Divine King of All Directions 1433

Now you are reading Divine King of All Directions Chapter 1433 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จากเขตแดนจ้าวสวรรค์ตอนต้นไปถึงเขตแดนนิรันดร์อมตะตอนต้นนั้นมีเขตแดนจ้าวสวรรค์เก้าขั้นเล็กแล้วยังมีเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าคอยขั้นกลางแต่กลับสามารถก้าวข้ามเขตแดนเหล่านี้ได้ภายในระยะเวลาสิบกว่าปีนี่มันเป็นความเร็วในการบ่มเพาะที่น่าเหลือเชื่อจนน่ากลัวขนาดที่ว่าไป่จี่ฉีและหยางฉีที่เป็นคนสุขุมอยู่ตลอดยังผงะไป
“ผิดมนุษย์อย่างเคย ”
ไป่เฉียวส่งเสียงออกมา
“พรสวรรค์ไร้เทียมทานจริงๆ ”
หลิงหยุนส่งเสียงออกมา
หลินเทียนได้เผยรอยยิ้มของเขาพร้อมทั้งพูดว่า
“เป็นเพราะว่าโชคดีได้รับโอกาสมามากมาย ”
เขาพูดออกมาพลางพูดต่อว่า
“ ในหลายปีมานี้ข้าเองก็ได้รับสมบัติมามากมายเอาไว้สำหรับช่วยพวกเจ้าในการบ่มเพาะเช่นกัน ”
ระหว่างที่พูดอยู่ก็ได้ส่งความคิดสังเวยเอายาทิพย์มากมายออกมาจากแหวนมิติส่งผลให้สถานที่แห่งนี้รายล้อมไปด้วยกลิ่นหอมหวนชวนน้ำลายไหลอย่างฉับพลัน
“นี่มัน ?! ”
จระเข้เบญจธาตุและคนอื่นๆถึงกับอ้าปากค้าง
เป็นเพราะว่ายาทิพย์เหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนแต่ก็ตระหนักได้ถึงความพิเศษของมันเป็นอย่างดี
“ยาทิพย์ล้ำลึก ยาทิพย์วิญญาณนิรันดร์ สมุนไพรมังกรทมิฬ ดอกชบาเหมันต์ รากสานฝน และอื่นๆล้วนแล้วแต่เป็นสมุนไพรสำหรับการตัดผ่านเขตแดนปรินิพพานและจักรพรรดิโกลาหล ”
หลินเทียนพูดออกมาพร้อมทั้งพูดต่อว่า
“หากว่าดูดกลืนพวกมันแล้วก็จะทำให้พวกเจ้าตัดผ่านเขตแดนจ้าวสวรรค์ได้ในเวลาสั้นๆ ”
ของเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขายึดเอามาจากขุมพลังใหญ่ทั้งหลาย
“สามารถตัดผ่านเขตแดนจ้าวสวรรค์ได้ ?! ”
หลิงหยุนถึงกับแข็งค้างไปเพราะเขาติดอยู่ในเขตแดนปรินิพพานระดับ 8 อยู่นานแล้วทว่าหลังจากที่ดูดกลืนสมุนไพรเหล่านี้ก็จะตัดผ่านเขตแดนจ้าวสวรรค์ได้ ?!
นี่มันเป็นการร่นระยะที่ใหญ่หลวงมากๆ !
“ไม่ต้องเป็นห่วง มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก ”
หลินเทียนพูดต่อว่า
“มันน่าจะเพียงพอสำหรับทำให้พวกเจ้าทุกคนตัดผ่านเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 5 ”
เขาสัมผัสได้ถึงระดับพลังของคนอื่นๆดีว่าเย่ตงและหลินซี่นั้นอยู่ในเขตแดนปรินิพพานระดับ 5 ตอนปลาย จี่หยู เสวี่ยเย่ ซูชูว พญานาคและฟานหยิงซ่งอยู่ในเขตแดนปรินิพพานระดับ 6 ไป่เฉียว ย่าเอ๋อ หยางฉีและหลิงหยุนอยู่ในระดับ 8 ไป่จี่ฉีอยู่ในระดับ 9 จระเข้เบญจธาตุอยู่ในเขตแดนกึ่งจักรพรรดิตอนปลาย
“ของพวกนี้มันไม่จำเป็นสำหรับเจ้าหนูน้อย”
หลินเทียนหันมองไปทางมัน
เป็นเพราะว่าระหว่างที่เดินทางกลับมานั้นเขาไม่ได้สนใจตรวจสอบระดับพลังของมันเท่าไหร่และเพิ่งตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในเขตแดนจักรพรรดิว่างเปล่าตอนต้นแล้ว
“เจ้าหนูน้อยเองก็มีพรสวรรค์ด้านการบ่มเพาะที่ท้าทายสวรรค์เหมือนกัน ข้าไม่เห็นมันจะเคยฝึกฝนอะไรและได้แต่นอนไปวันๆแต่กลับบ่มเพาะได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ ”
จระเข้เบญจธาตุถึงกับหมดคำพูดไป
“เจ้าหนูน้อยสุดยอดจริงๆ ”
จี่หยูพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
เสี่ยวไท่ชูที่เกาะไหล่ของหลินเทียนได้ส่งเสียงตอบรับออกมาอย่างร่าเริงและแม้ว่ามันจะเกิดมานานหลายปีแล้วแต่นิสัยก็ยังคงเป็นเด็กน่ารักไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
หลินเทียนได้ลูบศีรษะของมันด้วยรอยยิ้มพร้อมทั้งพูดต่อว่า
“เริ่มดูดกลืนยาทิพย์และสมุนไพรเหล่านี้ได้แล้ว ข้าจะคอยพิทักษ์พวกเจ้าเอง”
หลังจากนั้นเขาได้มองไปทางเหลาเหลาพร้อมทั้งพูดว่า
“แม่หนูดวงซวย เจ้าเองก็ดูดกลืนพวกมันด้วย ”
เนื่องจากร่วมทางกันมานานมากแล้วดังนั้นเขาจึงปล่อยนางเอาไว้เฉยๆไม่ได้
ภายในสถานที่แห่งนี้มีเพียงแกนนำระดับสูงของสำนักเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้ซึ่งหลินเทียนเองก็ได้แจกจ่ายยาทิพย์และสมุนไพรต่างๆกับให้แต่ละคนอย่างรวดเร็ว
ส่วนเหลาเหลานั้นเป็นเพราะระดับพลังต่ำจนเกินไปทำให้ไม่สามารถดูดกลืนพวกมันได้ทันทีจึงได้คว้าเอาคริสตัลวิญญาณจำนวนมากออกมาส่งมอบให้กับนาง
“จะว่าก็ว่าขุมพลังของเจ้ามันดูยิ่งใหญ่กว่าตระกูลฟานพวกนั้นอีกดังนั้นก็น่าจะมีสมบัติมากมายแถมดูๆแล้วเจ้าเองก็คงเป็นที่รักของปู่เจ้ามากถึงขั้นอุส่านำเจ้าไปเที่ยวเล่นในห้วงอวกาศแล้วทำไมถึงปล่อยเจ้าไว้ในเขตแดนจักรพรรดินภากัน ? ”
หลินเทียนรู้สึกสงสัยอย่างมาก
เหลาเหลาถึงกับแสดงสีหน้าป่วยๆออกมาก่อนที่จะตอบกลับมาว่า
“ยิ่งเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งก็ยิ่งเข้มงวดกับลูกหลานดังนั้นจะโยนคริสตัลวิญญาณให้บ่มเพาะเฉยๆได้อย่างไรกัน ? มันไม่เกี่ยวกับเรื่องความโปรดปรานที่ตระกูลมีให้แต่การกระทำเช่นนั้นมันไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อรุ่นเยาว์แม้แต่น้อย ”
“ก็จริงแหะ ”
หลินเทียนเองก็พอเข้าใจได้ว่าสิ่งที่นางพูดมันก็ถูกเนื่องจากการที่สนับสนุนรุ่นเยาว์โดยการโยนทรัพยากรบ่มเพาะให้แบบนั้นมันไม่ได้ส่งผลดีอะไรเลย
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อพร้อมทั้งบอกให้คนอื่นๆเริ่มการบ่มเพาะอย่างรวดเร็ว
พวกเขาเองก็ไม่ลังเลเลยที่จะหมุนวนเคล็ดวิชาบ่มเพาะของตัวเองเพื่อเริ่มการดูดกลืนฤทธิ์ของยาทิพย์ทั้งหลาย
เวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
พริบตาเวลาก็ล่วงเลยไปกว่าหนึ่งเดือนเต็มๆ
ตู้มม ~!
วันนี้เป็นวันที่มีเสียงฟ้าร้องคำรามถูกส่งออกมาเหนือศีรษะของเหลาเหลาหลังจากที่นางตัดผ่านเขตแดนวิญญาณนิรันดร์ได้จึงได้นำพาทัณฑ์สวรรค์มาที่นี่
“บ่มเพาะต่อไปอย่าวอกแวก ข้าจัดการทัณฑ์สวรรค์เอง ”
หลินเทียนพูดออกมา
หลังจากที่พูดจบแล้วเขาได้กระดิกนิ้วเล็กน้อยส่งคลื่นลำแสงสีทองพุ่งทะลวงผ่านม่านฟ้าไปทำลายทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นโดยทันที
เหลาเหลาที่ตัดผ่านเขตแดนวิญญาณนิรันดร์มาได้ยังคงบ่มเพาะอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาเดียวกันนี้เองที่กลิ่นอายของคนอื่นๆเองก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
พริบตาพวกเขาก็พากันตัดผ่านเขตแดนพลังของตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง
บึ้สสส ~!
ประกายแสงเจิดจรัสรายล้อมสถานที่แห่งนี้เอาไว้ทั้งหมด
พริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปอีกกว่าหนึ่งปีเต็มๆ
ในหนึ่งปีมานี้พวกเขาไม่ได้เอาแต่บ่มเพาะเพียงอย่างเดียวเพราะทุกๆครั้งที่ตัดผ่านก็มักจะหยุดพักระยะหนึ่งแล้วเริ่มการบ่มเพาะใหม่หลังจากนั้นและด้วยสรรพคุณของตัวยาที่หลินเทียนมอบให้จึงทำให้กลิ่นอายของแต่ละคนล้วนอยู่ในเขตแดนจ้าวสวรรค์กันทั้งหมด
พวกเขาทุกคนตัดผ่านเขตแดนจ้าวสวรรค์ระดับ 6 !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด