Divine Card Creator 58

Now you are reading Divine Card Creator Chapter 58 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Divine Card Creator

ตอนที่ 58 เฝ้าประตู

ครึ่งชั่วโมงต่อมาลู่หมิงก็รีบไปที่สถานีตํารวจ

แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปข้างในจู่ๆก็ได้ยินเสียงคํารามของสิ่งมีชีวิตบางอย่างดังมาจากข้างใน

“ให้ฉันออกไป! พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันจะบอกให้ฉันเป็นเพื่อนของลู่หมิง!รู้หรือเปล่าว่าลู่หมิงคือใคร? เขาคือนักสร้างการ์ดที่ทะลวงดากนักอัญเชิญทุกคนจนไม่มีใครกล้าหือ!” จางเสี่ยวปังตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว

“หุบปาก!”

ด้วยความบังเอิญตํารวจที่สอบปากคําดันเป็นนักอัญเชิญพอดี ทําให้เธอตะคอกกลับด้วยความหัวเสีย “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ!ทะลวงดากนักอัญเชิญบ้าบออะไร! แน่จริงก็พาเข้ามาที่นี่สิ!ฉันไม่คิดว่า เขาจะกล้าทํามันกับฉั…”

“แค่กๆ” ลู่หมิงไอกลบเกลื่อนก่อนที่จะเดินเข้าไป

“นั่นใคร?”

ตํารวจหญิงจ้องเขาด้วยความดุร้าย

“ผมคือลู่หมิง” ลู่หมิงพูดเสียงเบา

ทั้งห้องเงียบสงัด

“จ่ายค่าปรับแล้วรีบพาเขาออกไปไกลๆ”

“อืม…ในเมื่อเขาเป็นเพื่อนของไอ้อ้วนนี่คนๆ นี้คงไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอนตํารวจหญิงคิดพร้อมมองลู่หมิงด้วยความอาฆาตก่อนจะปล่อยเขาออกไป

ลู่หมิงทําได้เพียงอดทนต่อการจ้องมองที่ไม่เป็นมิตรของเธอ ก่อนจะต้องจําใจจ่ายค่าปรับไป

เฮ้อ….โชคร้ายจริงๆ ที่ลู่หมิงน้อยนั้นไม่มีเพื่อนดีๆสักคนไม่งั้นฉันคงไม่ต้องวุ่นวายแบบนี้!

ตอนจ่ายค่าปรับตํารวจบอกเขามาว่าเรื่องเกิดเมื่อ 2 วันก่อน บังเอิญมีชาวบ้านแจ้งเข้ามาว่ามีการทําอนาจารเสียงดังในที่สาธารณะตลอดทั้งคืนซึ่งรบกวนคนละแวกนั้นอย่างมากมันทั้งเสียงดัง

ฟังชัดและกระแทกกระทั้นจนทําให้พวกเขาอดรนทนไม่ไหว

“พี่ลู่”

จางเสี่ยวปังเรียกเขาด้วยความเป็นอาย

“หุบปาก!”

ลู่หมิงไม่อยากจะสนทนาอะไรกับหมอนี่อีก

แม่*ง… นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาต้องเข้ามาสถานีตํารวจเพื่อประกันตัวผู้ชายขายน้ําแบบนี้!

ชีวิตแบบนี้มันนรกชัดๆ!

ระหว่างทางกลับทั้งคู่ต่างไม่ได้พูดอะไรออกมา

เมื่อพวกเขากลับถึงร้านลู่หมิงบอกให้เสี่ยวไปขึ้นไปสร้างการ์ดข้างบน ก่อนจะ เริ่มทําการสอบสวนสิ่งมีชีวิตทรงกลมที่อยู่ตรงหน้า

“อธิบายมาว่าเกิดอะไรขึ้น?” ลู่หมิงถามอย่างเย็นชา

ก่อนอื่นเลยคือเขาอยากรู้ว่าหมอนี่มันทําอะไรลงไปบ้าง!

“เอ่อ

จางเสี่ยวปังลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า “พี่ลู่พี่จะเชื่อไหมถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ขายตัว”

“เออ!”

ลู่หมิงไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว

“จริงหรือ?”

จางเสี่ยวปังรู้สึกประทับใจ

เขารู้อยู่แล้วว่ายังไงพี่ลู่ก็ต้องเชื่อใจเขาแน่นอน

“ฮ่าๆ เขาเชื่อใจฉัน ฉันจางเสี่ยวปังนับว่ายังมีเพื่อนแท้กับเขาอยู่ ฮ่าๆๆ

“เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่นายจะทํามันได้ทั้งคืน 5 วิก็ไปละมั้ง” ลู่หมิงใช้ตรรกะของตนในการวิเคราะห์

ตามที่ตํารวจบอก คนแถวนั้นได้ยินเสียงครางดังตลอดทั้งคืนซึ่งเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่กับคนอย่างจางเสี่ยวปังแน่ๆ หมอนี่กับตุ๊กตายางยังได้ไม่ถึงครึ่งนาทีเลย!

ฉะนั้นคําอธิบายนี้ย่อมเป็นช่องโหว่อย่างชัดเจนทําให้เขาสามารถหาข้อสรุปได้ทันทีว่าหมอนี่พูดความจริง

จางเสี่ยวปังเถียงไม่ออกแต่ก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง

“คือผมก็แค่ไปทําธุรกิจ

จางเสี่ยวปังพูดด้วยความสํานึกผิด

“โอ?”

ลู่หมิงอุทานด้วยความตกใจ “งั้นถ้านายไม่ได้ขายหรือว่าจะไปซื้อ?”

ใบหน้าของจางเสี่ยวปังเปลี่ยนเป็นสีดํา“พี่ลู่ๆอีกที่นึงผมจะเลิกเป็นเพื่อนพี่ละนะ”

“เหอะๆ งั้นบอกมา”

ลู่หมิงยิ้มเยาะ

ทําธุรกิจ…ด้วยการสร้างภาพลวงตาเป็นรูปฉันแต่งหญิงงั้นหรอ หึๆ?

“มีคนให้ผมสร้างการ์ดภาพลวงตาในราคา 8 พันหยวน ราคานี้รวมการปรับภาพลวงตาตามอารมณ์

จางเสี่ยวปังลูบหัวของตน “หลังจากนั้นพวกเขาก็ขอให้ผมสร้างภาพลวงตาตามภาพถ่ายใบนึ่งผมใช้เวลาสร้างนานมากแต่ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะ ม่จ่ายเงินให้ผมแต่คนพวกนั้นจ่ายผมเป็นผู้หญิงแทน! สุดท้ายผมเลยได้โควต้ามา 4 น้ํา!”

“มันทําให้ผมโกรธมาก!”
“ผมอยากได้เงิน 8 พันหยวน! เงินสุดตั้ง 8 พัน!”

จางเสี่ยวปังหงุดหงิด

เพราะท้ายที่สุด เขาใช้โควต้า 4 น้ํานั้นทั้งหมดภายในเวลา 12 วินาที่…ซึ่งแปลว่าตรรกะของลู่หมิงถูกต้องแล้ว

“หลังจากนั้นผมก็ภาพตัด รู้ตัวอีกทีผมก็นอนอยู่ในคุกแล้ว”จางเสี่ยวปังสํานึกผิด

ช่างเป็นเรื่องราวที่แฟนตาซีจริงๆ!

เทียบชีวิตของหมอนี่กับคนธรรมดาแล้วคงพูดได้แค่ว่าหมอนี่เป็นเพื่อนร่วมชั้นประเภทที่ทั้งหายากและพิลึกระดับตํานานจริงๆ!

ขนาดหมอนี่ยังเป็นแค่นักเรียนยังเบอร์

แล้วในอนาคต…

อ่า ช่างมันเถอะ

“เฮ้อ ทําไมฉันต้องมาวุ่นวายกับเรื่องปัญญาอ่อนที่หมอนี่ก่อด้วยวะ! นี่มันบทเรียนราคาแพงหูฉีเลย

หลังจากพิจารณาไปสักพักลู่หมิงก็เริ่มไล่เรียงเหตุการณ์ได้

จริงอยู่ที่ภาพลวงตาถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือจางเสี่ยวปัง!

แต่ตัวบงการจริงนั้นคือคนที่ไม่ยอมจ่ายตังค์ไอเอ่อคนนี้แถมยังส่งมันเข้าคุกอีกต่างหาก

เหอะๆ แก๊งพวกนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะเนี่ย

ลู่หมิงถอนหายใจ ก่อนตัดสินใจโทรหาจางเหว่ยตํารวจประจําสถานี

จากข้อมูลที่ได้มา ผู้หญิงคนที่ถูกจับพร้อมกับจางเสี่ยวปังได้รับการปล่อยตัวหลังจากจ่ายค่าปรับ 5 ร้อยหยวนไปแล้วแถมยังได้ยินมาว่าตอนถูกจับเธอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาทําให้ตํารวจไม่มี ทางเลือกแล้วได้แต่คิดค่าปรับถูกๆไป

เฮ้อ…แล้วดูจางเสี่ยวปังหมอนี่ทําให้เขาต้องเสียเงินมากถึง 8 พันหยวนซึ่งเมื่อเทียบกับ 5 ร้อยหยวนของผู้หญิงคนนั้นมันต่างกันถึง 16 เท่า!

“จางเสี่ยวปัง แล้วนายไปรู้จักคนพวกนั้นได้ยังไง?” ลู่หมิงถาม

“เอ่อ…”

จางเสี่ยวปังกําลังจะพูดแต่ก็ลังเล

“ถ้านายไม่พูด ฉันจะให้นายกลับไปนอนในคุกอีกรอบ” ลู่หมิงพูดยิ้มๆ

“โอ้ๆ วันนั้นผมบังเอิญเดินผ่านโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งแล้วบังเอิญไปเจอ ใบปลิวแถวทางเข้าน่ะ แล้วจู่ๆผมก็เหมือนถูกผีเข้าตัดสินใจโทรตามเบอร์ไปซะเฉยๆเลย!”จางเสี่ยวปังพูดน้ําไหลไฟดับ

ลู่หมิงมองบน

บังเอิญไปโรงแรมม่านรูด… จู่ๆก็เหมือนโดนผีเข้า…

ดูสิ หมอนี่ให้การเลี่ยงบาลีได้ยอดเยี่ยมขนาดไหน!

“หลังจากนั้นผมก็พบว่ามาตรฐานภาพลวงตาของพวกเขาต่ําไปหน่อยผมเลยช่วยเติมเทคนิคของผมลงไปซึ่งทําให้คนพวกนั้นรู้สึกว่าฟังก์ชั่น ‘การเปลี่ยนแปลงระดับความต้องการทางเพศ’ ของผม มันน่าทึ่งมาก ดังนั้นพวกเขาจึงให้เบอร์โทรติดต่อกับผมน่ะ”พูดเสร็จจางเสี่ยวปังก็เกาหัวของตนด้วยความเขินๆ

“…เอาล่ะ ก่อนอื่นจ่ายค่าปรับที่ฉันเสียไปมาก่อน”ลู่หมิงยื่นมือออกมากรัก

แน่นอนว่าเขาไม่มีทางช่วยไอปัญญานิ่มคนนี้ฟรีๆ อยู่แล้ว

“ตอนนี้ผมมีเงินแค่ 2 พันหยวน..”

จางเสี่ยวปังนับเงินของตนด้วยความสลด “เดี่ยวที่เหลือผมจ่ายพี่ทีหลังละกัน”

ปิบ –

“จํานวนเงินไม่เพียงพอ ปรากฏขึ้นบนหน้าจอของอ้วนจาง

“เอ๋ ฉันจําได้ว่ามีเงินประมาณ 2 พันหยวนอยู่นี่หน่า” จางเสี่ยวปังอุทานด้วยความแปลกใจ

“เหอะๆ” ลู่หมิงหัวเราะเยาะ

“บอกที่อยู่ของคนพวกนั้นมาแล้วฉันจะติดต่ออาจารย์ใหญ่ให้อีกที เดี๋ยวมาดูกันอีกทีว่าเราจะจัดการเรื่องนี้กันเองได้รึเปล่าไม่อย่างนั้นทุกคนคงต้องเดือดร้อนเพราะนายแล้ว”

“โอเค”

จางเสี่ยวปังให้ที่อยู่กับลู่หมิงก่อนกล่าวว่า

“ผมอยากบ่มเพาะ!”

จางเสี่ยวป้งพูดด้วยความจริงจังแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน“ผมต้องการพลัง!”

โชคดีที่คราวนี้เขาเจอแค่แก๊งต้มตุนง่อยๆ ทําให้แค่โดนหลอกเงินแล้วก็ติดคุกสถานเบาแต่ถ้าคราวหน้าไปเจอองค์ กรลับแล้วไปล่วงรู้ความลับบางอย่างเข้าล่ะ …

เขาอาจจะตายจริงๆ ก็ได้!

ไม่มีทางๆ คนอย่างฉัน จางเสียวยังไม่ยอมตายง่ายๆ แน่!

สําหรับจางเสี่ยวปังที่ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนพอได้ประสบกาณ์คราวนี้จึงจําไม่รู้ลืม

เมื่อพูดจบ…เขาก็ก้าวออกไปด้วยความหนักแน่น

เรื่องนี้ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อหมอนี่เป็นอย่างมาก…” ลู่หมิงคิดในใจ

“เสี่ยวไป บันทึกลงในบัญชีว่าเขาเป็นหนี้ค่าปรับพวกเรา 5 พันหยวน” ลู่หมิงเตือนเธอ

“ค่ะ อาจารย์!”

เสี่ยวไปจดบันทึกลงในบัญชีอย่างละเอียด

ขี้เหนียวแบบนี้สิถึงสมกับเป็นลูกศิษย์ ฉัน! ลู่หมิงปลาบปลื้ม

พอจางเสี่ยวปังได้ยิน….จากเดิมที่เดินออกไปเท่ๆ ก็รีบวิ่งหนีออกไปทันทีก่อนจะบ่นออกมาเบาๆโคตรซึ้งกทั้งคู่

แต่ด้วยน้ําหนักเกือบ 150 กิโลกรัมมันเลยทําให้ดูราวกับแพนด้ากําลังกลิ้งบนลานหิน

หลังจากนั้น…สายตาของลู่หมิงหมุนวนกลับมาจับจ้องไปยังที่อยู่ในมือของเขา

“พวกแกคือรายต่อไป” เขาจ้องมองมันด้วยความเย็นชา
อยากรู้จริงๆว่าไอโง่ที่ตัวไหนที่กล้าถ่ายรูปเขาไป?!

ในเขตชานเมือง

ลู่หมิงพบสถานที่แห่งนี้ตามที่อยู่

มันคือย่านการค้าที่ดูค่อนข้างเปลี่ยวซึ่งเต็มไปด้วยหอพักโทรมๆ
ตึกเก่าๆ กล้องวงจรปิดที่ชํารุดและห้องน้ําสาธารณะที่เหมือนไม่ได้ทําความสะอาดมา 10 ปี

มันคือศูนย์รวมอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครจัดการลงได้จนสถานที่แห่งนี้ค่อยๆกลายเป็นย่านการค้าด้วยตัวของมันเอง

“ทางนี้สินะ”

ลู่หมิงค่อยๆ เดินต่อไปเรื่อย

เมื่อเลี้ยวมาถึงมุมหนึ่งของถนน ลู่หมิงก็พบกับวิลล่าหรูสีขาวขนาดใหญ่ท่ามกลางแหล่งอโคจรพวกนี้

โอ้โห้ คนพวกนี้รวยกันขนาดนั้นเลยเรอะ?
อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงธุรกิจภาพลวงตาพวกนั้นแล้วยังไงก็ต้องยอมรับว่าน่าจะทํากําไรได้อื้อซ่าจริงๆ

ธุรกิจพวกนี้ทําแปปเดียวก็โตระเบิด!

ที่หน้าประตูบ้านมีบอดี้การ์ดที่ดูแข็งแกร่ง 2 คนยืนอยู่
ส่วนข้างในนั้น…

จะไปรู้ได้ไงก็ยังไม่ได้เข้าไปเลย

ถ้าอีกฝ่ายมีแค่ 2 คนและเป็นผู้บ่มเพาะที่ระดับไม่เกิน 2 ลู่หมิงก็จัดการได้สบายๆ

แต่ปัญหาคือ…

จํานวนคน – ไม่รู้

ระดับการบ่มเพาะ – ก็ไม่รู้อีก

โดยทั่วไปปัญหาพวกนี้จะถูกแก้ไขโดยคนที่มีความสามารถพิเศษประเภทการมองเห็นหรือการ์ดที่คล้ายๆกันซึ่งกรณีแรกเป็นไปไม่ได้เพราะลู่หมิงมาคนเดียวส่วนข้อหลังก็แพงหูฉีแถมยังไม่มี ประสิทธิภาพมากนัก

แน่นอนว่าตอนนี้ลู่หมิงไม่มีมันจึงได้แต่ลองสอดแนมดูเอง

หลังจากสังเกตอยู่สักพักลู่หมิงก็พบอาคารร้างใกล้ๆ

ประเมินจากตําแหน่งของมันแล้ว …

ใช้ได้อยู่…

น่าจะพอซ่อนตัวได้ เหมาะจะใช้งานมาก!

และขณะที่บอดี้การ์ด 2 คนนั้นหันไปคุยกับลู่หมิงก็โยนการ์ดที่มีออกไปโดยไม่ลังเล!

มออออออออ –

เกิดเสียงคํารามอึกทึกดังขึ้น

ทันใดนั้นกระทิงจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นท่วมท้องฟ้า

“นี่มันบ้าอะไรวะ?”

บอดี้การ์ดมองขึ้นไปบนฟ้าการแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที

ฝูงกระทิงจํานวนมากขนาดนี้มันมาจากไหนกัน?

“หยุดพวกมันซะ!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งตะโกน

ดูจากทรงแล้วแม้จะมีกระทิงอยู่จํานว นมากแต่มันก็ดูไม่ค่อยแข็งแกร่งนักด้วยความสามารถของพวกเขาย่อมน่าจะพอหยุดฝูงกระทิงเหล่านี้ได้อยู่

บอดี้การ์ดทั้งคู่เอาร่างเข้าขวาง

ปัง!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น

กระทิงที่พุ่งเข้ามาอย่างดุร้ายหยุดชะงักลงในทันที

“พอจะกันได้อยู่!”

บอดี้การ์ดพูดด้วยความยินดี

“กดปุ่มฉุกเฉินก่อนเร็วเข้า”

บอดี้การ์ดอีกคนลุกขึ้นอย่างใจเย็นพร้อมหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมา “พบศัตรูการโจมตีครั้งแรกถูกป้องกันเอาไว้ได้แล้…”

ก่อนที่พวกเขาจะพูดจบ ก็ต้องตกตะลึงในทันที

เพราะเบื้องหลังพวกเขา…เหลือเพียงประตูโกร่นๆ อยู่บานเดียว

ประตูหลักของวิลล่านั้นยังคงอยู่ดีภายใต้การคุ้มครองของทั้ง 2 คน แต่กําแพงข้างๆน่ะโดนแรงกระแทกจากกระทิงคลั่งถล่มเละไปหมดแล้ว

บอดี้การ์ดต่างก็อึ้ง

นี่มันอะไรกัน?

ในขณะเดียวกันนี้เอง…

กลุ่มคนหน้าตาน่ากลัวจํานวนมากก็เดินออกมาจากวิลล่า แต่ใบหน้าของพวกเขาเหวอไปทันทีเมื่อเห็นฉากดังกล่าว

ชายคนหนึ่งในกลุ่มไล่เตะบอดี้การ์ดที่เฝ้าประตูอยู่ก่อนจะด่ากราด

“ฉันสั่งให้พวกแกสองคนเฝ้าประตู!”

“ฉันสั่งให้พวกแกเฝ้าประตู!”

“แล้วพวกแกสองคนก็เฝ้าแต่ประตู?!”

“ส่วนกําแพง พวกแกก็ปล่อยมันพัง
ยับ?”

“เยี่ยมจริงๆ ฉลาดมาก พวกแกทําหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบสุดๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Divine Card Creator 58

Now you are reading Divine Card Creator Chapter 58 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Divine Card Creator

ตอนที่ 58 เฝ้าประตู

ครึ่งชั่วโมงต่อมาลู่หมิงก็รีบไปที่สถานีตํารวจ

แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปข้างในจู่ๆก็ได้ยินเสียงคํารามของสิ่งมีชีวิตบางอย่างดังมาจากข้างใน

“ให้ฉันออกไป! พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันจะบอกให้ฉันเป็นเพื่อนของลู่หมิง!รู้หรือเปล่าว่าลู่หมิงคือใคร? เขาคือนักสร้างการ์ดที่ทะลวงดากนักอัญเชิญทุกคนจนไม่มีใครกล้าหือ!” จางเสี่ยวปังตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว

“หุบปาก!”

ด้วยความบังเอิญตํารวจที่สอบปากคําดันเป็นนักอัญเชิญพอดี ทําให้เธอตะคอกกลับด้วยความหัวเสีย “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ!ทะลวงดากนักอัญเชิญบ้าบออะไร! แน่จริงก็พาเข้ามาที่นี่สิ!ฉันไม่คิดว่า เขาจะกล้าทํามันกับฉั…”

“แค่กๆ” ลู่หมิงไอกลบเกลื่อนก่อนที่จะเดินเข้าไป

“นั่นใคร?”

ตํารวจหญิงจ้องเขาด้วยความดุร้าย

“ผมคือลู่หมิง” ลู่หมิงพูดเสียงเบา

ทั้งห้องเงียบสงัด

“จ่ายค่าปรับแล้วรีบพาเขาออกไปไกลๆ”

“อืม…ในเมื่อเขาเป็นเพื่อนของไอ้อ้วนนี่คนๆ นี้คงไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอนตํารวจหญิงคิดพร้อมมองลู่หมิงด้วยความอาฆาตก่อนจะปล่อยเขาออกไป

ลู่หมิงทําได้เพียงอดทนต่อการจ้องมองที่ไม่เป็นมิตรของเธอ ก่อนจะต้องจําใจจ่ายค่าปรับไป

เฮ้อ….โชคร้ายจริงๆ ที่ลู่หมิงน้อยนั้นไม่มีเพื่อนดีๆสักคนไม่งั้นฉันคงไม่ต้องวุ่นวายแบบนี้!

ตอนจ่ายค่าปรับตํารวจบอกเขามาว่าเรื่องเกิดเมื่อ 2 วันก่อน บังเอิญมีชาวบ้านแจ้งเข้ามาว่ามีการทําอนาจารเสียงดังในที่สาธารณะตลอดทั้งคืนซึ่งรบกวนคนละแวกนั้นอย่างมากมันทั้งเสียงดัง

ฟังชัดและกระแทกกระทั้นจนทําให้พวกเขาอดรนทนไม่ไหว

“พี่ลู่”

จางเสี่ยวปังเรียกเขาด้วยความเป็นอาย

“หุบปาก!”

ลู่หมิงไม่อยากจะสนทนาอะไรกับหมอนี่อีก

แม่*ง… นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาต้องเข้ามาสถานีตํารวจเพื่อประกันตัวผู้ชายขายน้ําแบบนี้!

ชีวิตแบบนี้มันนรกชัดๆ!

ระหว่างทางกลับทั้งคู่ต่างไม่ได้พูดอะไรออกมา

เมื่อพวกเขากลับถึงร้านลู่หมิงบอกให้เสี่ยวไปขึ้นไปสร้างการ์ดข้างบน ก่อนจะ เริ่มทําการสอบสวนสิ่งมีชีวิตทรงกลมที่อยู่ตรงหน้า

“อธิบายมาว่าเกิดอะไรขึ้น?” ลู่หมิงถามอย่างเย็นชา

ก่อนอื่นเลยคือเขาอยากรู้ว่าหมอนี่มันทําอะไรลงไปบ้าง!

“เอ่อ

จางเสี่ยวปังลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า “พี่ลู่พี่จะเชื่อไหมถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ขายตัว”

“เออ!”

ลู่หมิงไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว

“จริงหรือ?”

จางเสี่ยวปังรู้สึกประทับใจ

เขารู้อยู่แล้วว่ายังไงพี่ลู่ก็ต้องเชื่อใจเขาแน่นอน

“ฮ่าๆ เขาเชื่อใจฉัน ฉันจางเสี่ยวปังนับว่ายังมีเพื่อนแท้กับเขาอยู่ ฮ่าๆๆ

“เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่นายจะทํามันได้ทั้งคืน 5 วิก็ไปละมั้ง” ลู่หมิงใช้ตรรกะของตนในการวิเคราะห์

ตามที่ตํารวจบอก คนแถวนั้นได้ยินเสียงครางดังตลอดทั้งคืนซึ่งเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่กับคนอย่างจางเสี่ยวปังแน่ๆ หมอนี่กับตุ๊กตายางยังได้ไม่ถึงครึ่งนาทีเลย!

ฉะนั้นคําอธิบายนี้ย่อมเป็นช่องโหว่อย่างชัดเจนทําให้เขาสามารถหาข้อสรุปได้ทันทีว่าหมอนี่พูดความจริง

จางเสี่ยวปังเถียงไม่ออกแต่ก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง

“คือผมก็แค่ไปทําธุรกิจ

จางเสี่ยวปังพูดด้วยความสํานึกผิด

“โอ?”

ลู่หมิงอุทานด้วยความตกใจ “งั้นถ้านายไม่ได้ขายหรือว่าจะไปซื้อ?”

ใบหน้าของจางเสี่ยวปังเปลี่ยนเป็นสีดํา“พี่ลู่ๆอีกที่นึงผมจะเลิกเป็นเพื่อนพี่ละนะ”

“เหอะๆ งั้นบอกมา”

ลู่หมิงยิ้มเยาะ

ทําธุรกิจ…ด้วยการสร้างภาพลวงตาเป็นรูปฉันแต่งหญิงงั้นหรอ หึๆ?

“มีคนให้ผมสร้างการ์ดภาพลวงตาในราคา 8 พันหยวน ราคานี้รวมการปรับภาพลวงตาตามอารมณ์

จางเสี่ยวปังลูบหัวของตน “หลังจากนั้นพวกเขาก็ขอให้ผมสร้างภาพลวงตาตามภาพถ่ายใบนึ่งผมใช้เวลาสร้างนานมากแต่ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะ ม่จ่ายเงินให้ผมแต่คนพวกนั้นจ่ายผมเป็นผู้หญิงแทน! สุดท้ายผมเลยได้โควต้ามา 4 น้ํา!”

“มันทําให้ผมโกรธมาก!”
“ผมอยากได้เงิน 8 พันหยวน! เงินสุดตั้ง 8 พัน!”

จางเสี่ยวปังหงุดหงิด

เพราะท้ายที่สุด เขาใช้โควต้า 4 น้ํานั้นทั้งหมดภายในเวลา 12 วินาที่…ซึ่งแปลว่าตรรกะของลู่หมิงถูกต้องแล้ว

“หลังจากนั้นผมก็ภาพตัด รู้ตัวอีกทีผมก็นอนอยู่ในคุกแล้ว”จางเสี่ยวปังสํานึกผิด

ช่างเป็นเรื่องราวที่แฟนตาซีจริงๆ!

เทียบชีวิตของหมอนี่กับคนธรรมดาแล้วคงพูดได้แค่ว่าหมอนี่เป็นเพื่อนร่วมชั้นประเภทที่ทั้งหายากและพิลึกระดับตํานานจริงๆ!

ขนาดหมอนี่ยังเป็นแค่นักเรียนยังเบอร์

แล้วในอนาคต…

อ่า ช่างมันเถอะ

“เฮ้อ ทําไมฉันต้องมาวุ่นวายกับเรื่องปัญญาอ่อนที่หมอนี่ก่อด้วยวะ! นี่มันบทเรียนราคาแพงหูฉีเลย

หลังจากพิจารณาไปสักพักลู่หมิงก็เริ่มไล่เรียงเหตุการณ์ได้

จริงอยู่ที่ภาพลวงตาถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือจางเสี่ยวปัง!

แต่ตัวบงการจริงนั้นคือคนที่ไม่ยอมจ่ายตังค์ไอเอ่อคนนี้แถมยังส่งมันเข้าคุกอีกต่างหาก

เหอะๆ แก๊งพวกนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะเนี่ย

ลู่หมิงถอนหายใจ ก่อนตัดสินใจโทรหาจางเหว่ยตํารวจประจําสถานี

จากข้อมูลที่ได้มา ผู้หญิงคนที่ถูกจับพร้อมกับจางเสี่ยวปังได้รับการปล่อยตัวหลังจากจ่ายค่าปรับ 5 ร้อยหยวนไปแล้วแถมยังได้ยินมาว่าตอนถูกจับเธอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาทําให้ตํารวจไม่มี ทางเลือกแล้วได้แต่คิดค่าปรับถูกๆไป

เฮ้อ…แล้วดูจางเสี่ยวปังหมอนี่ทําให้เขาต้องเสียเงินมากถึง 8 พันหยวนซึ่งเมื่อเทียบกับ 5 ร้อยหยวนของผู้หญิงคนนั้นมันต่างกันถึง 16 เท่า!

“จางเสี่ยวปัง แล้วนายไปรู้จักคนพวกนั้นได้ยังไง?” ลู่หมิงถาม

“เอ่อ…”

จางเสี่ยวปังกําลังจะพูดแต่ก็ลังเล

“ถ้านายไม่พูด ฉันจะให้นายกลับไปนอนในคุกอีกรอบ” ลู่หมิงพูดยิ้มๆ

“โอ้ๆ วันนั้นผมบังเอิญเดินผ่านโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งแล้วบังเอิญไปเจอ ใบปลิวแถวทางเข้าน่ะ แล้วจู่ๆผมก็เหมือนถูกผีเข้าตัดสินใจโทรตามเบอร์ไปซะเฉยๆเลย!”จางเสี่ยวปังพูดน้ําไหลไฟดับ

ลู่หมิงมองบน

บังเอิญไปโรงแรมม่านรูด… จู่ๆก็เหมือนโดนผีเข้า…

ดูสิ หมอนี่ให้การเลี่ยงบาลีได้ยอดเยี่ยมขนาดไหน!

“หลังจากนั้นผมก็พบว่ามาตรฐานภาพลวงตาของพวกเขาต่ําไปหน่อยผมเลยช่วยเติมเทคนิคของผมลงไปซึ่งทําให้คนพวกนั้นรู้สึกว่าฟังก์ชั่น ‘การเปลี่ยนแปลงระดับความต้องการทางเพศ’ ของผม มันน่าทึ่งมาก ดังนั้นพวกเขาจึงให้เบอร์โทรติดต่อกับผมน่ะ”พูดเสร็จจางเสี่ยวปังก็เกาหัวของตนด้วยความเขินๆ

“…เอาล่ะ ก่อนอื่นจ่ายค่าปรับที่ฉันเสียไปมาก่อน”ลู่หมิงยื่นมือออกมากรัก

แน่นอนว่าเขาไม่มีทางช่วยไอปัญญานิ่มคนนี้ฟรีๆ อยู่แล้ว

“ตอนนี้ผมมีเงินแค่ 2 พันหยวน..”

จางเสี่ยวปังนับเงินของตนด้วยความสลด “เดี่ยวที่เหลือผมจ่ายพี่ทีหลังละกัน”

ปิบ –

“จํานวนเงินไม่เพียงพอ ปรากฏขึ้นบนหน้าจอของอ้วนจาง

“เอ๋ ฉันจําได้ว่ามีเงินประมาณ 2 พันหยวนอยู่นี่หน่า” จางเสี่ยวปังอุทานด้วยความแปลกใจ

“เหอะๆ” ลู่หมิงหัวเราะเยาะ

“บอกที่อยู่ของคนพวกนั้นมาแล้วฉันจะติดต่ออาจารย์ใหญ่ให้อีกที เดี๋ยวมาดูกันอีกทีว่าเราจะจัดการเรื่องนี้กันเองได้รึเปล่าไม่อย่างนั้นทุกคนคงต้องเดือดร้อนเพราะนายแล้ว”

“โอเค”

จางเสี่ยวปังให้ที่อยู่กับลู่หมิงก่อนกล่าวว่า

“ผมอยากบ่มเพาะ!”

จางเสี่ยวป้งพูดด้วยความจริงจังแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน“ผมต้องการพลัง!”

โชคดีที่คราวนี้เขาเจอแค่แก๊งต้มตุนง่อยๆ ทําให้แค่โดนหลอกเงินแล้วก็ติดคุกสถานเบาแต่ถ้าคราวหน้าไปเจอองค์ กรลับแล้วไปล่วงรู้ความลับบางอย่างเข้าล่ะ …

เขาอาจจะตายจริงๆ ก็ได้!

ไม่มีทางๆ คนอย่างฉัน จางเสียวยังไม่ยอมตายง่ายๆ แน่!

สําหรับจางเสี่ยวปังที่ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนพอได้ประสบกาณ์คราวนี้จึงจําไม่รู้ลืม

เมื่อพูดจบ…เขาก็ก้าวออกไปด้วยความหนักแน่น

เรื่องนี้ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อหมอนี่เป็นอย่างมาก…” ลู่หมิงคิดในใจ

“เสี่ยวไป บันทึกลงในบัญชีว่าเขาเป็นหนี้ค่าปรับพวกเรา 5 พันหยวน” ลู่หมิงเตือนเธอ

“ค่ะ อาจารย์!”

เสี่ยวไปจดบันทึกลงในบัญชีอย่างละเอียด

ขี้เหนียวแบบนี้สิถึงสมกับเป็นลูกศิษย์ ฉัน! ลู่หมิงปลาบปลื้ม

พอจางเสี่ยวปังได้ยิน….จากเดิมที่เดินออกไปเท่ๆ ก็รีบวิ่งหนีออกไปทันทีก่อนจะบ่นออกมาเบาๆโคตรซึ้งกทั้งคู่

แต่ด้วยน้ําหนักเกือบ 150 กิโลกรัมมันเลยทําให้ดูราวกับแพนด้ากําลังกลิ้งบนลานหิน

หลังจากนั้น…สายตาของลู่หมิงหมุนวนกลับมาจับจ้องไปยังที่อยู่ในมือของเขา

“พวกแกคือรายต่อไป” เขาจ้องมองมันด้วยความเย็นชา
อยากรู้จริงๆว่าไอโง่ที่ตัวไหนที่กล้าถ่ายรูปเขาไป?!

ในเขตชานเมือง

ลู่หมิงพบสถานที่แห่งนี้ตามที่อยู่

มันคือย่านการค้าที่ดูค่อนข้างเปลี่ยวซึ่งเต็มไปด้วยหอพักโทรมๆ
ตึกเก่าๆ กล้องวงจรปิดที่ชํารุดและห้องน้ําสาธารณะที่เหมือนไม่ได้ทําความสะอาดมา 10 ปี

มันคือศูนย์รวมอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครจัดการลงได้จนสถานที่แห่งนี้ค่อยๆกลายเป็นย่านการค้าด้วยตัวของมันเอง

“ทางนี้สินะ”

ลู่หมิงค่อยๆ เดินต่อไปเรื่อย

เมื่อเลี้ยวมาถึงมุมหนึ่งของถนน ลู่หมิงก็พบกับวิลล่าหรูสีขาวขนาดใหญ่ท่ามกลางแหล่งอโคจรพวกนี้

โอ้โห้ คนพวกนี้รวยกันขนาดนั้นเลยเรอะ?
อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงธุรกิจภาพลวงตาพวกนั้นแล้วยังไงก็ต้องยอมรับว่าน่าจะทํากําไรได้อื้อซ่าจริงๆ

ธุรกิจพวกนี้ทําแปปเดียวก็โตระเบิด!

ที่หน้าประตูบ้านมีบอดี้การ์ดที่ดูแข็งแกร่ง 2 คนยืนอยู่
ส่วนข้างในนั้น…

จะไปรู้ได้ไงก็ยังไม่ได้เข้าไปเลย

ถ้าอีกฝ่ายมีแค่ 2 คนและเป็นผู้บ่มเพาะที่ระดับไม่เกิน 2 ลู่หมิงก็จัดการได้สบายๆ

แต่ปัญหาคือ…

จํานวนคน – ไม่รู้

ระดับการบ่มเพาะ – ก็ไม่รู้อีก

โดยทั่วไปปัญหาพวกนี้จะถูกแก้ไขโดยคนที่มีความสามารถพิเศษประเภทการมองเห็นหรือการ์ดที่คล้ายๆกันซึ่งกรณีแรกเป็นไปไม่ได้เพราะลู่หมิงมาคนเดียวส่วนข้อหลังก็แพงหูฉีแถมยังไม่มี ประสิทธิภาพมากนัก

แน่นอนว่าตอนนี้ลู่หมิงไม่มีมันจึงได้แต่ลองสอดแนมดูเอง

หลังจากสังเกตอยู่สักพักลู่หมิงก็พบอาคารร้างใกล้ๆ

ประเมินจากตําแหน่งของมันแล้ว …

ใช้ได้อยู่…

น่าจะพอซ่อนตัวได้ เหมาะจะใช้งานมาก!

และขณะที่บอดี้การ์ด 2 คนนั้นหันไปคุยกับลู่หมิงก็โยนการ์ดที่มีออกไปโดยไม่ลังเล!

มออออออออ –

เกิดเสียงคํารามอึกทึกดังขึ้น

ทันใดนั้นกระทิงจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นท่วมท้องฟ้า

“นี่มันบ้าอะไรวะ?”

บอดี้การ์ดมองขึ้นไปบนฟ้าการแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที

ฝูงกระทิงจํานวนมากขนาดนี้มันมาจากไหนกัน?

“หยุดพวกมันซะ!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งตะโกน

ดูจากทรงแล้วแม้จะมีกระทิงอยู่จํานว นมากแต่มันก็ดูไม่ค่อยแข็งแกร่งนักด้วยความสามารถของพวกเขาย่อมน่าจะพอหยุดฝูงกระทิงเหล่านี้ได้อยู่

บอดี้การ์ดทั้งคู่เอาร่างเข้าขวาง

ปัง!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น

กระทิงที่พุ่งเข้ามาอย่างดุร้ายหยุดชะงักลงในทันที

“พอจะกันได้อยู่!”

บอดี้การ์ดพูดด้วยความยินดี

“กดปุ่มฉุกเฉินก่อนเร็วเข้า”

บอดี้การ์ดอีกคนลุกขึ้นอย่างใจเย็นพร้อมหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมา “พบศัตรูการโจมตีครั้งแรกถูกป้องกันเอาไว้ได้แล้…”

ก่อนที่พวกเขาจะพูดจบ ก็ต้องตกตะลึงในทันที

เพราะเบื้องหลังพวกเขา…เหลือเพียงประตูโกร่นๆ อยู่บานเดียว

ประตูหลักของวิลล่านั้นยังคงอยู่ดีภายใต้การคุ้มครองของทั้ง 2 คน แต่กําแพงข้างๆน่ะโดนแรงกระแทกจากกระทิงคลั่งถล่มเละไปหมดแล้ว

บอดี้การ์ดต่างก็อึ้ง

นี่มันอะไรกัน?

ในขณะเดียวกันนี้เอง…

กลุ่มคนหน้าตาน่ากลัวจํานวนมากก็เดินออกมาจากวิลล่า แต่ใบหน้าของพวกเขาเหวอไปทันทีเมื่อเห็นฉากดังกล่าว

ชายคนหนึ่งในกลุ่มไล่เตะบอดี้การ์ดที่เฝ้าประตูอยู่ก่อนจะด่ากราด

“ฉันสั่งให้พวกแกสองคนเฝ้าประตู!”

“ฉันสั่งให้พวกแกเฝ้าประตู!”

“แล้วพวกแกสองคนก็เฝ้าแต่ประตู?!”

“ส่วนกําแพง พวกแกก็ปล่อยมันพัง
ยับ?”

“เยี่ยมจริงๆ ฉลาดมาก พวกแกทําหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบสุดๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+