Divine King of All Directions 1347

Now you are reading Divine King of All Directions Chapter 1347 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากที่กลับออกมาจากภูเขาหลงฮูแล้วหลินเทียนก็ได้ออกเดินทางไปพร้อมๆกับเซียนเซียนและพยัคฆ์ขาวไปโดยการเดินเท้าไม่ได้เหาะเหินไป
หลังจากนั้นไม่นานเวลากว่าหลายสิบวันก็ได้ผ่านพ้นไป
วันนี้เป็นวันที่มีนกส่งสารจากตระกูลจิ้งจอกครามบินเข้าหาถูเซียนเซียนก่อนที่จะทะลวงเข้าใส่ทะเลความรู้ของนางก่อนที่สีหน้าของนางจะเปลี่ยนไปอย่างมาก
“ท่านอาจารย์ พวกผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกกว่า 700 คนก้าวข้ามชายแดนมาแล้วและกำลังมุ่งหน้าไปทางขุนเขาคุนหลุน ”
นางส่งเสียงออกมา
ดวงตาของหลินเทียนส่องประกายความเย็นยะเยือกออกมา
“ไปกัน ”
เขาส่งเสียงก่อนที่ร่างกายจะแผดคลื่นพลังสีทองออกมาโอบร่างของทั้งสองเอาไว้แล้วพุ่งผ่านออกไปอย่างเร็ว
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าของภูเขาขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
เมื่อมองออกไปแล้วจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าเกรงขามอย่างมากแถมยังมีกลุ่มหมอกที่ให้ความรู้สึกพิศวง
แน่นอนว่านี่คือขุนเขาคุนหลุน
“คุนหลุน ”
หลินเทียนพึมพำออกมา
มันเป็นขุนเขาที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นบรรพบุรุษแห่งภูเขาทั้งปวงที่มีตำนานว่าเคยเป็นที่อยู่ของทวยเทพ
เขาได้หันมองออกไปพลางเบิกเนตรแห่งสัจธรรมขึ้นมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายพร้อมทั้งสัมผัสถึงกลิ่นอายของสัจธรรม
มันเป็นสัจธรรมที่ไม่ได้หนาแน่นแต่กลับยิ่งใหญ่อย่างมากถึงขั้นทำให้รู้สึกเสมือนว่าพวกเขาได้มาถึงเป้าหมายในชีวิตแล้ว
“ไม่ธรรมดาจริงๆ ”
หลินเทียนคิดอยู่ภายในใจ
ถูเซียนเซียนที่อยู่ข้างๆและเห็นว่าเขากำลังจ้องมองออกไปได้ถามออกมาว่า
“ท่านอาจารย์จะขึ้นไปไหม ? ”
“ตอนนี้ยังก่อน ”
เขาส่ายศีรษะพร้อมๆกับพูดแก้ต่างออกมาว่า
“ยิ่งกว่านั้นข้าเองก็ไม่ใช่อาจารย์ของเจ้าด้วย อย่าเรียกข้าว่าอาจารย์อีก ”
ถูเซียนเซียนได้พยักหน้าอย่างเชื่อฟังพร้อมตอบว่า
“ได้ค่ะท่านอาจารย์ ข้ารู้แล้วท่านอาจารย์ ”
หลินเทียน
“…….”
ท้ายที่สุดเขาก็ได้แต่หันมองออกไปพร้อมทั้งหันไปพูดกับทั้งสองคนแล้วก้าวเดินเข้าไปทางพื้นที่กว้างที่อยู่ห่างออกไป
ไม่นานพวกเขาก็ได้เดินทางไปเป็นระยะทางกว่าหลายกิโลเมตร
สถานที่แห่งนี้มีพื้นที่ๆกว้างใหญ่อย่างมากแต่กลับไม่มีสิ่งมีชีวิตแม้กระทั่งพืชพันธุ์เองหาดูได้ยาก
หลินเทียนได้หยุดลงตรงนี้พร้อมทั้งมองออกไปด้านหน้า
ไม่นานพลังเทวะตรงหน้าของเขาก็ได้เกิดการผันผวน
หลังจากนั้นเองก็ปรากฏร่างของผู้คนกว่าหลายร้อยคนที่รายล้อมไปด้วยกลิ่นอายอันทรงพลัง มีทั้งคนที่รายล้อมไปด้วยประกายแสงสีดี คนที่กำลังขี่อสูรวิหกที่แข็งแกร่งเอาไว้ซึ่งพวกเขาหลานๆคนเองก็ต่างสวมชุดเกราะพร้อมรบด้วยกันทั้งหมด
นี่ทำให้อุณหภูมิโดยรอบดิ่งลงอย่างเฉียบพลัน
“ไอ้พวกเวรจากสเปนและตุรกีมันกล้ามาอวดเบ่งภายในดินแดนศูนย์กลางของพวกเรางั้นรึ อวดดีไม่เบาหนิ ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมา
“อวดดีมากๆ ! ”
เซียนเซียนส่งเสียงออกมา
เป็นเพราะว่าไม่นานมานี้พวกมันก็เพิ่งรุกรานเข้ามาและหากว่าไม่ได้เป็นเพราะหลินเทียนแล้วขุมพลังทั้งหลายก็คงจะถูกสังหารลงทั้งหมดดังนั้นหลังจากที่เห็นว่าอีกฝ่ายยังกล้าส่งกองกำลังมารุกรานภูเขาที่ขึ้นชื่อแบบนี้แล้วก็อดทำให้รู้สึกไม่สบอารมณ์ไม่ได้
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาพร้อมๆกับหันมองออกไปเล็กน้อย
อีกฝ่ายมีกองกำลังจำนวนกว่า 700 คนซึ่งพวกเขาเองก็มองเห็นหลินเทียนที่กำลังยืนขวางกั้นกันอยู่ดีดังนั้นถึงได้แสดงสีหน้าที่เย็นชาออกมา
“ผู้เชี่ยวชาญดินแดนศูนย์กลาง ? พวกมันรู้ว่าพวกเราจะบุกมา ? ”
“รู้แล้วไง ตอนนี้พวกมันอ่อนแอจะตาย ”
“นี่พวกมันคิดจะมาหยุดยั้งพวกเรา ? ”
“สามคนเนี่ยนะ ? บ้าหรือเปล่า ? ”
“บดพวกมันซะ ! ”
กองกำลังกว่า 700 คนพากันส่งเสียงอันไม่แยแสออกมาซึ่งพวกเขาแต่ละคนก็ล้วนมาจากขุมพลังที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานทำให้มีความหยิ่งผยองอย่างมาก
ผู้คนหลายคนพากันก้าวออกมาพร้อมทั้งส่งเสียงภาวนาบางอย่างด้วยร่างกายที่รายล้อมไปด้วยประกายแสงสีดำทมิฬ
“ขอวิงวอนแก่ดวงวิญญาณดาบศักดิ์สิทธิ์ โปรดมอบพลังให้กับพวกเราและส่งลำแสงสังหารเข้าใส่ศัตรูของข้า ! ”
ทั้งหลายสิบคนพากันส่งเสียงออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
“แกร๊ง ! ”
“แกร๊ง !”
“แกร๊ง ! ”
เสียงร้องคำรามดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาขณะที่คลื่นลำแสงอันทรงพลังพุ่งผ่านอากาศออกไปรอบทิศทาง
“ท่านอาจารย์ นั่นคือตระกูลอาเทอร์จากชาวตะวันตก พวกมันมีดาบศักดิ์สิทธิ์ลึกลับที่อัดแน่นไปด้วยวิญญาณที่แข็งแกร่งมากๆ ”
เซียนเซียนได้ส่งเสียงออกมาพลางพูดต่อว่า
“พวกมันสามารถอาศัยพลังของดาบนี้เพื่อขอยืมเอาพลังของมันมา ได้ยินมาว่าสามารถสังหารได้แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจ้าวแห่งเต๋าได้อย่างง่ายดาย ! ”
ด้วยความที่เป็นถึงผู้มีพรสวรรค์ที่สุดของขุมพลังดินแดนศูนย์กลางในคนรุ่นนี้ทำให้นางมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศัตรูอย่างมาก
“ปู่เสือคิดว่าดาบเล่มนั้นน่าจะเป็นอาวุธสวรรค์อย่างแน่นอน ”
พยัคฆ์ขาวส่งเสียงออกมา
“แกร๊ง ”
“แกร๊ง ”
“แกร๊งง ”
เสียงคำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่การโจมตีมากมายโถมเข้าใส่จากทุกทิศทาง
“คลื่นดาบสังหารทวยเทพ ! ”
ผู้เชี่ยวชาญตระกูลอาเทอร์ส่งเสียงอันเย็นยะเยือกออกมาขณะที่ชูมือขวาขึ้นแล้วฟาดฟันลงไปทางหลินเทียนและคนอื่นๆ
มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงเสมือนว่ากำลังถูกคลื่นการโจมตีที่หนักหน่วงทะลวงผ่าน
หลินเทียนยังคงยืนอยู่กับที่โดยที่ไม่ขยับไปไหนก่อนที่คลื่นพลังของเขาจะแผดออกไปรอบทิศทาง
นี่ทำให้ลำแสงสังหารของอีกฝ่ายสั่นสะท้านอย่างรุนแรงก่อนที่จะเด้งกลับเข้าใส่ทางผู้ใช้งานอย่างกะทันหัน
“พุฟฟ ! ”
“พุฟ! ”
“พุฟฟ ! ”
กองเลือดระเบิดออกมารอบทิศทางขณะที่ผู้เชี่ยวชายตระกูลอาเทอร์แปรเปลี่ยนกลายเป็นหมอกเลือดไปอย่างฉับพลัน
นี่ทำให้สายตาของผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายถึงกับหดเล็กลงอย่างมากก่อนที่จะส่องประกายความเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเก่าออกมา
“ความตายจงเป็นพลังแก่ข้า ตรึงวิญญาณ ! ”
ชายชราสภาพใกล้ตายได้ก้าวออกมาพร้อมทั้งส่งเสียงบาดหูอย่างดัง
เมื่อคำพูดของเขาได้จบลงนั้นกลุ่มหมอกสีดำเข้มก็ได้ไหลทะลักออกมาพร้อมทั้งเป็นกองกำลังทหารหยินที่กำลังถือโซ่ตรวนสีแดงฉานเสมือนว่าก้าวออกมาจากขุมนรกและต้องการจะจับดวงวิญญาณกลับไป
“ท่านอาจารย์ พวกมันคือคนของดินแดนทมิฬ ”
เซียนเซียนส่งเสียงออกมา
“แคร๊ง ~~ ! ”
เสียงโลหะเสียดสีกันถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งชายชราคนนี้ที่อยู่ในเขตแดนกึ่งปลุกพลังได้สั่งการกองกำลังทั้งหลายโถมเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างปราณี
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาก่อนที่จะโบกมือของเขาส่งเปลวเพลิงหยางบริสุทธิ์ออกไปโอบร่างของอีกฝ่ายเอาไว้
“อ๊ากกก ~~! ”
ชายชราส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างน่าสยดสยองระหว่างที่กำลังพยายามดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนกลายเป็นผุยผงไป
“ท่านผู้อาวุโส ! ”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญพากันส่งเสียงออกมาหลังจากที่ได้เห็นภาพของชายชราแปรเปลี่ยนกลายเป็นกองเพลิงด้วยสีหน้าที่หวาดหวั่นถึงขีดสุด
เป็นเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนกึ่งปลุกพลังกลับ….ถูกสังหารลงได้ง่ายๆแบบนี้ !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด