Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 909: ฉินฉินรับอาจารย์

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 909: ฉินฉินรับอาจารย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 909: ฉินฉินรับอาจารย์

ชายที่อยู่รอบ ๆ ไป่เจี้ยนเริ่มที่จะหายใจแรงเมื่อเขาได้ยินแบบนี้ สายตาที่พวกเขามองไปที่เมืองอัคนีที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างไม่มีความกลัวอีกต่อไป ในตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยสายตาแห่งความละโมบแทน

“องค์ชายไป่เจี้ยน ถ้าตระกูลผู้พิทักษ์และเมืองทหารรับจ้างจะไม่เข้ามายุ่งจริง ๆ แล้วพวกเราจะต้องกลัวอะไรอีกล่ะ ? ” หนึ่งในชายวัยกลางคนพูดออกมาทันทีอย่างตื่นเต้น

แม้ว่าจะเป็นในทั่วทั้งทวีปเทียนหยวน เมืองที่ทำมาจากทังสเตนทั้งหมดเช่นเมืองอัคนีก็ทำให้ทุกคนอิจฉาตาร้อนได้ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลสันโดษที่มีเซียนผู้คุมกฎหรือตระกูลโบราณที่มีเซียนราชาก็ตาม พวกเขาก็น้ำลายไหลไปตาม ๆ กัน นี่เป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่กล้าที่จะต่อต้านเมืองทหารรับจ้างเพราะพวกเขากลัวตระกูลเจียงหยางและเมืองทหารรับจ้าง ถ้าไม่ใช่เพราะมีองค์กรที่ทรงพลังถึง 2 องค์กรคอยหนุนหลังพวกเขาอยู่ กลุ่มทหารรับจ้างคงไม่มีพลังพอทีจะครอบครองเหมืองทังสเตนขนาดใหญ่แบบนี้เอาไว้แน่

“เอาหล่ะ ตราบที่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีไม่มีใครที่ทรงพลังมาสนับสนุนหล่ะก็ พวกเรากลุ่มทหารรับจ้างหายนะจะเข้าไปยึดแล้วนะ”

หลังจากนั้น หลายคนในพวกเขาก็แสดงความคิดเห็นออกมา พวกเขาแต่ละคนเป็นหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างใหญ่ ทั้งหมดมีประวัติการต่อสู้มานานกว่าพันหรือหลายพันปี แม้ว่าพวกเขาจะเป็นแต่เซียนสวรรค์ แต่ก็ยังมีหัวหน้าคนก่อน ๆ เข้ามาร่วมด้วย มีเซียนผู้คุมกฎบางคนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย

หัวหน้าหลายคนสนใจเมืองอัคนีมาก ดังนั้นพวกเขาจึงจะเข้าร่วมในการยึดครั้งนี้ด้วย มีเพียงบางคนในพวกเขาที่ลังเลและไม่สนใจที่จะเข้าร่วม

ไป่เจี้ยนมองไปที่เขาด้วยความเย็นชา ก่อนที่จะมองลงไปที่เมืองอัคนีอีกครั้ง เขาพูด “เมืองน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในอีกปีที่จะถึงนี้ เมื่อมันสร้างเสร็จแล้ว มันจะเป็นเวลาที่พวกเราไปยึดครองมัน ข้าจะไปเชิญท่านพ่อของข้าและผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายยิหยวนเพื่อมาสร้างประตูมิติเมื่อเวลามาถึง และส่งกลุ่มของพวกเจ้าที่อยู่ห่างไปหลายร้อยกิโลเมตรเข้ามา”

“นั่นคงจะดีมาก ด้วยการช่วยเหลือจากผู้อาวุโสที่เคารพทั้งสองคน มันคงจะง่ายมากที่คนของพวกเราจะมาที่นี่ได้” หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างทั้งหมดเผยความยินดีออกมา

ไกลจากตัวทวีปออกไป หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั่งอยู่ที่ขอบผาของเกาะสามเซียน นางวางพิณปีศาจร่ำไห้ไว้บนพื้นที่ราบเรียบ และเล่นพิณด้วยนิ้วที่ขาวสวยของนางอย่างนิ่มนวล มันส่งเสียงที่น่าพึงพอใจออกมา

นางไม่ได้สวมผ้าคลุมหน้า และนางเผยให้เห็นความงดงามของนางที่แม้แต่ท้องฟ้ายังต้องอิจฉา ผมของนางที่อยู่ข้าง ๆ หูของนางพลิ้วไหวอย่างอ่อนโยนไปกับสายลมอ่อน ๆ ซึ่งปิดบังส่วนเล็ก ๆ ของใบหน้าของนางเอาไว้ มันทำให้นางดูงดงามมากยิ่งขึ้นไปอีก

เสียงโน้ตของพิณเป็นทำนองที่มีเสน่ห์และสุขุมก้องกังวานไปรอบ ๆ มันเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและส่งผลให้ผู้คนที่ได้ยินเสียงของมันรู้สึกเศร้าหมองเช่นกัน

เสียงโน้ตสะท้อนอย่างนุ่มนวลไปทั่วทั้งบริเวณ สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ได้ยินเสียงก็เงียบลง แต่ละตัวหยุดหาอาหาร พวกมันนอนลงบนพื้นและฟังเสียงเพลงอยู่อย่างเงียบ ๆ เสียงเพลงดูเหมือนจะเป็นทำนองที่สวยงามที่สุดในโลก ความเศร้าในทำนองทำให้สิ่งมีชีวิตบางตัวถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ออกมา

“เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมนางถึงเสียใจโดยไม่มีสาเหตุแบบนี้ ? ” เสี่ยวเยี่ยมองไปที่ที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อยู่ด้วยความสงสัย นางเต็มไปด้วยความอยากรู้

“ข้ารู้สึกว่าอาจารย์เสียใจและเศร้าโศกมาก มันแปลกจริง ๆ ทำไมอาจารย์ถึงได้รู้สึกแบบนี้ ? ” เสี่ยวเหยียนพูดอย่างสงสัยในขณะที่นางกระพริบตาที่สดใสของนาง พวกเขาสับสนว่าทำไมหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถึงได้รู้สึกแบบนี้โดยไม่ได้มีเหตุผลอะไร

เพลงเศร้าค่อยค่อยหยุดลง หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์หยุดเล่นพิณของนาง นางวางนิ้วของนางอย่างนุ่มนวลไปที่สายพิณและจ้องอย่างไร้ชีวิตชีวาไปที่ที่ทะเลและท้องฟ้าบรรจบกัน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

“เฮ้อ” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถอนหายใจยาวออกมาและพึมพำ “ข้าเกลียดเจ้าไหม หรือข้าไม่ได้เกลียด ? ” นางกำลังสับสนไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

ทันใดนั้นเอง ตาของนางก็หรี่เล็กลง นางมองไปไกลทันทีและนางก็โบกมืออย่างอ่อนโยน นางแหวกมิติเปิดออกทันที มันทำให้เกิดประตูมิติออกมาอย่างรวดเร็ว ผ่านประตูมิติไป ทวีปที่กว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดมองเห็นได้ในนั้น มันคือทวีปเทียนหยวน

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์หายเข้าไปในประตูมิติ และเดินออกไปที่ทวีปเทียนหยวนที่ห่างไกล

ภายในตระกูลเทียนฉินของเมืองหว่าลู่เหรินในอาณาจักรซูย่า หญิงสาวกำลังนั่งอยู่คนเดียวที่กระโจม นางเล่นพิณซึ่งเป็นเพลงที่ไพเราะออกมาซึ่งดังผ่านสวนไปอย่างนุ่มนวล

แม้ว่าพิณของฉินฉินจะอยู่ในระดับที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของคนได้ แต่มันก็มีพลังพอที่จะมีอิทธิพลกับความรู้สึกของผู้คนได้ มันสามารถทำให้คนอื่นถูกมัวเมาได้อย่างไม่เต็มใจด้วยเสียงเพลงจากพิณของนาง

พิณของฉินฉินดูเหมือนพิณปีศาจร่ำไห้ที่ใช้โดยหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เป๊ะ ๆ พิณสองอันนั้นมีสีเหมือนกัน ขนาดเหมือนกันและมีสายเท่ากัน มันดูเหมือนกันจริง ๆ

“ท่านเจี้ยนเฉิน ท่านอยู่ที่ไหน ? ท่านยังสบายดีหรือไม่ ? ” ฉินฉินอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงใบหน้าที่แน่วแน่และหล่อเหลาของเจี้ยนเฉิน นางรำลึกถึงอดีตและอาจจะเป็นเพราะอารมณ์ของนาง เพลงที่นางเล่นจึงแฝงไว้ด้วยความปรารถนาและความห่วงใย

“ฉินเอ๋อ เจ้ามาเล่นที่นี่อีกแล้ว ! ” เสียงหนักแน่นดังมาจากด้านหลังของนาง หัวหน้าตระกูลได้มาถึงตรงหน้านาง และจ้องไปที่นางพร้อมรอยยิ้ม

ฉินฉินไม่ได้พูดอะไร นางไม่ได้หยุดขยับนิ้วของนางเหมือนว่านางไม่ได้ยินเสียงด้านหลังของนางเลย

“ฉินเอ๋อ งานแต่งงานของเจ้ากับคุณชายใหญ่ของตระกูลซูยันจะมีขึ้นในอีก 3 วัน ทำไมเจ้าไม่ไปเตรียมตัว

ล่ะ” หัวหน้าตระกูลพูดด้วยรอยยิ้ม

เสียงเพลงหยุดทันที ฉินฉินพูดด้วยเสียงอ่อนโยนแต่แน่วแน่ “ท่านพ่อ ข้าไม่ต้องการที่จะแต่งงาน”

“ฉินเอ๋อ เจ้าไม่ใช่เด็กอีกแล้ว มันถึงเวลาที่เจ้าต้องแต่งงานแล้ว น่าเสียดายที่เจ้าไม่สามารถฝึกฝนได้ ดังนั้นเจ้าจึงต้องอยู่แบบคนธรรมดาตลอดไป ไม่เช่นนั้น พ่อเจ้าเองคงไม่บังคับเจ้าแบบนี้หรอก” หัวหน้าตระกูลพูดออกมา เขาช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ

“แต่ข้าไม่ชอบคุณชายใหญ่ของตระกูลซูยัน ท่านพ่อต้องการที่จะบังคับให้ข้าแต่งงานกับคนที่ข้าไม่ได้รักอย่างนั้นหรือ ? ” น้ำเสียงของฉินฉินเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“เฮ้อ” หัวหน้าตระกูลถอนหายใจยาวออกมา เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีในตอนนี้

ในตอนนี้เอง พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลจู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมา มันครอบคลุมไปทั้งตระกูล ต่อหน้าแรงกดดันนี้ ยามทุกคนรู้สึกเหมือนมีหินก้อนโตมากระแทกกับพวกเขา มันทำให้เป็นการยากที่พวกเขาจะยืนอยู่ได้ และในตอนนี้พวกเขาก็ขยับไม่ได้ แม้แต่เซียนสวรรค์เองก็ยังเป็นเหมือนกัน

ทั่วทั้งตระกูล คนที่ไม่ได้รับผลกระทบใดใดเลยคือฉินฉิน

ในตอนนี้เอง หญิงในชุดม่วงที่คลุมหน้าอยู่ได้ลดระดับลงมาจากท้องฟ้า นางดูเหมือนนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์ นางเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสง่างามและศักดิ์สิทธิ์

หญิงนางนี้ถือพิณอยู่ นางหยุด 1 เมตรเหนืออากาศและจ้องไปที่ฉินฉิน ด้วยสิ่งเดียวที่เห็นอยู่บนใบหน้าของนาง นั้นก็คือตาที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดใดของนาง นางพูด “เจ้าปรารถนาที่จะให้ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าหรือไม่ ? “

หัวหน้าตระกูลเทียนฉินถูกตรึงไว้โดยมิติพันธนาการอย่างไม่รู้ตัว เขาต้องไปที่หญิงลึกลับด้วยความตกใจในขณะที่อารมณ์ของเขาปั่นป่วน เขายากที่จะพูดใดใดออกมาได้

ฉินฉินก็จ้องไปที่หญิงนั่นด้วยความตกใจ ก่อนที่จะจับตาดูไปที่พิณที่อยู่ในแขนของนาง มันเป็นพิณแบบเดียวกันกับที่นางใช้เลย

“ทะ ทะ ท่านคือหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ? ” ฉินฉินร้องออกมาเมื่อนางรู้ตัวตนของหญิงคนนี้จากพิณปีศาจร่ำไห้

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อยและพูดอย่างสงบ “เจ้าลากข้ามาที่นี่ด้วยเสียงพิณของเจ้า เรามีชะตาที่ต้องกัน เจ้าปรารถนาที่จะรับข้าไปเป็นอาจารย์ของเจ้าหรือเปล่า ? “

“ข้าต้องการ ข้าต้องการ ศิษย์ฉินฉินขอคารวะท่านอาจารย์” ฉินฉินเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว นางชอบเล่นพิณ ในขณะที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็เหมือนเทพเจ้าแห่งพิณ ครั้งหนึ่งนางเคยฝันที่จะได้กลายเป็นศิษย์ของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ และในตอนนี้โอกาสก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว นางจะปล่อยมันไปได้อย่างไร ?

“เจ้าจำเป็นต้องมากับข้าถ้าเจ้ายอมรับแล้ว เจ้าจะไปไกลจากทวีปเพื่อที่จะไปฝึกฝน เจ้ายอมรับหรือไม่ ? ” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถาม

ฉินฉินลังเลเล็กน้อย ความไม่ปรารถนาที่จะจากไปปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง แต่ตาของนางก็แน่วแน่ขึ้นในไม่ช้า “ศิษย์ต้องการที่จะไปจากตระกูลและตามท่านอาจารย์ไปไกลจากทวีป แต่ศิษย์อยากจะขอเวลาท่านอาจารย์ในการร่ำลาครอบครัวก่อน”

แรงกดดันจากหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็ได้หายไป และทำให้คนอื่นเป็นอิสระจากการตรึงของนาง

หัวหน้าตระกูลคำนับไปที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อย่างสุภาพ ก่อนที่จะหันไปหาฉินฉินแล้วพูด “ฉินเอ๋อ เจ้าจะไปจากตระกูลจริงหรือ ? “

ฉินฉินพยักหน้าอย่างแน่วแน่ “ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าว่าไม่สามารถฝึกฝนได้และข้าชอบเล่นพิณก็เท่านั้น การตามท่านอาจารย์ไปเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนแปลงชะตาของข้าได้”

หัวหน้าตระกูลครุ่นคิดเงียบ ๆ ก่อนที่จะถอนหายใจยาวออกมา “เอาละ ถ้างั้นฉินเอ๋อ ไปเถอะไม่ต้องกังวลอะไร เมื่อเจ้ามีเวลา เจ้าก็กลับมาเยี่ยมพ่อบ้างละกัน สำหรับเรื่องการแต่งงานกับคุณชายตระกูลซูยัน พ่อจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้และยกเลิกมันซะ”

ในตอนนี้เอง กลุ่มคนจำนวนมากก็รีบเข้ามาจากรอบ ๆ คนที่อยู่หน้าสุดเป็นคุณชายของตระกูล ฉินเซียว

ฉินฉินบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่นางคารวะหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เป็นอาจารย์ทันที ก่อนที่จะร่ำลาพวกเขา นางรู้ว่าทันทีที่นางจากไป นางจะไม่กลับมาอีกในเร็ว ๆ นี้ หลังจากนั้น นางคงต้องเดินทางไปไกลหลายสิบล้านกิโลเมตร แม้แต่เซียนผู้คุมกฎก็ยังใช้เวลาหลายเดือนที่จะเดินทางไปโดยไม่หยุดพักเลย

“น้องสาว พี่เคารพการตัดสินใจของเจ้า ในอนาคต พี่จะกลายเป็นเซียนสวรรค์อย่างแน่นอนและไปหาเจ้าที่ทะเลแสนไกลนั่น” ดวงตาของฉินเซียวคลอไปด้วยน้ำตา เขาไม่อยากที่จะแยกจากฉินฉินไป

ตาของฉินฉินเองก็คลอไปด้วยน้ำตาเช่นกัน นางพูด “ท่านพี่ เมื่อท่านได้พบนายน้อยเจี้ยนเฉินอีกครั้ง กรุณาเอาภาพวาดนี้ให้เขาด้วย” ฉินฉินดึงกระดาษออกมาจากสาบเสื้อของนาง ก่อนที่จะเปิดมันออกอย่างช้า ๆ ไม่ต้องแปลกใจเลยที่รู้นั้นเป็นภาพวาดของเจี้ยนเฉิน เขากำลังถือกระบี่วายโปรยอยู่ ท่าทางของเขากับกระบี่นั้นเฉียบคม เหมือนว่าทุก ๆ การโจมตีของเขานั้นร้ายแรงมาก ภาพวาดนี้เหมือนจริงเป็นที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 909: ฉินฉินรับอาจารย์

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 909: ฉินฉินรับอาจารย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 909: ฉินฉินรับอาจารย์

ชายที่อยู่รอบ ๆ ไป่เจี้ยนเริ่มที่จะหายใจแรงเมื่อเขาได้ยินแบบนี้ สายตาที่พวกเขามองไปที่เมืองอัคนีที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างไม่มีความกลัวอีกต่อไป ในตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยสายตาแห่งความละโมบแทน

“องค์ชายไป่เจี้ยน ถ้าตระกูลผู้พิทักษ์และเมืองทหารรับจ้างจะไม่เข้ามายุ่งจริง ๆ แล้วพวกเราจะต้องกลัวอะไรอีกล่ะ ? ” หนึ่งในชายวัยกลางคนพูดออกมาทันทีอย่างตื่นเต้น

แม้ว่าจะเป็นในทั่วทั้งทวีปเทียนหยวน เมืองที่ทำมาจากทังสเตนทั้งหมดเช่นเมืองอัคนีก็ทำให้ทุกคนอิจฉาตาร้อนได้ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลสันโดษที่มีเซียนผู้คุมกฎหรือตระกูลโบราณที่มีเซียนราชาก็ตาม พวกเขาก็น้ำลายไหลไปตาม ๆ กัน นี่เป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่กล้าที่จะต่อต้านเมืองทหารรับจ้างเพราะพวกเขากลัวตระกูลเจียงหยางและเมืองทหารรับจ้าง ถ้าไม่ใช่เพราะมีองค์กรที่ทรงพลังถึง 2 องค์กรคอยหนุนหลังพวกเขาอยู่ กลุ่มทหารรับจ้างคงไม่มีพลังพอทีจะครอบครองเหมืองทังสเตนขนาดใหญ่แบบนี้เอาไว้แน่

“เอาหล่ะ ตราบที่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีไม่มีใครที่ทรงพลังมาสนับสนุนหล่ะก็ พวกเรากลุ่มทหารรับจ้างหายนะจะเข้าไปยึดแล้วนะ”

หลังจากนั้น หลายคนในพวกเขาก็แสดงความคิดเห็นออกมา พวกเขาแต่ละคนเป็นหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างใหญ่ ทั้งหมดมีประวัติการต่อสู้มานานกว่าพันหรือหลายพันปี แม้ว่าพวกเขาจะเป็นแต่เซียนสวรรค์ แต่ก็ยังมีหัวหน้าคนก่อน ๆ เข้ามาร่วมด้วย มีเซียนผู้คุมกฎบางคนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย

หัวหน้าหลายคนสนใจเมืองอัคนีมาก ดังนั้นพวกเขาจึงจะเข้าร่วมในการยึดครั้งนี้ด้วย มีเพียงบางคนในพวกเขาที่ลังเลและไม่สนใจที่จะเข้าร่วม

ไป่เจี้ยนมองไปที่เขาด้วยความเย็นชา ก่อนที่จะมองลงไปที่เมืองอัคนีอีกครั้ง เขาพูด “เมืองน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในอีกปีที่จะถึงนี้ เมื่อมันสร้างเสร็จแล้ว มันจะเป็นเวลาที่พวกเราไปยึดครองมัน ข้าจะไปเชิญท่านพ่อของข้าและผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายยิหยวนเพื่อมาสร้างประตูมิติเมื่อเวลามาถึง และส่งกลุ่มของพวกเจ้าที่อยู่ห่างไปหลายร้อยกิโลเมตรเข้ามา”

“นั่นคงจะดีมาก ด้วยการช่วยเหลือจากผู้อาวุโสที่เคารพทั้งสองคน มันคงจะง่ายมากที่คนของพวกเราจะมาที่นี่ได้” หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างทั้งหมดเผยความยินดีออกมา

ไกลจากตัวทวีปออกไป หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั่งอยู่ที่ขอบผาของเกาะสามเซียน นางวางพิณปีศาจร่ำไห้ไว้บนพื้นที่ราบเรียบ และเล่นพิณด้วยนิ้วที่ขาวสวยของนางอย่างนิ่มนวล มันส่งเสียงที่น่าพึงพอใจออกมา

นางไม่ได้สวมผ้าคลุมหน้า และนางเผยให้เห็นความงดงามของนางที่แม้แต่ท้องฟ้ายังต้องอิจฉา ผมของนางที่อยู่ข้าง ๆ หูของนางพลิ้วไหวอย่างอ่อนโยนไปกับสายลมอ่อน ๆ ซึ่งปิดบังส่วนเล็ก ๆ ของใบหน้าของนางเอาไว้ มันทำให้นางดูงดงามมากยิ่งขึ้นไปอีก

เสียงโน้ตของพิณเป็นทำนองที่มีเสน่ห์และสุขุมก้องกังวานไปรอบ ๆ มันเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและส่งผลให้ผู้คนที่ได้ยินเสียงของมันรู้สึกเศร้าหมองเช่นกัน

เสียงโน้ตสะท้อนอย่างนุ่มนวลไปทั่วทั้งบริเวณ สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ได้ยินเสียงก็เงียบลง แต่ละตัวหยุดหาอาหาร พวกมันนอนลงบนพื้นและฟังเสียงเพลงอยู่อย่างเงียบ ๆ เสียงเพลงดูเหมือนจะเป็นทำนองที่สวยงามที่สุดในโลก ความเศร้าในทำนองทำให้สิ่งมีชีวิตบางตัวถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ออกมา

“เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมนางถึงเสียใจโดยไม่มีสาเหตุแบบนี้ ? ” เสี่ยวเยี่ยมองไปที่ที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อยู่ด้วยความสงสัย นางเต็มไปด้วยความอยากรู้

“ข้ารู้สึกว่าอาจารย์เสียใจและเศร้าโศกมาก มันแปลกจริง ๆ ทำไมอาจารย์ถึงได้รู้สึกแบบนี้ ? ” เสี่ยวเหยียนพูดอย่างสงสัยในขณะที่นางกระพริบตาที่สดใสของนาง พวกเขาสับสนว่าทำไมหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถึงได้รู้สึกแบบนี้โดยไม่ได้มีเหตุผลอะไร

เพลงเศร้าค่อยค่อยหยุดลง หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์หยุดเล่นพิณของนาง นางวางนิ้วของนางอย่างนุ่มนวลไปที่สายพิณและจ้องอย่างไร้ชีวิตชีวาไปที่ที่ทะเลและท้องฟ้าบรรจบกัน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

“เฮ้อ” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถอนหายใจยาวออกมาและพึมพำ “ข้าเกลียดเจ้าไหม หรือข้าไม่ได้เกลียด ? ” นางกำลังสับสนไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

ทันใดนั้นเอง ตาของนางก็หรี่เล็กลง นางมองไปไกลทันทีและนางก็โบกมืออย่างอ่อนโยน นางแหวกมิติเปิดออกทันที มันทำให้เกิดประตูมิติออกมาอย่างรวดเร็ว ผ่านประตูมิติไป ทวีปที่กว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดมองเห็นได้ในนั้น มันคือทวีปเทียนหยวน

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์หายเข้าไปในประตูมิติ และเดินออกไปที่ทวีปเทียนหยวนที่ห่างไกล

ภายในตระกูลเทียนฉินของเมืองหว่าลู่เหรินในอาณาจักรซูย่า หญิงสาวกำลังนั่งอยู่คนเดียวที่กระโจม นางเล่นพิณซึ่งเป็นเพลงที่ไพเราะออกมาซึ่งดังผ่านสวนไปอย่างนุ่มนวล

แม้ว่าพิณของฉินฉินจะอยู่ในระดับที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของคนได้ แต่มันก็มีพลังพอที่จะมีอิทธิพลกับความรู้สึกของผู้คนได้ มันสามารถทำให้คนอื่นถูกมัวเมาได้อย่างไม่เต็มใจด้วยเสียงเพลงจากพิณของนาง

พิณของฉินฉินดูเหมือนพิณปีศาจร่ำไห้ที่ใช้โดยหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เป๊ะ ๆ พิณสองอันนั้นมีสีเหมือนกัน ขนาดเหมือนกันและมีสายเท่ากัน มันดูเหมือนกันจริง ๆ

“ท่านเจี้ยนเฉิน ท่านอยู่ที่ไหน ? ท่านยังสบายดีหรือไม่ ? ” ฉินฉินอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงใบหน้าที่แน่วแน่และหล่อเหลาของเจี้ยนเฉิน นางรำลึกถึงอดีตและอาจจะเป็นเพราะอารมณ์ของนาง เพลงที่นางเล่นจึงแฝงไว้ด้วยความปรารถนาและความห่วงใย

“ฉินเอ๋อ เจ้ามาเล่นที่นี่อีกแล้ว ! ” เสียงหนักแน่นดังมาจากด้านหลังของนาง หัวหน้าตระกูลได้มาถึงตรงหน้านาง และจ้องไปที่นางพร้อมรอยยิ้ม

ฉินฉินไม่ได้พูดอะไร นางไม่ได้หยุดขยับนิ้วของนางเหมือนว่านางไม่ได้ยินเสียงด้านหลังของนางเลย

“ฉินเอ๋อ งานแต่งงานของเจ้ากับคุณชายใหญ่ของตระกูลซูยันจะมีขึ้นในอีก 3 วัน ทำไมเจ้าไม่ไปเตรียมตัว

ล่ะ” หัวหน้าตระกูลพูดด้วยรอยยิ้ม

เสียงเพลงหยุดทันที ฉินฉินพูดด้วยเสียงอ่อนโยนแต่แน่วแน่ “ท่านพ่อ ข้าไม่ต้องการที่จะแต่งงาน”

“ฉินเอ๋อ เจ้าไม่ใช่เด็กอีกแล้ว มันถึงเวลาที่เจ้าต้องแต่งงานแล้ว น่าเสียดายที่เจ้าไม่สามารถฝึกฝนได้ ดังนั้นเจ้าจึงต้องอยู่แบบคนธรรมดาตลอดไป ไม่เช่นนั้น พ่อเจ้าเองคงไม่บังคับเจ้าแบบนี้หรอก” หัวหน้าตระกูลพูดออกมา เขาช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ

“แต่ข้าไม่ชอบคุณชายใหญ่ของตระกูลซูยัน ท่านพ่อต้องการที่จะบังคับให้ข้าแต่งงานกับคนที่ข้าไม่ได้รักอย่างนั้นหรือ ? ” น้ำเสียงของฉินฉินเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“เฮ้อ” หัวหน้าตระกูลถอนหายใจยาวออกมา เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีในตอนนี้

ในตอนนี้เอง พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลจู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมา มันครอบคลุมไปทั้งตระกูล ต่อหน้าแรงกดดันนี้ ยามทุกคนรู้สึกเหมือนมีหินก้อนโตมากระแทกกับพวกเขา มันทำให้เป็นการยากที่พวกเขาจะยืนอยู่ได้ และในตอนนี้พวกเขาก็ขยับไม่ได้ แม้แต่เซียนสวรรค์เองก็ยังเป็นเหมือนกัน

ทั่วทั้งตระกูล คนที่ไม่ได้รับผลกระทบใดใดเลยคือฉินฉิน

ในตอนนี้เอง หญิงในชุดม่วงที่คลุมหน้าอยู่ได้ลดระดับลงมาจากท้องฟ้า นางดูเหมือนนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์ นางเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสง่างามและศักดิ์สิทธิ์

หญิงนางนี้ถือพิณอยู่ นางหยุด 1 เมตรเหนืออากาศและจ้องไปที่ฉินฉิน ด้วยสิ่งเดียวที่เห็นอยู่บนใบหน้าของนาง นั้นก็คือตาที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดใดของนาง นางพูด “เจ้าปรารถนาที่จะให้ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าหรือไม่ ? “

หัวหน้าตระกูลเทียนฉินถูกตรึงไว้โดยมิติพันธนาการอย่างไม่รู้ตัว เขาต้องไปที่หญิงลึกลับด้วยความตกใจในขณะที่อารมณ์ของเขาปั่นป่วน เขายากที่จะพูดใดใดออกมาได้

ฉินฉินก็จ้องไปที่หญิงนั่นด้วยความตกใจ ก่อนที่จะจับตาดูไปที่พิณที่อยู่ในแขนของนาง มันเป็นพิณแบบเดียวกันกับที่นางใช้เลย

“ทะ ทะ ท่านคือหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ? ” ฉินฉินร้องออกมาเมื่อนางรู้ตัวตนของหญิงคนนี้จากพิณปีศาจร่ำไห้

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อยและพูดอย่างสงบ “เจ้าลากข้ามาที่นี่ด้วยเสียงพิณของเจ้า เรามีชะตาที่ต้องกัน เจ้าปรารถนาที่จะรับข้าไปเป็นอาจารย์ของเจ้าหรือเปล่า ? “

“ข้าต้องการ ข้าต้องการ ศิษย์ฉินฉินขอคารวะท่านอาจารย์” ฉินฉินเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว นางชอบเล่นพิณ ในขณะที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็เหมือนเทพเจ้าแห่งพิณ ครั้งหนึ่งนางเคยฝันที่จะได้กลายเป็นศิษย์ของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ และในตอนนี้โอกาสก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว นางจะปล่อยมันไปได้อย่างไร ?

“เจ้าจำเป็นต้องมากับข้าถ้าเจ้ายอมรับแล้ว เจ้าจะไปไกลจากทวีปเพื่อที่จะไปฝึกฝน เจ้ายอมรับหรือไม่ ? ” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถาม

ฉินฉินลังเลเล็กน้อย ความไม่ปรารถนาที่จะจากไปปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง แต่ตาของนางก็แน่วแน่ขึ้นในไม่ช้า “ศิษย์ต้องการที่จะไปจากตระกูลและตามท่านอาจารย์ไปไกลจากทวีป แต่ศิษย์อยากจะขอเวลาท่านอาจารย์ในการร่ำลาครอบครัวก่อน”

แรงกดดันจากหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็ได้หายไป และทำให้คนอื่นเป็นอิสระจากการตรึงของนาง

หัวหน้าตระกูลคำนับไปที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อย่างสุภาพ ก่อนที่จะหันไปหาฉินฉินแล้วพูด “ฉินเอ๋อ เจ้าจะไปจากตระกูลจริงหรือ ? “

ฉินฉินพยักหน้าอย่างแน่วแน่ “ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าว่าไม่สามารถฝึกฝนได้และข้าชอบเล่นพิณก็เท่านั้น การตามท่านอาจารย์ไปเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนแปลงชะตาของข้าได้”

หัวหน้าตระกูลครุ่นคิดเงียบ ๆ ก่อนที่จะถอนหายใจยาวออกมา “เอาละ ถ้างั้นฉินเอ๋อ ไปเถอะไม่ต้องกังวลอะไร เมื่อเจ้ามีเวลา เจ้าก็กลับมาเยี่ยมพ่อบ้างละกัน สำหรับเรื่องการแต่งงานกับคุณชายตระกูลซูยัน พ่อจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้และยกเลิกมันซะ”

ในตอนนี้เอง กลุ่มคนจำนวนมากก็รีบเข้ามาจากรอบ ๆ คนที่อยู่หน้าสุดเป็นคุณชายของตระกูล ฉินเซียว

ฉินฉินบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่นางคารวะหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เป็นอาจารย์ทันที ก่อนที่จะร่ำลาพวกเขา นางรู้ว่าทันทีที่นางจากไป นางจะไม่กลับมาอีกในเร็ว ๆ นี้ หลังจากนั้น นางคงต้องเดินทางไปไกลหลายสิบล้านกิโลเมตร แม้แต่เซียนผู้คุมกฎก็ยังใช้เวลาหลายเดือนที่จะเดินทางไปโดยไม่หยุดพักเลย

“น้องสาว พี่เคารพการตัดสินใจของเจ้า ในอนาคต พี่จะกลายเป็นเซียนสวรรค์อย่างแน่นอนและไปหาเจ้าที่ทะเลแสนไกลนั่น” ดวงตาของฉินเซียวคลอไปด้วยน้ำตา เขาไม่อยากที่จะแยกจากฉินฉินไป

ตาของฉินฉินเองก็คลอไปด้วยน้ำตาเช่นกัน นางพูด “ท่านพี่ เมื่อท่านได้พบนายน้อยเจี้ยนเฉินอีกครั้ง กรุณาเอาภาพวาดนี้ให้เขาด้วย” ฉินฉินดึงกระดาษออกมาจากสาบเสื้อของนาง ก่อนที่จะเปิดมันออกอย่างช้า ๆ ไม่ต้องแปลกใจเลยที่รู้นั้นเป็นภาพวาดของเจี้ยนเฉิน เขากำลังถือกระบี่วายโปรยอยู่ ท่าทางของเขากับกระบี่นั้นเฉียบคม เหมือนว่าทุก ๆ การโจมตีของเขานั้นร้ายแรงมาก ภาพวาดนี้เหมือนจริงเป็นที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 909: ฉินฉินรับอาจารย์

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 909: ฉินฉินรับอาจารย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 909: ฉินฉินรับอาจารย์

ชายที่อยู่รอบ ๆ ไป่เจี้ยนเริ่มที่จะหายใจแรงเมื่อเขาได้ยินแบบนี้ สายตาที่พวกเขามองไปที่เมืองอัคนีที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างไม่มีความกลัวอีกต่อไป ในตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยสายตาแห่งความละโมบแทน

“องค์ชายไป่เจี้ยน ถ้าตระกูลผู้พิทักษ์และเมืองทหารรับจ้างจะไม่เข้ามายุ่งจริง ๆ แล้วพวกเราจะต้องกลัวอะไรอีกล่ะ ? ” หนึ่งในชายวัยกลางคนพูดออกมาทันทีอย่างตื่นเต้น

แม้ว่าจะเป็นในทั่วทั้งทวีปเทียนหยวน เมืองที่ทำมาจากทังสเตนทั้งหมดเช่นเมืองอัคนีก็ทำให้ทุกคนอิจฉาตาร้อนได้ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลสันโดษที่มีเซียนผู้คุมกฎหรือตระกูลโบราณที่มีเซียนราชาก็ตาม พวกเขาก็น้ำลายไหลไปตาม ๆ กัน นี่เป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่กล้าที่จะต่อต้านเมืองทหารรับจ้างเพราะพวกเขากลัวตระกูลเจียงหยางและเมืองทหารรับจ้าง ถ้าไม่ใช่เพราะมีองค์กรที่ทรงพลังถึง 2 องค์กรคอยหนุนหลังพวกเขาอยู่ กลุ่มทหารรับจ้างคงไม่มีพลังพอทีจะครอบครองเหมืองทังสเตนขนาดใหญ่แบบนี้เอาไว้แน่

“เอาหล่ะ ตราบที่กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีไม่มีใครที่ทรงพลังมาสนับสนุนหล่ะก็ พวกเรากลุ่มทหารรับจ้างหายนะจะเข้าไปยึดแล้วนะ”

หลังจากนั้น หลายคนในพวกเขาก็แสดงความคิดเห็นออกมา พวกเขาแต่ละคนเป็นหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างใหญ่ ทั้งหมดมีประวัติการต่อสู้มานานกว่าพันหรือหลายพันปี แม้ว่าพวกเขาจะเป็นแต่เซียนสวรรค์ แต่ก็ยังมีหัวหน้าคนก่อน ๆ เข้ามาร่วมด้วย มีเซียนผู้คุมกฎบางคนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย

หัวหน้าหลายคนสนใจเมืองอัคนีมาก ดังนั้นพวกเขาจึงจะเข้าร่วมในการยึดครั้งนี้ด้วย มีเพียงบางคนในพวกเขาที่ลังเลและไม่สนใจที่จะเข้าร่วม

ไป่เจี้ยนมองไปที่เขาด้วยความเย็นชา ก่อนที่จะมองลงไปที่เมืองอัคนีอีกครั้ง เขาพูด “เมืองน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในอีกปีที่จะถึงนี้ เมื่อมันสร้างเสร็จแล้ว มันจะเป็นเวลาที่พวกเราไปยึดครองมัน ข้าจะไปเชิญท่านพ่อของข้าและผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายยิหยวนเพื่อมาสร้างประตูมิติเมื่อเวลามาถึง และส่งกลุ่มของพวกเจ้าที่อยู่ห่างไปหลายร้อยกิโลเมตรเข้ามา”

“นั่นคงจะดีมาก ด้วยการช่วยเหลือจากผู้อาวุโสที่เคารพทั้งสองคน มันคงจะง่ายมากที่คนของพวกเราจะมาที่นี่ได้” หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างทั้งหมดเผยความยินดีออกมา

ไกลจากตัวทวีปออกไป หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั่งอยู่ที่ขอบผาของเกาะสามเซียน นางวางพิณปีศาจร่ำไห้ไว้บนพื้นที่ราบเรียบ และเล่นพิณด้วยนิ้วที่ขาวสวยของนางอย่างนิ่มนวล มันส่งเสียงที่น่าพึงพอใจออกมา

นางไม่ได้สวมผ้าคลุมหน้า และนางเผยให้เห็นความงดงามของนางที่แม้แต่ท้องฟ้ายังต้องอิจฉา ผมของนางที่อยู่ข้าง ๆ หูของนางพลิ้วไหวอย่างอ่อนโยนไปกับสายลมอ่อน ๆ ซึ่งปิดบังส่วนเล็ก ๆ ของใบหน้าของนางเอาไว้ มันทำให้นางดูงดงามมากยิ่งขึ้นไปอีก

เสียงโน้ตของพิณเป็นทำนองที่มีเสน่ห์และสุขุมก้องกังวานไปรอบ ๆ มันเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและส่งผลให้ผู้คนที่ได้ยินเสียงของมันรู้สึกเศร้าหมองเช่นกัน

เสียงโน้ตสะท้อนอย่างนุ่มนวลไปทั่วทั้งบริเวณ สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ได้ยินเสียงก็เงียบลง แต่ละตัวหยุดหาอาหาร พวกมันนอนลงบนพื้นและฟังเสียงเพลงอยู่อย่างเงียบ ๆ เสียงเพลงดูเหมือนจะเป็นทำนองที่สวยงามที่สุดในโลก ความเศร้าในทำนองทำให้สิ่งมีชีวิตบางตัวถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ออกมา

“เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมนางถึงเสียใจโดยไม่มีสาเหตุแบบนี้ ? ” เสี่ยวเยี่ยมองไปที่ที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อยู่ด้วยความสงสัย นางเต็มไปด้วยความอยากรู้

“ข้ารู้สึกว่าอาจารย์เสียใจและเศร้าโศกมาก มันแปลกจริง ๆ ทำไมอาจารย์ถึงได้รู้สึกแบบนี้ ? ” เสี่ยวเหยียนพูดอย่างสงสัยในขณะที่นางกระพริบตาที่สดใสของนาง พวกเขาสับสนว่าทำไมหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถึงได้รู้สึกแบบนี้โดยไม่ได้มีเหตุผลอะไร

เพลงเศร้าค่อยค่อยหยุดลง หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์หยุดเล่นพิณของนาง นางวางนิ้วของนางอย่างนุ่มนวลไปที่สายพิณและจ้องอย่างไร้ชีวิตชีวาไปที่ที่ทะเลและท้องฟ้าบรรจบกัน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

“เฮ้อ” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถอนหายใจยาวออกมาและพึมพำ “ข้าเกลียดเจ้าไหม หรือข้าไม่ได้เกลียด ? ” นางกำลังสับสนไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

ทันใดนั้นเอง ตาของนางก็หรี่เล็กลง นางมองไปไกลทันทีและนางก็โบกมืออย่างอ่อนโยน นางแหวกมิติเปิดออกทันที มันทำให้เกิดประตูมิติออกมาอย่างรวดเร็ว ผ่านประตูมิติไป ทวีปที่กว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดมองเห็นได้ในนั้น มันคือทวีปเทียนหยวน

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์หายเข้าไปในประตูมิติ และเดินออกไปที่ทวีปเทียนหยวนที่ห่างไกล

ภายในตระกูลเทียนฉินของเมืองหว่าลู่เหรินในอาณาจักรซูย่า หญิงสาวกำลังนั่งอยู่คนเดียวที่กระโจม นางเล่นพิณซึ่งเป็นเพลงที่ไพเราะออกมาซึ่งดังผ่านสวนไปอย่างนุ่มนวล

แม้ว่าพิณของฉินฉินจะอยู่ในระดับที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของคนได้ แต่มันก็มีพลังพอที่จะมีอิทธิพลกับความรู้สึกของผู้คนได้ มันสามารถทำให้คนอื่นถูกมัวเมาได้อย่างไม่เต็มใจด้วยเสียงเพลงจากพิณของนาง

พิณของฉินฉินดูเหมือนพิณปีศาจร่ำไห้ที่ใช้โดยหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เป๊ะ ๆ พิณสองอันนั้นมีสีเหมือนกัน ขนาดเหมือนกันและมีสายเท่ากัน มันดูเหมือนกันจริง ๆ

“ท่านเจี้ยนเฉิน ท่านอยู่ที่ไหน ? ท่านยังสบายดีหรือไม่ ? ” ฉินฉินอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงใบหน้าที่แน่วแน่และหล่อเหลาของเจี้ยนเฉิน นางรำลึกถึงอดีตและอาจจะเป็นเพราะอารมณ์ของนาง เพลงที่นางเล่นจึงแฝงไว้ด้วยความปรารถนาและความห่วงใย

“ฉินเอ๋อ เจ้ามาเล่นที่นี่อีกแล้ว ! ” เสียงหนักแน่นดังมาจากด้านหลังของนาง หัวหน้าตระกูลได้มาถึงตรงหน้านาง และจ้องไปที่นางพร้อมรอยยิ้ม

ฉินฉินไม่ได้พูดอะไร นางไม่ได้หยุดขยับนิ้วของนางเหมือนว่านางไม่ได้ยินเสียงด้านหลังของนางเลย

“ฉินเอ๋อ งานแต่งงานของเจ้ากับคุณชายใหญ่ของตระกูลซูยันจะมีขึ้นในอีก 3 วัน ทำไมเจ้าไม่ไปเตรียมตัว

ล่ะ” หัวหน้าตระกูลพูดด้วยรอยยิ้ม

เสียงเพลงหยุดทันที ฉินฉินพูดด้วยเสียงอ่อนโยนแต่แน่วแน่ “ท่านพ่อ ข้าไม่ต้องการที่จะแต่งงาน”

“ฉินเอ๋อ เจ้าไม่ใช่เด็กอีกแล้ว มันถึงเวลาที่เจ้าต้องแต่งงานแล้ว น่าเสียดายที่เจ้าไม่สามารถฝึกฝนได้ ดังนั้นเจ้าจึงต้องอยู่แบบคนธรรมดาตลอดไป ไม่เช่นนั้น พ่อเจ้าเองคงไม่บังคับเจ้าแบบนี้หรอก” หัวหน้าตระกูลพูดออกมา เขาช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ

“แต่ข้าไม่ชอบคุณชายใหญ่ของตระกูลซูยัน ท่านพ่อต้องการที่จะบังคับให้ข้าแต่งงานกับคนที่ข้าไม่ได้รักอย่างนั้นหรือ ? ” น้ำเสียงของฉินฉินเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“เฮ้อ” หัวหน้าตระกูลถอนหายใจยาวออกมา เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีในตอนนี้

ในตอนนี้เอง พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลจู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมา มันครอบคลุมไปทั้งตระกูล ต่อหน้าแรงกดดันนี้ ยามทุกคนรู้สึกเหมือนมีหินก้อนโตมากระแทกกับพวกเขา มันทำให้เป็นการยากที่พวกเขาจะยืนอยู่ได้ และในตอนนี้พวกเขาก็ขยับไม่ได้ แม้แต่เซียนสวรรค์เองก็ยังเป็นเหมือนกัน

ทั่วทั้งตระกูล คนที่ไม่ได้รับผลกระทบใดใดเลยคือฉินฉิน

ในตอนนี้เอง หญิงในชุดม่วงที่คลุมหน้าอยู่ได้ลดระดับลงมาจากท้องฟ้า นางดูเหมือนนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์ นางเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสง่างามและศักดิ์สิทธิ์

หญิงนางนี้ถือพิณอยู่ นางหยุด 1 เมตรเหนืออากาศและจ้องไปที่ฉินฉิน ด้วยสิ่งเดียวที่เห็นอยู่บนใบหน้าของนาง นั้นก็คือตาที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดใดของนาง นางพูด “เจ้าปรารถนาที่จะให้ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าหรือไม่ ? “

หัวหน้าตระกูลเทียนฉินถูกตรึงไว้โดยมิติพันธนาการอย่างไม่รู้ตัว เขาต้องไปที่หญิงลึกลับด้วยความตกใจในขณะที่อารมณ์ของเขาปั่นป่วน เขายากที่จะพูดใดใดออกมาได้

ฉินฉินก็จ้องไปที่หญิงนั่นด้วยความตกใจ ก่อนที่จะจับตาดูไปที่พิณที่อยู่ในแขนของนาง มันเป็นพิณแบบเดียวกันกับที่นางใช้เลย

“ทะ ทะ ท่านคือหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ ? ” ฉินฉินร้องออกมาเมื่อนางรู้ตัวตนของหญิงคนนี้จากพิณปีศาจร่ำไห้

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พยักหน้าเล็กน้อยและพูดอย่างสงบ “เจ้าลากข้ามาที่นี่ด้วยเสียงพิณของเจ้า เรามีชะตาที่ต้องกัน เจ้าปรารถนาที่จะรับข้าไปเป็นอาจารย์ของเจ้าหรือเปล่า ? “

“ข้าต้องการ ข้าต้องการ ศิษย์ฉินฉินขอคารวะท่านอาจารย์” ฉินฉินเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว นางชอบเล่นพิณ ในขณะที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็เหมือนเทพเจ้าแห่งพิณ ครั้งหนึ่งนางเคยฝันที่จะได้กลายเป็นศิษย์ของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ และในตอนนี้โอกาสก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว นางจะปล่อยมันไปได้อย่างไร ?

“เจ้าจำเป็นต้องมากับข้าถ้าเจ้ายอมรับแล้ว เจ้าจะไปไกลจากทวีปเพื่อที่จะไปฝึกฝน เจ้ายอมรับหรือไม่ ? ” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ถาม

ฉินฉินลังเลเล็กน้อย ความไม่ปรารถนาที่จะจากไปปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง แต่ตาของนางก็แน่วแน่ขึ้นในไม่ช้า “ศิษย์ต้องการที่จะไปจากตระกูลและตามท่านอาจารย์ไปไกลจากทวีป แต่ศิษย์อยากจะขอเวลาท่านอาจารย์ในการร่ำลาครอบครัวก่อน”

แรงกดดันจากหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ก็ได้หายไป และทำให้คนอื่นเป็นอิสระจากการตรึงของนาง

หัวหน้าตระกูลคำนับไปที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อย่างสุภาพ ก่อนที่จะหันไปหาฉินฉินแล้วพูด “ฉินเอ๋อ เจ้าจะไปจากตระกูลจริงหรือ ? “

ฉินฉินพยักหน้าอย่างแน่วแน่ “ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าว่าไม่สามารถฝึกฝนได้และข้าชอบเล่นพิณก็เท่านั้น การตามท่านอาจารย์ไปเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนแปลงชะตาของข้าได้”

หัวหน้าตระกูลครุ่นคิดเงียบ ๆ ก่อนที่จะถอนหายใจยาวออกมา “เอาละ ถ้างั้นฉินเอ๋อ ไปเถอะไม่ต้องกังวลอะไร เมื่อเจ้ามีเวลา เจ้าก็กลับมาเยี่ยมพ่อบ้างละกัน สำหรับเรื่องการแต่งงานกับคุณชายตระกูลซูยัน พ่อจะบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้และยกเลิกมันซะ”

ในตอนนี้เอง กลุ่มคนจำนวนมากก็รีบเข้ามาจากรอบ ๆ คนที่อยู่หน้าสุดเป็นคุณชายของตระกูล ฉินเซียว

ฉินฉินบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่นางคารวะหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เป็นอาจารย์ทันที ก่อนที่จะร่ำลาพวกเขา นางรู้ว่าทันทีที่นางจากไป นางจะไม่กลับมาอีกในเร็ว ๆ นี้ หลังจากนั้น นางคงต้องเดินทางไปไกลหลายสิบล้านกิโลเมตร แม้แต่เซียนผู้คุมกฎก็ยังใช้เวลาหลายเดือนที่จะเดินทางไปโดยไม่หยุดพักเลย

“น้องสาว พี่เคารพการตัดสินใจของเจ้า ในอนาคต พี่จะกลายเป็นเซียนสวรรค์อย่างแน่นอนและไปหาเจ้าที่ทะเลแสนไกลนั่น” ดวงตาของฉินเซียวคลอไปด้วยน้ำตา เขาไม่อยากที่จะแยกจากฉินฉินไป

ตาของฉินฉินเองก็คลอไปด้วยน้ำตาเช่นกัน นางพูด “ท่านพี่ เมื่อท่านได้พบนายน้อยเจี้ยนเฉินอีกครั้ง กรุณาเอาภาพวาดนี้ให้เขาด้วย” ฉินฉินดึงกระดาษออกมาจากสาบเสื้อของนาง ก่อนที่จะเปิดมันออกอย่างช้า ๆ ไม่ต้องแปลกใจเลยที่รู้นั้นเป็นภาพวาดของเจี้ยนเฉิน เขากำลังถือกระบี่วายโปรยอยู่ ท่าทางของเขากับกระบี่นั้นเฉียบคม เหมือนว่าทุก ๆ การโจมตีของเขานั้นร้ายแรงมาก ภาพวาดนี้เหมือนจริงเป็นที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+