Divine King of All Directions 1371

Now you are reading Divine King of All Directions Chapter 1371 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหวถูกส่งออกมาพร้อมปรากฏกลุ่มเมฆสีดำทมิฬรายล้อมไปด้วยม่านสายฟ้าอันทรงพลังเสมือนดั่งมังกรยักษ์ที่กำลังกู่ร้องคำรามเพื่อต้องการทำลายล้างโลกใบนี้
นี่ทำให้พื้นที่โดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงโดยทันที
“ทึ้มม! ”
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังจะแผดขยายออกไปปกคลุมโลกทั้งใบ
หลินเทียนได้ตั้งสติของเขาก่อนที่จะหันมองออกไปยังคลื่นสายฟ้าสีแดงฉานที่ให้ความรู้สึกเหมือนดวงตาอันโหดเหี้ยมที่กำลังจ้องมองมาทางเขาเพื่อจบชีวิตของเขา
ตู้มมม !
คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังผ่าลงมาปกคลุมร่างของเขาเอาไว้
พลังทำลายอันหนักหน่วงต้องการจะบดขยี้ร่างของเขาออกเป็นชิ้นๆ
ดาวดวงนี้เป็นดาวที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตซึ่งเขาเองก็สัมผัสได้ถึงความร้ายกาจของคลื่นสายฟ้าเหล่านี้ดีแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าที่หวาดหวั่นออกมาแม้แต่น้อย
“บึ้สสส ! ”
ปรากฏเจดีย์ราชันอมตะขึ้นเหนือศีรษะของเขาก่อนที่มันจะส่องประกายแสงสีม่วงออกมาโอบร่างของเขาเอาไว้
“มา ! ”
เขาแหงนมองขึ้นไปพร้อมทั้งส่งเสียงอันราบเรียบออกมา
ตู้มมม !
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาอีกครั้งเสมือนว่าสัมผัสได้ถึงการยั่วยุของหลินเทียนทำให้พลังทำลายของมันเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
ทัณฑ์สายฟ้าระลอกแรงได้ผ่าลงมาอย่างไม่ปราณี
มันเป็นลำแสงสายฟ้าอันทรงพลังความกว้างกว่าหลายเมตรกดทับลงมา
พลังทำลายของมันได้บดขยี้ห้วงมิติที่อยู่โดยรอบสลายหายไปอย่างสิ้นเชิงพร้อมทั้งทำให้โลกใบนี้สั่นไหวอย่างไม่หยุดยั้ง
หลินเทียนที่สัมผัสได้ถึงพลังทำลายของมันเองก็ยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบอยู่อย่างเคยพลางส่งความคิดออกไปพร้อมทั้งสังเวยเอาศิลาหินออกมาและส่งถ่ายพลังลงไป
จากการเก็บตัวฝึกฝนอยู่กว่าสามปีของเขาทำให้พบว่ามันเป็นสมบัติสวรรค์ของเขตแดนอนันตกาลซึ่งการที่ใช้มันจะสามารถรับการโจมตีของทัณฑ์สวรรค์ครั้งนี้ได้สบายๆ
และเป็นเพราะอย่างนั้นเขาถึงไม่จำเป็นต้องเตรียมการอะไรในการก้าวข้ามครั้งนี้แถมยังแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมา
ตู้มมม ~!
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังกดทับลงมาอยู่เหนือศีรษะของเขาด้วยพลังทำลายที่ลบล้างได้ทุกสิ่ง
ม่านของศิลาหินได้ปกป้องร่างกายของเขาเอาไว้โดยที่เขาไม่ได้ขยับเลยด้วยซ้ำ
การที่มีมันคอยปกป้องร่างกายเอาไว้ทำให้เขาไม่ต้องเป็นกังวลเลยแม้แต่น้อยแถมยังอาศัยทัณฑ์สวรรค์นี้เป็นเครื่องช่วยหล่อหลอมอาวุธวิญญาณของเขาให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก
ม่านฟ้าได้สั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่เขาส่งเอาเจดีย์ราชันอมตะออกไปรับการโจมตีเอาไว้ก่อนที่คลื่นสายฟ้าทั้งหลายจะถูกเจดีย์ดูดซับไปจนหมด
เจดีย์ราชันอมตะที่ดูดซับคลื่นสายฟ้าอันทรงพลังเข้าไปทำให้ประกายแสงสีม่วงสวดส่องออกไปรอบทิศทาง
ท้ายที่สุดมันก็ปริแตกจนแหลกสลายหายไป
หลินเทียนยังคงแสดงสีหน้าที่ราบเรียบออกมาพร้อมทั้งหมุนวนเคล็ดวิชาดวงใจสุริยันเพื่อให้มันก่อตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
บึ้สส !
เจดีย์ที่ก่อตัวขึ้นมาใหม่ได้ส่องประกายแสงเจิดจรัสออกมาอย่างเข้มข้นขึ้นกว่าเก่าแถมยังมีประกายสายฟ้ารายล้อมอยู่เป็นพักๆซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ได้ว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่า
“ดี ”
หลินเทียนพยักหน้าของเขาอย่างมีความสุข
เขาได้ส่งเจดีย์ออกไปรับทัณฑ์สายฟ้าระลอกแรกเอาไว้โดยที่ไม่ได้ป้องกันอะไรแม้แต่น้อยก็เพื่ออยากจะให้มันแหลกสลายลงภายใต้การโจมตีนี้เพื่ออาศัยคลื่นสายฟ้าในการหล่อหลอมมันให้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีกไม่งั้นแล้วเขาก็คงสามารถรับการโจมตีของทัณฑ์สายฟ้าระลอกนี้ได้สบายๆ
เพราะถึงอย่างไรแม้มันจะน่าสะพรึงกลัวแต่ก็ยังห่างไกลกับคำว่าไม่สามารถต่อต้านได้ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงเจดีย์ราชันอมตะที่สร้างขึ้นจากคริสตัลโกลาหลบรรพกาลที่ตัดผ่านเขตแดนอาวุธบรรพบุรุษไปแล้วจึงสามารถต่อกรได้กับทัณฑ์สายฟ้าระลอกนี้และอีกสามระลอกได้อีกสบายๆ
เขาได้แต่มองกลับขึ้นไปพร้อมทั้งส่งเสียงออกมาว่า
“มาต่อ ”
ตู้มมม !
ม่านฟ้าสั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังปกคลุมเหนือม่านฟ้าเอาไว้พร้อมทั้งกดทับลงมาอย่างไม่ปราณี
มันเป็นคลื่นพลังทำลายล้างที่ทรงพลังและเข้าประชิดร่างของหลินเทียนภายในชั่วพริบตาเท่านั้น
หลินเทียนยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ได้ขยับไปไหนพร้อมทั้งใช้เจดีย์รับการโจมตีเอาไว้อย่างเคย
เจดีย์ได้ระเบิดออกหลังจากที่รับการโจมตีของคลื่นสายฟ้าอันทรงพลังอีกครั้ง
เป็นเพราะมันไม่ได้ต่อต้านหรือป้องกันอะไรถึงได้ถูกบดขยี้ออกโดยทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สองจนแหลกเป็นเสี่ยงๆขณะที่มิติโดยรอบแหลกสลายหายไปไม่มีเหลือพร้อมๆกับคลื่นพลังที่กดทับเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่ปราณี
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางทางของมันเอาไว้ได้ถูกทำลายไปจนสิ้น
ศิลาหินเหนือศีรษะของหลินเทียนส่องประกายแสงออกมาอย่างทรงพลัง
ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สองได้ระเบิดออกเป็นชิ้นๆภายใจชั่วพริบตาเท่านั้น
“แข็งแกร่งจริงๆ ”
หลินเทียนพึมพำอยู่กับตัวเอง
เป็นเพราะแม้จะรู้อยู่ก่อนแล้วว่ามันเป็นสิ่งของที่ไม่ธรรมดาเพราะถึงขั้นสามารถสยบได้แม้กระทั่งราชันวิหกทว่าการที่สามารถบดขยี้ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สองได้ง่ายๆก็ยังทำให้เขารู้สึกตกตะลึงไม่น้อย
อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงความรู้สึกชั่วครู่ก่อนที่จะหันมองไปยังเศษซากเจดีย์อีกครั้ง
ประกายแสงสีทองสาดส่องออกมาพร้อมๆกับเจดีย์ที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
กลิ่นอายที่มันแผดออกมาทรงพลังมากขึ้นกว่าเก่า
ตู้มม ! !
ตู้ม !
ตู้มมม !
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาอย่างดังขณะที่ฝนสายฟ้าโหมกระหน่ำลงมาจากเบื้องบน
มันเป็นเพียงสายฟ้าธรรมดาๆทว่าหลินเทียนก็ยังไม่ปล่อยมันเอาไว้เฉยๆและใช้มันหล่อหลอมเจดีย์ต่อไปซ้ำแล้วซ้ำอีกทำให้ประกายแสงสีม่วงที่ส่องประกายออกมายิ่งเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทึ้มม !
ม่านฟ้าได้สั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่จะปรากฏมังกรสายฟ้าอันทรงพลังขึ้นมาด้วยความยาวกว่าหลายกิโลเมตรส่งพลังทำลายอันหนักหน่วงกดทับลงมาทั่วพื้นที่
หลังจากนั้นมันก็ได้ส่งเสียงกู่ร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธพร้อมทั้งพุ่งทะยานเข้าใส่ทางหลินเทียนอย่างไม่รอช้า
เปรี้ย !
เปรี้ย !
เปรี้ย !
เสียงปริแตกถูกส่งออกมาขณะที่มิติโดยรอบถูกบดขยี้แหลกสลายหายไปอย่างสิ้นเชิง
คลื่นพลังทำลายอันหนักหน่วงได้กวาดออกไปโดยรอบและแม้ว่าตัวมังกรสายฟ้าจะยังคงไม่กระแทกเข้ากับพื้นทว่าพื้นดินกลับเริ่มทรุดตัวลงอย่างรุนแรงเพราะไม่สามารถรับแรงกดดันของมันได้
หลินเทียนที่ยืนอยู่ท่ามกลางการโจมตีเหล่านี้ยังคงมีสีหน้าที่ราบเรียบไม่ได้เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
เขาส่งเจดีย์ราชันอมตะออกไปโดยที่ไม่ได้ป้องกันอะไรอย่างเคย
มันเป็นอาวุธที่สร้างขึ้นจากคริสตัลโกลาหลบรรพกาลซึ่งตราบเท่าที่เขายังไม่ตายมันก็จะไม่มีวันถูกทำลายลง
ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรแม้แต่น้อยและยิ่งมันถูกผ่ามากขึ้นเท่าไหร่มันก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นไปอีก
ตู้มม !
มังกรสายฟ้าอันทรงพลังได้โอบตัวเจดีย์เอาไว้พร้อมทั้งผ่าเข้าใส่อย่างไม่ปราณี
คลื่นสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนได้บดขยี้มันออกเป็นชิ้นๆ
หลังจากนั้นมังกรสายฟ้าก็ได้เข้าประชิดร่างของหลินเทียนอย่างฉับพลัน
หลินเทียนอาศัยศิลาหินปกป้องร่างกายเอาไว้พร้อมทั้งบดขยี้ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สามไปได้อย่างง่ายดายพร้อมทั้งก่อสร้างเจดีย์ราชันอมตะขึ้นมาอีกครั้งซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าอักขระที่รายล้อมมันเอาไว้ดูเจิดจรัสมากขึ้นกว่าเก่า
จากการที่แบกรับทัณฑ์สายฟ้าไปถึงสามระลอกพร้อมๆกันแบบนี้ทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่ามาก
“มาต่อ ! ”
เขาส่งเสียงออกมาระหว่างที่แหงนหน้ามองไปยังท้องฟ้า
ม่านฟ้าได้สั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังของทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สี่ได้ก่อตัวขึ้นพร้อมทั้งกดทับลงมาด้วยพลังทำลายที่น่าสะพรึงกลัว
หลินเทียนที่ยืนอยู่ท่ามกลางพลังทำลายล้างนี้ยังคงมีสีหน้าที่ราบเรียบพร้อมทั้งใช้เจดีย์ราชันอมตะออกไปรับการโจมตีนี้เอาไว้อีกครั้ง
เขาเหวี่ยงมันออกไปรับเอาไว้ขณะที่ใช้ศิลาหินปกป้องร่างกายเอาไว้อย่างเคย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรทว่าพื้นที่โดยรอบได้ถูกทำลายออกเป็นเสี่ยงๆโดยที่มีลาวาไหลทะลักออกมาจากพื้นดินโดยรอบ
เจดีย์ราชันอมตะได้แหลกสลายหายไปอีกครั้งพร้อมทั้งปลิวว่อนไปกับสายลมเสมือนดั่งเศษฝุ่นสีม่วงที่ดูงดงามอย่างมาก
หลินเทียนหมุนวนเคล็ดวิชาดวงใจสุริยันพร้อมทั้งก่อสร้างมันขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยกลิ่นอายที่สูงขึ้นกว่าเก่าแถมยังรายล้อมไปด้วยประกายสายฟ้าเสมือนดั่งว่ามันคืออาวุธของเทพอัสนี
หลินเทียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจเพราะว่าจากการหล่อหลอมครั้งนี้มันทำให้อาวุธของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก
ตู้มมม !
คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังแผดขยายออกไปอีกครั้งพร้อมๆกับเสียงฟ้าร้องคำรามที่ถูกส่งออกมาอย่างดัง
ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่ห้าได้ก่อตัวขึ้นแล้ว
หลินเทียนยังคงปกป้องร่างกายเอาไว้ด้วยศิลาหินพร้อมทั้งเหวี่ยงเจดีย์ออกไปรับมันเอาไว้
เวลาได้ผ่านไปอย่างต่อเนื่องขณะที่ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่ หก เจ็ด แปด ถูกทำลายลงพร้อมๆกับทำให้พื้นที่โดยรอบแหลกสลายหายไปไม่มีเหลือ
เป็นเพราะดาวดวงนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตไม่งั้นแล้วก็คงตอบไม่ได้เลยว่าจะมีกี่ชีวิตที่ต้องตกตายลงอย่างน่าอนาถ
“ทึมมม ! ”
คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังถูกส่งออกมาขณะที่ม่านฟ้าแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีดำทมิฬ
ปรากฏคลื่นสายฟ้าสีดำขึ้นกลางอากาศด้วยกลิ่นอายทำลายล้างที่ให้ความรู้สึกเสมือนสามารถทำลายได้ทุกสิ่ง
ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่เก้าได้ก่อตัวขึ้นแล้ว !
หลินเทียนแหวนหน้ามองขึ้นไปด้วยดวงตาที่เปล่งประกายพลางพูดว่า
“เหมือนว่าจะเป็นระลอกสุดท้ายแล้วสินะ ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด