Divine Card Creator 57 จางเสี่ยวเหยา

Now you are reading Divine Card Creator Chapter 57 จางเสี่ยวเหยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Divine Card Creator ตอนที่ 57 จางเสี่ยวเหยา “จางเสี่ยวปัง!” ลู่หมิงกัดฟัน มีแค่ไอปัญญาอ่อนคนนี้เท่านี้ที่จะทำอะไรแบบนี้ได้! แล้วก็มีแต่หมอนี่เท่านั้นแหละที่จะสนใจศาสตร์ภาพลวงตาใต้สะดืออะไรพวก แม่งเอ้ย! “เหอะๆๆไอก้อนไขมันเคลื่อนที่เอ้ยเดี๋ยวแกคงต้องได้รับบทเรียนสักหน่อย!” โชคดีที่ภาพลวงตาของจางเสี่ยวปังนั้นห่วยแตกมากทำให้คนทั่วไปมักจะเห็นเป็นภาพเด็กผู้หญิงที่ดูน่ารักกับห้องโทรมๆพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูคลุมเครือและห้องนอนที่ชวนสยิวเท่านั้น นับว่ายังดวงดีที่มันไม่เหมือนจริงนัก เอ็ม… แต่ด้วยความพร่ามัวของภาพลวงตามันกลับให้บรรยากาศดูฟุ้งๆเคลิ้มๆเร้าอารมณ์อย่างที่ลู่หมิงสัมผัสได้ ฉะนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่านอกจากคนที่เข้าไปจะเกิดอารมณ์แล้วคงไม่มีใครพอจะสังเกตและจดจำเขาได้แน่ๆ! เยี่ยม…อย่างน้อยก็รอดมาได้ล่ะวะ เพราะนั่นมันรูปตัวเขาแต่งหญิง! แถมยังแต่งหน้าอีกต่างหาก! แต่หากเทียบคนในรูปกับลู่หมิงในปัจจุบันแล้วนับว่าต่างไปจากเดิมอย่างกะสวรรค์กับนรกแม้แต่ความสามารถของพวกเขาก็ต่างกับราวฟ้ากับเหว “ฉันเป็นชายแท้อก 3 ศอก!” ลู่หมิงเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง “ด้วยความแมนระดับนี้คงไม่มีใครจำฉันได้แน่ๆ” เมื่อนึกได้อย่างนี้ลู่หมิงก็ถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งอก เขาตัดสินใจกลับไปที่ร้านก่อนแล้วค่อยโทรหาจางเสี่ยวปังลู่หมิงเตรียมที่จะสอนบทเรียนครั้งใหญ่ให้หมอนั่นเขาไม่สามารถตามใจเด็กคนนี้ได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อเข้ามาในร้าน ลู่หมิงก็กำลังจะติดต่อกับจางเสี่ยวปัง “อาจารย์คุณกลับมาแล้ว!” เสี่ยวไปตะโกนอย่างมีความสุข “อืม” ลู่หมิงลูบหัวน้อยๆของเธอ ตอนนั้นเองเสี่ยวไปบังเอิญเหลือบไปมองเห็นรูปใบเล็กๆในมือของเขาก่อนที่เธอจะเผยท่าทางตกใจแล้พูดว่า“อาอาจารย์คุณดูดีมากตอนแต่งหน้า” เพ้ย! เขาเหลือบมองไปที่ภาพถ่ายในมือตนเธอจำเขาได้ยังไงฟะ? เห็นได้ชัดว่าบุคคลทั้งสองแตกต่างกันมาก! “เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่?” ลู่หมิงพูดด้วยความจริงจัง“คนในรูปนี้จะเป็นฉันได้ยังไง?” “หะคะ?” เสี่ยวไปมึนงง เธอมองเข้าไปใกล้ๆ นี่มันอาจารย์ชัดๆนี่หน่า! “เธอเข้าใจผิดแล้ว” ลู่หมิงเคร่งขรึม“จากสถิติในโลกนี้แล้วทุกๆ80ล้านคนจะมีคนที่มีหน้าตนคล้ายเธอ1คนเหมือนฉันกับผู้หญิงคนนี้!” “มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรอ?” เสี่ยวไปรู้สึกงุนงงเล็กน้อย “ใช่แล้ว…เอาล่ะดีมาก” “ตั้งใจฝึกฝนล่ะอย่ามากังวลกับเรื่องเล็กๆน้อยพวกนี้เลย”ลู่หมิงลูบหัวของเธอพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว: “อื้อโอเคค่ะอาจารย์” เสียวไปหันกลับไปเรียนต่อ หลังจากที่เธอจากไปลู่หมิงก็เหงื่อ
แตก ฟ*รวยเหอะ! จะให้มันเป็นปมในชีวิตเขาไม่ได้! เขาต้องแก้ไขเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดฉะนั้นลู่หมิงจึงติดต่อไปหาจางเสี่ยวปังทัน แต่ทว่าประเด็นคือ… แม่งไม่รับสาย! กริ้งงง กริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง- เสียงกริ่งดังต่อเนื่องราว 20 นาที “ไม่รับสายงั้นเรอะ?” “หรือมันไปหาสาวที่ไหนอีก?” ลู่หมิงขมวดคิ้ว ถ้าเป็นปกติลู่หมิงก็ไม่อยากจะไปยุ่งย่ามชีวิตหมอนี่หรอกแต่ตอนนี้มันทำอย่างนั้นไม่ได้แล้วไง! ดังนั้นลู่หมิงจึงรีบไปพบอาจารย์อันเพื่อเช็คข้อมูลเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของจางเสี่ยวปัง ปรากฏว่าหมอนี่ไม่ได้เข้าวิทยาลัยมา2-3วันแล้ว! แถมยังไม่ได้กลับห้องอีกต่างหาก! อ่า…เรื่องนี้มันชักมีกลิ่นแปลกๆแล้ว! คราวที่แล้วตอนเจอกันจางเสี่ยวปังมันเหมือนจะพกกระเป๋าเดินทางอยู่ด้วย! หรือมันจะไปเที่ยวกับสุดที่รักในกระเป๋าใบนั้น?! แต่ปกติหมอนี่ไม่เคยออกไปไหนไกลไม่ใช่หรือ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย? หรือบางที่จางเสียวบังอาจกำลังตกอยู่ในอันตราย! หมอนั่นยิ่งเอ๋อๆอยู่ด้วยไม่รู้โดนหลอกไปค้ามนุษย์รึเปล่า? หลังจากคิดแล้วลู่หมิงก็รู้สึกว่ามันเป็นไปได้ด้วยนิสัยเส็งเคร็งของจางเสี่ยวปังแล้วหมอนั่นคงยอมไปหาผู้หญิงน่ารักๆตามคำเชิญแน่ๆต่อให้รู้ว่าอาจจะโดนหลอกก็ตาม! ด้วยนิสัยและตรรกะแบบนั้นไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะปาฏิหาริย์หรือโชคชะตาที่ทำให้หมอนั่นรอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวัน
หายตัวไป. ลู่หมิงตรวจสอบบนอินเทอร์เน็ตก่อนพบว่าจริงๆแล้วมีคนสูญหายในเมื่องชิงหมิงอยู่จำนวนมากสาเหตุเกิดจากการที่คนส่วนมากมีพลังบ่มเพาะทำให้การก่ออาชญากรรมจึงง่ายกว่าเดิมมาก ฉะนั้นแล้วหากจะมีโจรลักพาตัวใครสักคนก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายล่ำบึกก็ได้! เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเองก็ใช้พลังฆ่าคนได้เหมือนกัน! อืมมน่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ!
ลู่หมิงครุ่นคิด เขาคงต้องขอให้อาจารย์ใหญ่ช่วยในการสืบสวนเรื่องนี้… ลู่หมิงหยิบมือถือออกมาแต่ทว่าตอนที่เขาเตรียมที่จะโทรหาอาจารย์ใหญ่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นปรากฏว่ามีหมายเลขที่ไม่รู้จักโทรมา “สวัสดี?คุณคือลู่หมิง?เพื่อนของคุณจางเสี่ยวเหยาอยู่กับเรา…”
เสียงที่ดูทุ่มและสงบพูดขึ้น “โทรผิดครับ!” ลู่หมิงวางสายโดยไม่ลังเล เป็นเรื่องจริงสินะ… ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาถูกเปิดเผยแล้วตอนที่เขาค้นหาข้อมูลผู้สูญหายทางอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้ ชีวิตที่แล้วเขาเห็นมาเยอะเกินไป ในฐานะโปรแกรมเมอร์เขารู้ดีว่ากลไกการค้นหาทำงานยังไง อีกฝ่ายอาจตั้งค่าคำค้นหาหลักเช่น“หาย”“โรงพยาบาล”และ“ค่าเล่าเรียน”และเมื่อคุณค้นหาสิ่งเหล่านี้ข้อมูลของคุณจะถูกส่งไปยังคนที่ซื้อมันไปซึ่งอาจจะเป็นนักต้มตุ้นบางคนก็ได้ “ฉันคิดว่ามีแต่ Baidoo ท่านั้นที่ทำแบบนั้นได้” [Baidoo ล้อเลียน Baidu ซึ่งเป็น Search Engine จีนที่คล้ายๆ Google] ลู่หมิงถอนหายใจ เขาไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นในชีวิตใหม่อีกครั้ง! พวกต้มตุ้นงั้นหรอ… เหอะๆ ไม่รู้ซะแล้วว่าฉันเป็นใคร?! จังหวะเดียวกันนั้นเองโทรศัพท์มือถือของลู่หมิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง“สวัสดี?คุณคือลู่หมิง?กรุณาอย่าวางสายโทรศัพท์เราคือ…” “จางเสี่ยวเหยาอยู่กับคุณรึเปล่า”ลู่หมิงถามด้วยความใจเย็น “เอ่อ…ครับ”คนปลายสายพูดอะไรไม่ “ผมไม่ต้องการเธออีกแล้ว” ลู่หมิงถอนหายใจยาว“ผมยกเธอให้กับคุณ” “ปังงง!” ลู่หมิงวางสายโทรศัพท์อีกครั้ง นี่มันนรกอะไรฟะ! ลู่หมิงเม้มริมฝีปากของเขาก่อนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเขามองเข้าไปใกล้ๆกับหมายเลขที่โทรมา เอ่อทำไมมันดูคุ้นเคยจัง… มันคือหมายเลขโทรศัพท์ของตำรวจจากสถานีตำรวจเมืองชิงหมิง คิดจะหลอกลวงทางโทรศัพท์? นักต้มตุ้นจำนวนมากใช้ประโยชน์จากการเลียนแบบหมายเลขติดต่อของตำรวจในสถานีเพื่อหลอกลวงประชาชนฉะนั้นเขาจะไม่โทรกลับเป็นอันขาด! ดังนั้นลู่หมิงจึงโทรเข้าสถานีโดยตรง “สวัสดีครับ” ลู่หมิงได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เอิ่ม..เป็นเสียงคนที่พูดกับเขาก่อนหน้านี้ “…คุณเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ” ลู่หมิงกุมขมับของตน “ใช่” ตำรวจคนนั้นตอบด้วยความรู้สึกไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีก่อนพูดว่า“กรุณาเดินทางมาที่นี่เพื่อนของคุณจางเสี่ยวเหยาถูกคุมขังด้วยเหตุผลบางประการ“โอ” ตอนนี้ลู่หมิงเก็ทแล้ว แต่ว่า… ใครคือจางเสี่ยวเหยาวะ? ลู่หมิงไม่รู้จักใครที่ชื่อแบบนั้นสักคน บางที่อาจเป็นเพื่อนที่เขาช่วยตอนอยู่ที่เหมืองไม่ก็ญาติจางเสี่ยวปังละมั้ง? ลองไปดูก่อนละกันเผลอๆอาจเป็นสาวๆที่ชอบเขาก็เป็นได้เธอคงจะแอบเก็บเบอร์โทรของเขาไว้ขอความช่วยเหลือตอนที่เกิดอันตรายเหมือนอารมณ์ฮีโร่กับสาวสวยอะไรทำนองนั้นก็ได้ เยี่ยม… บางทีอาจจะใช่ก็ได้นะเนี่ย! ลู่หมิงเงยหน้าขึ้น“ฉันขอทราบก่อนได้ไหมว่าเธอก่ออาชญากรรมอะไร” “อ่า…” อีกฝ่ายหยุดชั่วขณะก่อนจะพูดว่า“ค้าประเวณี ปีง ลู่หมิงวางสายโทรศัพท์อย่างเด็ดเดี่ยว “ฮัลโหลฮัลโหลฮัลโหลล?” ตำรวจคนนั้นพูดไม่ออก หลังจากผ่านไปสักพัก… โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากรับสายทั้งลู่หมิงและตำรวจต่างเงียบใส่กันเหลือเพียงเสียงลมหายใจเบาๆให้ได้ยินเท่านั้น “ทำไมคุณถึงไม่ช่วยเหลือเธอล่ะ?” อีกฝ่ายพูดด้วยความหมดหนทาง ตอนนี้เขามีช่องทางติดต่อเพียงทางเดียวจริงๆ “ก็ผมไม่รู้จริงๆว่าจางเสี่ยวเหยาคือ
ใคร” ลู่หมิงถอนหายใจ เขาคงไปช่วยเธอแล้วถ้ามันเป็นอาชญากรรมเบาๆประเภทอื่น…อ่าไม่นับฆ่าคนตายละกัน แต่นี่ถึงขั้นค้าประเวณี? TL:ต้องบอกก่อนว่าที่จีนมีกฎหมายควบคุมการค้าประเวณีค่อนข้างเข้มฉะนั้นมันเป็น Culture ของเขานะฮะไม่ได้แปลเพื่อเหยียดใครกลัวโดนดราม่า ต้องล้อเล่นกันแน่ๆ! หากเขาไปแล้วถูกโภัยมาว่าเป็น”พันธมิตรทางธุรกิจแล้วเขาจะทำยังไง?หากถูกถามว่ารู้จักกันได้ยังไงแล้วเธอตอบไปว่าคนนึงขายอีกคนลูกค้าหรอเหอๆแม้แต่หน้าเธอลู่หมิงยังไม่เคยเห็นเลย ฉะนั้นเมื่อได้ยินคดีที่เธอก่อแล้วลู่หมิงจึงตัวสั่นด้วยความตกใจ
ช่วยกะผีสิ! เขาไม่ไปแน่ๆไม่ว่ายังไงก็ตาม! “เอาล่ะ” อีกฝ่ายทำได้แค่ยอมแพ้เขาพึมพำ“เข้าใจละไอก้อนไขมันนี่กำลังโกหกอยู่สินะ…” “???” “เดี๋ยวก่อนนะ” ลู่หมิงถามเขาอีกครั้ง“เมื่อกี้คุณพูดว่าก้อนไขมันเหรอ”
“ใช่”อีกฝ่ายตอบด้วยความมั่นใจ ลู่หมิงพึมพำกับตัวเองครู่หนึ่งก่อนถามกลับ“จางเสี่ยวเหยาที่คุณพูดถึงคือไอ้อ้วนที่มีรูปร่างกลมเท่าลูกบอลขาสั้นอย่างกับหมาและสมองขนาดเท่าเล็บนิ้วก้อยรึเปล่า?” “คุณรู้จักเขาหรอ?” อีกฝ่ายตกใจ ดูจากคำอธิบายก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือคนรู้จักแน่ๆ “ถูกต้องหมดเลย!” ลู่หมิงรู้สึกมึนงง จางเสี่ยวเหยา? นี่มันชื่อปลอมบ้าบออะไรกันอย่างกับชื่อผู้หญิง? ไม่น่าใช่บางทีที่หมอนั่นอาจจะให้ทุกคนเรียกตัวเองว่าจางเสี่ยวปังซึ่งมันเป็นแค่ชื่อที่ตั้งขึ้นมาเอง! จางเสี่ยวเหยาแลดูเป็นชื่อที่ไพเราะและงดงาม.. แต่ไหงหมอนี่ไปค้าประเวณีได้วะ…?ลู่หมิงปวดหัว “ฉันจะไปทันที” เขาวางสายโทรศัพท์และเตรียมจะออกไปสถานีตำรวจ “อาจารย์กำลังจะออกไปข้างนอกอีก?” เสียวไปกระพริบตาของเธอด้วยความสงสัย “ใช่” ลู่หมิงถอนหายใจก่อนพูดด้วยความเคร่งขรึม“อาจารย์ต้องไปช่วยหมาตัวนึงที่มันหลงทางน่ะเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

นิยาย Divine Card Creator

ตอนที่ 57 จางเสี่ยวเหยา

“จางเสี่ยวปัง!”

ลู่หมิงกัดฟัน

มีแค่ไอปัญญาอ่อนคนนี้เท่านี้ที่จะทำอะไรแบบนี้ได้!

แล้วก็มีแต่หมอนี่เท่านั้นแหละที่จะสนใจศาสตร์ภาพลวงตาใต้สะดืออะไรพวก

แม่งเอ้ย!

“เหอะๆๆไอก้อนไขมันเคลื่อนที่เอ้ยเดี๋ยวแกคงต้องได้รับบทเรียนสักหน่อย!”

โชคดีที่ภาพลวงตาของจางเสี่ยวปังนั้นห่วยแตกมากทำให้คนทั่วไปมักจะเห็นเป็นภาพเด็กผู้หญิงที่ดูน่ารักกับห้องโทรมๆพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูคลุมเครือและห้องนอนที่ชวนสยิวเท่านั้น

นับว่ายังดวงดีที่มันไม่เหมือนจริงนัก

เอ็ม…

แต่ด้วยความพร่ามัวของภาพลวงตามันกลับให้บรรยากาศดูฟุ้งๆเคลิ้มๆเร้าอารมณ์อย่างที่ลู่หมิงสัมผัสได้

ฉะนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่านอกจากคนที่เข้าไปจะเกิดอารมณ์แล้วคงไม่มีใครพอจะสังเกตและจดจำเขาได้แน่ๆ!

เยี่ยม…อย่างน้อยก็รอดมาได้ล่ะวะ

เพราะนั่นมันรูปตัวเขาแต่งหญิง!

แถมยังแต่งหน้าอีกต่างหาก!

แต่หากเทียบคนในรูปกับลู่หมิงในปัจจุบันแล้วนับว่าต่างไปจากเดิมอย่างกะสวรรค์กับนรกแม้แต่ความสามารถของพวกเขาก็ต่างกับราวฟ้ากับเหว

“ฉันเป็นชายแท้อก 3 ศอก!”

ลู่หมิงเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง

“ด้วยความแมนระดับนี้คงไม่มีใครจำฉันได้แน่ๆ”

เมื่อนึกได้อย่างนี้ลู่หมิงก็ถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งอก

เขาตัดสินใจกลับไปที่ร้านก่อนแล้วค่อยโทรหาจางเสี่ยวปังลู่หมิงเตรียมที่จะสอนบทเรียนครั้งใหญ่ให้หมอนั่นเขาไม่สามารถตามใจเด็กคนนี้ได้อีกต่อไปแล้ว

เมื่อเข้ามาในร้าน

ลู่หมิงก็กำลังจะติดต่อกับจางเสี่ยวปัง

“อาจารย์คุณกลับมาแล้ว!”

เสี่ยวไปตะโกนอย่างมีความสุข

“อืม”

ลู่หมิงลูบหัวน้อยๆของเธอ

ตอนนั้นเองเสี่ยวไปบังเอิญเหลือบไปมองเห็นรูปใบเล็กๆในมือของเขาก่อนที่เธอจะเผยท่าทางตกใจแล้พูดว่า“อาอาจารย์คุณดูดีมากตอนแต่งหน้า”

เพ้ย!

เขาเหลือบมองไปที่ภาพถ่ายในมือตนเธอจำเขาได้ยังไงฟะ?

เห็นได้ชัดว่าบุคคลทั้งสองแตกต่างกันมาก!

“เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่?”

ลู่หมิงพูดด้วยความจริงจัง“คนในรูปนี้จะเป็นฉันได้ยังไง?”

“หะคะ?”

เสี่ยวไปมึนงง

เธอมองเข้าไปใกล้ๆ

นี่มันอาจารย์ชัดๆนี่หน่า!

“เธอเข้าใจผิดแล้ว”

ลู่หมิงเคร่งขรึม“จากสถิติในโลกนี้แล้วทุกๆ80ล้านคนจะมีคนที่มีหน้าตนคล้ายเธอ1คนเหมือนฉันกับผู้หญิงคนนี้!”

“มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรอ?”

เสี่ยวไปรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

“ใช่แล้ว…เอาล่ะดีมาก”

“ตั้งใจฝึกฝนล่ะอย่ามากังวลกับเรื่องเล็กๆน้อยพวกนี้เลย”ลู่หมิงลูบหัวของเธอพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว:

“อื้อโอเคค่ะอาจารย์”

เสียวไปหันกลับไปเรียนต่อ

หลังจากที่เธอจากไปลู่หมิงก็เหงื่อ
แตก

ฟ*รวยเหอะ!

จะให้มันเป็นปมในชีวิตเขาไม่ได้!

เขาต้องแก้ไขเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดฉะนั้นลู่หมิงจึงติดต่อไปหาจางเสี่ยวปังทัน

แต่ทว่าประเด็นคือ…

แม่งไม่รับสาย!

กริ้งงง

กริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง-

เสียงกริ่งดังต่อเนื่องราว 20 นาที

“ไม่รับสายงั้นเรอะ?”

“หรือมันไปหาสาวที่ไหนอีก?”

ลู่หมิงขมวดคิ้ว

ถ้าเป็นปกติลู่หมิงก็ไม่อยากจะไปยุ่งย่ามชีวิตหมอนี่หรอกแต่ตอนนี้มันทำอย่างนั้นไม่ได้แล้วไง!

ดังนั้นลู่หมิงจึงรีบไปพบอาจารย์อันเพื่อเช็คข้อมูลเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของจางเสี่ยวปัง

ปรากฏว่าหมอนี่ไม่ได้เข้าวิทยาลัยมา2-3วันแล้ว!

แถมยังไม่ได้กลับห้องอีกต่างหาก!

อ่า…เรื่องนี้มันชักมีกลิ่นแปลกๆแล้ว!

คราวที่แล้วตอนเจอกันจางเสี่ยวปังมันเหมือนจะพกกระเป๋าเดินทางอยู่ด้วย!

หรือมันจะไปเที่ยวกับสุดที่รักในกระเป๋าใบนั้น?!

แต่ปกติหมอนี่ไม่เคยออกไปไหนไกลไม่ใช่หรือ?

นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย?

หรือบางที่จางเสียวบังอาจกำลังตกอยู่ในอันตราย!

หมอนั่นยิ่งเอ๋อๆอยู่ด้วยไม่รู้โดนหลอกไปค้ามนุษย์รึเปล่า?

หลังจากคิดแล้วลู่หมิงก็รู้สึกว่ามันเป็นไปได้ด้วยนิสัยเส็งเคร็งของจางเสี่ยวปังแล้วหมอนั่นคงยอมไปหาผู้หญิงน่ารักๆตามคำเชิญแน่ๆต่อให้รู้ว่าอาจจะโดนหลอกก็ตาม!

ด้วยนิสัยและตรรกะแบบนั้นไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะปาฏิหาริย์หรือโชคชะตาที่ทำให้หมอนั่นรอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวัน
หายตัวไป.

ลู่หมิงตรวจสอบบนอินเทอร์เน็ตก่อนพบว่าจริงๆแล้วมีคนสูญหายในเมื่องชิงหมิงอยู่จำนวนมากสาเหตุเกิดจากการที่คนส่วนมากมีพลังบ่มเพาะทำให้การก่ออาชญากรรมจึงง่ายกว่าเดิมมาก

ฉะนั้นแล้วหากจะมีโจรลักพาตัวใครสักคนก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายล่ำบึกก็ได้!

เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเองก็ใช้พลังฆ่าคนได้เหมือนกัน!

อืมมน่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ!
ลู่หมิงครุ่นคิด

เขาคงต้องขอให้อาจารย์ใหญ่ช่วยในการสืบสวนเรื่องนี้…

ลู่หมิงหยิบมือถือออกมาแต่ทว่าตอนที่เขาเตรียมที่จะโทรหาอาจารย์ใหญ่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นปรากฏว่ามีหมายเลขที่ไม่รู้จักโทรมา

“สวัสดี?คุณคือลู่หมิง?เพื่อนของคุณจางเสี่ยวเหยาอยู่กับเรา…”
เสียงที่ดูทุ่มและสงบพูดขึ้น

“โทรผิดครับ!”

ลู่หมิงวางสายโดยไม่ลังเล

เป็นเรื่องจริงสินะ…

ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาถูกเปิดเผยแล้วตอนที่เขาค้นหาข้อมูลผู้สูญหายทางอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้

ชีวิตที่แล้วเขาเห็นมาเยอะเกินไป

ในฐานะโปรแกรมเมอร์เขารู้ดีว่ากลไกการค้นหาทำงานยังไง

อีกฝ่ายอาจตั้งค่าคำค้นหาหลักเช่น“หาย”“โรงพยาบาล”และ“ค่าเล่าเรียน”และเมื่อคุณค้นหาสิ่งเหล่านี้ข้อมูลของคุณจะถูกส่งไปยังคนที่ซื้อมันไปซึ่งอาจจะเป็นนักต้มตุ้นบางคนก็ได้

“ฉันคิดว่ามีแต่ Baidoo ท่านั้นที่ทำแบบนั้นได้”

[Baidoo ล้อเลียน Baidu ซึ่งเป็น Search Engine จีนที่คล้ายๆ Google]

ลู่หมิงถอนหายใจ

เขาไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นในชีวิตใหม่อีกครั้ง!

พวกต้มตุ้นงั้นหรอ…

เหอะๆ

ไม่รู้ซะแล้วว่าฉันเป็นใคร?!

จังหวะเดียวกันนั้นเองโทรศัพท์มือถือของลู่หมิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง“สวัสดี?คุณคือลู่หมิง?กรุณาอย่าวางสายโทรศัพท์เราคือ…”

“จางเสี่ยวเหยาอยู่กับคุณรึเปล่า”ลู่หมิงถามด้วยความใจเย็น

“เอ่อ…ครับ”คนปลายสายพูดอะไรไม่

“ผมไม่ต้องการเธออีกแล้ว”

ลู่หมิงถอนหายใจยาว“ผมยกเธอให้กับคุณ”

“ปังงง!”

ลู่หมิงวางสายโทรศัพท์อีกครั้ง

นี่มันนรกอะไรฟะ!

ลู่หมิงเม้มริมฝีปากของเขาก่อนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเขามองเข้าไปใกล้ๆกับหมายเลขที่โทรมา

เอ่อทำไมมันดูคุ้นเคยจัง…

มันคือหมายเลขโทรศัพท์ของตำรวจจากสถานีตำรวจเมืองชิงหมิง

คิดจะหลอกลวงทางโทรศัพท์?

นักต้มตุ้นจำนวนมากใช้ประโยชน์จากการเลียนแบบหมายเลขติดต่อของตำรวจในสถานีเพื่อหลอกลวงประชาชนฉะนั้นเขาจะไม่โทรกลับเป็นอันขาด!

ดังนั้นลู่หมิงจึงโทรเข้าสถานีโดยตรง

“สวัสดีครับ”

ลู่หมิงได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์

เอิ่ม..เป็นเสียงคนที่พูดกับเขาก่อนหน้านี้

“…คุณเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ”

ลู่หมิงกุมขมับของตน

“ใช่”

ตำรวจคนนั้นตอบด้วยความรู้สึกไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีก่อนพูดว่า“กรุณาเดินทางมาที่นี่เพื่อนของคุณจางเสี่ยวเหยาถูกคุมขังด้วยเหตุผลบางประการ“โอ”

ตอนนี้ลู่หมิงเก็ทแล้ว

แต่ว่า…

ใครคือจางเสี่ยวเหยาวะ?

ลู่หมิงไม่รู้จักใครที่ชื่อแบบนั้นสักคน

บางที่อาจเป็นเพื่อนที่เขาช่วยตอนอยู่ที่เหมืองไม่ก็ญาติจางเสี่ยวปังละมั้ง?

ลองไปดูก่อนละกันเผลอๆอาจเป็นสาวๆที่ชอบเขาก็เป็นได้เธอคงจะแอบเก็บเบอร์โทรของเขาไว้ขอความช่วยเหลือตอนที่เกิดอันตรายเหมือนอารมณ์ฮีโร่กับสาวสวยอะไรทำนองนั้นก็ได้

เยี่ยม…

บางทีอาจจะใช่ก็ได้นะเนี่ย!

ลู่หมิงเงยหน้าขึ้น“ฉันขอทราบก่อนได้ไหมว่าเธอก่ออาชญากรรมอะไร”

“อ่า…”

อีกฝ่ายหยุดชั่วขณะก่อนจะพูดว่า“ค้าประเวณี

ปีง

ลู่หมิงวางสายโทรศัพท์อย่างเด็ดเดี่ยว

“ฮัลโหลฮัลโหลฮัลโหลล?”

ตำรวจคนนั้นพูดไม่ออก

หลังจากผ่านไปสักพัก…

โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

หลังจากรับสายทั้งลู่หมิงและตำรวจต่างเงียบใส่กันเหลือเพียงเสียงลมหายใจเบาๆให้ได้ยินเท่านั้น

“ทำไมคุณถึงไม่ช่วยเหลือเธอล่ะ?”

อีกฝ่ายพูดด้วยความหมดหนทาง

ตอนนี้เขามีช่องทางติดต่อเพียงทางเดียวจริงๆ

“ก็ผมไม่รู้จริงๆว่าจางเสี่ยวเหยาคือ
ใคร”

ลู่หมิงถอนหายใจ

เขาคงไปช่วยเธอแล้วถ้ามันเป็นอาชญากรรมเบาๆประเภทอื่น…อ่าไม่นับฆ่าคนตายละกัน

แต่นี่ถึงขั้นค้าประเวณี?

TL:ต้องบอกก่อนว่าที่จีนมีกฎหมายควบคุมการค้าประเวณีค่อนข้างเข้มฉะนั้นมันเป็น Culture ของเขานะฮะไม่ได้แปลเพื่อเหยียดใครกลัวโดนดราม่า

ต้องล้อเล่นกันแน่ๆ!

หากเขาไปแล้วถูกโภัยมาว่าเป็น”พันธมิตรทางธุรกิจแล้วเขาจะทำยังไง?หากถูกถามว่ารู้จักกันได้ยังไงแล้วเธอตอบไปว่าคนนึงขายอีกคนลูกค้าหรอเหอๆแม้แต่หน้าเธอลู่หมิงยังไม่เคยเห็นเลย

ฉะนั้นเมื่อได้ยินคดีที่เธอก่อแล้วลู่หมิงจึงตัวสั่นด้วยความตกใจ
ช่วยกะผีสิ!

เขาไม่ไปแน่ๆไม่ว่ายังไงก็ตาม!

“เอาล่ะ”

อีกฝ่ายทำได้แค่ยอมแพ้เขาพึมพำ“เข้าใจละไอก้อนไขมันนี่กำลังโกหกอยู่สินะ…”

“???”

“เดี๋ยวก่อนนะ”

ลู่หมิงถามเขาอีกครั้ง“เมื่อกี้คุณพูดว่าก้อนไขมันเหรอ”
“ใช่”อีกฝ่ายตอบด้วยความมั่นใจ

ลู่หมิงพึมพำกับตัวเองครู่หนึ่งก่อนถามกลับ“จางเสี่ยวเหยาที่คุณพูดถึงคือไอ้อ้วนที่มีรูปร่างกลมเท่าลูกบอลขาสั้นอย่างกับหมาและสมองขนาดเท่าเล็บนิ้วก้อยรึเปล่า?”

“คุณรู้จักเขาหรอ?”

อีกฝ่ายตกใจ

ดูจากคำอธิบายก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือคนรู้จักแน่ๆ

“ถูกต้องหมดเลย!”

ลู่หมิงรู้สึกมึนงง

จางเสี่ยวเหยา?

นี่มันชื่อปลอมบ้าบออะไรกันอย่างกับชื่อผู้หญิง?

ไม่น่าใช่บางทีที่หมอนั่นอาจจะให้ทุกคนเรียกตัวเองว่าจางเสี่ยวปังซึ่งมันเป็นแค่ชื่อที่ตั้งขึ้นมาเอง!

จางเสี่ยวเหยาแลดูเป็นชื่อที่ไพเราะและงดงาม..

แต่ไหงหมอนี่ไปค้าประเวณีได้วะ…?ลู่หมิงปวดหัว

“ฉันจะไปทันที”

เขาวางสายโทรศัพท์และเตรียมจะออกไปสถานีตำรวจ

“อาจารย์กำลังจะออกไปข้างนอกอีก?”

เสียวไปกระพริบตาของเธอด้วยความสงสัย

“ใช่”

ลู่หมิงถอนหายใจก่อนพูดด้วยความเคร่งขรึม“อาจารย์ต้องไปช่วยหมาตัวนึงที่มันหลงทางน่ะเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Divine Card Creator 57 จางเสี่ยวเหยา

Now you are reading Divine Card Creator Chapter 57 จางเสี่ยวเหยา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Divine Card Creator ตอนที่ 57 จางเสี่ยวเหยา “จางเสี่ยวปัง!” ลู่หมิงกัดฟัน มีแค่ไอปัญญาอ่อนคนนี้เท่านี้ที่จะทำอะไรแบบนี้ได้! แล้วก็มีแต่หมอนี่เท่านั้นแหละที่จะสนใจศาสตร์ภาพลวงตาใต้สะดืออะไรพวก แม่งเอ้ย! “เหอะๆๆไอก้อนไขมันเคลื่อนที่เอ้ยเดี๋ยวแกคงต้องได้รับบทเรียนสักหน่อย!” โชคดีที่ภาพลวงตาของจางเสี่ยวปังนั้นห่วยแตกมากทำให้คนทั่วไปมักจะเห็นเป็นภาพเด็กผู้หญิงที่ดูน่ารักกับห้องโทรมๆพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูคลุมเครือและห้องนอนที่ชวนสยิวเท่านั้น นับว่ายังดวงดีที่มันไม่เหมือนจริงนัก เอ็ม… แต่ด้วยความพร่ามัวของภาพลวงตามันกลับให้บรรยากาศดูฟุ้งๆเคลิ้มๆเร้าอารมณ์อย่างที่ลู่หมิงสัมผัสได้ ฉะนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่านอกจากคนที่เข้าไปจะเกิดอารมณ์แล้วคงไม่มีใครพอจะสังเกตและจดจำเขาได้แน่ๆ! เยี่ยม…อย่างน้อยก็รอดมาได้ล่ะวะ เพราะนั่นมันรูปตัวเขาแต่งหญิง! แถมยังแต่งหน้าอีกต่างหาก! แต่หากเทียบคนในรูปกับลู่หมิงในปัจจุบันแล้วนับว่าต่างไปจากเดิมอย่างกะสวรรค์กับนรกแม้แต่ความสามารถของพวกเขาก็ต่างกับราวฟ้ากับเหว “ฉันเป็นชายแท้อก 3 ศอก!” ลู่หมิงเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง “ด้วยความแมนระดับนี้คงไม่มีใครจำฉันได้แน่ๆ” เมื่อนึกได้อย่างนี้ลู่หมิงก็ถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งอก เขาตัดสินใจกลับไปที่ร้านก่อนแล้วค่อยโทรหาจางเสี่ยวปังลู่หมิงเตรียมที่จะสอนบทเรียนครั้งใหญ่ให้หมอนั่นเขาไม่สามารถตามใจเด็กคนนี้ได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อเข้ามาในร้าน ลู่หมิงก็กำลังจะติดต่อกับจางเสี่ยวปัง “อาจารย์คุณกลับมาแล้ว!” เสี่ยวไปตะโกนอย่างมีความสุข “อืม” ลู่หมิงลูบหัวน้อยๆของเธอ ตอนนั้นเองเสี่ยวไปบังเอิญเหลือบไปมองเห็นรูปใบเล็กๆในมือของเขาก่อนที่เธอจะเผยท่าทางตกใจแล้พูดว่า“อาอาจารย์คุณดูดีมากตอนแต่งหน้า” เพ้ย! เขาเหลือบมองไปที่ภาพถ่ายในมือตนเธอจำเขาได้ยังไงฟะ? เห็นได้ชัดว่าบุคคลทั้งสองแตกต่างกันมาก! “เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่?” ลู่หมิงพูดด้วยความจริงจัง“คนในรูปนี้จะเป็นฉันได้ยังไง?” “หะคะ?” เสี่ยวไปมึนงง เธอมองเข้าไปใกล้ๆ นี่มันอาจารย์ชัดๆนี่หน่า! “เธอเข้าใจผิดแล้ว” ลู่หมิงเคร่งขรึม“จากสถิติในโลกนี้แล้วทุกๆ80ล้านคนจะมีคนที่มีหน้าตนคล้ายเธอ1คนเหมือนฉันกับผู้หญิงคนนี้!” “มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรอ?” เสี่ยวไปรู้สึกงุนงงเล็กน้อย “ใช่แล้ว…เอาล่ะดีมาก” “ตั้งใจฝึกฝนล่ะอย่ามากังวลกับเรื่องเล็กๆน้อยพวกนี้เลย”ลู่หมิงลูบหัวของเธอพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว: “อื้อโอเคค่ะอาจารย์” เสียวไปหันกลับไปเรียนต่อ หลังจากที่เธอจากไปลู่หมิงก็เหงื่อ
แตก ฟ*รวยเหอะ! จะให้มันเป็นปมในชีวิตเขาไม่ได้! เขาต้องแก้ไขเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดฉะนั้นลู่หมิงจึงติดต่อไปหาจางเสี่ยวปังทัน แต่ทว่าประเด็นคือ… แม่งไม่รับสาย! กริ้งงง กริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง- เสียงกริ่งดังต่อเนื่องราว 20 นาที “ไม่รับสายงั้นเรอะ?” “หรือมันไปหาสาวที่ไหนอีก?” ลู่หมิงขมวดคิ้ว ถ้าเป็นปกติลู่หมิงก็ไม่อยากจะไปยุ่งย่ามชีวิตหมอนี่หรอกแต่ตอนนี้มันทำอย่างนั้นไม่ได้แล้วไง! ดังนั้นลู่หมิงจึงรีบไปพบอาจารย์อันเพื่อเช็คข้อมูลเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของจางเสี่ยวปัง ปรากฏว่าหมอนี่ไม่ได้เข้าวิทยาลัยมา2-3วันแล้ว! แถมยังไม่ได้กลับห้องอีกต่างหาก! อ่า…เรื่องนี้มันชักมีกลิ่นแปลกๆแล้ว! คราวที่แล้วตอนเจอกันจางเสี่ยวปังมันเหมือนจะพกกระเป๋าเดินทางอยู่ด้วย! หรือมันจะไปเที่ยวกับสุดที่รักในกระเป๋าใบนั้น?! แต่ปกติหมอนี่ไม่เคยออกไปไหนไกลไม่ใช่หรือ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย? หรือบางที่จางเสียวบังอาจกำลังตกอยู่ในอันตราย! หมอนั่นยิ่งเอ๋อๆอยู่ด้วยไม่รู้โดนหลอกไปค้ามนุษย์รึเปล่า? หลังจากคิดแล้วลู่หมิงก็รู้สึกว่ามันเป็นไปได้ด้วยนิสัยเส็งเคร็งของจางเสี่ยวปังแล้วหมอนั่นคงยอมไปหาผู้หญิงน่ารักๆตามคำเชิญแน่ๆต่อให้รู้ว่าอาจจะโดนหลอกก็ตาม! ด้วยนิสัยและตรรกะแบบนั้นไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะปาฏิหาริย์หรือโชคชะตาที่ทำให้หมอนั่นรอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวัน
หายตัวไป. ลู่หมิงตรวจสอบบนอินเทอร์เน็ตก่อนพบว่าจริงๆแล้วมีคนสูญหายในเมื่องชิงหมิงอยู่จำนวนมากสาเหตุเกิดจากการที่คนส่วนมากมีพลังบ่มเพาะทำให้การก่ออาชญากรรมจึงง่ายกว่าเดิมมาก ฉะนั้นแล้วหากจะมีโจรลักพาตัวใครสักคนก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายล่ำบึกก็ได้! เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเองก็ใช้พลังฆ่าคนได้เหมือนกัน! อืมมน่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ!
ลู่หมิงครุ่นคิด เขาคงต้องขอให้อาจารย์ใหญ่ช่วยในการสืบสวนเรื่องนี้… ลู่หมิงหยิบมือถือออกมาแต่ทว่าตอนที่เขาเตรียมที่จะโทรหาอาจารย์ใหญ่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นปรากฏว่ามีหมายเลขที่ไม่รู้จักโทรมา “สวัสดี?คุณคือลู่หมิง?เพื่อนของคุณจางเสี่ยวเหยาอยู่กับเรา…”
เสียงที่ดูทุ่มและสงบพูดขึ้น “โทรผิดครับ!” ลู่หมิงวางสายโดยไม่ลังเล เป็นเรื่องจริงสินะ… ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาถูกเปิดเผยแล้วตอนที่เขาค้นหาข้อมูลผู้สูญหายทางอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้ ชีวิตที่แล้วเขาเห็นมาเยอะเกินไป ในฐานะโปรแกรมเมอร์เขารู้ดีว่ากลไกการค้นหาทำงานยังไง อีกฝ่ายอาจตั้งค่าคำค้นหาหลักเช่น“หาย”“โรงพยาบาล”และ“ค่าเล่าเรียน”และเมื่อคุณค้นหาสิ่งเหล่านี้ข้อมูลของคุณจะถูกส่งไปยังคนที่ซื้อมันไปซึ่งอาจจะเป็นนักต้มตุ้นบางคนก็ได้ “ฉันคิดว่ามีแต่ Baidoo ท่านั้นที่ทำแบบนั้นได้” [Baidoo ล้อเลียน Baidu ซึ่งเป็น Search Engine จีนที่คล้ายๆ Google] ลู่หมิงถอนหายใจ เขาไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นในชีวิตใหม่อีกครั้ง! พวกต้มตุ้นงั้นหรอ… เหอะๆ ไม่รู้ซะแล้วว่าฉันเป็นใคร?! จังหวะเดียวกันนั้นเองโทรศัพท์มือถือของลู่หมิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง“สวัสดี?คุณคือลู่หมิง?กรุณาอย่าวางสายโทรศัพท์เราคือ…” “จางเสี่ยวเหยาอยู่กับคุณรึเปล่า”ลู่หมิงถามด้วยความใจเย็น “เอ่อ…ครับ”คนปลายสายพูดอะไรไม่ “ผมไม่ต้องการเธออีกแล้ว” ลู่หมิงถอนหายใจยาว“ผมยกเธอให้กับคุณ” “ปังงง!” ลู่หมิงวางสายโทรศัพท์อีกครั้ง นี่มันนรกอะไรฟะ! ลู่หมิงเม้มริมฝีปากของเขาก่อนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเขามองเข้าไปใกล้ๆกับหมายเลขที่โทรมา เอ่อทำไมมันดูคุ้นเคยจัง… มันคือหมายเลขโทรศัพท์ของตำรวจจากสถานีตำรวจเมืองชิงหมิง คิดจะหลอกลวงทางโทรศัพท์? นักต้มตุ้นจำนวนมากใช้ประโยชน์จากการเลียนแบบหมายเลขติดต่อของตำรวจในสถานีเพื่อหลอกลวงประชาชนฉะนั้นเขาจะไม่โทรกลับเป็นอันขาด! ดังนั้นลู่หมิงจึงโทรเข้าสถานีโดยตรง “สวัสดีครับ” ลู่หมิงได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เอิ่ม..เป็นเสียงคนที่พูดกับเขาก่อนหน้านี้ “…คุณเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ” ลู่หมิงกุมขมับของตน “ใช่” ตำรวจคนนั้นตอบด้วยความรู้สึกไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีก่อนพูดว่า“กรุณาเดินทางมาที่นี่เพื่อนของคุณจางเสี่ยวเหยาถูกคุมขังด้วยเหตุผลบางประการ“โอ” ตอนนี้ลู่หมิงเก็ทแล้ว แต่ว่า… ใครคือจางเสี่ยวเหยาวะ? ลู่หมิงไม่รู้จักใครที่ชื่อแบบนั้นสักคน บางที่อาจเป็นเพื่อนที่เขาช่วยตอนอยู่ที่เหมืองไม่ก็ญาติจางเสี่ยวปังละมั้ง? ลองไปดูก่อนละกันเผลอๆอาจเป็นสาวๆที่ชอบเขาก็เป็นได้เธอคงจะแอบเก็บเบอร์โทรของเขาไว้ขอความช่วยเหลือตอนที่เกิดอันตรายเหมือนอารมณ์ฮีโร่กับสาวสวยอะไรทำนองนั้นก็ได้ เยี่ยม… บางทีอาจจะใช่ก็ได้นะเนี่ย! ลู่หมิงเงยหน้าขึ้น“ฉันขอทราบก่อนได้ไหมว่าเธอก่ออาชญากรรมอะไร” “อ่า…” อีกฝ่ายหยุดชั่วขณะก่อนจะพูดว่า“ค้าประเวณี ปีง ลู่หมิงวางสายโทรศัพท์อย่างเด็ดเดี่ยว “ฮัลโหลฮัลโหลฮัลโหลล?” ตำรวจคนนั้นพูดไม่ออก หลังจากผ่านไปสักพัก… โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากรับสายทั้งลู่หมิงและตำรวจต่างเงียบใส่กันเหลือเพียงเสียงลมหายใจเบาๆให้ได้ยินเท่านั้น “ทำไมคุณถึงไม่ช่วยเหลือเธอล่ะ?” อีกฝ่ายพูดด้วยความหมดหนทาง ตอนนี้เขามีช่องทางติดต่อเพียงทางเดียวจริงๆ “ก็ผมไม่รู้จริงๆว่าจางเสี่ยวเหยาคือ
ใคร” ลู่หมิงถอนหายใจ เขาคงไปช่วยเธอแล้วถ้ามันเป็นอาชญากรรมเบาๆประเภทอื่น…อ่าไม่นับฆ่าคนตายละกัน แต่นี่ถึงขั้นค้าประเวณี? TL:ต้องบอกก่อนว่าที่จีนมีกฎหมายควบคุมการค้าประเวณีค่อนข้างเข้มฉะนั้นมันเป็น Culture ของเขานะฮะไม่ได้แปลเพื่อเหยียดใครกลัวโดนดราม่า ต้องล้อเล่นกันแน่ๆ! หากเขาไปแล้วถูกโภัยมาว่าเป็น”พันธมิตรทางธุรกิจแล้วเขาจะทำยังไง?หากถูกถามว่ารู้จักกันได้ยังไงแล้วเธอตอบไปว่าคนนึงขายอีกคนลูกค้าหรอเหอๆแม้แต่หน้าเธอลู่หมิงยังไม่เคยเห็นเลย ฉะนั้นเมื่อได้ยินคดีที่เธอก่อแล้วลู่หมิงจึงตัวสั่นด้วยความตกใจ
ช่วยกะผีสิ! เขาไม่ไปแน่ๆไม่ว่ายังไงก็ตาม! “เอาล่ะ” อีกฝ่ายทำได้แค่ยอมแพ้เขาพึมพำ“เข้าใจละไอก้อนไขมันนี่กำลังโกหกอยู่สินะ…” “???” “เดี๋ยวก่อนนะ” ลู่หมิงถามเขาอีกครั้ง“เมื่อกี้คุณพูดว่าก้อนไขมันเหรอ”
“ใช่”อีกฝ่ายตอบด้วยความมั่นใจ ลู่หมิงพึมพำกับตัวเองครู่หนึ่งก่อนถามกลับ“จางเสี่ยวเหยาที่คุณพูดถึงคือไอ้อ้วนที่มีรูปร่างกลมเท่าลูกบอลขาสั้นอย่างกับหมาและสมองขนาดเท่าเล็บนิ้วก้อยรึเปล่า?” “คุณรู้จักเขาหรอ?” อีกฝ่ายตกใจ ดูจากคำอธิบายก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือคนรู้จักแน่ๆ “ถูกต้องหมดเลย!” ลู่หมิงรู้สึกมึนงง จางเสี่ยวเหยา? นี่มันชื่อปลอมบ้าบออะไรกันอย่างกับชื่อผู้หญิง? ไม่น่าใช่บางทีที่หมอนั่นอาจจะให้ทุกคนเรียกตัวเองว่าจางเสี่ยวปังซึ่งมันเป็นแค่ชื่อที่ตั้งขึ้นมาเอง! จางเสี่ยวเหยาแลดูเป็นชื่อที่ไพเราะและงดงาม.. แต่ไหงหมอนี่ไปค้าประเวณีได้วะ…?ลู่หมิงปวดหัว “ฉันจะไปทันที” เขาวางสายโทรศัพท์และเตรียมจะออกไปสถานีตำรวจ “อาจารย์กำลังจะออกไปข้างนอกอีก?” เสียวไปกระพริบตาของเธอด้วยความสงสัย “ใช่” ลู่หมิงถอนหายใจก่อนพูดด้วยความเคร่งขรึม“อาจารย์ต้องไปช่วยหมาตัวนึงที่มันหลงทางน่ะเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

นิยาย Divine Card Creator

ตอนที่ 57 จางเสี่ยวเหยา

“จางเสี่ยวปัง!”

ลู่หมิงกัดฟัน

มีแค่ไอปัญญาอ่อนคนนี้เท่านี้ที่จะทำอะไรแบบนี้ได้!

แล้วก็มีแต่หมอนี่เท่านั้นแหละที่จะสนใจศาสตร์ภาพลวงตาใต้สะดืออะไรพวก

แม่งเอ้ย!

“เหอะๆๆไอก้อนไขมันเคลื่อนที่เอ้ยเดี๋ยวแกคงต้องได้รับบทเรียนสักหน่อย!”

โชคดีที่ภาพลวงตาของจางเสี่ยวปังนั้นห่วยแตกมากทำให้คนทั่วไปมักจะเห็นเป็นภาพเด็กผู้หญิงที่ดูน่ารักกับห้องโทรมๆพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูคลุมเครือและห้องนอนที่ชวนสยิวเท่านั้น

นับว่ายังดวงดีที่มันไม่เหมือนจริงนัก

เอ็ม…

แต่ด้วยความพร่ามัวของภาพลวงตามันกลับให้บรรยากาศดูฟุ้งๆเคลิ้มๆเร้าอารมณ์อย่างที่ลู่หมิงสัมผัสได้

ฉะนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่านอกจากคนที่เข้าไปจะเกิดอารมณ์แล้วคงไม่มีใครพอจะสังเกตและจดจำเขาได้แน่ๆ!

เยี่ยม…อย่างน้อยก็รอดมาได้ล่ะวะ

เพราะนั่นมันรูปตัวเขาแต่งหญิง!

แถมยังแต่งหน้าอีกต่างหาก!

แต่หากเทียบคนในรูปกับลู่หมิงในปัจจุบันแล้วนับว่าต่างไปจากเดิมอย่างกะสวรรค์กับนรกแม้แต่ความสามารถของพวกเขาก็ต่างกับราวฟ้ากับเหว

“ฉันเป็นชายแท้อก 3 ศอก!”

ลู่หมิงเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง

“ด้วยความแมนระดับนี้คงไม่มีใครจำฉันได้แน่ๆ”

เมื่อนึกได้อย่างนี้ลู่หมิงก็ถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งอก

เขาตัดสินใจกลับไปที่ร้านก่อนแล้วค่อยโทรหาจางเสี่ยวปังลู่หมิงเตรียมที่จะสอนบทเรียนครั้งใหญ่ให้หมอนั่นเขาไม่สามารถตามใจเด็กคนนี้ได้อีกต่อไปแล้ว

เมื่อเข้ามาในร้าน

ลู่หมิงก็กำลังจะติดต่อกับจางเสี่ยวปัง

“อาจารย์คุณกลับมาแล้ว!”

เสี่ยวไปตะโกนอย่างมีความสุข

“อืม”

ลู่หมิงลูบหัวน้อยๆของเธอ

ตอนนั้นเองเสี่ยวไปบังเอิญเหลือบไปมองเห็นรูปใบเล็กๆในมือของเขาก่อนที่เธอจะเผยท่าทางตกใจแล้พูดว่า“อาอาจารย์คุณดูดีมากตอนแต่งหน้า”

เพ้ย!

เขาเหลือบมองไปที่ภาพถ่ายในมือตนเธอจำเขาได้ยังไงฟะ?

เห็นได้ชัดว่าบุคคลทั้งสองแตกต่างกันมาก!

“เธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่?”

ลู่หมิงพูดด้วยความจริงจัง“คนในรูปนี้จะเป็นฉันได้ยังไง?”

“หะคะ?”

เสี่ยวไปมึนงง

เธอมองเข้าไปใกล้ๆ

นี่มันอาจารย์ชัดๆนี่หน่า!

“เธอเข้าใจผิดแล้ว”

ลู่หมิงเคร่งขรึม“จากสถิติในโลกนี้แล้วทุกๆ80ล้านคนจะมีคนที่มีหน้าตนคล้ายเธอ1คนเหมือนฉันกับผู้หญิงคนนี้!”

“มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรอ?”

เสี่ยวไปรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

“ใช่แล้ว…เอาล่ะดีมาก”

“ตั้งใจฝึกฝนล่ะอย่ามากังวลกับเรื่องเล็กๆน้อยพวกนี้เลย”ลู่หมิงลูบหัวของเธอพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว:

“อื้อโอเคค่ะอาจารย์”

เสียวไปหันกลับไปเรียนต่อ

หลังจากที่เธอจากไปลู่หมิงก็เหงื่อ
แตก

ฟ*รวยเหอะ!

จะให้มันเป็นปมในชีวิตเขาไม่ได้!

เขาต้องแก้ไขเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดฉะนั้นลู่หมิงจึงติดต่อไปหาจางเสี่ยวปังทัน

แต่ทว่าประเด็นคือ…

แม่งไม่รับสาย!

กริ้งงง

กริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง-

เสียงกริ่งดังต่อเนื่องราว 20 นาที

“ไม่รับสายงั้นเรอะ?”

“หรือมันไปหาสาวที่ไหนอีก?”

ลู่หมิงขมวดคิ้ว

ถ้าเป็นปกติลู่หมิงก็ไม่อยากจะไปยุ่งย่ามชีวิตหมอนี่หรอกแต่ตอนนี้มันทำอย่างนั้นไม่ได้แล้วไง!

ดังนั้นลู่หมิงจึงรีบไปพบอาจารย์อันเพื่อเช็คข้อมูลเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของจางเสี่ยวปัง

ปรากฏว่าหมอนี่ไม่ได้เข้าวิทยาลัยมา2-3วันแล้ว!

แถมยังไม่ได้กลับห้องอีกต่างหาก!

อ่า…เรื่องนี้มันชักมีกลิ่นแปลกๆแล้ว!

คราวที่แล้วตอนเจอกันจางเสี่ยวปังมันเหมือนจะพกกระเป๋าเดินทางอยู่ด้วย!

หรือมันจะไปเที่ยวกับสุดที่รักในกระเป๋าใบนั้น?!

แต่ปกติหมอนี่ไม่เคยออกไปไหนไกลไม่ใช่หรือ?

นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย?

หรือบางที่จางเสียวบังอาจกำลังตกอยู่ในอันตราย!

หมอนั่นยิ่งเอ๋อๆอยู่ด้วยไม่รู้โดนหลอกไปค้ามนุษย์รึเปล่า?

หลังจากคิดแล้วลู่หมิงก็รู้สึกว่ามันเป็นไปได้ด้วยนิสัยเส็งเคร็งของจางเสี่ยวปังแล้วหมอนั่นคงยอมไปหาผู้หญิงน่ารักๆตามคำเชิญแน่ๆต่อให้รู้ว่าอาจจะโดนหลอกก็ตาม!

ด้วยนิสัยและตรรกะแบบนั้นไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะปาฏิหาริย์หรือโชคชะตาที่ทำให้หมอนั่นรอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวัน
หายตัวไป.

ลู่หมิงตรวจสอบบนอินเทอร์เน็ตก่อนพบว่าจริงๆแล้วมีคนสูญหายในเมื่องชิงหมิงอยู่จำนวนมากสาเหตุเกิดจากการที่คนส่วนมากมีพลังบ่มเพาะทำให้การก่ออาชญากรรมจึงง่ายกว่าเดิมมาก

ฉะนั้นแล้วหากจะมีโจรลักพาตัวใครสักคนก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายล่ำบึกก็ได้!

เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเองก็ใช้พลังฆ่าคนได้เหมือนกัน!

อืมมน่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ!
ลู่หมิงครุ่นคิด

เขาคงต้องขอให้อาจารย์ใหญ่ช่วยในการสืบสวนเรื่องนี้…

ลู่หมิงหยิบมือถือออกมาแต่ทว่าตอนที่เขาเตรียมที่จะโทรหาอาจารย์ใหญ่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นปรากฏว่ามีหมายเลขที่ไม่รู้จักโทรมา

“สวัสดี?คุณคือลู่หมิง?เพื่อนของคุณจางเสี่ยวเหยาอยู่กับเรา…”
เสียงที่ดูทุ่มและสงบพูดขึ้น

“โทรผิดครับ!”

ลู่หมิงวางสายโดยไม่ลังเล

เป็นเรื่องจริงสินะ…

ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาถูกเปิดเผยแล้วตอนที่เขาค้นหาข้อมูลผู้สูญหายทางอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้

ชีวิตที่แล้วเขาเห็นมาเยอะเกินไป

ในฐานะโปรแกรมเมอร์เขารู้ดีว่ากลไกการค้นหาทำงานยังไง

อีกฝ่ายอาจตั้งค่าคำค้นหาหลักเช่น“หาย”“โรงพยาบาล”และ“ค่าเล่าเรียน”และเมื่อคุณค้นหาสิ่งเหล่านี้ข้อมูลของคุณจะถูกส่งไปยังคนที่ซื้อมันไปซึ่งอาจจะเป็นนักต้มตุ้นบางคนก็ได้

“ฉันคิดว่ามีแต่ Baidoo ท่านั้นที่ทำแบบนั้นได้”

[Baidoo ล้อเลียน Baidu ซึ่งเป็น Search Engine จีนที่คล้ายๆ Google]

ลู่หมิงถอนหายใจ

เขาไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นในชีวิตใหม่อีกครั้ง!

พวกต้มตุ้นงั้นหรอ…

เหอะๆ

ไม่รู้ซะแล้วว่าฉันเป็นใคร?!

จังหวะเดียวกันนั้นเองโทรศัพท์มือถือของลู่หมิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง“สวัสดี?คุณคือลู่หมิง?กรุณาอย่าวางสายโทรศัพท์เราคือ…”

“จางเสี่ยวเหยาอยู่กับคุณรึเปล่า”ลู่หมิงถามด้วยความใจเย็น

“เอ่อ…ครับ”คนปลายสายพูดอะไรไม่

“ผมไม่ต้องการเธออีกแล้ว”

ลู่หมิงถอนหายใจยาว“ผมยกเธอให้กับคุณ”

“ปังงง!”

ลู่หมิงวางสายโทรศัพท์อีกครั้ง

นี่มันนรกอะไรฟะ!

ลู่หมิงเม้มริมฝีปากของเขาก่อนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเขามองเข้าไปใกล้ๆกับหมายเลขที่โทรมา

เอ่อทำไมมันดูคุ้นเคยจัง…

มันคือหมายเลขโทรศัพท์ของตำรวจจากสถานีตำรวจเมืองชิงหมิง

คิดจะหลอกลวงทางโทรศัพท์?

นักต้มตุ้นจำนวนมากใช้ประโยชน์จากการเลียนแบบหมายเลขติดต่อของตำรวจในสถานีเพื่อหลอกลวงประชาชนฉะนั้นเขาจะไม่โทรกลับเป็นอันขาด!

ดังนั้นลู่หมิงจึงโทรเข้าสถานีโดยตรง

“สวัสดีครับ”

ลู่หมิงได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์

เอิ่ม..เป็นเสียงคนที่พูดกับเขาก่อนหน้านี้

“…คุณเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ”

ลู่หมิงกุมขมับของตน

“ใช่”

ตำรวจคนนั้นตอบด้วยความรู้สึกไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีก่อนพูดว่า“กรุณาเดินทางมาที่นี่เพื่อนของคุณจางเสี่ยวเหยาถูกคุมขังด้วยเหตุผลบางประการ“โอ”

ตอนนี้ลู่หมิงเก็ทแล้ว

แต่ว่า…

ใครคือจางเสี่ยวเหยาวะ?

ลู่หมิงไม่รู้จักใครที่ชื่อแบบนั้นสักคน

บางที่อาจเป็นเพื่อนที่เขาช่วยตอนอยู่ที่เหมืองไม่ก็ญาติจางเสี่ยวปังละมั้ง?

ลองไปดูก่อนละกันเผลอๆอาจเป็นสาวๆที่ชอบเขาก็เป็นได้เธอคงจะแอบเก็บเบอร์โทรของเขาไว้ขอความช่วยเหลือตอนที่เกิดอันตรายเหมือนอารมณ์ฮีโร่กับสาวสวยอะไรทำนองนั้นก็ได้

เยี่ยม…

บางทีอาจจะใช่ก็ได้นะเนี่ย!

ลู่หมิงเงยหน้าขึ้น“ฉันขอทราบก่อนได้ไหมว่าเธอก่ออาชญากรรมอะไร”

“อ่า…”

อีกฝ่ายหยุดชั่วขณะก่อนจะพูดว่า“ค้าประเวณี

ปีง

ลู่หมิงวางสายโทรศัพท์อย่างเด็ดเดี่ยว

“ฮัลโหลฮัลโหลฮัลโหลล?”

ตำรวจคนนั้นพูดไม่ออก

หลังจากผ่านไปสักพัก…

โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

หลังจากรับสายทั้งลู่หมิงและตำรวจต่างเงียบใส่กันเหลือเพียงเสียงลมหายใจเบาๆให้ได้ยินเท่านั้น

“ทำไมคุณถึงไม่ช่วยเหลือเธอล่ะ?”

อีกฝ่ายพูดด้วยความหมดหนทาง

ตอนนี้เขามีช่องทางติดต่อเพียงทางเดียวจริงๆ

“ก็ผมไม่รู้จริงๆว่าจางเสี่ยวเหยาคือ
ใคร”

ลู่หมิงถอนหายใจ

เขาคงไปช่วยเธอแล้วถ้ามันเป็นอาชญากรรมเบาๆประเภทอื่น…อ่าไม่นับฆ่าคนตายละกัน

แต่นี่ถึงขั้นค้าประเวณี?

TL:ต้องบอกก่อนว่าที่จีนมีกฎหมายควบคุมการค้าประเวณีค่อนข้างเข้มฉะนั้นมันเป็น Culture ของเขานะฮะไม่ได้แปลเพื่อเหยียดใครกลัวโดนดราม่า

ต้องล้อเล่นกันแน่ๆ!

หากเขาไปแล้วถูกโภัยมาว่าเป็น”พันธมิตรทางธุรกิจแล้วเขาจะทำยังไง?หากถูกถามว่ารู้จักกันได้ยังไงแล้วเธอตอบไปว่าคนนึงขายอีกคนลูกค้าหรอเหอๆแม้แต่หน้าเธอลู่หมิงยังไม่เคยเห็นเลย

ฉะนั้นเมื่อได้ยินคดีที่เธอก่อแล้วลู่หมิงจึงตัวสั่นด้วยความตกใจ
ช่วยกะผีสิ!

เขาไม่ไปแน่ๆไม่ว่ายังไงก็ตาม!

“เอาล่ะ”

อีกฝ่ายทำได้แค่ยอมแพ้เขาพึมพำ“เข้าใจละไอก้อนไขมันนี่กำลังโกหกอยู่สินะ…”

“???”

“เดี๋ยวก่อนนะ”

ลู่หมิงถามเขาอีกครั้ง“เมื่อกี้คุณพูดว่าก้อนไขมันเหรอ”
“ใช่”อีกฝ่ายตอบด้วยความมั่นใจ

ลู่หมิงพึมพำกับตัวเองครู่หนึ่งก่อนถามกลับ“จางเสี่ยวเหยาที่คุณพูดถึงคือไอ้อ้วนที่มีรูปร่างกลมเท่าลูกบอลขาสั้นอย่างกับหมาและสมองขนาดเท่าเล็บนิ้วก้อยรึเปล่า?”

“คุณรู้จักเขาหรอ?”

อีกฝ่ายตกใจ

ดูจากคำอธิบายก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือคนรู้จักแน่ๆ

“ถูกต้องหมดเลย!”

ลู่หมิงรู้สึกมึนงง

จางเสี่ยวเหยา?

นี่มันชื่อปลอมบ้าบออะไรกันอย่างกับชื่อผู้หญิง?

ไม่น่าใช่บางทีที่หมอนั่นอาจจะให้ทุกคนเรียกตัวเองว่าจางเสี่ยวปังซึ่งมันเป็นแค่ชื่อที่ตั้งขึ้นมาเอง!

จางเสี่ยวเหยาแลดูเป็นชื่อที่ไพเราะและงดงาม..

แต่ไหงหมอนี่ไปค้าประเวณีได้วะ…?ลู่หมิงปวดหัว

“ฉันจะไปทันที”

เขาวางสายโทรศัพท์และเตรียมจะออกไปสถานีตำรวจ

“อาจารย์กำลังจะออกไปข้างนอกอีก?”

เสียวไปกระพริบตาของเธอด้วยความสงสัย

“ใช่”

ลู่หมิงถอนหายใจก่อนพูดด้วยความเคร่งขรึม“อาจารย์ต้องไปช่วยหมาตัวนึงที่มันหลงทางน่ะเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+