Divine King of All Directions 1420

Now you are reading Divine King of All Directions Chapter 1420 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สี่และห้าได้ถูกทำลายสลายหายไปส่งผลให้เหลาเหลาได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงอย่างมาก
“นี่เจ้านี่มัน….แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ! ทักษะนั่นมันถึงขั้นสามารถแทรกแซงทัณฑ์สวรรค์ได้นี่….”
นางสั่นไปไม่หยุด
เป็นเพราะว่าทัณฑ์สวรรค์นั้นเป็นอะไรที่ลึกลับและน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก นี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มันเป็นสัจธรรมที่พิเศษทว่าทักษะของหลินเทียนกลับมีความสามารถยับยั้งทัณฑ์สวรรค์ได้ส่วนหนึ่งนี่มันทำให้นางได้แต่แสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อออกมา
“ตู้มม ~! ”
คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังแผดกระจายตัวออกไปรอบทิศทาง
ม่านฟ้าในตอนนี้รายล้อมไปด้วยคลื่นสายฟ้าที่ส่งกลิ่นอายทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
หลินเทียนที่ยืนอยู่ใจกลางของสถานที่แห่งนี้ด้วยร่างกายที่รายล้อมไปด้วยประกายสายฟ้าสีเงินได้แหงนหน้ามองกลับขึ้นไปเล็กน้อย
“มา ”
เขาส่งเสียงออกมา
เขาอาศัยทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าปกป้องร่างกายเอาไว้แล้วทำให้เขาไม่ได้รู้สึกเคร่งเครียดเหมือนการก้าวข้ามทัณฑ์สวรรค์ในครั้งก่อนๆ
“ตู้มม ~! ”
คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังส่งเสียงคำรามออกมาอีกครั้ง
เสมือนว่ารับรู้ได้ถึงการยั่วยุของหลินเทียนถึงได้ทำให้มันรู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมากพลางก่อตัวขึ้นกลายเป็นทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่หกที่อัดแน่นไปด้วยแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ระหว่างเส้นทางของม่านฟ้าและหลินเทียนได้แหลกสลายหายไป
หลินเทียนที่ยืนอยู่เบื้องร่างด้วยร่างกายที่รายล้อมไปด้วยสายฟ้าก็ยังคงมีสีหน้าที่ราบเรียบอย่างเคย
บึ้สสส !
ประกายสายฟ้าที่อาบร่างของเขาเอาไว้ยิ่งส่องประกายแสงออกมาอย่างเข้มข้นก่อนที่จะก่อตัวขึ้นกลายเป็นง้าวสายฟ้าอันทรงพลัง
“ง้าวอัสนี ! ”
เขาคว้ามือออกไปพร้อมทั้งซัดง้าวอัสนีพุ่งผ่านอากาศขึ้นไปเหนือม่านฟ้า
วิ้สสส ~!
คลื่นสายฟ้าอันทรงพลังส่งเสียงมังกรคำรามดังสนั่นหวั่นไหวออกมาก่อนที่อัดกระแทกเขข้าใส่ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่หกทำให้เกิดแรงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวตามมา
ฟึ้บบบ ~!
ทัณฑ์สายฟ้าได้แหลกสลายหายไปหลังจากที่คลื่นแรงระเบิดได้กระตายตัวออกไปรอบๆ
“นี่มัน..แข็งแกร่งจริงๆ ”
เหลาเหลาที่อยู่ห่างออกไปอดสูดหายใจเข้าลึกไปไม่ได้
มันเป็นเพราะว่าพลังทำลายระดับนี้มันสามารถสังหารเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนปลายได้ง่ายๆทว่าหลินเทียนกลับสามารถทำลายมันลงได้
แม้กระทั่งอสรพิษม่วงเองก็ยังตกตะลึงไม่น้อยเพราะว่าความแข็งแกร่งของหลินเทียนและทักษะของเขามันน่าเหลือเชื่ออย่างมาก
ทึ้มมม ~! ~!
ม่านฟ้าได้สั่นไหวอีกครั้งขณะที่คลื่นสายฟ้าสีแดงฉานยิ่งก่อตัวขึ้นอย่างหนาแน่น
ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่หกเพิ่งจะแหลกสลายหายไปได้ไม่นานทว่าวังวนสายฟ้ากลับสั่นไหวพร้อมทั้งก่อตัวขึ้นเป็นระลอกที่เจ็ดรูปร่างเสมือนขุนเขาสายฟ้าที่กดทับลงมาอย่างรวดเร็ว
และในเวลาเดียวกันนี้เองที่ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่แปดและเก้าก็ได้ก่อตัวขึ้นพร้อมๆกัน
ตู้มมม ~!
ม่านสวรรค์สั่นไหวอย่างรุนแรงขณะที่กลิ่นอายทำลายล้างแผดออกไปทั่วทุกหย่อมหญ้า
ณ ตอนนี้สถานที่เบื้องล่างได้แต่สั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่จะแตกร้าวออกไปไม่ต่างกับใยแมงมุมก่อนที่พื้นดินจะทรุดตัวลงอย่างบ้าคลั่ง
แน่นอนว่ามันเป็นพลังทำลายที่ร้ายกาจอย่างมาก
หลินเทียนที่ยืนอยู่ใจกลางสถานที่แห่งนี้ด้วยเสื้อผ้าที่ปลิวไสวสามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันเล็กน้อย
ทว่าสีหน้าของเขาก็ยังคงราบเรียบไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย
เป็นเพราะหลังจากที่เชี่ยวชาญทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าแล้วมันทำให้ความต้านทานต่อทัณฑ์สวรรค์ของเขามีเพิ่มขึ้นมาก
ตู้มมม ~!
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาขณะที่ร่างกายของเขายิ่งปลดปล่อยสายฟ้าสีเงินออกมา
หลังจากนั้นเองที่ได้ปรากฏภาพร่างของพยัคฆ์ขาวความสูงหลายสิบเมตรขึ้นด้านหลังของเขาพร้อมๆกับกระบี่สายฟ้าสีเงินที่ส่งกลิ่นอายอันทรงพลังออกมา
“พยัคฆ์ขาวฟาดฟัน ! ”
น้ำเสียงอันทุ้มต่ำถูกส่งออกมาขณะที่ภาพร่างเหล่านั้นพวยพุ่งขึ้นไปในอากาศเสมือนว่าเป็นภาพของพยัคฆ์ขาวที่กำลังฟาดฟันกระบี่สายฟ้าออกไปยังม่านฟ้า
พริบตานี้เองที่คลื่นพลังทำลายของเขาได้อัดเข้ากับคลื่นทัณฑ์สายฟ้าที่กำลังกดทับลงมา
ฟึ้บบ ~!
ฟึ้บ ~!
ฟึ้บ !
เสียงนี้ถูกส่งออกมาขณะที่แรงระเบิดอันทรงพลังได้บดขยี้ทัณฑ์สายฟ้าทั้งสามลงอย่างง่ายดาย
เหลาเหลาที่อยู่ห่างออกไปเองก็ได้แต่อ้าปากค้างโดยที่ไม่สามารถหาคำมาพูดได้อีก
เป็นเพราะว่าพลังทำลายของทัณฑ์สายฟ้าทั้งสามระลอกนี้รุนแรงกว่าระลอกที่หกอย่างน้อยๆเป็นสองเท่าทว่าตอนนี้กลับถูกหลินเทียนทำลายลงได้ง่ายๆแบบนี้
“สุดยอดไปเลย ! ”
อสรพิษม่วงเองก็อดชมออกมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกายไม่ได้
และมันเป็นตอนนี้เองที่ม่านฟ้าได้สั่นไหวอีกครั้งโดยที่หมู่เมฆเองก็ไม่ได้สลายหายไปไหนพลางสร้างเป็นคลื่นสายฟ้าที่ส่งเสียงร้องคำรามดังออกไปรอบทิศทางเสมือนว่าโลกนี้กำลังจะแหลกสลายลง
“โดยปกติแล้วยังไงทัณฑ์สวรรค์มันก็มีแค่เก้าระลอกไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงได้มีระลอกที่สิบกัน ?! ”
เหลาเหลามีสีหน้าที่เปลี่ยนไปโดยทันที
อสรพิษม่วงเองก็แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจไม่น้อยไปกว่ากันออกมาแต่หลังจากนั้นก็สงบสติลงเพราะเพียงแค่เรื่องการตัดผ่านแล้วนำพามาซึ่งทัณฑ์สวรรค์ก็น่าสะพรึงกลัวมากพอแล้วดังนั้นจึงไม่สามารถวัดมันด้วยตรรกะธรรมดาๆได้
“ทึ้มม ~! ”
ม่านสายฟ้าอันทรงพลังสั่นไหวออกไปรอบทิศทางพร้อมทั้งกดทับลงมายังร่างของหลินเทียนอย่างไม่ปราณี
นี่ทำให้เกิดคลื่นพายุอันทรงพลังขึ้นมาพัดพาพลังทำลายออกไปโดยรอบพื้นที่แห่งนี้
หลินเทียนที่กำลังแหงนหน้ามองท้องฟ้าพร้อมทั้งสัมผัสถึงพลังทำลายของมันรู้สึกได้ถึงแรงกดดันไม่น้อย
อย่างไรก็ตามสีหน้าของเขาก็ยังคงราบเรียบขณะที่หมุนวนทักษะเพราะรับมันเอาไว้ด้วยคลื่นสายฟ้าสีเงิน
ตู้มม ~! ~!
การโจมตีของทั้งสองได้อัดกระแทกเข้าใส่กันทำให้พื้นที่โดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นไม่นานเมื่อสิ้นสุดการปะทะลงแล้วทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สิบก็ได้สลายหายไปขณะที่เสื้อผ้าตามร่างกายของหลินเทียนฉีกขาดพร้อมๆกับเลือดที่ไหลซิบออกมาจากมุมปาก
แม้ว่าจะมีทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าคอยปกป้องร่างกายเอาไว้แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่อย่างเคย
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้ถือว่าร้ายแรงอะไรมากนัก
‘ต่อกันเลย ”
เขาส่งเสียงออกมาพร้อมๆกับรักษาบาดแผลภายในร่างก่อนที่จะแหงนมองกลับขึ้นไปบนฟากฟ้า
แน่นอนว่าระหว่างที่กำลังรับทัณฑ์สวรรค์อยู่นี่เขาก็รู้ดีว่ามันจะยังไม่จบเพียงแค่ระลอกที่สิบเท่านั้น
ทึ้มมม ~! ~! แทบจะในเวลาเดียวกันนี้เองที่ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สิบเอ็ดได้ก่อตัวขึ้นด้วยพลังทำลายที่หนักหน่วงอย่างมาก
เหลาเหลาที่อยู่ห่างออกไปถึงกับมีใบหน้าเปลี่ยนสีไปโดยทันที
“นี่…ระลอกที่สิบเอ็ด ?! ”
เสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกไปรอบทิศทางส่งผลให้มิติโดยรอบสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
ก่อนที่มันจะแหลกสลายกลายเป็นผุยผง
หลินเทียนแหงนหน้ามองกลับขึ้นไปด้วยใบหน้าที่จริงจังก่อนที่จะหมุนวนทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าอย่างรวดเร็ว
ตู้มม ~!
คลื่นสายฟ้าสีเงินอันเข้มข้นได้ห่อหุ้มร่างกายของเขาเอาไว้ก่อนที่จะก่อตัวขึ้นเป็นกระบี่ยาวพลางฟาดฟันมันออกไป
การปะทะกันของสองการโจมตีนี้ก่อให้เกิดแรงระเบิดอันทรงพลังกระจายตัวออกไปโดยรอบส่งผลให้มิติรอบข้างบิดตัวอย่างรุนแรงก่อนที่จะแหลกสลายหายไปอีกครั้ง
“อั๊ก ~! ”
หลินเทียนกระอักเลือดออกมาขณะที่ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สิบเอ็ดกระแทกกลางหน้าอกของเขาแล้วระเบิดออกอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตามสีหน้าของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงพร้อมทั้งพยายามใช้ทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าป้องกันมันเอาไว้
หลังจากนั้นไม่นานทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สิบสองก็ได้ถูกเขาบดขยี้ไปด้วยร่างกายที่ชโลมไปด้วยเลือด
และแทบจะในเวลาเดียวกันนี้เองที่ทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สิบสามได้ก่อตัวขึ้น
หลินเทียนใช้ทักษะสุริยันปรินิพพานรักษาบาดแผลตามร่างกายก่อนที่จะใช้ทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าออกไปรับการโจมตีนี้เอาไว้
คลื่นพลังทำลายทั้งสองอัดเข้าใส่กันอย่างจัง
ตู้มม ~~~!
เกิดระเบิดอันรุนแรงขึ้นเหนือม่านสวรรค์ชั้นฟ้า
ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆทัณฑ์สายฟ้าระลอกที่สิบสี่ สิบห้า สิบหก สิบเจ็ดก็ได้ถูกทำลายหายไปอย่างต่อเนื่อง
ทึ้มมม ~!
หลังจากระลอกที่สิบเจ็ดได้แหลกสลายหายไปนั้นเสียงคำรามดังสนั่นก็ได้ถูกส่งออกมาอีกครั้งขณะที่ระลอกที่สิบแปดได้ก่อตัวขึ้น
ปรากฏภาพร่างของเหล่านางฟ้า อัศวินไร้ศีรษะ สัตว์อสูรและผีร้ายที่ก่อตัวขึ้นจากสายฟ้ายืนเรียงรายกันอยู่กลางม่านฟ้าด้วยกลิ่นอายทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว
และหลังจากนั้นเองที่แรงกดดันอันทรงพลังได้กดทับลงมา
หลินเทียนที่อาบไปด้วยเลือดเพราะถึงแม้จะเชี่ยวชาญทักษะเบญจอัสนีสะท้านฟ้าก็จริงแต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บถึงขั้นที่ร่างกายแหลกเหลวไปหลายครั้งทำให้พลังเทวะที่เหลืออยู่มีอยู่อย่างจำกัด
ทว่าเขาก็ยังไม่มีสีหน้าที่หวาดหวั่นแม้แต่น้อยพร้อมทั้งรับแรงกดดันทั้งหมดเอาไว้ด้วยสายตาที่ส่องประกายความแน่วแน่ออกมา
“ระลอกสุดท้าย ! ”
ดวงตาของเขาส่องประกายขณะที่หมุนวนทักษะอย่างบ้าคลั่งพร้อมทั้งสังเวยเอาวงเวทย์สัจธรรมสังสารวัฏออกมาพลางเหวี่ยงมันออกไปพร้อมๆกับคลื่นสายฟ้าของเขา
การโจมตีทั้งสองได้อัดเข้าใส่กันอย่างจังพร้อมทั้งสร้างคลื่นพลังงานอันหนักหน่วงกวาดออกไปรอบทิศทาง
คลื่นพายุที่ทรงพลังกวาดออกไปรอบทิศทางส่งผลให้พื้นดินแหลกสลายหายไปอย่างสิ้นเชิง
มันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นพลังทำลายที่ทำให้โลกทั้งใบสั่นไหวไม่หยุด
หลังจากนั้นไม่นานฝุ่นก็จางหายไปพร้อมๆกับกลุ่มเมฆอันน่าสะพรึงกลัว
แสงสว่างกลับมาเยือนโลกใบนี้อีกครั้งขณะที่ประกายสายฟ้ากระจายตัวออกไปรอบๆพื้นที่
เมื่อมองออกไปแล้วจะพบว่าสถานที่แห่งนี้แทบจะถูกทำลายลงทั้งหมดพร้อมพบกับหลุมลึกขนาดใหญ่ที่ไหม้เกรียมเป็นเถ้าถ่านโดยที่มีร่างๆหนึ่งยืนอยู่ใจกลางด้วยสภาพร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักถึงขั้นที่เผยให้เห็นอวัยวะภายใน
“ผ่านมาได้แล้ว ”
เขามองกลับขึ้นไปบนฟากฟ้าพร้อมทั้งเผยรอยยิ้มออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด