Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 975: ต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ (5)

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 975: ต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ (5) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 975: ต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ (5)

เจี้ยนเฉินและผู้อาวุโสสูงสุดหลายคนของนิกายยิหยวนสังเกตเห็นถึงการมาถึงของตระกูลผู้พิทักษ์อื่นในขณะที่พวกเขาสู้กันอย่างดุเดือด แต่พวกเขาก็ไม่หยุด เจี้ยนเฉินควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดด้วยตัวเอง และต่อสู้กับโถงศักดิ์สิทธิ์อื่นอีก 5 อัน เขาปะทะกับโถงอื่นอย่างไม่เกรงกลัว และกล้าหาญมากยิ่งขึ้นเมื่อการต่อสู้ดำเนินไป

การปะทะกันระหว่างโถงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกได้ทำให้เซียนราชาหลายคนตื่นตัว หลังจากที่ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบมาถึง ประตูมิติก็เกิดขึ้นกลางอากาศอันแล้วอันเล่าและเซียนราชาที่มีอายุต่างกันก็ออกมา พวกเขาทั้งหมดเป็นหัวหน้าตระกูลของตระกูลโบราณและตระกูลสันโดษ ในกลุ่มพวกเขามีเจียงหยาง ซู หยวนเซียวที่อยู่ที่ตระกูลเจียงหยางของเมืองลอร์อยู่ด้วย

พวกเขามองไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกทันทีที่พวกเขามาถึง พวกเขาพยายามที่จะเดาว่าใครกันที่ควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่อันเดียวนั้น พวกเขาต้องการที่จะรู้ว่าใครกันที่กล้าที่จะยั่วยุตระกูลผู้พิทักษ์และเป็นศัตรูกับนิกายยิหยวน

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งห้าสู้กับโถงศักดิ์สิทธิ์ของเจี้ยนเฉินด้วยโถงของตัวเองเป็นเวลานาน แต่พวกเขาก็ทำอะไรเจี้ยนเฉินไม่ได้ ในตอนท้าย พวกเขาไม่ทนอีกต่อไป ดังนั้นบางคนจึงตะโกนออกมา “ทุกคน พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ โปรดช่วยพวกเราในการทำลายมันและเข้าไปเอาพยัคฆ์ปีกเทวะ ! “

คำพูดของผู้อาวุโสสูงสุดได้ทำให้ผู้คนรอบ ๆ ตกใจใ พวกเขามองไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดด้วยความเหลือเชื่อ

“หลิงหยวนซี เจ้ามั่นใจหรือ ? พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่ในนั้นจริง ๆ หรือ ? ” เทียนเจี้ยนถามออกมาด้วยเสียงทุ้ม ความไม่สบายใจท่วมท้นอยู่ในดวงตาของเขา

“เป็นไปไม่ได้ พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่กับเจี้ยนเฉิน และไม่ใช่ว่าเขาไปที่อาณาจักรทะเลอย่างนั้นหรือ ? ถ้าเป็นแบบนั้นพยัคฆ์ปีกเทวะก็น่าจะอยู่ในอาณาจักรทะเลด้วย ทำไมมันถึงมาอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ล่ะ ? หลิงหยวนซี พยายามอย่าปั่นหัวพวกเรา”

“นิกายยิหยวน พวกเจ้าพยายามที่จะใช้ข่าวปลอมเพื่อให้พวกเราช่วย เพราะพวกเจ้าเอาชนะศัตรูไม่ได้หรือเปล่า ? “

..

คำพูดของผู้อาวุโสสูงสุดทำให้เกิดความโกลาหลระหว่างผู้คน ทุกคนจากตระกูลผู้พิทักษ์และเมืองทหารรับจ้างถามด้วยความสงสัย ไม่มีใครเชื่อว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับพยัคฆ์ปีกเทวะ

ฮุสตันและเซียนราชาคนอื่น ๆ ยังคงเงียบ แม้ว่าพยัคฆ์ปีกเทวะจะเป็นสิ่งที่ยั่วยวนพวกเขามาก แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ พวกเขาทำได้แต่มองอยู่ข้าง ๆ และดูว่าอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจจะเกิดขึ้น

“ทุกคน ข้า ยิจินซีรับรองได้ว่าหลิงหยวนซีนั้นพูดความจริง พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ และมันถูกควบคุมโดยเจี้ยนเฉินที่หนีไปที่อาณาจักรทะเลพร้อมกับพยัคฆ์ปีกเทวะเมื่อหลายปีก่อน เขายังทำร้ายแม้กระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเรา หลิงหยวนซี จนกระทั่งวิญญาณของเขาออกจากร่างไป” ผู้อาวุโสสูงสุดอีกคนตะโกนออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์

“อะไรนะ ! คนที่ควบคุมเป็นเจี้ยนเฉินงั้นหรือ ? ” ทุกคนจากตระกูลผู้พิทักษ์ตะโกนออกมา พวกเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

แสงสีทองเป็นประกายอยู่ในดวงตาของเทียนเจี้ยน เขาจ้องไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยความสนใจ เขานิ่งอึ้ง

ฮุสตันยืนอยู่พร้อมกับจอบธรรมดาที่อยู่บนไหล่ของเขา แต่แววตาของเขาก็เปล่งประกายในขณะที่เขาจ้องตาไม่กระพริบไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด เขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เซียนราชาทั้งหมดจากตระกูลโบราณตกใจ ชื่อของเจี้ยนเฉินเหมือนฟ้าผ่าในหูของเขา พวกเขาไม่คิดว่าเจี้ยนเฉินที่เห็นได้ชัดว่าเป็นเซียนผู้คุมกฎจะเป็นผู้ที่กำลังควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่เขากำลังสู้กับคนจากนิกายยิหยวน เขายังทำให้พวกนั้นทำอะไรไม่ได้ เซียนราชาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

นอกเหนือจากความตกใจ คนของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางก็ยินดีด้วย เจียงหยาง ซู หยวนเซียวและเจียงหยาง ซู เซียวก็ยินดีด้วยเช่นกัน

นี่เป็นเพราะเจี้ยนเฉินไม่ใช่แค่คนของตระกูลเจียงหยางเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนของสาขาซูด้วย

“เจี้ยนเฉินกลับมาแล้วจริง ๆ และเขายังแข็งแกร่งขึ้นอีก เยี่ยม นี่มันเยี่ยมจริงจริง ข้าจะไปพาคงเอ๋อมา” เจียงหยาง ซู หยวนเซียวพูดเสียงสั่น หลังจากนั้น เขาก็ออกไปโดยผ่านประตูมิติ

“ไม่คิดเลยว่านิกายยิหยวนที่ยิ่งใหญ่จะมีตอนที่ต้องร้องขอความช่วยเหลือเมื่อต้องสู้กับผู้เยาว์ด้วย ข้าเพิ่งจะได้เห็นมันวันนี้จริง ๆ ” เสียงของเจี้ยนเฉินดังออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ เขากำลังล้อเลียนพวกนั้น

“เจี้ยนเฉิน เจ้ามันอวดดีจริง ๆ เจ้าคิดว่าเราจะจนปัญญาที่จะต่อกรกับเจ้าเพราะว่าเจ้าซ่อนอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ ? ” ยิหยวนซีพูดอย่างโกรธเกรี้ยว คำยั่วยุของเจี้ยนเฉินล้อเลียนพวกเขา

เทียนเจี้ยนและฮุสตันยินดีทันทีเมื่อเขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของเจี้ยนเฉิน ความสงสัยว่าเป็นเจี้ยนเฉินหรือไม่ก่อนหน้านี้ได้จางหายไปจากความคิดของพวกเขาก่อนหน้านี้

“ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะกลับมาเร็วแบบนี้ นี่เกิดกว่าทุกอย่างที่ข้าคาดหมายไว้จริงจริง” เทียนเจี้ยนยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่คิด

“เจ้ากลับมาได้เวลาเหมาะจริง ๆ เจ้าจำเป็นต้องทวงคืนสิ่งที่เจ้าถูกแย่งชิงไปก่อนหน้านี้ เจี้ยนเฉิน พัฒนาการของเจ้าเหนือกว่าที่ข้าคาดการไว้ แต่เจ้ายังใจร้อนเพราะเจ้ายังเด็ก โถงศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงพอที่จะจัดการตระกูลผู้พิทักษ์หรอก” ฮุสตันคิด

ในตอนนี้เอง ตระกูลผู้พิทักษ์อื่นอีก 7 ตระกูลก็ยืนขึ้นและล้อมเจี้ยนเฉินเป็นวงกลมรอบข้างตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางและอารามจิตพิสุทธิ์

การปะทะกับนิกายยิหยวนของเจี้ยนเฉินได้หยุดลงและผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดก็ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาทั้งหมดจ้องอย่างเย็นชาไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดในขณะที่พวกเขาหน้าซีดไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

เจี้ยนเฉินปล่อยให้โถงศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่กลางอากาศในขณะที่เขาออกมาที่ยอดโถง เขามองไปรอบ ๆ อย่างเฉยเมย มองไปที่ตระกูลผู้พิทักษ์ที่ล้อมเขาอยู่ แต่เขาก็ไม่กลัวอะไร เสือขนาดเท่าแมวยืนยืดอกอยู่บนไหล่ของเจี้ยนเฉินในขณะที่มันจ้องอย่างเย็นชาไปที่คนของตระกูลผู้พิทักษ์ กลิ่นอายที่หนาแน่นเปล่งประกายออกมาจากมัน มันมีความยิ่งใหญ่เหมือนเทพเจ้าสัตว์อสูร

แม้ว่าเสือขาวจะยังเด็กและไม่โตเต็มที่ แต่มันก็ฉลาดมาก มันรู้ว่าผู้คนรอบ ๆ เป็นคนไม่ดี

“ดู ทุกคน นั่นคือพยัคฆ์ปีกเทวะ” ทันทีที่เสือขาวปรากฏตัวออกมาในที่เปิดเผย มันก็เป็นที่สนใจของทุกคน ทันใดนั้นเอง ทุกคนก็ละสายตาจากเจี้ยนเฉินแล้วมองไปที่เสือขาว แม้แต่ตระกูลผู้พิทักษ์ก็ไม่เว้น เผยให้เห็นความโลภในแววตาของพวกเขา

เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะเย้ยออกมาเมื่อเขาเห็นว่าทุกคนทำตัวอย่างไร “พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่กับข้า ถ้าพวกเจ้าต้องการมัน ก็เข้ามา” ในขณะที่เขาพูดแบบนั้น พลังมหาศาลก็เปล่งออกมาจากเขา มันทำให้มิติรอบ ๆ สั่นไหวและพร่ามัว มันทำให้ทุกคนตกใจ

นี่เป็นเพราะพลังแห่งการมีอยู่นั้นเป็นของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3

“เป็นไปได้ยังไง ? ตอนที่เขาอยู่บนทวีปเทียนหยวน เห็นได้ชัดว่าเขายังเป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 อยู่เลย เขากลายเป็นเซียนราชาได้ยังไง ? “

“ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มถึงระดับนี้ในเวลาอันสั้น นะ นี่ …”

ทุกคนตกตะลึง รวมถึงตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ มีเพียงนิกายยิหยวนเท่านั้นที่ยังคงเหมือนเดิม เพราะพวกเขาเห็นความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินมาก่อนหน้านี้แล้ว

ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินชักยุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมาจากแหวนมิติ มันใดนั้นเอง ท่าทางของเซียนราชาหลายคนก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ในขณะที่พลังงานที่น่ากลัวเปล่งประกายออกมาจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ มันอยู่ในระดับชั้นสวรรค์ที่ 7

เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 แข็งแกร่งกว่าเซียนระดับราชาหลายคนในที่นี่ มีไม่กี่คนที่อยู่ที่นี่เท่านั้นที่มีพลังมากกว่าเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินแสดงพลังเต็มกำลังออกมา เขาไม่เก็บงำพลังไว้เลยต่อหน้าตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ ในวันนี้ เขาต้องการที่จะให้ทุกคนรู้ว่าเขาสามารถต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบได้ นี่ไม่ใช่เพราะโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดเพียงอย่างเดียว แต่เขาก็มีพลังของตัวเองเช่นกัน

เขาในตอนนี้ไม่ใช่เซียนผู้คุมกฎที่จะถูกทำร้ายจากเซียนราชาทุกคนเหมือนเมื่อสิบปีก่อนหน้านี้

ทุกคนสูดลมหายใจเข้าไปและหัวใจของหลายคนก็เริ่มเต้นแรงอย่างไม่รู้ตัว ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินในตอนนี้เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหลายคนสั่น

เทียนเจี้ยนและฮุสตันก็นิ่งอึ้งเช่นกัน ทั้งคู่จ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างพูดไม่ออกในขณะที่หัวใจของพวกเขาปั่นป่วน

พวกเขาทั้งสองคนเป็นสองคนแรกที่พบเจี้ยนเฉิน ในตอนนั้น ในตอนที่เจี้ยนเฉินเป็นแค่เซียนปฐพีธรรมดา พวกเขาก็รู้จักเจี้ยนเฉินแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจความก้าวหน้าของเจี้ยนเฉินเป็นอย่างดี แค่พวกเขาไม่สามารถเชื่อมโยงคนที่มีจิตวิญญาณที่สูงส่งที่กล้าพอที่จะท้าทายกับตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบกับเซียนปฐพีตัวน้อยเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้

คนของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบมองหน้ากันและกัน ในตอนนั้น เหตุผลที่พวกเขาต้องการที่จะเอาพยัคฆ์ปีกเทวะมาเพราะว่าพวกเขามองว่าเจี้ยนเฉินเป็นแค่เซียนผู้คุมกฎ ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นพุ่งพรวดและถึงในระดับที่เหนือจินตนาการ ความเห็นของพวกเขาที่มีต่อเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน

แค่ความแข็งแกร่งของเขาเพียงอย่างเดียว ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบก็ต้องปฎิบัติต่อเขาด้วยความสำคัญแล้ว นอกเหนือไปจากนั้น เขายังมีโถงศักดิ์สิทธิ์อีกเช่นกัน ซึ่งทำให้เขายิ่งจัดการยากไปใหญ่

แม้ว่าจะไม่สนใจเรื่องแบบนั้น ฐานะของเจี้ยนเฉินก็พิเศษมากเพราะเขาเป็นสมาชิกของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง

ผู้คนมองหน้ากันและกันในขณะที่พวกเขาลังเล ไม่มีใครต้องการที่จะพลาดโอกาสทองในการเอาพยัคฆ์ปีกเทวะไป ดังนั้นพวกเขาจึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายยิหยวนก็ลังเลเช่นกัน เจี้ยนเฉินได้ทำลายสาขาที่พวกเขาก่อตั้งมาที่ด้านนอกเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ พวกเขาต้องการที่จะใช้เรื่องนี้ในการเอาพยัคฆ์ปีกเทวะมา แต่ในตอนนี้พวกเขาก็ลังเลเพราะความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน พวกเขาไม่แน่ใจว่าพวกเขาควรจะเอาเรื่องนั้นมาหาเรื่องต่อไหม

ในขณะเดียวกัน นิกายยิหยวนไม่ปล่อยเจี้ยนเฉินไปง่าย ๆ ผู้อาวุโสสูงสุดก็ตะโกนออกมา “เจี้ยนเฉิน เจ้าทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดหลิงหยวนซีได้รับบาดเจ็บ เจ้าต้องอธิบายเรื่องนี้มา”

“หลิงหยวนซีทำให้ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสที่มหาสมุทรในตอนนั้น และทำให้ข้าเกือบต้องตาย ข้ามาเพื่อที่จะสังหารเขาเป็นการแก้แค้น มันเป็นหลักการง่าย ๆ ทั่วไป” เจี้ยนเฉินย้อนกลับไปโดยไม่แสดงความอ่อนแอใดใด ก่อนที่จะมองไปที่ผู้คนรอบ ๆ เขาพูดอย่างโกรธเกรี้ยวออกมา “เมืองอัคนีและกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของข้าถูกขับไล่ออกไป ! เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าตระกูลผู้พิทักษ์ของเจ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ? “

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 975: ต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ (5)

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 975: ต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ (5) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 975: ต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ (5)

เจี้ยนเฉินและผู้อาวุโสสูงสุดหลายคนของนิกายยิหยวนสังเกตเห็นถึงการมาถึงของตระกูลผู้พิทักษ์อื่นในขณะที่พวกเขาสู้กันอย่างดุเดือด แต่พวกเขาก็ไม่หยุด เจี้ยนเฉินควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดด้วยตัวเอง และต่อสู้กับโถงศักดิ์สิทธิ์อื่นอีก 5 อัน เขาปะทะกับโถงอื่นอย่างไม่เกรงกลัว และกล้าหาญมากยิ่งขึ้นเมื่อการต่อสู้ดำเนินไป

การปะทะกันระหว่างโถงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกได้ทำให้เซียนราชาหลายคนตื่นตัว หลังจากที่ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบมาถึง ประตูมิติก็เกิดขึ้นกลางอากาศอันแล้วอันเล่าและเซียนราชาที่มีอายุต่างกันก็ออกมา พวกเขาทั้งหมดเป็นหัวหน้าตระกูลของตระกูลโบราณและตระกูลสันโดษ ในกลุ่มพวกเขามีเจียงหยาง ซู หยวนเซียวที่อยู่ที่ตระกูลเจียงหยางของเมืองลอร์อยู่ด้วย

พวกเขามองไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกทันทีที่พวกเขามาถึง พวกเขาพยายามที่จะเดาว่าใครกันที่ควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่อันเดียวนั้น พวกเขาต้องการที่จะรู้ว่าใครกันที่กล้าที่จะยั่วยุตระกูลผู้พิทักษ์และเป็นศัตรูกับนิกายยิหยวน

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งห้าสู้กับโถงศักดิ์สิทธิ์ของเจี้ยนเฉินด้วยโถงของตัวเองเป็นเวลานาน แต่พวกเขาก็ทำอะไรเจี้ยนเฉินไม่ได้ ในตอนท้าย พวกเขาไม่ทนอีกต่อไป ดังนั้นบางคนจึงตะโกนออกมา “ทุกคน พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ โปรดช่วยพวกเราในการทำลายมันและเข้าไปเอาพยัคฆ์ปีกเทวะ ! “

คำพูดของผู้อาวุโสสูงสุดได้ทำให้ผู้คนรอบ ๆ ตกใจใ พวกเขามองไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดด้วยความเหลือเชื่อ

“หลิงหยวนซี เจ้ามั่นใจหรือ ? พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่ในนั้นจริง ๆ หรือ ? ” เทียนเจี้ยนถามออกมาด้วยเสียงทุ้ม ความไม่สบายใจท่วมท้นอยู่ในดวงตาของเขา

“เป็นไปไม่ได้ พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่กับเจี้ยนเฉิน และไม่ใช่ว่าเขาไปที่อาณาจักรทะเลอย่างนั้นหรือ ? ถ้าเป็นแบบนั้นพยัคฆ์ปีกเทวะก็น่าจะอยู่ในอาณาจักรทะเลด้วย ทำไมมันถึงมาอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ล่ะ ? หลิงหยวนซี พยายามอย่าปั่นหัวพวกเรา”

“นิกายยิหยวน พวกเจ้าพยายามที่จะใช้ข่าวปลอมเพื่อให้พวกเราช่วย เพราะพวกเจ้าเอาชนะศัตรูไม่ได้หรือเปล่า ? “

..

คำพูดของผู้อาวุโสสูงสุดทำให้เกิดความโกลาหลระหว่างผู้คน ทุกคนจากตระกูลผู้พิทักษ์และเมืองทหารรับจ้างถามด้วยความสงสัย ไม่มีใครเชื่อว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับพยัคฆ์ปีกเทวะ

ฮุสตันและเซียนราชาคนอื่น ๆ ยังคงเงียบ แม้ว่าพยัคฆ์ปีกเทวะจะเป็นสิ่งที่ยั่วยวนพวกเขามาก แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ พวกเขาทำได้แต่มองอยู่ข้าง ๆ และดูว่าอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจจะเกิดขึ้น

“ทุกคน ข้า ยิจินซีรับรองได้ว่าหลิงหยวนซีนั้นพูดความจริง พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ และมันถูกควบคุมโดยเจี้ยนเฉินที่หนีไปที่อาณาจักรทะเลพร้อมกับพยัคฆ์ปีกเทวะเมื่อหลายปีก่อน เขายังทำร้ายแม้กระทั่งผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเรา หลิงหยวนซี จนกระทั่งวิญญาณของเขาออกจากร่างไป” ผู้อาวุโสสูงสุดอีกคนตะโกนออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์

“อะไรนะ ! คนที่ควบคุมเป็นเจี้ยนเฉินงั้นหรือ ? ” ทุกคนจากตระกูลผู้พิทักษ์ตะโกนออกมา พวกเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

แสงสีทองเป็นประกายอยู่ในดวงตาของเทียนเจี้ยน เขาจ้องไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยความสนใจ เขานิ่งอึ้ง

ฮุสตันยืนอยู่พร้อมกับจอบธรรมดาที่อยู่บนไหล่ของเขา แต่แววตาของเขาก็เปล่งประกายในขณะที่เขาจ้องตาไม่กระพริบไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด เขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เซียนราชาทั้งหมดจากตระกูลโบราณตกใจ ชื่อของเจี้ยนเฉินเหมือนฟ้าผ่าในหูของเขา พวกเขาไม่คิดว่าเจี้ยนเฉินที่เห็นได้ชัดว่าเป็นเซียนผู้คุมกฎจะเป็นผู้ที่กำลังควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่เขากำลังสู้กับคนจากนิกายยิหยวน เขายังทำให้พวกนั้นทำอะไรไม่ได้ เซียนราชาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

นอกเหนือจากความตกใจ คนของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางก็ยินดีด้วย เจียงหยาง ซู หยวนเซียวและเจียงหยาง ซู เซียวก็ยินดีด้วยเช่นกัน

นี่เป็นเพราะเจี้ยนเฉินไม่ใช่แค่คนของตระกูลเจียงหยางเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนของสาขาซูด้วย

“เจี้ยนเฉินกลับมาแล้วจริง ๆ และเขายังแข็งแกร่งขึ้นอีก เยี่ยม นี่มันเยี่ยมจริงจริง ข้าจะไปพาคงเอ๋อมา” เจียงหยาง ซู หยวนเซียวพูดเสียงสั่น หลังจากนั้น เขาก็ออกไปโดยผ่านประตูมิติ

“ไม่คิดเลยว่านิกายยิหยวนที่ยิ่งใหญ่จะมีตอนที่ต้องร้องขอความช่วยเหลือเมื่อต้องสู้กับผู้เยาว์ด้วย ข้าเพิ่งจะได้เห็นมันวันนี้จริง ๆ ” เสียงของเจี้ยนเฉินดังออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ เขากำลังล้อเลียนพวกนั้น

“เจี้ยนเฉิน เจ้ามันอวดดีจริง ๆ เจ้าคิดว่าเราจะจนปัญญาที่จะต่อกรกับเจ้าเพราะว่าเจ้าซ่อนอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ ? ” ยิหยวนซีพูดอย่างโกรธเกรี้ยว คำยั่วยุของเจี้ยนเฉินล้อเลียนพวกเขา

เทียนเจี้ยนและฮุสตันยินดีทันทีเมื่อเขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของเจี้ยนเฉิน ความสงสัยว่าเป็นเจี้ยนเฉินหรือไม่ก่อนหน้านี้ได้จางหายไปจากความคิดของพวกเขาก่อนหน้านี้

“ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะกลับมาเร็วแบบนี้ นี่เกิดกว่าทุกอย่างที่ข้าคาดหมายไว้จริงจริง” เทียนเจี้ยนยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่คิด

“เจ้ากลับมาได้เวลาเหมาะจริง ๆ เจ้าจำเป็นต้องทวงคืนสิ่งที่เจ้าถูกแย่งชิงไปก่อนหน้านี้ เจี้ยนเฉิน พัฒนาการของเจ้าเหนือกว่าที่ข้าคาดการไว้ แต่เจ้ายังใจร้อนเพราะเจ้ายังเด็ก โถงศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงพอที่จะจัดการตระกูลผู้พิทักษ์หรอก” ฮุสตันคิด

ในตอนนี้เอง ตระกูลผู้พิทักษ์อื่นอีก 7 ตระกูลก็ยืนขึ้นและล้อมเจี้ยนเฉินเป็นวงกลมรอบข้างตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยางและอารามจิตพิสุทธิ์

การปะทะกับนิกายยิหยวนของเจี้ยนเฉินได้หยุดลงและผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดก็ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาทั้งหมดจ้องอย่างเย็นชาไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดในขณะที่พวกเขาหน้าซีดไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

เจี้ยนเฉินปล่อยให้โถงศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่กลางอากาศในขณะที่เขาออกมาที่ยอดโถง เขามองไปรอบ ๆ อย่างเฉยเมย มองไปที่ตระกูลผู้พิทักษ์ที่ล้อมเขาอยู่ แต่เขาก็ไม่กลัวอะไร เสือขนาดเท่าแมวยืนยืดอกอยู่บนไหล่ของเจี้ยนเฉินในขณะที่มันจ้องอย่างเย็นชาไปที่คนของตระกูลผู้พิทักษ์ กลิ่นอายที่หนาแน่นเปล่งประกายออกมาจากมัน มันมีความยิ่งใหญ่เหมือนเทพเจ้าสัตว์อสูร

แม้ว่าเสือขาวจะยังเด็กและไม่โตเต็มที่ แต่มันก็ฉลาดมาก มันรู้ว่าผู้คนรอบ ๆ เป็นคนไม่ดี

“ดู ทุกคน นั่นคือพยัคฆ์ปีกเทวะ” ทันทีที่เสือขาวปรากฏตัวออกมาในที่เปิดเผย มันก็เป็นที่สนใจของทุกคน ทันใดนั้นเอง ทุกคนก็ละสายตาจากเจี้ยนเฉินแล้วมองไปที่เสือขาว แม้แต่ตระกูลผู้พิทักษ์ก็ไม่เว้น เผยให้เห็นความโลภในแววตาของพวกเขา

เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะเย้ยออกมาเมื่อเขาเห็นว่าทุกคนทำตัวอย่างไร “พยัคฆ์ปีกเทวะอยู่กับข้า ถ้าพวกเจ้าต้องการมัน ก็เข้ามา” ในขณะที่เขาพูดแบบนั้น พลังมหาศาลก็เปล่งออกมาจากเขา มันทำให้มิติรอบ ๆ สั่นไหวและพร่ามัว มันทำให้ทุกคนตกใจ

นี่เป็นเพราะพลังแห่งการมีอยู่นั้นเป็นของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3

“เป็นไปได้ยังไง ? ตอนที่เขาอยู่บนทวีปเทียนหยวน เห็นได้ชัดว่าเขายังเป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 3 อยู่เลย เขากลายเป็นเซียนราชาได้ยังไง ? “

“ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มถึงระดับนี้ในเวลาอันสั้น นะ นี่ …”

ทุกคนตกตะลึง รวมถึงตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ มีเพียงนิกายยิหยวนเท่านั้นที่ยังคงเหมือนเดิม เพราะพวกเขาเห็นความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินมาก่อนหน้านี้แล้ว

ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินชักยุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมาจากแหวนมิติ มันใดนั้นเอง ท่าทางของเซียนราชาหลายคนก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ในขณะที่พลังงานที่น่ากลัวเปล่งประกายออกมาจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ มันอยู่ในระดับชั้นสวรรค์ที่ 7

เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 แข็งแกร่งกว่าเซียนระดับราชาหลายคนในที่นี่ มีไม่กี่คนที่อยู่ที่นี่เท่านั้นที่มีพลังมากกว่าเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินแสดงพลังเต็มกำลังออกมา เขาไม่เก็บงำพลังไว้เลยต่อหน้าตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ ในวันนี้ เขาต้องการที่จะให้ทุกคนรู้ว่าเขาสามารถต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบได้ นี่ไม่ใช่เพราะโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดเพียงอย่างเดียว แต่เขาก็มีพลังของตัวเองเช่นกัน

เขาในตอนนี้ไม่ใช่เซียนผู้คุมกฎที่จะถูกทำร้ายจากเซียนราชาทุกคนเหมือนเมื่อสิบปีก่อนหน้านี้

ทุกคนสูดลมหายใจเข้าไปและหัวใจของหลายคนก็เริ่มเต้นแรงอย่างไม่รู้ตัว ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินในตอนนี้เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหลายคนสั่น

เทียนเจี้ยนและฮุสตันก็นิ่งอึ้งเช่นกัน ทั้งคู่จ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างพูดไม่ออกในขณะที่หัวใจของพวกเขาปั่นป่วน

พวกเขาทั้งสองคนเป็นสองคนแรกที่พบเจี้ยนเฉิน ในตอนนั้น ในตอนที่เจี้ยนเฉินเป็นแค่เซียนปฐพีธรรมดา พวกเขาก็รู้จักเจี้ยนเฉินแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจความก้าวหน้าของเจี้ยนเฉินเป็นอย่างดี แค่พวกเขาไม่สามารถเชื่อมโยงคนที่มีจิตวิญญาณที่สูงส่งที่กล้าพอที่จะท้าทายกับตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบกับเซียนปฐพีตัวน้อยเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้

คนของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบมองหน้ากันและกัน ในตอนนั้น เหตุผลที่พวกเขาต้องการที่จะเอาพยัคฆ์ปีกเทวะมาเพราะว่าพวกเขามองว่าเจี้ยนเฉินเป็นแค่เซียนผู้คุมกฎ ในตอนนี้ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นพุ่งพรวดและถึงในระดับที่เหนือจินตนาการ ความเห็นของพวกเขาที่มีต่อเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน

แค่ความแข็งแกร่งของเขาเพียงอย่างเดียว ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบก็ต้องปฎิบัติต่อเขาด้วยความสำคัญแล้ว นอกเหนือไปจากนั้น เขายังมีโถงศักดิ์สิทธิ์อีกเช่นกัน ซึ่งทำให้เขายิ่งจัดการยากไปใหญ่

แม้ว่าจะไม่สนใจเรื่องแบบนั้น ฐานะของเจี้ยนเฉินก็พิเศษมากเพราะเขาเป็นสมาชิกของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง

ผู้คนมองหน้ากันและกันในขณะที่พวกเขาลังเล ไม่มีใครต้องการที่จะพลาดโอกาสทองในการเอาพยัคฆ์ปีกเทวะไป ดังนั้นพวกเขาจึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายยิหยวนก็ลังเลเช่นกัน เจี้ยนเฉินได้ทำลายสาขาที่พวกเขาก่อตั้งมาที่ด้านนอกเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ พวกเขาต้องการที่จะใช้เรื่องนี้ในการเอาพยัคฆ์ปีกเทวะมา แต่ในตอนนี้พวกเขาก็ลังเลเพราะความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน พวกเขาไม่แน่ใจว่าพวกเขาควรจะเอาเรื่องนั้นมาหาเรื่องต่อไหม

ในขณะเดียวกัน นิกายยิหยวนไม่ปล่อยเจี้ยนเฉินไปง่าย ๆ ผู้อาวุโสสูงสุดก็ตะโกนออกมา “เจี้ยนเฉิน เจ้าทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดหลิงหยวนซีได้รับบาดเจ็บ เจ้าต้องอธิบายเรื่องนี้มา”

“หลิงหยวนซีทำให้ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสที่มหาสมุทรในตอนนั้น และทำให้ข้าเกือบต้องตาย ข้ามาเพื่อที่จะสังหารเขาเป็นการแก้แค้น มันเป็นหลักการง่าย ๆ ทั่วไป” เจี้ยนเฉินย้อนกลับไปโดยไม่แสดงความอ่อนแอใดใด ก่อนที่จะมองไปที่ผู้คนรอบ ๆ เขาพูดอย่างโกรธเกรี้ยวออกมา “เมืองอัคนีและกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของข้าถูกขับไล่ออกไป ! เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าตระกูลผู้พิทักษ์ของเจ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ? “

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+