Divine Card Creator 50 พี่ต้องการอะไร?!

Now you are reading Divine Card Creator Chapter 50 พี่ต้องการอะไร?! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Divine Card Creator ตอนที่ 50 พี่ต้องการอะไร?!

 

“พี่ลู่… รางวัล รางวัลนั่น…”

 

จางเสี่ยวปังยิ้มพร้อมถมือของตนไปมา

 

“เห้ออออ ทําไมฉันต้องรู้จักคนอย่างนายด้วย”

 

ลู่หมิงรู้สึกสมเพชตัวเอง

 

จางเสี่ยวปังรู้สึกงุนงง “รู้จักผมแล้วไม่ดีตรงไหน?”

 

” เหอะๆ” ลู่หมิงไม่ตอบแต่หัวเราะอย่างเอื้อมๆ

 

เขาครุ่นคิดสักพัก ก่อนที่เขาจะพูดว่า “อ้อ นี่อ้วนจาง”

 

จางเสี่ยวปังหรี่ตาดีๆ ที่แทบมองไม่เห็นของเขาทันที

 

พี่ลู่กําลังจะพูดอะไร?

 

หึ กะจะดูถูกฉันหรอ? จางเสี่ยวปังคิด

 

“ฉันอาจจะยากจน ไม่หล่อแถมยังไร้ประโยชน์ แต่ฉันจะไม่ยอมโดนใครกดขี่ข่มเหงเด็ดขาด อย่างนี้ต้องปฏิวัติ!”

 

“นี่รางวัลของนาย” ลู่หมิงหยิบเงินให้เขา 1 หมื่นหยวน

 

“ พี่ลู่ผมรักพี่ที่สุด ขอผมหอมแก้มที่!” จางเสี่ยวปังพูดพร้อมเปลี่ยนอารมณ์ราวกับว่าความโกรธเมื่อกี้เป็นตดที่สลายไปกับสายลม

 

“เฮ้ย ออกไป!” สู่หมิงถีบอ้วนจางออกไปไกลๆ

 

จากนั้นจางเสี่ยวปังก็หันมายิ้มอย่างมีความสุข

 

1 หมื่นหยวน!

 

“ฮ่าๆๆๆๆ ฉันจะไปตีกระ*รี่จนน้ำแห้งเลย!”

 

หมอนี่มันช่างเกินเยียวยาจริงๆ…

 

ลู่หมิงทั้งรู้สึกตลกและเหนื่อยใจในคราเดียวกัน

 

ด้วยขนาดตัวของจางเสี่ยวปังที่อ้วนจนดูคล้ายกับลูกชิ้น ทําให้ตาของเขาถูกไขมันบนหน้ากดจนเหลือเพียงแค่ตาดีๆ แคบๆ 2 เส้น แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่หมอนี่ได้เห็นเงินขึ้นมา ตาก็จะเบิกกว้างจนแทบถลนออกจากเบ้าอย่างเหลือเชื่อ! ไม่รู้หมอนี่รักผลกําไรหรือรักเงินที่จะเอาไปตี..เพิ่มช่างมันเถอะ!

 

“ตี*รี่! ตี*รี่! ตี*รี่! ตี*รี่!” จางเสี่ยวปังตะโกนออกมาเป็นจังหวะทุกก้าวที่เขาเดินเหมือนทหารที่กําลังมาร์ชอย่างเป็นระเบียบ

 

**นึกภาพ ซ้าย ขวา ซ้าย เอาละกัน 55555

 

“เอาล่ะ ฉันมีของขวัญลึกลับเพื่อความตื่นเต้นให้กับนายด้วย…”

 

จางเสี่ยวปังหันมาพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้น

 

ของขวัญหรอ คืออะไรกัน?

 

ลู่หมิงหยิบขวดใบหนึ่งที่ถูกปิดผนึกออกมาจากโต๊ะก่อนกล่าวว่า “อะ นี่คือของขวัญของนาย”

 

จางเสี่ยวบังมึนงง

 

“นี่…”

 

จางเสี่ยวปังยืนเอ๋อไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่น ” พี่ลู่ นี่มันลึกลับเกินไปหน่อยรึเปล่า?!”

 

“ก็คงงั้น”

 

ลู่หมิงถอนหายใจ ”ในอดีตฉันก็เคยคิดอย่างนั้น แต่ว่า…”

 

แต่หน้าของจางเสี่ยวปังก็ยังบูดราวกับไม่ได้ มา 3 วัน

 

“เอิ่ม โอเค…”

 

“ถ้างั้นนายเอาของอย่างอื่นไปแทนละกัน อ่า…ช่วงนี้ระหว่างนายกับซินเอ๋อเป็นยังไงกันบ้างล่ะ?”

 

” พ พี่ต้องการอะไร?!”

 

จางเสี่ยวปังสะดุ้ง พร้อมเปลี่ยนท่า เอามือตั้งขึ้นคล้ายกับบรูซ ลีที่กําลังจะโจมตีศัตรู

 

“เอ่อ นี่ฉันพูดอะไรผิดไปหรือ?” ลู่หมิงคิดด้วยความตกใจ

 

ตอนนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าของจางเสี่ยวปังเปลี่ยนเป็นสีเขียว ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้

 

“แค่กๆ”

 

ลู่หมิงไอกลบเกลื่อน “อ่อ ไม่มีอะไรแค่ถามเฉยๆ”

 

“พวกเราเข้ากันได้ดี

 

จางเสี่ยวปังตะคอก ”ซินเอ๋อทั้งประพฤติดี อยู่ในลูในทางและเชื่อฟังผมเป็นอย่างมาก เธอจะไม่สร้างปัญหาให้กับผมและไม่ “นอกใจ” ผมเด็ดขาด!”

 

“…”

 

ลู่หมิงพูดไม่ออก

 

ไอหมอนี่จะเน้นประโยคสุดท้ายทําเพื่อ?

 

“งั้นทําไมนายถึงซื้อกินประจําเลยล่ะ?”

 

ลู่หมิงถอนหายใจ

 

“แล้วมันผิดตรงไหนล่ะ?”

 

“ก็ในเมื่อซินเอ๋อของผมเป็นคนใจกว้าง เธอเป็นเมียหลวงดังนั้น เธอย่อมไม่อิจฉาผู้หญิงคนอื่นที่ผมไปหาแค่ไม่กี่ครั้งอยู่แล้ว” จางเสี่ยวปังพูดอย่างภูมิใจ

 

ลู่หมิงรู้สึกช็อค

 

คําอธิบายของหมอนี่แม่ง

 

หรือนอกจากตุ๊กตาซินเอื้อตัวนั้น หมอนี่จะมีฮาเร็มขนาดใหญ่จริงๆ?

 

“เอาล่ะช่างมัน”

 

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะให้บทเพลงกับนายสักเพลงแทนขวดใบนั้นละกัน?” ลู่หมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“พี่ร้องเพลงได้ด้วยเรอะ?” จางเสี่ยวปังอุทาน

 

“ฉันเพิ่งนึกถึงเพลงที่เหมาะสมกับคู่รักอย่างพวกนายได้พอดีน่ะ” ลู่หมิงพูดเบาๆ

 

“โอ้ แล้วพี่จะร้องเพลงอะไร?”

 

จางเสี่ยวปังตอบด้วยความสนใจ

 

“เอิ่ม..”

 

ลู่หมิงครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเคาะโต๊ะเพื่อสร้างจังหวะ จากนั้นเขาก็เริ่มฮัมเพลง

 

“สิ่งแรกที่ฉันทําทุกวันหลังจากตื่นนอนคือสูบลมให้แฟน

 

เมื่อใดก็ตามที่ฉันออกไปที่ผู้หญิงอื่นฉันอยากขอโทษเธอ

 

โอ้ที่รักมองมาที่ฉันฉันคนนี้…”

 

จางเสี่ยวปังฟังเพลงทั้งหมดทว่าเขาไร้ซึ่งการตอบสนอง

 

เพลงนี่มันเชี่*ยอะไรกันครับเนี่ย

 

“เป็นไง? เป็นยังไงบ้าง?”

 

ลู่หมิงถามด้วยความคาดหวัง

 

Fruit Ninja เป็นก้าวแรกที่ทําให้เขาเข้าสู้อุตสาหกรรมการ์ดเกม!

 

ส่วนเพลงนี้?

 

ลู่หมิงคิดว่ามันก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ายึดครองวงการบันเทิงในโลกนี้ได้เช่นกัน จากนั้นเขาก็จะขายเพลงดังๆ ทั้งหมดบนโลก ไม่ว่าจะเป็น Wei Feng Tang Tang [1. เพลงญี่ปุ่นที่มีความหมายเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ] หรือเพลงอื่นๆ เพื่อหารายได้เพิ่ม

 

เยี่ยม..

 

ลู่หมิงรู้สึกตื่นเต้นทันทีที่นึกถึงเรื่องนี้

 

“พี่ลู่ถ้าพี่ร้องเพลงนี้ออกมาอีก พี่ก็คงไม่มีใครคบแล้วล่ะ…”

 

จางเสี่ยวปังถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินจากไป

 

“ทําไมอะ เพลงนี้ไม่ดีเหรอ?”

 

ลู่หมิงรู้สึกผิดหวัง

 

โธ่ เขาคิดว่ามันจะเวิร์คซะอีก!

 

อ่า…ดูเหมือนว่าในโลกนี้คงจะมีรสนิยมทางดนตรีต่างจากชีวิตก่อนหน้านี้ของเขามั้ง ถ้าอย่างนั้นคงต้องทิ้งความคิดเรื่องที่จะใส่เพลงไปในการ์ด แล้วเอาไปขายไว้ก่อนแล้วล่ะ

 

TL: รสนิยมเอ็งพิลึกไปเองรึเปล่าวะ ลู่หมิง 5555

 

เอาล่ะ ตอนนี้ความคลั่งไคล้ “Leviathan” ยังคงอยู่ ฉะนั้นฉันควรโฟกัสไปที่การหาเงินต่างหาก!

 

“มาสร้างการ์ดเพิ่มกันดีกว่า!”

 

ลู่หมิงให้กําลังใจตัวเอง

 

ตอนนั้นเอง ….

 

ที่สมาคมนักสร้างการ์ด-ฝ่ายประเมินผล

 

อยู่ดีๆ พวกเขาก็ได้รับการ์ดที่แทรกคิวเข้ามาเป็นพิเศษชื่อว่า-“Leviathan”

 

ไม่ว่าพวกเขาจะดูถูกและไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับหมิงขนาดไหน แต่พวกเขาก็ยังได้รับการ์ด “Leviathan” มาจากช่องต่างๆ มากมาย เพื่อให้พวกเขาตรวจสอบ!

 

บ้างก็มาจากนักอัญเชิญ …

 

บ้างก็มาจากตระกูลใหญ่ ..

 

แล้วพวกเขายังจะทํานิ่งเฉยได้อีกหรอ?

 

เป็นไปไม่ได้!

 

เนื่องจากการ์ดสัตว์เลี้ยงใบแรกในประวัติศาสตร์ใบนี้ ทําให้คนจํานวนมากตื่นตระหนกจนเกินการควบคุมไปแล้ว

 

“โลกเรากําลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้วสินะ”

 

หนึ่งในนักสร้างการ์ดถอนหายใจ

 

ชื่อของเขาคือ เซี่ยหยาน หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างการ์ดที่มากประสบการณ์ที่สุด

 

หลังจากได้ยินมาว่านักศึกษาจํานวนนับไม่ถ้วนละทิ้งการบ่มเพาะและหันไปทําธุรกิจแทน เขาก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะเซี่ยหยานเป็นคนที่ให้ความสําคัญกับรากฐานการบ่มเพาะที่สุด!

 

ทําไม Fruit Ninja ถึงได้รับความนิยม?

 

เขาเคยเห็นมันแล้ว ฉะนั้นจึงรับรู้ได้ว่าทั้งหมดเกิดจากความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจที่น่าอัศจรรย์ของลู่หมิง

 

แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทําไมนักศึกษาเหล่านั้นถึงไม่เห็นว่าการฝึกรากฐานให้แข็งแกร่งต่างหากที่เป็นเรื่องที่สําคัญที่สุด!

 

เขารู้ว่าทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ

 

แต่มันจะไร้ค่าหากคนเหล่านั้นไม่มีพื้นฐานที่ดีพอ!

 

ไม่ต่างกับความคิดเพ้อฝัน!

 

และตอนแรกสมาคมนักสร้างการ์ดก็หยุดยั้งมันได้แล้ว

 

แต่ตอนนี้

 

ลู่หมิงดันกลับมาพร้อมกับการ์ดใบที่ 2 ของเขา

 

ยิ่งไปกว่านั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง ทําให้เอฟเฟกต์ของการ์ดใบนี้สุดยอดกว่า Fruit Ninja มากๆ มันจึงน่าตกใจยิ่งกว่าเดิม แถมยังส่งผลถึงความคิดของคนจํานวนมากขึ้นไปอีก

 

“เฮ้อ”

 

เซี่ยหยานถอนหายใจออกด้วยความเศร้าสร้อย

 

เดี๋ยวก็มีพวกไร้เดียงสาอีกกลุ่มถูกจูงให้หลงทางอีกสินะ

 

การ์ดใบนี้ถูกถอดรหัสโดยแผนกเข้ารหัสแล้ว เซี่ยหยานจึงพลิกมันและก็ต้องพบกับความตกใจ

 

นี่มัน…

 

เขากวาดตามองลายเส้นบนการ์ดโดยไม่รู้ตัวและถึงกับนั่งไม่ติดทันที เขาจ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะใช้เวลานานกว่าจะกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง!

 

นี่เขาเห็นอะไรกัน?

 

ไม่อยากจะเชื่อเลย!

 

ลายเส้น!

 

เส้นพื้นฐาน

 

ลายเส้นพื้นฐานทั้งหมดเกือบจะพูดได้ว่าสมบูรณ์แบบ!

 

ทั้งยังประกอบขึ้นจากเทคนิค!

 

เทคนิคขั้นเทพ!

 

เทคนิคการเคลือบที่ปกติมีแต่นักสร้างการ์ดระดับสูงเท่านั้นที่ทําได้!

 

และสิ่งเหล่านี้

 

ทั้งหมดนี้อยู่ในการ์ดสัตว์เลี้ยงจากนักสร้างการ์ดระดับ 1 ซึ่งขายใบละ 2 พันหยวน!

 

ลู่หมิงวาดทั้งหมดนี้ด้วยตัวเอง?

 

ลู่หมิง…

 

มีทักษะลายเส้นพื้นฐานที่แข็งแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ!

 

เขาตกตะลึง

 

ในที่สุดเขาก็กลับมาสังเกตการ์ดอย่างจริงจังอีกครั้ง

 

Leviathan, การ์ดสัตว์เลี้ยง, การ์ดชาร์จ เซี่ยหยานสามารถมองทะลุโครงสร้าง 3 ชั้นได้อย่างง่ายดาย เขา มองทะลุแกนกลางของการ์ดได้ภายในพริบตา

 

การ์ดชาร์จ + การ์ด Fish Leap!

 

ปกติแล้วคนทั่วไปก็สามารถไปที่ร้านค้าเพื่อซื้อการ์ด Fish Leap และการ์ดชาร์จได้เอง

 

เหมือนกัน เป๊ะๆ!

 

ในตลาดมีการ์ดแบบเดียวกับที่ลู่หมิงสร้างขึ้นมาเต็มไปหมด

 

อย่างไรก็ตาม…

 

กลับไม่มีใครสนใจพวกมัน

 

บางทียังแทบจะไม่มีคนรู้จักด้วยซ้ำ

 

คราวนี้ก็ยังไม่ต่างกับ Fruit Ninja ที่หลักการทํางานของการ์ดก็ยังคงคุณสมบัติของเกมเอาไว้

 

อย่างไรก็ตาม..นี่ไม่ใช่ประเด็นสําคัญ

 

สิ่งที่พิเศษของการ์ดใบนี้คือเทคนิคและลายเส้นที่ใช้

 

เซี่ยหยานโคตรจะช็อคเลย!

 

“นี่แหล่ะ”

 

“นี่ต่างหากที่เรียกว่า “นักสร้างการ์ด” ฮ่าๆๆ!”

 

“ก่อนจะใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้ นักสร้างการ์ดต้องมีลายเส้นพื้นฐานที่แข็งแกร่งก่อน!”

 

เซี่ยหยานรู้สึกกระปรี้กระเปร่า

 

ดูสิ นี่ต่างหากการ์ดที่แท้จริง!

 

ลู่หมิงช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์อันน่าทึ่ง!

 

หลังการประเมินเสร็จสิ้น

 

เขาให้คะแนนการ์ดใบไว้นี้สูงมากเพื่อดึงดูดผู้คนด้วยความประหลาดใจ จากนั้นสมาคมก็ตัดสินใจที่จะส่งคําเชิญเข้าร่วมให้กับลู่หมิงเป็นการส่วนตัว

 

คราวนี้พวกเขาไม่เพียงต้องการให้ลู่หมิงเข้าร่วมสมาคมนักสร้างการ์ดเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องการเผยแพร่ให้ทุกคนได้รู้ว่าการมีรากฐานที่ดีนั้นมีประโยชน์ยังไง และอัจฉริยะที่แท้จริงนั้นเป็นยังไงกันแน่!

 

จากนั้นแล้ว…พวกเขาก็จะ…

 

ก็จะถูกปฏิเสธ…

 

ลู่หมิงส่งจดหมายมาปฏิเสธสมาคม พร้อมแนบภาพถ่ายหน้าจอของเขาที่มีจดหมายปฏิเสธใบสมัครของตนเมื่อ 2 วันก่อนไว้ -มันเขียนไว้ว่าเขา “ไม่มีคุณสมบัติ!” ด้วยตัวอักษรสีทองสว่างเรื่องรองขนาดยักษ์ ก่อนที่จะเขียนเนื้อหาในย่อหน้าถัดไปว่า…

 

“ผมรู้ดีว่าตัวเองมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ แถมทักษะลายเส้นพื้นฐานก็ยังอ่อนแอเกินไป ดังนั้นผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปรับปรุงมัน และได้แต่หวังว่าสักวันผมจะมีคุณสมบัติเข้าร่วมกับสมาคมนักสร้างการ์ดในอนาคต – จาก ลู่หมิงผู้ไร้ความสามารถ

พวกเขารู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก

 

นี่ขนาดพวกเขาปฏิเสธลู่หมิงไปแค่ครั้งเดียว หมอนี่ยังเล่นบทภรรยาขี้น้อยใจซะขนาดนี้ แล้วจะให้เชิญตัวมาประทับยังไงกันดีล่ะ?

 

แต่จะให้ทํายังไงเพราะในเมื่อนี่เป็นโอกาสเดียวที่พวกเขาจะใช้มันในการแก้ไขทัศนคติผิดๆ ของนักศึกษาได้

 

พวกเขาอยากให้เด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาติทั้งหลายกลับมาสู่ลู่ทางที่ถูกต้อง! ฉะนั้นยังไงพวกเขาก็ต้องใช้ลู่หมิงเป็นตัวอย่างในการลบล้างชุดความคิดนี้ไปให้ได้

 

ถึงแม้หมอนี่จะเป็นต้นเหตุด้วยก็เถอะ!

 

“เราจะทํายังไงกันดี?”

 

เจ้าหน้าที่ในแผนก HR ของสมาคมนักสร้างการ์ดสาขาเมืองชิงหมิงต่างก็ต้องกุมขมับ

 

*HR หรือ Human Resource= ทรัพยากรมนุษย์นะแจ๊ะ

 

พวกเขาจะมีทางเลือกอะไรได้อีก?

 

นอกจากการไปเจรจากับลู่หมิงโดยตรง!

 

ครั้งนี้พวกเขาถึงกับส่งนักสร้างการ์ดสาวสวยระดับ 3 มาคุยกับลู่หมิงเป็นการเฉพาะ แถมเธอยังเป็นคนที่พูดจานุ่มนวลทําให้เวลาคนรอบข้างฟังแล้วรู้สึกสบายใจ

 

” คุณต้องการอะไร?”

 

นักสร้างการ์ดหญิงพูดด้วยท่าที่จริงจัง

 

“ผมต้องการให้คุณรับรองลิขสิทธิ์!”

 

ลู่หมิงตอบแบบไม่ลังเลแม้แต่น้อย

 

“เป็นไปไม่ได้!”

 

หญิงสาวเบิกตากว้าง

 

ในฐานะที่เธอเป็นนักสร้างการ์ด เธอย่อมรู้ดีว่าลู่หมิงหมายถึงเรื่องอะไร

 

Leviathan เป็นการ์ดแบบไหน?

 

มันเป็นการ์ดที่ใช้เทคนิคการเคลือบ!

 

แถมยังใช้เทคนิคการเคลือบแบบธรรมดา!

 

แม้ว่าเธอจะเต็มไปด้วยความชื่นชมที่ลู่หมิงใช้เทคนิคการเคลือบการ์ดได้ตั้งแต่อยู่ในระดับเท่านี้ แต่ถึงกระนั้นก็จะไม่มีการรับรองลิขสิทธิ์เด็ดขาด!

 

” ทําไม?”

 

ลู่หมิงขมวดคิ้ว

 

เธอจึงอธิบายให้ลู่หมิงฟังด้วยความอดทนว่า…

 

ปกติแล้วจะไม่มีใครให้การรับรองการ์ดที่มีการใช้เทคนิคการเคลือบแบบธรรมดา

 

เนื่องจากเมื่อนักสร้างการ์ดระดับสูงเชี่ยวชาญเทคนิคการเคลือบแล้ว มันก็ไม่ต่างกับการเปิดโลกใหม่ให้กับคนๆ หนึ่ง!

 

จากนั้น

 

นักสร้างการ์ดคนนั้นก็จะสามารถผสมการ์ดออกมาได้หลายรูปแบบผ่านการทดลองต่างๆ!

 

หรือผ่านวิธีการใช้เทคนิคการเคลือบหลายๆ แบบ!

 

ฉะนั้นจึงกลายเป็นว่าจะมีการ์ดที่มีลักษณะคล้ายๆ กันเต็มไปหมด

 

ต้องบอกก่อนว่าแม้แต่ตอนนี้จํานวนการ์ดทั้งหมดที่เกิดจากเทคนิคการเคลือบแบบธรรมดาในคลังการ์ดของสมาคมยังมีจํานวนมากมายมหาศาลจนนับไม่ถ้วนเลย!

 

ดังนั้น

 

โดยทฤษฎีแล้วจึงไม่มีใครยอมให้การ์ดที่ใช้เทคนิคการเคลือบแบบธรรมดาได้รับการรับรองลิขสิทธิ์ ไม่อย่างนั้นก็จะมีการ์ดใหม่ๆ โผล่ออกมาจดลิขสิทธิ์อยู่เสมอๆ จนเจ้าหน้าที่ต้องทํางานหนักเกินความจําเป็น ทั้งยังทําให้ความสร้างสรรค์ของนักสร้างการ์ดหายไป!

 

“และเรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้” หญิงสาวคนนั้นกล่าว

 

ตอนนี้ลู่หมิงเริ่มเข้าใจบางอย่างขึ้นมาแล้ว

 

“ถ้างั้น….คราวนี้คุณจะขออะไร?” หญิงสาวถามอีกครั้ง

 

“การรับรองลิขสิทธิ์” ลู่หมิงพูดซ้ำพร้อมทําหน้าจริงจัง

 

หญิงสาวถึงกับผงะ

 

แล้วนี่ฉันจะเสียเวลาอธิบายไปตั้งนานทําไมล่ะเนี่ย!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Divine Card Creator 50 พี่ต้องการอะไร?!

Now you are reading Divine Card Creator Chapter 50 พี่ต้องการอะไร?! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Divine Card Creator ตอนที่ 50 พี่ต้องการอะไร?!

 

“พี่ลู่… รางวัล รางวัลนั่น…”

 

จางเสี่ยวปังยิ้มพร้อมถมือของตนไปมา

 

“เห้ออออ ทําไมฉันต้องรู้จักคนอย่างนายด้วย”

 

ลู่หมิงรู้สึกสมเพชตัวเอง

 

จางเสี่ยวปังรู้สึกงุนงง “รู้จักผมแล้วไม่ดีตรงไหน?”

 

” เหอะๆ” ลู่หมิงไม่ตอบแต่หัวเราะอย่างเอื้อมๆ

 

เขาครุ่นคิดสักพัก ก่อนที่เขาจะพูดว่า “อ้อ นี่อ้วนจาง”

 

จางเสี่ยวปังหรี่ตาดีๆ ที่แทบมองไม่เห็นของเขาทันที

 

พี่ลู่กําลังจะพูดอะไร?

 

หึ กะจะดูถูกฉันหรอ? จางเสี่ยวปังคิด

 

“ฉันอาจจะยากจน ไม่หล่อแถมยังไร้ประโยชน์ แต่ฉันจะไม่ยอมโดนใครกดขี่ข่มเหงเด็ดขาด อย่างนี้ต้องปฏิวัติ!”

 

“นี่รางวัลของนาย” ลู่หมิงหยิบเงินให้เขา 1 หมื่นหยวน

 

“ พี่ลู่ผมรักพี่ที่สุด ขอผมหอมแก้มที่!” จางเสี่ยวปังพูดพร้อมเปลี่ยนอารมณ์ราวกับว่าความโกรธเมื่อกี้เป็นตดที่สลายไปกับสายลม

 

“เฮ้ย ออกไป!” สู่หมิงถีบอ้วนจางออกไปไกลๆ

 

จากนั้นจางเสี่ยวปังก็หันมายิ้มอย่างมีความสุข

 

1 หมื่นหยวน!

 

“ฮ่าๆๆๆๆ ฉันจะไปตีกระ*รี่จนน้ำแห้งเลย!”

 

หมอนี่มันช่างเกินเยียวยาจริงๆ…

 

ลู่หมิงทั้งรู้สึกตลกและเหนื่อยใจในคราเดียวกัน

 

ด้วยขนาดตัวของจางเสี่ยวปังที่อ้วนจนดูคล้ายกับลูกชิ้น ทําให้ตาของเขาถูกไขมันบนหน้ากดจนเหลือเพียงแค่ตาดีๆ แคบๆ 2 เส้น แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่หมอนี่ได้เห็นเงินขึ้นมา ตาก็จะเบิกกว้างจนแทบถลนออกจากเบ้าอย่างเหลือเชื่อ! ไม่รู้หมอนี่รักผลกําไรหรือรักเงินที่จะเอาไปตี..เพิ่มช่างมันเถอะ!

 

“ตี*รี่! ตี*รี่! ตี*รี่! ตี*รี่!” จางเสี่ยวปังตะโกนออกมาเป็นจังหวะทุกก้าวที่เขาเดินเหมือนทหารที่กําลังมาร์ชอย่างเป็นระเบียบ

 

**นึกภาพ ซ้าย ขวา ซ้าย เอาละกัน 55555

 

“เอาล่ะ ฉันมีของขวัญลึกลับเพื่อความตื่นเต้นให้กับนายด้วย…”

 

จางเสี่ยวปังหันมาพร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้น

 

ของขวัญหรอ คืออะไรกัน?

 

ลู่หมิงหยิบขวดใบหนึ่งที่ถูกปิดผนึกออกมาจากโต๊ะก่อนกล่าวว่า “อะ นี่คือของขวัญของนาย”

 

จางเสี่ยวบังมึนงง

 

“นี่…”

 

จางเสี่ยวปังยืนเอ๋อไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่น ” พี่ลู่ นี่มันลึกลับเกินไปหน่อยรึเปล่า?!”

 

“ก็คงงั้น”

 

ลู่หมิงถอนหายใจ ”ในอดีตฉันก็เคยคิดอย่างนั้น แต่ว่า…”

 

แต่หน้าของจางเสี่ยวปังก็ยังบูดราวกับไม่ได้ มา 3 วัน

 

“เอิ่ม โอเค…”

 

“ถ้างั้นนายเอาของอย่างอื่นไปแทนละกัน อ่า…ช่วงนี้ระหว่างนายกับซินเอ๋อเป็นยังไงกันบ้างล่ะ?”

 

” พ พี่ต้องการอะไร?!”

 

จางเสี่ยวปังสะดุ้ง พร้อมเปลี่ยนท่า เอามือตั้งขึ้นคล้ายกับบรูซ ลีที่กําลังจะโจมตีศัตรู

 

“เอ่อ นี่ฉันพูดอะไรผิดไปหรือ?” ลู่หมิงคิดด้วยความตกใจ

 

ตอนนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าของจางเสี่ยวปังเปลี่ยนเป็นสีเขียว ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้

 

“แค่กๆ”

 

ลู่หมิงไอกลบเกลื่อน “อ่อ ไม่มีอะไรแค่ถามเฉยๆ”

 

“พวกเราเข้ากันได้ดี

 

จางเสี่ยวปังตะคอก ”ซินเอ๋อทั้งประพฤติดี อยู่ในลูในทางและเชื่อฟังผมเป็นอย่างมาก เธอจะไม่สร้างปัญหาให้กับผมและไม่ “นอกใจ” ผมเด็ดขาด!”

 

“…”

 

ลู่หมิงพูดไม่ออก

 

ไอหมอนี่จะเน้นประโยคสุดท้ายทําเพื่อ?

 

“งั้นทําไมนายถึงซื้อกินประจําเลยล่ะ?”

 

ลู่หมิงถอนหายใจ

 

“แล้วมันผิดตรงไหนล่ะ?”

 

“ก็ในเมื่อซินเอ๋อของผมเป็นคนใจกว้าง เธอเป็นเมียหลวงดังนั้น เธอย่อมไม่อิจฉาผู้หญิงคนอื่นที่ผมไปหาแค่ไม่กี่ครั้งอยู่แล้ว” จางเสี่ยวปังพูดอย่างภูมิใจ

 

ลู่หมิงรู้สึกช็อค

 

คําอธิบายของหมอนี่แม่ง

 

หรือนอกจากตุ๊กตาซินเอื้อตัวนั้น หมอนี่จะมีฮาเร็มขนาดใหญ่จริงๆ?

 

“เอาล่ะช่างมัน”

 

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะให้บทเพลงกับนายสักเพลงแทนขวดใบนั้นละกัน?” ลู่หมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“พี่ร้องเพลงได้ด้วยเรอะ?” จางเสี่ยวปังอุทาน

 

“ฉันเพิ่งนึกถึงเพลงที่เหมาะสมกับคู่รักอย่างพวกนายได้พอดีน่ะ” ลู่หมิงพูดเบาๆ

 

“โอ้ แล้วพี่จะร้องเพลงอะไร?”

 

จางเสี่ยวปังตอบด้วยความสนใจ

 

“เอิ่ม..”

 

ลู่หมิงครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเคาะโต๊ะเพื่อสร้างจังหวะ จากนั้นเขาก็เริ่มฮัมเพลง

 

“สิ่งแรกที่ฉันทําทุกวันหลังจากตื่นนอนคือสูบลมให้แฟน

 

เมื่อใดก็ตามที่ฉันออกไปที่ผู้หญิงอื่นฉันอยากขอโทษเธอ

 

โอ้ที่รักมองมาที่ฉันฉันคนนี้…”

 

จางเสี่ยวปังฟังเพลงทั้งหมดทว่าเขาไร้ซึ่งการตอบสนอง

 

เพลงนี่มันเชี่*ยอะไรกันครับเนี่ย

 

“เป็นไง? เป็นยังไงบ้าง?”

 

ลู่หมิงถามด้วยความคาดหวัง

 

Fruit Ninja เป็นก้าวแรกที่ทําให้เขาเข้าสู้อุตสาหกรรมการ์ดเกม!

 

ส่วนเพลงนี้?

 

ลู่หมิงคิดว่ามันก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ายึดครองวงการบันเทิงในโลกนี้ได้เช่นกัน จากนั้นเขาก็จะขายเพลงดังๆ ทั้งหมดบนโลก ไม่ว่าจะเป็น Wei Feng Tang Tang [1. เพลงญี่ปุ่นที่มีความหมายเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ] หรือเพลงอื่นๆ เพื่อหารายได้เพิ่ม

 

เยี่ยม..

 

ลู่หมิงรู้สึกตื่นเต้นทันทีที่นึกถึงเรื่องนี้

 

“พี่ลู่ถ้าพี่ร้องเพลงนี้ออกมาอีก พี่ก็คงไม่มีใครคบแล้วล่ะ…”

 

จางเสี่ยวปังถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินจากไป

 

“ทําไมอะ เพลงนี้ไม่ดีเหรอ?”

 

ลู่หมิงรู้สึกผิดหวัง

 

โธ่ เขาคิดว่ามันจะเวิร์คซะอีก!

 

อ่า…ดูเหมือนว่าในโลกนี้คงจะมีรสนิยมทางดนตรีต่างจากชีวิตก่อนหน้านี้ของเขามั้ง ถ้าอย่างนั้นคงต้องทิ้งความคิดเรื่องที่จะใส่เพลงไปในการ์ด แล้วเอาไปขายไว้ก่อนแล้วล่ะ

 

TL: รสนิยมเอ็งพิลึกไปเองรึเปล่าวะ ลู่หมิง 5555

 

เอาล่ะ ตอนนี้ความคลั่งไคล้ “Leviathan” ยังคงอยู่ ฉะนั้นฉันควรโฟกัสไปที่การหาเงินต่างหาก!

 

“มาสร้างการ์ดเพิ่มกันดีกว่า!”

 

ลู่หมิงให้กําลังใจตัวเอง

 

ตอนนั้นเอง ….

 

ที่สมาคมนักสร้างการ์ด-ฝ่ายประเมินผล

 

อยู่ดีๆ พวกเขาก็ได้รับการ์ดที่แทรกคิวเข้ามาเป็นพิเศษชื่อว่า-“Leviathan”

 

ไม่ว่าพวกเขาจะดูถูกและไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับหมิงขนาดไหน แต่พวกเขาก็ยังได้รับการ์ด “Leviathan” มาจากช่องต่างๆ มากมาย เพื่อให้พวกเขาตรวจสอบ!

 

บ้างก็มาจากนักอัญเชิญ …

 

บ้างก็มาจากตระกูลใหญ่ ..

 

แล้วพวกเขายังจะทํานิ่งเฉยได้อีกหรอ?

 

เป็นไปไม่ได้!

 

เนื่องจากการ์ดสัตว์เลี้ยงใบแรกในประวัติศาสตร์ใบนี้ ทําให้คนจํานวนมากตื่นตระหนกจนเกินการควบคุมไปแล้ว

 

“โลกเรากําลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้วสินะ”

 

หนึ่งในนักสร้างการ์ดถอนหายใจ

 

ชื่อของเขาคือ เซี่ยหยาน หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างการ์ดที่มากประสบการณ์ที่สุด

 

หลังจากได้ยินมาว่านักศึกษาจํานวนนับไม่ถ้วนละทิ้งการบ่มเพาะและหันไปทําธุรกิจแทน เขาก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะเซี่ยหยานเป็นคนที่ให้ความสําคัญกับรากฐานการบ่มเพาะที่สุด!

 

ทําไม Fruit Ninja ถึงได้รับความนิยม?

 

เขาเคยเห็นมันแล้ว ฉะนั้นจึงรับรู้ได้ว่าทั้งหมดเกิดจากความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจที่น่าอัศจรรย์ของลู่หมิง

 

แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทําไมนักศึกษาเหล่านั้นถึงไม่เห็นว่าการฝึกรากฐานให้แข็งแกร่งต่างหากที่เป็นเรื่องที่สําคัญที่สุด!

 

เขารู้ว่าทุกคนมีความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ

 

แต่มันจะไร้ค่าหากคนเหล่านั้นไม่มีพื้นฐานที่ดีพอ!

 

ไม่ต่างกับความคิดเพ้อฝัน!

 

และตอนแรกสมาคมนักสร้างการ์ดก็หยุดยั้งมันได้แล้ว

 

แต่ตอนนี้

 

ลู่หมิงดันกลับมาพร้อมกับการ์ดใบที่ 2 ของเขา

 

ยิ่งไปกว่านั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง ทําให้เอฟเฟกต์ของการ์ดใบนี้สุดยอดกว่า Fruit Ninja มากๆ มันจึงน่าตกใจยิ่งกว่าเดิม แถมยังส่งผลถึงความคิดของคนจํานวนมากขึ้นไปอีก

 

“เฮ้อ”

 

เซี่ยหยานถอนหายใจออกด้วยความเศร้าสร้อย

 

เดี๋ยวก็มีพวกไร้เดียงสาอีกกลุ่มถูกจูงให้หลงทางอีกสินะ

 

การ์ดใบนี้ถูกถอดรหัสโดยแผนกเข้ารหัสแล้ว เซี่ยหยานจึงพลิกมันและก็ต้องพบกับความตกใจ

 

นี่มัน…

 

เขากวาดตามองลายเส้นบนการ์ดโดยไม่รู้ตัวและถึงกับนั่งไม่ติดทันที เขาจ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะใช้เวลานานกว่าจะกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง!

 

นี่เขาเห็นอะไรกัน?

 

ไม่อยากจะเชื่อเลย!

 

ลายเส้น!

 

เส้นพื้นฐาน

 

ลายเส้นพื้นฐานทั้งหมดเกือบจะพูดได้ว่าสมบูรณ์แบบ!

 

ทั้งยังประกอบขึ้นจากเทคนิค!

 

เทคนิคขั้นเทพ!

 

เทคนิคการเคลือบที่ปกติมีแต่นักสร้างการ์ดระดับสูงเท่านั้นที่ทําได้!

 

และสิ่งเหล่านี้

 

ทั้งหมดนี้อยู่ในการ์ดสัตว์เลี้ยงจากนักสร้างการ์ดระดับ 1 ซึ่งขายใบละ 2 พันหยวน!

 

ลู่หมิงวาดทั้งหมดนี้ด้วยตัวเอง?

 

ลู่หมิง…

 

มีทักษะลายเส้นพื้นฐานที่แข็งแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ!

 

เขาตกตะลึง

 

ในที่สุดเขาก็กลับมาสังเกตการ์ดอย่างจริงจังอีกครั้ง

 

Leviathan, การ์ดสัตว์เลี้ยง, การ์ดชาร์จ เซี่ยหยานสามารถมองทะลุโครงสร้าง 3 ชั้นได้อย่างง่ายดาย เขา มองทะลุแกนกลางของการ์ดได้ภายในพริบตา

 

การ์ดชาร์จ + การ์ด Fish Leap!

 

ปกติแล้วคนทั่วไปก็สามารถไปที่ร้านค้าเพื่อซื้อการ์ด Fish Leap และการ์ดชาร์จได้เอง

 

เหมือนกัน เป๊ะๆ!

 

ในตลาดมีการ์ดแบบเดียวกับที่ลู่หมิงสร้างขึ้นมาเต็มไปหมด

 

อย่างไรก็ตาม…

 

กลับไม่มีใครสนใจพวกมัน

 

บางทียังแทบจะไม่มีคนรู้จักด้วยซ้ำ

 

คราวนี้ก็ยังไม่ต่างกับ Fruit Ninja ที่หลักการทํางานของการ์ดก็ยังคงคุณสมบัติของเกมเอาไว้

 

อย่างไรก็ตาม..นี่ไม่ใช่ประเด็นสําคัญ

 

สิ่งที่พิเศษของการ์ดใบนี้คือเทคนิคและลายเส้นที่ใช้

 

เซี่ยหยานโคตรจะช็อคเลย!

 

“นี่แหล่ะ”

 

“นี่ต่างหากที่เรียกว่า “นักสร้างการ์ด” ฮ่าๆๆ!”

 

“ก่อนจะใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้ นักสร้างการ์ดต้องมีลายเส้นพื้นฐานที่แข็งแกร่งก่อน!”

 

เซี่ยหยานรู้สึกกระปรี้กระเปร่า

 

ดูสิ นี่ต่างหากการ์ดที่แท้จริง!

 

ลู่หมิงช่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์อันน่าทึ่ง!

 

หลังการประเมินเสร็จสิ้น

 

เขาให้คะแนนการ์ดใบไว้นี้สูงมากเพื่อดึงดูดผู้คนด้วยความประหลาดใจ จากนั้นสมาคมก็ตัดสินใจที่จะส่งคําเชิญเข้าร่วมให้กับลู่หมิงเป็นการส่วนตัว

 

คราวนี้พวกเขาไม่เพียงต้องการให้ลู่หมิงเข้าร่วมสมาคมนักสร้างการ์ดเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องการเผยแพร่ให้ทุกคนได้รู้ว่าการมีรากฐานที่ดีนั้นมีประโยชน์ยังไง และอัจฉริยะที่แท้จริงนั้นเป็นยังไงกันแน่!

 

จากนั้นแล้ว…พวกเขาก็จะ…

 

ก็จะถูกปฏิเสธ…

 

ลู่หมิงส่งจดหมายมาปฏิเสธสมาคม พร้อมแนบภาพถ่ายหน้าจอของเขาที่มีจดหมายปฏิเสธใบสมัครของตนเมื่อ 2 วันก่อนไว้ -มันเขียนไว้ว่าเขา “ไม่มีคุณสมบัติ!” ด้วยตัวอักษรสีทองสว่างเรื่องรองขนาดยักษ์ ก่อนที่จะเขียนเนื้อหาในย่อหน้าถัดไปว่า…

 

“ผมรู้ดีว่าตัวเองมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ แถมทักษะลายเส้นพื้นฐานก็ยังอ่อนแอเกินไป ดังนั้นผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปรับปรุงมัน และได้แต่หวังว่าสักวันผมจะมีคุณสมบัติเข้าร่วมกับสมาคมนักสร้างการ์ดในอนาคต – จาก ลู่หมิงผู้ไร้ความสามารถ

พวกเขารู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก

 

นี่ขนาดพวกเขาปฏิเสธลู่หมิงไปแค่ครั้งเดียว หมอนี่ยังเล่นบทภรรยาขี้น้อยใจซะขนาดนี้ แล้วจะให้เชิญตัวมาประทับยังไงกันดีล่ะ?

 

แต่จะให้ทํายังไงเพราะในเมื่อนี่เป็นโอกาสเดียวที่พวกเขาจะใช้มันในการแก้ไขทัศนคติผิดๆ ของนักศึกษาได้

 

พวกเขาอยากให้เด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาติทั้งหลายกลับมาสู่ลู่ทางที่ถูกต้อง! ฉะนั้นยังไงพวกเขาก็ต้องใช้ลู่หมิงเป็นตัวอย่างในการลบล้างชุดความคิดนี้ไปให้ได้

 

ถึงแม้หมอนี่จะเป็นต้นเหตุด้วยก็เถอะ!

 

“เราจะทํายังไงกันดี?”

 

เจ้าหน้าที่ในแผนก HR ของสมาคมนักสร้างการ์ดสาขาเมืองชิงหมิงต่างก็ต้องกุมขมับ

 

*HR หรือ Human Resource= ทรัพยากรมนุษย์นะแจ๊ะ

 

พวกเขาจะมีทางเลือกอะไรได้อีก?

 

นอกจากการไปเจรจากับลู่หมิงโดยตรง!

 

ครั้งนี้พวกเขาถึงกับส่งนักสร้างการ์ดสาวสวยระดับ 3 มาคุยกับลู่หมิงเป็นการเฉพาะ แถมเธอยังเป็นคนที่พูดจานุ่มนวลทําให้เวลาคนรอบข้างฟังแล้วรู้สึกสบายใจ

 

” คุณต้องการอะไร?”

 

นักสร้างการ์ดหญิงพูดด้วยท่าที่จริงจัง

 

“ผมต้องการให้คุณรับรองลิขสิทธิ์!”

 

ลู่หมิงตอบแบบไม่ลังเลแม้แต่น้อย

 

“เป็นไปไม่ได้!”

 

หญิงสาวเบิกตากว้าง

 

ในฐานะที่เธอเป็นนักสร้างการ์ด เธอย่อมรู้ดีว่าลู่หมิงหมายถึงเรื่องอะไร

 

Leviathan เป็นการ์ดแบบไหน?

 

มันเป็นการ์ดที่ใช้เทคนิคการเคลือบ!

 

แถมยังใช้เทคนิคการเคลือบแบบธรรมดา!

 

แม้ว่าเธอจะเต็มไปด้วยความชื่นชมที่ลู่หมิงใช้เทคนิคการเคลือบการ์ดได้ตั้งแต่อยู่ในระดับเท่านี้ แต่ถึงกระนั้นก็จะไม่มีการรับรองลิขสิทธิ์เด็ดขาด!

 

” ทําไม?”

 

ลู่หมิงขมวดคิ้ว

 

เธอจึงอธิบายให้ลู่หมิงฟังด้วยความอดทนว่า…

 

ปกติแล้วจะไม่มีใครให้การรับรองการ์ดที่มีการใช้เทคนิคการเคลือบแบบธรรมดา

 

เนื่องจากเมื่อนักสร้างการ์ดระดับสูงเชี่ยวชาญเทคนิคการเคลือบแล้ว มันก็ไม่ต่างกับการเปิดโลกใหม่ให้กับคนๆ หนึ่ง!

 

จากนั้น

 

นักสร้างการ์ดคนนั้นก็จะสามารถผสมการ์ดออกมาได้หลายรูปแบบผ่านการทดลองต่างๆ!

 

หรือผ่านวิธีการใช้เทคนิคการเคลือบหลายๆ แบบ!

 

ฉะนั้นจึงกลายเป็นว่าจะมีการ์ดที่มีลักษณะคล้ายๆ กันเต็มไปหมด

 

ต้องบอกก่อนว่าแม้แต่ตอนนี้จํานวนการ์ดทั้งหมดที่เกิดจากเทคนิคการเคลือบแบบธรรมดาในคลังการ์ดของสมาคมยังมีจํานวนมากมายมหาศาลจนนับไม่ถ้วนเลย!

 

ดังนั้น

 

โดยทฤษฎีแล้วจึงไม่มีใครยอมให้การ์ดที่ใช้เทคนิคการเคลือบแบบธรรมดาได้รับการรับรองลิขสิทธิ์ ไม่อย่างนั้นก็จะมีการ์ดใหม่ๆ โผล่ออกมาจดลิขสิทธิ์อยู่เสมอๆ จนเจ้าหน้าที่ต้องทํางานหนักเกินความจําเป็น ทั้งยังทําให้ความสร้างสรรค์ของนักสร้างการ์ดหายไป!

 

“และเรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้” หญิงสาวคนนั้นกล่าว

 

ตอนนี้ลู่หมิงเริ่มเข้าใจบางอย่างขึ้นมาแล้ว

 

“ถ้างั้น….คราวนี้คุณจะขออะไร?” หญิงสาวถามอีกครั้ง

 

“การรับรองลิขสิทธิ์” ลู่หมิงพูดซ้ำพร้อมทําหน้าจริงจัง

 

หญิงสาวถึงกับผงะ

 

แล้วนี่ฉันจะเสียเวลาอธิบายไปตั้งนานทําไมล่ะเนี่ย!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+