Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 952: การยอมจำนนของเผ่าไทฮง

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 952: การยอมจำนนของเผ่าไทฮง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 952: การยอมจำนนของเผ่าไทฮง

ใบหน้าของหลายคนหมองลงทันที พวกเขาเดือดปุด ๆ เมื่อพวกเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินมีท่าทางเย่อหยิ่งเพียงใด โดยเฉพาะคำพูดของเจี้ยนเฉินที่ดูถูกพวกเขา

โดยไม่มีข้อยกเว้น ทั้งหมดที่มาที่นี่เป็นจอมยุทธที่สุดยอดจากเผ่าต่าง ๆ ในอาณาจักรทะเล ทุกคนเหมือนปีศาจเฒ่าที่มีชีวิตอยู่มานานหลายพันปีแล้วและทุกคนมีเกียรติ พวกเขาจะทนการกระทำเช่นนี้ของผู้เยาว์ได้อย่างไร?

“เจ้ากล้าดียังไงมาดูถูกข้า ! ข้าจะสอนบทเรียนอย่างดีให้กับเจ้าเองในฐานะที่ข้าเป็นผู้อาวุโส ข้าจะสอนให้เจ้ารู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไรที่พวกเขาพูดว่า มันจะมีคนที่เหนือกว่าเจ้าอยู่เสมอ” ชายชราหลังค่อมและเหี่ยวย่นคำรามออกมา เขาพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วแสงจากฝั่งของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ เขาโจมตีไปที่เจี้ยนเฉินด้วยมือที่ผอมบางของเขาที่เคลือบไปด้วยพลังงานซึ่งทรงพลัง

ชายชราคนนี้เป็นจอมยุทธ 16 ดาว คนที่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 เขาเป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ

ผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาเทพเจ้าอสรพิษไม่ได้หยุดเขาไว้ กลับกัน พวกเขาจ้องไปที่ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสองจากศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล กลิ่นอายที่มหาศาลเปล่งออกมาจากพวกเขาอย่างลับ ๆ และล็อคผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสองเอาไว้

ใบหน้าของผู้อาวุโสฮงหมองลงในขณะที่ตาของเขาก็แหลมคมด้วย เขาจ้องกลับไปที่ผู้อาวุโสประจำศาลาด้วยสายตาที่เสียดแทง

หญิงด้านข้างเขาก็มองกลับไปด้วยตาที่เป็นประกายเช่นเดียวกัน และจ้องอย่างเย็นชาไปที่ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสองด้วย เผยให้เห็นจิตสังหารในแววตาของนาง

ผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลกำลังวุ่นวายอยู่กับผู้อาวุโสประจำศาลาเทพเจ้าอสรพิษ ถ้าพวกเขาโจมตีออกไปเพื่อช่วยเจี้ยนเฉิน พวกเขาคงจะต้องเผชิญหน้ากับการโจทตีที่ดุร้ายจากผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสองคนแน่

เจี้ยนเฉินจ้องอย่างเย็นชากลับไปที่ชายชราที่พุ่งมาที่เขา เขาแค่นเสียงออกมา “มาหาข้าเลย” เขาพลิกมือ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็ปรากฏออกมา เขาใส่พลังบรรพกาลลงไปในยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ และแสงสีดำจ้าก็เปล่งประกายออกมาจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิทันที พลังแห่งการทำลายล้างเติมเต็มไปทั่วบริเวณรอบ ๆ ทำให้ท่าทีของคนอื่น ๆ เปลี่ยนไป

ท่าทางของคนที่พุ่งเข้ามาหาเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้สึกกลัวจากพลังงานที่พุ่งพวยออกมาจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ มันต้องเป็นการโจมตีที่เขาเทียบไม่ติดแน่

“เป็นไปได้ยังไงกัน ? ความแข็งแกร่งของเขามันมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน ? พลังนี้มันอะไรกัน ? มันน่ากลัวมาก” ชายชราตกใจ ในตอนที่เขาต้องการที่จะหลบ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิแทงออกไปเป็นแสงสีดำไปที่เขา

“บ้าเอ้ย ! ” เมื่อไม่มีทางเลือกอีก สายตาของชายชราก็มุ่งมั่น หอกปรากฎขึ้นในมือของเขาทันทีและเขาก็โจมตีออกไปแรงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

บู้ม !

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและหอกปะทะกันอย่างรุนแรง การโจมตีของเจี้ยนเฉินทรงพลังเท่ากับการโจมตีจากเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 ในขณะที่ชายชราเป็นเพียงเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 เท่านั้น เขาไม่สามารถเทียบกับมันได้ และกระเด็นถอยหลังและกระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาซีด ในตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

“นี่เป็นความหมายที่ว่า ยังมีคนที่แข็งแกร่งกว่าพวกเจ้าอยู่เสมอที่ด้านนอก คนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่เมื่อเจ้าโจมตีข้าไปแล้ว” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเย็นชา เขาจ้องไปที่ชายชราในขณะที่ชายชราถอยหลังกลับไป จิตสังหารพุ่งพวยอยู่ในตาของเจี้ยนเฉิน เขาฟันออกไปแต่ไกลและต้องการที่สังหารชายชรานั่น

ปราณกระบี่ที่ใหญ่โตถูกยิงออกมาจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ได้เปลี่ยนไปเป็นมังกรสีดำและพุ่งเป้าไปที่ชายชรา พลังที่ดูเหมือนจะสามารถทำลายไปรอบ ๆ ได้ ที่ใดก็ตามที่มันผ่านไป มิติก็แตกออก ในขณะที่คลื่นพลังงานที่น่ากลัวทำให้ท่าทีของทุกคนเปลี่ยนไป

ตาของชายชราหรี่เล็กลง ใบหน้าของเขาซีดมากยิ่งกว่าเดิม ตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขาได้รับบาดเจ็บหนัก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารที่จะหลบปราณกระบี่ที่กำลังเข้ามาได้ ถ้าเขาถูกโจมตีอีกครั้งด้วยการโจมตีแบบนั้น เขาคงต้องแทบเอาชีวิตไม่รอดแน่ถึงเขาจะมีชีวิตอยู่

“หยุด ! ” ในตอนนี้เอง เสียงที่หนักแน่นก็ดังขึ้นมา ผู้อาวุโสประจำศาลาจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษก็เคลื่อนไหว เขาโบกแขนเสื้อเบา ๆ และพลังที่มหาศาลก็ปรากฏขึ้นมา มันปะทะเข้ากับปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉิน

เสียงระเบิดดังขึ้นมา ปราณกระบี่ของเขาถูกป้องกันเอาไว้โดยผู้อาวุโสประจำศาลา พลังงานที่มหาศาลหายไปพร้อมทั้งปราณกระบี่ มันหักล้างกันและกันไป

เจี้ยนเฉินจ้องกลับไปที่ผู้อาวุโสประจำศาลาอย่างเย็นชาสักพัก ก่อนที่จะพูดออกไปที่ชายชรา “ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าครั้งนี้ แต่เจ้าจะไม่โชคดีแบบนี้อีกครั้งหน้าแน่” เขามองไปรอบ ๆ อีกครั้งแล้วตะโกนออกไป “มาหาข้าถ้าพวกเจ้าต้องการโถงศักดิ์สิทธิ์”

ครั้งนี้ บริเวณโดยรอบตกอยู่ในความเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไรขึ้นมาอีก ในขณะที่สายตาที่ทุกคนมองไปที่เจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปอย่างมาก พลังที่สามารถทำให้จอมยุทธ 16 ดาวบาดเจ็บสาหัสได้โดยง่ายทำให้หลายคนกลัว

ในตอนนี้เจี้ยนเฉินมีพลังที่จะเก็บโถงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ได้

“ดี ดี ดี เจี้ยนเฉิน เจ้าทำให้ข้ายิ่งประหลาดใจมากขึ้นทุกที ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะได้โถงศักดิ์สิทธิ์มาจริง ๆ เจ้ายังเจอยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยเซียนจักรพรรดิที่เป็นมนุษย์ที่ตายไปโดยสิ้นอายุขัยอีก ช่างเป็นความแข็งแกร่งที่น่ากลัวอะไรแบบนี้ในตอนที่เจ้าใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ” ผู้อาวุโสฮงหัวเราะคิกคัก คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม

ใบหน้าของผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสองจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษมืดครึ้มลงอย่างมาก ความเกลียดชังของพวกเขาที่มีให้เจี้ยนเฉินขึ้นไปจนถึงขีดสุด ก่อนหน้านี้ เจี้ยนเฉินได้ขโมยผลึกอเวจีจากพวกเขาและหนีเข้าไปในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล แต่ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินยังทำให้พวกเขาดูเหมือนคนน่าสงสารไปอีก พวกเขาทั้งสองรู้สึกค่อนข้างอับอาย

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเขาสงสัยว่าไทนิชนั้นถูกสังหารไปโดยน้ำมือเจี้ยนเฉินหรือไม่ ไทนิชเป็นผู้คุมกฎของเผ่ามังกรอสรพิษ เขาถูกเจ้าศาลาปฏิบัติด้วยอย่างสำคัญมากถึงขนาดที่ถูกเจ้าศาลาฝากพลังของเซียนจักรพรรดิเอาไว้ การตายของเขาเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของทั้งเผ่าเพราะว่ามันเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นเซียนจักรพรรดิจากพรสวรรค์ของเขา

“พวกเราไปกันเถอะ ! ” ผู้อาวุโสประจำศาลาจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษตะโกนออกมาก่อนที่จะออกไปจากกลุ่มเป็นคนแรก เขาไม่สนใจอย่างอื่นอีกต่อไป เพราะว่าเขารู้ดีว่าเจี้ยนเฉินในตอนนี้ไม่อ่อนแอถึงขนาดที่พวกเขาจะพวกเขาจัดการได้

คนจากศาลาวิญญาณสวรรค์และศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลออกไปในเวลาเดียวกันเมื่อศาลาเทพเจ้าอสรพิษออกไป อย่างไรก็ตาม ทุกคนนอกเหนือจากเจี้ยนเฉินและนูบิสอยู่ในสภาพที่ยากจะยอมรับได้

พวกเขารออย่างยากลำบากมาถึง 5 ปี และเชื่อแต่แรกว่าคนของเผ่าของพวกเขาจะเอาสมบัติจากโถงศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเผ่าของพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้ มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่กลับมาจากทั้งหมด 160 คน

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามีสมบัติมากมายอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะถามเจี้ยนเฉิน นี่เป็นเพราะความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินอยู่ในระดับที่พวกเขากลัว

เจี้ยนเฉินตามผู้อาวุโสฮงและคนอื่น ๆ กลับไปที่อาณาเขตของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เขาปฏิเสธคำเชิญของผู้อาวุโสฮงที่เชิญเขาไปที่ศาลา และมุ่งตรงไปที่เผ่าเต่าพร้อมกับนูบิส

5 ปีที่เจี้ยนเฉินและเผ่าไทฮงตกลงกันได้ผ่านไปหลายวันแล้ว ในตอนนี้ ผู้นำเผ่าไทฮงได้นำกลุ่มจอมยุทธมาที่เผ่าเต่าและกำลังรออยู่ที่นั่น

“อย่ากังวลไป 5 ปีอาจจะผ่านไปแล้ว แต่พวกเราจะไม่สร้างปัญหาให้กับพวกเจ้า ข้ารู้ว่าผู้คุมกฎเผ่าเต่ายังไม่ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด ดังนั้นพวกเราจะรอที่นี่จนกว่าเขาจะออกมา แต่ถ้าเขาตายในนั้น มันจะเป็นพวกเจ้าที่แพ้ตามข้อตกลงของพวกเรา และเผ่าเต่าจะเป็นของเผ่าไทฮง” ผู้นำเผ่าไทฮงยืนกอดอกอยู่ที่จัตุรัสของเผ่าเต่า เขาเชื่อว่าเขาจะได้รับชัยชนะในข้อตกลงที่เขาได้ทำไว้กับเจี้ยนเฉินแน่ นี่เป็นเพราะเขาไม่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะถึงความสามารถทัดเทียมกับเขาได้ในระยะเวลา 5 ปีอันสั้นนี้

เผ่าไทฮงไม่ได้สร้างปัญหาให้เผ่าเต่า จุดประสงค์ของพวกเขาคือการการให้เผ่าเต่าอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ในตอนนี้ พวกเขามีความเป็นไปได้ที่จะชนะใจของคนในเผ่าถ้าพวกเขาทำตัวเป็นมิตร เพราะว่าผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามของเผ่าได้ตกลงกับพวกเขาไว้แล้ว เช่นนั้นแล้ว ด้วยการชักชวนจากผู้อาวุโสที่เป็นที่เคารพทั้งสอง พวกเขาจะเจอการต่อต้านน้อยลงจากการยอมจำนนของเผ่าเต่า

จอมยุทธของเผ่าเต่าได้รวมอยู่รอบ ๆ คนของเผ่าไทฮง แม้ว่าผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามจะยังอยู่ที่นี่

“ความใจกว้างของเผ่าไทฮงได้ทำให้พวกเราอับอาย พวกเราไม่สามารถที่จะผิดคำพูดของพวกเราได้ มันไม่สำคัญว่าเหตุผลที่ผู้คุมกฎไม่สามารถรักษาคำพูดได้คืออะไร เขาได้ผิดคำพูดและทำให้ทั้งเผ่าอับอาย ข้าจะขอประกาศว่าถ้าผู้คุมกฎที่เคารพยังไม่มาในอีก 3 วันนี้ มันจะเป็นความพ่ายแพ้ของพวกเรา พวกเราจะยอมจำนนต่อเผ่าเต่าตามข้อตกลงก่อนหน้านี้และกลายเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเขา” ผู้อาวุโสสองพูดอย่างชอบธรรมออกมา

“ผู้อาวุโสสองพูดถูก พวกเราอาจจะอ่อนแอลง แต่พวกเราก็ยังคงเป็นเผ่าโบราณ ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน พวกเราจะไม่รักษาคำพูดได้อย่างไร ? ข้าเห็นด้วยกับคำแนะนำของผู้อาวุโสสอง ถ้าผู้คมกฎยังไม่กลับมาในสามวันนี้ พวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งกับเผ่าไทฮง” ผู้อาวุโสสามพูดออกมาเช่นกัน

คนของเผ่าเต่ามองหน้ากันและกัน แต่พวกเขาก็ไม่เห็นหนทางอื่น แม้ว่าข้อแนะนำของผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามจะเป็นการช่วยเผ่าไทฮง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล

“ผู้อาวุโสสอง ผู้อาวุโสสาม เมื่อไรกันที่ชะตาของเผ่าเต่าไปตกอยู่ในมือของพวกเจ้ากัน ? ” เสียงดังออกมาจากท้องฟ้าในตอนนี้ เสียงสะท้อนไปทุกที่ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาต้นกำเนิดของมัน

“ผู้คุมกฎ ! มันคือเสียงของผู้คุมกฎ ! ผู้คุมกฎกลับมาแล้ว…”

“ผู้คุมกฎของพวกเรากลับมาแล้ว…”

หลายคนจำเจ้าของเสียงได้และเอ่ยขึ้นมาด้วยความยินดี ในขณะที่ใบหน้าของผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามก็หมองหม่นลง

ร่างสองร่างตัดผ่านท้องฟ้าเหมือนดาวตก และบินเข้ามาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ในตอนท้าย พวกเขาก็ลดลงมาอย่างช้า ๆ ภายใต้สายตาต้อนรับจากทั้งเผ่า พวกเขาคือเจี้ยนเฉินและนูบิส

เจี้ยนเฉินและนูบิสข่มพลังแห่งการมีอยู่เอาไว้ ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงถูกซ่อนอยู่ พวกเขาดูเหมือนคนธรรมดา 2 คน ไม่มีใครบอกได้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 952: การยอมจำนนของเผ่าไทฮง

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 952: การยอมจำนนของเผ่าไทฮง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 952: การยอมจำนนของเผ่าไทฮง

ใบหน้าของหลายคนหมองลงทันที พวกเขาเดือดปุด ๆ เมื่อพวกเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินมีท่าทางเย่อหยิ่งเพียงใด โดยเฉพาะคำพูดของเจี้ยนเฉินที่ดูถูกพวกเขา

โดยไม่มีข้อยกเว้น ทั้งหมดที่มาที่นี่เป็นจอมยุทธที่สุดยอดจากเผ่าต่าง ๆ ในอาณาจักรทะเล ทุกคนเหมือนปีศาจเฒ่าที่มีชีวิตอยู่มานานหลายพันปีแล้วและทุกคนมีเกียรติ พวกเขาจะทนการกระทำเช่นนี้ของผู้เยาว์ได้อย่างไร?

“เจ้ากล้าดียังไงมาดูถูกข้า ! ข้าจะสอนบทเรียนอย่างดีให้กับเจ้าเองในฐานะที่ข้าเป็นผู้อาวุโส ข้าจะสอนให้เจ้ารู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไรที่พวกเขาพูดว่า มันจะมีคนที่เหนือกว่าเจ้าอยู่เสมอ” ชายชราหลังค่อมและเหี่ยวย่นคำรามออกมา เขาพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วแสงจากฝั่งของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ เขาโจมตีไปที่เจี้ยนเฉินด้วยมือที่ผอมบางของเขาที่เคลือบไปด้วยพลังงานซึ่งทรงพลัง

ชายชราคนนี้เป็นจอมยุทธ 16 ดาว คนที่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 เขาเป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ

ผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาเทพเจ้าอสรพิษไม่ได้หยุดเขาไว้ กลับกัน พวกเขาจ้องไปที่ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสองจากศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล กลิ่นอายที่มหาศาลเปล่งออกมาจากพวกเขาอย่างลับ ๆ และล็อคผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสองเอาไว้

ใบหน้าของผู้อาวุโสฮงหมองลงในขณะที่ตาของเขาก็แหลมคมด้วย เขาจ้องกลับไปที่ผู้อาวุโสประจำศาลาด้วยสายตาที่เสียดแทง

หญิงด้านข้างเขาก็มองกลับไปด้วยตาที่เป็นประกายเช่นเดียวกัน และจ้องอย่างเย็นชาไปที่ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสองด้วย เผยให้เห็นจิตสังหารในแววตาของนาง

ผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลกำลังวุ่นวายอยู่กับผู้อาวุโสประจำศาลาเทพเจ้าอสรพิษ ถ้าพวกเขาโจมตีออกไปเพื่อช่วยเจี้ยนเฉิน พวกเขาคงจะต้องเผชิญหน้ากับการโจทตีที่ดุร้ายจากผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสองคนแน่

เจี้ยนเฉินจ้องอย่างเย็นชากลับไปที่ชายชราที่พุ่งมาที่เขา เขาแค่นเสียงออกมา “มาหาข้าเลย” เขาพลิกมือ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็ปรากฏออกมา เขาใส่พลังบรรพกาลลงไปในยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ และแสงสีดำจ้าก็เปล่งประกายออกมาจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิทันที พลังแห่งการทำลายล้างเติมเต็มไปทั่วบริเวณรอบ ๆ ทำให้ท่าทีของคนอื่น ๆ เปลี่ยนไป

ท่าทางของคนที่พุ่งเข้ามาหาเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้สึกกลัวจากพลังงานที่พุ่งพวยออกมาจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ มันต้องเป็นการโจมตีที่เขาเทียบไม่ติดแน่

“เป็นไปได้ยังไงกัน ? ความแข็งแกร่งของเขามันมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน ? พลังนี้มันอะไรกัน ? มันน่ากลัวมาก” ชายชราตกใจ ในตอนที่เขาต้องการที่จะหลบ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิแทงออกไปเป็นแสงสีดำไปที่เขา

“บ้าเอ้ย ! ” เมื่อไม่มีทางเลือกอีก สายตาของชายชราก็มุ่งมั่น หอกปรากฎขึ้นในมือของเขาทันทีและเขาก็โจมตีออกไปแรงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

บู้ม !

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและหอกปะทะกันอย่างรุนแรง การโจมตีของเจี้ยนเฉินทรงพลังเท่ากับการโจมตีจากเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 ในขณะที่ชายชราเป็นเพียงเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 เท่านั้น เขาไม่สามารถเทียบกับมันได้ และกระเด็นถอยหลังและกระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาซีด ในตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

“นี่เป็นความหมายที่ว่า ยังมีคนที่แข็งแกร่งกว่าพวกเจ้าอยู่เสมอที่ด้านนอก คนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่เมื่อเจ้าโจมตีข้าไปแล้ว” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเย็นชา เขาจ้องไปที่ชายชราในขณะที่ชายชราถอยหลังกลับไป จิตสังหารพุ่งพวยอยู่ในตาของเจี้ยนเฉิน เขาฟันออกไปแต่ไกลและต้องการที่สังหารชายชรานั่น

ปราณกระบี่ที่ใหญ่โตถูกยิงออกมาจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ได้เปลี่ยนไปเป็นมังกรสีดำและพุ่งเป้าไปที่ชายชรา พลังที่ดูเหมือนจะสามารถทำลายไปรอบ ๆ ได้ ที่ใดก็ตามที่มันผ่านไป มิติก็แตกออก ในขณะที่คลื่นพลังงานที่น่ากลัวทำให้ท่าทีของทุกคนเปลี่ยนไป

ตาของชายชราหรี่เล็กลง ใบหน้าของเขาซีดมากยิ่งกว่าเดิม ตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขาได้รับบาดเจ็บหนัก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารที่จะหลบปราณกระบี่ที่กำลังเข้ามาได้ ถ้าเขาถูกโจมตีอีกครั้งด้วยการโจมตีแบบนั้น เขาคงต้องแทบเอาชีวิตไม่รอดแน่ถึงเขาจะมีชีวิตอยู่

“หยุด ! ” ในตอนนี้เอง เสียงที่หนักแน่นก็ดังขึ้นมา ผู้อาวุโสประจำศาลาจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษก็เคลื่อนไหว เขาโบกแขนเสื้อเบา ๆ และพลังที่มหาศาลก็ปรากฏขึ้นมา มันปะทะเข้ากับปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉิน

เสียงระเบิดดังขึ้นมา ปราณกระบี่ของเขาถูกป้องกันเอาไว้โดยผู้อาวุโสประจำศาลา พลังงานที่มหาศาลหายไปพร้อมทั้งปราณกระบี่ มันหักล้างกันและกันไป

เจี้ยนเฉินจ้องกลับไปที่ผู้อาวุโสประจำศาลาอย่างเย็นชาสักพัก ก่อนที่จะพูดออกไปที่ชายชรา “ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าครั้งนี้ แต่เจ้าจะไม่โชคดีแบบนี้อีกครั้งหน้าแน่” เขามองไปรอบ ๆ อีกครั้งแล้วตะโกนออกไป “มาหาข้าถ้าพวกเจ้าต้องการโถงศักดิ์สิทธิ์”

ครั้งนี้ บริเวณโดยรอบตกอยู่ในความเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไรขึ้นมาอีก ในขณะที่สายตาที่ทุกคนมองไปที่เจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปอย่างมาก พลังที่สามารถทำให้จอมยุทธ 16 ดาวบาดเจ็บสาหัสได้โดยง่ายทำให้หลายคนกลัว

ในตอนนี้เจี้ยนเฉินมีพลังที่จะเก็บโถงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ได้

“ดี ดี ดี เจี้ยนเฉิน เจ้าทำให้ข้ายิ่งประหลาดใจมากขึ้นทุกที ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะได้โถงศักดิ์สิทธิ์มาจริง ๆ เจ้ายังเจอยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยเซียนจักรพรรดิที่เป็นมนุษย์ที่ตายไปโดยสิ้นอายุขัยอีก ช่างเป็นความแข็งแกร่งที่น่ากลัวอะไรแบบนี้ในตอนที่เจ้าใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ” ผู้อาวุโสฮงหัวเราะคิกคัก คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม

ใบหน้าของผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งสองจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษมืดครึ้มลงอย่างมาก ความเกลียดชังของพวกเขาที่มีให้เจี้ยนเฉินขึ้นไปจนถึงขีดสุด ก่อนหน้านี้ เจี้ยนเฉินได้ขโมยผลึกอเวจีจากพวกเขาและหนีเข้าไปในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล แต่ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินยังทำให้พวกเขาดูเหมือนคนน่าสงสารไปอีก พวกเขาทั้งสองรู้สึกค่อนข้างอับอาย

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเขาสงสัยว่าไทนิชนั้นถูกสังหารไปโดยน้ำมือเจี้ยนเฉินหรือไม่ ไทนิชเป็นผู้คุมกฎของเผ่ามังกรอสรพิษ เขาถูกเจ้าศาลาปฏิบัติด้วยอย่างสำคัญมากถึงขนาดที่ถูกเจ้าศาลาฝากพลังของเซียนจักรพรรดิเอาไว้ การตายของเขาเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของทั้งเผ่าเพราะว่ามันเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นเซียนจักรพรรดิจากพรสวรรค์ของเขา

“พวกเราไปกันเถอะ ! ” ผู้อาวุโสประจำศาลาจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษตะโกนออกมาก่อนที่จะออกไปจากกลุ่มเป็นคนแรก เขาไม่สนใจอย่างอื่นอีกต่อไป เพราะว่าเขารู้ดีว่าเจี้ยนเฉินในตอนนี้ไม่อ่อนแอถึงขนาดที่พวกเขาจะพวกเขาจัดการได้

คนจากศาลาวิญญาณสวรรค์และศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลออกไปในเวลาเดียวกันเมื่อศาลาเทพเจ้าอสรพิษออกไป อย่างไรก็ตาม ทุกคนนอกเหนือจากเจี้ยนเฉินและนูบิสอยู่ในสภาพที่ยากจะยอมรับได้

พวกเขารออย่างยากลำบากมาถึง 5 ปี และเชื่อแต่แรกว่าคนของเผ่าของพวกเขาจะเอาสมบัติจากโถงศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเผ่าของพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้ มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่กลับมาจากทั้งหมด 160 คน

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามีสมบัติมากมายอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะถามเจี้ยนเฉิน นี่เป็นเพราะความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินอยู่ในระดับที่พวกเขากลัว

เจี้ยนเฉินตามผู้อาวุโสฮงและคนอื่น ๆ กลับไปที่อาณาเขตของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เขาปฏิเสธคำเชิญของผู้อาวุโสฮงที่เชิญเขาไปที่ศาลา และมุ่งตรงไปที่เผ่าเต่าพร้อมกับนูบิส

5 ปีที่เจี้ยนเฉินและเผ่าไทฮงตกลงกันได้ผ่านไปหลายวันแล้ว ในตอนนี้ ผู้นำเผ่าไทฮงได้นำกลุ่มจอมยุทธมาที่เผ่าเต่าและกำลังรออยู่ที่นั่น

“อย่ากังวลไป 5 ปีอาจจะผ่านไปแล้ว แต่พวกเราจะไม่สร้างปัญหาให้กับพวกเจ้า ข้ารู้ว่าผู้คุมกฎเผ่าเต่ายังไม่ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด ดังนั้นพวกเราจะรอที่นี่จนกว่าเขาจะออกมา แต่ถ้าเขาตายในนั้น มันจะเป็นพวกเจ้าที่แพ้ตามข้อตกลงของพวกเรา และเผ่าเต่าจะเป็นของเผ่าไทฮง” ผู้นำเผ่าไทฮงยืนกอดอกอยู่ที่จัตุรัสของเผ่าเต่า เขาเชื่อว่าเขาจะได้รับชัยชนะในข้อตกลงที่เขาได้ทำไว้กับเจี้ยนเฉินแน่ นี่เป็นเพราะเขาไม่เชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะถึงความสามารถทัดเทียมกับเขาได้ในระยะเวลา 5 ปีอันสั้นนี้

เผ่าไทฮงไม่ได้สร้างปัญหาให้เผ่าเต่า จุดประสงค์ของพวกเขาคือการการให้เผ่าเต่าอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ในตอนนี้ พวกเขามีความเป็นไปได้ที่จะชนะใจของคนในเผ่าถ้าพวกเขาทำตัวเป็นมิตร เพราะว่าผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามของเผ่าได้ตกลงกับพวกเขาไว้แล้ว เช่นนั้นแล้ว ด้วยการชักชวนจากผู้อาวุโสที่เป็นที่เคารพทั้งสอง พวกเขาจะเจอการต่อต้านน้อยลงจากการยอมจำนนของเผ่าเต่า

จอมยุทธของเผ่าเต่าได้รวมอยู่รอบ ๆ คนของเผ่าไทฮง แม้ว่าผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามจะยังอยู่ที่นี่

“ความใจกว้างของเผ่าไทฮงได้ทำให้พวกเราอับอาย พวกเราไม่สามารถที่จะผิดคำพูดของพวกเราได้ มันไม่สำคัญว่าเหตุผลที่ผู้คุมกฎไม่สามารถรักษาคำพูดได้คืออะไร เขาได้ผิดคำพูดและทำให้ทั้งเผ่าอับอาย ข้าจะขอประกาศว่าถ้าผู้คุมกฎที่เคารพยังไม่มาในอีก 3 วันนี้ มันจะเป็นความพ่ายแพ้ของพวกเรา พวกเราจะยอมจำนนต่อเผ่าเต่าตามข้อตกลงก่อนหน้านี้และกลายเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเขา” ผู้อาวุโสสองพูดอย่างชอบธรรมออกมา

“ผู้อาวุโสสองพูดถูก พวกเราอาจจะอ่อนแอลง แต่พวกเราก็ยังคงเป็นเผ่าโบราณ ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน พวกเราจะไม่รักษาคำพูดได้อย่างไร ? ข้าเห็นด้วยกับคำแนะนำของผู้อาวุโสสอง ถ้าผู้คมกฎยังไม่กลับมาในสามวันนี้ พวกเราจะเป็นส่วนหนึ่งกับเผ่าไทฮง” ผู้อาวุโสสามพูดออกมาเช่นกัน

คนของเผ่าเต่ามองหน้ากันและกัน แต่พวกเขาก็ไม่เห็นหนทางอื่น แม้ว่าข้อแนะนำของผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามจะเป็นการช่วยเผ่าไทฮง แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล

“ผู้อาวุโสสอง ผู้อาวุโสสาม เมื่อไรกันที่ชะตาของเผ่าเต่าไปตกอยู่ในมือของพวกเจ้ากัน ? ” เสียงดังออกมาจากท้องฟ้าในตอนนี้ เสียงสะท้อนไปทุกที่ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาต้นกำเนิดของมัน

“ผู้คุมกฎ ! มันคือเสียงของผู้คุมกฎ ! ผู้คุมกฎกลับมาแล้ว…”

“ผู้คุมกฎของพวกเรากลับมาแล้ว…”

หลายคนจำเจ้าของเสียงได้และเอ่ยขึ้นมาด้วยความยินดี ในขณะที่ใบหน้าของผู้อาวุโสสองและผู้อาวุโสสามก็หมองหม่นลง

ร่างสองร่างตัดผ่านท้องฟ้าเหมือนดาวตก และบินเข้ามาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ในตอนท้าย พวกเขาก็ลดลงมาอย่างช้า ๆ ภายใต้สายตาต้อนรับจากทั้งเผ่า พวกเขาคือเจี้ยนเฉินและนูบิส

เจี้ยนเฉินและนูบิสข่มพลังแห่งการมีอยู่เอาไว้ ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกเขาจึงถูกซ่อนอยู่ พวกเขาดูเหมือนคนธรรมดา 2 คน ไม่มีใครบอกได้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงใด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+