Divine Card Creator 39 เทคนิคระดับเทพ

Now you are reading Divine Card Creator Chapter 39 เทคนิคระดับเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Divine Card Creator ตอนที่ 39 เทคนิคระดับเทพ

 

“ไหนขอดูหน่อยสิ”

 

ลู่หมิงพลิกเอกสารขึ้นมาดู ปกของมันเขียนว่าเทคนิคการเข้ารหัสภายนอก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเทคนิคการเข้ารหัสภายนอกเป็นประเภทที่พบบ่อยที่สุดในหมู่เทคนิคเข้ารหัสทั้งหมด

 

การเข้ารหัสภายนอกคืออะไร?

 

มันคือวิธีเข้ารหัสที่จะไม่สร้างความขัดแย้งกับเส้นพลังงานบนการ์ดใบนั้นๆ เพราะหลังจากสร้างการ์ดแล้วนักสร้างการ์ดจึงค่อยใช้เทคนิคเข้ารหัสบนการ์ดจากภายนอกผนึกเอาไว้บนการ์ด และด้วยเหตุผลนี้เองทําให้นักสร้างการ์ดจํานวนมากนิยมชมชอบเทคนิคการเข้ารหัสภายนอก

 

แต่ก็แน่นอนว่ายิ่งระดับของเทคนิคนั้นสูง ราคาของมันก็จะสูงเป็นเงาตามตัว

 

ด้วยเหตุนี้อุตสาหกรรมการเข้ารหัสจึงเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจํานวนมาก บางคนถึงกับกระทั่งใช้เวลาทั้งชีวิตในการสร้างเทคนิคการเข้ารหัสขันสุดยอดอันหนึ่งออกมา!

 

แต่สําหรับลู่หมิงในตอนนี้ เขาคงไม่มีปัญญาสร้างเทคนิคเหล่านี้ขึ้นมาเองแน่ๆ

 

“ลายเส้นพวกนี้”

 

ลู่หมิงเหลือบมองมันดูธรรมดามาก!

 

เทคนิคการเข้ารหัส D เป็นเทคนิคการเข้ารหัสระดับต่ําสุดที่นักสร้างการ์ดระดับ 1-2 ทั่วๆไปใช้กัน

 

มันง่ายมาก

 

สําหรับลู่หมิงในตอนนี้ การวาดมันไม่ใช่ปัญหาสําหรับเขาเลยแม้แต่น้อย

 

ลู่หมิงครุ่นคิด “ฉันควรลองวาดมันสักหน่อย”

 

เทคนิคการเข้ารหัส D มีทั้งหมด 92 ลายเส้น

 

ลายเส้นทั้งหมดนั้นเรียบง่าย

 

วิธีการวาดโครงสร้างถูกเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน

 

และหากถ้าเขามองในมุมของโปรแกรมเมอร์ โครงสร้างของมันจะถูกแบ่งออกเป็น 3 โมดูล

 

 

 

 

สําหรับส่วนที่ 1 และ 3 ลู่หมิงเข้าใจพวกมันเป็นอย่างดี เพราะในความเป็นจริง หลักการของมันก็เหมือนกับการถ่ายโอนพลังงานและการสั่งการให้การ์ดโจมตี

 

จุดสําคัญที่ยากที่สุดคือโมดูลการเข้ารหัส

 

หลังจากที่ลู่หมิงค้นคว้ามาระยะหนึ่ง เขาก็พบว่าเส้นเหล่านี้บางส่วนยังคงเชื่อมต่อกับการไหลของพลังงาน

 

ฉะนั้นแล้ว

 

“ลายเส้นนี้น่าจะเป็นอัลกอริทึมการเข้ารหัสที่ถูกเติมเข้ามา”

 

ลู่หมิงคาดเดา

 

เป็นเพราะลายเส้นเหล่านี้ทําหน้าที่ดั่งประตูนิรภัย มันทํางานเหมือนกับตู้เซฟที่ไม่มีวันเปิดออก!

 

กล่าวคือถ้าการ์ดมีการเข้ารหัสไว้ เวลาใช้การ์ดก็จะสามารถใช้ได้ตามปกติ แต่หากมีใครพยายามเจาะระบบเข้ามาดูลายเส้นหลังการ์ดแล้ว มันจะทําลายตัวเองโดยอัตโนมัติ!

 

หรือพูดง่ายๆ ว่าลายเส้นเหล่านี้คือหัวใจสําคัญของเทคนิคการเข้ารหัสนั่นเอง!

 

“อ่า เริ่มกันเลยดีกว่า”

 

ลู่หมิงเริ่มทดลองของตน

 

เนื่องจากระดับความยากของมันไม่สูงนัก เขาจึงทําสําเร็จอย่างรวดเร็ว

 

จู่ ๆ !

ลู่หมิงมองไปที่ผลงานการเข้ารหัสของตน

 

เมื่อก่อนเวลาที่เขาใช้งานการ์ดของตน ลายเส้นจะถูกแสดงผลออกมาตลอด แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว! ด้านหลังการ์ดทั้งหมดราวกับถูกคลุมด้วยแผ่นสีดําขนาดเท่ากับพื้นผิว

 

“การเข้ารหัสสัมฤทธิ์ผล”

 

ลู่หมิงเห็นปั๊บก็รู้ในทันที

 

เขาจดจํากระบวนการทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว!

 

ตราบใดที่เขาวาดเส้นตามนี้ เขาก็สามารถเข้ารหัสได้อย่างง่ายดาย!

 

แต่กระนั้น

 

ทําไมมันถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?

 

แม้ลู่หมิงจะจําวิธีการได้ แต่เขากลับยังไม่เข้าใจกระบวนการของมันมากนัก

 

และแม้ว่าลู่หมิงจะอ่านคําแนะนําของเทคนิค แต่มันก็ไม่ได้บอกอะไรเขามากนัก มันเขียนไว้แค่ว่า “ยิ่งคุณเข้าใจทักษะเชิงลึกเท่าไหร่ คุณก็จะใช้งานทักษะเข้ารหัสได้แย่ลงเท่านั้น”

 

หรือเป็นเพราะในทางทฤษฎี มันขัดแย้งกับการปฏิบัติ?

 

ลู่หมิงขมวดคิ้ว

 

กรณีนี้ก็คล้ายๆ กับวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตก่อนหน้าของลู่หมิง

 

ความรู้ทางคณิตศาสตร์หลายอย่างที่เขาเคยเรียนสมัยเด็ก มักจะถูกหักล้างเมื่อเขาขึ้นมาเรียนในมหาวิทยาลัย และหากคุณเรียนทั้งทฤษฎี และทฤษฎีหักล้างในเวลาเดียวกันมันคงสับสนวุ่นวายแน่ๆ

 

ดังนั้นเพื่อให้นักเรียน นักศึกษาเข้าใจได้ง่ายขึ้น เนื้อหาที่ซับซ้อนบางอย่างจึงถูกแบ่งออกและจําเป็นต้องค่อยๆเรียนรู้ไปอย่างเป็นขั้นตอน มิฉะนั้นบางทีเนื้อหาบางเรื่องก็ไม่อาจเข้าใจไปชั่วชีวิต

 

เป็นได้ว่าบางทีเทคนิคการเข้ารหัสก็อาจจะมีปัญหาเดีย วกัน!

 

แต่เดี๋ยวก่อนนะ ไม่ใช่ว่ามาตรฐานของลายเส้นเหล่านี้ต่ําเกินไปหน่อยหรอ? แถมสิ่งที่นักสร้างการ์ดที่ซื้อทักษะไป ทําได้ก็มีแค่ก็อปปี้วิธีวาดเส้นและลงมือวาดมันโดยไร้ซึ่งความเข้าใจใดๆ โดยให้ข้ออ้างว่ายิ่งอธิบายยิ่งใช้งานยากเนี่ยนะ?

 

ถ้างั้น

 

มันเป็นส่วนไหนกันที่พวกเขาไม่อยากอธิบาย?

 

“การ์ดใบนี้”

 

ลู่หมิงมองไปที่การ์ดที่ถูกเข้ารหัสอย่างสมบูรณ์ในมือของตน และเริ่มคิดวิเคราะห์…ลายเส้นของมัน

 

เนื้อหา

 

คําอธิบาย

 

ลู่หมิงขมวดคิ้ว

 

เขาไม่ชอบความรู้สึกคลุมเครือแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าทักษะการเข้ารหัสนั้นเกี่ยวข้องกับเทคนิคการสร้างการ์ดระดับสูง แต่ความรู้ความเข้าใจพวกนี้กลับถูกปกปิดไว้อย่างเงียบๆ

 

แน่นอน

 

สําหรับนักสร้างการ์ดระดับ 1 แล้ว

 

การเรียนทักษะเหล่านี้ก็เหมือนกับการให้เด็กอนุบาลเรียนแคลคูลัส ทั้งๆที่บวกลบคูณหารก็ยังไม่คล่องเลยด้วยซ้ํา

 

เขาไม่สามารถเข้าใจมันได้เลยแม้แต่น้อย

 

นี่มันช่างห่างไกลเหลือเกิน

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลู่หมิงเป็นคนที่ไม่ชอบความไม่ชัดเจน ฉะนั้นยังไงเขาก็ไม่ยอมแพ้แน่ๆ!

 

มันคืออะไรกันนะ?

 

ลู่หมิงจมอยู่ในความคิดของตน

 

เอาตามจริงลายเส้นเหล่านี้นั้นเรียบง่ายมาก ฉะนั้นเจ้าของเทคนิคเหล่านี้ย่อมไม่สามารถปกปิดความลับของเทคนิคได้อยู่แล้ว และหากพวกเขาทําได้จริงๆ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่นักสร้างการ์ดระดับ 1 จะทําสําเร็จ

หรือบางที…

 

จุดสําคัญของมันอาจไม่ใช่ที่ลายเส้น!

 

“หรือว่าหัวใจสําคัญของการเข้ารหัสไม่ใช่ลายเส้นแต่เป็นแนวคิด?” ลู่หมิงรู้สึกตัวทันที

 

แนวคิดของการเข้ารหัส!

 

และ…

แนวคิดที่แท้จริงในการสร้างการ์ด!

 

“การเข้ารหัส.”

 

ลู่หมิงเริ่มประมวลผลในสมองของตนอีกครั้ง

 

อันที่จริงเขาอยากรู้เกี่ยวกับเทคนิคนี้มาโดยตลอด ว่ามันใช้วิธีการอะไรที่สามารถวาดเส้นเพิ่มเติมลงไปในการ์ดแต่กลับไม่ส่งผลให้เอฟเฟกต์ของการ์ดเปลี่ยนแปลงไป?

 

การเข้ารหัส …

 

ลู่หมิงลูบหลังการ์ดที่ถูกเข้ารหัสพร้อมครุ่นคิด การเข้ารหัสทําให้เขาไม่สามารถตรวจสอบลายเส้นได้อย่างสมบูรณ์

 

เขาสัมผัสถึงลายเส้นไม่ได้แม้แต่น้อย!

 

นี่อาจเป็นเพราะ

 

ไม่รู้โว้ยยย พวกเขาทําได้ยังไงกันฟะ?

 

หรือกวาดทับให้มันโดยใช้หลักการคล้ายๆปกหนังสือหรอ?

 

มันวาดทับกันได้ตรงๆงี้เลยจริงดิ?

 

“เอิ่ม ไม่น่าใช่

 

“เอิ่ม ไม่น่าใช่ แบบนั้นออกจะดูโง่ไปหน่อย ฮ่าๆ”

 

“แต่ฉันคิดไม่ออกเลยแฮะ”

 

ลู่หมิงรู้สึกราวกับว่าสมองของเขากําลังจะระเบิด

 

จริงๆแล้วลู่หมิงมีลางสังหรณ์ว่าข้อสันนิษฐานของเขาเข้าใกล้ความจริงมากแล้ว แต่มันก็ยังดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทําให้ลู่หมิงหัวร้อนกว่าเดิม

 

“ช่างแม่*งละ!”

 

ลู่หมิงยิ้มอย่างขมขื่น

 

“เรื่องนี้อาจเป็นเพราะฉันยังขาดประสบการณ์อยู่?

 

แม้ว่าตอนนี้พื้นฐานในการสร้างการ์ดของลู่หมิงนั้นจะอยู่ใกล้ความเป็นเลิศแค่เอื้อม แต่อย่าลืมว่าเขาก็ยังเป็นแค่นักสร้างการ์ดระดับ 1 อยู่ดี!

 

การบ่มเพาะของเขายังอ่อนแอเกินไป!

 

บางที…

 

เขาอาจจะเข้าใจได้เองเมื่อกลายเป็นนักสร้างการ์ดระดับ 2?

 

“บางที่ก่อนอื่น ฉันควรลองศึกษาเทคนิคการเข้ารหัส D อีกสักครั้ง”

 

ลู่หมิงหายใจเข้าลึกๆ

 

เขาตั้งใจว่าจะลองทดสอบเอฟเฟกต์ของเทคนิคเข้ารหัส D!

 

ซึ่งอย่างแรกที่ลู่หมิงทําคือพยายาม Crack การเข้ารหัสที่ตนวาดออกมา เขากระจายพลังงานของตนลงบนพื้นผิวของการ์ดอย่างระมัดระวัง

 

ปังง!

 

เกิดคลื่นกระแสพลังงานผันผวนรอบๆตัว!

 

จากนั้น

 

การ์ดก็ทําลายตัวเองทันที!

 

ลายเส้นทั้งหมดสลายหายไป และการ์ดใบนั้นก็กลายเป็นขยะไปเช่นกัน!

 

“นี่สินะ วิธีทํางานของเทคนิคเข้ารหัส…”

 

ลู่หมิงเข้าใจมันแล้ว

มิน่าล่ะ มันถึงมีขายสกิล Crack แบบมืออาชีพ ไม่ได้พยายามเจาะเข้าไปซื่อๆ แบบเขา!

 

ถ้าอย่างงั้นล่ะก็

 

ความหัวหมอของลู่หมิงเริ่มทํางานอีกครั้ง

 

สําหรับคนอื่นเทคนิคการเข้ารหัส D อาจทางเลือกเดียวเท่านั้น แต่ว่าสําหรับลู่หมิงนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

 

แน่นอนว่าเทคนิคการเข้ารหัส D นั้นก็ยังนับว่า “กาก” อยู่ดี แต่ถ้าลู่หมิงกําลังพูดถึงผลลัพธ์หลังจากรวมเทคนิคการเข้ารหัส D 7 ใบเข้าด้วยกันล่ะ?

 

ได้ว่าเวลาทดสอบแล้วววว!

 

วูซซ –

 

ลู่หมิงเริ่มผสมการ์ดเทคนิคเข้ารหัส D ใบที่ 2 ลงไป

 

แต่ทุกอย่างก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

 

ลู่หมิงเหลือบมอง และพบว่ามันแค่เพิ่มความบริสุทธิ์ของลายเส้นก็เท่านั้น ซึ่งลายเส้นเหล่านั้นก็น่าจะเป็นอัลกอริทีมของเทคนิคการเข้ารหัส

 

มันไม่ได้พัฒนาอะไรไปมากนัก!

 

ไปต่อครับพี่น้อง!

 

การ์ดใบที่ 3 ใบที่ 4 ใบที่ 5 จนกระทั่งใบที่ 7

 

ชูวววว !

 

แสงไฟในห้องกะพริบปริบๆ

 

การ์ดกําลังเปลี่ยนแปลงไป!

 

“มาแล้วๆ!”

 

ดวงตาของลู่หมิงสว่างขึ้น

 

ใช่แล้ว!

 

เขาเดาถูก!

 

“อะฮ่า การ์ดดั้งเดิมสายฟ้านี่พึ่งพาได้จริงๆ!”

 

“ไหนมาให้ปะป่าดูหน่อย”

 

ใจของลู่หมิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง

 

ลายเส้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเส้นที่เป็นอัลกอริทึมการเข้ารหัสจะดูซับซ้อนขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้พิสดารจากเดิมไปมากนัก อย่างไรก็ตามมันกลับมีชั้นพลังงานปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของการเข้ารหัส

 

“เอ๊ะ?”

 

ลู่หมิงรู้สึกงงงวยเล็กน้อย

 

การปรากฏของชั้นพลังงานอีกอัน มันหมายความว่าอะไรกัน?

 

ที่จริงแล้ว

มันแปลกมาก!

 

ถ้ามองจากด้านหน้าของการ์ดดั้งเดิม เห็นได้ชัดว่ามันก็ยังดูปกติดี

 

อย่างไรก็ตาม…

 

ลู่หมิงกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อเขาสัมผัสไปที่การ์ดดั้งเดิมแล้ว เขารู้สึกราวกับกําลังจับตึกสี่เหลี่ยม 2 ชั้น ซึ่งโครงสร้างลายเส้นเองก็คล้ายกับตึก 2 ชั้นขนาดเล็กเหมือนกัน!

 

นี่มันอะไรกัน?

 

ลู่หมิงรู้สึกงงงวยเล็กน้อย

 

เห็นได้ชัดว่านี่มันก็พื้นผิวการ์ดธรรมดา แล้วมันเกิดโครงสร้างเชิงมิติขึ้นมาได้ยังไง?

 

เดี๋ยวก่อน

 

ด้านหน้าการ์ด

 

ชั้นที่สอง

ม่านตาของลู่หมิงหดตัวลงอย่างกะทันหัน ตอนนี้เขาเข้าใจแนวคิดของการเข้ารหัสแล้ว!

 

อย่างนี้นี่เอง!

 

ลู่หมิงรู้สึกประหลาดใจ

 

เขาคิดถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเช่นนี้

 

มีแต่แนวคิดแบบนี้เท่านั้นที่จะทําให้ใช้งานได้สมบูรณ์แบบ!

 

มีแต่แนวคิดแบบนี้เท่านั้นที่สามารถอธิบายเหตุผลทุกอย่าง

 

ก่อนหน้านี้ลู่หมิงเคยมีข้อสงสัยอยู่ประการหนึ่ง…

 

คือพื้นผิวด้านหน้าของการ์ดเปล่ามีขนาดใหญ่มาก แต่มันก็มีขีดจํากัดสําหรับลายเส้นอยู่ที่ประมาณ 100-300 กว่าเส้นเท่านั้น แล้วถ้างั้นมันรองรับสกิลที่ใช้ลายเส้นเป็นล้านๆได้อย่างไร? ใช้เทคนิคจุดตัด? หรือเทคนิคจุดตัดสามแยกหรอ?

 

ไม่น่าใช่ ไม่ว่าเขาจะใช้เทคนิคการวาดมากเท่าไหร่มันก็ไม่สามารถครอบคลุมลายเส้นทั้งหมดนั้นได้หรอก!

 

แต่ตอนนี้ลู่หมิงรู้แล้ว ว่าคนเหล่านั้นทํามันได้ยังไง

 

เพราะตอนนี้มันกลายเป็นเทคนิคการสร้างการ์ดใหม่ล่าสุดของลู่หมิงแลเว – เทคนิคสร้างชั้นการ์ด

 

หากพื้นผิวของการ์ดเปล่าเปรียบเสมือนรากฐานของอาคาร เขาก็สามารถสร้างชั้นการ์ดอีกหลายๆชั้นขึ้นมาซ้อนทับดั่งตึกระฟ้าได้

 

ยิ่งการ์ดมีระดับสูงขึ้นเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งมีชั้นพลังงานมากขึ้นเท่านั้น!

 

นี่เป็นความลับอันลึกซึ้งของการ์ดระดับสูงทั้งหลาย

 

แต่ตอนนี้

 

เทคนิคการเข้ารหัสง่อยๆของลู่หมิงกําลังใช้เทคนิคสุดล้ํานี้

ใช่แล้ว! จริงๆการเข้ารหัสก็คือการเพิ่มชั้นพลังงานอีกอันเข้าไปข้างบนลายเส้นเดิมของการ์ดเพื่อผนึกมัน!

 

อย่างไรก็ตาม…

 

คนคิดเทคนิคพวกนี้นั้นฉลาดมาก เพราะเวลาใช้เทคนิคเข้ารหัส สิ่งที่เหล่านักสร้างการ์ดหน้าใหม่ทําก็แค่วาดทับเท่านั้น นั่นทําให้ไม่มีใครรู้เลยว่ามันใช้มีแนวคิดแบบนี้! อย่างไรก็ตามมัน ตอนนี้แนวคิดทั้งหมดถูกเปิดเผยโดยการ์ดดั้งเดิมรูปสายฟ้าของลู่หมิงอย่างสมบูรณ์

 

การผสานของการ์ดดั้งเดิมรูปสายฟ้าช่วยทําให้ชั้นพลังงาน 1 ชั้นกลายเป็น 2 ชั้น!

 

มันกลายเป็นการเข้ารหัส 2 ครั้ง

 

มันช่วยให้ลู่หมิงเข้าใจอย่างชัดเจน

 

“นี่คงเป็นหลักการทั้งหมดของมัน”

 

ไม่แปลกใจเลยที่เขารู้สึกว่ามันช่างคุ้นเคยยิ่งนัก!

 

เป็นเพราะมันก็เหมือนกับ Layer ที่ลู่หมิงเคยใช้งานใน Photoshop!

 

Layer…

 

ชั้นพลังงานของการ์ด …

 

มันช่างแยบยลยิ่งนัก!

 

ลู่หมิงก็รู้ดีเช่นกัน!

 

ต้องเล่าก่อนว่า

 

ในอดีตลู่หมิงเคยได้เรียนทักษะการใช้ Photoshop เป็นเวลากว่า 2 ปีเพื่อที่จะไปหลีสาวในวิทยาลัย ซึ่งสิ่งที่ลู่หมิงทําในตอนนั้นคือเขาพยายามทําให้หน้ากลมๆ ของตนกลายเป็น V-shape โดยการใช้ Photoshop!

 

ต้องกล่าวเสริมว่าตอนนั้นในคณะของเขามีนักศึกษาหญิง เพียง 50 คนจากนักศึกษาทั้งหมด 2000 คน ทําให้เมื่อเทียบอัตราส่วนแล้วจํานวนนักล่านั้นมหาศาล แต่กลับมีเหยื่ออยู่เพียงน้อยนิด เขาจึงทําได้เพียงแค่ยอมแพ้และสูญพันธุ์ไร้ผู้สืบสกุลไปอย่างไม่ยินยอมในที่สุด

 

หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัยแล้ว

 

ลู่หมิงก็เตรียมจะใช้ทักษะ Photoshop ที่เขาเก็บตัวซุ่มซ้อมอยู่ 2 ปีในการออกล่าอีกครั้ง แต่ก็ถูกความเทพของฟิลเตอร์กล้องสมัยใหม่แย่งซีนไปจนหมดโอกาสอีกครา ได้แต่ทํางานงกๆ แถมพอรู้ตัวอีกทีก็ไหลตายคาคอมตัวเองไปซะแล้ว

โดยไม่คาดคิด…

 

เขากลับสามารถนําความรู้นี้มาใช้ประโยชน์ได้ที่นี่!

 

“ชั้นพลังงาน…”

 

ลู่หมิงอารมณ์ดีมาก

 

โว้ววววว

 

นี่มันโลกอีกใบนึงชัดๆ

 

ไม่น่าแปลกใจเลย..

 

ที่พวกระดับสูงจะปิดบังเรื่องพวกนี้ไว้

 

สําหรับนักสร้างการ์ดระดับ 1 หรือระดับ 2 ทั่วๆไปแล้ว พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะเข้าใจลายเส้นธรรมดาๆบนการ์ดได้ด้วยซ้ํา นับประสาอะไรกับทักษะที่อาศัยการซ้อนทับ 3 มิติ แบบนี้?

 

เอาจริงๆ มันก็ไม่ต่างกับการสอนแคลคูลัสให้เด็กอนุบาล ที่บวกลบคูณหารยังไม่คล่องจริงๆนั่นแหล่ะ!

 

มันนับเป็นเทคนิคระดับสูงที่เกินขอบเขตปัจจุบันของลู่หมิงไปมาก จริงๆแล้วคนที่จะรู้เรื่องพวกนี้ได้ควรเป็นผู้บ่มเพาะระดับ 4 ขึ้นไปต่างหาก!

 

นี่มันเทคนิคระดับเทพชัดๆ!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Divine Card Creator 39 เทคนิคระดับเทพ

Now you are reading Divine Card Creator Chapter 39 เทคนิคระดับเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Divine Card Creator ตอนที่ 39 เทคนิคระดับเทพ

 

“ไหนขอดูหน่อยสิ”

 

ลู่หมิงพลิกเอกสารขึ้นมาดู ปกของมันเขียนว่าเทคนิคการเข้ารหัสภายนอก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเทคนิคการเข้ารหัสภายนอกเป็นประเภทที่พบบ่อยที่สุดในหมู่เทคนิคเข้ารหัสทั้งหมด

 

การเข้ารหัสภายนอกคืออะไร?

 

มันคือวิธีเข้ารหัสที่จะไม่สร้างความขัดแย้งกับเส้นพลังงานบนการ์ดใบนั้นๆ เพราะหลังจากสร้างการ์ดแล้วนักสร้างการ์ดจึงค่อยใช้เทคนิคเข้ารหัสบนการ์ดจากภายนอกผนึกเอาไว้บนการ์ด และด้วยเหตุผลนี้เองทําให้นักสร้างการ์ดจํานวนมากนิยมชมชอบเทคนิคการเข้ารหัสภายนอก

 

แต่ก็แน่นอนว่ายิ่งระดับของเทคนิคนั้นสูง ราคาของมันก็จะสูงเป็นเงาตามตัว

 

ด้วยเหตุนี้อุตสาหกรรมการเข้ารหัสจึงเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจํานวนมาก บางคนถึงกับกระทั่งใช้เวลาทั้งชีวิตในการสร้างเทคนิคการเข้ารหัสขันสุดยอดอันหนึ่งออกมา!

 

แต่สําหรับลู่หมิงในตอนนี้ เขาคงไม่มีปัญญาสร้างเทคนิคเหล่านี้ขึ้นมาเองแน่ๆ

 

“ลายเส้นพวกนี้”

 

ลู่หมิงเหลือบมองมันดูธรรมดามาก!

 

เทคนิคการเข้ารหัส D เป็นเทคนิคการเข้ารหัสระดับต่ําสุดที่นักสร้างการ์ดระดับ 1-2 ทั่วๆไปใช้กัน

 

มันง่ายมาก

 

สําหรับลู่หมิงในตอนนี้ การวาดมันไม่ใช่ปัญหาสําหรับเขาเลยแม้แต่น้อย

 

ลู่หมิงครุ่นคิด “ฉันควรลองวาดมันสักหน่อย”

 

เทคนิคการเข้ารหัส D มีทั้งหมด 92 ลายเส้น

 

ลายเส้นทั้งหมดนั้นเรียบง่าย

 

วิธีการวาดโครงสร้างถูกเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน

 

และหากถ้าเขามองในมุมของโปรแกรมเมอร์ โครงสร้างของมันจะถูกแบ่งออกเป็น 3 โมดูล

 

 

 

 

สําหรับส่วนที่ 1 และ 3 ลู่หมิงเข้าใจพวกมันเป็นอย่างดี เพราะในความเป็นจริง หลักการของมันก็เหมือนกับการถ่ายโอนพลังงานและการสั่งการให้การ์ดโจมตี

 

จุดสําคัญที่ยากที่สุดคือโมดูลการเข้ารหัส

 

หลังจากที่ลู่หมิงค้นคว้ามาระยะหนึ่ง เขาก็พบว่าเส้นเหล่านี้บางส่วนยังคงเชื่อมต่อกับการไหลของพลังงาน

 

ฉะนั้นแล้ว

 

“ลายเส้นนี้น่าจะเป็นอัลกอริทึมการเข้ารหัสที่ถูกเติมเข้ามา”

 

ลู่หมิงคาดเดา

 

เป็นเพราะลายเส้นเหล่านี้ทําหน้าที่ดั่งประตูนิรภัย มันทํางานเหมือนกับตู้เซฟที่ไม่มีวันเปิดออก!

 

กล่าวคือถ้าการ์ดมีการเข้ารหัสไว้ เวลาใช้การ์ดก็จะสามารถใช้ได้ตามปกติ แต่หากมีใครพยายามเจาะระบบเข้ามาดูลายเส้นหลังการ์ดแล้ว มันจะทําลายตัวเองโดยอัตโนมัติ!

 

หรือพูดง่ายๆ ว่าลายเส้นเหล่านี้คือหัวใจสําคัญของเทคนิคการเข้ารหัสนั่นเอง!

 

“อ่า เริ่มกันเลยดีกว่า”

 

ลู่หมิงเริ่มทดลองของตน

 

เนื่องจากระดับความยากของมันไม่สูงนัก เขาจึงทําสําเร็จอย่างรวดเร็ว

 

จู่ ๆ !

ลู่หมิงมองไปที่ผลงานการเข้ารหัสของตน

 

เมื่อก่อนเวลาที่เขาใช้งานการ์ดของตน ลายเส้นจะถูกแสดงผลออกมาตลอด แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว! ด้านหลังการ์ดทั้งหมดราวกับถูกคลุมด้วยแผ่นสีดําขนาดเท่ากับพื้นผิว

 

“การเข้ารหัสสัมฤทธิ์ผล”

 

ลู่หมิงเห็นปั๊บก็รู้ในทันที

 

เขาจดจํากระบวนการทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว!

 

ตราบใดที่เขาวาดเส้นตามนี้ เขาก็สามารถเข้ารหัสได้อย่างง่ายดาย!

 

แต่กระนั้น

 

ทําไมมันถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?

 

แม้ลู่หมิงจะจําวิธีการได้ แต่เขากลับยังไม่เข้าใจกระบวนการของมันมากนัก

 

และแม้ว่าลู่หมิงจะอ่านคําแนะนําของเทคนิค แต่มันก็ไม่ได้บอกอะไรเขามากนัก มันเขียนไว้แค่ว่า “ยิ่งคุณเข้าใจทักษะเชิงลึกเท่าไหร่ คุณก็จะใช้งานทักษะเข้ารหัสได้แย่ลงเท่านั้น”

 

หรือเป็นเพราะในทางทฤษฎี มันขัดแย้งกับการปฏิบัติ?

 

ลู่หมิงขมวดคิ้ว

 

กรณีนี้ก็คล้ายๆ กับวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตก่อนหน้าของลู่หมิง

 

ความรู้ทางคณิตศาสตร์หลายอย่างที่เขาเคยเรียนสมัยเด็ก มักจะถูกหักล้างเมื่อเขาขึ้นมาเรียนในมหาวิทยาลัย และหากคุณเรียนทั้งทฤษฎี และทฤษฎีหักล้างในเวลาเดียวกันมันคงสับสนวุ่นวายแน่ๆ

 

ดังนั้นเพื่อให้นักเรียน นักศึกษาเข้าใจได้ง่ายขึ้น เนื้อหาที่ซับซ้อนบางอย่างจึงถูกแบ่งออกและจําเป็นต้องค่อยๆเรียนรู้ไปอย่างเป็นขั้นตอน มิฉะนั้นบางทีเนื้อหาบางเรื่องก็ไม่อาจเข้าใจไปชั่วชีวิต

 

เป็นได้ว่าบางทีเทคนิคการเข้ารหัสก็อาจจะมีปัญหาเดีย วกัน!

 

แต่เดี๋ยวก่อนนะ ไม่ใช่ว่ามาตรฐานของลายเส้นเหล่านี้ต่ําเกินไปหน่อยหรอ? แถมสิ่งที่นักสร้างการ์ดที่ซื้อทักษะไป ทําได้ก็มีแค่ก็อปปี้วิธีวาดเส้นและลงมือวาดมันโดยไร้ซึ่งความเข้าใจใดๆ โดยให้ข้ออ้างว่ายิ่งอธิบายยิ่งใช้งานยากเนี่ยนะ?

 

ถ้างั้น

 

มันเป็นส่วนไหนกันที่พวกเขาไม่อยากอธิบาย?

 

“การ์ดใบนี้”

 

ลู่หมิงมองไปที่การ์ดที่ถูกเข้ารหัสอย่างสมบูรณ์ในมือของตน และเริ่มคิดวิเคราะห์…ลายเส้นของมัน

 

เนื้อหา

 

คําอธิบาย

 

ลู่หมิงขมวดคิ้ว

 

เขาไม่ชอบความรู้สึกคลุมเครือแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าทักษะการเข้ารหัสนั้นเกี่ยวข้องกับเทคนิคการสร้างการ์ดระดับสูง แต่ความรู้ความเข้าใจพวกนี้กลับถูกปกปิดไว้อย่างเงียบๆ

 

แน่นอน

 

สําหรับนักสร้างการ์ดระดับ 1 แล้ว

 

การเรียนทักษะเหล่านี้ก็เหมือนกับการให้เด็กอนุบาลเรียนแคลคูลัส ทั้งๆที่บวกลบคูณหารก็ยังไม่คล่องเลยด้วยซ้ํา

 

เขาไม่สามารถเข้าใจมันได้เลยแม้แต่น้อย

 

นี่มันช่างห่างไกลเหลือเกิน

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลู่หมิงเป็นคนที่ไม่ชอบความไม่ชัดเจน ฉะนั้นยังไงเขาก็ไม่ยอมแพ้แน่ๆ!

 

มันคืออะไรกันนะ?

 

ลู่หมิงจมอยู่ในความคิดของตน

 

เอาตามจริงลายเส้นเหล่านี้นั้นเรียบง่ายมาก ฉะนั้นเจ้าของเทคนิคเหล่านี้ย่อมไม่สามารถปกปิดความลับของเทคนิคได้อยู่แล้ว และหากพวกเขาทําได้จริงๆ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่นักสร้างการ์ดระดับ 1 จะทําสําเร็จ

หรือบางที…

 

จุดสําคัญของมันอาจไม่ใช่ที่ลายเส้น!

 

“หรือว่าหัวใจสําคัญของการเข้ารหัสไม่ใช่ลายเส้นแต่เป็นแนวคิด?” ลู่หมิงรู้สึกตัวทันที

 

แนวคิดของการเข้ารหัส!

 

และ…

แนวคิดที่แท้จริงในการสร้างการ์ด!

 

“การเข้ารหัส.”

 

ลู่หมิงเริ่มประมวลผลในสมองของตนอีกครั้ง

 

อันที่จริงเขาอยากรู้เกี่ยวกับเทคนิคนี้มาโดยตลอด ว่ามันใช้วิธีการอะไรที่สามารถวาดเส้นเพิ่มเติมลงไปในการ์ดแต่กลับไม่ส่งผลให้เอฟเฟกต์ของการ์ดเปลี่ยนแปลงไป?

 

การเข้ารหัส …

 

ลู่หมิงลูบหลังการ์ดที่ถูกเข้ารหัสพร้อมครุ่นคิด การเข้ารหัสทําให้เขาไม่สามารถตรวจสอบลายเส้นได้อย่างสมบูรณ์

 

เขาสัมผัสถึงลายเส้นไม่ได้แม้แต่น้อย!

 

นี่อาจเป็นเพราะ

 

ไม่รู้โว้ยยย พวกเขาทําได้ยังไงกันฟะ?

 

หรือกวาดทับให้มันโดยใช้หลักการคล้ายๆปกหนังสือหรอ?

 

มันวาดทับกันได้ตรงๆงี้เลยจริงดิ?

 

“เอิ่ม ไม่น่าใช่

 

“เอิ่ม ไม่น่าใช่ แบบนั้นออกจะดูโง่ไปหน่อย ฮ่าๆ”

 

“แต่ฉันคิดไม่ออกเลยแฮะ”

 

ลู่หมิงรู้สึกราวกับว่าสมองของเขากําลังจะระเบิด

 

จริงๆแล้วลู่หมิงมีลางสังหรณ์ว่าข้อสันนิษฐานของเขาเข้าใกล้ความจริงมากแล้ว แต่มันก็ยังดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทําให้ลู่หมิงหัวร้อนกว่าเดิม

 

“ช่างแม่*งละ!”

 

ลู่หมิงยิ้มอย่างขมขื่น

 

“เรื่องนี้อาจเป็นเพราะฉันยังขาดประสบการณ์อยู่?

 

แม้ว่าตอนนี้พื้นฐานในการสร้างการ์ดของลู่หมิงนั้นจะอยู่ใกล้ความเป็นเลิศแค่เอื้อม แต่อย่าลืมว่าเขาก็ยังเป็นแค่นักสร้างการ์ดระดับ 1 อยู่ดี!

 

การบ่มเพาะของเขายังอ่อนแอเกินไป!

 

บางที…

 

เขาอาจจะเข้าใจได้เองเมื่อกลายเป็นนักสร้างการ์ดระดับ 2?

 

“บางที่ก่อนอื่น ฉันควรลองศึกษาเทคนิคการเข้ารหัส D อีกสักครั้ง”

 

ลู่หมิงหายใจเข้าลึกๆ

 

เขาตั้งใจว่าจะลองทดสอบเอฟเฟกต์ของเทคนิคเข้ารหัส D!

 

ซึ่งอย่างแรกที่ลู่หมิงทําคือพยายาม Crack การเข้ารหัสที่ตนวาดออกมา เขากระจายพลังงานของตนลงบนพื้นผิวของการ์ดอย่างระมัดระวัง

 

ปังง!

 

เกิดคลื่นกระแสพลังงานผันผวนรอบๆตัว!

 

จากนั้น

 

การ์ดก็ทําลายตัวเองทันที!

 

ลายเส้นทั้งหมดสลายหายไป และการ์ดใบนั้นก็กลายเป็นขยะไปเช่นกัน!

 

“นี่สินะ วิธีทํางานของเทคนิคเข้ารหัส…”

 

ลู่หมิงเข้าใจมันแล้ว

มิน่าล่ะ มันถึงมีขายสกิล Crack แบบมืออาชีพ ไม่ได้พยายามเจาะเข้าไปซื่อๆ แบบเขา!

 

ถ้าอย่างงั้นล่ะก็

 

ความหัวหมอของลู่หมิงเริ่มทํางานอีกครั้ง

 

สําหรับคนอื่นเทคนิคการเข้ารหัส D อาจทางเลือกเดียวเท่านั้น แต่ว่าสําหรับลู่หมิงนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

 

แน่นอนว่าเทคนิคการเข้ารหัส D นั้นก็ยังนับว่า “กาก” อยู่ดี แต่ถ้าลู่หมิงกําลังพูดถึงผลลัพธ์หลังจากรวมเทคนิคการเข้ารหัส D 7 ใบเข้าด้วยกันล่ะ?

 

ได้ว่าเวลาทดสอบแล้วววว!

 

วูซซ –

 

ลู่หมิงเริ่มผสมการ์ดเทคนิคเข้ารหัส D ใบที่ 2 ลงไป

 

แต่ทุกอย่างก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

 

ลู่หมิงเหลือบมอง และพบว่ามันแค่เพิ่มความบริสุทธิ์ของลายเส้นก็เท่านั้น ซึ่งลายเส้นเหล่านั้นก็น่าจะเป็นอัลกอริทีมของเทคนิคการเข้ารหัส

 

มันไม่ได้พัฒนาอะไรไปมากนัก!

 

ไปต่อครับพี่น้อง!

 

การ์ดใบที่ 3 ใบที่ 4 ใบที่ 5 จนกระทั่งใบที่ 7

 

ชูวววว !

 

แสงไฟในห้องกะพริบปริบๆ

 

การ์ดกําลังเปลี่ยนแปลงไป!

 

“มาแล้วๆ!”

 

ดวงตาของลู่หมิงสว่างขึ้น

 

ใช่แล้ว!

 

เขาเดาถูก!

 

“อะฮ่า การ์ดดั้งเดิมสายฟ้านี่พึ่งพาได้จริงๆ!”

 

“ไหนมาให้ปะป่าดูหน่อย”

 

ใจของลู่หมิงเต็มไปด้วยความคาดหวัง

 

ลายเส้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเส้นที่เป็นอัลกอริทึมการเข้ารหัสจะดูซับซ้อนขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้พิสดารจากเดิมไปมากนัก อย่างไรก็ตามมันกลับมีชั้นพลังงานปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของการเข้ารหัส

 

“เอ๊ะ?”

 

ลู่หมิงรู้สึกงงงวยเล็กน้อย

 

การปรากฏของชั้นพลังงานอีกอัน มันหมายความว่าอะไรกัน?

 

ที่จริงแล้ว

มันแปลกมาก!

 

ถ้ามองจากด้านหน้าของการ์ดดั้งเดิม เห็นได้ชัดว่ามันก็ยังดูปกติดี

 

อย่างไรก็ตาม…

 

ลู่หมิงกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อเขาสัมผัสไปที่การ์ดดั้งเดิมแล้ว เขารู้สึกราวกับกําลังจับตึกสี่เหลี่ยม 2 ชั้น ซึ่งโครงสร้างลายเส้นเองก็คล้ายกับตึก 2 ชั้นขนาดเล็กเหมือนกัน!

 

นี่มันอะไรกัน?

 

ลู่หมิงรู้สึกงงงวยเล็กน้อย

 

เห็นได้ชัดว่านี่มันก็พื้นผิวการ์ดธรรมดา แล้วมันเกิดโครงสร้างเชิงมิติขึ้นมาได้ยังไง?

 

เดี๋ยวก่อน

 

ด้านหน้าการ์ด

 

ชั้นที่สอง

ม่านตาของลู่หมิงหดตัวลงอย่างกะทันหัน ตอนนี้เขาเข้าใจแนวคิดของการเข้ารหัสแล้ว!

 

อย่างนี้นี่เอง!

 

ลู่หมิงรู้สึกประหลาดใจ

 

เขาคิดถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเช่นนี้

 

มีแต่แนวคิดแบบนี้เท่านั้นที่จะทําให้ใช้งานได้สมบูรณ์แบบ!

 

มีแต่แนวคิดแบบนี้เท่านั้นที่สามารถอธิบายเหตุผลทุกอย่าง

 

ก่อนหน้านี้ลู่หมิงเคยมีข้อสงสัยอยู่ประการหนึ่ง…

 

คือพื้นผิวด้านหน้าของการ์ดเปล่ามีขนาดใหญ่มาก แต่มันก็มีขีดจํากัดสําหรับลายเส้นอยู่ที่ประมาณ 100-300 กว่าเส้นเท่านั้น แล้วถ้างั้นมันรองรับสกิลที่ใช้ลายเส้นเป็นล้านๆได้อย่างไร? ใช้เทคนิคจุดตัด? หรือเทคนิคจุดตัดสามแยกหรอ?

 

ไม่น่าใช่ ไม่ว่าเขาจะใช้เทคนิคการวาดมากเท่าไหร่มันก็ไม่สามารถครอบคลุมลายเส้นทั้งหมดนั้นได้หรอก!

 

แต่ตอนนี้ลู่หมิงรู้แล้ว ว่าคนเหล่านั้นทํามันได้ยังไง

 

เพราะตอนนี้มันกลายเป็นเทคนิคการสร้างการ์ดใหม่ล่าสุดของลู่หมิงแลเว – เทคนิคสร้างชั้นการ์ด

 

หากพื้นผิวของการ์ดเปล่าเปรียบเสมือนรากฐานของอาคาร เขาก็สามารถสร้างชั้นการ์ดอีกหลายๆชั้นขึ้นมาซ้อนทับดั่งตึกระฟ้าได้

 

ยิ่งการ์ดมีระดับสูงขึ้นเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งมีชั้นพลังงานมากขึ้นเท่านั้น!

 

นี่เป็นความลับอันลึกซึ้งของการ์ดระดับสูงทั้งหลาย

 

แต่ตอนนี้

 

เทคนิคการเข้ารหัสง่อยๆของลู่หมิงกําลังใช้เทคนิคสุดล้ํานี้

ใช่แล้ว! จริงๆการเข้ารหัสก็คือการเพิ่มชั้นพลังงานอีกอันเข้าไปข้างบนลายเส้นเดิมของการ์ดเพื่อผนึกมัน!

 

อย่างไรก็ตาม…

 

คนคิดเทคนิคพวกนี้นั้นฉลาดมาก เพราะเวลาใช้เทคนิคเข้ารหัส สิ่งที่เหล่านักสร้างการ์ดหน้าใหม่ทําก็แค่วาดทับเท่านั้น นั่นทําให้ไม่มีใครรู้เลยว่ามันใช้มีแนวคิดแบบนี้! อย่างไรก็ตามมัน ตอนนี้แนวคิดทั้งหมดถูกเปิดเผยโดยการ์ดดั้งเดิมรูปสายฟ้าของลู่หมิงอย่างสมบูรณ์

 

การผสานของการ์ดดั้งเดิมรูปสายฟ้าช่วยทําให้ชั้นพลังงาน 1 ชั้นกลายเป็น 2 ชั้น!

 

มันกลายเป็นการเข้ารหัส 2 ครั้ง

 

มันช่วยให้ลู่หมิงเข้าใจอย่างชัดเจน

 

“นี่คงเป็นหลักการทั้งหมดของมัน”

 

ไม่แปลกใจเลยที่เขารู้สึกว่ามันช่างคุ้นเคยยิ่งนัก!

 

เป็นเพราะมันก็เหมือนกับ Layer ที่ลู่หมิงเคยใช้งานใน Photoshop!

 

Layer…

 

ชั้นพลังงานของการ์ด …

 

มันช่างแยบยลยิ่งนัก!

 

ลู่หมิงก็รู้ดีเช่นกัน!

 

ต้องเล่าก่อนว่า

 

ในอดีตลู่หมิงเคยได้เรียนทักษะการใช้ Photoshop เป็นเวลากว่า 2 ปีเพื่อที่จะไปหลีสาวในวิทยาลัย ซึ่งสิ่งที่ลู่หมิงทําในตอนนั้นคือเขาพยายามทําให้หน้ากลมๆ ของตนกลายเป็น V-shape โดยการใช้ Photoshop!

 

ต้องกล่าวเสริมว่าตอนนั้นในคณะของเขามีนักศึกษาหญิง เพียง 50 คนจากนักศึกษาทั้งหมด 2000 คน ทําให้เมื่อเทียบอัตราส่วนแล้วจํานวนนักล่านั้นมหาศาล แต่กลับมีเหยื่ออยู่เพียงน้อยนิด เขาจึงทําได้เพียงแค่ยอมแพ้และสูญพันธุ์ไร้ผู้สืบสกุลไปอย่างไม่ยินยอมในที่สุด

 

หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัยแล้ว

 

ลู่หมิงก็เตรียมจะใช้ทักษะ Photoshop ที่เขาเก็บตัวซุ่มซ้อมอยู่ 2 ปีในการออกล่าอีกครั้ง แต่ก็ถูกความเทพของฟิลเตอร์กล้องสมัยใหม่แย่งซีนไปจนหมดโอกาสอีกครา ได้แต่ทํางานงกๆ แถมพอรู้ตัวอีกทีก็ไหลตายคาคอมตัวเองไปซะแล้ว

โดยไม่คาดคิด…

 

เขากลับสามารถนําความรู้นี้มาใช้ประโยชน์ได้ที่นี่!

 

“ชั้นพลังงาน…”

 

ลู่หมิงอารมณ์ดีมาก

 

โว้ววววว

 

นี่มันโลกอีกใบนึงชัดๆ

 

ไม่น่าแปลกใจเลย..

 

ที่พวกระดับสูงจะปิดบังเรื่องพวกนี้ไว้

 

สําหรับนักสร้างการ์ดระดับ 1 หรือระดับ 2 ทั่วๆไปแล้ว พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะเข้าใจลายเส้นธรรมดาๆบนการ์ดได้ด้วยซ้ํา นับประสาอะไรกับทักษะที่อาศัยการซ้อนทับ 3 มิติ แบบนี้?

 

เอาจริงๆ มันก็ไม่ต่างกับการสอนแคลคูลัสให้เด็กอนุบาล ที่บวกลบคูณหารยังไม่คล่องจริงๆนั่นแหล่ะ!

 

มันนับเป็นเทคนิคระดับสูงที่เกินขอบเขตปัจจุบันของลู่หมิงไปมาก จริงๆแล้วคนที่จะรู้เรื่องพวกนี้ได้ควรเป็นผู้บ่มเพาะระดับ 4 ขึ้นไปต่างหาก!

 

นี่มันเทคนิคระดับเทพชัดๆ!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+