Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 980: การปะทะกันที่ทรงพลัง

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 980: การปะทะกันที่ทรงพลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 980: การปะทะกันที่ทรงพลัง

“เจี้ยนเฉินเจ้าหนีการไล่ตามของพวกเราและซ่อนอยู่ในอาณาจักรทะเลมาหลายปี ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้ตอนนี้เมื่อเจ้าอยู่บนทวีปเทียนหยวน” แลงคีรอสก็ก้าวออกไปและไปถึงตรงหน้าของเจี้ยนเฉิน เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่เปิดเผยกลิ่นอายที่ทรงพลัง เขาเหมือนภูเขาใหญ่ที่ตระหง่านอยู่ตรงหน้าเจี้ยนเฉิน ทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจม เจี้ยนเฉินโคจรพลังบรรพกาลทันทีและเพิ่มร่างบรรพกาลจนถึงขีดสุดเพื่อต่อต้านแรงกดดันของแลงคีรอส

สายตาของแลงคีรอสเป็นประกายเมื่อเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินสามารถต่อต้านแรงกดดันของเขาได้โดยไม่สะเทือนอะไรเลย เขาพูดออกมาอย่างเย็นชา “ความแข็งแกร่งของเจ้าเหนือกว่าที่เขาเล่าลือกันไว้จริงจริง แต่การที่จะฆ่าเจ้าก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เจี้ยนเฉิน ส่งพยัคฆ์ปีกเทวะมาแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ถ้าเจ้าไม่ทำตามเจ้าจะต้องตาย”

“ข้าอยากจะรู้จริงว่าใครจะกล้าทำร้ายเขา” รุยจินมาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉินเหมือนสายฟ้าและกลับมาอยู่ในรูปมนุษย์ เขาจ้องไปที่แลงคีรอสและไกเซอร์ในขณะที่เขาถือดาบมังกรศักดิ์สิทธิ์อยู่

เฮยยู่ก็มาถึงข้างข้างรุยจินด้วย เขาเผชิญหน้ากับเซียนจักรพรรดิ 2 คนโดยไม่แสดงให้เห็นท่าทีของความอ่อนแอเลย

ใบหน้าของแลงคีรอสมืดครึ้ม เขาคำรามออกมา “เจ้าอยากตายหรือไง ? ถึงได้กล้าขวางสิ่งที่ข้ากำลังจะทำ ? “

“พยัคฆ์ปีกเทวะเป็นเทพเจ้าของสัตว์อสูร เมื่อไรกันที่เจ้ามีสิทธิ์ที่จะไปยุ่งกับอิสรภาพของมัน ? เว้นเสียแต่ว่าพยัคฆ์ปีกเทวะจะปรารถนาที่จะไปด้วยตัวเอง ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะไปบังคับให้มันทำอะไรที่มันไม่ชอบ” รุยจินคำรามออกมา

“เพราะว่ามันเป็นเทพเจ้าของสัตว์อสูร เราถึงต้องได้เอามันกลับไป ดังนั้นพวกเราจะสามารถจัดที่อยู่และสภาพแวดล้อมที่ดีเพื่อที่จะให้มันเติบโตได้ พยัคฆ์ปีกเทวะควรจะอยู่บนทวีปสัตว์เทวะ มันไม่ควรจะอยู่ในมือของมนุษย์ นอกเหนือไปจากนั้น พยัคฆ์ปีกเทวะก็กำลังโต มันยังเหมือนเด็ก ถ้ามันถูกเลี้ยงให้โตมาอย่างผิด ๆ โดยมนุษย์ มันคงจะเป็นการสูญเสียของพวกเราสัตว์อสูร” แลงคีรอสพูดออกมา

“พยัคฆ์ปีกเทวะอาจจะยังเด็ก แต่มันก็เป็นเทพเจ้าสัตว์อสูรอยู่ดี มันจะถูกนำพาไปในทางที่ผิดไปได้ง่ายง่ายได้อย่างไร ? ยังไงก็เถอะ อย่าบังอาจเอามันไปจากเจี้ยนเฉินในวันนี้” รุยจินไม่ยอมและย้อนแลงคีรอสกลับไป เขาปกป้องเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความสงสัยทันทีเมื่อเห็นว่ารุยจินและเฮยยู่กำลังทำให้เซียนจักรพรรดิโกรธเพื่อที่จะปกป้องเขา ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับนี้

ท่าทางของแลงคีรอสและไคเซอร์เริ่มน่ากลัวหลังจากที่ได้ยินคำของรุยจิน จิตสังหารปรากฏขึ้นมาทันทีในตาของไคเซอร์ในขณะที่เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่รุยจิน “มังกรทองเทวะ เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าที่จะฆ่าเจ้าเพราะเจ้าเป็นราชาของตระกูลมังกรอย่างนั้นหรือ ? “

รุยจินโกรธทันทีเมื่อเขาถูกข่มขู่โดยหนอนกลายพันธุ์ เขาร้องออกมา “ข้ามีวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามังกร เกราะมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องข้าอยู่ เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าหนอนกระจอกอย่างเจ้าจะทำร้ายข้าได้ ? “

ไคเซอร์มองไปที่เกราะของรุยจินในขณะที่สายตาของเขาเป็นประกาย จากนั้นเขาจึงพูดออกมา “จักรพรรดิเสือไปสู้กับสองคนนั้น ข้าจะไปหาเจี้ยนเฉิน”

จักรพรรดิเสือเหยียดออกมา “อย่ากังวลไปเลย ปล่อยสองคนนี้ให้ข้าจัดการเอง” หลังจากนั้น เขาก็พุ่งไปที่รุยจินกับเฮยยู่และเข้าไปสู้กับพวกเขา

ไคเซอร์ไม่ลังเลแล้วในตอนนี้เพราะรุยจินและเฮยยู่ไม่ได้มาขวางเขาแล้ว เขายื่นมือออไปที่เจี้ยนเฉิน

“การโจมตีด้วยฝ่ามือนี่คือฝ่ามือแห่งความสุข ! “

ในตอนนี้เอง เสียงนุ่มนวลดังขึ้นมา มารราคะโจมตีออกมาทันทีและโจมตีไปที่ไคเซอร์

ตาของไคเซอร์เย็นชาและเขาก็หยุดเคลื่อนไหวไปที่เจี้ยนเฉินทันที เขาชกออกไปอย่างบ้าคลั่งและปะทะกับการโจมตีของมารราคะกลางอากาศ

ตู้ม !

การปะทะกันระหว่างสองการโจมตีทำให้มิติรอบ ๆ พังทลายและแตกกระจายออกนับชิ้นไม่ถ้วน พลังงานที่หลงเหลืออยู่ที่น่ากลัวกระจายไปรอบ ๆ ทำให้เจี้ยนเฉินถอยร่นไปไกลอย่างตั้งหลักไม่ได้ ความเจ็บปวดที่รุนแรงเต็มอยู่ในหัวของเขาทันที ร่างบรรพกาลของเขาเกือบจะได้รับบาดเจ็บ

มารราคะพุ่งถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว และหยุดอยู่ห่างหลายกิโลเมตรออกไป เขาไม่ได้หน้าซีดแต่เขาก็เคร่งเครียด ไคเซอร์ยืนอยู่เหมือนภูเขาและไม่ได้ขยับไปไหน แต่พลังแห่งการมีอยู่ของเขาก็ค่อนข้างไม่คงที่ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างต่อเนื่อง เหมือนว่าเขาต้องการที่จะยิ้มแต่เขาก็เก็บกดมันเอาไว้

ไคเซอร์กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่มารราคะ เขาคำรามออกมา “เจ้านี้สมชื่อจริงจริง มารราคะที่สามารถสร้างความปรารถนาและอารมณ์ได้ เจ้าแข็งแกร่งจริง ๆ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อข้าได้เล็กน้อย แต่มันก็ทำได้เท่านั้นแหละ”

“เป็นอย่างนั้นจริงหรือ ? ” มารราคะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “จักรพรรดิเสือได้รับบาดเจ็บหนักจากฝ่ามืออารมณ์ทั้งเจ็ดของข้าในตอนนั้น ข้าจะให้เจ้าลองรับมันในวันนี้ มาดูกันว่าคนที่ทรงพลังที่สุดในทวีปสัตว์เทวะจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ นี่เป็นการโจมตีฝ่ามือที่สอง ฝ่ามือแห่งความโกรธ!”

เมื่อปะทะกันครั้งที่สอง ฝ่ามือของมารราคะก็ทำให้ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง ผู้คุมกฎของทวีปเทพเจ้าสัตว์อสูรโกรธอย่างง่ายดาย เช่นนั้น ไม่เพียงแต่การโจมตีจะทำให้ความโกรธที่ซ่อนอยู่ในตัวของไคเซอร์ปะทุออกมา แต่มันยังขยายออกมาจนเขายากที่จะควบคุม

อย่างไรก็ตาม ไคเซอร์ก็ยังเป็นเซียนจักรพรรดิอยู่ดี เขาข่มอารมณ์เอาไว้ได้อย่างรวดเร็วและกลับไปเป็นเหมือนเดิม ในอีกทางหนึ่ง มารราคะถอยกลับไปหลายกิโลเมตรอีกครั้ง

“ฝ่ามือโจมตีที่สาม..”

“ฝ่ามือโจมตีที่สี่..”

มารราคะโจมตีออกไป 7 ครั้ง ฝ่ามือโจมตีแต่ละครั้งมีอารมณ์ที่ต่างกันและจุดประกายอารมณ์ทั้งเจ็ดภายในไคเซอร์ออกมา แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บ แต่เขาก็อยู่ในสภาพย่ำแย่จากการโดนโจมตีทางจิตใจ

มารราคะถอยกลับไปหลายกิโลเมตรหลังจากการโจมตีฝ่ามือทั้งเจ็ด เขาเคร่งเครียดมาก

“มารราคะ ข้าได้เจอกับฝ่ามืออารมณ์ทั้งเจ็ดแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะทนหมัดของข้าสักสองสามหมัดได้หรือไม่ ? ” ไคเซอร์ตะโกนออกมา พลังแห่งการมีอยู่ของเขายุ่งเหยิงในตอนนี้เหมือนว่าอารมณ์ของเขาทั้งหมดในตอนนี้สับสนวุ่นวายไป แม้ว่าพวกมันจะถูกข่มเอาไว้ แต่พวกมันก็ทำให้จิตใจของเขายุ่งเหยิง มันทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าจิตใจของเขากำลังจะพังทลาย

“การรวมกันของอารมณ์ทั้งเจ็ด ฝ่ามือแห่งอารมณ์ ! ” มารราคะพูดออกมาเบาเบา ก่อนที่จะดันออกไปอย่างนุ่มนวล

“ข้าจะทำลายฝ่ามือแห่งอารมณ์ให้ดู ! หมัดราชาสัตว์อสูร ! ” ไคเซอร์คำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวและหมัดที่เต็มไปด้วยกฎแห่งธรรมชาติที่อธิบายไม่ได้ก็ไปชนกับฝ่ามือแห่งอารมณ์

หมัดของไคเซอร์ครั้งนี้ทรงพลังกว่าเดิมหลายเท่า มารราคะถอยกลับไปหลายกิโลเมตรก่อนที่จะหยุด ใบหน้าของเขาซีดลงทันที

ในขณะที่มารราคะถอยกลับไป ท่าทางของไคเซอร์ก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน เขาครางอย่างเจ็บปวดออกมา เขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากพลังของฝ่ามือโจมตี แต่แทนที่กันเขาได้รับผลกระทบจากฝ่ามือแห่งอารมณ์

ฝ่ามือแห่งอารมณ์แตกต่างจากการโจมตีทางอารมณ์ทั้งเจ็ดก่อนหน้านี้ ฝ่ามือการโจมตีทั้งเจ็ดก่อนหน้านี้ทำให้อารมณ์ทั้งเจ็ดของอีกฝ่ายเข้มข้นขึ้น ในขณะที่ฝ่ามือแห่งอารมณ์จะทำให้อารมณ์ทั้งเจ็ดย่ำแย่ขึ้น

เมื่อโดนโจมตี ไคเซอร์ก็รู้สึกเหมือนว่าบางสิ่งที่สำคัญมากกำลังถูกกระชากออกไปจากเขา วิญญาณของเขารู้สึกเหมือนว่างเปล่าและรู้สึกเจ็บปวดมากในเวลาเดียวกัน

อารมณ์ที่รุนแรงในไคเซอร์เนื่องจากโจมตีทั้งเจ็ดจากมารราคะได้ถูกทำให้ย่ำแย่ขึ้นจากฝ่ามือแห่งอารมณ์ มันพุ่งเข้าไปในอวัยวะในร่างของไคเซอร์

ฝ่ามือโจมตีทั้งเจ็ดได้ขยายอารมณ์ทั้งเจ็ดออกไปอย่างไม่สิ้นสุด และปลูกฝังอารมณ์ทั้งเจ็ดเหมือนเป็นเมล็ดพันธุ์อยู่ในจิตใจของไคเซอร์ มันแตกหน่อและครอบคลุมความคิดของเขาเอาไว้ทั้งหมด หลังจากนั้น มารราคะก็ใช้ฝ่ามือแห่งอารมณ์เพื่อทำให้อารมณ์ทั้งเจ็ดย่ำแย่ขึ้น และทำให้วิญญาณของศัตรูได้รับบาดเจ็บ

ฝ่ามือแห่งอารมณ์ไม่ได้ทำให้อารมณ์ของคู่ต่อสู้รุนแรงขึ้น แต่มันใช้วิธีการพิเศษในการทำให้วิญญาณของคู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บ

ฝ่ามือแห่งอารมณ์สามารถใช้ตั้งแต่แรกได้ แต่ถ้าใช้การโจมตีทั้งเจ็ดที่เขาใช้ก่อนหน้านี้และไปจุดอารมณ์ของคู่ต่อสู้ก่อน พลังของมันจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าโดยการเอาอารมณ์นั้นออกมา

ไคเซอร์สมกับที่เป็นเซียนจักรพรรดิเพราะเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถจะเยียวยาความเสียหายของวิญญาณของเขาได้ เขาจ้องไปที่มารราคะด้วยใบหน้าที่มืดครึ้ม “ฝ่ามือแห่งอารมณ์ของเจ้าเปิดหูเปิดตาของข้าจริง ๆ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ข้าบาดเจ็บหนัก วิญญาณของข้าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ในขณะที่หมัดราชาสัตว์อสูรทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสภายใน เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”

“ข้ายังมีฝ่ามือแห่งความปรารถนาหลังจากฝ่ามือแห่งอารมณ์อีกด้วย และนอกจากนั้นยังมีฝ่ามือแห่งความปรารถนาและอารมณ์อีก มันยังเร็วไปที่จะบอกว่าใครจะชนะ” มารราคะพูดออกมา

สายตาของไคเซอร์เป็นประกายในขณะที่เขาคำรามออกมา “ดูเหมือนทวีปเทียนหยวนจะยืนยันที่จะเก็บพยัคฆ์ปีกเทวะเอาไว้ เจ้าไม่กลัวว่าจะเกิดสงครามระหว่างสองทวีปอย่างนั้นหรือ ? “

“ข้าแค่ทำอย่างที่ข้าต้องการก็เท่านั้น ไปพูดเรื่องความปลอดภัยของทวีปกับตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและเมืองทหารรับจ้างนู้น อย่างไรก็ตาม เจ้าบุกรุกเข้ามาในทวีปเทียนหยวนวันนี้ ข้าไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยของทวีป แต่ข้าก็ยังเป็นเซียนจักรพรรดิมนุษย์ ข้าจะมองดูเจ้าซึ่งเป็นคนนอกมาทำอะไรตามใจชอบที่อาณาเขตของมนุษย์ได้อย่างไร ? ในตอนนี้ โปรดออกไปจากทวีปทันที” มารราคะพูดออกมา เขาเข้าใจว่าถ้าเขาต้องการพยัคฆ์ปีกเทวะ เขาต้องรั้งมันเอาไว้ที่ทวีปเทียนหยวนก่อน เขาจะไม่มีโอกาสเลยถ้ามันไปอยู่ที่ทวีปสัตว์เทวะ

ไคเซอร์เหยียดออกมา “มารราคะ เจ้าทำให้ข้าวุ่นวายได้ชั่วคราวเท่านั้น แต่อย่าลืมว่าทวีปสัตว์เทวะของข้านั้นมีเซียนจักรพรรดิถึง 3 คน” ไคเซอร์มองไปทางซ่างเฉียงแล้วพูด “จักรพรรดิเปิง ไปจัดการกับเซียนจักรพรรดิมนุษย์ซะ ข้าจะไปเอาพยัคฆ์ปีกเทวะมา มันไม่สามารถตกอยู่ในมือของมนุษย์ได้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม”

ซ่างเฉียงมองกลับไปที่ไคเซอร์แล้วพูด “ข้าตั้งใจมาเพราะเรื่องพลังงานดั้งเดิมเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าพยัคฆ์ปีกเทวะจะปรารรถนาเอง ข้าจะไม่บังคับให้มันกลับไป เพระว่านี่เป็นการไม่เคารพต่อเทพเจ้าสัตว์อสูร”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 980: การปะทะกันที่ทรงพลัง

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 980: การปะทะกันที่ทรงพลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 980: การปะทะกันที่ทรงพลัง

“เจี้ยนเฉินเจ้าหนีการไล่ตามของพวกเราและซ่อนอยู่ในอาณาจักรทะเลมาหลายปี ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้ตอนนี้เมื่อเจ้าอยู่บนทวีปเทียนหยวน” แลงคีรอสก็ก้าวออกไปและไปถึงตรงหน้าของเจี้ยนเฉิน เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่เปิดเผยกลิ่นอายที่ทรงพลัง เขาเหมือนภูเขาใหญ่ที่ตระหง่านอยู่ตรงหน้าเจี้ยนเฉิน ทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจม เจี้ยนเฉินโคจรพลังบรรพกาลทันทีและเพิ่มร่างบรรพกาลจนถึงขีดสุดเพื่อต่อต้านแรงกดดันของแลงคีรอส

สายตาของแลงคีรอสเป็นประกายเมื่อเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินสามารถต่อต้านแรงกดดันของเขาได้โดยไม่สะเทือนอะไรเลย เขาพูดออกมาอย่างเย็นชา “ความแข็งแกร่งของเจ้าเหนือกว่าที่เขาเล่าลือกันไว้จริงจริง แต่การที่จะฆ่าเจ้าก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เจี้ยนเฉิน ส่งพยัคฆ์ปีกเทวะมาแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ถ้าเจ้าไม่ทำตามเจ้าจะต้องตาย”

“ข้าอยากจะรู้จริงว่าใครจะกล้าทำร้ายเขา” รุยจินมาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉินเหมือนสายฟ้าและกลับมาอยู่ในรูปมนุษย์ เขาจ้องไปที่แลงคีรอสและไกเซอร์ในขณะที่เขาถือดาบมังกรศักดิ์สิทธิ์อยู่

เฮยยู่ก็มาถึงข้างข้างรุยจินด้วย เขาเผชิญหน้ากับเซียนจักรพรรดิ 2 คนโดยไม่แสดงให้เห็นท่าทีของความอ่อนแอเลย

ใบหน้าของแลงคีรอสมืดครึ้ม เขาคำรามออกมา “เจ้าอยากตายหรือไง ? ถึงได้กล้าขวางสิ่งที่ข้ากำลังจะทำ ? “

“พยัคฆ์ปีกเทวะเป็นเทพเจ้าของสัตว์อสูร เมื่อไรกันที่เจ้ามีสิทธิ์ที่จะไปยุ่งกับอิสรภาพของมัน ? เว้นเสียแต่ว่าพยัคฆ์ปีกเทวะจะปรารถนาที่จะไปด้วยตัวเอง ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะไปบังคับให้มันทำอะไรที่มันไม่ชอบ” รุยจินคำรามออกมา

“เพราะว่ามันเป็นเทพเจ้าของสัตว์อสูร เราถึงต้องได้เอามันกลับไป ดังนั้นพวกเราจะสามารถจัดที่อยู่และสภาพแวดล้อมที่ดีเพื่อที่จะให้มันเติบโตได้ พยัคฆ์ปีกเทวะควรจะอยู่บนทวีปสัตว์เทวะ มันไม่ควรจะอยู่ในมือของมนุษย์ นอกเหนือไปจากนั้น พยัคฆ์ปีกเทวะก็กำลังโต มันยังเหมือนเด็ก ถ้ามันถูกเลี้ยงให้โตมาอย่างผิด ๆ โดยมนุษย์ มันคงจะเป็นการสูญเสียของพวกเราสัตว์อสูร” แลงคีรอสพูดออกมา

“พยัคฆ์ปีกเทวะอาจจะยังเด็ก แต่มันก็เป็นเทพเจ้าสัตว์อสูรอยู่ดี มันจะถูกนำพาไปในทางที่ผิดไปได้ง่ายง่ายได้อย่างไร ? ยังไงก็เถอะ อย่าบังอาจเอามันไปจากเจี้ยนเฉินในวันนี้” รุยจินไม่ยอมและย้อนแลงคีรอสกลับไป เขาปกป้องเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความสงสัยทันทีเมื่อเห็นว่ารุยจินและเฮยยู่กำลังทำให้เซียนจักรพรรดิโกรธเพื่อที่จะปกป้องเขา ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับนี้

ท่าทางของแลงคีรอสและไคเซอร์เริ่มน่ากลัวหลังจากที่ได้ยินคำของรุยจิน จิตสังหารปรากฏขึ้นมาทันทีในตาของไคเซอร์ในขณะที่เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่รุยจิน “มังกรทองเทวะ เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าที่จะฆ่าเจ้าเพราะเจ้าเป็นราชาของตระกูลมังกรอย่างนั้นหรือ ? “

รุยจินโกรธทันทีเมื่อเขาถูกข่มขู่โดยหนอนกลายพันธุ์ เขาร้องออกมา “ข้ามีวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามังกร เกราะมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องข้าอยู่ เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าหนอนกระจอกอย่างเจ้าจะทำร้ายข้าได้ ? “

ไคเซอร์มองไปที่เกราะของรุยจินในขณะที่สายตาของเขาเป็นประกาย จากนั้นเขาจึงพูดออกมา “จักรพรรดิเสือไปสู้กับสองคนนั้น ข้าจะไปหาเจี้ยนเฉิน”

จักรพรรดิเสือเหยียดออกมา “อย่ากังวลไปเลย ปล่อยสองคนนี้ให้ข้าจัดการเอง” หลังจากนั้น เขาก็พุ่งไปที่รุยจินกับเฮยยู่และเข้าไปสู้กับพวกเขา

ไคเซอร์ไม่ลังเลแล้วในตอนนี้เพราะรุยจินและเฮยยู่ไม่ได้มาขวางเขาแล้ว เขายื่นมือออไปที่เจี้ยนเฉิน

“การโจมตีด้วยฝ่ามือนี่คือฝ่ามือแห่งความสุข ! “

ในตอนนี้เอง เสียงนุ่มนวลดังขึ้นมา มารราคะโจมตีออกมาทันทีและโจมตีไปที่ไคเซอร์

ตาของไคเซอร์เย็นชาและเขาก็หยุดเคลื่อนไหวไปที่เจี้ยนเฉินทันที เขาชกออกไปอย่างบ้าคลั่งและปะทะกับการโจมตีของมารราคะกลางอากาศ

ตู้ม !

การปะทะกันระหว่างสองการโจมตีทำให้มิติรอบ ๆ พังทลายและแตกกระจายออกนับชิ้นไม่ถ้วน พลังงานที่หลงเหลืออยู่ที่น่ากลัวกระจายไปรอบ ๆ ทำให้เจี้ยนเฉินถอยร่นไปไกลอย่างตั้งหลักไม่ได้ ความเจ็บปวดที่รุนแรงเต็มอยู่ในหัวของเขาทันที ร่างบรรพกาลของเขาเกือบจะได้รับบาดเจ็บ

มารราคะพุ่งถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว และหยุดอยู่ห่างหลายกิโลเมตรออกไป เขาไม่ได้หน้าซีดแต่เขาก็เคร่งเครียด ไคเซอร์ยืนอยู่เหมือนภูเขาและไม่ได้ขยับไปไหน แต่พลังแห่งการมีอยู่ของเขาก็ค่อนข้างไม่คงที่ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างต่อเนื่อง เหมือนว่าเขาต้องการที่จะยิ้มแต่เขาก็เก็บกดมันเอาไว้

ไคเซอร์กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่มารราคะ เขาคำรามออกมา “เจ้านี้สมชื่อจริงจริง มารราคะที่สามารถสร้างความปรารถนาและอารมณ์ได้ เจ้าแข็งแกร่งจริง ๆ มันอาจจะส่งผลกระทบต่อข้าได้เล็กน้อย แต่มันก็ทำได้เท่านั้นแหละ”

“เป็นอย่างนั้นจริงหรือ ? ” มารราคะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “จักรพรรดิเสือได้รับบาดเจ็บหนักจากฝ่ามืออารมณ์ทั้งเจ็ดของข้าในตอนนั้น ข้าจะให้เจ้าลองรับมันในวันนี้ มาดูกันว่าคนที่ทรงพลังที่สุดในทวีปสัตว์เทวะจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ นี่เป็นการโจมตีฝ่ามือที่สอง ฝ่ามือแห่งความโกรธ!”

เมื่อปะทะกันครั้งที่สอง ฝ่ามือของมารราคะก็ทำให้ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง ผู้คุมกฎของทวีปเทพเจ้าสัตว์อสูรโกรธอย่างง่ายดาย เช่นนั้น ไม่เพียงแต่การโจมตีจะทำให้ความโกรธที่ซ่อนอยู่ในตัวของไคเซอร์ปะทุออกมา แต่มันยังขยายออกมาจนเขายากที่จะควบคุม

อย่างไรก็ตาม ไคเซอร์ก็ยังเป็นเซียนจักรพรรดิอยู่ดี เขาข่มอารมณ์เอาไว้ได้อย่างรวดเร็วและกลับไปเป็นเหมือนเดิม ในอีกทางหนึ่ง มารราคะถอยกลับไปหลายกิโลเมตรอีกครั้ง

“ฝ่ามือโจมตีที่สาม..”

“ฝ่ามือโจมตีที่สี่..”

มารราคะโจมตีออกไป 7 ครั้ง ฝ่ามือโจมตีแต่ละครั้งมีอารมณ์ที่ต่างกันและจุดประกายอารมณ์ทั้งเจ็ดภายในไคเซอร์ออกมา แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บ แต่เขาก็อยู่ในสภาพย่ำแย่จากการโดนโจมตีทางจิตใจ

มารราคะถอยกลับไปหลายกิโลเมตรหลังจากการโจมตีฝ่ามือทั้งเจ็ด เขาเคร่งเครียดมาก

“มารราคะ ข้าได้เจอกับฝ่ามืออารมณ์ทั้งเจ็ดแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะทนหมัดของข้าสักสองสามหมัดได้หรือไม่ ? ” ไคเซอร์ตะโกนออกมา พลังแห่งการมีอยู่ของเขายุ่งเหยิงในตอนนี้เหมือนว่าอารมณ์ของเขาทั้งหมดในตอนนี้สับสนวุ่นวายไป แม้ว่าพวกมันจะถูกข่มเอาไว้ แต่พวกมันก็ทำให้จิตใจของเขายุ่งเหยิง มันทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าจิตใจของเขากำลังจะพังทลาย

“การรวมกันของอารมณ์ทั้งเจ็ด ฝ่ามือแห่งอารมณ์ ! ” มารราคะพูดออกมาเบาเบา ก่อนที่จะดันออกไปอย่างนุ่มนวล

“ข้าจะทำลายฝ่ามือแห่งอารมณ์ให้ดู ! หมัดราชาสัตว์อสูร ! ” ไคเซอร์คำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวและหมัดที่เต็มไปด้วยกฎแห่งธรรมชาติที่อธิบายไม่ได้ก็ไปชนกับฝ่ามือแห่งอารมณ์

หมัดของไคเซอร์ครั้งนี้ทรงพลังกว่าเดิมหลายเท่า มารราคะถอยกลับไปหลายกิโลเมตรก่อนที่จะหยุด ใบหน้าของเขาซีดลงทันที

ในขณะที่มารราคะถอยกลับไป ท่าทางของไคเซอร์ก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน เขาครางอย่างเจ็บปวดออกมา เขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากพลังของฝ่ามือโจมตี แต่แทนที่กันเขาได้รับผลกระทบจากฝ่ามือแห่งอารมณ์

ฝ่ามือแห่งอารมณ์แตกต่างจากการโจมตีทางอารมณ์ทั้งเจ็ดก่อนหน้านี้ ฝ่ามือการโจมตีทั้งเจ็ดก่อนหน้านี้ทำให้อารมณ์ทั้งเจ็ดของอีกฝ่ายเข้มข้นขึ้น ในขณะที่ฝ่ามือแห่งอารมณ์จะทำให้อารมณ์ทั้งเจ็ดย่ำแย่ขึ้น

เมื่อโดนโจมตี ไคเซอร์ก็รู้สึกเหมือนว่าบางสิ่งที่สำคัญมากกำลังถูกกระชากออกไปจากเขา วิญญาณของเขารู้สึกเหมือนว่างเปล่าและรู้สึกเจ็บปวดมากในเวลาเดียวกัน

อารมณ์ที่รุนแรงในไคเซอร์เนื่องจากโจมตีทั้งเจ็ดจากมารราคะได้ถูกทำให้ย่ำแย่ขึ้นจากฝ่ามือแห่งอารมณ์ มันพุ่งเข้าไปในอวัยวะในร่างของไคเซอร์

ฝ่ามือโจมตีทั้งเจ็ดได้ขยายอารมณ์ทั้งเจ็ดออกไปอย่างไม่สิ้นสุด และปลูกฝังอารมณ์ทั้งเจ็ดเหมือนเป็นเมล็ดพันธุ์อยู่ในจิตใจของไคเซอร์ มันแตกหน่อและครอบคลุมความคิดของเขาเอาไว้ทั้งหมด หลังจากนั้น มารราคะก็ใช้ฝ่ามือแห่งอารมณ์เพื่อทำให้อารมณ์ทั้งเจ็ดย่ำแย่ขึ้น และทำให้วิญญาณของศัตรูได้รับบาดเจ็บ

ฝ่ามือแห่งอารมณ์ไม่ได้ทำให้อารมณ์ของคู่ต่อสู้รุนแรงขึ้น แต่มันใช้วิธีการพิเศษในการทำให้วิญญาณของคู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บ

ฝ่ามือแห่งอารมณ์สามารถใช้ตั้งแต่แรกได้ แต่ถ้าใช้การโจมตีทั้งเจ็ดที่เขาใช้ก่อนหน้านี้และไปจุดอารมณ์ของคู่ต่อสู้ก่อน พลังของมันจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าโดยการเอาอารมณ์นั้นออกมา

ไคเซอร์สมกับที่เป็นเซียนจักรพรรดิเพราะเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถจะเยียวยาความเสียหายของวิญญาณของเขาได้ เขาจ้องไปที่มารราคะด้วยใบหน้าที่มืดครึ้ม “ฝ่ามือแห่งอารมณ์ของเจ้าเปิดหูเปิดตาของข้าจริง ๆ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ข้าบาดเจ็บหนัก วิญญาณของข้าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ในขณะที่หมัดราชาสัตว์อสูรทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสภายใน เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”

“ข้ายังมีฝ่ามือแห่งความปรารถนาหลังจากฝ่ามือแห่งอารมณ์อีกด้วย และนอกจากนั้นยังมีฝ่ามือแห่งความปรารถนาและอารมณ์อีก มันยังเร็วไปที่จะบอกว่าใครจะชนะ” มารราคะพูดออกมา

สายตาของไคเซอร์เป็นประกายในขณะที่เขาคำรามออกมา “ดูเหมือนทวีปเทียนหยวนจะยืนยันที่จะเก็บพยัคฆ์ปีกเทวะเอาไว้ เจ้าไม่กลัวว่าจะเกิดสงครามระหว่างสองทวีปอย่างนั้นหรือ ? “

“ข้าแค่ทำอย่างที่ข้าต้องการก็เท่านั้น ไปพูดเรื่องความปลอดภัยของทวีปกับตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและเมืองทหารรับจ้างนู้น อย่างไรก็ตาม เจ้าบุกรุกเข้ามาในทวีปเทียนหยวนวันนี้ ข้าไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยของทวีป แต่ข้าก็ยังเป็นเซียนจักรพรรดิมนุษย์ ข้าจะมองดูเจ้าซึ่งเป็นคนนอกมาทำอะไรตามใจชอบที่อาณาเขตของมนุษย์ได้อย่างไร ? ในตอนนี้ โปรดออกไปจากทวีปทันที” มารราคะพูดออกมา เขาเข้าใจว่าถ้าเขาต้องการพยัคฆ์ปีกเทวะ เขาต้องรั้งมันเอาไว้ที่ทวีปเทียนหยวนก่อน เขาจะไม่มีโอกาสเลยถ้ามันไปอยู่ที่ทวีปสัตว์เทวะ

ไคเซอร์เหยียดออกมา “มารราคะ เจ้าทำให้ข้าวุ่นวายได้ชั่วคราวเท่านั้น แต่อย่าลืมว่าทวีปสัตว์เทวะของข้านั้นมีเซียนจักรพรรดิถึง 3 คน” ไคเซอร์มองไปทางซ่างเฉียงแล้วพูด “จักรพรรดิเปิง ไปจัดการกับเซียนจักรพรรดิมนุษย์ซะ ข้าจะไปเอาพยัคฆ์ปีกเทวะมา มันไม่สามารถตกอยู่ในมือของมนุษย์ได้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม”

ซ่างเฉียงมองกลับไปที่ไคเซอร์แล้วพูด “ข้าตั้งใจมาเพราะเรื่องพลังงานดั้งเดิมเท่านั้น เว้นเสียแต่ว่าพยัคฆ์ปีกเทวะจะปรารรถนาเอง ข้าจะไม่บังคับให้มันกลับไป เพระว่านี่เป็นการไม่เคารพต่อเทพเจ้าสัตว์อสูร”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+