Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 942: ลางร้ายของผู้พิทักษ์ซุย

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 942: ลางร้ายของผู้พิทักษ์ซุย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 942: ลางร้ายของผู้พิทักษ์ซุย

ขวานใหญ่ของเถี่ยต้าตัดผ่านท้องฟ้าลงมาในขะที่มันเปล่งประกายไปด้วยแสงสีทองอ่อน ๆ มันปะทะเข้ากับมีดพร้าของเซียนผู้คุมกฎ

บู้ม !

ขวานและมีดพร้าปะทะกันอย่างรุนแรงและคลื่นพลังงานที่มหาศาลที่เหลืออยู่ก็ขยายออกไปจากจุดที่อาวุธปะทะกัน มันขยายออกไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว และกระแทกทุกคนในรัศมี 1,000 เมตรถอยกระเด็นออกไปในอากาศ มีเฉพาะเซียนสวรรค์เท่านั้นที่ยังอยู่ที่เดิมโดยไม่กระเด็นออกไป

เศษดินใหญ่กระจายขึ้นมาบนอากาศในบริเวณนั้น และทำให้ฝุ่นตลบอบอวลไปทั้งสนามรบ

ร่างของเถี่ยต้าเป็นประกายสีทองในขณะที่พลังรุนแรงปะทะเข้าไปที่ร่างของเขา เขาไม่ขยับเขยื้อนเหมือนภูเขา

เถี่ยต้ายังคงควบคุมขวานของเขาในขณะที่มันฟาดลงไปทางหัวของเซียนผู้คุมกฎ

เซียนผู้คุมกฎใช้อาวุธเซียนของเขาในการป้องกันการโจมตีจากขวานของเถี่ยต้าแต่ครึ่งล่างของร่างของเขาได้จมลงไปอยู่ในพื้นแล้ว มีเฉพาะส่วนบนของเขาเท่านั้นที่โผล่ออกมาและเขาหน้าซีด อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกตกใจและเหลือเชื่อยิ่งปรากฏออกมามากขึ้นจากเขา

เถี่ยต้าต่อสู้กับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 พวกเขาสูสีกันและดูเหมือนว่าเถี่ยต้าจะเป็นต่ออยู่ด้วย

เซียนผู้คุมกฎคนอื่น ๆ จากกลุ่มพันธมิตรที่ยังไม่ได้ข้าร่วมในการต่อสู้ก็เห็นสิ่งนี้ด้วย พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง

“เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นแค่เซียนสวรรค์ที่อยู่ในวัฏจักรที่ 6 แต่เขากลับรับการโจมตีที่รุนแรงจากเซียนผู้คุมกฎได้ เขาเป็นใครกัน ? ความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นน่ากลัวจริง ๆ ” ชายวัยกลางคนคำรามออกมา เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตกใจอย่างมาก

“หลิวเซิงเป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 แม้แต่เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 1 ยังไม่สามารรับการโจมตีของเขาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย เขาเป็นใครกัน ? เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเซียนสวรรค์ แต่ทำไมเขาถึงน่ากลัวแบบนี้”

“และคนผู้นี้ดูเหมือนจะต้านมิติพันธนาการของหลิวเซิงได้อีก มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ เขาทำได้ยังไงกัน ? “

“เขาอาจจะมีทักษะลับโบราณที่ทรงพลังบางอย่างหรือเปล่า ? “

..

เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดออกความคิดเห็นของตัวเองออกมา ทั้งหมดยากที่จะเชื่อว่าเถี่ยต้าสามารถต่อสู้ได้อย่างสูสีกับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 ในขณะที่เขาเป็นแค่เซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6

คนที่ต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎก็เป็นแค่มปลวก คำพูดนี้เป็นสิ่งที่แน่แท้ในทวีปจนกระทั่งมาถึงตอนนี้และมันก็ยังคงจะเป็นแบบนี้ต่อไป แต่ในวันนี้ พวกเขาก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่

นี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เป็นไปไม่ได้ที่เกิดขึ้นกับตาของพวกเขา

หมิงตงและคนอื่นก็เห็นเรื่องนี้แต่แรกด้วยเช่นกัน พวกเขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจและจ้องออกไปด้วยความเหลือเชื่อ พวกเขารู้ดีว่าเถี่ยต้านั้นทรงพลัง แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงขั้นที่สามารถต่อสู้ได้อย่างสูสีกับเซียนผู้คุมกฎ

จอมยุทธหลายคนจากตระกูลสันโดษและตระกูลโบราณที่มองดูอยู่ไกล ๆ ก็ได้เห็นความยอดเยี่ยมของเถี่ยต้าเช่นเดียวกัน พวกเขาพุ่งความสนใจไปที่เถี่ยต้าในขณะที่สายตาของพวกเขาเป็นประกายอย่างไม่สบายใจ

“เถี่ยต้า เจ้าทำดีมาก ฆ่าอย่าให้เหลือ สังหารคนที่มาบุกรุกบ้านของพวกเรา” หวังยี่เฟิงตะโกนออกมาแต่ไกล เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

หลังจากที่ได้ก็ฉุกคิดขึ้นมาถึงเหตุผลที่คนพวกนี้มาที่นี่ ความโกรธสูบฉีดไปที่ใบหน้าของเขาและเขาก็คำรามออกมา พลังงานที่มหาศาลมากไหลออกมาจากร่างกายของเขา มันเพิ่มพลังให้กับแขนของเขาและส่งต่อไปยังขวาน และกดให้ร่างของหลิวเซิงจมลงไปมากกว่าเดิมอีก 30 เซนติเมตร มีเฉพาะส่วนบนของร่างกายของเขาเท่านั้นที่โผล่ออกมา

หลิวเซิงเกรี้ยวโกรธทันทีที่เขาตระหนักได้ว่าเขาถูกกดดันให้มาอยู่ในสภาพแบบนี้โดยเซียนสวรรค์ที่เหมือนมดปลวก ความภาคภูมิใจของเขาในฐานะที่เป็นเซียนผู้คุมกฎกำลังถูกบดขยี้และสำหรับเขานั้นมันเป็นความอับอายที่ลบล้างไม่ได้ เขาคงจะต้องอับอายต่อหน้าทุกคนในภายภาคหน้าแน่

นี่เป็นเพราะอะไรบางอย่างที่เกินจริงแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในทวีปมาก่อน เซียนผู้คุมกฏถูกโจมตีจนจมลงไปในดินโดยเซียนสวรรค์ หลังจากการต่อสู้นี้ ชื่อของเขาคงกระจายไปทั่วทั้งทวีป แต่มันไม่ใช่ความรุ่งโรจน์และฐานะ มีเพียงแต่คำเยาะเย้ยและถากถางเพียงเท่านั้น

หลิวเซิงยิ่งโกรธมากกว่าเดิมเมื่อเขาคิดได้แบบนี้ ก่อนที่เขาจะคำรามออกมาอย่างไม่รู้ตัว พลังเซียนพวยพุ่งอยู่ในร่างของเขาในขณที่เขาใช้ความแข็งแกร่งที่เขามีทั้งหมดในการป้องกันขวานของเถี่ยต้า ร่างของพุ่งขึ้นมาจากพื้นทันที และทิ้งไว้เพียงหลุมที่ลึกประมาณ 1 เมตร

“เจ้าหนู ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้น ๆ ! ” หลิวเซิงคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว มีดพร้าของเขาฟันลงไปที่หัวของเถี่ยต้าในขณะที่ลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงที่หุ้มอยู่ซึ่งเต็มไปด้วยพลังธรรมชาติที่หนาแน่น

ครั้งนี้ หลิวเซิงใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี ความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดที่เป็นถึงเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 ถูกแสดงออกมา เขาไม่ออมแรงเลยแม้แต่น้อย

เถี่ยต้าไม่รู้สึกกลัว สองมือของเขาจับขวานอยู่ เขาฟันมันออกไปอีกครั้งไปที่หลิวเซิง

ขวานและมีดพร้าปะทะกัน และทำให้เกิดเสียงระเบิดดังออกมา คลื่นพลังมหาศาลได้กระแทกให้ทั้งคู่กระเด็นถอยไป

ทันใดนั้นเอง จิตต่อสู้ที่ทรงพลังมากก็อบอวลไปรอบ ๆ จิตต่อสู้ที่ดูเหมือนจะสามารถสูบเลือดและยึดร่างของคนอื่นได้ได้ส่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างไม่รู้ตัว การต่อสู้ระหว่างกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีและพันธมิตรที่จะมาดับไฟได้ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่พวกเขาได้รับอิทธิพลจากจิตต่อสู้ ทั้งสองฝั่งทุ่มเทให้กับการต่อสู้โดยสิ้นเชิงโดยลืมแม้กระทั่งความเจ็บปวดและลืมแม้กระทั่งตัวเอง ทั้งหมดที่พวกเขามีในหัวคือ สู้ สู้ สู้ เท่านั้น

จอมยุทธทั้งหมดที่ดูอยู่แต่ไกลรู้สึกประหลาดใจ พวกเขารู้สึกได้โดยธรรมชาติถึงจิตต่อสู้ที่เต็มไปทั่วทั้งสนามรบและพวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่เถี่ยต้า นี่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นสัมผัสได้อย่างชัเจนว่าจิตต่อสู้นั้นมีต้นกำเนิดมาจากเถี่ยต้า

ในตอนนี้ เขาลอยอยู่ 3 เมตรกลางอากาศในขณะที่เขาเปล่งประกายไปด้วยจิตต่อสู้ ด้วยร่างที่แข็งแกร่งของเขา ดูเหมือนเทพเจ้าแห่งสงครามโบราณ

เขาชูขวานใหญ่ที่อยู่ในมือของเขาขึ้นช้า ๆ ในขณะที่แสงสีทองบนมันเข้มข้นขึ้นเรื่อยเรื่อย ในพริบตาเดียว ขวานยักษ์รางรางก็ปรากฏขึ้นที่เหนือหัวของเขา ก่อนที่จะฟันลงไปที่หลิวเซิง

จิตต่อสู้ทั้งหมดที่อยู่รอบรอบดูเหมือนจะมารวมตัวกันอย่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อในขณะที่ขวานรางรางเหวี่ยงลงมา ทำให้ขวานดูเลือนลางน้อยกว่าเดิมและชัดเจนขึ้น

วู๊ชช ! ภาพของขวานที่เหวี่ยงลงมาอย่างรวดเร็วเหมือนแสงสีทอง มันมาถึงที่เหนือหัวของหลิวเซิง ก่อนที่จะผ่านหัวของเขาไป

หลิวเซิงยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ รอยแยกขนาดหนึ่งนิ้วปรากฏขึ้นบนพื้นระหว่างขาทั้งสองของเขา มันเป็นเส้นตรงเป๊ะและยาวหลายพันเมตร

เถี่ยต้าหลับตาลงอย่างช้าช้าหลังจากที่โจมตีไปแล้ว ไม่เพียงแต่แสงสีทองบนร่างของเขาจะไม่มีทีท่าว่าจะจางลงไปเลยเท่านั้น มันกลับเข้มข้นขึ้นและบริสุทธิ์มากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ จิตต่อสู้ที่หนาแน่นยิ่งกว่าเดิมได้เปล่งประกายออกมาจากเขาอีกครั้ง และพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า

ผมหลายเส้นหล่นลงมาจากหัวของหลิวเซิง ไม่นานหลังจากนั้น เส้นแดงบางมากมากก็ปรากฎขึ้นที่หน้าผากของเขา มันค่อย ๆ ยาวขึ้นเรื่องยเรื่อยไปถึงคิ้วของเขา และจากนั้นก็ไปที่คอของเขาในพริบตาเดียว ก่อนที่จะหายไปในเสื้อผ้าของเขา

นี่คือเลือดจากร่างของหลิวเซิง

แสงสีทองดูเหมือนจะส่องแสงออกมาจากเลือดและสว่างขึ้นเรื่อยเรื่อย มันเกิดเสียงระเบิดขึ้นในตอนท้ายและร่างของหลิวเซิงก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วน วิญญาณของเขาก็หายไปด้วยเช่นกัน

เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 ได้ถูกสังหารไปโดยเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6

คนที่ยืนดูอยู่แต่ไกลตัวแข็งในขณะที่จิตใจของพวกเขาปั่นป่วน พวกเขาไม่สามารถที่จะสงบใจเอาไว้ได้ แม้ว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังปฏิเสธที่จะเชื่อหรือยอมรับมัน

สิ่งที่พวกเขารู้คือคนที่ต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎนั้นคือมดปลวก นี่เป็นความจริงที่จะเปลี่ยนไปไม่ได้ ต่อหน้าเซียนผู้คุมกฎแล้ว เซียนสวรรค์ไม่มีแม้แต่ความสามารถที่จะสร้างบาดแผลให้กับพวกเขาได้ เพราะเซียนผู้คุมกฎมีความเข้าใจในความลึกลับของมิติ ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำคือพันธนาการมิติรอบ ๆ เอาไว้และเซียนสวรรค์ก็จะขยับไม่ได้

แต่ในตอนนี้ พวกเขาได้เห็นกับตาว่าเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 ถูกสังหารอย่างหมดจดและน่าเวทนาไปโดยเซียนสวรรค์ ทั้งหมดตกอยู่ในความตกตะลึงอย่างมาก

เถี่ยต้าร่อนอยู่กลางอากาศพร้อมกับขวานของเขา ในขณะที่จิตต่อสู้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รอบ ๆ เขา แสงสีทองบนร่างของเขาเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน

ในครั้งนี้ แม้แต่เซียนผู้คุมกฎบางคนยังยากที่จะสงบใจได้ พวกเขารู้สึกว่าเลือดสูบฉีดและหมุนเวียนไปเร็วหลายเท่ากว่าปกติ ความต้องการที่มหาศาลที่จะต่อสู้พรวดพุ่งในใจของพวกเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง และทำให้พวกเขาทั้งหมดต้องการที่จะเข้าไปในสนามรบในตอนนี้เลย

“ไม่น่าเชื่อ จิตต่อสู้จากเขามีอิทธิพลกับพวกเราอย่างไม่รู้ตัว นี่มันทักษะประหลาอะไรกัน ? มันน่ากลัวมาก” เซียนผู้คุมกฎตะโกนออกมา เสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เซียนผู้คุมกฎคนอื่นเผยแววตาตกใจออกมาในขณะที่พวกเขาจ้องเขม็งไปที่เถี่ยต้า พวกเขาต้องการที่จะเห็นว่าเถี่ยต้านั้นทำอะไร

ในเวลาเดียวกัน โถงศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ได้ตั้งตระหง่านอยู่ในโลกหิมะและน้ำแข็งที่ขั้วโลก

คนที่อยู่ในเกราะสีขาวหิมะกำลังนั่งอยู่ที่ห้องลับ และนางกำลังหลับตาอยู่

ทันใดนั้นเอง นางก็ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ และมองไปที่ทิศทางที่ทวีปเทียนหยวนตั้งอยู่ นางถอนหายใจแล้วพูด “สายเลือดของเทพเจ้าสงครามได้ตื่นขึ้นมาแล้วในที่สุด ข้าสงสัยจริงจริงว่าสายเลือดนั้นจะยอดเยี่ยมเพียงใด เขาจะได้เป็นขั้นสูงสุดหรือไม่”

“สายเลือดของเทพเจ้าสงครามได้ตื่นขึ้นในบางสิ่งเมื่อหลายหมื่นปีก่อน แต่น่าเสียดายที่ข้าเข้าไปยุ่งด้วยไม่ได้ เขาตายในท้ายที่สุด ช่างน่าเสียดาย ช่างน่าเศร้า”

“ในการต่อสู้ช่วงนั้น เทพเจ้าแห่งสงครามได้ถูกสังหารไปโดยฝีมือของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงด้วยการใช้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ม่วงฟ้า แต่ในที่นี่ คนที่มีสายเลือดของเทพเจ้าแห่งสงครามได้ยืนอยู่ข้างเดียวกับผู้ที่สืบทอดมาจากนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง นี่เป็นสิ่งที่ฟ้าประทานหรือมันเป็นโศกนาฏกรรมกันแน่ ? “

“เทพเจ้าน้ำแข็งที่เคารพได้รับบาดเจ็บหนักจากนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงและยังไม่ฟื้นฟูดีในตอนนี้ ข้าอยากรู้ว่าผู้สืบทอดนี้จะเป็นร่างที่จุติของเทพกระบี่หรือเปล่า…”

“ในตอนนั้น สามผู้เฒ่าของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงได้ตกตายด้วยน้ำมือของข้า แต่ในตอนนี้ผู้สืบทอดของสำนักกลับเป็นลูกพี่ลูกน้องกับสตรีศักดิ์สิทธิ์…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 942: ลางร้ายของผู้พิทักษ์ซุย

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 942: ลางร้ายของผู้พิทักษ์ซุย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 942: ลางร้ายของผู้พิทักษ์ซุย

ขวานใหญ่ของเถี่ยต้าตัดผ่านท้องฟ้าลงมาในขะที่มันเปล่งประกายไปด้วยแสงสีทองอ่อน ๆ มันปะทะเข้ากับมีดพร้าของเซียนผู้คุมกฎ

บู้ม !

ขวานและมีดพร้าปะทะกันอย่างรุนแรงและคลื่นพลังงานที่มหาศาลที่เหลืออยู่ก็ขยายออกไปจากจุดที่อาวุธปะทะกัน มันขยายออกไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว และกระแทกทุกคนในรัศมี 1,000 เมตรถอยกระเด็นออกไปในอากาศ มีเฉพาะเซียนสวรรค์เท่านั้นที่ยังอยู่ที่เดิมโดยไม่กระเด็นออกไป

เศษดินใหญ่กระจายขึ้นมาบนอากาศในบริเวณนั้น และทำให้ฝุ่นตลบอบอวลไปทั้งสนามรบ

ร่างของเถี่ยต้าเป็นประกายสีทองในขณะที่พลังรุนแรงปะทะเข้าไปที่ร่างของเขา เขาไม่ขยับเขยื้อนเหมือนภูเขา

เถี่ยต้ายังคงควบคุมขวานของเขาในขณะที่มันฟาดลงไปทางหัวของเซียนผู้คุมกฎ

เซียนผู้คุมกฎใช้อาวุธเซียนของเขาในการป้องกันการโจมตีจากขวานของเถี่ยต้าแต่ครึ่งล่างของร่างของเขาได้จมลงไปอยู่ในพื้นแล้ว มีเฉพาะส่วนบนของเขาเท่านั้นที่โผล่ออกมาและเขาหน้าซีด อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกตกใจและเหลือเชื่อยิ่งปรากฏออกมามากขึ้นจากเขา

เถี่ยต้าต่อสู้กับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 6 พวกเขาสูสีกันและดูเหมือนว่าเถี่ยต้าจะเป็นต่ออยู่ด้วย

เซียนผู้คุมกฎคนอื่น ๆ จากกลุ่มพันธมิตรที่ยังไม่ได้ข้าร่วมในการต่อสู้ก็เห็นสิ่งนี้ด้วย พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง

“เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นแค่เซียนสวรรค์ที่อยู่ในวัฏจักรที่ 6 แต่เขากลับรับการโจมตีที่รุนแรงจากเซียนผู้คุมกฎได้ เขาเป็นใครกัน ? ความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นน่ากลัวจริง ๆ ” ชายวัยกลางคนคำรามออกมา เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตกใจอย่างมาก

“หลิวเซิงเป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 แม้แต่เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 1 ยังไม่สามารรับการโจมตีของเขาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย เขาเป็นใครกัน ? เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเซียนสวรรค์ แต่ทำไมเขาถึงน่ากลัวแบบนี้”

“และคนผู้นี้ดูเหมือนจะต้านมิติพันธนาการของหลิวเซิงได้อีก มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ เขาทำได้ยังไงกัน ? “

“เขาอาจจะมีทักษะลับโบราณที่ทรงพลังบางอย่างหรือเปล่า ? “

..

เซียนผู้คุมกฎทั้งหมดออกความคิดเห็นของตัวเองออกมา ทั้งหมดยากที่จะเชื่อว่าเถี่ยต้าสามารถต่อสู้ได้อย่างสูสีกับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 ในขณะที่เขาเป็นแค่เซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6

คนที่ต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎก็เป็นแค่มปลวก คำพูดนี้เป็นสิ่งที่แน่แท้ในทวีปจนกระทั่งมาถึงตอนนี้และมันก็ยังคงจะเป็นแบบนี้ต่อไป แต่ในวันนี้ พวกเขาก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่

นี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เป็นไปไม่ได้ที่เกิดขึ้นกับตาของพวกเขา

หมิงตงและคนอื่นก็เห็นเรื่องนี้แต่แรกด้วยเช่นกัน พวกเขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจและจ้องออกไปด้วยความเหลือเชื่อ พวกเขารู้ดีว่าเถี่ยต้านั้นทรงพลัง แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงขั้นที่สามารถต่อสู้ได้อย่างสูสีกับเซียนผู้คุมกฎ

จอมยุทธหลายคนจากตระกูลสันโดษและตระกูลโบราณที่มองดูอยู่ไกล ๆ ก็ได้เห็นความยอดเยี่ยมของเถี่ยต้าเช่นเดียวกัน พวกเขาพุ่งความสนใจไปที่เถี่ยต้าในขณะที่สายตาของพวกเขาเป็นประกายอย่างไม่สบายใจ

“เถี่ยต้า เจ้าทำดีมาก ฆ่าอย่าให้เหลือ สังหารคนที่มาบุกรุกบ้านของพวกเรา” หวังยี่เฟิงตะโกนออกมาแต่ไกล เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

หลังจากที่ได้ก็ฉุกคิดขึ้นมาถึงเหตุผลที่คนพวกนี้มาที่นี่ ความโกรธสูบฉีดไปที่ใบหน้าของเขาและเขาก็คำรามออกมา พลังงานที่มหาศาลมากไหลออกมาจากร่างกายของเขา มันเพิ่มพลังให้กับแขนของเขาและส่งต่อไปยังขวาน และกดให้ร่างของหลิวเซิงจมลงไปมากกว่าเดิมอีก 30 เซนติเมตร มีเฉพาะส่วนบนของร่างกายของเขาเท่านั้นที่โผล่ออกมา

หลิวเซิงเกรี้ยวโกรธทันทีที่เขาตระหนักได้ว่าเขาถูกกดดันให้มาอยู่ในสภาพแบบนี้โดยเซียนสวรรค์ที่เหมือนมดปลวก ความภาคภูมิใจของเขาในฐานะที่เป็นเซียนผู้คุมกฎกำลังถูกบดขยี้และสำหรับเขานั้นมันเป็นความอับอายที่ลบล้างไม่ได้ เขาคงจะต้องอับอายต่อหน้าทุกคนในภายภาคหน้าแน่

นี่เป็นเพราะอะไรบางอย่างที่เกินจริงแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในทวีปมาก่อน เซียนผู้คุมกฏถูกโจมตีจนจมลงไปในดินโดยเซียนสวรรค์ หลังจากการต่อสู้นี้ ชื่อของเขาคงกระจายไปทั่วทั้งทวีป แต่มันไม่ใช่ความรุ่งโรจน์และฐานะ มีเพียงแต่คำเยาะเย้ยและถากถางเพียงเท่านั้น

หลิวเซิงยิ่งโกรธมากกว่าเดิมเมื่อเขาคิดได้แบบนี้ ก่อนที่เขาจะคำรามออกมาอย่างไม่รู้ตัว พลังเซียนพวยพุ่งอยู่ในร่างของเขาในขณที่เขาใช้ความแข็งแกร่งที่เขามีทั้งหมดในการป้องกันขวานของเถี่ยต้า ร่างของพุ่งขึ้นมาจากพื้นทันที และทิ้งไว้เพียงหลุมที่ลึกประมาณ 1 เมตร

“เจ้าหนู ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้น ๆ ! ” หลิวเซิงคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว มีดพร้าของเขาฟันลงไปที่หัวของเถี่ยต้าในขณะที่ลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงที่หุ้มอยู่ซึ่งเต็มไปด้วยพลังธรรมชาติที่หนาแน่น

ครั้งนี้ หลิวเซิงใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี ความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมดที่เป็นถึงเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 ถูกแสดงออกมา เขาไม่ออมแรงเลยแม้แต่น้อย

เถี่ยต้าไม่รู้สึกกลัว สองมือของเขาจับขวานอยู่ เขาฟันมันออกไปอีกครั้งไปที่หลิวเซิง

ขวานและมีดพร้าปะทะกัน และทำให้เกิดเสียงระเบิดดังออกมา คลื่นพลังมหาศาลได้กระแทกให้ทั้งคู่กระเด็นถอยไป

ทันใดนั้นเอง จิตต่อสู้ที่ทรงพลังมากก็อบอวลไปรอบ ๆ จิตต่อสู้ที่ดูเหมือนจะสามารถสูบเลือดและยึดร่างของคนอื่นได้ได้ส่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างไม่รู้ตัว การต่อสู้ระหว่างกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีและพันธมิตรที่จะมาดับไฟได้ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่พวกเขาได้รับอิทธิพลจากจิตต่อสู้ ทั้งสองฝั่งทุ่มเทให้กับการต่อสู้โดยสิ้นเชิงโดยลืมแม้กระทั่งความเจ็บปวดและลืมแม้กระทั่งตัวเอง ทั้งหมดที่พวกเขามีในหัวคือ สู้ สู้ สู้ เท่านั้น

จอมยุทธทั้งหมดที่ดูอยู่แต่ไกลรู้สึกประหลาดใจ พวกเขารู้สึกได้โดยธรรมชาติถึงจิตต่อสู้ที่เต็มไปทั่วทั้งสนามรบและพวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่เถี่ยต้า นี่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นสัมผัสได้อย่างชัเจนว่าจิตต่อสู้นั้นมีต้นกำเนิดมาจากเถี่ยต้า

ในตอนนี้ เขาลอยอยู่ 3 เมตรกลางอากาศในขณะที่เขาเปล่งประกายไปด้วยจิตต่อสู้ ด้วยร่างที่แข็งแกร่งของเขา ดูเหมือนเทพเจ้าแห่งสงครามโบราณ

เขาชูขวานใหญ่ที่อยู่ในมือของเขาขึ้นช้า ๆ ในขณะที่แสงสีทองบนมันเข้มข้นขึ้นเรื่อยเรื่อย ในพริบตาเดียว ขวานยักษ์รางรางก็ปรากฏขึ้นที่เหนือหัวของเขา ก่อนที่จะฟันลงไปที่หลิวเซิง

จิตต่อสู้ทั้งหมดที่อยู่รอบรอบดูเหมือนจะมารวมตัวกันอย่างรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อในขณะที่ขวานรางรางเหวี่ยงลงมา ทำให้ขวานดูเลือนลางน้อยกว่าเดิมและชัดเจนขึ้น

วู๊ชช ! ภาพของขวานที่เหวี่ยงลงมาอย่างรวดเร็วเหมือนแสงสีทอง มันมาถึงที่เหนือหัวของหลิวเซิง ก่อนที่จะผ่านหัวของเขาไป

หลิวเซิงยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ รอยแยกขนาดหนึ่งนิ้วปรากฏขึ้นบนพื้นระหว่างขาทั้งสองของเขา มันเป็นเส้นตรงเป๊ะและยาวหลายพันเมตร

เถี่ยต้าหลับตาลงอย่างช้าช้าหลังจากที่โจมตีไปแล้ว ไม่เพียงแต่แสงสีทองบนร่างของเขาจะไม่มีทีท่าว่าจะจางลงไปเลยเท่านั้น มันกลับเข้มข้นขึ้นและบริสุทธิ์มากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ จิตต่อสู้ที่หนาแน่นยิ่งกว่าเดิมได้เปล่งประกายออกมาจากเขาอีกครั้ง และพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า

ผมหลายเส้นหล่นลงมาจากหัวของหลิวเซิง ไม่นานหลังจากนั้น เส้นแดงบางมากมากก็ปรากฎขึ้นที่หน้าผากของเขา มันค่อย ๆ ยาวขึ้นเรื่องยเรื่อยไปถึงคิ้วของเขา และจากนั้นก็ไปที่คอของเขาในพริบตาเดียว ก่อนที่จะหายไปในเสื้อผ้าของเขา

นี่คือเลือดจากร่างของหลิวเซิง

แสงสีทองดูเหมือนจะส่องแสงออกมาจากเลือดและสว่างขึ้นเรื่อยเรื่อย มันเกิดเสียงระเบิดขึ้นในตอนท้ายและร่างของหลิวเซิงก็ถูกผ่าออกเป็นสองส่วน วิญญาณของเขาก็หายไปด้วยเช่นกัน

เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 ได้ถูกสังหารไปโดยเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 6

คนที่ยืนดูอยู่แต่ไกลตัวแข็งในขณะที่จิตใจของพวกเขาปั่นป่วน พวกเขาไม่สามารถที่จะสงบใจเอาไว้ได้ แม้ว่าทุกสิ่งเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังปฏิเสธที่จะเชื่อหรือยอมรับมัน

สิ่งที่พวกเขารู้คือคนที่ต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎนั้นคือมดปลวก นี่เป็นความจริงที่จะเปลี่ยนไปไม่ได้ ต่อหน้าเซียนผู้คุมกฎแล้ว เซียนสวรรค์ไม่มีแม้แต่ความสามารถที่จะสร้างบาดแผลให้กับพวกเขาได้ เพราะเซียนผู้คุมกฎมีความเข้าใจในความลึกลับของมิติ ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำคือพันธนาการมิติรอบ ๆ เอาไว้และเซียนสวรรค์ก็จะขยับไม่ได้

แต่ในตอนนี้ พวกเขาได้เห็นกับตาว่าเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 ถูกสังหารอย่างหมดจดและน่าเวทนาไปโดยเซียนสวรรค์ ทั้งหมดตกอยู่ในความตกตะลึงอย่างมาก

เถี่ยต้าร่อนอยู่กลางอากาศพร้อมกับขวานของเขา ในขณะที่จิตต่อสู้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รอบ ๆ เขา แสงสีทองบนร่างของเขาเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน

ในครั้งนี้ แม้แต่เซียนผู้คุมกฎบางคนยังยากที่จะสงบใจได้ พวกเขารู้สึกว่าเลือดสูบฉีดและหมุนเวียนไปเร็วหลายเท่ากว่าปกติ ความต้องการที่มหาศาลที่จะต่อสู้พรวดพุ่งในใจของพวกเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง และทำให้พวกเขาทั้งหมดต้องการที่จะเข้าไปในสนามรบในตอนนี้เลย

“ไม่น่าเชื่อ จิตต่อสู้จากเขามีอิทธิพลกับพวกเราอย่างไม่รู้ตัว นี่มันทักษะประหลาอะไรกัน ? มันน่ากลัวมาก” เซียนผู้คุมกฎตะโกนออกมา เสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เซียนผู้คุมกฎคนอื่นเผยแววตาตกใจออกมาในขณะที่พวกเขาจ้องเขม็งไปที่เถี่ยต้า พวกเขาต้องการที่จะเห็นว่าเถี่ยต้านั้นทำอะไร

ในเวลาเดียวกัน โถงศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ได้ตั้งตระหง่านอยู่ในโลกหิมะและน้ำแข็งที่ขั้วโลก

คนที่อยู่ในเกราะสีขาวหิมะกำลังนั่งอยู่ที่ห้องลับ และนางกำลังหลับตาอยู่

ทันใดนั้นเอง นางก็ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ และมองไปที่ทิศทางที่ทวีปเทียนหยวนตั้งอยู่ นางถอนหายใจแล้วพูด “สายเลือดของเทพเจ้าสงครามได้ตื่นขึ้นมาแล้วในที่สุด ข้าสงสัยจริงจริงว่าสายเลือดนั้นจะยอดเยี่ยมเพียงใด เขาจะได้เป็นขั้นสูงสุดหรือไม่”

“สายเลือดของเทพเจ้าสงครามได้ตื่นขึ้นในบางสิ่งเมื่อหลายหมื่นปีก่อน แต่น่าเสียดายที่ข้าเข้าไปยุ่งด้วยไม่ได้ เขาตายในท้ายที่สุด ช่างน่าเสียดาย ช่างน่าเศร้า”

“ในการต่อสู้ช่วงนั้น เทพเจ้าแห่งสงครามได้ถูกสังหารไปโดยฝีมือของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงด้วยการใช้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ม่วงฟ้า แต่ในที่นี่ คนที่มีสายเลือดของเทพเจ้าแห่งสงครามได้ยืนอยู่ข้างเดียวกับผู้ที่สืบทอดมาจากนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง นี่เป็นสิ่งที่ฟ้าประทานหรือมันเป็นโศกนาฏกรรมกันแน่ ? “

“เทพเจ้าน้ำแข็งที่เคารพได้รับบาดเจ็บหนักจากนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงและยังไม่ฟื้นฟูดีในตอนนี้ ข้าอยากรู้ว่าผู้สืบทอดนี้จะเป็นร่างที่จุติของเทพกระบี่หรือเปล่า…”

“ในตอนนั้น สามผู้เฒ่าของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงได้ตกตายด้วยน้ำมือของข้า แต่ในตอนนี้ผู้สืบทอดของสำนักกลับเป็นลูกพี่ลูกน้องกับสตรีศักดิ์สิทธิ์…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+