเขา

“ท่านหยางยู่เทียนหนีไป ! ” หยางหลิงคำรามด้วยเสียงที่บีบหัวใจในขณะที่เลือดไหลออกจากมุมปากของเขา เขาใช้ร่างกายของเขาในการหยุดนักฆ่าสองสามคนไว้ เพื่อถ่วงเวลาให้เจี้ยนเฉินหนี

แม้ว่าหยางหลิงจะรู้ดีว่าเจี้ยนเฉินนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เขากำลังรับมือกับเซียนสวรรค์ที่มากกว่ายี่สิบคนอยู่ และหลายคนในนั้นกำลังรวบรวมทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ในเวลาพร้อม ๆ กัน เมื่อพวกเขาปล่อยพลังที่รวบรวมออกมา แม้แต่เซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6 ยังตายได้อย่างไม่ต้องสงสัย นี่ยังไม่ได้พูดถึงการที่เจี้ยนเฉินต่อสู้ต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ซึ่งเขาได้ใช้พลังเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงในรัศมี 5 กิโลเมตรไปจนหมดแล้ว เขาใช้พลังงานไปมาก แม้ว่าเขาจะยังมีความสามารถที่จะสู้ต่อได้อยู่ แต่เขาก็ไม่อาจสามารถรับมือเซียนสวรรค์ที่ร่วมมือกัน 20 คนได้ในสายตาของหยางหลิง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขายอมที่จะตายเพื่อถ่วงเวลาให้เจี้ยนเฉินหนีไป เพราะว่าเขามีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยของเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินจ้องอย่างตกตะลึงไปที่อาวุธเซียนทั้งสามที่อยู่บนตัวของหยางหลิง จิตสังหารของเขาพุ่งจนถึงขีดสุดและเขาพูดอย่างเย็นชา “พวกแกจะหนีไปไหนไม่รอดแน่วันนี้ ! ” เจี้ยนเฉินสร้างพลังที่หุ้มมือทั้งสองเขา แบบแปลก ๆ ขึ้นมาและหลับตาลงอย่างช้า ๆ ในตอนนี้ เขาดูเหมือนจะหลอมรวมเข้ากับโลก

ทันทีทันใดนั้นเอง แสงสว่างจ้าก็ปรากฏขึ้นที่ท้องฟ้าที่ดำสนิท มันสว่างจ้าเหมือนกับเป็นดวงอาทิตย์บนสวรรค์ชั้นเก้า มันสาดส่องไปทั่วบริเวณ ไม่เพียงแต่จะสาดแสงไปที่รอบ ๆ แม่น้ำเหมือนแสงสว่างในตอนกลางวันเท่านั้น แต่แสงบางส่วนยังสว่างไปถึงบางส่วนของเมืองแห่งเทพเจ้าที่ห่างออกไป 10 กิโลเมตร มันทำให้คนในเมืองตกใจ

“นะ นี่มันอะไรกัน ? ” ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้นักฆ่ายี่สิบกว่าคนหยุดนิ่ง พวกเขามองไปที่ท้องฟ้าด้วยความตกตะลึง

“อะ อะไร สิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่ ? ” บนเรือ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 เงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าทีละคน ๆ ทั้งหมดอยู่ในท่าทีประหลาดใจ

ภายในเมืองแห่งเทพเจ้า ผู้คนหลายสิบคนปรากฏขึ้นจากที่ใดก็ไม่รู้เหนือแปดคฤหาสน์ใหญ่ พวกเขามองไปที่แสงสีขาวอันทรงพลังบนท้องฟ้าที่อยู่ห่างออกไปสิบกว่ากิโลเมตร สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลเป็นที่สุด

“นั่นเป็นทักษะต้องห้าม เทพจุติ มีเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 กำลังร่ายทักษะต้องห้ามนี้อยู่ ! “

“ไม่ นี่มันต่างจากที่อธิบายไว้ในบันทึก แม้มันจะสร้างความสับสนวุ่นวายมาก แต่พลังของมันก็ดูเหมือนจะด้อยกว่าเล็กน้อย”

“ใช่ เทพจุติอันนี้ดูเหมือนจะทรงพลังแต่มันไม่ได้มีอะไรขนาดนั้น มันสามารถทำอันตรายให้เซียนผู้คุมกฎวัฏจักรที่ 1 หรือ 2 บาดเจ็บได้แต่ไม่ถึงตาย”

..

ในสำนักงานของของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ท่านประธานที่กำลังนั่งขัดสมาธิเพื่อฝึกฝนอยู่ที่ชั้นบนสุดเปิดตาของเขาขึ้นทันที เขามายืนอยู่ข้างหน้าต่างในพริบตาและจ้องไปที่ไกล ๆ ด้วยความตกตะลึง เขาพึมพำ “นั่นมันเทพจุติ ไม่ นั่นเป็นแบบที่ยังไม่สมบูรณ์ รูปแบบมันใช่แต่พลังยังไม่ใช่ ข้าไม่รู้สึกถึงพลังงานดั้งเดิมในนั้นเลย อัจฉริยะผู้ใดกันที่คิดวิธีแบบนี้ออกมาได้ ? แม้ว่าพลังของทักษะนี้จะลดลงไปอย่างมากเมื่อร่ายแบบนี้ แต่มันก็ไม่ต้องใช้อายุเข้าแลกในการใช้ทักษะนี้เช่นกัน ไม่ได้การแล้ว ! ข้าต้องไปดู ! ” บนเมฆขาว ท่านประธานพุ่งออกไปจากหน้าไปยังที่ไกล ๆ นั้นด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 744: ความแข็งแกร่งของกระบี่แห่งการพิพากษา

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 744: ความแข็งแกร่งของกระบี่แห่งการพิพากษา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 744: ความแข็งแกร่งของกระบี่แห่งการพิพากษา

“อะไรกัน ! ? กระบี่แห่งการพิพากษา ! ? นั่นเป็นหนึ่งในสามสุดยอดทักษะธาตุแสงของระดับ 7 กระบี่แห่งการพิพากษา ! ? ” ผู้คนจากตระกูลทั้งแปดต่างพากันตกตะลึงและจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างเหลือเชื่อ

“เป็นไปไม่ได้ ! หยางยู่เทียนเพิ่งจะเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 เท่านั้น! เขาเข้าถึงคู่มือลับเพื่อฝึกฝนกระบี่แห่งการพิพากษาได้อย่างไร ? ข้าได้ยินมาว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอ่านมันถ้ายังไม่เป็นระดับ 7 และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกด้วย ! “

“หยางยู่เทียนต้องกำลังหลอกพวกมันอยู่เป็นแน่ มันเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะร่ายหนึ่งในสามสุดยอดทักษะธาตุแสง กระบี่แห่งการพิพากษา”

เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 จากตระกูลทั้งแปดทั้งหมดพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน พวกนั้นส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะใช้กระบี่แห่งการพิพากษาได้จริง ๆ

“เป็นไปไม่ได้ นี่มันก็ผ่านมาซักพักแล้วและน้องหยางยู่เทียนก็สามารถใช้ทักษะธาตุแสงที่สุดยอดทั้งสามได้อีกด้วย หรือว่าเขาจะไม่ใช่ระดับ 6 แต่เป็นระดับ 7 ? ” กวานหยูไค่ที่ซ่อนตัวอยู่ในเรือได้ชะโงกหัวออกมาและจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉิน

ในตอนนี้เอง แสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นที่เส้นขอบฟ้าไกล ๆ ส่องแสงสว่างท่ามกลางท้องฟ้าสีดำสนิท มันทำให้เกิดภาพแปลก ๆ ซึ่งทำให้คนจำนวนมากที่อยู่บนฝั่งแม่น้ำไกล ๆ สนใจ สำแสงสีขาวนั้นคือพลังเซียนธาตุแสงซึ่งกำลังพุ่งรวมกันมาที่เจี้ยนเฉินจากที่ซึ่งอยู่ไกล 5 กิโลเมตรออกไป

เจี้ยนเฉินชี้ไปบนท้องฟ้าด้วยนิ้วนิ้วหนึ่งของเขา พลังเซียนธาตุแสงจำนวนมากได้มารวมตัวกันอย่างรวดเร็วที่ปลายนิ้วของเขาและไม่นานหลังจากนั้นมันก็ควบรวมเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์สีเงินยาว 10 เมตร กระบี่นั้นส่องแสงจ้า อาบทั่วบริเวณให้เป็นสีขาวเหมือนหิมะ

นอกจากนั้นกระบี่ยังมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งทำให้บริเวณรอบ ๆ รู้สึกอึดอัด แม้กระทั่งเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ที่อยู่ต่อหน้าความกดดันนี้ยังยากที่จะหายใจ

เจี้ยนเฉินยืนตรงอยู่ที่ดาดฟ้าของเรือภายใต้กระบี่สีเงินนั้น เขาดูเหมือนเทพเจ้าที่ยืนอยู่ระหว่างพื้นดินและสวรรค์ ท่าทีที่เย็นชาและสายตาที่แหลมคมของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรงเหมือนกับว่าเขาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่สามารถโจมตีได้

“นี่ นี่ นี่มันคือ กระบี่แห่งการพิพากษาจริง ๆ ! ” เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงของตระกูลทั้งแปดร้องออกออกด้วยเสียงสั่นเทา

“ไม่ใช่ นี่ยังไม่ใช่กระบี่แห่งการพิพากษาที่แม้จริง กระบี่แห่งการพิพากษาที่แท้จริงนั้นทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มากกว่านี้อีกหลายเท่า แม้ว่าหยางยู่เทียนจะร่ายกระบี่แห่งการพิพากษาออกมา แต่มันก็ยังห่างไกลจากกระบี่แห่งการพิพากษาที่แท้จริง” หัวหน้าฮัวพูดเสียงทุ้ม แม้ว่ากระบี่แห่งการพิพากษาซึ่งถูกร่ายออกมาโดยเจี้ยนเฉินจะห่างไกลจากทักษะที่แท้จริงในด้านของความแข็งแกร่ง แต่มันก็หาใดเปรียบได้ในสายตาของพวกเขา

ท่าทีของนักฆ่าที่อยู่รอบ ๆ เจี้ยนเฉินน่ากลัวขึ้นทันที พวกเขาร้องออกมา “แย่แล้ว นี่เป็นหนึ่งในสามของทักษะธาตุแสงที่สุดยอด กระบี่แห่งการพิพากษา มันสามารถสังหารได้แม้กระทั่งเซียนผู้คุมกฎ ถอยก่อน จะถูกมันโจมดีไม่ได้ ไม่มีใครสามารถหลบมันได้โดยยังมีชีวิตรอด”

เมื่อได้ยินดังนั้น นักฆ่าโดยรอบก็กระจายตัวออกไปทันที และบินหนีออกไปไกล

ทันใดนั้น เจี้ยนเฉินก็เหวี่ยงมือของเขา กระบี่ที่ควบรวมหนาแน่นที่มือของเขาได้เปลี่ยนเป็นลำแสงสีเงินขาวและพุ่งออกไปหานักฆ่าที่หนีได้ช้ากว่าเพื่อนที่ข้างหลังของมันด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าฟาด

กระบี่นั้นรวดเร็วมากจนไม่ปล่อยให้นักฆ่าหนีไปได้ มันผ่านตัวของพวกเขาไป แต่จุดที่มันผ่านตัวไปนั้นไม่ได้มีแผลอะไรร้ายแรง อย่างไรก็ตาม กระบี่นั้นเป็นกระบี่แห่งการพิพากษา หนึ่งในสามสุดยอดทักษะธาตุแสง ดังนั้นมันจึงมีพลังอย่างมหาศาลและสังหารพวกนักฆ่าจนตายในทันที

ตาของเจี้ยนเฉินเห็นการระเบิดเป็นแสงแวบขึ้นมา เหมือนตะเกียงสองอันที่อยู่ในท้องฟ้าที่มืดสลัว ในตอนนั้น พลังของเขาสร้างพันธะกับกระบี่แห่งการพิพากษาได้รุนแรงอย่างน่ามหัศจรรย์ หลังจากที่กระบี่สังหารนักฆ่าไปแล้ว มันก็ไล่ตามชายชุดดำคนอื่นอยู่ตามการควบคุมของเจี้ยนเฉิน

ด้วยความเร็วของกระบี่แห่งการพิพากษา มันได้ฆ่านักฆ่าไปอีก 3 คนในพริบตาเดียว หลังจากนั้นมันก็ยังคงไล่ตามคนอื่นต่อโดยไม่มีทีท่าว่าจะลดความเร็วลง

“ไม่ใช่ นี่มันไม่ใช่กระบี่แห่งการพิพากษาที่แท้จริง พลังของกระบี่แห่งการพิพากษาที่แท้จริงไม่ได้มีแค่นี้ ยังไงก็เถอะ ในเมื่อเราหนีมันไม่ได้แล้ว เราน่าจะร่วมมือกันแล้วร่ายทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์พร้อมกันเพื่อกำจัดกระบี่แห่งการพิพากษาที่ไม่สมบูรณ์นั่นซะ” นักฆ่าเข้าใจทักษะธาตุแสงอย่างแจ่มชัดแล้ว ดังนั้นเขาจึงร้องออกมาและพยายามที่จะช่วยเพื่อนของเขา

นักฆ่าที่เหลืออยู่สองสามคนมารวมตัวกัน แล้วร่ายทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์พร้อมกันทันที ทันใดนั้นเอง แรงกดดันที่มหาศาลก็ได้แผ่ซ่านไปรอบ ๆ ตรึงกระบี่แห่งการพิพากษาไม่ให้ขยับไปไหน ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์พุ่งออกไปจากมือของนักฆ่าสองสามคนนั้นและกระทบอย่างรุนแรงไปที่กระบี่นั้น

ตูม ! เสียงดังสนั่น กระบี่และทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์หลายอันได้ปะทะกันกลางท้องฟ้า คลื่นพลังแห่งความหายนะได้พุ่งไปรอบ ๆ ทำให้น้ำรอบ ๆ ยกตัวขึ้นสูงหลายสิบเมตร แม้แต่เรือยังได้รับผลกระทบหนักและเกิดรอยแตกที่บนดาดฟ้า ไม่นานมันก็กระจายไปทั่วเรือ ในขณะที่หัวเรือนั้นถูกทำลายโดยสิ้นเชิง

นักฆ่าในชุดดำหลายคนถูกกระแทกกระเด็นไปด้วยคลื่นพลังที่รุนแรง แม้ว่าจะมีโล่ธาตุแสงป้องกันอยู่ด้านหน้าเจี้ยนเฉิน แต่เขาก็ยังถูกทำให้ถอยกระเด็นไปหลายก้าวหลังจากที่คลื่นพลังนั้นกระทบกับโล่

ในอีกด้านหนึ่ง ตระกูลทั้งแปดได้หยุดการต่อสู้กับนักฆ่าประมาณ 20 คนนั้น ทั้งหมดมองไปที่เจี้ยนเฉิน

ในฐานะที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ทักษะที่ถูกร่ายออกมาจากเจี้ยนเฉินนั้นทำให้ทุกคนประหลาดใจ เซียนสวรรค์ที่ล้อมรอบเขาอยู่สิบกว่าคนนั้น เกือบสิบคนได้ตายไปแล้ว ในขณะที่ยังเหลือพวกนักฆ่าอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นักฆ่ายี่สิบกว่าคนรอบ ๆ สมาชิกของตระกูลทั้งแปดและเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 คนอื่น ๆ มองตาซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นนักฆ่าทั้งหลายก็เหมือนจะตั้งสติได้ ทุกคนรามือจากคนของตระกูลทั้งแปดและพุ่งไปที่เจี้ยนเฉิน ในตอนนั้นเอง สายตาของพวกเขาทั้งหมดนั้นช่างเย็นชารวมถึงคนของตระกูลทั้งแปดด้วย จิตสังหารที่รุนแรงแผ่ซ่านออกมาจากพวกเขา ซึ่งเป็นได้ชัดว่าในใจของพวกนั้นต้องการที่จะฆ่าเจี้ยนเฉิน

นักฆ่าสิบกว่าคนโจมตีไปที่เจี้ยนเฉินด้วยการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของพวกเขารอบทิศทางของตัวเจี้ยนเฉิน ในขณะที่นักฆ่าที่เหลือพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขากำลังรวบรวมทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์อยู่

เมื่อได้เห็นดังนั้น ท่าทีของกวานหยูไค่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาพึมพำด้วยเสียงที่มีแต่ตัวเขาเท่านั้นที่จะได้ยิน “แม่เจ้าโว้ย คนของตระกูลทั้งแปดทำเกินไปแล้ว พวกเขาต้องการที่จะปิดปากหยางยู่เทียนด้วยการปล่อยให้เขาถูกฆ่าเช่นนั้นหรือ ? หยางยู่เทียนเป็นศิษย์ของท่านประธาน ถ้าพวกเขาทำแบบนั้น ไม่เท่ากับว่าเขาต่อต้านท่านประธานอย่างนั้นหรือ ? เห้อ น่าเสียดายจริง ๆ ที่ข้ามีพลังเพียงแค่นี้ ข้าต้องตายแน่ต่อหน้าเซียนสวรรค์ที่มากมายขนาดนี้ น้องหยางยู่เทียน ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยเจ้าหรอกนะ แต่มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดโดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า ข้าจะไปรายงานท่านประธานและให้เขามาแก้แค้นให้เจ้าแน่นอน”

เมื่อรู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่มาจากนักฆ่าชุดดำ แววตาของเจี้ยนเฉินก็เย็นชาขึ้น จิตสังหารที่ทรงพลังเริ่มแผ่ซ่านออกมาจากใจของเขา

“ท่านหยางยู่เทียนออกมาเร็ว ข้าจะป้องกันพวกมันไว้” เสียงหนักแน่นลอยออกมา เสียงนั้นคือหยางหลิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าเจี้ยนเฉินและปกป้องเขาไว้ด้วยร่างกายที่ใหญ่โต ท่าทีของเขานั้นเด็ดเดี่ยว ในตอนนี้เอง หยางหลิงคิดที่จะยอมตาย แม้ว่าเขาจะต้องตายที่นี่ เขาก็ต้องการให้เจี้ยนเฉินหนีไปได้อย่างปลอดภัย

เมื่อเห็นร่างที่กำยำของหยางหลิง เจี้ยนเฉินก็รู้สึกตื้นตัน สายตาของเขาสับสน เขารู้สึกได้เลยว่าหยางหลิงนั้นพร้อมที่จะสละชีวิตของเขาเพื่อคนที่เขาเพิ่งรู้จักยังไม่ถึง 3 วันดีและไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเป็นพิเศษ

ในตอนนี้ ความประทับใจในตัวหยางหลิงของเจี้ยนเฉินนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก

“ฮ่าห์” หยางหลิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าเจี้ยนเฉินไม่รู้เลยว่าความสำคัญของเขาในใจของเจี้ยนเฉินได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาคำรามออกมาเสียงดังไปบนท้องฟ้าและพุ่งไปที่นักฆ่าสิบกว่าคนนั้นพร้อมกับดาบใหญ่ในมือของเขาโดยปราศจากความกลัว เขาเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณที่ไม่กลัวตาย

แม้ว่าหยางหลิงจะเป็นเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6 แต่นักฆ่าสิบกว่าคนนั้นก็ยังคงได้เปรียบในเรื่องจำนวนอยู่ดี พวกเขาไม่ได้อ่อนแอเลย หลายคนในกลุ่มนั้นเป็นถึงเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 5 ในท้ายที่สุด เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น เขาก็ถูกกดดันจากคนหลายคนที่มีระดับความสามารถใกล้เคียงกับเขา หลังจากนั้นเขาก็ถูกโจมตีด้วยฝ่ามือจากนักฆ่า 2 คน ทำให้เขากระอักเลือดออกมาจากปากและได้รับบาดเจ็บหนัก ในท้ายที่สุด อาวุธเซียนอีก 3 เล่มก็แทงอย่างไร้ความปราณีมาที่ร่างของเขา มันทำให้เกิดรูที่หน้าอก หัวใจ และตันเถียนของเขา

“ท่านหยางยู่เทียนหนีไป ! ” หยางหลิงคำรามด้วยเสียงที่บีบหัวใจในขณะที่เลือดไหลออกจากมุมปากของเขา เขาใช้ร่างกายของเขาในการหยุดนักฆ่าสองสามคนไว้ เพื่อถ่วงเวลาให้เจี้ยนเฉินหนี

