Divine King of All Directions 1321

Now you are reading Divine King of All Directions Chapter 1321 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อมองไปยังศิลาตรงหน้านี้และตัวอักษรทุกตัวแล้วเขาได้แต่ผงะไปเพราะว่านี่คือรายชื่อของทุกเขตแดนในเส้นทางบ่มเพาะแล้วนี่จะไม่ให้เขาตกตะลึงได้อย่างไรกัน ?
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเส้นทางบ่มเพาะของผู้คนจะลึกล้ำได้ขนาดนี้
บ่มเพาะกว่าหลายสิบปีจนถึงเขตแดนจ้าวสวรรค์ทว่ากลับยังไม่ถึงครึ่งของเส้นทางที่แท้จริงเลยด้วยซ้ำ
“ใครเป็นผู้ที่จาลึกมันเอาไว้กัน ?! ”
ดวงตาของเขาหดเล็กลงอย่างมาก
การที่สามารถจาลึกสิ่งเหล่านี้เอาไว้ได้นั้นอย่างน้อยๆก็แสดงให้เห็นแล้วว่าอีกฝ่ายต้องอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิแห่งทวยเทพและเขาเองก็ยังคิดไปถึงเรื่องที่ว่าเขตแดนทั้งหมดที่มีอยู่นั้นเป็นยิ่งที่คนๆนี้ได้บัญญัติขึ้น
“นี่…..”
เขาแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงถึงขีดสุดออกมา
เป็นเพราะว่าศิลาจาลึกแห่งนี้มันอัดแน่นไปด้วยโลกแห่งการบ่มเพาะ !
เมื่ออยู่ต่อหน้ามันแล้วก็อดทำให้เขาแข็งค้างไปไม่ได้
ผู้ที่สลักมันเอาไว้จะต้องอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิแห่งทวยเทพอย่างแน่นอนและอาจจะเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางการบ่มเพาะทั้งหลายด้วยตัวเองแล้วจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ? ยิ่งไปกว่านั้นมันยังถูกตั้งเอาไว้ที่สวรรค์ชั้นที่ 10 นี้ก็แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนจากสวรรค์สิบชั้น ?!
เมื่อคิดได้ถึงจุดนี้แล้วเขาก็อดผงะไปไม่ได้
นี่โลกของเขามี……..ตัวตนระดับนี้ด้วย ?!
“บึ้สส ~! ”
มันเป็นตอนนี้เองที่ประกายแสงเจ็ดสีภายในทะเลความรู้ได้ถูกส่งออกมาขณะที่กระบี่เทวะสั่นไหวเล็กน้อยพร้อมทั้งชี้นำเขาไปยังศิลาด้านหน้า
สีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไปก่อนที่จะผงะไปครู่หนึ่งแล้วก้าวเดินออกไป
เมื่อเข้าใกล้มันแล้วเขาสัมผัสได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่อย่างมากแถมยังมีแรงกดดันที่น่าเกรงขามไม่ต่างจากอสูรเก่าแก่ที่ทำให้จิตใจของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
กระบี่เทวะภายในทะเลความรู้ของเขาได้สั่นไหวเล็กน้อยจนถึงช่วงที่เขาเข้าใกล้มันและอดยื่นมือออกไปสัมผัสไม่ได้ก่อนที่ร่างกายของเขาจะสั่นสะท้านไปอย่างรุนแรงไม่ต่างกับการถูกกระแสไฟฟ้าช็อต
มันเป็นตอนนี้เองที่ตัวอักษรทั้งหลายได้ส่องประกายขึ้นมาเสมือนว่ากลับมามีชีวิต
หลินเทียนได้ชะงักไปเพราะว่าประกายแสงอันเข้มข้นเหล่านี้มันทรงพลังถึงขั้นที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาขณะที่มิติโดยรอบเริ่มบิดตัวอย่างรุนแรง
อักษรทั้งหลายที่กำลังส่องประกายอยู่นี้ทำให้เขาไม่สามารถถอนมือขวาที่กำลังแตะมันอยู่กลับมาได้
“บึ้สส ~!! ”
ประกายแสงอันเข้มข้นได้บิดอากาศโดยรอบพร้อมทั้งสร้างระลอกคลื่นกระจายตัวออกไป
หลังจากนั้นเองที่เสียงปริแตกได้ถูกส่งออกมาเสมือนว่าศิลาตรงหน้ากำลังแตกร้าว
หลังจากนั้นรอยแตกร้าวก็ยิ่งกระจายตัวออกไปทั่วทั้งศิลาไม่ต่างจากใยแมงมุม
เขาได้แต่ผงะไปเพราะว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรก็มิอาจดึงมือขวาของตัวเองกลับมาได้เสมือนว่ากำลังถูกยึดเอาไว้ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ขณะที่ศิลากำลังแตกออกอย่างต่อเนื่อง
เปรี้ย ~!
เปรี้ยย ~!
เปรี้ย !
เสียงปริแตกถูกส่งออกมาระยะหนึ่งจนท้ายที่สุดมันก็แตกออกและแหลกสลายหายไปจนกลายเป็นเพียงฝุ่นผงที่ผสานไปกับอากาศเท่านั้น
“นี่…….”
หลินเทียนผงะไป
เป็นเพราะศิลาที่แบกโลกและเส้นทางแห่งการบ่มเพาะเอาไว้กลับถูกทำลายลงตรงหน้าของเขา
บึ้สส ~!
ประกายแสงอันเข้มข้นยังคงถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง
นี่ทำให้เขายิ่งตกตะลึงเข้าไปอีเพราะว่าแม้ตัวศิลาจะแหลกสลายหายไปทว่าตัวอักษรทั้งหลายกลับยังคงอยู่ไม่ต่างจากการสลักเอาไว้กลางอากาศ
นี่ทำให้เขาได้แต่โง่งมไปทันทีเพราะอักษรเหล่านี้ได้แยกตัวออกจากศิลาจาลึกแต่กลับยังสามารถคงสภาพอยู่ได้โดยที่ไม่หายไปไหน !
บึ้สสส ~!
เสมือนว่าอักษรทั้งหลายที่ล่องลอยอยู่ในอากาศนั้นมีสติปัญญาเป็นของตัวเองก่อนที่จะรายล้อมร่างของเขาเอาไว้และแปรเปลี่ยนกลายเป็นพลังฉีที่ไหลซึมเข้าสู่ร่างของเขา
ร่างกายของเขาได้สั่นไหวไปอย่างรุนแรงพร้อมทั้งรีบหมุนวนเคล็ดวิชาดวงใจสุริยันเพื่อดูดกลืนพลังฉีอันเข้มข้นเหล่านี้
กลิ่นอายของเขายิ่งพุ่งสูงขึ้นด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง
นี่ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้านไปโดยทันที
เป็นเพราะว่าอักษรเหล่านี้กำลังดึงเอาพลังฉีจากรอบทิศทางเข้าสู่ร่างของเขา
วิ้สส !
วิ้ส !
วิ้สสส !
ประกายแสงอันลึกลับและสว่างไสวพวยพุ่งเข้ามาจากรอบทิศทางพร้อมทั้งแปรเปลี่ยนกลายเป็นลำแสงอันเข้มข้นที่ทะลวงเข้าใส่ร่างของเขา
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลำแสงอันเข้มข้นนี้แล้วมันทำให้เขารู้สึกไม่ต่างกับว่ากำลังดูดกลืนเส้นชีพจรมังกรบรรพกาลเลยก็ว่าได้
หลังจากนั้นไม่นานร่างกายของเขาก็ได้สั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่จะตัดผ่านไปยังเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 3 จากระดับ 2 ตอนปลาย
และเมื่อตัดผ่านมาได้แล้วกลิ่นอายของเขาก็ยังคงพุ่งสูงขึ้นไปยังเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 4 ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่การโคจรของเหล่าอักษรทั้งหลายก็ยิ่งเร็วขึ้นๆทำให้ประกายแสงที่โถมเข้ามายิ่งสว่างไสวขึ้นไปอีกก่อนที่จะพวยพุ่งทะลวงเขาไปภายในทะเลความรู้ของเขา
“นี่มัน ?! ”
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสีไปโดยทันที
เป็นเพราะว่าอักษรเหล่านี้ล้วนแล้วแต่อัดแน่นไปด้วยพลังงานอันมหาศาลแต่ตอนนี้กลับทะลวงเข้าไปภายในทะเลความรู้ของเขา
“บึ้สส ~! ”
อักษรโบราณทั้งหลายที่อยู่ภายในทะเลความรู้ของเขาในตอนนี้ยังคงแผดแสงเจิดจรัสออกมาแต่มันกลับให้ความรู้สึกที่อ่อนโยนอย่างมาก
มันเป็นเหมือนดั่งตะเกียงวิญญาณที่กระตุ้นการทำงานของดอกบัวหยินหยางและทะเลวความรู้ของเขาทำให้มันส่องประกายแสงสีดำและขาวออกมาอย่างเข้มข้น
บึ้สส ~!!
ทะเลความรู้ของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นไม่นานอักษรโบราณทั้งหมดก็เริ่มแหลกสลายหายไปพร้อมทั้งแปรเปลี่ยนกลายเป็นประกายแสงที่กระจายตัวออกไปทั่วทะเลความรู้ของเขา
ร่างกายของเขาสั่นไหวไปอีกครั้งเพราะว่าประกายแสงเหล่านี้ให้ความรู้สึกเสมือนว่ามันกำลังทะลวงเข้าสู่สมองของเขาอย่างรุนแรง
ระหว่างนี้ก็เกิดภาพมากมายขึ้นภายในสมองของเขาเสมือนว่ามีสัจธรรมอันยิ่งใหญ่กำลังนำทางให้กับเขา
“หล่อหลอมร่างกายคือการทำให้ร่างกายสามารถแบกรับพลังฉี ”
“ชีพจรเทวะคือการสร้างจุดชีพจรทั้งเก้า ”
“ผู้รอบรู้คือการรวมพลังทั้งหมดของชีพจรทั้งเก้าเพื่อสร้างเป็นทะเลความรู้ ”
“จักรพรรดินภาคือการหล่อหลอมพลังฉีให้สามารถควบคุมความว่างเปล่า ”
“วิญญาณนิรันด์คือการแปรเปลี่ยนพลังฉีเป็นพลังเทวะและหล่อหลอมร่างกาย ”
“จ้าวแห่งเต๋าคือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับโลกและสัจธรรมทั้งสามพันชนิด ”
“ปลุกพลังคือการทำความเข้าใจสัจธรรมและคุณธรรมอย่างถ่องแท้ ”
“ปรินิพพานคือการสละกายหยาบเพื่อเกิดใหม่ในเปลวเพลิงนกฟินิกซ์ ”
“จักรพรรดิโกลาหลคือการหล่อหลอมกลิ่นอายจักรพรรดิทั้ง 18 ระดับ 9 ระดับจักรพรรดิโกลาหลและอีก 9 ระดับจ้าวสวรรค์ ”
“จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าคือการดูดกลืนพลังจากหมู่ดาวเพื่อหล่อหลอมร่างกายทำให้อยู่ในจุดสูงสุดอย่างแท้จริง ”
“นิรันด์อมตะคือการสละกายหยาบอย่างแท้จริง สามารถดึงเอาพลังแห่งหมู่ดาวเพื่อหล่อหลอมดวงวิญญาณเทวะ ”
“อนันตกาลคือการที่ดวงวิญญาณไม่มีวันดับสูญ มีอายุขัยไม่ต่างจากดาวเคราะห์ ”
“นิรันด์ที่แท้จริงคือ………”
อักษรโบราณทั้งหลายที่ผสานเข้ากับทะเลความรู้ของเขาได้ส่งเสียงอยู่ในระบบประสาททำให้เขาทำความเข้าใจเกี่ยวกับแก่นแท้ของเขตแดนต่างๆ
ตั้งแต่เขตแดนหล่อหลอมร่างกายไปจนถึงจักรพรรดิโกลาหล ตั้งแต่เขตแดนจักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าไปจนถึงจักรพรรดิแห่งทวยเทพทำให้เขาสามารถเข้าใจพวกมันได้ทั้งหมดเสมือนถูกสลักเอาไว้ภายในสมองของเขา
“เขตแดนหล่อหลอมร่างกายถึงปรินิพพานคือ 9 ขั้นบันไดเล็ก ”
“เขตแดนจักรพรรดิโกลาหลนั้นคือเขตแดนของจักรพรรดิที่มีทั้งหมด 18 ขั้น 9 ขั้นแรกคือจักรพรรดิ อีก 9 ขั้นหลังคือจ้าวสวรรค์ ”
“จักรพรรดิแห่งความว่างเปล่าถึงจักรพรรดิแห่งทวยเทพล้วนแบ่งออกเป็นเขตแดนละสามขั้น ขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลาย ”
เขาพึมพำออกมา
“หลังจากที่ตัดผ่านเขตแดนอนันตกาลได้แล้วถือว่าหลุดพ้นจากห่วงโซ่แห่งความเป็นและความตายอย่างแท้จริง ………”
เขาพึมพำอยู่กับตัวเองด้วยดวงตาที่ส่องประกายออกมา
เขตแดนอนันตกาลคือการมีชีวิตเป็นอมตะ !
มีอายุยืนนานระดับเดียวกับดาวเคราะห์ !
“อนันตกาลคือการคงอยู่ตลอดไป ”
เขาพึมพำออกมาอีกครั้ง
ระหว่างที่พูดอยู่นี้อักษรทั้งหลายก็ผสานเข้ากับทะเลความรู้ของเขาอย่างสมบูรณ์ก่อนที่เสียงแห่งสัจธรรมอันยิ่งใหญ่จะสลายหายไป
“ตู้มมม ~! ”
คลื่นพลังอันหนักหน่วงระเบิดออกมาขณะที่กลิ่นอายของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความแข็งแกร่งของเขาตัดผ่านเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 4 จากระดับ 3 ได้แล้ว
แถมมันยังคงพุ่งสูงขึ้นโดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้แต่น้อย
“บึ้สสส ~! ”
มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่ประกายแสงเจิดจรัสพุ่งทะลวงเข้าใส่ร่างของเขาจากรอบทิศทาง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด