Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 922: คลังสมบัติ

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 922: คลังสมบัติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 922: คลังสมบัติ

จิตสังหารที่รุนแรงเป็นประกายในตาของเจี้ยนเฉิน เขาใช้ทักษะมายาพริบตากลายเป็นภาพติดตาและไล่ตามคนผู้นั้นไป กระบี่ของเจี้ยนเฉินแทงออกไปทันทีและแทงไปที่หลังของคนนั้น

คนผู้นั้นคำรามออกมาในขณะที่พลังของเซียนราชาก็พุ่งพวยออกมาจากร่างกายของเขา มันกลายเป็นเกราะบนตัวเขาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พลังงานส่วนหนึ่งควบแน่นกลายเป็นลูกบอลพลังงานขนาดกว้าง 8 เซนติเมตรที่มือซ้ายของเขา มันเปล่งประกายไปด้วยพลังงานที่น่ากลัว

“ผู้คุมกฎเผ่าเต่า ถ้าเจ้ายังมากดดันข้าอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ ข้าก็จะยอมตายไปพร้อมกับเจ้า” คนผู้นั้นตะโกนออกมาในขณะที่เขาพยายามที่จะขู่เจี้ยนเฉินด้วยบอลพลังงานนั้น

อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้สนใจคำขู่นั้น เขาแทงยุทธภัณฑ์ราชาของเขาเข้าไปที่เกราะ

ชิ้ง !

การปะทะกันระหว่างอาวุธกับเกราะทำให้เกิดเสียงโลหะกระทบกันขึ้นมาและพลังงานที่รุนแรงก็พัดให้คนผู้นั้นกระเด็นออกไป มันทำให้เกราะของคนนั้นเป็นรอยร้าว ก่อนที่จะเกราะจะแตกออกด้วยเสียงอันดัง

คนผู้นั้นตกอย่างแรงไปที่พื้นหลายสิบเมตร เขาอึ้งเมื่อเห็นว่าเกราะของเขาแตกสลายไปทั้งหมด เขารู้ดีว่าเกราะนี้มีการป้องกันที่แข็งแกร่งเพียงใดเพราะมันควบแน่นมาจากพลังของเซียนราชา มันไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้ว่ามันต้องต่อต้านการโจมตีของสัตว์อสูรระดับ 7 หลายตัว แต่มันก็แตกสลายไปเพราะการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเจี้ยนเฉิน

“เป็นไปไม่ได้ เผ่าเต่ามีการป้องกันที่แข็งแกร่งแต่อ่อนในด้านการโจมตี เห็นอยู่ว่าผู้คุมกฎอยู่ในขั้นสูงสุดของ 14 ดาว แต่ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ ? ” คนผู้นั้นอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง แต่ในตอนนั้นเอง ภาพเบลอก็มาถึงตรงหน้าเขา เจี้ยนเฉินมาถึงและแทงออกไปด้วยยุทธภัณฑ์ราชาของเขาที่เปล่งประกายไปด้วยแสงสีดำและกลิ่นอายแห่งการทำลายล้าง

“เจ้าบังคับต้องให้ข้าทำแบบนี้เองนะ ผู้คุมกฎเผ่าเต่า” ความแน่วแน่ปรากฏขึ้นที่หน้าของคนคนนั้น เขาเหวี่ยงแขนแล้วขว้างพลังงานที่ถูกควบแน่นออกมา

เจี้ยนเฉินเปลี่ยนทิศทางการโจมตี อาวุธของเขาเปลี่ยนไปโจมตีที่บอลพลังงานแทน

บูม !

พลังของเซียนราชาแตกกระจายไปด้วยการโจมตีของเจี้ยนเฉิน ทำให้พลังงานที่รุนแรงซึ่งพุ่งพวยออกมากระแทกเข้าไปที่เจี้ยนเฉินอย่างแรง

เจี้ยนเฉินถอยกลับไปอย่างคุมตัวเองไม่ได้ ในตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเขา

สายตาของเขาเย็นชา นี่เป็นสิ่งที่เขาจะแสดงออกมาเฉพาะเมื่อจิตสังหารพุ่งพวยอยู่ในหัวใจของเขาเท่านั้น เขากระโจนอย่างแรงออกมาจากพื้นและใช้ทักษะมายาพริบตาเพื่อพุ่งเข้าไปที่ชายชรานั่นอีกครั้ง

ครั้งนี้ ชายชราไม่มีพลังที่จะต่อต้านเจี้ยนเฉินอีกแล้ว ทั้งหมดที่เขาทำได้มีเพียงมองดูเจี้ยนเฉินที่กำลังเข้ามาใกล้

ฉึบ ! หว่างคิ้วของของชายชราถูกแทงทะลุเข้าไปและกำจัดวิญญาณของเขาออกไป เจี้ยนเฉินเอาแหวนมิติออกมาจากมือของชายชราและมองดูด้านใน เขาผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อเขายืนยันได้ว่าผลึกอยู่ด้านในนั้น เจี้ยนเฉินได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องผลึกแล้วเมื่อสายตาของเขาเห็นมันในตอนแรก

ทันใดนั้นเอง ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็หม่นลง เขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งกี่มีอยู่หลายคนที่กำลังพุ่งเป้ามาที่เขา คนมากกว่าสิบคนได้ล้อมเขาเอาไว้ แต่ละคนมองเขาอย่างดุร้าย

มือของเจี้ยนเฉินกระตุก แล้วยุทธภัณฑ์ราชาก็เริ่มเปล่งประกายสีดำออกมา กลิ่นอายแห่งการทำลายล้างของมันก็เติมเต็มไปทั่วทั้งห้องและกดดันคนที่อยู่รอบ ๆ มันข่มทุกคนรอบ ๆ อย่างมาก

“ถ้าพวกเจ้ายังต้องการผลึกอยู่ละก็ เข้ามา” เจี้ยนเฉินชูกระบี่ขึ้นไปบนท้องฟ้าในขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เขาลื่นไหลไปกับกลิ่นอายที่หนาแน่นเหมือนว่าผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เขานั้นไม่มีอะไร

“ผู้คุมกฎของเผ่าเต่า พวกเราไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับเจ้า แต่มันช่างเป็นผลึกที่ชิ้นใหญ่เหลือเกิน มันไม่มีเหตุผลเลยถ้าเจ้าจะเอามันไปคนเดียว ทำไมเจ้าไม่เอามันออกมาแล้วแบ่งกันล่ะ ? เพราะว่าเราก็เจอมันพร้อม ๆ กัน” ชายชราชุดดำพูดออกมาด้วยเสียงทุ้ม เขากลัวเจี้ยนเฉินมากแต่ความยั่วยวนของผลึกศักดิ์สิทธิ์นั้นก็มากเหลือเกิน อีกทั้งยังมีหลายคนที่อยู่ที่นี่อีก ดังนั้นเขาเชื่อว่า ถ้าพวกเขาร่วมมือกัน ผู้คุมกฎเผ่าเต่าก็คงสู้พวกเขาไม่ได้แม้ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด

เจี้ยนเฉินชูแหวนมิติสูงขึ้นด้วยมือซ้ายของเขาและพูดออกมา “ผลึกอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าเจ้าต้องการมันก็เข้ามา”

“ผู้คุมกฎเผ่าเต่า เจ้าแข็งแกร่งก็จริง นั่นเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่เจ้ามั่นใจแค่ไหนที่จะสู้กับทักษะเซียนระดับเทียนของข้า ? ” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างทะนงตัว เขาเป็นหนึ่งในคนที่มีทักษะเซียนระดับเทียน

ลมเริ่มพัดหวีดหวิวในขณะที่ชายหนุ่มพูดจบ เจี้ยนเฉินปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาด้วยความเร็วแสง และแทงไปที่หว่างคิ้วของชายหนุ่มอย่างไม่ลังเล

ชายหนุ่มตกตะลึง เขาไม่คาดว่าเจี้ยนเฉินจะเริ่มโจมตีก่อน พลังของเซียนราชาพุ่งพวยขึ้นมาเพื่อพยายามที่จะด้านการโจมตีที่กะทันหันของเจี้ยนเฉิน

อย่างไรก็ตาม กระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเร็วกว่าเมื่อก่อนหลายเท่ามาก ดาบดูเหมือนจะเหนือกว่ากฎของมิติและข้ามผ่านข้อจำกัดของเวลาไป เขาแทงออกไปด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อเป็นลำแสงออกไป

ฟุ้บ !

ชายหนุ่มไม่มีเวลาที่จะควบแน่เกราะเลยแม้แต่น้อย ยุทธภัณฑ์ราชาแทงทะลุหัวของเขาด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง และกำจัดวิญญาณของเขาไป

“ช่างเป็นการโจมตีที่ว่องไวอะไรปานนี้”

เสียงอุทานดังออกมาจากรอบ ๆ ท่าทางของทุกคนเปลี่ยนไป พวกเขาทั้งหมดอึ้งด้วยความเร็วที่เจี้ยนเฉินแสดงออกมา มันเร็วเกินไป พวกเขาคงตกอยู่ในสภาพเดียวกันถ้าพวกเขาไม่ระวังตัวและไปเผชิญหน้ากันดาบ

และเซียนผู้คุมกฎที่อยู่ในระดับสูงสุดที่รู้ทักษะเซียนระดับเทียนก็ได้จบชีวิตลง

สายตาที่ทุกคนมองเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไป ในขณะที่ความหวาดกลัวที่มีต่อเจี้ยนเฉินก็พุ่งพวยขึ้นสูง เจี้ยนเฉินเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวจริง ๆ

เจี้ยนเฉินดึงกระบี่ออกมาจากหัวของชายหนุ่มช้า ๆ แล้วพูดอย่างเย็นชา “เจ้ารู้ทักษะเซียนระดับเทียนแล้วไง ? ต่อหน้าข้า เจ้าไม่มีโอกาสที่จะร่ายมันด้วยซ้ำ”

ทั้งโถงตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนจ้องมองเจี้ยนเฉินโดยไม่ได้พูดอะไรเลย

ไทนิชจ้องไปที่เจี้ยนเฉินแต่ไกลในขณะที่สายตาของเขาสั่นไหว จิตสังหารที่แหลมคมซ่อนลึกอยู่ในดวงตาของเขาและเขาคิด “ผู้คุมกฎเผ่าเต่า เจ้าแข็งแกร่งจริง ๆ แต่สุดท้ายเจ้าก็ต้องตายด้วยน้ำมือของข้า”

เจี้ยนเฉินกวาดสายตามองทุกคนอย่างช้า ๆ ด้วยสายตาที่แหลมคม “เมื่อไม่มีใครต้องการที่จะสู้กับข้าอีกแล้ว ผลึกชิ้นนี้ก็เป็นของข้า” เจี้ยนเฉินเก็บแหวนมิติก่อนที่จะค้นหาไปที่รอบโถงต่อ

บรรยากาศแห่งความกังวลในโถงก็หายไปทันทีจากการกระทำของเจี้ยนเฉิน ทุกคนล้มเลิกความคิดที่จะต่อสู้กับเจี้ยนเฉินเพื่อชิงผลึก และตั้งหน้าหาสมบัติอื่นต่อในโถง

เลือดหายไปจากจอมยุทธทั้งสองที่เจี้ยนเฉินสังหารไปอย่างรวดเร็วและถูกดูดซึมไปที่พื้นโดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้เลย แม้ว่าทุกคนจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครรู้เหตุผล แม้ว่าพวกเขาจะคิดหนักขนาดไหนก็ตาม พวกเขาโยนเอาเรื่องนี้ทิ้งไปและไม่สนใจกับเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้

หลังจากนั้นทุกคนก็ค้นหาไปทั่วทั้งชั้นที่หนึ่งไปครึ่งวัน พวกเขาเอาสมบัติที่มีค่าไป ทำให้ชั้นหนึ่งว่างเปล่า เมื่อพวกเขาเอาทุกอย่างไปแล้ว พวกเขาก็ย้ายไปที่อื่น

ชั้นที่สองมีสิ่งมีค่าและของหายากอยู่หลายอย่าง ซึ่งพวกมันก็ถูกเอาไปอย่างรวดเร็ว

ในตอนนี้เอง เสียงอื้ออึงดังมากแต่ไกลพร้อมด้วยคลื่นพลังที่ทรงพลัง ความวุ่นวายนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน ทำให้พวกเขาตามไปเพื่อสำรวจด้วยความสงสัย ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงตรงหน้าประตูหินและเหนือประตูนั้นมีคำหนึ่งคำที่ทรงพลังเขียนอยู่ คลังสมบัติ !

“นี่ต้องเป็นที่ที่เก็บสมบัติจำนวนมากอยู่แน่” บางคนตะโกนออกมา เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“มันไม่มีกลไกที่ใช้เปิดประตูนี้ ดูเหมือนทางเดียวที่จะเข้าไปได้คือทำลายมันเท่านั้น พวกเรามาทำลายมันด้วยกันเถอะ” บางคนแนะนำออกมา ทันใดนั้นเอง จอมยุทธหลายคนโจมตีไปที่ประตูพร้อมกัน

เสียงดังระเบิดขึ้น เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 หลายคนโจมตีพร้อมกันไปที่ประตู อย่างไรก็ตาม มันยังคงอยู่เหมือนเดิม และไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

“ประตูเต็มไปด้วยพลังงานของโถงนี้และมันแข็งแกร่งอย่างที่สุด มีทางเป็นไปได้ทางเดียวที่จะทำลายมันคือพวกเราทั้งหมดต้องโจมมันด้วยกัน”

“ทุกคนลังเลอะไรอยู่ ? ทุกอย่างที่อยู่ในนั้นต้องเป็นสมบัติแน่ อาจจะมีผลึกศักดิ์สิทธิ์มากกว่านี้ก็ได้ พวกเราทั้งหมดมาเปิดประตูกันเถอะ”

..

หลายคนใช้คำพูดล่อลวงเพื่อโน้มน้าวกลุ่ม พวกขาทั้งหมดมาที่นี่เพื่อสมบัติของโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นพร้อมกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาโจมตีไปที่ประตู รวมถึงเจี้ยนเฉินและนูบิสด้วย

เสียงดังบาดหูดังขึ้น การโจมตีที่รวมกันของจอมยุทธหลายสิบคนรวมกันไปที่ประตู อย่างไรก็ตาม มันยังคงไร้รอยขีดข่วน

“พวกเรามาใช้ทักษะเซียนระดับเทียนกัน” บางคนตะโกนออกมา ก่อนที่จะเริ่มสะสมพลังเพื่อใช้วิชาเซียน

เมื่อเห็นว่ามีบางคนได้เริ่มสะสมพลังงานเพื่อที่จะใช้ทักษะเซียนระดับเทียน หลายคนลังเลแต่ก็มีบางส่วนที่ร่วมสะสมพลังด้วยอย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มที่จะร่ายทักษะเซียนด้วยกัน

ทักษะเซียนระดับเทียนถูกสะสมพลังอย่างรวดเร็วและทุกคนโจมตีออกไปพร้อมกัน และปะทะเข้าไปที่ประตูด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ในเวลาเดียวกัน จอมยุทธคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้อยู่เฉยเช่นกัน พวกเขาโจมตีออกไปด้วยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดเพื่อที่จะรวมพลังกับทักษะเซียนระดับเทียนในการทำลายประตูหิน

บูม !

เสียงที่ทรงพลังยิ่งกว่าดังออกมาในขณะที่พลังงานที่ทรงพลังกวาดล้างไปทุกทิศทาง มันกระแทกทุกคนให้ถอยกลับไป

ประตูหินสั่นไหวอย่างรุนแรงในขณะกลุ่มฝุ่นตกลงมาจากประตู รอยแตกเล็ก ๆ เกิดขึ้นที่ผิวของมัน

“พวกเรามาโจมตีกันต่อเถอะ พวกเราสามารถทำลายประตูได้ถ้าพวกเราทำแบบนี้ไปอีกสักสองสามครั้ง” บางคนพูดออกมาเสียงดัง ทุกทุกคนโจมตีไปที่ประตูด้วยกันอีกครั้ง ในขณะที่จำนวนคนที่ใช้ทักษะเซียนระดับเทียนก็เพิ่มขึ้นเป็น 18 คน

ทุกคนทุ่มสุดกำลังเพื่อที่จะทำลายประตูหินเพื่อที่จะเอาสมบัติด้านใน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 922: คลังสมบัติ

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 922: คลังสมบัติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 922: คลังสมบัติ

จิตสังหารที่รุนแรงเป็นประกายในตาของเจี้ยนเฉิน เขาใช้ทักษะมายาพริบตากลายเป็นภาพติดตาและไล่ตามคนผู้นั้นไป กระบี่ของเจี้ยนเฉินแทงออกไปทันทีและแทงไปที่หลังของคนนั้น

คนผู้นั้นคำรามออกมาในขณะที่พลังของเซียนราชาก็พุ่งพวยออกมาจากร่างกายของเขา มันกลายเป็นเกราะบนตัวเขาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พลังงานส่วนหนึ่งควบแน่นกลายเป็นลูกบอลพลังงานขนาดกว้าง 8 เซนติเมตรที่มือซ้ายของเขา มันเปล่งประกายไปด้วยพลังงานที่น่ากลัว

“ผู้คุมกฎเผ่าเต่า ถ้าเจ้ายังมากดดันข้าอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ ข้าก็จะยอมตายไปพร้อมกับเจ้า” คนผู้นั้นตะโกนออกมาในขณะที่เขาพยายามที่จะขู่เจี้ยนเฉินด้วยบอลพลังงานนั้น

อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้สนใจคำขู่นั้น เขาแทงยุทธภัณฑ์ราชาของเขาเข้าไปที่เกราะ

ชิ้ง !

การปะทะกันระหว่างอาวุธกับเกราะทำให้เกิดเสียงโลหะกระทบกันขึ้นมาและพลังงานที่รุนแรงก็พัดให้คนผู้นั้นกระเด็นออกไป มันทำให้เกราะของคนนั้นเป็นรอยร้าว ก่อนที่จะเกราะจะแตกออกด้วยเสียงอันดัง

คนผู้นั้นตกอย่างแรงไปที่พื้นหลายสิบเมตร เขาอึ้งเมื่อเห็นว่าเกราะของเขาแตกสลายไปทั้งหมด เขารู้ดีว่าเกราะนี้มีการป้องกันที่แข็งแกร่งเพียงใดเพราะมันควบแน่นมาจากพลังของเซียนราชา มันไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้ว่ามันต้องต่อต้านการโจมตีของสัตว์อสูรระดับ 7 หลายตัว แต่มันก็แตกสลายไปเพราะการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเจี้ยนเฉิน

“เป็นไปไม่ได้ เผ่าเต่ามีการป้องกันที่แข็งแกร่งแต่อ่อนในด้านการโจมตี เห็นอยู่ว่าผู้คุมกฎอยู่ในขั้นสูงสุดของ 14 ดาว แต่ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ ? ” คนผู้นั้นอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง แต่ในตอนนั้นเอง ภาพเบลอก็มาถึงตรงหน้าเขา เจี้ยนเฉินมาถึงและแทงออกไปด้วยยุทธภัณฑ์ราชาของเขาที่เปล่งประกายไปด้วยแสงสีดำและกลิ่นอายแห่งการทำลายล้าง

“เจ้าบังคับต้องให้ข้าทำแบบนี้เองนะ ผู้คุมกฎเผ่าเต่า” ความแน่วแน่ปรากฏขึ้นที่หน้าของคนคนนั้น เขาเหวี่ยงแขนแล้วขว้างพลังงานที่ถูกควบแน่นออกมา

เจี้ยนเฉินเปลี่ยนทิศทางการโจมตี อาวุธของเขาเปลี่ยนไปโจมตีที่บอลพลังงานแทน

บูม !

พลังของเซียนราชาแตกกระจายไปด้วยการโจมตีของเจี้ยนเฉิน ทำให้พลังงานที่รุนแรงซึ่งพุ่งพวยออกมากระแทกเข้าไปที่เจี้ยนเฉินอย่างแรง

เจี้ยนเฉินถอยกลับไปอย่างคุมตัวเองไม่ได้ ในตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเขา

สายตาของเขาเย็นชา นี่เป็นสิ่งที่เขาจะแสดงออกมาเฉพาะเมื่อจิตสังหารพุ่งพวยอยู่ในหัวใจของเขาเท่านั้น เขากระโจนอย่างแรงออกมาจากพื้นและใช้ทักษะมายาพริบตาเพื่อพุ่งเข้าไปที่ชายชรานั่นอีกครั้ง

ครั้งนี้ ชายชราไม่มีพลังที่จะต่อต้านเจี้ยนเฉินอีกแล้ว ทั้งหมดที่เขาทำได้มีเพียงมองดูเจี้ยนเฉินที่กำลังเข้ามาใกล้

ฉึบ ! หว่างคิ้วของของชายชราถูกแทงทะลุเข้าไปและกำจัดวิญญาณของเขาออกไป เจี้ยนเฉินเอาแหวนมิติออกมาจากมือของชายชราและมองดูด้านใน เขาผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อเขายืนยันได้ว่าผลึกอยู่ด้านในนั้น เจี้ยนเฉินได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องผลึกแล้วเมื่อสายตาของเขาเห็นมันในตอนแรก

ทันใดนั้นเอง ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็หม่นลง เขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งกี่มีอยู่หลายคนที่กำลังพุ่งเป้ามาที่เขา คนมากกว่าสิบคนได้ล้อมเขาเอาไว้ แต่ละคนมองเขาอย่างดุร้าย

มือของเจี้ยนเฉินกระตุก แล้วยุทธภัณฑ์ราชาก็เริ่มเปล่งประกายสีดำออกมา กลิ่นอายแห่งการทำลายล้างของมันก็เติมเต็มไปทั่วทั้งห้องและกดดันคนที่อยู่รอบ ๆ มันข่มทุกคนรอบ ๆ อย่างมาก

“ถ้าพวกเจ้ายังต้องการผลึกอยู่ละก็ เข้ามา” เจี้ยนเฉินชูกระบี่ขึ้นไปบนท้องฟ้าในขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เขาลื่นไหลไปกับกลิ่นอายที่หนาแน่นเหมือนว่าผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เขานั้นไม่มีอะไร

“ผู้คุมกฎของเผ่าเต่า พวกเราไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับเจ้า แต่มันช่างเป็นผลึกที่ชิ้นใหญ่เหลือเกิน มันไม่มีเหตุผลเลยถ้าเจ้าจะเอามันไปคนเดียว ทำไมเจ้าไม่เอามันออกมาแล้วแบ่งกันล่ะ ? เพราะว่าเราก็เจอมันพร้อม ๆ กัน” ชายชราชุดดำพูดออกมาด้วยเสียงทุ้ม เขากลัวเจี้ยนเฉินมากแต่ความยั่วยวนของผลึกศักดิ์สิทธิ์นั้นก็มากเหลือเกิน อีกทั้งยังมีหลายคนที่อยู่ที่นี่อีก ดังนั้นเขาเชื่อว่า ถ้าพวกเขาร่วมมือกัน ผู้คุมกฎเผ่าเต่าก็คงสู้พวกเขาไม่ได้แม้ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด

เจี้ยนเฉินชูแหวนมิติสูงขึ้นด้วยมือซ้ายของเขาและพูดออกมา “ผลึกอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าเจ้าต้องการมันก็เข้ามา”

“ผู้คุมกฎเผ่าเต่า เจ้าแข็งแกร่งก็จริง นั่นเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่เจ้ามั่นใจแค่ไหนที่จะสู้กับทักษะเซียนระดับเทียนของข้า ? ” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างทะนงตัว เขาเป็นหนึ่งในคนที่มีทักษะเซียนระดับเทียน

ลมเริ่มพัดหวีดหวิวในขณะที่ชายหนุ่มพูดจบ เจี้ยนเฉินปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาด้วยความเร็วแสง และแทงไปที่หว่างคิ้วของชายหนุ่มอย่างไม่ลังเล

ชายหนุ่มตกตะลึง เขาไม่คาดว่าเจี้ยนเฉินจะเริ่มโจมตีก่อน พลังของเซียนราชาพุ่งพวยขึ้นมาเพื่อพยายามที่จะด้านการโจมตีที่กะทันหันของเจี้ยนเฉิน

อย่างไรก็ตาม กระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเร็วกว่าเมื่อก่อนหลายเท่ามาก ดาบดูเหมือนจะเหนือกว่ากฎของมิติและข้ามผ่านข้อจำกัดของเวลาไป เขาแทงออกไปด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อเป็นลำแสงออกไป

ฟุ้บ !

ชายหนุ่มไม่มีเวลาที่จะควบแน่เกราะเลยแม้แต่น้อย ยุทธภัณฑ์ราชาแทงทะลุหัวของเขาด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง และกำจัดวิญญาณของเขาไป

“ช่างเป็นการโจมตีที่ว่องไวอะไรปานนี้”

เสียงอุทานดังออกมาจากรอบ ๆ ท่าทางของทุกคนเปลี่ยนไป พวกเขาทั้งหมดอึ้งด้วยความเร็วที่เจี้ยนเฉินแสดงออกมา มันเร็วเกินไป พวกเขาคงตกอยู่ในสภาพเดียวกันถ้าพวกเขาไม่ระวังตัวและไปเผชิญหน้ากันดาบ

และเซียนผู้คุมกฎที่อยู่ในระดับสูงสุดที่รู้ทักษะเซียนระดับเทียนก็ได้จบชีวิตลง

สายตาที่ทุกคนมองเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไป ในขณะที่ความหวาดกลัวที่มีต่อเจี้ยนเฉินก็พุ่งพวยขึ้นสูง เจี้ยนเฉินเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวจริง ๆ

เจี้ยนเฉินดึงกระบี่ออกมาจากหัวของชายหนุ่มช้า ๆ แล้วพูดอย่างเย็นชา “เจ้ารู้ทักษะเซียนระดับเทียนแล้วไง ? ต่อหน้าข้า เจ้าไม่มีโอกาสที่จะร่ายมันด้วยซ้ำ”

ทั้งโถงตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนจ้องมองเจี้ยนเฉินโดยไม่ได้พูดอะไรเลย

ไทนิชจ้องไปที่เจี้ยนเฉินแต่ไกลในขณะที่สายตาของเขาสั่นไหว จิตสังหารที่แหลมคมซ่อนลึกอยู่ในดวงตาของเขาและเขาคิด “ผู้คุมกฎเผ่าเต่า เจ้าแข็งแกร่งจริง ๆ แต่สุดท้ายเจ้าก็ต้องตายด้วยน้ำมือของข้า”

เจี้ยนเฉินกวาดสายตามองทุกคนอย่างช้า ๆ ด้วยสายตาที่แหลมคม “เมื่อไม่มีใครต้องการที่จะสู้กับข้าอีกแล้ว ผลึกชิ้นนี้ก็เป็นของข้า” เจี้ยนเฉินเก็บแหวนมิติก่อนที่จะค้นหาไปที่รอบโถงต่อ

บรรยากาศแห่งความกังวลในโถงก็หายไปทันทีจากการกระทำของเจี้ยนเฉิน ทุกคนล้มเลิกความคิดที่จะต่อสู้กับเจี้ยนเฉินเพื่อชิงผลึก และตั้งหน้าหาสมบัติอื่นต่อในโถง

เลือดหายไปจากจอมยุทธทั้งสองที่เจี้ยนเฉินสังหารไปอย่างรวดเร็วและถูกดูดซึมไปที่พื้นโดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้เลย แม้ว่าทุกคนจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครรู้เหตุผล แม้ว่าพวกเขาจะคิดหนักขนาดไหนก็ตาม พวกเขาโยนเอาเรื่องนี้ทิ้งไปและไม่สนใจกับเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้

หลังจากนั้นทุกคนก็ค้นหาไปทั่วทั้งชั้นที่หนึ่งไปครึ่งวัน พวกเขาเอาสมบัติที่มีค่าไป ทำให้ชั้นหนึ่งว่างเปล่า เมื่อพวกเขาเอาทุกอย่างไปแล้ว พวกเขาก็ย้ายไปที่อื่น

ชั้นที่สองมีสิ่งมีค่าและของหายากอยู่หลายอย่าง ซึ่งพวกมันก็ถูกเอาไปอย่างรวดเร็ว

ในตอนนี้เอง เสียงอื้ออึงดังมากแต่ไกลพร้อมด้วยคลื่นพลังที่ทรงพลัง ความวุ่นวายนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน ทำให้พวกเขาตามไปเพื่อสำรวจด้วยความสงสัย ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงตรงหน้าประตูหินและเหนือประตูนั้นมีคำหนึ่งคำที่ทรงพลังเขียนอยู่ คลังสมบัติ !

“นี่ต้องเป็นที่ที่เก็บสมบัติจำนวนมากอยู่แน่” บางคนตะโกนออกมา เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“มันไม่มีกลไกที่ใช้เปิดประตูนี้ ดูเหมือนทางเดียวที่จะเข้าไปได้คือทำลายมันเท่านั้น พวกเรามาทำลายมันด้วยกันเถอะ” บางคนแนะนำออกมา ทันใดนั้นเอง จอมยุทธหลายคนโจมตีไปที่ประตูพร้อมกัน

เสียงดังระเบิดขึ้น เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 หลายคนโจมตีพร้อมกันไปที่ประตู อย่างไรก็ตาม มันยังคงอยู่เหมือนเดิม และไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

“ประตูเต็มไปด้วยพลังงานของโถงนี้และมันแข็งแกร่งอย่างที่สุด มีทางเป็นไปได้ทางเดียวที่จะทำลายมันคือพวกเราทั้งหมดต้องโจมมันด้วยกัน”

“ทุกคนลังเลอะไรอยู่ ? ทุกอย่างที่อยู่ในนั้นต้องเป็นสมบัติแน่ อาจจะมีผลึกศักดิ์สิทธิ์มากกว่านี้ก็ได้ พวกเราทั้งหมดมาเปิดประตูกันเถอะ”

..

หลายคนใช้คำพูดล่อลวงเพื่อโน้มน้าวกลุ่ม พวกขาทั้งหมดมาที่นี่เพื่อสมบัติของโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นพร้อมกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาโจมตีไปที่ประตู รวมถึงเจี้ยนเฉินและนูบิสด้วย

เสียงดังบาดหูดังขึ้น การโจมตีที่รวมกันของจอมยุทธหลายสิบคนรวมกันไปที่ประตู อย่างไรก็ตาม มันยังคงไร้รอยขีดข่วน

“พวกเรามาใช้ทักษะเซียนระดับเทียนกัน” บางคนตะโกนออกมา ก่อนที่จะเริ่มสะสมพลังเพื่อใช้วิชาเซียน

เมื่อเห็นว่ามีบางคนได้เริ่มสะสมพลังงานเพื่อที่จะใช้ทักษะเซียนระดับเทียน หลายคนลังเลแต่ก็มีบางส่วนที่ร่วมสะสมพลังด้วยอย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มที่จะร่ายทักษะเซียนด้วยกัน

ทักษะเซียนระดับเทียนถูกสะสมพลังอย่างรวดเร็วและทุกคนโจมตีออกไปพร้อมกัน และปะทะเข้าไปที่ประตูด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ในเวลาเดียวกัน จอมยุทธคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้อยู่เฉยเช่นกัน พวกเขาโจมตีออกไปด้วยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดเพื่อที่จะรวมพลังกับทักษะเซียนระดับเทียนในการทำลายประตูหิน

บูม !

เสียงที่ทรงพลังยิ่งกว่าดังออกมาในขณะที่พลังงานที่ทรงพลังกวาดล้างไปทุกทิศทาง มันกระแทกทุกคนให้ถอยกลับไป

ประตูหินสั่นไหวอย่างรุนแรงในขณะกลุ่มฝุ่นตกลงมาจากประตู รอยแตกเล็ก ๆ เกิดขึ้นที่ผิวของมัน

“พวกเรามาโจมตีกันต่อเถอะ พวกเราสามารถทำลายประตูได้ถ้าพวกเราทำแบบนี้ไปอีกสักสองสามครั้ง” บางคนพูดออกมาเสียงดัง ทุกทุกคนโจมตีไปที่ประตูด้วยกันอีกครั้ง ในขณะที่จำนวนคนที่ใช้ทักษะเซียนระดับเทียนก็เพิ่มขึ้นเป็น 18 คน

ทุกคนทุ่มสุดกำลังเพื่อที่จะทำลายประตูหินเพื่อที่จะเอาสมบัติด้านใน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 922: คลังสมบัติ

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 922: คลังสมบัติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 922: คลังสมบัติ

จิตสังหารที่รุนแรงเป็นประกายในตาของเจี้ยนเฉิน เขาใช้ทักษะมายาพริบตากลายเป็นภาพติดตาและไล่ตามคนผู้นั้นไป กระบี่ของเจี้ยนเฉินแทงออกไปทันทีและแทงไปที่หลังของคนนั้น

คนผู้นั้นคำรามออกมาในขณะที่พลังของเซียนราชาก็พุ่งพวยออกมาจากร่างกายของเขา มันกลายเป็นเกราะบนตัวเขาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พลังงานส่วนหนึ่งควบแน่นกลายเป็นลูกบอลพลังงานขนาดกว้าง 8 เซนติเมตรที่มือซ้ายของเขา มันเปล่งประกายไปด้วยพลังงานที่น่ากลัว

“ผู้คุมกฎเผ่าเต่า ถ้าเจ้ายังมากดดันข้าอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ ข้าก็จะยอมตายไปพร้อมกับเจ้า” คนผู้นั้นตะโกนออกมาในขณะที่เขาพยายามที่จะขู่เจี้ยนเฉินด้วยบอลพลังงานนั้น

อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้สนใจคำขู่นั้น เขาแทงยุทธภัณฑ์ราชาของเขาเข้าไปที่เกราะ

ชิ้ง !

การปะทะกันระหว่างอาวุธกับเกราะทำให้เกิดเสียงโลหะกระทบกันขึ้นมาและพลังงานที่รุนแรงก็พัดให้คนผู้นั้นกระเด็นออกไป มันทำให้เกราะของคนนั้นเป็นรอยร้าว ก่อนที่จะเกราะจะแตกออกด้วยเสียงอันดัง

คนผู้นั้นตกอย่างแรงไปที่พื้นหลายสิบเมตร เขาอึ้งเมื่อเห็นว่าเกราะของเขาแตกสลายไปทั้งหมด เขารู้ดีว่าเกราะนี้มีการป้องกันที่แข็งแกร่งเพียงใดเพราะมันควบแน่นมาจากพลังของเซียนราชา มันไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้ว่ามันต้องต่อต้านการโจมตีของสัตว์อสูรระดับ 7 หลายตัว แต่มันก็แตกสลายไปเพราะการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเจี้ยนเฉิน

“เป็นไปไม่ได้ เผ่าเต่ามีการป้องกันที่แข็งแกร่งแต่อ่อนในด้านการโจมตี เห็นอยู่ว่าผู้คุมกฎอยู่ในขั้นสูงสุดของ 14 ดาว แต่ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้ ? ” คนผู้นั้นอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง แต่ในตอนนั้นเอง ภาพเบลอก็มาถึงตรงหน้าเขา เจี้ยนเฉินมาถึงและแทงออกไปด้วยยุทธภัณฑ์ราชาของเขาที่เปล่งประกายไปด้วยแสงสีดำและกลิ่นอายแห่งการทำลายล้าง

“เจ้าบังคับต้องให้ข้าทำแบบนี้เองนะ ผู้คุมกฎเผ่าเต่า” ความแน่วแน่ปรากฏขึ้นที่หน้าของคนคนนั้น เขาเหวี่ยงแขนแล้วขว้างพลังงานที่ถูกควบแน่นออกมา

เจี้ยนเฉินเปลี่ยนทิศทางการโจมตี อาวุธของเขาเปลี่ยนไปโจมตีที่บอลพลังงานแทน

บูม !

พลังของเซียนราชาแตกกระจายไปด้วยการโจมตีของเจี้ยนเฉิน ทำให้พลังงานที่รุนแรงซึ่งพุ่งพวยออกมากระแทกเข้าไปที่เจี้ยนเฉินอย่างแรง

เจี้ยนเฉินถอยกลับไปอย่างคุมตัวเองไม่ได้ ในตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเขา

สายตาของเขาเย็นชา นี่เป็นสิ่งที่เขาจะแสดงออกมาเฉพาะเมื่อจิตสังหารพุ่งพวยอยู่ในหัวใจของเขาเท่านั้น เขากระโจนอย่างแรงออกมาจากพื้นและใช้ทักษะมายาพริบตาเพื่อพุ่งเข้าไปที่ชายชรานั่นอีกครั้ง

ครั้งนี้ ชายชราไม่มีพลังที่จะต่อต้านเจี้ยนเฉินอีกแล้ว ทั้งหมดที่เขาทำได้มีเพียงมองดูเจี้ยนเฉินที่กำลังเข้ามาใกล้

ฉึบ ! หว่างคิ้วของของชายชราถูกแทงทะลุเข้าไปและกำจัดวิญญาณของเขาออกไป เจี้ยนเฉินเอาแหวนมิติออกมาจากมือของชายชราและมองดูด้านใน เขาผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อเขายืนยันได้ว่าผลึกอยู่ด้านในนั้น เจี้ยนเฉินได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องผลึกแล้วเมื่อสายตาของเขาเห็นมันในตอนแรก

ทันใดนั้นเอง ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็หม่นลง เขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งกี่มีอยู่หลายคนที่กำลังพุ่งเป้ามาที่เขา คนมากกว่าสิบคนได้ล้อมเขาเอาไว้ แต่ละคนมองเขาอย่างดุร้าย

มือของเจี้ยนเฉินกระตุก แล้วยุทธภัณฑ์ราชาก็เริ่มเปล่งประกายสีดำออกมา กลิ่นอายแห่งการทำลายล้างของมันก็เติมเต็มไปทั่วทั้งห้องและกดดันคนที่อยู่รอบ ๆ มันข่มทุกคนรอบ ๆ อย่างมาก

“ถ้าพวกเจ้ายังต้องการผลึกอยู่ละก็ เข้ามา” เจี้ยนเฉินชูกระบี่ขึ้นไปบนท้องฟ้าในขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เขาลื่นไหลไปกับกลิ่นอายที่หนาแน่นเหมือนว่าผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เขานั้นไม่มีอะไร

“ผู้คุมกฎของเผ่าเต่า พวกเราไม่ต้องการที่จะเป็นศัตรูกับเจ้า แต่มันช่างเป็นผลึกที่ชิ้นใหญ่เหลือเกิน มันไม่มีเหตุผลเลยถ้าเจ้าจะเอามันไปคนเดียว ทำไมเจ้าไม่เอามันออกมาแล้วแบ่งกันล่ะ ? เพราะว่าเราก็เจอมันพร้อม ๆ กัน” ชายชราชุดดำพูดออกมาด้วยเสียงทุ้ม เขากลัวเจี้ยนเฉินมากแต่ความยั่วยวนของผลึกศักดิ์สิทธิ์นั้นก็มากเหลือเกิน อีกทั้งยังมีหลายคนที่อยู่ที่นี่อีก ดังนั้นเขาเชื่อว่า ถ้าพวกเขาร่วมมือกัน ผู้คุมกฎเผ่าเต่าก็คงสู้พวกเขาไม่ได้แม้ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด

เจี้ยนเฉินชูแหวนมิติสูงขึ้นด้วยมือซ้ายของเขาและพูดออกมา “ผลึกอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าเจ้าต้องการมันก็เข้ามา”

“ผู้คุมกฎเผ่าเต่า เจ้าแข็งแกร่งก็จริง นั่นเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่เจ้ามั่นใจแค่ไหนที่จะสู้กับทักษะเซียนระดับเทียนของข้า ? ” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างทะนงตัว เขาเป็นหนึ่งในคนที่มีทักษะเซียนระดับเทียน

ลมเริ่มพัดหวีดหวิวในขณะที่ชายหนุ่มพูดจบ เจี้ยนเฉินปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาด้วยความเร็วแสง และแทงไปที่หว่างคิ้วของชายหนุ่มอย่างไม่ลังเล

ชายหนุ่มตกตะลึง เขาไม่คาดว่าเจี้ยนเฉินจะเริ่มโจมตีก่อน พลังของเซียนราชาพุ่งพวยขึ้นมาเพื่อพยายามที่จะด้านการโจมตีที่กะทันหันของเจี้ยนเฉิน

อย่างไรก็ตาม กระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเร็วกว่าเมื่อก่อนหลายเท่ามาก ดาบดูเหมือนจะเหนือกว่ากฎของมิติและข้ามผ่านข้อจำกัดของเวลาไป เขาแทงออกไปด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อเป็นลำแสงออกไป

ฟุ้บ !

ชายหนุ่มไม่มีเวลาที่จะควบแน่เกราะเลยแม้แต่น้อย ยุทธภัณฑ์ราชาแทงทะลุหัวของเขาด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง และกำจัดวิญญาณของเขาไป

“ช่างเป็นการโจมตีที่ว่องไวอะไรปานนี้”

เสียงอุทานดังออกมาจากรอบ ๆ ท่าทางของทุกคนเปลี่ยนไป พวกเขาทั้งหมดอึ้งด้วยความเร็วที่เจี้ยนเฉินแสดงออกมา มันเร็วเกินไป พวกเขาคงตกอยู่ในสภาพเดียวกันถ้าพวกเขาไม่ระวังตัวและไปเผชิญหน้ากันดาบ

และเซียนผู้คุมกฎที่อยู่ในระดับสูงสุดที่รู้ทักษะเซียนระดับเทียนก็ได้จบชีวิตลง

สายตาที่ทุกคนมองเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไป ในขณะที่ความหวาดกลัวที่มีต่อเจี้ยนเฉินก็พุ่งพวยขึ้นสูง เจี้ยนเฉินเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวจริง ๆ

เจี้ยนเฉินดึงกระบี่ออกมาจากหัวของชายหนุ่มช้า ๆ แล้วพูดอย่างเย็นชา “เจ้ารู้ทักษะเซียนระดับเทียนแล้วไง ? ต่อหน้าข้า เจ้าไม่มีโอกาสที่จะร่ายมันด้วยซ้ำ”

ทั้งโถงตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนจ้องมองเจี้ยนเฉินโดยไม่ได้พูดอะไรเลย

ไทนิชจ้องไปที่เจี้ยนเฉินแต่ไกลในขณะที่สายตาของเขาสั่นไหว จิตสังหารที่แหลมคมซ่อนลึกอยู่ในดวงตาของเขาและเขาคิด “ผู้คุมกฎเผ่าเต่า เจ้าแข็งแกร่งจริง ๆ แต่สุดท้ายเจ้าก็ต้องตายด้วยน้ำมือของข้า”

เจี้ยนเฉินกวาดสายตามองทุกคนอย่างช้า ๆ ด้วยสายตาที่แหลมคม “เมื่อไม่มีใครต้องการที่จะสู้กับข้าอีกแล้ว ผลึกชิ้นนี้ก็เป็นของข้า” เจี้ยนเฉินเก็บแหวนมิติก่อนที่จะค้นหาไปที่รอบโถงต่อ

บรรยากาศแห่งความกังวลในโถงก็หายไปทันทีจากการกระทำของเจี้ยนเฉิน ทุกคนล้มเลิกความคิดที่จะต่อสู้กับเจี้ยนเฉินเพื่อชิงผลึก และตั้งหน้าหาสมบัติอื่นต่อในโถง

เลือดหายไปจากจอมยุทธทั้งสองที่เจี้ยนเฉินสังหารไปอย่างรวดเร็วและถูกดูดซึมไปที่พื้นโดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้เลย แม้ว่าทุกคนจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครรู้เหตุผล แม้ว่าพวกเขาจะคิดหนักขนาดไหนก็ตาม พวกเขาโยนเอาเรื่องนี้ทิ้งไปและไม่สนใจกับเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้

หลังจากนั้นทุกคนก็ค้นหาไปทั่วทั้งชั้นที่หนึ่งไปครึ่งวัน พวกเขาเอาสมบัติที่มีค่าไป ทำให้ชั้นหนึ่งว่างเปล่า เมื่อพวกเขาเอาทุกอย่างไปแล้ว พวกเขาก็ย้ายไปที่อื่น

ชั้นที่สองมีสิ่งมีค่าและของหายากอยู่หลายอย่าง ซึ่งพวกมันก็ถูกเอาไปอย่างรวดเร็ว

ในตอนนี้เอง เสียงอื้ออึงดังมากแต่ไกลพร้อมด้วยคลื่นพลังที่ทรงพลัง ความวุ่นวายนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน ทำให้พวกเขาตามไปเพื่อสำรวจด้วยความสงสัย ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงตรงหน้าประตูหินและเหนือประตูนั้นมีคำหนึ่งคำที่ทรงพลังเขียนอยู่ คลังสมบัติ !

“นี่ต้องเป็นที่ที่เก็บสมบัติจำนวนมากอยู่แน่” บางคนตะโกนออกมา เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“มันไม่มีกลไกที่ใช้เปิดประตูนี้ ดูเหมือนทางเดียวที่จะเข้าไปได้คือทำลายมันเท่านั้น พวกเรามาทำลายมันด้วยกันเถอะ” บางคนแนะนำออกมา ทันใดนั้นเอง จอมยุทธหลายคนโจมตีไปที่ประตูพร้อมกัน

เสียงดังระเบิดขึ้น เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 หลายคนโจมตีพร้อมกันไปที่ประตู อย่างไรก็ตาม มันยังคงอยู่เหมือนเดิม และไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

“ประตูเต็มไปด้วยพลังงานของโถงนี้และมันแข็งแกร่งอย่างที่สุด มีทางเป็นไปได้ทางเดียวที่จะทำลายมันคือพวกเราทั้งหมดต้องโจมมันด้วยกัน”

“ทุกคนลังเลอะไรอยู่ ? ทุกอย่างที่อยู่ในนั้นต้องเป็นสมบัติแน่ อาจจะมีผลึกศักดิ์สิทธิ์มากกว่านี้ก็ได้ พวกเราทั้งหมดมาเปิดประตูกันเถอะ”

..

หลายคนใช้คำพูดล่อลวงเพื่อโน้มน้าวกลุ่ม พวกขาทั้งหมดมาที่นี่เพื่อสมบัติของโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นพร้อมกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาโจมตีไปที่ประตู รวมถึงเจี้ยนเฉินและนูบิสด้วย

เสียงดังบาดหูดังขึ้น การโจมตีที่รวมกันของจอมยุทธหลายสิบคนรวมกันไปที่ประตู อย่างไรก็ตาม มันยังคงไร้รอยขีดข่วน

“พวกเรามาใช้ทักษะเซียนระดับเทียนกัน” บางคนตะโกนออกมา ก่อนที่จะเริ่มสะสมพลังเพื่อใช้วิชาเซียน

เมื่อเห็นว่ามีบางคนได้เริ่มสะสมพลังงานเพื่อที่จะใช้ทักษะเซียนระดับเทียน หลายคนลังเลแต่ก็มีบางส่วนที่ร่วมสะสมพลังด้วยอย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มที่จะร่ายทักษะเซียนด้วยกัน

ทักษะเซียนระดับเทียนถูกสะสมพลังอย่างรวดเร็วและทุกคนโจมตีออกไปพร้อมกัน และปะทะเข้าไปที่ประตูด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ในเวลาเดียวกัน จอมยุทธคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้อยู่เฉยเช่นกัน พวกเขาโจมตีออกไปด้วยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดเพื่อที่จะรวมพลังกับทักษะเซียนระดับเทียนในการทำลายประตูหิน

บูม !

เสียงที่ทรงพลังยิ่งกว่าดังออกมาในขณะที่พลังงานที่ทรงพลังกวาดล้างไปทุกทิศทาง มันกระแทกทุกคนให้ถอยกลับไป

ประตูหินสั่นไหวอย่างรุนแรงในขณะกลุ่มฝุ่นตกลงมาจากประตู รอยแตกเล็ก ๆ เกิดขึ้นที่ผิวของมัน

“พวกเรามาโจมตีกันต่อเถอะ พวกเราสามารถทำลายประตูได้ถ้าพวกเราทำแบบนี้ไปอีกสักสองสามครั้ง” บางคนพูดออกมาเสียงดัง ทุกทุกคนโจมตีไปที่ประตูด้วยกันอีกครั้ง ในขณะที่จำนวนคนที่ใช้ทักษะเซียนระดับเทียนก็เพิ่มขึ้นเป็น 18 คน

ทุกคนทุ่มสุดกำลังเพื่อที่จะทำลายประตูหินเพื่อที่จะเอาสมบัติด้านใน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+