Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 997: ฟื้นตัว

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 997: ฟื้นตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 997: ฟื้นตัว

รัมกุยเนสนอนอยู่ที่พื้นที่กึ่งกลางของโถงใหญ่ภายในมิติวัตถุเซียน นางอยู่ในห้วงเวลาแห่งความเป็นและความตาย และลมหายใจของนางก็อ่อนแรงมาก

วัตถุจิตวิญญาณที่อยู่ในรูปแบบมนุษย์ในชุดขาวได้รับคำสั่งของเจี้ยนเฉินแล้ว มันปรากฏขึ้นทันทีที่ข้างนางแล้วก็ยื่นนิ้วออกไป จากนั้นสายพลังงานดั้งเดิมที่บริสุทธิ์จากพลังเซียนธาตุแสงก็เข้าไปในร่างของรัมกุยเนส ทันใดนั้นเอง ชั้นแสงสีขาวก็ล้อมทั่วร่างนางเอาไว้ มันบอกไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านใน

เจี้ยนเฉิน โหยวเยว่และเสือขาวปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกโถง เจี้ยนเฉินและเสือขาวจ้องตาไม่กระพริบไปที่รัมกุยเนสที่กำลังถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาว ในเวลาเดียวกันโหยวเยว่ก็มองไปรอบ ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น นี่เป็นครั้งแรกที่นางเข้ามาในสถานที่นี้ นางสังเกตดูทุกอย่างที่อยู่ที่นี่

ร่างของรัมกุยเนสอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มาก พลังงานมืดที่ถูกราชาจากตระกูลกิลลิกันทิ้งเอาไว้ได้ทำลายร่างของนางอย่างต่อเนื่อง และค่อย ๆ คืบคลานไปที่วิญญาณของนาง ถ้าเจี้ยนเฉินมาไม่ทันเวลาและใช้สายพลังงานดั้งเดิมเพื่อป้องกันวิญญาณของรัมกุยเนสช้าเกินไป นางก็คงเจอสถานการณ์ที่ลำบากกว่านี้ มันคงจะยากมากที่นางจะรอดไปได้

แม้ว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 สามารถชุบชีวิตคนตายได้ แต่วิญญาณก็ต้องยังเหลืออยู่ด้วย ถ้าวิญญาณของนางถูกกำจัดไป แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 8 จากครั้งโบราณกาลก็ไม่สามารถที่จะชุบชีวิตนางได้ อย่าว่าแต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 เลย

โถงตกอยู่ในความเงียบสงัด เจี้ยนเฉินและเสือขาวจ้องมองรัมกุยเนสตาไม่กระพริบและไม่พูดอะไรเลย

หลังจากที่โหยวเยว่มองไปรอบ ๆ หลายครั้งด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางก็ค่อย ๆ เลิกสนใจและนางก็เพ่งสายตาไปที่รัมกุยเนสแล้วคิด “นั่นคือแม่ของเสี่ยวไป๋งั้นหรือ ? นางพูดภาษามนุษย์ได้ ดูเหมือนนางจะเป็นสัตว์อสูรระดับ 7 เป็นอย่างน้อย”

พลังงานดั้งเดิมในการควบคุมของวัตถุวิญญาณนั้นทรงพลังและบริสุทธิ์กว่าของเจี้ยนเฉิน สภาพของรัมกุยเนสดีขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การรักษาจากวัตถุจิตวิญญาณเอง ร่างของนางที่เต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บในตอนแรกก็ค่อย ๆ กลับสู่สภาพก่อนหน้านี้ แม้แต่พลังงานมืดที่อยู่ในร่างของนางก็ถูกลบล้างไป

2 ชั่วยามต่อมา แสงสีขาวที่อยู่รอบ ๆ รัมกุยเนสก็หายไปในที่สุด ขนของนางไม่ได้เป็นสีเลือดอีกต่อไปแล้ว มันกลายชั้นขนสวยงามสีขาวราวหิมะ ตาที่อ่อนแอและหมองหม่นของนางลุกโชนไปด้วยจิตวิญญาณและกลับมาเป็นประกายอีกครั้ง

พลังงานดั้งเดิมของวัตถุจิตวิญญาณเหนือกว่าทุกสิ่งที่เจี้ยนเฉินจะเทียบเท่าได้ ไม่เพียงแต่มันจะรักษาสัตว์อสูรระดับ 7 ที่อยู่ขอบเหวมรณะได้อย่างสมบูรณ์ในเวลาอันสั้น แต่มันยังฟื้นฟูวิญญาณของนางให้อยู่ในสภาพสูงสุดได้อีกด้วย

รัมกุยเนสลุกขึ้นจากพื้นอย่างช้า ๆ แม้ว่าอาการบาดเจ็บของนางจะถูกรักษาอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่กำลังของนางก็ยังไม่กลับมาเลย ดังนั้นนางจึงเหน็ดเหนื่อยและอ่อนแอมากทำให้นางยากที่จะลุกขึ้นมาได้

ร่างของรัมกุยเนสเปลี่ยนไป และนางก็กลายร่างเป็นมนุษย์อย่างรวดเร็ว นางกลายเป็นหญิงวัยกลางคนผิวสีเลือดฝาด

“ข้าขอขอบคุณที่ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ ไม่เพียงแต่ข้าจะไม่ได้พบลูกของข้าอีกครั้งถ้าเจ้ามาไม่มันเวลา แต่ข้าก็จะไม่มีชีวิตรอดอีกต่อไปด้วย ความมีน้ำใจที่เจ้ามีให้กับพวกเราทั้งสองนี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ข้าจะชดเชยได้แม้จะใช้ชีวิตของข้า” รัมกุยเนสขอบคุณเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างสงบและตอบกลับ “ผู้อาวุโส ท่านไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้น ข้าทำให้ท่านทุกข์ทรมานใจที่ทำให้ท่านต้องรอนานกว่าที่ข้าจะรักษาอาการบาดเจ็บของท่านได้” เจี้ยนเฉินมองไปที่เสือขาวในตอนที่เขาพูดถึงตรงนี้ ก่อนที่จะพูดต่อ “ผู้อาวุโส ท่านไม่ได้พบลูกของท่านมาหลายปี ท่านต้องมีเรื่องที่จะพูดเยอะแน่ ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว ทั้งสองคนจะได้มีเวลาพูดคุยกัน”

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินและโหยวเยว่ก็ออกไปจากโถง และทิ้งให้ทั้งสองอยู่ด้วยกัน

หลังจากที่เจี้ยนเฉินและโหยวเยว่ออกไป รัมกุยเนสก็มองไปที่เสือขาวที่สง่างาม นางบอกได้เลยตั้งแต่เห็นครั้งแรกว่าลูกของนางเป็นสัตว์อสูรระดับ 7 แล้ว

ในตอนที่เสือขาวจากนางไปในตอนแรก มันยังเป็นลูกเสือที่ยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำ ในตอนนี้มันได้กลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 7 ที่ทรงพลัง ความเร็วในการเติบโตของมันรวดเร็วจนรัมกุยเนสประหลาดใจมาก นางรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขมาก

เจี้ยนเฉินและโหยวเยว่เดินอยู่เคียงข้างกันบนเนินใกล้ ๆ เจียงเฉินมองออกไปไกล จากนั้น เขาก็ถอนหายใจยาว เจี้ยนเฉินได้บรรลุเรื่องที่ค้างคาในจิตใจของเขามาหลายปี รัมกุยเนสได้รับการรักษาในที่สุด และเสี่ยวไป๋ก็ได้กลับมาพบกับนาง

โหยวเยว่ยืนอยู่เงียบ ๆ ข้างเขา นางกอดแขนของเจี้ยนเฉินเอาไว้ในขณะที่สายตาของนางเป็นประกาย นางดูโลกที่แปลกตาภายในวัตถุเซียนอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดเลยว่ามันแตกต่างจากโลกภายนอก

“เจี้ยนเฉิน นี่มันที่ไหนกัน ? ” โหยวเยว่ถาม เสียงของนางฟังดูน่าพึงพอใจเหมือนเสียงนกร้อง

“นี่เป็นมิติภายในวัตถุเซียน” เจี้ยนเฉินอธิบายเรื่องมิติวัตถุเซียนในโหยวเยว่ฟัง มันทำให้นางเข้าใจมากขึ้นทันที นางตกตะลึง

ในตอนนี้เอง คลื่นพลังงานที่มหาศาลก็พุ่งพวยจากโถงออกไปทั่วมิติของวัตถุเซียน สัตว์อสูรระดับ 7 ทั้งหมดสัมผัสได้ถึงมันและมองไปที่ปราสาทอย่างสงสัยทันที

เจี้ยนเฉินก็มองไปที่ทิศทางที่คลื่นพลังงานพุ่งออกมา เขาสัมผัสได้ราง ๆ ถึงความกดดันของธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ในคลื่นพลัง มีเฉพาะทักษะการต่อสู้รับสวรรค์หรือระดับเซียนเท่านั้นที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้

“มันต้องเป็นนูบิสแน่ ดูเหมือนเขาจะประสบความสำเร็จบ้างแล้วในการค้นคว้าเรื่องทักษะการต่อสู้ระดับเซียน” เจี้ยนเฉินพึมพำ อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ด้วยว่าทักษะการต่อสู้ระดับเซียนนั้นลึกซึ้งเพียงใด มันไม่ได้เรียกรู้กันได้ง่าย ๆ นี่ยังไม่พูดถึงการที่นูบิสกำลังจะเปลี่ยนทักษะการต่อสู้นั้นให้เหมาะกับตัวเองอีก ซึ่งจะทำให้มันยากเข้าไปใหญ่ แม้ว่าเขาจะสำเร็จในบางส่วน แต่มันก็ยังต้องใช้เวลาอีกบ้างเพื่อที่จะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

ไม่นานหลังจากนั้น ร่างสีขาวก็พุ่งเข้ามา มันเป็นเสือขาวที่ดึงแม่ของเขามาที่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน ทันทีที่พวกเขามาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉิน รัมกุยเนสก็คุกเข่าลงตรงหน้าเจี้ยนเฉินและก้มหัวของนางลง “ท่านผู้มีพระคุณ ขอบคุณที่ปกป้องลูกของข้า ข้าได้ทราบจากลูกของข้าแล้วว่าท่านได้พบเจออะไรมาบ้าง ไม่เพียงแต่ท่านจะเผชิญกับการไล่ล่าของราชาจากตระกูลกิลลิกันเท่านั้น ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบยังบังคับให้ท่านต้องออกไปจากทวีปอีก บุญคุณของท่านช่างใหญ่หลวงนัก ข้า รัมกุยเนสจะใช้ชีวิตของข้าในการตอบแทนท่าน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อท่าน”

“ผู้อาวุโส ได้โปรดลุกขึ้นเถอะ” เจี้ยนเฉินรีบช่วยประคองให้รัมกุยเนสลุกขึ้นมา แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่านางในตอนนี้ แต่เจี้ยนเฉินก็เคารพรัมกุยเนส ซึ่งเป็นเหตุที่ที่เขายังเรียกนางว่าผู้อาวุโส

รัมกุยเนสเป็นแม่ที่ดี แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เจี้ยนเฉินเคารพนาง

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็พูดคุยอย่างสุภาพกับรัมกุยเนส ก่อนที่จะให้นางไปฟื้นตัว นางคงจากไปทันทีหลังจากที่นางฟื้นฟูสมบูรณ์แล้ว

โฮ้ก ! เสือขาวคำรามเสียงทุ้มในขณะที่เขามองไปที่รัมกุยเนส ความเกลียดฉายแววอยู่ในตาของเขา

รัมกินเนสลูบหัวของเสือขาวแล้วพูดออกมา “ลูกเอ๋ย แน่นอน เจ้าต้องแก้แค้นให้พ่อของเจ้า แต่ราชาของตระกูลกิลลิกันนั้นทรงพลังเกินไป เขาเป็นสัตว์อสูรระดับ 8 และพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราในตอนนี้ ลูกเอ้ย เมื่อเจ้ากลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 8 พวกเราจะไปที่ตระกูลกิลลิกันด้วยกันและล้างแค้นให้พ่อของเจ้า” เสียงของรัมกุยเนสเต็มไปด้วยความเกลียดชังในตอนที่นางพูดถึงคำสุดท้าย

หลายปีที่ผ่านมา สามีของนางได้ตายไปด้วยน้ำมือของราชาตระกูลกิลลิกันเพื่อที่จะปกป้องนางและลูกของนาง วิญญาณของเขาถูกกำจัดไป

ตาของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อเขาได้ยินแบบนี้ เขาพูดเสียงทุ้ม “ผู้อาวุโส ราชาเสือจากตระกูลกิลลิกันเกือบฆ่าข้าตายเมื่อหลายปีก่อน ข้ามีความบาดหมางกับเขาเช่นกัน เมื่อท่านฟื้นตัวแล้ว พวกเราจะไปที่ตระกูลกิลลิกันด้วยกัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ 997: ฟื้นตัว

Now you are reading Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ Chapter 997: ฟื้นตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 997: ฟื้นตัว

รัมกุยเนสนอนอยู่ที่พื้นที่กึ่งกลางของโถงใหญ่ภายในมิติวัตถุเซียน นางอยู่ในห้วงเวลาแห่งความเป็นและความตาย และลมหายใจของนางก็อ่อนแรงมาก

วัตถุจิตวิญญาณที่อยู่ในรูปแบบมนุษย์ในชุดขาวได้รับคำสั่งของเจี้ยนเฉินแล้ว มันปรากฏขึ้นทันทีที่ข้างนางแล้วก็ยื่นนิ้วออกไป จากนั้นสายพลังงานดั้งเดิมที่บริสุทธิ์จากพลังเซียนธาตุแสงก็เข้าไปในร่างของรัมกุยเนส ทันใดนั้นเอง ชั้นแสงสีขาวก็ล้อมทั่วร่างนางเอาไว้ มันบอกไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านใน

เจี้ยนเฉิน โหยวเยว่และเสือขาวปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอกโถง เจี้ยนเฉินและเสือขาวจ้องตาไม่กระพริบไปที่รัมกุยเนสที่กำลังถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีขาว ในเวลาเดียวกันโหยวเยว่ก็มองไปรอบ ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น นี่เป็นครั้งแรกที่นางเข้ามาในสถานที่นี้ นางสังเกตดูทุกอย่างที่อยู่ที่นี่

ร่างของรัมกุยเนสอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มาก พลังงานมืดที่ถูกราชาจากตระกูลกิลลิกันทิ้งเอาไว้ได้ทำลายร่างของนางอย่างต่อเนื่อง และค่อย ๆ คืบคลานไปที่วิญญาณของนาง ถ้าเจี้ยนเฉินมาไม่ทันเวลาและใช้สายพลังงานดั้งเดิมเพื่อป้องกันวิญญาณของรัมกุยเนสช้าเกินไป นางก็คงเจอสถานการณ์ที่ลำบากกว่านี้ มันคงจะยากมากที่นางจะรอดไปได้

แม้ว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 สามารถชุบชีวิตคนตายได้ แต่วิญญาณก็ต้องยังเหลืออยู่ด้วย ถ้าวิญญาณของนางถูกกำจัดไป แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 8 จากครั้งโบราณกาลก็ไม่สามารถที่จะชุบชีวิตนางได้ อย่าว่าแต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 เลย

โถงตกอยู่ในความเงียบสงัด เจี้ยนเฉินและเสือขาวจ้องมองรัมกุยเนสตาไม่กระพริบและไม่พูดอะไรเลย

หลังจากที่โหยวเยว่มองไปรอบ ๆ หลายครั้งด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางก็ค่อย ๆ เลิกสนใจและนางก็เพ่งสายตาไปที่รัมกุยเนสแล้วคิด “นั่นคือแม่ของเสี่ยวไป๋งั้นหรือ ? นางพูดภาษามนุษย์ได้ ดูเหมือนนางจะเป็นสัตว์อสูรระดับ 7 เป็นอย่างน้อย”

พลังงานดั้งเดิมในการควบคุมของวัตถุวิญญาณนั้นทรงพลังและบริสุทธิ์กว่าของเจี้ยนเฉิน สภาพของรัมกุยเนสดีขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การรักษาจากวัตถุจิตวิญญาณเอง ร่างของนางที่เต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บในตอนแรกก็ค่อย ๆ กลับสู่สภาพก่อนหน้านี้ แม้แต่พลังงานมืดที่อยู่ในร่างของนางก็ถูกลบล้างไป

2 ชั่วยามต่อมา แสงสีขาวที่อยู่รอบ ๆ รัมกุยเนสก็หายไปในที่สุด ขนของนางไม่ได้เป็นสีเลือดอีกต่อไปแล้ว มันกลายชั้นขนสวยงามสีขาวราวหิมะ ตาที่อ่อนแอและหมองหม่นของนางลุกโชนไปด้วยจิตวิญญาณและกลับมาเป็นประกายอีกครั้ง

พลังงานดั้งเดิมของวัตถุจิตวิญญาณเหนือกว่าทุกสิ่งที่เจี้ยนเฉินจะเทียบเท่าได้ ไม่เพียงแต่มันจะรักษาสัตว์อสูรระดับ 7 ที่อยู่ขอบเหวมรณะได้อย่างสมบูรณ์ในเวลาอันสั้น แต่มันยังฟื้นฟูวิญญาณของนางให้อยู่ในสภาพสูงสุดได้อีกด้วย

รัมกุยเนสลุกขึ้นจากพื้นอย่างช้า ๆ แม้ว่าอาการบาดเจ็บของนางจะถูกรักษาอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่กำลังของนางก็ยังไม่กลับมาเลย ดังนั้นนางจึงเหน็ดเหนื่อยและอ่อนแอมากทำให้นางยากที่จะลุกขึ้นมาได้

ร่างของรัมกุยเนสเปลี่ยนไป และนางก็กลายร่างเป็นมนุษย์อย่างรวดเร็ว นางกลายเป็นหญิงวัยกลางคนผิวสีเลือดฝาด

“ข้าขอขอบคุณที่ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ ไม่เพียงแต่ข้าจะไม่ได้พบลูกของข้าอีกครั้งถ้าเจ้ามาไม่มันเวลา แต่ข้าก็จะไม่มีชีวิตรอดอีกต่อไปด้วย ความมีน้ำใจที่เจ้ามีให้กับพวกเราทั้งสองนี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ข้าจะชดเชยได้แม้จะใช้ชีวิตของข้า” รัมกุยเนสขอบคุณเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างสงบและตอบกลับ “ผู้อาวุโส ท่านไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้น ข้าทำให้ท่านทุกข์ทรมานใจที่ทำให้ท่านต้องรอนานกว่าที่ข้าจะรักษาอาการบาดเจ็บของท่านได้” เจี้ยนเฉินมองไปที่เสือขาวในตอนที่เขาพูดถึงตรงนี้ ก่อนที่จะพูดต่อ “ผู้อาวุโส ท่านไม่ได้พบลูกของท่านมาหลายปี ท่านต้องมีเรื่องที่จะพูดเยอะแน่ ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว ทั้งสองคนจะได้มีเวลาพูดคุยกัน”

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินและโหยวเยว่ก็ออกไปจากโถง และทิ้งให้ทั้งสองอยู่ด้วยกัน

หลังจากที่เจี้ยนเฉินและโหยวเยว่ออกไป รัมกุยเนสก็มองไปที่เสือขาวที่สง่างาม นางบอกได้เลยตั้งแต่เห็นครั้งแรกว่าลูกของนางเป็นสัตว์อสูรระดับ 7 แล้ว

ในตอนที่เสือขาวจากนางไปในตอนแรก มันยังเป็นลูกเสือที่ยังไม่ลืมตาด้วยซ้ำ ในตอนนี้มันได้กลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 7 ที่ทรงพลัง ความเร็วในการเติบโตของมันรวดเร็วจนรัมกุยเนสประหลาดใจมาก นางรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขมาก

เจี้ยนเฉินและโหยวเยว่เดินอยู่เคียงข้างกันบนเนินใกล้ ๆ เจียงเฉินมองออกไปไกล จากนั้น เขาก็ถอนหายใจยาว เจี้ยนเฉินได้บรรลุเรื่องที่ค้างคาในจิตใจของเขามาหลายปี รัมกุยเนสได้รับการรักษาในที่สุด และเสี่ยวไป๋ก็ได้กลับมาพบกับนาง

โหยวเยว่ยืนอยู่เงียบ ๆ ข้างเขา นางกอดแขนของเจี้ยนเฉินเอาไว้ในขณะที่สายตาของนางเป็นประกาย นางดูโลกที่แปลกตาภายในวัตถุเซียนอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดเลยว่ามันแตกต่างจากโลกภายนอก

“เจี้ยนเฉิน นี่มันที่ไหนกัน ? ” โหยวเยว่ถาม เสียงของนางฟังดูน่าพึงพอใจเหมือนเสียงนกร้อง

“นี่เป็นมิติภายในวัตถุเซียน” เจี้ยนเฉินอธิบายเรื่องมิติวัตถุเซียนในโหยวเยว่ฟัง มันทำให้นางเข้าใจมากขึ้นทันที นางตกตะลึง

ในตอนนี้เอง คลื่นพลังงานที่มหาศาลก็พุ่งพวยจากโถงออกไปทั่วมิติของวัตถุเซียน สัตว์อสูรระดับ 7 ทั้งหมดสัมผัสได้ถึงมันและมองไปที่ปราสาทอย่างสงสัยทันที

เจี้ยนเฉินก็มองไปที่ทิศทางที่คลื่นพลังงานพุ่งออกมา เขาสัมผัสได้ราง ๆ ถึงความกดดันของธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ในคลื่นพลัง มีเฉพาะทักษะการต่อสู้รับสวรรค์หรือระดับเซียนเท่านั้นที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้

“มันต้องเป็นนูบิสแน่ ดูเหมือนเขาจะประสบความสำเร็จบ้างแล้วในการค้นคว้าเรื่องทักษะการต่อสู้ระดับเซียน” เจี้ยนเฉินพึมพำ อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ด้วยว่าทักษะการต่อสู้ระดับเซียนนั้นลึกซึ้งเพียงใด มันไม่ได้เรียกรู้กันได้ง่าย ๆ นี่ยังไม่พูดถึงการที่นูบิสกำลังจะเปลี่ยนทักษะการต่อสู้นั้นให้เหมาะกับตัวเองอีก ซึ่งจะทำให้มันยากเข้าไปใหญ่ แม้ว่าเขาจะสำเร็จในบางส่วน แต่มันก็ยังต้องใช้เวลาอีกบ้างเพื่อที่จะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

ไม่นานหลังจากนั้น ร่างสีขาวก็พุ่งเข้ามา มันเป็นเสือขาวที่ดึงแม่ของเขามาที่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน ทันทีที่พวกเขามาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉิน รัมกุยเนสก็คุกเข่าลงตรงหน้าเจี้ยนเฉินและก้มหัวของนางลง “ท่านผู้มีพระคุณ ขอบคุณที่ปกป้องลูกของข้า ข้าได้ทราบจากลูกของข้าแล้วว่าท่านได้พบเจออะไรมาบ้าง ไม่เพียงแต่ท่านจะเผชิญกับการไล่ล่าของราชาจากตระกูลกิลลิกันเท่านั้น ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบยังบังคับให้ท่านต้องออกไปจากทวีปอีก บุญคุณของท่านช่างใหญ่หลวงนัก ข้า รัมกุยเนสจะใช้ชีวิตของข้าในการตอบแทนท่าน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อท่าน”

“ผู้อาวุโส ได้โปรดลุกขึ้นเถอะ” เจี้ยนเฉินรีบช่วยประคองให้รัมกุยเนสลุกขึ้นมา แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่านางในตอนนี้ แต่เจี้ยนเฉินก็เคารพรัมกุยเนส ซึ่งเป็นเหตุที่ที่เขายังเรียกนางว่าผู้อาวุโส

รัมกุยเนสเป็นแม่ที่ดี แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เจี้ยนเฉินเคารพนาง

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็พูดคุยอย่างสุภาพกับรัมกุยเนส ก่อนที่จะให้นางไปฟื้นตัว นางคงจากไปทันทีหลังจากที่นางฟื้นฟูสมบูรณ์แล้ว

โฮ้ก ! เสือขาวคำรามเสียงทุ้มในขณะที่เขามองไปที่รัมกุยเนส ความเกลียดฉายแววอยู่ในตาของเขา

รัมกินเนสลูบหัวของเสือขาวแล้วพูดออกมา “ลูกเอ๋ย แน่นอน เจ้าต้องแก้แค้นให้พ่อของเจ้า แต่ราชาของตระกูลกิลลิกันนั้นทรงพลังเกินไป เขาเป็นสัตว์อสูรระดับ 8 และพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราในตอนนี้ ลูกเอ้ย เมื่อเจ้ากลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 8 พวกเราจะไปที่ตระกูลกิลลิกันด้วยกันและล้างแค้นให้พ่อของเจ้า” เสียงของรัมกุยเนสเต็มไปด้วยความเกลียดชังในตอนที่นางพูดถึงคำสุดท้าย

หลายปีที่ผ่านมา สามีของนางได้ตายไปด้วยน้ำมือของราชาตระกูลกิลลิกันเพื่อที่จะปกป้องนางและลูกของนาง วิญญาณของเขาถูกกำจัดไป

ตาของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อเขาได้ยินแบบนี้ เขาพูดเสียงทุ้ม “ผู้อาวุโส ราชาเสือจากตระกูลกิลลิกันเกือบฆ่าข้าตายเมื่อหลายปีก่อน ข้ามีความบาดหมางกับเขาเช่นกัน เมื่อท่านฟื้นตัวแล้ว พวกเราจะไปที่ตระกูลกิลลิกันด้วยกัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+