แม้ว่าหยางหลิงจะรู้ดีว่าเจี้ยนเฉินนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เขากำลังรับมือกับเซียนสวรรค์ที่มากกว่ายี่สิบคนอยู่ และหลายคนในนั้นกำลังรวบรวมทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ในเวลาพร้อม ๆ กัน เมื่อพวกเขาปล่อยพลังที่รวบรวมออกมา แม้แต่เซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6 ยังตายได้อย่างไม่ต้องสงสัย นี่ยังไม่ได้พูดถึงการที่เจี้ยนเฉินต่อสู้ต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ซึ่งเขาได้ใช้พลังเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงในรัศมี 5 กิโลเมตรไปจนหมดแล้ว เขาใช้พลังงานไปมาก แม้ว่าเขาจะยังมีความสามารถที่จะสู้ต่อได้อยู่ แต่เขาก็ไม่อาจสามารถรับมือเซียนสวรรค์ที่ร่วมมือกัน 20 คนได้ในสายตาของหยางหลิง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขายอมที่จะตายเพื่อถ่วงเวลาให้เจี้ยนเฉินหนีไป เพราะว่าเขามีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยของเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินจ้องอย่างตกตะลึงไปที่อาวุธเซียนทั้งสามที่อยู่บนตัวของหยางหลิง จิตสังหารของเขาพุ่งจนถึงขีดสุดและเขาพูดอย่างเย็นชา “พวกแกจะหนีไปไหนไม่รอดแน่วันนี้ ! ” เจี้ยนเฉินสร้างพลังที่หุ้มมือทั้งสองเขา แบบแปลก ๆ ขึ้นมาและหลับตาลงอย่างช้า ๆ ในตอนนี้ เขาดูเหมือนจะหลอมรวมเข้ากับโลก

ทันทีทันใดนั้นเอง แสงสว่างจ้าก็ปรากฏขึ้นที่ท้องฟ้าที่ดำสนิท มันสว่างจ้าเหมือนกับเป็นดวงอาทิตย์บนสวรรค์ชั้นเก้า มันสาดส่องไปทั่วบริเวณ ไม่เพียงแต่จะสาดแสงไปที่รอบ ๆ แม่น้ำเหมือนแสงสว่างในตอนกลางวันเท่านั้น แต่แสงบางส่วนยังสว่างไปถึงบางส่วนของเมืองแห่งเทพเจ้าที่ห่างออกไป 10 กิโลเมตร มันทำให้คนในเมืองตกใจ

“นะ นี่มันอะไรกัน ? ” ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้นักฆ่ายี่สิบกว่าคนหยุดนิ่ง พวกเขามองไปที่ท้องฟ้าด้วยความตกตะลึง

“อะ อะไร สิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่ ? ” บนเรือ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 เงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าทีละคน ๆ ทั้งหมดอยู่ในท่าทีประหลาดใจ

ภายในเมืองแห่งเทพเจ้า ผู้คนหลายสิบคนปรากฏขึ้นจากที่ใดก็ไม่รู้เหนือแปดคฤหาสน์ใหญ่ พวกเขามองไปที่แสงสีขาวอันทรงพลังบนท้องฟ้าที่อยู่ห่างออกไปสิบกว่ากิโลเมตร สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลเป็นที่สุด

“นั่นเป็นทักษะต้องห้าม เทพจุติ มีเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 กำลังร่ายทักษะต้องห้ามนี้อยู่ ! “

“ไม่ นี่มันต่างจากที่อธิบายไว้ในบันทึก แม้มันจะสร้างความสับสนวุ่นวายมาก แต่พลังของมันก็ดูเหมือนจะด้อยกว่าเล็กน้อย”

“ใช่ เทพจุติอันนี้ดูเหมือนจะทรงพลังแต่มันไม่ได้มีอะไรขนาดนั้น มันสามารถทำอันตรายให้เซียนผู้คุมกฎวัฏจักรที่ 1 หรือ 2 บาดเจ็บได้แต่ไม่ถึงตาย”

..

ในสำนักงานของของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ท่านประธานที่กำลังนั่งขัดสมาธิเพื่อฝึกฝนอยู่ที่ชั้นบนสุดเปิดตาของเขาขึ้นทันที เขามายืนอยู่ข้างหน้าต่างในพริบตาและจ้องไปที่ไกล ๆ ด้วยความตกตะลึง เขาพึมพำ “นั่นมันเทพจุติ ไม่ นั่นเป็นแบบที่ยังไม่สมบูรณ์ รูปแบบมันใช่แต่พลังยังไม่ใช่ ข้าไม่รู้สึกถึงพลังงานดั้งเดิมในนั้นเลย อัจฉริยะผู้ใดกันที่คิดวิธีแบบนี้ออกมาได้ ? แม้ว่าพลังของทักษะนี้จะลดลงไปอย่างมากเมื่อร่ายแบบนี้ แต่มันก็ไม่ต้องใช้อายุเข้าแลกในการใช้ทักษะนี้เช่นกัน ไม่ได้การแล้ว ! ข้าต้องไปดู ! ” บนเมฆขาว ท่านประธานพุ่งออกไปจากหน้าไปยังที่ไกล ๆ นั้นด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+