Divine King of All Directions 1405

Now you are reading Divine King of All Directions Chapter 1405 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กายหยาบยังถูกเก็บเอาไว้อย่างสมบูรณ์และมีเพียงดวงวิญญาณเท่านั้นที่แตกดับซึ่งแน่นอนว่านี่คือความตั้งใจของหลินเทียนเพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นถึงกายหยาบของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายที่สามารถใช้กับทักษะหล่อหลอมร่างกายของเขาได้ทำให้อย่างน้อยๆระดับพลังของเขาก็จะตัดผ่านไปยังกึ่งนิรันดร์อมตะได้
“เจ้าเก็บศพมันเอาไว้ทำไมกัน ? ”
เหลาเหลาถามออกมาด้วยสีหน้าที่สงสัย
“มันมีประโยชน์ ”
หลินเทียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบก่อนที่จะโอบร่างของนางด้วยพลังงานสีทองแล้วเหาะจากไป
ไม่นานพวกเขาก็ทิ้งระยะออกจากสถานที่แห่งนี้ไปไกลมากแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่โดยรอบเองก็ยังคงแข็งค้างไปด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงไม่หาย
“ผู้นำตระกูลฟาน..”
หลายๆคนส่งเสียงพึมพำออกมา
เป็นเพราะตระกูลฟานนั้นถือเป็นขุมพลังระดับที่หนึ่งของดาวซึ่งสืบเชื้อสายกันมาอย่างยาวนานทำให้ไม่มีใครกล้าหือกับพวกเขา
ทว่าตอนนี้ผู้นำตระกูลของอีกฝ่ายกลับถูกสังหารลงภายในสถานที่แห่งนี้
“ชายคนนั้นมัน…..เป็นใครกัน ?! ทำไมถึงได้กล้าขนาดนี้ ?! ถึงขั้นกล้าสังหารผู้นำตระกูลฟาน ?! ”
“ผู้อาวุโสตระกูลฟานและผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่นๆเองก็คงจะถูกเขาสังหารลงไปแล้วเช่นกัน ”
“นี่มัน……บ้าเกินไปแล้ว ! ”
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ผู้อาวุโสสูงสุดนิกายไท่หลิงและนิกายเฮอเฉินถูกสังหารก่อนเลยเพราะหลังจากนี้ทั้งสองขุมพลังจะต้องเกรงกลัวชายคนนั้นแน่ๆแต่ตระกูลฟานต้องไม่ยอมจบเรื่องนี้อย่างแน่นอนเพราะถึงอย่างไรผู้นำตระกูลก็เป็นตัวแทนของเกียรติยศแต่กลับถูกสังหารลงแบบนี้แล้วพวกเขาจะอยู่ต่ออย่างไร ?! ”
“ตระกูลฟานนั้นมีผู้เชี่ยวชาญเขตแดนอนันตกาลคอยประจำการแถมยังมีอาวุธนิรันดร์แท้จริงอยู่ด้วย ข้าเดาว่าชายคนนั้น……..จะต้องไม่รอดแน่ๆ ! ”
หลายๆคนได้แต่ผงะไป
……..
หลินเทียนนำทางเหลาเหลาออกมาไกลมากๆพร้อมทั้งค้นหาสถานที่ปลอดภัยพลางวางข่ายอาคมปิดกั้นแล้วหยิบเอาร่างของผู้นำตระกูลฟานออกมา
เขาสังเวยทักษะหล่อหลอมร่างกายอยู่กว่าครึ่งเดือนทำให้ระดับพลังของเขาตัดผ่านไปยังเขตแดนกึ่งนิรันดร์อมตะได้ในที่สุดและอีกเพียงครึ่งก้าวก็ตัดผ่านเขตแดนนิรันดร์แท้จริงได้แล้ว
“ร่างกาย พลังเทวะและดวงวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่ามาก ”
เขาพึมพำอยู่กับตัวเอง
เขาหมุนวนเคล็ดวิชาดวงใจสุริยันอย่างรวดเร็วเพื่อปรับสมดุลของร่างกายอยู่อีกกว่าครึ่งเดือนถึงจะได้สติกลับมาแล้วนำเหลาเหลาไปจากที่นี่
“โร๊วว ~! ”
เสียงกู่ร้องคำรามของสัตว์อสูรยังคงถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้พื้นดินสั่นไหวเป็นพักๆ
หลินเทียนและเหลาเหลาพากันออกเดินทางไปอยู่หลายวันก่อนที่จะได้ยินข่าวลือที่ว่ามีการค้นพบสถานที่แห่งหนึ่งตั้งอยู่ใจกลางของสวนสวรรค์แห่งนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปตามๆกัน
“โบราณสถาน ?! ”
“นั่นมัน……….”
“หรือจะเป็นสถานที่เก็บมรดกอย่างทักษะชั้นเลิศนั่น ?! ”
ระหว่างทางก็ได้ยินเสียงสนทนาของผู้เชี่ยวชาญมากมาย
หลินเทียนและเหลาเหลาเองก็ได้ยินข่าวลือเหล่านี้ดีทำให้สีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปเช่นกัน
“ไปสำรวจมันกัน ”
หลินเทียนได้ส่งเสียงออกมาก่อนที่ร่างกายของเขาจะเปล่งประกายแสงออกมาโอบร่างของนางเอาไว้แล้วพุ่งผ่านออกไปด้วยความเร็วที่สูงอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้นำเหลาเหลาไปถึงใจกลางของสถานที่แห่งนี้พร้อมพบกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญมากมายที่แต่ละคนล้วนแผดกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาออกมาและกำลังมุ่งหน้าตรงไปยังเนินเขาที่แห้งแล้งแห่งหนึ่ง
ที่นั่นไม่มีพืชพันธุ์เจริญเติบโตอยู่แม้แต่น้อยทว่ากลับมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่มาถึงที่นี่ต่างก็พากันกรูเข้าไปอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนเองก็ไม่ลังเลเลยที่จะเดินนำเหลาเหลาผ่านเข้าไปเช่นกัน
ภายในถ้ำแห่งนี้ค่อนข้างมืดซึ่งเขาและเหลาเหลาเองก็เดินตามเส้นทางต่อไป
ไม่นานก็จะพบว่ามันยิ่งกว้างขึ้นๆก่อนที่จะสัมผัสได้ว่าพวกเขาเข้ามาอยู่ภายในมิติพิเศษแห่งหนึ่งและพบกับทะเลทรายขนาดใหญ่พร้อมๆกับเสียงกู่ร้องอย่างดังที่ส่งออกมาจากภายในส่วนลึก
หลินเทียนหันมองตามเสียงออกไปพร้อมทั้งพบว่ากลุ่มผู้เชี่ยวชาญกำลังพากันมุ่งหน้าไปทางนั้นพลางสัมผัสได้ถึงพลังสายฟ้าที่เข้มข้นเหมือนๆกับที่สลักอยู่บนผนังหินอันก่อนหน้านี้ทว่ามันเข้มข้นกว่าหลายเท่าตัว
ดวงตาของเขาส่องประกายออกมาพลางก้าวเดินออกไปด้วยความเร็วที่สูงมากยิ่งขึ้น
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบว่าพื้นที่โดยรอบได้ถูกเผาจนไหม้เกรียมขณะที่มันรายล้อมไปด้วยประกายสายฟ้าสีแดง ดำ ม่วง ฟ้าและเงินกำลังโลดแล่นไปมาเสมือนเป็นฝูงมังกรสายฟ้า
“นี่มัน ?! ”
เหลาเหลาถึงกับแข็งค้างไป
เป็นเพราะภาพตรงหน้าของนางมันน่าตกตะลึงอย่างมากเพราะมันไม่ต่างกับทะเลสายฟ้าเลยก็ว่าได้
ไม่เพียงแค่นางเท่านั้นเพราะแม้กระทั่งหลินเทียนเองก็ยังอดมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปไม่ได้
“อ๊ากก ~! ”
เสียงกรีดร้องถูกส่งออกมาจากผู้เชี่ยวชาญเขตแดนปรินิพพานที่เข้าใกล้มันก่อนที่จะถูกกลิ่นอายอันทรงพลังบดขยี้ไปทั้งดวงวิญญาณ
“สายฟ้าพวกนี้มัน…”
“ขนาดเขตแดนปรินิพพานที่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็ยังถูกสังหารลงทั้งเป็นแบบนี้นี่มัน…….ใครจะไปสามารถทนได้กัน ?! ”
“หรือว่ามันจะเป็นสถานที่ๆเกี่ยวข้องกับทักษะสายฟ้าในตำนาน ?! ”
“ข้าบอกได้เลยว่ามันต้องใช่แน่นอน ! ”
“ใช่แน่ๆ ! ”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายพากันจับจ้องไปยังภาพตรงหน้าของพวกเขา
หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้เชี่ยวชาญเขตแดนจ้าวสวรรค์ก้าวออกไปโดยที่กำอาวุธสวรรค์ตอนปลายเอาไว้ในมือทว่าผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ได้ต่างไปจากผู้เชี่ยวชาญเขตแดนปรินิพพานคนก่อนหน้านี้แม้แต่น้อยเพราะเมื่อเข้าใกล้แล้วคลื่นสายฟ้าทั้งหลายก็ได้บดขยี้ร่างกายและดวงวิญญาณของอีกฝ่ายไปพร้อมๆกับอาวุธสวรรค์ในมือที่กลายเป็นผุยผง
“ขนาดเขตแดนจ้าวสวรรค์ก็ยัง ………”
หลายๆคนพากันสูดหายใจเข้าลึก
พวกเขาต่างรีบถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนที่กำลังสำรวจอยู่ห่างออกไปเองก็ผงะไปไม่น้อยเพราะขนาดเขาเองก็ยังรู้สึกตึงเครียดเช่นกัน
เขาสัมผัสได้เลยว่าต่อให้เป็นเขตแดนอนันตกาลก็ไม่มีทางรับมือกับคลื่นพลังทำลายนี้ได้แน่ๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด